เช้าวันใหม่ดวงยิหวาเดินลงมาชั้นล่างของบ้านหลังใหญ่ด้วยคราบของ ดวงดาหวัน ผู้หญิงที่เธอรู้จักเพียงชื่อและเดาเอาว่าเธอกับผู้หญิงคนนั้นคงจะเหมือนกันราวกับแกะอย่างแน่นอน
ดวงยิหวาสังเกตว่ามันมีห้องอยู่หลายห้อง ตรงข้ามกับห้องที่เธอพักอยู่มีสองห้องซึ่งป้ายหน้าห้องติดรูปน่ารักเก๋ไก๋ ป้ายห้องแรกเป็นสีชมพูหวานน่ารักประดับดอกไม้พลาสติกสีสวยงดงามราวดอกไม้จริงๆ ว่า น้องเปรียว อีกห้องมีป้ายที่ดูเป็นแบบเด็กผู้ชายสีน้ำเงินลายซุปเปอร์ฮีโร่เขียนว่า น้องปราณ ซึ่ง ป้าสำลี แม่บ้านวัยกลางคนร่างอวบอ้วนผิวขาวที่นำทางเธอมาบอกว่านั่นคือห้องลูกๆ ของเธอ
เธอมีลูก ยิหวามีลูก โอ... นี่พระเจ้าเล่นตลกอะไรกับยิหวากันแน่ ดวงยิหวากลอกตาไปมาไม่นึกอยากจะพูดอะไรเพราะพูดไปก็ไม่มีใครสนใจซ้ำยังมองด้วยสายตาแปลกๆ ไม่เป็นมิตรนัก ดูเหมือนว่าคนที่ชื่อดวงดาหวันจะเป็นคนร้ายกาจและทำไม่ดีกับคนพวกนี้ไว้เยอะทีเดียวพวกเขาถึงได้มองเธออย่างรังเกียจและไม่เป็นมิตรแบบนี้
“ทุกวันเราจะทานอาหารเช้าเจ็ดโมง อาหารเย็นหกโมงเย็นหรือไม่ก็หนึ่งทุ่มแล้วแต่ว่าพ่อเลี้ยงจะกลับจากไร่ตอนไหน หรือบางทีหากมีงานด่วนกลับมาทานข้าวเย็นไม่ทันพ่อเลี้ยงก็จะโทร. มาบอกเองค่ะ”
“แล้วเอ่อ ยิ... เอ่อ ฉัน จะทานข้าวพร้อมเขาด้วยรึเปล่า” หญิงสาวถามผู้สูงวัยอย่างใคร่รู้กล้าที่จะพูดคุยกับป้าสำลี มากขึ้น
ป้าสำลีเป็นแม่บ้านของที่นี่ บ้านไร่ตะวันงาม ซึ่งอยู่ในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ มีเปลวพ่อเลี้ยงหนุ่มวัยสามสิบสองปีเป็นเจ้าของที่นี่ ซึ่งเขาก็มีศักดิ์เป็นอาของลูกๆ เธอ (ลูกที่เธอเพิ่งจะมีหรือถูกยัดเยียดให้มี) ด้วย นั่นคือ เด็กหญิงเปรียวปรียา และ เด็กชายปราณชนก ลูกฝาแฝดชายหญิงอายุสิบปีขวบ ซึ่งเป็นลูกของดวงดาหวันกับ ปราบ พี่ชายของเปลวนั่นเอง แต่เธอเองก็ยังไม่เคยได้เห็นหน้าลูกๆ ของเธอเลยตั้งแต่ฟื้นขึ้นมา เพราะเด็กๆ ไปเข้าค่ายลูกเสือแต่อีกไม่นานพวกเขาก็คงกลับมา
ตอนนี้ดวงยิหวารู้อะไรมากขึ้นจากคำบอกเล่าของป้าสำลี หลังจากที่ร่างกายเริ่มหายเป็นปกติเธอก็เริ่มประติดประต่อเรื่องราวต่างๆ ได้ว่าเหตุใดเธอต้องมาอยู่ที่นี่ ในบ้านไร่ที่ห่างไกล เทคโนโลยี
ทุกอย่างถูกกีดกันจากเธอด้วยคำสั่งของเปลว พ่อเลี้ยงหน้าโหดคนนั้น...
“ปกติพ่อเลี้ยงจะมากินอาหารกับหลานๆ ทุกวันนะคะ แต่คุณก็ไม่ค่อยอยู่กินข้าวพร้อมหน้าพวกเขาอยู่แล้ว แต่วันนี้พ่อเลี้ยงไปไร่น้ำหวานตั้งแต่ตีห้า ไปทำคลอดให้ม้าแม่พันธุ์ของคุณน้ำหวานไม่แน่พ่อเลี้ยงอาจจะกินอาหารเช้าที่โน่นเลย ส่วนคุณจะกินพร้อมลูกๆ กับพ่อเลี้ยงหรือไม่ในมื้อต่อไปก็แล้วแต่ค่ะ”
คำตอบของป้าสำลีทำให้ดวงยิหวาเหวอไปเล็กน้อยและนึกตำหนิคนที่เธอสวมรอยอยู่ในใจ แต่ชื่อของผู้หญิงอีกคนก็ทำให้เธออยากรู้อยากเห็น...
“ใครกันคะ คุณน้ำหวาน”
“คุณจำเธอไม่ได้หรือคะเธอเป็นคู่แข่งคุณมาตลอดเลยนะคะ” ป้าสำลีถามเสียงสูงดวงยิหวายิ้มเจื่อนๆ เหมือนลืมๆ ไป ป้าสำลีจึงเล่าเรื่องเกี่ยวกับ คู่แข่ง ของเธอให้ฟัง
น้ำหวาน นั้นเป็นลูกสาวของเจ้าของไร่น้ำทิพย์ซึ่งบิดามารดาของเธออยากจะให้เกี่ยวดวงกับไร่ตะวันงามมาตลอด แต่ดวงดาหวันกลับชิงตัดหน้าแต่งงานกับปราบเจ้าของไร่หนุ่มหล่อไปเสียก่อนจนมีทายาทด้วยกันเป็นฝาแฝดชายหญิง และเมื่อผิดหวังจากทายาทคนโตก็หวังเกี่ยวดองกับทายาทคนเล็ก แต่ตอนนี้ก็ยังไม่สำเร็จเพราะเปลวนั้นทำแต่งานและสนใจงานในไร่ ช้าง ม้า วัว ควาย มากกว่าผู้หญิง...
“อ้อ เหรอคะ แหม ฉันจำอะไรไม่ค่อยได้เลยช่วงนี้...” อ้อ อีตาเปลวบ้านั่นเคยเป็นสัตวแพทย์ด้วยเหรอ.. หน้าตาไม่ให้เลยสักนิด แหม แต่หากเขาสามารถทำคลอดผ่าตัดสัตว์ได้เขาน่าจะผ่าเอาสุนัขออกจากปากด้วยก็คงดีไม่น้อย ดวงยิหวาคิดในใจแล้วก็แอบขันตัวเองแล้วก็ชักอยากจะเห็นหน้าแม่น้ำหวานของป้าสำลีแล้วสิ
ดวงยิหวาฉลาดพอที่จะนิ่งเงียบไม่กระโตกกระตากหรือเหวี่ยงวีนให้ตัวเองได้รับอันตรายจากคนที่ไม่รู้จักหรือสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยแต่กำลังรอดูท่าทีของพวกเขาและสงสัยผู้หญิงที่ชื่อดวงดาหวันว่าเป็นใครทำไมคนที่นี่ถึงได้คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงคนนั้น จะมีใครที่ฉลาด สวย และรวยมากเหมือนเธออีกนะ ดวงยิหวาคิดเข้าข้างตัวเองด้วยความมั่นใจ แต่เหตุผลสำคัญคือเธอยังไม่อยากกลับบ้านเพราะเพิ่ง หนีการถูกจับแต่งงานมา อยู่ที่นี่สักพักบิดามารดาของเธอก็คงลืมเรื่องแต่งงานไป และอยากรู้เหลือเกินว่าเธอกับดวงดาหวันเกี่ยวข้องเป็นอะไรกัน เป็นฝาแฝดกันหรือเปล่าและหากเป็นเช่นนั้นทำไมเธอจึงได้อยู่ในบ้านหลังใหญ่โตหรูหราบิดาเป็นถึงนักธุรกิจผู้ร่ำรวย ในขณะที่ดวงดาหวันอยู่ที่นี่ถูกกล่าวหาว่าคบชู้สู่ชายเป็นผู้หญิงไม่ดี... รู้เขารู้เราย่อมดีกว่าอยู่แล้ว...
“พ่อเลี้ยงเปลวเธอเลี้ยงเด็กๆ มาตั้งแต่สามขวบหลังจากที่พ่อเลี้ยงปราบเสียชีวิตเพราะตรอมใจเรื่องคุณ คุณน่าจะรู้ดีว่าพ่อเลี้ยงรักและเอ็นดูหลานๆ มาก ชนิดที่ว่า จะไม่ยอมให้ใครทำร้ายพวกเขาไม่ว่าทั้งทางร่างกายและจิตใจ”
“ฉันทำร้ายพวกเขาหรือคะ...” ความอยากรู้อยากเห็นมีเพิ่มมากขึ้นๆ เมื่อป้าสำลีพูดแบบนี้ นั่นแสดงว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เสียแล้ว
“ถ้าหากคุณจำอะไรๆ ได้มากกว่านี้คุณจะรู้เอง อิฉันขอตัวนะคะมีงานในครัวค้างอยู่”
“อ้าว ป้าเดี๋ยวสิอย่างเพิ่งไป กลับมาพูดให้จบก่อนสิ... โธ่ ทำให้อยากแล้วก็จากไป” ดวงยิหวาร้องตามหลังป้าสำลีที่เดินเข้าครัวไปอย่างไม่ชอบใจเพราะยังค้างคาเรื่องที่แกพูดแล้วทีนี้เธอจะถามใครดีล่ะ ว่าดวงดาหวันทำอะไรไว้บ้างหญิงสาวนั่งเท้าคางครุ่นคิดวุ่นวายอยู่คนเดียว
“หากจะกินข้าวก็รีบๆ กิน อย่ามัวอ้อยอิ่งเธอมีงานต้องทำอีกหลายอย่าง...” เสียงห้าวๆ ของชายหนุ่มดังขึ้นทำให้คนที่นั่งเท้าคางคิดหนักอยู่ถึงกับสะดุ้งข้อศอกที่ตั้งอยู่บนโต๊ะอาหารลื่นไถลไปโดนแก้วน้ำข้างๆ ข้างตัวจนแทบหล่นดีที่ว่าเธอคว้าไว้ได้ทัน...
อ้าวก็ไหนว่าเปลวไปทำคลอดม้าที่ไร่แฟนของเขา แล้วเขามาตอนไหนล่ะเนี่ย หญิงสาวมองเขางงๆ
“นี่คุณจะมาก็ให้ซุ่มให้เสียงหน่อยนะ”
“ฉันเดินมาตั้งนานแล้ว แต่เธอมัวแต่เหม่อไม่ได้ยินเองอย่ามาโทษคนอื่น...” เปลวมองเธอด้วยแววตาขุ่นๆ
“ไหนป้าสำลีว่าคุณไปไร่แฟนคุณไง...”
“ก็กลับมาแล้วนี่ไง ทำไม หรือเธอมีปัญหา...” กวนเหลือเกิน ทั้งน้ำเสียงแววตาและท่าทาง ดวงยิหวามองเขาเดือดดาลในอก
“อ๋อเหรอ ไม่นี่ ไม่มี้ ใครจะกล้ามีปัญหากับพ่อเลี้ยงเปลวผู้ยิ่งใหญ่ แต่แหม... ฉันนี่ทำอะไรก็ผิดทุกอย่างสินะ ไม่กินแล้วข้าวเนี่ย กินไม่ลง...” หญิงสาวทำท่าจะลุกเดินออกไปจากห้องรับประทานอาหารซึ่งทำให้ชายหนุ่มตะคอกเสียงดัง
“นั่งลงเดี๋ยวนี้ แล้วก็กินข้าวซะ”
“ไม่กิน เห็นหน้าคุณแล้วฉันกินไม่ลง”
“ฉันบอกให้นั่งลง เดี๋ยวนี้...” เสียงที่แผดกร้าวนั้นทำให้ดวงยิหวารู้ตัวว่าเธอเผลอแสดงกิริยาโดยแท้ของตนออกมา ตอนนี้ต้องแสร้งทำเป็นดวงดาหวันไปก่อน...
ตอนที่82. ตอนอวสานบทส่งท้าย...น้องเปรียวกับน้องปราณโบกมือลาเพื่อนๆ ซึ่งพ่อแม่มารับกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม เด็กทั้งสองมีความสุขที่สุด ณ ตอนนี้ พวกเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดหรือขาดความรักความอบอุ่นแม้แต่น้อย แม้ดวงยิหวาจะไม่ใช่แม่ที่แท้จริงแต่ความรักความผูกพันที่มีในสายเลือดก็ผูกพวกเขาไว้ด้วยกันอย่างเหนียวแน่นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด“เด็กๆ จ๊ะ มาทานข้าวกันได้แล้วค่ะ พี่ฝนจะตั้งโต๊ะแล้ว”ดวงยิหวาเรียกลูกๆ ด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกดีใจที่น้องเปรียวรู้จักคิดแยกแยะและให้อภัยรินลดา หญิงสาวเชื่อว่าเด็กทั้งสองจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไปในอนาคต“คุณแม่ว่าน้องเปรียวทำถูกมั้ยคะ” เด็กหญิงถามหน้ายุ่ง“ถูกสิคะ การให้อภัยเป็นสิ่งที่ดี การมีเพื่อนก็เป็นสิ่งที่ดี ลูกของคุณแม่น่ารักที่สุดค่ะ” ดวงยิหวายิ้มแล้วลูบเรือนผมของน้องเปรียวเบาๆ อย่างรักใคร่เอ็นดู“แล้วสามีละครับที่รัก น่ารักรึเปล่า” เปลวถามขึ้นพร้อมทั้งยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มนวลใสของภรรยาต่อหน้าเด็กๆ ดวงยิหวาหันมาค้อนขวับแล้วหยิกหมับเข้าที่ต้นแขนแกร่งเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้ที่สามีชอบแสดงความรักกับเธอต่อหน้าเด็กๆ แบบนี้“คนบ้าหน้าไม่อาย นี่แน่ะๆ”“โอ๊ยๆ เจ็บครับที่รั
ตอนที่81.“ก็มองเหมือนจะถอดเสื้อผ้ายิหวา แบบนี้ไง คนบ้า”เธออ้อมแอ้มตอบรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทั่วร่างกับสายตาของสามีที่มองมาเหมือนจะกลืนกินทั้งที่เธอสวมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขาอยู่ แต่ภายใต้เสื้อตัวใหญ่ที่ยาวถึงโคนขาเสลาก็ไร้สิ่งอื่นห่อหุ้มความงามของอิสรีไว้และตอนนี้ดวงยิหวาก็รู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่อะไรอยู่ดี“อื้ม สามีของยิหวานี่หื่นจริงๆ เลยนะครับ ไม่ไหวเลยมองภรรยาแบบจะกลืนกินได้ยังไงกัน สู้กินจริงๆ ไม่ดีกว่าเหรอ..” เขาเย้ายิ้มๆ ยกร่างบางมานั่งบนเคาน์เตอร์หินอ่อนตัวยาวตรงอ่างล้างหน้าที่สามารถขึ้นไปนั่งได้สบายๆ ทันที“อุ้ย พี่เปลวไม่นะ ยิหวาอยากอาบน้ำ หิวแล้ว”“ก็ใครว่าเราจะไม่อาบน้ำล่ะที่รัก”“ก็ปล่อยสิคะ ยิหวาจะอาบน้ำ พี่เปลวอาบแล้วก็ออกไปสิ” หญิงสาวต่อรองเมื่อเห็นใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาของสามีที่บ่งบอกว่าจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วก็ใจสั่นหวิวเพราะแรงปรารถนาจากดวงตาคมมันชัดเจนเหลือเกิน นี่อย่าบอกนะว่าเขาจะ...“ยิหวาจ๋า พี่อยากรักยิหวาอีกแล้ว”ไม่พูดเปล่าแต่ร่างแกร่งแทรกเข้ามาระหว่างเรียวขาเสลาแล้วโน้มใบหน้างามลงมาชิด ปลายจมูกคมปัดเบาๆ กับปลายจมูกรั้นอย่างหยอกเย้าแล้วริมฝีปากหยักก็บดจูบ
ตอนที่80.“คุณแม่ก็บอกว่า หากสิ้นปีนี้ไม่มีวี่แววว่าจะได้อุ้มหลาน พี่เตรียมตัวกระเด็นออกจากชีวิตลูกสาวท่านไปเลย” เปลวยิ้มกรุ้มกริ่มมองเธอตาหวานเชื่อมอย่างมีความหมาย ดวงยิหวาหน้าแดงรู้ทันทีว่าตนพลาดท่าคนเจ้าเล่ห์เสียแล้ว“ยี้ คนบ้า เจ้าเล่ห์กับยิหวาอีกแล้วนะ อุ้ย ไม่เอาค่ะ นี่ยังไม่มืดนะคะเพิ่งจะสี่โมงเย็นเอง” หญิงสาวจะลุกหนีคนเจ้าเล่ห์ที่เริ่มมือไม้อยู่ไม่สุขแต่ก็ดูเหมือนจะช้าไป “ไม่เป็นไรหรอกที่รัก เราทำอะไรกันเพลินๆ เผลอแป๊บเดียวมันก็ค่ำแล้ว มาทำเจ้าตัวเล็กให้คุณแม่อุ้มดีกว่าไม่อย่างนั้นพี่ได้โดนเฉดหัวออกจากชีวิตยิหวาแน่ๆ เลย”ชายหนุ่มพูดงึมงำอยู่กับซอกคอขาวเนียนที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู ดวงยิหวาใจสั่นเมื่อรู้ตัวดีว่าไม่สามารถต้านทานแรงพิศวาสอันเร่าร้อนจากสามีได้ ริมฝีปากบางระเรื่อที่พยายามจะคัดค้านก็ถูกครอบครองด้วยปากร้อนๆ ของคนที่รอเวลานี้มาทั้งวันอย่างหิวกระหาย ลิ้นหนาสอดไล้ดูดกลืนเรียวลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อนช่ำชอง ดวงยิหวาครางเบาๆ ด้วยความซ่านหวิวมือร้อนผ่าวก็กำจัดเสื้อผ้าของเธอออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วจนดวงยิหวานึกทึ่งที่เขาสามารถทำได้รวดเร็วกว่าที่เธอถอดเองเสียอีก“อื้ม พี่เปลว
ตอนที่79.“เออนะ เหมือนกันทั้งคนทั้งม้า ไอ้วิทย์อยากจะบ้า”หมอวิทย์ทำท่าเหมือนอยากจะขาดใจตาย เจ้าม้าสาวเอียงคอมองเขาตาใสแจ๋ว มันคงจะสงสัยว่ามนุษย์คนนี้เป็นอะไรไปเป็นแน่แท้เปลวเดินตรงขึ้นไปห้องหอแสนหวาน ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าห้องว่างเปล่าแต่ได้ยินเสียงน้ำไหลซู่ๆ อยู่ในห้องน้ำเปลวยิ้มกริ่มจินตนาการไปไกล“ยิหวาจ๋า ทำอะไรอยู่จ๊ะที่รัก..”แสร้งร้องเรียกภรรยาแต่เธอไม่ตอบเขาจึงเดินไปเปิดประตูห้องน้ำด้วยความคาดหวังว่าจะเห็นร่างเปลือยเปล่างดงามของภรรยาอยู่ภายใต้สายน้ำเย็นฉ่ำแต่..เมี้ยวววว เจ้าแมวเหมียวสีตุ่นๆ กระดำกระด่างหน้าตาน่าเกลียดเปียกมะลอกมะแลกถูกยื่นมาตรงหน้าตามด้วยเสียงหัวเราะสดใสของภรรยา“อะไรกันนี่ยิหวา..” เปลวหน้าหงิกเมื่อมันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้สักนิด“ก็น้องแมวไงคะ พอดีว่าฝนเจอมันหลงมาอยู่ข้างรั้วเมื่อกี้ ยิหวาเลยจะเลี้ยงมันไว้แต่ตัวมันเปรอะมากก็เลยพามามันมาอาบน้ำเช็ดตัวให้แห้งค่ะ”เธอบอกแล้วพามันไปเช็ดตัวและไดร์เป่าขนให้มันอย่างอ่อนโยนเจ้าแมวน้อยก็อยู่นิ่งให้บริการมันด้วยท่าทางแสนสุขน่าหมั่นไส้ เปลวเดินไปกอดร่างบางไว้แล้วซุกจมูกลงกับพวงแก้มนุ่มอย่างออดอ้อนกลัวว่า
ตอนที่78.“ยิหวาจ๋า สวยเหลือเกินคนดี..” เปลวครางแผ่วละเรียวลิ้นจากยอดทรวงสีหวานที่ดูดกลืนกินอย่างเอร็ดอร่อยเพื่อมุ่งไปยังทุ่งดอกไม่แสนสวยที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนให้ดื่มกินความหวานล้ำที่เคยได้ลิ้มรสมาก่อนหน้านี้ทำให้เปลวแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้ลิ้มรสน้ำหวานจากดอกไม้สาวฉ่ำเยิ้มหลอกล่อให้เขาหลงใหลมึนเมา มือหนาเลื่อนไล้ไปยังต้นขาและสะโพกตึงแน่นลูบไล้วนเวียนใกล้ดงดอกไม้งามหยอกเย้าให้เธอดิ้นพล่านด้วยความซ่านกระสัน ดวงยิหวาเผยอครางกระเส่ามือเรียวจิกบ่ากว้างของเขาแน่นเพื่อระบายความเสียวเสียด เลือดในกายสาวร้อนระอุเดือดพล่านราวกับว่ากายของเธอจะมอดไหม้ลงไปเพราะลิ้นและมือร้อนๆ ของเขา“อื้ม พี่เปลว อา...” ดวงยิหวาครางกระเส่าเมื่อลิ้นร้อนไล้เลียต่ำลงไปยังสะดือน่ารักและต่ำลงๆ จนถึงกึ่งกายสาวพร้อมกับนิ้วแกร่งเดินทางมาถึงจุดอ่อนไหวชื้นฉ่ำด้วยน้ำหวานเอ่อซึมยั่วเย้าให้ดูดดื่มและเปลวก็ไม่รอช้าที่จะทำดังนั้นและเมื่อลิ้นร้อนแตะแต้มลงบนกลีบดอกไม้งามดวงยิหวาก็สะดุ้งสุดตัวทั้งยังครางออกมาด้วยความซ่านกระสันสุดใจ ร่างงามส่ายพลิ้วดั่งใบไม้ต้องลมเมื่อถูกความเสียวซ่านโจมตีจากทั้งมือและปากของเขาก็ทำให้เธอแทบขาดใจ แล้วร่
ตอนที่77.แต่เพราะพ่อเลี้ยงเปลวไม่อยากให้ใครพูดถึงเพราะสงสารหลานๆ จึงให้ดวงยิหวาสวมรอยเป็นดวงดาหวันไปชั่วคราวรอจนมั่นใจว่าหลานๆ รับได้จึงจะบอกความจริงให้รับรู้ ซึ่งทุกคนก็เข้าใจดีเพราะเจ๊ขาเม้าท์ทั้งสองถึงแม้จะเป็นคนที่ค่อนข้างพูดมากและชอบจับกลุ่มนินทาคนอื่นแต่พวกนางก็พูดในเรื่องที่มีมูลความจริงทุกเรื่อง ดังนั้นความเป็นมาของดวงยิหวาจึงไม่มีใครติดใจทั้งยังร่วมยินดีกับการแต่งงานอันยิ่งใหญ่ของพ่อเลี้ยงเปลวกับดวงยิหวาที่กำลังจะมีขึ้นอีกด้วยเมื่อเรื่องวุ่นวายต่างๆ ผ่านไปเปลวก็จัดการทำบุญและจัดการเรื่องศพของดวงดาหวันที่เอื้องอำพรางคดีด้วยการฝังไว้ที่ชายป่าท้ายไร่นั่นเองซึ่งอาคมได้บอกกับเขาตอนที่ยอมจำนนต่อความผิดที่ก่อไว้แต่สุดท้ายเมื่ออาคมรู้ว่าหญิงสาวที่ตนรักนั้นได้จบชีวิตลงเขาก็ฆ่าตัวตายในคุก นับว่าอาคมมีความรักที่จริงใจต่อเอื้องมากอย่างไม่น่าเชื่อ เปลวได้นำอัฐิของปราบกับดวงดาหวันและเอื้องมาทำบุญครั้งใหญ่และนำไปเก็บไว้รวมกันอย่างน้อยๆ พี่ชายของเขาก็คงจะได้อยู่ใกล้ๆ คนที่รัก และเอื้องก็คงจะได้รับรู้ว่าตนมีญาติมีพี่น้องอยู่ในโลกใบนี้แต่สำหรับดวงดาหวันซึ่งจากโลกนี้ไปโดยที่เธอไม่มีโอกาสได้บ