ช่วงเวลาแห่งการสอบปลายภาคผ่านไปอย่างหฤโหดสำหรับเด็กปี 1 ทุกคนต่างเคร่งเครียดกับตำราเรียน บางคนอดหลับอดนอน บางคนมารวมตัวติวกันที่ห้องสมุดจนดึกดื่น
กนกเองก็เช่นกัน เขากับมิวและพราวใช้เวลาหลายคืนติดอยู่ที่ห้องสมุด กางหนังสือเต็มโต๊ะ ขีดเขียนสมการและจดสรุปกันจนแทบลืมหายใจ ทุกคืนที่เดินกลับหอ เขารู้สึกเหนื่อยล้าและตาพร่าไปหมด
แต่ทุกครั้งที่กลับมา… จะมีใครบางคนรออยู่เสมอ
พบรักไม่ได้พูดอะไรมากมาย เขาแค่แวะมาหา ยื่นขนมหรือเครื่องดื่มให้เงียบ ๆ บางคืนเขาแค่ส่งข้อความมาถามว่า "ถึงหอแล้วหรือยัง?" แล้วตามมาด้วยคำว่า "ฝันดี" พร้อมกับอีโมจิหมีน้อยที่ดูนุ่มนิ่มเหมือนเจ้าตุ๊กตาหมีสีเหลืองตัวนั้น
ไม่เคยมีวันไหนเลยที่พบรักไม่ส่งข้อความมา หรือไม่ปรากฏตัวให้เห็น แม้กระทั่งในคืนที่ดึกแค่ไหนก็ตาม บางครั้งกนกคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะแค่แวะเวียนมาเพราะเป็นห่วงเขาในฐานะ "พี่ชายข้างบ้าน" แต่ทุกครั้งที่สบตากับรอยยิ้มอ่อนโยนนั้น ใจเขากลับรู้สึกอบอุ่นจนเผลอกอดขนมในมือแน่นขึ้น
มันเป็นความรู้สึกขอบคุณ… และดีใจ
ดีใจที่มีใครสักคนคอยอยู่ข้าง ๆ ในทุกช่วงเวลา
แต่ในความดีใจนั้น... มันเริ่มมีบางอย่างปะปนเข้ามา—ความรู้สึกบางเบาเหมือนสายลมยามค่ำคืน อ่อนหวานและเงียบงันแต่ทำให้หัวใจสั่นไหว
หรือว่า…
บางที…
เขาอาจจะเริ่มเผลอใจให้พี่ชายข้างบ้านคนนี้ไปแล้วก็ได้
อ้อมกอดที่คุ้นเคยแต่ยังทำให้หัวใจเต้นแรงเสมอ
พบรักโอบกอดเขาแน่นขึ้น มือหนาลูบแผ่นหลังเบา ๆ ราวกับจะปลอบโยนความเหนื่อยล้าทั้งหมดของวันนี้ กนกยืนนิ่งอยู่ในอ้อมแขนนั้น แรงกอดไม่หนักหน่วงแต่กลับมั่นคงและอบอุ่น
ครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้ง เพราะเขาเผลอยกแขนขึ้นมากอดตอบ
มันเป็นการตอบสนองที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันได้คิด ร่างกายของเขาจดจำสัมผัสนี้ได้ อ้อมกอดที่คอยอยู่เคียงข้าง คอยเป็นที่พักพิงในวันที่เหนื่อยล้า มันเป็นความอบอุ่นที่โอบล้อมทั้งหัวใจ
พบรักโยกตัวเขาเบา ๆ ราวกับกำลังปลอบเด็กน้อย
"ไม่ต้องเครียดนะ เจ้าเด็กปีหนึ่ง เดี๋ยวมันก็ผ่านไปได้" น้ำเสียงทุ้มกระซิบข้างหู นุ่มนวลจนทำให้รู้สึกปลอดภัย
ก่อนที่เขาจะทันพูดอะไร ริมฝีปากอุ่น ๆ ก็กดจุมพิตลงมาบนหน้าผากอย่างแผ่วเบา
สัมผัสนั้นเหมือนแสงแดดอุ่น ๆ ในเช้าวันใหม่
"ให้กำลังใจคนเก่งของพี่ จะได้มีแรงอ่านหนังสือเยอะ ๆ นะครับ"
พบรักค่อย ๆ คลายอ้อมกอด ลูบผมนุ่มของกนกเบา ๆ ก่อนจะถอยออกไป
"พี่ต้องไปแล้วล่ะ มีงานด่วนของลูกค้า"
เขาหันหลังไปหยิบกระเป๋า ก่อนจะยิ้มให้บาง ๆ "ไว้เดี๋ยวพี่มาหาใหม่นะ ตั้งใจเรียนล่ะ"
แล้วร่างสูงก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งไว้เพียงความอบอุ่นที่ยังคงหลงเหลืออยู่
กนกยืนอยู่ที่เดิม สัมผัสของริมฝีปากที่หน้าผากยังคงชัดเจน หัวใจเต้นแรงขึ้นโดยไม่อาจควบคุม
เขามองตามแผ่นหลังกว้างที่ลับออกไป ความรู้สึกบางอย่างเอ่อล้นขึ้นมา
หรือว่า...
เขากำลังชอบพี่ภพเข้าแล้วจริง ๆ นะ?
พบรักกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตกนกอย่างไม่รู้ตัว
ไม่ว่าเขาจะเดินไปที่ไหน จะออกจากหอ จะกลับบ้าน หรือแม้แต่จะไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด พี่ภพก็มักจะโผล่มาพร้อมกับมอเตอร์ไซค์คันเดิม คอยถามไถ่ว่าเขาจะไปที่ไหน ไปกับใคร และกลับตอนไหน ราวกับเป็นผู้ปกครองอีกคนหนึ่ง
"จริง ๆ พี่ภพก็เหมือนแม่เลยนะ หรือว่าจะเป็นพ่อดี?"
กนกแกล้งพูดล้อเล่น แต่ก็ทำได้แค่หัวเราะเบา ๆ เพราะสายตาของพี่ภพที่มองมาทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ ในอก
"อีกไม่กี่วันแล้วนะ เจ้าเด็กน้อย"
"ใช่แล้วครับ อีกไม่กี่วันก็สอบเสร็จ แต่ว่าวันนี้กนกจะไปติวกับมิวที่ห้องสมุดครับ"
"พี่ขอไปส่งนะ"
"พี่ภพจะยุ่งหรือเปล่าครับ งานเยอะหรือเปล่า?"
"พี่ไปส่งได้ พี่ดูแลกับหนูได้ทุกที่ทุกเวลา… และตลอดไปยังได้เลย"
คำพูดที่แสนธรรมดาของพี่ภพ แต่กลับทำให้หัวใจของกนกเต้นผิดจังหวะ
เขารู้สึกว่าช่วงนี้หัวใจของเขาทำงานหนักมาก นับตั้งแต่ที่เริ่มรู้ตัวว่าตัวเองอาจจะเผลอชอบพี่ภพเข้าไปแล้ว ทุกคำพูด ทุกสัมผัส ทุกสายตาที่อีกฝ่ายมอบให้ ล้วนแต่ทำให้ความรู้สึกบางอย่างในใจเขาสั่นไหว
"กะ-ได้... คะ-ครับ"
เสียงของเขาตะกุกตะกักออกมาอย่างไม่เป็นตัวเอง เพราะพี่ภพใช้สายตาเจ้าเล่ห์จ้องมองตรงมา พร้อมกับก้าวเข้ามาใกล้ทีละน้อย
"ได้… ที่หมายถึงให้พี่ดูแลตลอดชีวิตอย่างนั้นเหรอ?"
"มะ-ไม่! ไม่ใช่ครับ!"
กนกรีบปฏิเสธ ลนลานเสียจนเกือบสะดุดตัวเอง หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก "แค่จะบอกว่า... เอ่อ... พี่ภพไปส่งกนกที่ห้องสมุดได้ครับ!"
เขารีบหันหลังแล้ววิ่งเข้าห้องไปเปลี่ยนชุดทันที ทิ้งให้พี่ภพยืนมองตามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ และเสียงหัวเราะเบา ๆ ที่ยังดังอยู่ข้างหลัง
ห้องสมุดในช่วงใกล้สอบเต็มไปด้วยนักศึกษาที่นั่งก้มหน้ากับหนังสือ บรรยากาศเงียบเชียบมีเพียงเสียงพลิกกระดาษ และเสียงพึมพำทวนสูตรคำนวณเบา ๆ
กนกเดินเข้ามา พร้อมกับพี่ภพที่ยังคงทำหน้าที่เป็น ‘พี่ชายข้างบ้าน’ ที่แสนดีเหมือนเช่นทุกวัน
"อ้าว วันนี้พี่ภพก็มาส่งกนกอีกแล้ว~"
เสียงแซวเจื้อยแจ้วของพราวดังขึ้นทันทีที่เห็นเขาเดินเข้ามา เธอแอบกระซิบกับมิวที่กำลังคร่ำเคร่งอยู่กับโจทย์แคลคูลัส
"เนี่ย ๆ สนิทกันเกินไปหรือเปล่านะมิว?"
มิวไม่ได้ตอบอะไร เขายังคงจดจ่ออยู่กับกระดาษตรงหน้า ปากขยับพึมพำคำนวณตัวเลขอย่างไม่สนใจสิ่งรอบตัว
พราวเบ้ปากก่อนจะสะกิดเพื่อนอีกครั้ง "เฮ้ยมิว ไม่สนใจเพื่อนเลยเหรอเนี่ย? ดูสิ~ เพื่อนเขามีใครมาส่ง!"
มิวเงยหน้าขึ้นมามองแวบหนึ่ง ก่อนถอนหายใจแล้วเอ่ยเสียงเรียบ
"พราว ถ้าแกพูดเสียงดังอีกนิดนึง ฉันจะให้แกออกไปติวคนเดียวข้างนอกห้องสมุด"
"โอเค ๆ ขอโทษก็ได้~ มิวที่รักของฉัน"
พราวแลบลิ้น ก่อนจะหันกลับมาส่งยิ้มหวานให้พี่ภพที่เดินมาพร้อมถุงขนมในมือ
"สวัสดีค่ะพี่ภพ~"
"สวัสดีครับ น้องพราว น้องมิว"
พี่ภพส่งยิ้มบาง ๆ พร้อมยื่นถุงขนมให้กนก "พี่ซื้อขนมโตเกียวหน้าหอสมุดมาฝาก ไม่รู้ทานในนี้ได้ไหม ยังไงก็เก็บไว้ทานตอนเที่ยงก็ได้ แต่อาจจะไม่ค่อยอร่อยแล้วถ้ามันเย็น"
"หูย~ ไปต่อคิวมาหรอ ว่าทำไมมาช้าจัง~" พราวทำตาเป็นประกายก่อนจะยื่นมือไปหยิบขนม "งั้นกินตอนนี้เลยค่ะ แอบกินเอาเนอะ กนก?"
กนกเหลือบมองเพื่อนที่เปลี่ยนทีมไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ
พราวอมยิ้มขณะกัดขนมโตเกียวไปคำหนึ่ง "ที่หลังไม่แซวพี่ภพแล้ว เพราะพี่ภพใจดีเกินป๊ายย~"
มิวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ได้แต่ส่ายหัว ส่วนกนกก็ทำได้แค่ถอนหายใจ แต่ลึก ๆ แล้ว เขากลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก…
บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและหัวเราะ พราวและมิวดูตื่นเต้นเป็นพิเศษที่ไม่ต้องนั่งรถตู้กลับบ้านนานหลายชั่วโมง เพราะวันนี้พี่ภพอาสาขับรถมาส่งเอง
"โห~ พี่ภพมีรถหลายคันจังเลยอ่ะ" พราวอุทานตื่นเต้น มองรถเก๋งคันใหญ่ด้วยความสนใจ
"ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก" พี่ภพหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเฉลย "มอเตอร์ไซค์ที่เห็นพี่ขี่ทุกวันน่ะ ของเพื่อนพี่ครับ ส่วนคันนี้รถพี่เอง"
"อุ๊ย พี่ภพมีรถเก๋งด้วยอ่ะ เท่เวอร์! หล่อ รวย ใจดี อย่างนี้ใคร ๆ ก็ต้องตกหลุมรักแน่ ๆ ใช่ไหมมิว?"
พราวพยักพเยิดให้เพื่อนอีกคนที่นั่งเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง ขณะที่กนกยังคงนั่งนิ่ง ไม่ได้ออกความคิดเห็นอะไร
"พอดีพี่ไม่อยากให้กนกเป็นที่สนใจ ถ้าพี่ใช้รถยนต์มารับมาส่งทุกวันมันคงเด่นเกินไป เลยขอเช่ามอเตอร์ไซค์เพื่อนมาแทนน่ะ"
"ป๋าสปอร์ตขนาดนี้ ใจดีขนาดนี้ ถ้าเป็นหนูนะ หนูจะจีบพี่ภพเลย!"
"จีบพี่เลยเหรอ?" พี่ภพหัวเราะเบา ๆ "ขอโทษด้วยนะครับ พี่ปิดประตูใจไปแล้ว เพราะว่าพี่เจอคนที่ชอบแล้ว"
คำตอบของเขาทำให้พราวตาโต ราหูกางเต็มที่ "ห๊ะ! พี่ภพมีแฟนแล้วเหรอ? อย่างนี้หนูก็อกหักเลยสิคะ!"
พี่ภพไม่ได้ตอบในทันที เขาเว้นจังหวะก่อนจะพูดขึ้นมาอีกครั้ง
"จะเรียกว่าแฟนก็คงไม่ได้หรอกนะครับ…"
เขาหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเหลือบมองคนข้าง ๆ ที่นั่งอยู่เบาะข้างกัน กนกที่กำลังก้มหน้ามองมือของตัวเองเผลอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมา
"พี่ก็กำลังทำคะแนนอยู่ครับ ขอแค่ให้เขาสนใจพี่บ้างก็พอแล้ว"
คำพูดที่เหมือนพูดลอย ๆ แต่กลับทำให้บรรยากาศในรถเปลี่ยนไปเล็กน้อย กนกเม้มปากแน่น รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล
"พี่ภพทั้งใจดี ทั้งมีรถ แถมยังอ่อนโยนขนาดนี้ ใครไม่สนใจเดี๋ยวหนูไปจัดการมันเองค่ะ!" พราวพูดติดตลก ก่อนจะหัวเราะคิกคัก
พี่ภพหัวเราะตาม ขณะที่กนกได้แต่ก้มหน้าหลบสายตา แต่ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าความอบอุ่นบางอย่างกำลังค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาในใจเขาอย่างเงียบงัน…
ในห้วงเวลาอบอุ่นช่วงปิดเทอมผ่านไปอย่างรวดเร็ว กนกอยู่บ้านมาหลายสัปดาห์แล้ว พี่ภพเองก็ติดโปรเจกต์ปีสุดท้ายและกำลังเตรียมตัวเข้าสู่ชีวิตการทำงาน ทำให้เราไม่ได้เจอกันบ่อยนัก มีเพียงข้อความสั้นๆ ที่ส่งหากันเป็นระยะจนกระทั่งวันนี้พี่ภพมาหาน้าแป้น และทักมาหาเขา"วันนี้มาหาพี่หน่อย อยู่เป็นเพื่อนตอนทำงานได้ไหม?"กนกอ่านข้อความแล้วบอกแม่ว่าจะออกไปข้างนอกกับพี่ภพ เมื่อเจอกัน เราทานมื้อเที่ยงด้วยกัน ก่อนที่พี่ภพจะขับรถพาเขาไปยังห้องพักบรรยากาศภายในรถเงียบสงบ มีเพียงเสียงเพลงบรรเลงคลอแผ่วเบา อากาศเย็นกำลังดีทำให้รู้สึกสบายใจ กนกไม่ได้ถามว่าทำไมพี่ภพถึงพาเขามาที่ห้องพัก—เขาแค่ไว้ใจคอนโดของพี่ภพอยู่ไม่ไกลจากหอในของเขานัก เป็นห้องขนาดกว้าง แบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นระเบียบ พื้นที่ครัวเล็กๆ อยู่มุมหนึ่ง ห้องนอนเชื่อมกับพื้นที่ทำงาน เตียงกว้างและดูนุ่มมาก"เราจะนั่งอ่านหนังสือที่เตียงพี่ก็ได้นะ ถ้าง่วงก็นอนได้เลย""ครับ"กนกตอบรับโดยไม่ถามอะไร เขาหยิบหนังสือนิยายขึ้นมาเปิด แต่ในใจก็แอบสงสัยว่าพี่ภพให้มาอยู่เป็นเพื่อน หรือแค่ต้
"อ้อมกอดของแม่"คืนนี้เงียบสงบกว่าทุกคืน ลมหายใจของกนกอุ่นขึ้นเมื่อนอนอยู่ข้างแม่ อ้อมกอดที่คุ้นเคยทำให้เขารู้สึกปลอดภัย ราวกับได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กตัวเล็กๆ อีกครั้ง"วันนี้แม่ขอนอนกับลูกชายคนโปรดได้ไหมครับ?""ได้ครับแม่"กนกขยับตัวให้แม่เข้ามาใต้ผ้าห่มอุ่นๆ พอเพชรล้มตัวลงนอน กนกก็รีบซุกตัวเข้าหาแม่ทันที โอบกอดแน่นราวกับไม่อยากให้เวลานี้ผ่านไปเพชรหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลูบผมลูกชายอย่างอ่อนโยน "เป็นยังไงบ้างลูก ปีแรกในมหาวิทยาลัย เหนื่อยไหม?""เหนื่อยครับ แต่ก็สนุกมากด้วย""เรียนยากไหม?""ก็ยากนิดหน่อยครับ แต่ยังดีที่มีมิวช่วยติวให้ มิวเก่งมากเลยครับแม่""ดีจังเลย แม่จำได้ว่าลูกเล่าเรื่องมิวให้ฟังบ่อยๆ แล้วหนูพราวล่ะ เป็นไงบ้าง?""พราวก็ยังตลกเหมือนเดิมเลยครับแม่ ถ้าผมเครียดๆ เบื่อๆ พราวนี่แหละที่ทำให้ผมยิ้มได้""ดีแล้วล่ะลูก มีเพื่อนดีก็ช่วยกันประคองไปนะ มีอะไรให้แม่ช่วยก็บอกได้ อย่าเก็บไว้คนเดียว"กนกพยักหน้ารับ แล้วเงียบไปครู่หนึ่งเพชรมองลูกชายด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนจะถามสิ่งที่ค้างคาใจ "แล้วพี่ภ
หลังจากนั้นพบรักก็พากนกกลับบ้าน เด็กหนุ่มเดินเข้าบ้านพร้อมความรู้สึกที่อบอุ่น แม้จะมีความหวาดกลัวและกังวลบางอย่างยังค้างอยู่ในใจ แต่การมีพี่ภพอยู่เคียงข้าง คอยโอบกอด คอยปลอบโยน ทำให้เขารู้สึกว่า… ไม่ได้เผชิญทุกอย่างเพียงลำพังและยิ่งรู้สึก… ชอบพี่ภพมากขึ้นทุกวันวันนี้ดูเหมือนว่าเขาจะใช้พลังไปเยอะ ทั้งร่างกายและหัวใจเลยเหนื่อยล้าเต็มที กนกหยิบหนังสือนิยายขึ้นมา หวังว่าจะอ่านเล่นสักหน่อยก่อนจะหลับไปแต่ก่อนที่เปลือกตาจะหนักอึ้ง มือถือก็สั่นเบา ๆ แจ้งเตือนข้อความจาก LINEพี่ภพ: “นอนหรือยังครับ”กนก: “กนกจะอ่านหนังสือนิยายสักหน่อย แล้วก็คงจะนอนแล้วครับ”พี่ภพ: “นอนไวจัง เพิ่งสามทุ่มเอง”กนกหลุดยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับกนก: “พี่ภพมีอะไรหรือเปล่าครับ”พี่ภพ: “พี่เหนื่อยนิดหน่อย พอดีส่งงานให้ลูกค้าอยู่ กำลังปั่นงานเลย”กนก: “วันนี้พี่ภพกลับไปในเมืองหรอครับ”
เพชรมองหน้าลูกชายตัวน้อยที่กำลังยิ้มกับโทรศัพท์ รอยยิ้มเล็ก ๆ ที่เจ้าตัวอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าแสดงออกมา“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรกันครับ คุณกนกของแม่?”กนกสะดุ้งเงยหน้าขึ้น ก่อนจะรีบปฏิเสธเสียงอ้อมแอ้ม “ยิ้มอะไรกันล่ะครับ แม่คิดไปเอง กนกไม่ได้ยิ้มสักหน่อย”เพชรหัวเราะเบา ๆ “ก็เห็นยิ้มกับโทรศัพท์ไง”เด็กหนุ่มเม้มปาก หันไปมองหน้าจออีกครั้ง ก่อนจะยอมรับเสียงเบา “ก็...พี่ภพ LINE มาบอกนะครับว่าอยู่บ้านตัวเองแล้ว”“อ้อ”“แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน กนกก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน” เจ้าตัวพูดต่อ “แต่ว่าพี่เขาบอกว่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ บ้านเราตรงนี้นี่เอง”เพชรพยักหน้ารับรู้ ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่แววตายังคงมองสำรวจลูกชายของตัวเอง“วันนี้เขาจะมาหาหรือเปล่า?”“พี่ภพเหรอครับ?”“จ้ะ”“เห็นบอกว่าวันนี้จะพาไปเที่ยวสวนมะพร้าวเล็ก ๆ”เพชรเลิกคิ้วเล็กน้อย “สวนมะพร้าว?”กนกพยักหน
เพชรนิ่งฟังคำพูดของพบรัก แววตาของเธอเต็มไปด้วยความลังเลและห่วงใย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคำพูดของเขามีเหตุผลภพรักในวันนี้ไม่ใช่เด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่เธอเคยเห็นเมื่อสิบกว่าปีก่อนอีกแล้ว เขาเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่เข้าใจตัวเองและกล้าที่จะเผชิญหน้ากับอดีต แม้จะเจ็บปวด แม้จะต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด แต่เขาก็ยังคงยืนหยัดอยู่ตรงนี้ ด้วยความหวังที่ว่าเขาจะช่วยกนกได้ตุ๊กตาหมีสีเหลืองในมือของพบรักเป็นเหมือนตัวแทนของอดีตที่เขาและกนกเคยมีร่วมกัน เพชรลูบมันเบา ๆ ปลายนิ้วสัมผัสเนื้อผ้าหม่นหมองที่ผ่านกาลเวลา แต่มันก็ยังคงอยู่เธอถอนหายใจแผ่วเบา ก่อนจะเงยหน้ามองพบรัก"น้าเข้าใจว่าภพรักต้องผ่านอะไรมาบ้าง และน้าก็รู้ว่ากนกเองก็ยังคงมีบางอย่างที่ค้างคาในใจ... บางที การได้เจอภพรัก อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้องกล้าเผชิญหน้ากับอดีตของตัวเองเหมือนกัน"พบรักมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง แต่เขาก็รู้ดีว่าความไว้วางใจไม่ใช่สิ่งที่จะได้รับมาโดยง่าย"แต่..." เพชรพูดต่อ "น้าขอแค่อย่างเดียว อย่าทำให้น้องต้องเจ็บปวดอีก"ภพรักยิ้มบาง ๆ เขารู้ดีว่าเส้นทา
พี่ภพขับรถมาจอดที่หน้าบ้านของกนก หลังจากส่งพราวและมิวเสร็จเรียบร้อยแล้วกนกแทบไม่รอให้รถจอดสนิทดี เขารีบเปิดประตูแล้ววิ่งพุ่งเข้าไปหาแม่ทันที"โถลูก… อย่าวิ่งเร็ว เดี๋ยวล้มนะ"เสียงของแม่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็อ้าแขนรับกอดลูกชายของเธอไว้แน่นกนกฝังหน้าลงกับไหล่ของแม่ สูดกลิ่นที่คุ้นเคย ราวกับจะซึมซับความอบอุ่นให้เต็มหัวใจ เขาไม่รู้ว่าตัวเองยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นนานแค่ไหน แต่ในอ้อมกอดของแม่ ความเหนื่อยล้าทั้งหมดจากมหาวิทยาลัยเหมือนค่อย ๆ คลี่คลายแม่ลูบหลังเขาเบา ๆ "เป็นไงบ้างครับ ปิดเทอมจบปีหนึ่งแล้ว เด็กน้อยของแม่"กนกเงยหน้าขึ้น หัวเราะเบา ๆ แต่ดวงตายังคงฉายแววอ่อนล้า "คิดถึงแม่มากเลยครับ คิดถึงพ่อด้วย เหนื่อยมากเลย ทำไมชีวิตมหา’ ลัยเหนื่อยขนาดนี้""ออกมาอยู่บ้านไหมลูก เครียดหรือเปล่า?"กนกหัวเราะกับคำพูดของแม่ เขารู้ว่าแม่ไม่อยากให้เขาต้องเครียดหรือกดดันกับชีวิตในมหาวิทยาลัยก่อนที่เขาจะตัดสินใจไปเรียนต่อ แม่เคยบอกเสมอว่า "ถ้าเหนื่อยหรือเครียดเกินไป กลับมานะ มาอยู่กับ