“ทำหน้าให้มันสนุก ๆ หน่อยดิวะ นัดมาดื่มก่อนเข้าเรียนต้องปลดปล่อยดิวะ”
ปอร์เช่หันไปมองหน้าฟาโรแล้วกระตุกยิ้มที่มุมปาก คืนนี้พวกเขานัดกันมาดื่มก่อนที่จะต้องแยกย้ายกันไปเรียนมหาวิทยาลัย
“เออ” ชายหนุ่มตอบเพื่อนแล้วยกแก้วขึ้นมาชนกัน ความเซ็งพลันหายไปในพริบตา เพราะคิดว่าต้องสนุกให้เต็มที่ เผื่อว่าเข้าเรียนมหาลัยแล้วจะไม่มีเวลาได้ออกมาสนุกแบบนี้อีก
ปอร์เช่ไม่หันไปมองสาวสวยคนนั้น แต่หัวใจมันก็เรียกร้องให้ต้องคอยหันไป เขาจึงตรึงสายตาไว้ที่เธอแค่คนเดียว ไม่ให้ผู้ชายที่มาด้วยในเข้ามาอยู่ในสายตาเด็ดขาด!
“มึงเมาแล้วเหรอวะ” ฟาโรเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความแปลกใจ ปกติแล้วปอร์เช่ไม่ค่อยเมา แต่คืนนี้เขากลับเมาเป็นคนแรก
ปอร์เช่นั่งคอตกยกมือขึ้นปฏิเสธ เขากำลังสื่อว่าตัวเองไม่เมาทั้งที่ทรงตัวไม่ค่อยอยู่แล้ว ชายหนุ่มไม่อยากถูกแซวว่าคืนนี้เมาก่อนใครเพื่อน แต่ท่าทางของเขาก็ปิดเอาไว้ไม่มิด
“มึงอะเมาแล้วไม่ต้องโกหก” พัตเตอร์พูดเสียงดังกรอกหู ปอร์เช่ตวัดสายตาขุ่นไปให้แล้วลุกขึ้นจะเข้าไปเตะเพื่อนสักที แต่ทว่าพอเขาลุกก็เซไปชนกับโต๊ะข้าง ๆ
“ขอโทษด้วยครับ” ฟาโรก้มหัวขอโทษโต๊ะข้าง ๆ แทนเพื่อน อีกฝ่ายไม่ติดใจอะไรเพราะเข้าใจว่าคนเมาทรงตัวไม่อยู่
“ขอโทษทำไมวะ กูแค่ชน” ปอร์เช่ทำหน้าหงุดหงิด ที่เพื่อนก้มหัวให้คนอื่น ลูกมาเฟียอย่างเขาไม่ยอมก้มหัวให้ใครง่าย ๆ เด็ดขาด!
บิดาของปอร์เช่เป็นมาเฟียผู้ทรงอิทธิพล เป็นที่นับหน้าถือตามีแต่คนต้องก้มหัวให้ เขาเห็นจนชินตา แต่ปกติแล้วเขาก็เป็นคนอ่อนน้อมคนนึง เพียงแต่พอเมาเข้าไปก็มีนิสัยไม่ยอมใครขึ้นมาทันที
“มึงผิดก็ขอโทษ กูไม่อยากมีเรื่อง” ฟาโรประคองปอร์เช่ไว้ กลัวว่าปอร์เช่จะเซไปชนใครเข้าให้อีก
“พากลับเถอะว่ะ” พัตเตอร์เอ่ยขึ้นมา
ฟาโรพยักหน้าให้แล้วพาปอร์เช่มาที่รถ เขาขับรถพาไปส่งที่บ้านโดยที่ให้พัตเตอร์ขับตามไปด้วย ไม่อย่างนั้นเขาก็ต้องนอนค้างบ้านปอร์เช่อีก
รถสปอร์ตเลี้ยวเข้ามาที่คฤหาสน์หลังงามบนที่ดินทำเลดี บอดี้การ์ดที่เดินตรวจดูความเรียบร้อยก่อนจะเข้านอนเดินเข้ามาที่รถเพื่อเปิดประตูให้เจ้านาย ทว่าคนที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับลงมาจากรถซะก่อน เขาเลยเปิดประตูฝั่งด้านข้างแทน
“นายน้อยทำไมเมาเละแบบนี้ล่ะครับ” บอดี้การ์ดเอ่ยออกมาพร้อมกับจับแขนของปอร์เช่พาดบ่าเขาไว้เพื่อที่จะได้ประคองลงจากรถ
“เมาห่าไรวะ ไม่เมา!” นายน้อยของเขาเสียงแข็งกระด้าง กลิ่นเหล้าคลุ้งจนฉุนจมูก เขายิ้มเจื่อนให้กับเพื่อน ๆ ของปอร์เช่
“ผมขอตัวพานายน้อยขึ้นห้องก่อนนะครับ ขอบคุณนะครับที่มาส่ง” เขาก้มหัวให้กับพัตเตอร์และฟาโร แล้วพาปอร์เช่ขึ้นไปนอนบนห้อง
ปอร์เช่นอนหลับสนิทไปทันทีที่หัวถึงหมอน กระทั่งเช้าของอีกวันเขาก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความปวดหัว ชายหนุ่มลุกขึ้นมาแล้วเข้าไปอาบน้ำให้ร่างกายสดชื่น ความปวดหัวทุเลาลงไปบ้างแล้ว
“ไงไอ้ตัวดี เมื่อคืนเมาหนักเลยหรือไง” ประมุขของบ้านเอ่ยเสียงเข้ม ดวงตาคมกริบมองลูกชายนิ่ง จนปอร์เช่ยิ้มแห้งแล้วหาทางเอาตัวรอดด้วยการไปกอดมารดาเอาไว้
“สังสรรก่อนเรียนไงครับพ่อ”
“ฮึ เดี๋ยวเข้าเรียนแล้วแกก็ออกเที่ยวอยู่ดี” บิดารู้ทันลูกตัวเองอยู่แล้ว ปอร์เช่ชอบเที่ยวกลางคืน ต่อให้เข้าเรียนแล้วจะยุ่งขนาดไหนก็ยังต้องออกเที่ยวอย่างแน่นอน
“แม่ทำอะไรร้อน ๆ ให้กินหน่อยสิครับ ผมปวดหัว” ปอร์เช่เถียงพ่อไม่ออก เขาเลยอ้อนผู้เป็นแม่
“แม่ทำข้าวต้มไว้ให้แล้วลูก”
“แม่แกน่ะพอรู้ว่าแกเมาหนัก ก็รีบเข้าไปทำข้าวต้มไว้รอเลย ไม่รู้จะเอาใจไปถึงไหน” ชายวัยกลางคนปรายตามองภรรยาตัวเองที่เอาใจลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้ซะเหลือเกิน
“คุณไม่ต้องมาว่าฉันเลย คุณเองก็ถอยรถใหม่ไว้ให้ลูกไปเรียน คุณก็เอาใจลูกเหมือนกันนั่นแหละ”
“รถใหม่เหรอครับ” ปอร์เช่เอ่ยออกมาด้วยความตะลึงงัน เขาเคยเปรยไว้ว่าอยากได้รถยุโรปอีกคันเพราะไม่อยากขับรถสปอร์ตไปเรียน
“ใช่ แต่พอรู้ว่าแกเมา พ่อก็ไม่อยากให้แล้ว”
“ซื้อมาแล้วก็ต้องให้สิครับ” ปอร์เช่ยิ้มให้กับผู้เป็นพ่อ ใบหน้าที่เคร่งขรึมของนายใหญ่อ่อนลงจนมีรอยยิ้ม เขาแค่ตำหนิเรื่องเมา แต่ถึงยังไงก็ยังให้รถกับลูกอยู่ดี
“ขอบคุณนะครับพ่อ” ปอร์เช่ยกมือไหว้พ่อแล้วโผเข้าไปกอดแม่ด้วยความดีใจ
ตั้งแต่เด็กจนโตถึงวัยเข้าเรียนมหาวิทยาลัย พ่อแม่ของเขาเลี้ยงดูอย่างเอาอกเอาใจมาเสมอ สิ่งที่ลูกต้องการพวกเขาไม่เคยขัดและหามาให้ได้ทุกอย่างเสมอ
บทส่งท้าย (จบ) 3 เดือนต่อมาภายในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมชื่อดังใจกลางเมืองอบอวลไปด้วยดอกไม้มากมาย โคมไฟระย้าประกายแสงออกมาในโทนอบอุ่น เสียงดนตรีดังคลอเบา ๆแขกเหรื่อมากมายมาร่วมงานฉลองมงคลสมรสระหว่างมิลินและปอร์เช่ จนบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น พ่อแม่ของทั้งสองต้อนรับแขกอยู่ตลอดส่วนบ่าวสาวยังแต่งตัวอยู่ในห้อง มิลินสวยราวกับเจ้าหญิง เพื่อนสนิทเดินเข้าไปหาก็อึ้งในความสวยของเธอ“สวยมากเลยมึง” มินนี่เอ่ยออกมา แววตาของเธอเป็นประกายด้วยความชื่นชม“เห็นมาตั้งแต่ตอนเป็นเพื่อน ตอนจีบ ตอนมีปัญหากัน ในที่สุดก็ได้เห็นถึงวันนี้ด้วย” อลันเอ่ยออกมา“เห็นมาตลอดแต่พอได้แต่งงานกันก็ซึ้งไปด้วยเนอะ” ไม้เอ่ยออกมา อลันก็พยักหน้าให้ เป็นเพื่อนกันมาจนได้เห็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาทั้งอิ่มสุขและซึ้งกับความรักของเพื่อน“ใกล้ได้เวลาแล้วนะคะ” พิธีกรเดินเข้ามาตามในห้องแต่งตัว บ่าวสาวพยักหน้าให้แล้วเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อน ๆ ก็เดินนำไปที่ห้องจัดเลี้ยงก่อนแล้วประตูบานใหญ่เปิดออกกว้าง เจ้าสาวในชุดราตรีสีขาวบริสุทธิ์ยืนควงแขนกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ทั้งสองเดินเข้ามาข้างใน เพื่อน ๆ โปรยก
บทที่ 97ปอร์เช่พามิลินเดินออกมานั่งดูดาวกันสองคนแบบเงียบ ๆ ส่วนลูกสาวของเขาก็มีเพื่อน ๆ คอยดูแลให้อยู่ “เราเตรียมแผนนี้ไว้ตั้งแต่วันที่รู้ว่าจะไปเลย” ปอร์เช่เอ่ยออกมา “ปิดเป็นความลับเก่งมากเลย” ก่อนที่จะไปมิลินไม่เอะใจเลยสักนิด ทั้งที่เพื่อน ๆ ก็รู้กันหมด ทุกคนกำความลับเอาไว้ได้มิดมาก “ฮ่า ๆ ถ้าไม่ปิดสนิท มิลินรู้ก่อนก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ” ปอร์เช่ลูบศีรษะของแฟนสาวก่อนที่จะดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด มิลินเอียงหัวซบที่แผงอกของเขาแล้วมองแหวนที่นิ้วตัวเอง “แล้วไปซื้อแหวนมาตอนไหน” “ตอนที่ออกไปทำงานน่ะ เรามีเวลาว่างก็ออกไปซื้อแหวนมา” ตัวติดกันตลอดเขามีโอกาสไปซื้อได้แค่ตอนที่ออกไปทำงานเท่านั้น “แล้วแบบนี้เคยหนีเที่ยวบ้างหรือเปล่าเนี่ย” “ไม่เคยครับ” ปอร์เช่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาไม่เคยออกนอกลู่นอกทางอยู่แล้ว นอกจากไปซื้อแหวนวงนี้ มิลินหันไปส่งยิ้มให้ก่อนจะจูบปากเขาด้วยความรัก แฟนของเธอทำน่ารักขนาดนี้จนเธอรู้สึกว่าโชคดีจริง ๆ ที่ได้รักกัน “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยนะ” “ครับ” ปอร์เช่กอดมิลินเอาไว
บทที่ 96“เตรียมแหวนไว้พร้อมแล้วใช่ไหม” ไม้เอ่ยถามเมื่อมิลินเดินออกไปแล้ว“เตรียมไว้แล้ว ขอบคุณมากนะครับที่ทำตามแผนของผม” ปอร์เช่ตอบไม้แล้วเอ่ยกับผู้นำ เขาเป็นคนวางแผนเอาไว้เองว่าจะจัดงานเลี้ยงส่ง แล้วเขาก็จะขอแฟนสาวแต่งงานในคืนนี้“ไม่เป็นไรเลยครับ” ผู้นำตอบกลับปอร์เช่มองไปที่สองแม่ลูกแล้วเดินออกไปหา เขานั่งลงข้าง ๆ แฟนสาวแล้วมองเมญ่าเล่นขายของกับเด็ก ๆ “ลูกเรานี่เข้ากับคนง่ายจริง ๆ เลยเนอะ” ปอร์เช่เอ่ยขึ้นมา “คิดถูกแล้วที่พาลูกมาด้วย” มิลินตอบกลับ ทีแรกก็กังวลว่าจะอยู่ไม่ได้ แต่เมญ่ากลับอยู่ได้แบบสบาย ๆ นั่งเล่นกับพื้นไม่ได้กลัวเปื้อน แล้วยังสนุกไปกับเพื่อนใหม่อีกด้วย “ลูกกินง่ายอยู่ง่ายเหมือนเราสองคน” มิลินหันไปมองหน้าปอร์เช่แล้วคลี่ยิ้ม เธอเห็นด้วยที่ลูกสาวเป็นเหมือนเราสองคนที่อยู่ตรงไหนได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้ชีวิตหรูหราสะดวกสบายอะไร ตกเย็นชาวบ้านก็มารวมตัวกันที่ลานกว้าง ทำอาหารแล้วมาตั้งไว้ พร้อมกับช่วยกันตกแต่งเป็นสถานที่เลี้ยงส่งกลุ่มหนุ่มสาวที่เข้ามาช่วยกันซ่อมแซมโรงเรียน “มิลินเสร็จแล้วเดินไปก่อนก็ได้” ปอร์เช่เอ่ย
บทที่ 95 วันต่อมาปอร์เช่และกลุ่มเพื่อนตื่นขึ้นมาแต่เช้าท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น เมญ่ายังคงนอนหลับสบาย มิลินไม่ได้ปลุกขึ้นมา ให้ลูกนอนห่มผ้าหนา ๆ ไปก่อนเพราะกลัวว่าถ้าลุกออกมาเล่นตอนนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปอาบน้ำ แล้วมานั่งเล่นมองหมอกจาง ๆ อยู่ที่หน้าบ้าน สักพักนึงชาวบ้านก็เอากับข้าวมาให้ “ขอบคุณมากนะครับ” ปอร์เช่เอ่ยออกมา “คุณแม่ขา” “จ้า เดี๋ยวแม่เข้าไปหานะ” มิลินได้ยินเสียงลูกสาวเรียกหาก็เลยลุกเข้าไปในห้องนอน เมญ่าอ้าปากหาวแล้วลุกขึ้นมาหาผู้เป็นแม่ “หนาวไหมลูก” มิลินเอ่ยถาม ถึงตอนนี้จะมีแดดขึ้นมาแต่ก็ยังมีความเย็นอยู่ “ไม่หนาวมากค่ะ” “ถ้างั้นเราไปแปรงฟันกันนะคะ ลุง ๆ ป้า ๆ เอาของกินมาให้เยอะเลย”“ค่ะคุณแม่”มิลินพาน้องเมญ่าไปแปรงฟันแล้วออกมานั่งกินข้าวด้วยกัน หลังจากกินข้าวกันอิ่มแล้วทุกคนก็พากันไปขนของที่รถลงมาโดยที่มีชาวบ้านไปช่วยกันขนด้วย“ไปเล่นกันไหม” เด็กหญิงคนเดิมเดินเข้ามาหาเมญ่า“ไปค่ะ” เมญ่าตอบกลับแล้วพากันเดินไปนั่งเล่นอยู่แถวบ้านอีกหลังนึง ซึ่งอยู่ในสายตาของมิลินและปอร์เ
บทที่ 94 “เมญ่าอยากได้สไลด์เดอร์ค่ะคุณปู่ คุณพ่อคุณแม่เคยพาไปเล่น เมญ่าชอบมากเลยค่ะ” “ได้เลยหลานรัก เดี๋ยวปู่ซื้อให้นะ” “อย่าเลยค่ะพ่อ ไว้พาไปเล่นข้างนอกดีกว่าค่ะ เพราะเล่นไม่นานเดี๋ยวก็เมญ่าโตขึ้นแล้วเล่นไม่ได้อีกค่ะ” มิลินเดินออกมาได้ยินที่ลูกสาวอ้อนขอของเล่นพอดีก็เลยห้ามไว้ ท่านตามใจเมญ่ามากเกินไปเธอกลัวว่าลูกสาวจะเอาแต่ใจ พออยากได้อะไรก็ต้องได้ ใบหน้าของเมญ่างอง้ำที่ถูกขัดใจ “หน้างอแบบนี้ แม่เอาไก่ทอดไปเก็บดีกว่า” มิลินแกล้งเดินหนีเข้าไปที่ครัว เมญ่ารีบลุกจากตักของคุณปู่แล้ววิ่งตามไป “กินค่ะคุณแม่ เมญ่าไม่หน้างอแล้วค่ะ” “พ่อคงตามใจหลานมากเกินไปหน่อย” พ่อของปอร์เช่เอ่ยขึ้นมา พอถูกมิลินขัดท่านก็รู้สึกผิดที่ตามใจเมญ่ามากไป พอขอสไลด์เดอร์ก็จะซื้อให้เลยโดยที่ไม่ต้องคิด “ผมเข้าใจพ่อนะครับ ผมเองก็รักลูกหลงลูกจนอยากซื้อของให้ลูกเยอะแยะไปหมดเลย” ปอร์เช่ตอบกลับ เขารักลูกมากพอลูกขออะไรก็อยากให้ แต่เขาก็หักห้ามใจไว้เพราะกลัวว่าลูกจะเสียนิสัย “พ่อก็ต้องห้ามใจแล้วล่ะ” มาเฟียใหญ่คลี่ยิ้มบางแล้วเดินไปที่โต๊ะ
บทที่ 93 หลังจากงานรับปริญญาแล้ว ปอร์เช่เปิดโน้ตบุ๊กค้นหาข้อมูลเรื่องของเด็กบนดอย เขาเคยมีความฝันว่าอยากเข้าไปช่วยเหลือเด็ก ๆ บนนั้นแต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไป ตอนนี้เขาและแฟนสาวก็เรียนจบแล้วเขาเลยอยากหาโอกาสไปสักครั้ง “ทำอะไร” มิลินเดินออกมาหลังจากที่พาลูกสาวนอนในช่วงกลางวันแล้ว เห็นคนตัวโตกำลังดูหน้าโน้ตบุ๊กด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เธอก็เลยเอ่ยถามออกมา “เราอยากชวนกันไปช่วยเหลือเด็กบนดอย มิลินสนใจไหม” ปอร์เช่มองหน้ามิลินด้วยความกังวล เพราะว่าการไปที่นั่นก็ค่อนข้างลำบาก ไม่รู้ว่าแฟนสาวจะอยากไปด้วยไหม “สนใจสิ เราก็อยากไปเหมือนกัน” ได้คำตอบจากมิลินแล้วปอร์เช่ก็คลี่ยิ้มด้วยความโล่งใจ เขาเลยเปิดข้อมูลที่หาเอาไว้ให้มิลินดู หญิงสาวตอบตกลงแบบไม่ลังเลเลย “ชวนเพื่อนไปด้วยใช่ปะ” มิลินเอ่ยถาม “ใช่ครับ พวกเรายังไม่ได้รวมตัวฉลองที่เรียนจบกันเลย เราก็เลยว่าจะชวนเพื่อนไปที่นั่น” ปอร์เช่ตอบกลับพร้อมกับเอาโทรศัพท์ออกมาส่งเข้าไปในไลน์กลุ่ม “ตอบตกลงกันทุกคนเลยมิลิน” ปอร์เช่หันหน้าจอให้มิลินดู เพื่อนทุกคนตอบว่าไปกันหมด ให้เขาหาสถานท