Share

กลับบ้าน

last update Last Updated: 2025-05-30 18:00:58

พี่ภพขับรถมาจอดที่หน้าบ้านของกนก หลังจากส่งพราวและมิวเสร็จเรียบร้อยแล้ว

กนกแทบไม่รอให้รถจอดสนิทดี เขารีบเปิดประตูแล้ววิ่งพุ่งเข้าไปหาแม่ทันที

"โถลูก… อย่าวิ่งเร็ว เดี๋ยวล้มนะ"

เสียงของแม่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็อ้าแขนรับกอดลูกชายของเธอไว้แน่น

กนกฝังหน้าลงกับไหล่ของแม่ สูดกลิ่นที่คุ้นเคย ราวกับจะซึมซับความอบอุ่นให้เต็มหัวใจ เขาไม่รู้ว่าตัวเองยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นนานแค่ไหน แต่ในอ้อมกอดของแม่ ความเหนื่อยล้าทั้งหมดจากมหาวิทยาลัยเหมือนค่อย ๆ คลี่คลาย

แม่ลูบหลังเขาเบา ๆ "เป็นไงบ้างครับ ปิดเทอมจบปีหนึ่งแล้ว เด็กน้อยของแม่"

กนกเงยหน้าขึ้น หัวเราะเบา ๆ แต่ดวงตายังคงฉายแววอ่อนล้า "คิดถึงแม่มากเลยครับ คิดถึงพ่อด้วย เหนื่อยมากเลย ทำไมชีวิตมหา’ ลัยเหนื่อยขนาดนี้"

"ออกมาอยู่บ้านไหมลูก เครียดหรือเปล่า?"

กนกหัวเราะกับคำพูดของแม่ เขารู้ว่าแม่ไม่อยากให้เขาต้องเครียดหรือกดดันกับชีวิตในมหาวิทยาลัย

ก่อนที่เขาจะตัดสินใจไปเรียนต่อ แม่เคยบอกเสมอว่า "ถ้าเหนื่อยหรือเครียดเกินไป กลับมานะ มาอยู่กับพ่อกับแม่ได้ เราไม่จำเป็นต้องให้ลูกต้องมาทนความทุกข์ยากหรือความเครียดมากเกินไป"

เขาได้ยินประโยคนี้มาตลอด ตั้งแต่วันที่ขอพ่อกับแม่ไปเรียนมัธยมปลาย ครอบครัวของเขาน่ารักเสมอ พร้อมจะโอบกอดเขาไม่ว่าเมื่อไหร่

และตอนนี้…

มีใครบางคนที่เขารู้สึกว่าพร้อมจะมอบอ้อมกอดที่ยิ่งใหญ่ให้เขาอีกคน

"สวัสดีจ้ะ พบ"

เสียงของแม่เรียกให้กนกเงยหน้าขึ้นมอง พบรักที่ยืนอยู่ไม่ไกล หันไปยิ้มให้แม่ของเขา ก่อนจะพนมมือไหว้

"สวัสดีครับ น้าเพชร"

เสียงทุ้มต่ำยังคงสุภาพและอ่อนโยนเสมอ…

กนกมองหน้าพี่ภพสลับกับแม่ ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความสับสน

"ทำไมแม่ไม่บอกผมก่อน…"

เสียงของเด็กชายแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยความตัดพ้อที่ซ่อนอยู่

เพราะความเข้าใจผิด เพราะความหวาดระแวงที่สะสมมานาน ทำให้เขาหลงคิดว่าผู้ชายคนนี้เป็นแค่คนแปลกหน้าที่เฝ้าติดตามเขามาโดยไม่มีเหตุผล แต่ในความเป็นจริง…

"แม่ขอโทษนะลูก"

เพชรเอื้อมมือไปลูบศีรษะของกนกเบา ๆ เธอเข้าใจดีว่าความหวาดกลัวที่กนกเคยมีนั้นไม่ได้เกิดขึ้นโดยไร้เหตุผล แต่ตอนนี้… เธออยากให้ลูกชายของเธอรู้ว่า เขาไม่ได้อยู่คนเดียว

เธอหันไปทางพบรัก ส่งยิ้มบาง ๆ ให้

"เป็นไง พบ สบายดีไหม?"

"ครับ น้าเพชร"

สายตาของพบรักสบกับเพชร และในแววตานั้นมีความคุ้นเคยกันมากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้

ย้อนกลับไปเมื่อ 4 เดือนก่อน ในวันที่กนกเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ ๆ

"น้าอยากให้พบช่วยดูแลกนกให้หน่อยนะ"

เพชรเคยเอ่ยกับพบรักด้วยน้ำเสียงจริงจัง หลังจากที่เธอสังเกตพฤติกรรมของเขามาพักใหญ่ และพบว่าตลอดระยะเวลาเกือบสองปีที่ผ่านมา พบรักทำตามคำพูดของตัวเองอย่างเคร่งครัด

เขาไม่เคยพยายามเข้าไปใกล้จนกนกต้องรู้สึกอึดอัด ไม่เคยก้าวก่ายชีวิตของน้องเกินควร แต่เธอรับรู้ได้เสมอว่า ในทุก ๆ เย็นหลังเลิกเรียน พบรักมักจะอยู่ที่ไหนสักแห่ง… คอยมองดู คอยสังเกต คอยเฝ้าดูแลในระยะห่าง

เขาไม่เคยเรียกร้องให้กนกจำเขาได้ ไม่เคยบังคับให้น้องต้องรู้สึกอะไรกับเขา แต่เพชรรู้ว่า—เด็กคนนี้มีสัจจะต่อคำพูดของตัวเอง

และเขาหวังดีกับกนกจริง ๆ

ส่วนเรื่องความรักหรือความชอบ เพชรไม่เคยปิดกั้น เธอไม่เคยมองว่าเรื่องเพศเป็นอุปสรรค ขอเพียงแค่ใครสักคนที่พร้อมจะโอบกอดลูกชายของเธอ ดูแลเขาอย่างที่เธอทำมาตลอด เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

"น้าอาจจะไม่ได้ไปหากนกบ่อย… ยังไงน้าฝากกุญแจห้องน้องไว้กับภพนะ ค่อย ๆ เจอกันไป น้องอาจจะจำพบไม่ได้ เหมือนที่น้ายังไม่คุ้นหน้าภพในแบบนี้ แต่ถ้าได้ทำความรู้จักกันไป อาจจะคุ้นเคยกันมากขึ้น"

เธอส่งกุญแจให้เขา แล้วสบตาเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างจริงจัง

"ฝากเป็นพี่มหา’ ลัยที่ดูแลน้องคนนั้นสักคนด้วยนะ พบ"

พบรักรับกุญแจมา ก่อนเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยสายตามุ่งมั่น

"ผมจะดูแลกนก… ด้วยหัวใจของผมครับ"

หลังจากวันนั้น พบรักก็มักจะส่งภาพถ่ายของกนกและเพื่อน ๆ ในช่วงเวลาต่าง ๆ ที่เขาเผอิญได้เจอน้อง ไม่ว่าจะเป็นภาพขณะติวหนังสือในห้องสมุด ภาพระหว่างที่กนกกำลังหัวเราะกับเพื่อน หรือแม้แต่ภาพเผลอ ๆ ของกนกที่กำลังนั่งอ่านนิยายเล่มโปรดใต้ต้นไม้

ภาพเหล่านั้นไม่ได้มีแค่รอยยิ้มของกนกเท่านั้น แต่ยังมีความรู้สึกบางอย่างที่พบรักอยากบันทึกไว้เสมอ

บางวัน เมื่อเขาแวะกลับมาเยี่ยมแม่ที่สวนมะพร้าว เขาก็ไม่เคยลืมซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดมือมาฝาก ทั้งผลไม้สดจากตลาดในเมือง หรือของที่คิดว่ากนกอาจจะชอบ แล้วก็ถือโอกาสแวะมาคุยกับเพชรด้วย

การสนทนาของเขามักเริ่มต้นด้วยเรื่องทั่วไป แต่ไม่นาน ก็มักวกกลับมาที่กนกเสมอ

"กนกเป็นยังไงบ้างครับน้า? วันนี้ผมเห็นเขากับเพื่อนนั่งติวกันอยู่ที่โรงอาหาร ดูตั้งใจกันน่าดูเลย"

หรือบางครั้งก็เป็นคำบอกเล่าธรรมดา ๆ แต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน

"น้าเพชรครับ วันนี้กนกดูเหนื่อย ๆ ไปหน่อยนะครับ ผมเลยซื้อขนมไปให้ เขากินหมดด้วยนะ ดูท่าทางจะชอบ"

เพชรเงียบฟังอย่างตั้งใจ ทุกครั้งที่พบรักพูดถึงกนก แววตาของเด็กหนุ่มคนนี้จะเปล่งประกาย ความสุขในน้ำเสียงของเขามันจริงแท้จนเธอสัมผัสได้

มันเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่าคำว่าห่วงใย...

มันคือความรักที่แสนบริสุทธิ์

เพชรเงียบไปครู่หนึ่ง มองเด็กชายที่เติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มตรงหน้า แววตาของพบรักสะท้อนความมุ่งมั่นและความรู้สึกที่ซับซ้อน ยามที่เขาหยิบตุ๊กตาหมีสีเหลืองตัวเก่าขึ้นมา ความทรงจำในอดีตพลันหวนคืน

ตุ๊กตาตัวนี้... เธอจำได้ดี มันเคยเป็นของเล่นชิ้นโปรดของกนกเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ทุกคืนลูกชายของเธอจะกอดมันไว้แน่นราวกับเป็นของล้ำค่า และตอนนี้มันอยู่ในมือของพบรัก... เด็กชายที่กนกเคยให้กำลังใจในวันนั้น

“ขอบคุณนะพบรัก... ขอบคุณที่ดูแลกนกมาตลอด” เสียงของเพชรอ่อนโยน แต่ยังคงแฝงความลังเล

พบรักยิ้มบาง ๆ ดวงตาของเขาทอดมองตุ๊กตาในมือ ก่อนเงยหน้าขึ้นสบตากับเธอ “ผมไม่ได้อยากสัญญาว่าจะดูแลกนกตลอดไป... เพราะคำว่า ตลอดไป อาจไม่มีอยู่จริง แต่ผมแค่อยากโอบกอดความไม่สมบูรณ์แบบของเราทั้งสองคน ไม่ให้เราต้องเจ็บปวดเพียงลำพังอีก”

เพชรนิ่งฟัง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ

“ผมใช้เวลานานมากในการทบทวนตัวเอง ความวิตกกังวลและอาการแพนิคของผมไม่เคยหายไป มันคล้ายกับหมอกจาง ๆ ที่คอยทำให้ผมหวาดกลัวเมื่อมีสิ่งใดสั่นคลอนจิตใจ แต่มันทุเลาลงได้เพราะ เขา ...เด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ คนนั้น คำพูดของกนกเมื่อสิบปีก่อนยังดังก้องอยู่ในใจผมเสมอ”

เพชรมองเห็นประกายในดวงตาของพบรัก—ความอบอุ่นที่เขามีให้ลูกชายของเธอ

“ผมไม่รู้หรอกว่ามันเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมเพียงแค่รู้ว่าผมเฝ้าตามหา ใครสักคน มาตลอด และเมื่อได้พบเขาอีกครั้ง ผมก็เข้าใจในทันที... ว่าเขาคือบ้านที่ใจของผมโหยหา”

พบรักเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะสูดหายใจลึก ๆ และเอ่ยต่อ

“ผมรู้ว่าน้าเพชรคงกังวล เพราะน้าก็เคยเป็นหมอที่ดูแลสุขภาพใจของผู้คนมากมาย และก็คงรู้ดีว่าหากจะรักษาใครสักคนให้แข็งแรงขึ้นได้ มันไม่ได้หมายถึงการลบเลือนความทรงจำที่เจ็บปวดออกไป... แต่มันคือการกล้าที่จะเผชิญหน้ากับมัน”

เพชรเม้มริมฝีปากแน่น เธอรู้ดีว่าเด็กคนนี้พูดถูก

“ผมเองก็เคยหนีจากอดีต พยายามลืมทุกอย่าง จนสุดท้ายมันก็ย้อนกลับมาทำร้ายผม” พบรักหัวเราะเบา ๆ แต่ดวงตากลับฉายแววปวดร้าว “ความทรงจำเกี่ยวกับพ่อของผมถูกลบเลือนจากจิตใต้สำนึก จนกระทั่งแม่และป้าตัดสินใจบอกความจริงกับผม ผมยังจำได้ดี... วันนั้นเป็นวันที่ผมแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ”

เพชรเม้มริมฝีปากแน่น หัวใจของเธอหนักอึ้งเมื่อได้ยินคำพูดนั้น

“ผมไม่คิดเลยว่าคนที่ให้กำเนิดผม จะทำร้ายผมได้ถึงเพียงนี้” พบรักเอ่ยเสียงเบา “แต่แม่โอบกอดผมไว้ เธอไม่ปล่อยให้ผมจมอยู่ในความเจ็บปวดเพียงลำพัง เธอพยายามอธิบายว่าพ่อไม่ได้เลวร้ายมาตั้งแต่ต้น แต่เขาเป็นเหยื่อของยาเสพติด มันเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นปีศาจที่น่ากลัว”

ดวงตาของพบรักฉายแววอ่อนล้า แต่ก็ยังเปี่ยมไปด้วยพลัง

“หลังจากนั้น ผมเข้ารับการบำบัดสุขภาพจิตอย่างจริงจัง มันใช้เวลานานกว่าผมจะเข้มแข็งขึ้น และผมก็รู้ว่าสิ่งที่ช่วยเยียวยาหัวใจผมได้จริง ๆ ไม่ใช่แค่การรักษาทางการแพทย์ แต่เป็น ความรักและความเข้าใจ

เพชรมองเขา ความลังเลในใจเริ่มคลี่คลายลง

“และผมก็ไม่อยากให้กนกต้องอยู่กับความกลัวเพียงลำพัง ผมอยากอยู่ข้างเขา... น้าเพชรเข้าใจใช่ไหมครับ”

คำพูดสุดท้ายของพบรักเต็มไปด้วยความจริงใจ

เพชรเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจยาว มือของเธอยังคงลูบตุ๊กตาหมีสีเหลืองเบา ๆ

“น้าเข้าใจ... แต่ภพรัก” เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขา “ถ้าน้องเลือกเดินออกจากเธอไปล่ะ?”

พบรักยิ้มบาง ๆ ก่อนจะตอบ “ถ้าเขาอยากไป... ผมก็จะปล่อยเขาไปครับ”

เพชรมองดูใบหน้าของเขาอย่างพิจารณา ก่อนที่เธอจะพยักหน้าอย่างเชื่องช้า

“ก็ได้... ถ้านั่นคือสิ่งที่เธอเลือกแล้ว”

แววตาของพบรักสว่างวาบขึ้นมาทันที

“แต่จำไว้” เพชรพูดต่อ “อย่าทำให้กนกเจ็บปวดอีก”

พบรักยิ้มบาง ๆ ก่อนจะโน้มศีรษะลงเล็กน้อยอย่างให้คำมั่น

“ผมสัญญาครับ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ไม่สมบูรณ์แต่เข้าใจ

    หน้าบ้านหลังเล็กที่เงียบงัน มีเพียงเสียงสะอื้นปะปนกับเสียงลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่านราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน ปล่อยให้มีเพียงสองร่างในอ้อมกอดกันแน่นอยู่กลางห้วงเวลาอันแสนเจ็บปวด ภพกอดร่างของกนกแน่น รู้สึกได้ถึงแรงสั่นจากการร้องไห้ที่ไม่มีทีท่าจะหยุดลงง่าย ๆ น้ำตาของคนน้องเปียกเสื้อเขาจนชื้น และแรงกอดของกนกก็เหมือนเป็นการยึดเหนี่ยวสุดท้ายไว้กับความจริง“ฮึก… พี่ภพ… มันเจ็บ…” เสียงสะอื้นแผ่วเบารอดออกจากริมฝีปากสั่น“ไม่เป็นไรแล้ว…” ภพกระซิบเบา ๆ มือใหญ่ลูบหลังคนน้องอย่างอ่อนโยน“พี่อยู่นี่แล้ว ไม่มีใครทำร้ายกนกได้อีกแล้วนะ…”กนกส่ายหน้าเล็กน้อย ซุกหน้าลงที่ไหล่กว้าง เสียงร้องไห้เปลี่ยนเป็นสะอื้นอย่างทรมาน“มันย้อนกลับมา… ภาพพวกนั้น… ตอนเด็ก… ทำไมถึงลืมมันไปได้ ฮึก… ทำไมถึงเพิ่งจำได้ตอนนี้…”“ไม่ต้องโทษตัวเองนะคนเก่ง…” ภพก้มลงจูบผมนิ่ม ๆ ซับน้ำตาที่เปื้อนแก้มเนียนด้วยความอดทนที

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   เผชิญหน้า

    วันนี้พี่ภพชวนผมออกจากบ้านตั้งแต่เช้า อากาศสดชื่นกว่าทุกวัน หรือบางทีอาจเป็นเพราะวันนี้พี่ภพอยู่ข้าง ๆเราไปเดินชมสวนดอกไม้ด้วยกัน แสงแดดอ่อน ๆ ทาบลงบนทุ่งกว้างที่เต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้ที่กำลังผลิบาน นี่เป็นครั้งแรกที่เราถ่ายรูปคู่กัน พี่ภพยิ้มให้กล้อง ผมเองก็ยิ้มตามไปโดยไม่รู้ตัวแปลกดีนะ… ทำไมตอนนี้ผมรู้สึกว่ารอยยิ้มของพี่ภพเป็นเหมือนบ้านช่วงบ่าย พี่ภพบอกว่าจะพาผมไปในสถานที่แห่งหนึ่ง "สถานที่แห่งความทรงจำ"ผมไม่ได้ถามว่ามันคือที่ไหน เพราะสิ่งเดียวที่พี่ภพบอกผมก็คือ—"จับมือพี่ไว้แน่น ๆ นะ"และช่วงนี้ ผมกล้าจับมือพี่ภพแล้วด้วยเรานั่งรถมาด้วยกัน ข้างทางเริ่มคุ้นตาขึ้นเรื่อย ๆ ผมคิดว่าเรากำลังเดินทางกลับไปที่บ้านพี่ภพแต่พอรถเลี้ยวเข้าเส้นทางเล็ก ๆ ผมกลับรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างประหลาดมันไม่ใช่บ้านของพี่ภพ แต่เป็นบ้านเก่าหลังนึงที่สภาพดี แต่ไม่มีใครอยู่แล้ว เมื่อก้าวลงจากรถ ผมรู้สึกเหมือนถูกสายลมที่มองไม่เห็นกระแทกเข้ามาเต็มแรงลมพัดเอื่อย

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ความสุข

    ในห้วงเวลาอบอุ่นช่วงปิดเทอมผ่านไปอย่างรวดเร็ว กนกอยู่บ้านมาหลายสัปดาห์แล้ว พี่ภพเองก็ติดโปรเจกต์ปีสุดท้ายและกำลังเตรียมตัวเข้าสู่ชีวิตการทำงาน ทำให้เราไม่ได้เจอกันบ่อยนัก มีเพียงข้อความสั้นๆ ที่ส่งหากันเป็นระยะจนกระทั่งวันนี้พี่ภพมาหาน้าแป้น และทักมาหาเขา"วันนี้มาหาพี่หน่อย อยู่เป็นเพื่อนตอนทำงานได้ไหม?"กนกอ่านข้อความแล้วบอกแม่ว่าจะออกไปข้างนอกกับพี่ภพ เมื่อเจอกัน เราทานมื้อเที่ยงด้วยกัน ก่อนที่พี่ภพจะขับรถพาเขาไปยังห้องพักบรรยากาศภายในรถเงียบสงบ มีเพียงเสียงเพลงบรรเลงคลอแผ่วเบา อากาศเย็นกำลังดีทำให้รู้สึกสบายใจ กนกไม่ได้ถามว่าทำไมพี่ภพถึงพาเขามาที่ห้องพัก—เขาแค่ไว้ใจคอนโดของพี่ภพอยู่ไม่ไกลจากหอในของเขานัก เป็นห้องขนาดกว้าง แบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นระเบียบ พื้นที่ครัวเล็กๆ อยู่มุมหนึ่ง ห้องนอนเชื่อมกับพื้นที่ทำงาน เตียงกว้างและดูนุ่มมาก"เราจะนั่งอ่านหนังสือที่เตียงพี่ก็ได้นะ ถ้าง่วงก็นอนได้เลย""ครับ"กนกตอบรับโดยไม่ถามอะไร เขาหยิบหนังสือนิยายขึ้นมาเปิด แต่ในใจก็แอบสงสัยว่าพี่ภพให้มาอยู่เป็นเพื่อน หรือแค่ต้

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ครอบครัว

    "อ้อมกอดของแม่"คืนนี้เงียบสงบกว่าทุกคืน ลมหายใจของกนกอุ่นขึ้นเมื่อนอนอยู่ข้างแม่ อ้อมกอดที่คุ้นเคยทำให้เขารู้สึกปลอดภัย ราวกับได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กตัวเล็กๆ อีกครั้ง"วันนี้แม่ขอนอนกับลูกชายคนโปรดได้ไหมครับ?""ได้ครับแม่"กนกขยับตัวให้แม่เข้ามาใต้ผ้าห่มอุ่นๆ พอเพชรล้มตัวลงนอน กนกก็รีบซุกตัวเข้าหาแม่ทันที โอบกอดแน่นราวกับไม่อยากให้เวลานี้ผ่านไปเพชรหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลูบผมลูกชายอย่างอ่อนโยน "เป็นยังไงบ้างลูก ปีแรกในมหาวิทยาลัย เหนื่อยไหม?""เหนื่อยครับ แต่ก็สนุกมากด้วย""เรียนยากไหม?""ก็ยากนิดหน่อยครับ แต่ยังดีที่มีมิวช่วยติวให้ มิวเก่งมากเลยครับแม่""ดีจังเลย แม่จำได้ว่าลูกเล่าเรื่องมิวให้ฟังบ่อยๆ แล้วหนูพราวล่ะ เป็นไงบ้าง?""พราวก็ยังตลกเหมือนเดิมเลยครับแม่ ถ้าผมเครียดๆ เบื่อๆ พราวนี่แหละที่ทำให้ผมยิ้มได้""ดีแล้วล่ะลูก มีเพื่อนดีก็ช่วยกันประคองไปนะ มีอะไรให้แม่ช่วยก็บอกได้ อย่าเก็บไว้คนเดียว"กนกพยักหน้ารับ แล้วเงียบไปครู่หนึ่งเพชรมองลูกชายด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนจะถามสิ่งที่ค้างคาใจ "แล้วพี่ภ

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   กำลังใจของกันและกัน

    หลังจากนั้นพบรักก็พากนกกลับบ้าน เด็กหนุ่มเดินเข้าบ้านพร้อมความรู้สึกที่อบอุ่น แม้จะมีความหวาดกลัวและกังวลบางอย่างยังค้างอยู่ในใจ แต่การมีพี่ภพอยู่เคียงข้าง คอยโอบกอด คอยปลอบโยน ทำให้เขารู้สึกว่า… ไม่ได้เผชิญทุกอย่างเพียงลำพังและยิ่งรู้สึก… ชอบพี่ภพมากขึ้นทุกวันวันนี้ดูเหมือนว่าเขาจะใช้พลังไปเยอะ ทั้งร่างกายและหัวใจเลยเหนื่อยล้าเต็มที กนกหยิบหนังสือนิยายขึ้นมา หวังว่าจะอ่านเล่นสักหน่อยก่อนจะหลับไปแต่ก่อนที่เปลือกตาจะหนักอึ้ง มือถือก็สั่นเบา ๆ แจ้งเตือนข้อความจาก LINEพี่ภพ: “นอนหรือยังครับ”กนก: “กนกจะอ่านหนังสือนิยายสักหน่อย แล้วก็คงจะนอนแล้วครับ”พี่ภพ: “นอนไวจัง เพิ่งสามทุ่มเอง”กนกหลุดยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับกนก: “พี่ภพมีอะไรหรือเปล่าครับ”พี่ภพ: “พี่เหนื่อยนิดหน่อย พอดีส่งงานให้ลูกค้าอยู่ กำลังปั่นงานเลย”กนก: “วันนี้พี่ภพกลับไปในเมืองหรอครับ”

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   สวนมะพร้าวบ้านพี่ภพ

    เพชรมองหน้าลูกชายตัวน้อยที่กำลังยิ้มกับโทรศัพท์ รอยยิ้มเล็ก ๆ ที่เจ้าตัวอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าแสดงออกมา“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรกันครับ คุณกนกของแม่?”กนกสะดุ้งเงยหน้าขึ้น ก่อนจะรีบปฏิเสธเสียงอ้อมแอ้ม “ยิ้มอะไรกันล่ะครับ แม่คิดไปเอง กนกไม่ได้ยิ้มสักหน่อย”เพชรหัวเราะเบา ๆ “ก็เห็นยิ้มกับโทรศัพท์ไง”เด็กหนุ่มเม้มปาก หันไปมองหน้าจออีกครั้ง ก่อนจะยอมรับเสียงเบา “ก็...พี่ภพ LINE มาบอกนะครับว่าอยู่บ้านตัวเองแล้ว”“อ้อ”“แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน กนกก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน” เจ้าตัวพูดต่อ “แต่ว่าพี่เขาบอกว่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ บ้านเราตรงนี้นี่เอง”เพชรพยักหน้ารับรู้ ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่แววตายังคงมองสำรวจลูกชายของตัวเอง“วันนี้เขาจะมาหาหรือเปล่า?”“พี่ภพเหรอครับ?”“จ้ะ”“เห็นบอกว่าวันนี้จะพาไปเที่ยวสวนมะพร้าวเล็ก ๆ”เพชรเลิกคิ้วเล็กน้อย “สวนมะพร้าว?”กนกพยักหน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status