ฟาเบียนพาปองรักไปเดินที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำกลางกรุง เขาดันหลังเธอให้เดินเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์ดัง
“รบกวนจัดเสื้อผ้าสวย ๆ ให้คุณผู้หญิงเธอด้วยนะครับ” เขาพูดขึ้นน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ ปองรักหันมามองใบหน้าของเขา ชายหนุ่มไม่พูดอะไรได้แต่พยักหน้าและยักคิ้วให้ เขาเดินไปนั่งรอที่โซฟาเล็ก ๆ ที่ให้แขกนั่งรอ ตรงหน้าห้องทดลองเสื้อของร้าน
“ใส่แล้วเดินออกมาให้ดูด้วยนะ” เขาออกคำสั่งด้วยความคุ้นเคย ปองรักถอนหายใจเสียงดัง แต่หันหน้าไปยิ้มให้กับพนักงานสาวสองคนที่กำลังมองหาไซส์ของเสื้อผ้าให้เธออยู่
ปองรักเดินเข้าเดินออกห้องลองเสื้อผ้านั้นไม่รู้กี่รอบ ฟาเบียนได้แต่ยกนิ้วหัวแม่โป้งขึ้นกับคว่ำลง เล่นเอางานนี้บอกได้คำเดียวว่าหญิงสาวเหนื่อย เพราะเขาพาเดินไปทั่วไม่รู้กี่ร้านต่อกี่ร้าน แถมด้วยกระเป๋าหิ้ว กระเป๋าถือ ชุดชั้นในยังไม่เว้น และรองเท้าอีกสี่คู่
เธอกลืนน้ำลายลงคอทุกครั้งที่ได้ยินพนักงานเอ่ยถึงราคาที่เขาจะต้องเป็นคนจ่าย
สองคนเดินหิ้วของพะรุงพะรัง ได้ยินเสียงผู้เป็นนายจ้างสั่ง
“กลับสัตหีบกันเลยนะ ค่อยสั่งของไปกินที่บ้าน” เขาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
เมื่อถึงรถเขาก็ขับบึ่งออกไปจากลานจอดของห้างสรรพสินค้าอย่างรวดเร็ว
ปองรักเหลือบมองใบหน้าของเขาอยู่หลายครั้ง เธอไม่สามารถจะอ่านใจของเขาได้ว่าเขากำลังคิดอะไร
“มีอะไรติดอยู่ที่ใบหน้า หรือข้างแก้มของผมหรือ” เขาพูดขึ้นมาเสียงดัง และหันมาสบตา
“เปล่าค่ะ” เธอรีบตอบด้วยความตกใจ
“อือ...” ฟาเบียนยิ้มอย่างมีเลศนัย และส่งเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอ
‘ขายหน้าเขาแล้วไหมละ’ ปองรักบ่นว่าตัวเอง
เสียงโทรศัพท์ของฟาเบียนเข้ามาไม่หยุด บางครั้งเขาก็คุยออกไปเป็นภาษาอังกฤษ บางทีก็สนทนาเป็นภาษาฝรั่งเศส และสายล่าสุดเขาคุยเป็นภาษาจีน
ปองรักมองหน้าเขาแบบทึ่ง ๆ ‘คนอะไรเก่งเป็นบ้าเลย’
“เธอยังไม่ได้รื้อกระเป๋าเสื้อผ้าออกเลยใช่ไหม เดี๋ยวไปยกลงมาให้หมด”
เขาออกคำสั่งเหมือนเช่นเดิม เมื่อรถยนต์ของเขาจอดสนิทอยู่ที่หน้าหอพักพนักงาน
“เอ่อ...” ปองรักมีลังเล
“ผมสั่ง...” เขาทำเสียงเข้ม เธอมองใบหน้าของเขาก็เห็นคำตอบ
‘ใช่สิ เขาจ่ายแกเป็นล้านยายจิล อย่ามาทำเป็นอ้อยอิ่ง’ เธอบอกกับตัวเอง รีบเปิดประตูลงรถ หยิบเอากระเป๋าเสื้อผ้าที่วางเอาไว้ แล้วรวบเอาชุดนักศึกษาที่มีไม่กี่ตัวลงกระเป๋า และหยิบเอาถุงผ้าที่ใส่ชุดชั้นในยัดลงไป รีบเดินไปหยิบอุปกรณ์ของใช้เพียงไม่กี่ชิ้นที่พอจะยัดมาในกระเป๋าเดินทางใบเล็ก ๆ นี้ได้
“ช้าจัง” เสียงฟาเบียนดังอยู่ที่หน้าประตูห้อง
“เสร็จแล้วค่ะ” เธอรีบหันหน้ามาตอบ เดินหิ้วกระเป๋าออกมาจากห้อง ชายหนุ่มคว้ามันมาถือไว้ ก่อนจะเดินนำลิ่วกลับลงไปตามทางเดิน
แม่บ้านคนดูแลหอพักรีบวิ่งออกมายกมือไหว้เจ้านาย เธอส่งยิ้มให้ปองรักอย่างเป็นมิตร แต่สายตาก็มองออกว่ามีคำถามที่ข้องใจอยู่ในสายตานั้นมากมาย ปองรักยกมือไหว้ลา และรีบเดินตามฟาเบียนไปขึ้นรถอย่างรวดเร็ว
ณ บ้านหลังใหญ่ของ ฟาเบียน ฟรองซัว
“เอากระเป๋า และถุงนั้นไปเก็บไว้ที่ห้องที่เตรียมเอาไว้ แล้วก็ตั้งโต๊ะอาหารที่ระเบียงชั้นลอยของห้องทำงานนะ” เขาพูดโดยไม่มองหน้าของคนรับใช้เลย
“ค่ะ” นางรีบรับคำ และมีหญิงสาวรุ่น ๆ อีกคนมาคอยช่วยหยิบจับข้าวของ
เขาหันมาหาปองรักทั้งตัว
“ต่อไปให้เรียกคุณจิลนะ คุณจิลจะมาอยู่ที่นี่เป็นเวลาหกเดือน” ก่อนที่เขาจะปรายตามองไปยังคนรับใช้ที่ยืนรอรับคำสั่งอื่น ๆ เพิ่ม
“ป้าสายหยุดกับลัดดา” เขาเอ่ยแนะนำสาวใช้สองคน ปองรักรีบยกมือไหว้ผู้หญิงที่แก่กว่า และหันไปส่งยิ้มให้กับเด็กสาวรุ่น ที่นายบอกว่าชื่อ ลัดดา
“ตามมา” เขาฉวยข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วพาเดินไปยังชั้นบนของบ้าน เธอรีบก้าวขาตาม
‘เอาแต่ใจชะมัดเลย บ้าอำนาจด้วย ดีแต่ออกคำสั่ง วันนี้ทั้งวันแล้วนะ จะพูดดี ๆ เพราะ ๆ บ้างได้ไหม’ เธอค่อนขอดเขาในใจ
“นี่ห้องของเธอ” เขาเปิดประตูห้องหนึ่งเข้าไป
“แล้วนี่ห้องของผม” เขาเปิดประตูห้องที่ติดกันให้เธอดูด้วย
ห้องนอนที่ดูกว้างขวาง สะอาดสะอ้าน และเตียงนอนที่กว้างใหญ่
“อยากได้คนถูหลัง” เขาเอ่ยพลางดึงมือเธอให้เดินตาม
ตอนนี้บอกได้คำเดียวว่าหัวใจของปองรักเต้นไม่เป็นจังหวะ มันรัวเร็วจนหน้ากลัว ใบหน้าของเธอเริ่มร้อนขึ้น
แกร๊ก... เสียงกลอนที่ลั่นปิดลง ฟาเบียนรีบรั้งใบหน้างามที่ลอยเด่นอยู่ใกล้ ๆ เข้ามาจุมพิตอย่างหนักหน่วง
“อื้อ...” หญิงสาวครางประท้วง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจ ฝ่ามือหนาของชายหนุ่มกอบกุมความอวบอิ่มนุ่มเบื้องหน้าและขย้ำอย่างมันมือ
“เจ็บค่ะ” เธอร้องบอกเขาเพราะชายหนุ่มขย้ำแรงไปแล้ว เธอยกมือของตัวเองกำมือของเขาเอาไว้ เหมือนห้ามปราม กระดุมเสื้อนักศึกษาของเธอถูกแกะออกอย่างรวดเร็ว เขาก้มหน้าลงไปคลุกด้วยความโหยหา ทั้งมูมมามและดูดดุนหนักหน่วง
ร่างบางของหญิงสาวถูกผลักจนหลังชิดกำแพง และเขาก็หมุนตัวเธอไปเรื่อย ๆ ปองรักขาสั่น ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน
“อ๊า... “ เธอร้องออกมาอย่างเหลือทน แหงนหน้าอ้าปากร้องครวญคราง เขายังประเคนปลายลิ้นระรัวลงมาไม่หยุด
“คิดถึง” เขาพูดเบา ๆ เลื่อนใบหน้าขึ้นไปมองสบตาใบหน้าของปองรักที่ตอนนี้แดงระเรื่อ เธอเผยอปากเอาอากาศเข้าปอด เขาจู่โจมเธอหนักไปแล้ว น้ำตาของหญิงสาวคลอเบ้า
“เดี๋ยวก็ชิน” เขาพูดพลางยกมือสอดกระชับท้ายทอย และลูบคลึงปอยผมด้านหลังของเธอ
ฟาเบียนฉกริมฝีปากลงมาปิดปากที่เผยออ้าอย่างน่ารัก เขาสอดแทรกปลายลิ้นมาควานหาความหวาน จนเธอแทบลืมหายใจ
ห้าปีต่อมาเด็กสายสายฟ้าอายุได้ 6 ขวบ เขามีน้องสาวอีกหนึ่งคน ชื่อว่าน้องพรีม หรือว่าเด็กหญิง พีรดา ฟรองซัว ตอนนี้อายุ 4 ขวบแล้วและตอนนี้คุณแม่กำลังมีน้องของทั้งสองคนอยู่ในท้องอีกหนึ่งคน คุณพ่อบอกว่าไม่ต้องลุ้น ให้คุณหมออัลตร้าซาวด์ไปเลยว่าเป็นลูกสาวหรือลูกชายสรุปได้ผลออกมาแล้วว่าเป็นลูกชาย ฟาเบียนยิ้มแก้มปริเมื่อรู้เรื่อง ปองรักบอกว่าขอท้องอีกท้องนี้ท้องเดียว จะปิดอู่เลย พอรู้ว่าได้ลูกชายคุณพ่อก็ไฟเขียวให้คุณแม่ทำหมันได้หลังจากที่คลอดน้อง“จิลจ๊ะ ถึงไหนกันแล้ว จิรากับเดียว” ฟาเบียนเดินเข้ามาหาภรรยาคนสวย ตอนนี้เธอกำลังจัดการทุกอย่างเพื่อปาร์ตี้เล็กของสองครอบครัวที่นัดกันสามเดือนครั้ง“โทรมาเมื่อสักครู่ คงจะใกล้ถึงแล้ว” เธอหันไปตอบเขา ฟาเบียนเดินมาเลื่อนเก้าอี้ แล้วดันหลังให้เธอนั่งลง“ให้เด็กจัดการเถิดน่า จะคลอดอยู่แล้ว” ฟาเบียนทำเสียงดุ เธอส่งยิ้มให้สามี เขาก้มหน้าลงมาชิดแล้วจุ๊บไปที่ริมฝีปากของเธอเบา ๆ“คุณแม่ขา พี่สายฟ้าแกล้งลูก” เด็กหญิงพรีมพูดเสียงดังฟังชัดเดินเข้ามาฟ้องคุณพ่อกับคุณแม่ที่นั่งกอดกันอยู่ตรงนั้น“ผมไม่ได้แกล้งนะครับคุณแม่ ยายหนูพรีมขี้ฟ้อง” สายฟ้าทำเสียงดัง ก่อนชักส
“ใครโทรมาจ๊ะ” ฟาเบียนถามปองรัก เขาเดินเปลือยตัวท่อนบน ใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก เช็ดหลังเดินเข้าไปหาเตียงเล็กของสายฟ้าที่วางอยู่ใกล้ ๆ เตียงใหญ่ของทั้งคู่“หมดฤทธิ์แล้วเหรอ” เขามองลูกชายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย ยกมือไปแตะที่หน้าผากขยี้เบา ๆ ก่อนจะหันกลับมาหาปองรักที่นั่งยิ้มรออยู่บนเตียง“จิราโทรมาค่ะ แจ้งข่าวดีว่าท้องได้สี่เดือนแล้ว” สีหน้ายินดีไปกับเพื่อนรักด้วย“จริงหรือจ๊ะ งั้นคุณฟาจะยอมแพ้ได้ไง จัดสิคืนนี้” ว่าแล้วเขาดึงผ้าเช็ดตัวที่พันกายออกไปให้พ้น แล้วก็รวบกอดเมียรักเขาสู่อ้อมแขน ดันร่างภรรยาคนสวยให้นอนลงไป ทาบร่างหนาใหญ่ขึ้นไปทับร่างกายของปองรักเอาไว้ทั้งตัว“ทำหน้าทำตาหื่นเชียว” เธอยกนิ้วจิ้มไปที่จมูกของเขา“คุณฟาจะเอาลูกสาวนะคืนนี้ จิลจะได้ไม่เหนื่อย วุ่นทั้งวันเหมือนเลี้ยงสายฟ้า เด็กผู้หญิงน่าจะน่ารัก แล้วคงพูดง่ายกว่านี้”“แหนะไปว่าลูก สายฟ้าได้ยินน้อยใจแย่” เธอทำจมูกย่นใส่เขา“ลูกสาวจะได้น่ารักเหมือนแม่” ฟาเบียนพูดต่อ“อ่อ... ที่สายฟ้าเป็นทุกวันเนี่ย คงเหมือนคุณพ่อแน่สินะคะ” เธอได้ทีว่าเข้าให้“หื้อ... หาเรื่องนี่นา แบบนี้ต้องลงโทษ” พูดจบเขาก็ฉกใบหน้าลงไปคลุกวงใน ก่อน
ก๊อก... ก๊อก... เคาะได้สองที นิจิตก็เปิดผลัวะเข้ามา เดินตรงมายังเตียงนอนของคนไข้“จิราเป็นอะไรครับ เป็นอะไร ผมโทรหาใครก็ไม่มีใครรับ ไม่รู้ว่าคุณพ่อคุณแม่ก็อยู่ตรงนี้กันพร้อมหน้า” เขายืนเหนื่อยหอบเอาการอยู่ ก็ไม่ให้เหนื่อยได้ยังไง วิ่งมาตัวปลิวนิจิตจับมือสุจิราเอาไว้แน่น พอเห็นหน้าซีด ๆ ของเมีย ก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เขายกมือขึ้นแตะหน้าผากของเธอเหมือนวัดไข้“เมื่อเช้าก็เห็นดี ๆ อยู่” เขาพูดกับเธอคุณแม่ของนิจิตยกมือของท่านวางไว้บนไหล่ของลูกชายที่ตอนนี้หย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ใกล้ภรรยาสุดที่รักที่สุดนิจิตยกหน้าขึ้นไปมองแม่“หมอว่ายังไงครับ” เขายังมีสีหน้าเคร่งเครียด สองคุณแม่มองหน้าลูกชายแล้วส่งยิ้มให้นิจิตถึงกับเหวอ“จิราไม่สบาย คุณแม่ยังยิ้มกันออกอีกหรือครับ ดูสิหน้าซีด ตัวซีดหมดแล้ว” เขาว่าแม่ของเขาแบบงอน หันหน้าไปมองเมียรักที่นอนยิ้มกว้างอยู่เช่นเดียวกัน“หึ... อะไร จิราเป็นอะไร” เขารีบเขย่ามือเธอเพราะอยากรู้“ท้องค่ะ พี่เดียว จิราท้อง” คำบอกของเมียทำให้เขากระโดดตัวลอยด้วยความดีใจ วิ่งไปวิ่งมาในห้องผู้ป่วย ทำสีหน้าว่าดีใจสุด ๆ วิ่งเข้าไปหาคุณพ่อของตัวเอง ก่อนจะกอดท่านเอา
“อะไรกัน พวกแกเป็นใคร” เธอชะงักงันยืนนิ่งอยู่กับที่ตอนนี้ในห้องนอนที่ว่างเปล่าเมื่อกี้เต็มไปด้วยชายฝรั่งฉกรรจ์หน้าตาดี หล่อล่ำกล้ามเป็นมัด ๆ ทาตัวด้วยน้ำมันวาววับ นับได้ตั้งห้าคน ทุกคนกรูกันเขามาจับตัวของทิพย์ดาราเอาไว้ทันที แล้วพูดออกมาเป็นเสียงภาษาอะไรก็ไม่รู้ ที่หญิงสาวไม่เคยได้ยินมาก่อนคนหนึ่งจูบปาก อีกคนล้วงควักท่อนบน อีกคนล้วงจ้วงนิ้วแทรกเข้าไปใต้กระโปรง ทั้งฝ่ามือหนา และริมฝีปากลากไล้ไปทั้งเนื้อทั้งตัวของหญิงสาวหนึ่งในห้าหนุ่มถือกล้องวีดีโอขนาดพอดีมือเอาไว้ด้วยหนุ่มที่จูบปากป้อนยาเม็ดเล็กเข้าไปในปากของเธอ ทิพย์ดาราฝืนกินเข้าไป เพราะเขาไม่ปล่อยริมฝีปากของเธอให้เป็นอิสระตอนนี้ในหัวสมองของเธอมืดบอดไปหมด ฝ่ามือหนาร้อนที่ระร้ายไปตามลำตัวทำให้เธออารมณ์กระเจิดกระเจิงเพียงหลังขาวเนียนเปลือยเปล่าสัมผัสผ้าปูที่นอน เธอก็หมดอิสรภาพ ร่างหนาใหญ่รุมเร้าทาบทับ และทุกคนต่างกำลังทำให้เธอทรมาน ทิพย์ดาราดิ้นพล่าน ไปด้วยอุปกรณ์ที่บรรดาหนุ่มใช้มันไปบนร่างกายของเธอ และฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์ที่เธอถูกบังคับให้กินไปชายหนึ่งยื่นกระบองของเขาอันใหญ่เขื่องหัวมันแผล็บมาตรงหน้า เธอคว้ามันเข้าไปในปากทันทีแล้
“มาแล้วครับ คุณพ่อกลับมาแล้ว” ฟาเบียนทิ้งข้าวของทุกอย่างใส่ในมือของลัดดา รีบเดินลิ่วพร้อมกับส่งเสียงดังเข้าไปในบ้านสายฟ้าแค่ได้ยินเสียง ก็ดิ้นตัวขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของผู้เป็นปู่ คุณคาโรรีบปล่อยตัวเด็กชายลง พอทั้งตัวแตะพื้น เด็กน้อยก็กระเด้งตัวขึ้นคลานสี่ขา แล้วมุ่งหน้าไปตามเสียงเรียกของฟาเบียนคุณพ่อหยุดยืนนิ่งมองดูลูกชายที่คลานเข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว พอถึงตัวคุณพ่อ เด็กน้อยก็รีบยึดขากางเกงของคุณพ่อเอาไว้แน่น แล้วพยุงตัวเองลุกขึ้นยืน ปากก็พูดออกเสียงอ้อแอ้ตลอดเวลา“มา เจ้าหนูน้อย” ฟาเบียนโน้มตัวของเขาลงไปอุ้มสายฟ้าขึ้นมาแนบอก แล้วก็ใช้จมูกซุกไซ้ให้หนูน้อยจั๊กจี้ตามลำตัว เด็กชายหัวเราะเอิ้ก ๆ ออกมาอย่างมีความสุข“ดื้อกับคุณแม่ไหมครับลูกพ่อ” ฟาเบียนชวนคุย พลางอุ้มลูกตรงไปนั่งใกล้ ๆ พ่อของเขา“ซนเอาเรื่องเลยแหละ” ผู้เป็นปู่วิจารณ์หลานตัวเล็กสายฟ้าพอได้ยืนบนตักของคุณพ่อแล้ว ก็กระโดดอย่างสนุกอยู่บนนั้น จึงได้เห็นรอยยิ้มอย่างมีความสุขของผู้เป็นปู่และผู้เป็นพ่อ“ทุกอย่างพร้อมแล้วค่ะ คุณพ่อขาคุณแม่รออยู่” ปองรักเดินเข้ามาหาทั้งสามคนคุณคาโรรีบลุกขึ้น เดินไปยังสนามหน้าบ้าน สถานที่จัดงานเลี้ย
(“งานแต่งงานสุดหรูของเดียว นิจิต กับหวานใจ สุจิรา ลูกสาวเจ้าของร้านเพชรชื่อดัง มีเพื่อนฝูงทั้งในและนอกวงการเข้ารวมแสดงความยินดีอย่างมากมาย งานนี้มีความสุขชื่นมื่นกันทั่วหน้า ทีมข่าวหัวเห็ดเก็บภาพมาฝากแฟนคลับของเดียว นิจิต มาให้ดูกันแล้วแต่ที่เซอร์ไพรส์ที่สุดของงาน ต้องเป็นแขกคนนี้ ฟาเบียน ฟรองซัว ควงแขนภรรยาสาวสวย และลูกชายวัยใกล้ขวบมาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวด้วยสายข่าวแจ้งมาแล้วจ้าว่า นางสาวปองรัก ได้เปลี่ยนไปใช้นามสกุล ฟรองซัว เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนฟาเบียนไป งานนี้เล่นเอาสาว ๆ หลายคนต้องหาคนดามอกกันยกใหญ่สุดท้ายก็ต้องกล่าวอวยพรให้คู่บ่าวสาว และคู่รักทุกคู่ มีความสุข และครองรักกันจนมีลูกมีหลานเต็มบ้านเต็มเมืองค่ะ”)ทิพย์ดารามองมือถือในมือนิ่ง ภาพคู่บ่าวสาว และคู่นอนเก่าของเธอที่โชว์หน้าหรา ยิ้มกว้างด้วยความยินดี เธอมองฝ่ามือหนาที่วางบนไหล่ของภรรยา และสายตาของฟาเบียนที่จ้องมองปองรักด้วยความรัก แล้วเจ็บหนึบในหัวใจ“มีความสุขกันมากจริง ๆ นะคะ” เธอเอ่ยออกมาน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเยาะหยันตัวเอง คนอย่างทิพย์ดาราไม่เคยแพ้ใคร เธอจะเอาฟาเบียนกลับมาให้ได้คราวนั้นเธอเขลาไปเองที่ยอมลบ