อีกแล้วเหรอ
เพทายเดินเข้าไปและยื่นมือไปเปิดประตูออกมาช้าๆ ทว่าทามไทกลับไวกว่า เขารีบดึงมือชายหนุ่มอีกคนเข้าไปด้านในอย่างไว คนทั้งคู่จ้องมองตากัน ตอนนี้พวกเขาแทบจะหยุดหายใจก็ว่าได้ เมื่อจู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องที่ทั้งคู่ต่างก็เคยเป็นครั้งแรกของกันและกัน ย้อนกลับไปสมัยมหาลัย (11 ปีก่อน) “นายอยากลองจริงๆ หรอทาม?” เสียงของเพทายเอ่ยถามเพื่อนสนิท ที่คิดไม่ซื่อ เมื่อครั้งนั้นพวกเขาต่างได้ย้ายมาอยู่คอนโดด้วยกัน ด้วยเหตุผลที่ว่า หอพักของเพทายต้องถูกรื้อทำใหม่ และช่วงนั้นเขาก็หาที่พักไม่ทัน เพราะมันปุบปับมาก ทามไทจึงเสนอให้มาพักกับตนเอง ตอนนี้ก็เรียนอยู่ปีสี่แล้ว ถ้าจะมีปัญหามันก็ใกล้จะจบ อีกทั้งที่เพทายไม่อยากจะสุงสิงกับทามไทเท่าไหร่ เพราะเวลาใกล้กัน ชายหนุ่มกลับรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต เขารู้สึกอยากถูกเนื้อต้องตัวของเจ้าของคอนโด อยากอยู่ใกล้ๆ และหลายต่อหลายครั้งที่ก็เผลอลอบมองริมฝีปากปากของอีกฝ่าย และก็ลอบกลืนน้ำลายอยู่บ่อยๆ “ก็ที่นายเอาแต่จ้องฉัน ก็ไม่ใช่อยากจะลองรึไง” เสียงของทามไทเอ่ยตอบ แต่แล้วมีหรือที่อีกฝ่ายจะหนีพ้น เพราะตอนนี้นอกจากพวกเขาจะเมาแล้ว ก็ยังอยากเล่นอะไรกันห่ามๆ นั่นก็คือเกมเจ้าปัญหาที่ว่า ถ้าหากใครแพ้ คนนั้นต้องเป็นฝ่ายถูกกระทำ คือกระทำอะไรกับอีกฝ่ายก็ได้ แน่นอน ในครั้งนั้นเพทายต่างเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และสิ่งที่ทามอยากลองก็คือ อยากลองจูบแบบแลกลิ้นกับเพทาย “ฟ้าจะไม่ผ่าหรอวะทาม? ” “ถ้าผ่า มันก็คงผ่าทั้งฉันและนายนั่นแหละ” เสียงคนเมาก่ำๆ อย่างได้ที่เอ่ยกับเพื่อนสนิทที่พึ่งย้ายของเข้ามาคอนโดใหม่ ไม่รอช้า หนุ่มหล่อเจ้าของคอนโดก็ค่อยๆ เอื้อมมือแกร่งมาดึงร่างของคนตัวเล็กกว่าเข้ามากอด เขาซุกใบหน้าเข้ามาใกล้กัน ก่อนจะจรดหน้าผากแช่นิ่งไว้ เลือดในกายตอนนี้มันสูบฉีดพลุ่งพล่าน มันเป็นความเมาบวกความอยากรู้อยากลองหรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้ จึงทำให้ทามไทอยากกระทำเรื่องบ้าๆ นั่น เขารู้ในทันทีว่าใครอีกคนประหม่า ยืนแขนขาสั่น พลางก็อดอมยิ้มไม่ได้ “นายสั่นกลัว รึว่าสั่นสู้กันแน่? ” ทามไทเอ่ยถามผู้มาร่วมชะตากรรมคนใหม่ในคอนโดของเขา “นายก็รู้ว่าผมไม่เคย” “แล้วนายคิดว่าฉันเคยรึไง!!” เสียงอู้อี้สไตล์คนเมา “แล้วนายอยากลองจริงๆ หรอ นี่ผมไม่ได้พกถุงเลยนะ” เสียงของเพทายเอ่ยบอกหวั่นๆ “เราแค่จะลองจูบแบบแลกลิ้น นี่นายคิดกับฉันไปถึงไหนต่อไหนเนี่ย!!” “ปล่ะ เปล่า คือผม… ผม” แต่แล้วใครอีกคนก็แย่งพูด “นายคิดว่าฉันพกถุงรึไง แต่ลองสดก็ดีนะ อีกอย่างเราก็คงไม่ท้อง และฉันก็อยากลองแตกใส่ก้นนาย” พูดเพียงเท่านั้น ทามไทก็ทำการจับร่างของอีกคนหันหลังให้ตน ก่อนจะกดชายหนุ่มที่ว่าลงบนโซฟา ทั้งคู่ยื้อรั้งดึงทึ้งกันไปมา แต่ด้วยความมึนเมาบวกกับการอยากลอง มันทำให้พวกเขาต่างขาดสติ “นายจะใส่มันเลยรึไงทาม ไม่คิดจะเล้าโลมบ้างรึไง!!” “งั้นก็ไปอาบน้ำด้วยกันสิ ฉันอยากให้นายถูหลังให้” ทามไทเอ่ยบอกกับบุรุษร่างสูงพอๆ กัน ทว่าคนชวนกลับใจร้อน จึงอุ้มร่างของอีกคนเข้าไปในห้องน้ำอย่างไว “เดี๋ยวสินาย เดี๋ยวผมก็ตกหรอก.. ทามช้าๆ หน่อย!!” “มีฉันอยู่ นายกลัวรึไงกลัวตกหรอ เดี๋ยวนายได้เสียวกว่านี้แน่” ปากหยักหนาเอ่ยบอกอย่างไม่ลังเล ทั้งคู่ก็อาบน้ำด้วยกัน ทามไทพยายามปลุกเร้าจุดกระสันของอีกฝ่ายจนแข็งขึงได้ที่ เขาใช้มือหนาลูบไล้ถูตัวของอีกฝ่ายไปทั่วเรือนร่าง ลูบไล้ถูไถตรงซอกหู ลำคอ แผ่นแกกว้างที่มีไรขนประปราย ถูลงมาตรงหน้าท้องที่ก็มีไรขนสีอ่อนด้วยเช่นกัน จากนั้นมือหนาก็ลูบไล้ลงมาตรงจุดกระสันที่ตอนนี้มันตั้งชี้โด่เด่แข็งขังสู้มือ อื้มมม … “นายอยากใช่มั้ย?” ปากหยักหนาเอ่ยถามด้วยเสียงแหบพร่า ก่อนจะจับมือของใครอีกคนให้ไปจับเจ้าไซซ์ยักษ์ขนาด 60 ของตนเอง “ช่วยชักมันให้ฉันหน่อยสิ นายว่าถ้าของฉันมันจะยัดเข้าไปตรงรูก้นของนายได้มั้ย ถ้ายัดได้ มันจะรู้สึกดีแค่ไหนกัน” คนฟังถึงกับผงะตัวถอยออก แต่แล้วคนที่กระเหี้ยนกระหือกว่าก็เดินร่นเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะนั่งลงคุกเข่าแล้วก็จับเจ้ามังกรของคนตัวเล็กกว่าเข้าสู่อุ้งปาก นี่เป็นครั้งแรกของเขาเช่นกันที่คิดอยากทำอะไรห่ามๆ แบบนี้ เขาดูดไปพร้อมกับคลึงเคล้นก้นที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อจากนั้นก็เคลื่อนมือมายังเจ้าสองลูกกลมๆ ไปด้วย คนที่ถูกกระทำถึงกับยืนตัวแข็งซู๊ดปาก หลับตาปี๋เงยหน้าแหงนมองบน มือเรียวหนาจิกทึ้งโคนผมของอีกฝ่ายจนเขาเจ็บได้ที่ ร่างสูงยังคงใช้ลิ้นตวัดเกี่ยวเน้นๆ ตรงปลายหัว เขาค่อยๆ ลากลิ้นอุ่นหนาจากหัวหยักบานของไซซ์ 58 ลามเลียลงมาจนถึงไข่ ก่อนจะตวัดเล่นกับเจ้าลูกโลกสองใบเป็นวงกลมด้วยปลายลิ้นแผ่บานอุ่นร้อน คนยืนถึงกับขาสั่นผับๆ มือไม้อ่อนปวกเปียกอย่างคนไร้เรี่ยวแรง อื้มมม …. ทาม…ไท … เสียงของอีกฝ่ายแทบฟังไม่ได้ศัพท์ “นายเสียวมั้ยทาย…” “อ๊าห์… เสียว!!” ตอบแทบไม่เป็นคำ มือหนาค่อยๆ กางขาของอีกฝ่ายออก ทั้งๆ ที่ริมฝีปากยังคงจ้วงกระหน่ำดูดแท่งยาวยักษ์ไซซ์ 58 อย่างไม่ยั้งแรง มืออีกข้างค่อยๆ อ้อมไปทางด้านหลังก่อนจะใช้ใช้นิ้วกลางเขี่ยเกลี่ยตรงร่องก้น ทำเอาใครอีกคนขมิบตูดแทบทันที “อ๊ะ!!” เพทายถึงกับร้องครางเสียงหลง “นายเสียวรึไง …” เขากระหืดกระหอบพูดออกมา “น้ำตรงปลายหัวของนายมันเยิ้มมากเลยรู้มั้ย นั่นแสดงว่านายอยาก” พูดเสร็จเขาก็ใช้ปากหนารูดไอติมเข้าออกจนใครอีกคนเริ่มเก็บอาการไว้ไม่ไหว “ทาม … อื้มมมม ….” “นายอย่าพึ่งแตกใส่ปากฉันนะ ถ้าแตกก่อน นายจะต้องรับผิดชอบ” “อื้มม … นายจะให้ผมรับผิดชอบยังไง ผมทนไม่ไหวแล้วนะ” ยิ่งได้ยินอีกคนพูดแบบนี้ มือหนาก็ยิ่งเขี่ยรั้งที่พวงไข่ ก่อนจะค่อยๆ ถอนเจ้าแท่งไอติมออกจากปาก ก่อนว่า “ถ้านานแตกใส่ปากฉัน ฉันจะแตกใส่ก้นนาย โอเคมั้ย แฟร์ๆ ดี” พูดเพียงเท่านั้นลิ้นอุ่นร้อนก็ละเลงรัวๆ ตวัดซ้ายขวาอย่างได้ที่ ก่อนจะขบดูดขึ้นลงพร้อมกับลิ้นที่ตวัดใส่หัวหยักบานอย่างไม่ยั้ง “ของนายมันแข็งและร้อนมากเลย ดูสีแดงช้ำที่ปลายหัวสิ นายเสียวใช่มั้ยล่ะ?” “เอื้อออ … ซี้ดดด ….” คนไซซ์ 58 ยืนตัวสั่นหน้าตาบุ้ยใบ้เหยเก เขาแทบจะทรงตัวไม่อยู่ เมื่อทามไทเห็นว่าร่างบางตรงหน้าเริ่มสั่นมากเข้าๆ เขาจึงถอนริมฝีปากออกในทันที “อื้ออ นายหยุดทำไม!!” เสียงพูดอย่างไม่พอใจเท่าใดนัก พร้อมกับขมวดคิ้วด้วยอารมณ์หงุดหงิด “นายรับปากกับฉันก่อน ว่าจะให้ฉันเอาตูด และให้แตกใส่ตูดนาย” คนที่อารมณ์คุกรุ่นได้ที่ก็เอาแต่พยักหน้าตกลงอย่างว่าง่าย จากนั้นมือหนาก็เริ่มจับเจ้าเอ็นแท่งใหญ่ขึ้นมาจ๊วบจ๊าบในปากอีกรอบ ชายหนุ่มที่ถูกกระทำขมิบก้นตุบๆ ทุกครั้งที่เขาลงแรงดูดแท่งกาย พลางนึกไปว่าหากได้สอดใส่ มันคงจะตอดรัดแน่นเขาน่าดู ทามไทเคยเรื่องอย่างว่ามาแค่กับผู้หญิง แต่พอเห็นเพทายเขากลับนึกอยากลองแปลกๆ พอมีผู้หญิงทำท่าจะมาวอแวกับคนตรงหน้า เขาก็หึงหวงเพทายแปลกๆ คนร่างสูงค่อยๆ ไล้ละเลียดปลายลิ้นร้ายเลื่อนขึ้นมาด้านบนเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดตรงกลีบปาก เขาประกบลิ้นร้อนบดขยี้ริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างเร่าร้อน พลางเดินถอยหลัง ให้อีกร่างเดินตามเข้ามายังห้องรับแขก เขาเหวี่ยงร่างบอบบางลงโซฟาหนังสีดำตัวหรูจนดังแอ่ก ชายหนุ่มรู้สึกเสียวสันหลังวาบเมื่อแผ่นหลังถูกปะทะเข้ากับแผ่นหนังสีดำ จากนั้นเขาก็ถูกอีกร่างขึ้นคร่อมอย่างไว รู้ตัวอีกทีก็เมื่อเจ้าแท่งเอ็นใหญ่ๆ มันจ่ออยู่ตรงหน้า ใช่แล้ว ทามไทขึ้นนั่งคร่อมเขา และบังคับให้เขาดูดเจ้าแท่งใหญ่เบ้อเร่อนั่น มันเต็มปากเต็มคำเป็นบ้า ทามไทค่อยๆ จับไซซ์ 60 ยัดเข้าปากของอีกคน “โอ๊ย!! นายอย่าใช้ฟันขูดของฉันสิ” “ก็ผมจะไปรู้ได้ไง ขอโทษ” “นายนี่ช่างไม่สังเกตเอาซะเลย ฉันสอนตั้งนานนึกว่านายจะฉลาด เขาไม่ใช้ฟันขูดกัน มันเจ็บ มานี่ เดี๋ยวทำไปพร้อมๆ กัน” จากนั้นทามไทก็หันหน้ามายังปลายเท้าของอีกคน ก่อนจะเลื่อนใบหน้าคมลงมาเป็นท่าหกเก้า “เดี๋ยวนายทำตามฉันนะ” ไม่ช้าพวกเขาก็ผลัดกันจ้วงดูดดื่มแท่งไอติมอันใหญ่ ตอนนี้เจ้าแก่นกายของคนทั้งคู่ต่างขยายแข็งปึ๋งพร้อมออกรบอย่างเต็มที่ เขาจับพลิกร่างบางให้นอนคว่ำ ก่อนจะย้ายตัวเองให้หันมาอีกด้าน มือหนากางขาอีกคนออก ก่อนจะสอดปลายลิ้นจ้วงตวัดช่องทางรักของอีกคนทางด้านหลัง “ซี้ดดด ทามม…” คนตัวสูงตวัดรัวลิ้นจนน้ำลายฉ่ำเยิ้มเต็มรูรักช่องทางด้านหลัง เขาใช้นิ้วกลางค่อยๆ เกลี่ยๆ ก่อนจะแหย่เข้าไปที่ร่องก้นอย่างช้าๆ “อืมมม แน่นเป็นบ้า ของนายมันตอดนิ้วฉันแรงมาก นายอย่าเกร็งสิทาย” “ก็ผมเจ็บ!” “เจ็บแป๊บเดียวนะ เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว” พูดเสร็จเขาก็ค่อยๆ ละเลงลิ้นระรัวอีกรอบ สำหรับครั้งนี้มันเป็นอะไรที่ยากลำบากไปหมด ทั้งอีกคนก็ใหม่เรื่องอย่างว่า ซ้ำร้ายยังไม่มีเจลหล่อลื่นอีก ก็ใครมันจะได้ทันเตรียมตัววะครับ พอหิวก็อยากจัดซะเดี๋ยวนี้ เขายังคงให้อีกคนอยู่ในท่าคว่ำหน้า ก่อนจะจับขาทั้งสองข้างของชายหนุ่มให้คุกเข่า เขากดแผ่นหลังของเพทายแนบเข้ากับโซฟา จากนั้นใบหน้าคมก็เลื่อนลงมาใกล้ๆ สองแก้มก้นอูมสวย ก่อนจะจ้วงปลายลิ้นลงยังทางช่องกลางอีกครั้ง ทำเอาอีกคนขมิบตูดกระตุกถี่ๆ “อ๊ะ!! ทาม …ผมเสียว”เช้าวันนี้แสงแดดอ่อนๆ ที่ลอดผ่านผ้าม่านสีทึบส่องเข้ามาในห้อง ทามไทขยับตัวเล็กน้อย แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนร่างกายหนักอึ้งไปทั้งตัว เมื่อเคลื่อนไหวมากเกินไป ไข้ก็เริ่มกลับมาอีกครั้งเพทายที่นั่งอยู่ข้างๆ เตียง หันมองเห็นร่างสูงยังหลับอยู่ ก็ดีใจที่อาการไข้ไม่เพิ่มขึ้นมากนัก เขารีบเดินไปหาผ้าชุบน้ำอุ่นมาเช็ดตัวให้ทามไทอีกครั้ง โดยทำทุกอย่างอย่างแผ่วเบาที่สุด เพื่อไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของอีกฝ่าย“ทาม… ตื่นได้แล้ว”เพทายเอ่ยเสียงเบาเมื่อเห็นว่าใครอีกคนตื่น พลางยกมือขึ้นเช็ดหน้าผากของทามไทอย่างอ่อนโยนทามไทขยับมือขึ้นมาปัดผ้าชุบน้ำอุ่นที่ทับอยู่บนหน้าผากอย่างช้าๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นมามองเพทายที่ยืนอยู่ข้างเตียง“อืม… เช้าแล้วเหรอ?” เสียงของทามไทแหบพร่า แต่ในแววตากลับยังคงมีความอ่อนโยนซ่อนอยู่เพทายพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะพูดเสียงทุ้มนุ่ม “เช้าแล้ว ตื่นได้แล้วนะครับคนดี ไข้เริ่มลดลงนิดหน่อย แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังอยู่นะ”“เฝ้าระวัง!! นายพูดอย่างกับน้ำป่าไหลหลากอย่างงั้นแหละ”คนฟังเพียงแค่หัวเราะหึในลำคอทามไทพยายามลุกขึ้นแต่ก็เงียบชะงักไป เมื่อรู้สึกเจ็บปวดจากความเหนื่อยล้าจากการป่วย เพทายรีบคว้าตัวเขาไว
คนร่างสูงกว่า 190 เอาแต่นอนซมเพราะฤทธิ์ไข้ในห้อง ตอนนี้ทั้งคู่รอแค่เวลากลับคอนโด ไม่นานนักพนักงานทุกคนต่างทยอยพากันเลิกงานเพทายพยุงร่างคนตัวสูงเดินเข้าไปในลิฟต์ ก่อนจะมายังโซนจอดรถสำหรับผู้บริหาร ไอ้อยากขำมันก็อยาก ไอ้สงสารมันก็สงสาร ยิ่งตอนที่นั่งในรถ ร่างสูงก็เอาแต่บ่นให้อีกคนขับเบาๆ“ซี้ดดด … ทาย นายช่วยขับเบาๆ หน่อยได้มั้ย? ”“นี่ผมแทบจะคลานอยู่แล้วนะครับ” ขับช้ากว่านี้ก็คงต้องเต่าแล้วมั้ยไม่นานคนทั้งคู่ก็ต้องขับผ่านลูกระนาดในทางเข้าคอนโดอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้คนตัวสูงถึงกับเขย่งตูดขึ้นจากเบาะ ทำเอาเพทายถึงกับหัวเราะลั่น“ฮ่าๆ … โทษทีๆ ไม่ใช่ผมไม่สงสาร แต่ขอโทษที่อดขำกับท่าทางของนายไม่ได้”คนร่างสูงค่อยๆ หย่อนก้นลงนั่งเบาะอีกครั้ง แต่แล้วก็ต้องรีบลุกเขย่งขึ้นอีกรอบ มือหนาเอื้อมมาจับกันโคลงข้างๆ อีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ นั่งเมื่อขับผ่านลูกระนาดไป“นี่ผมแทบคลานแล้วนะครับ แล้วพรุ่งนี้นายจะตื่นไหวมั้ย? ให้ทำเรื่องลาไว้เลยรึเปล่า? ”‘ยัง ยังจะไม่ยอมหุบปากอีก’ !!เมื่อรถเคลื่อนเข้ามาจอดสนิทที่ลานจอดของคอนโด เพทายหันไปมองคนตัวโตที่ยังนั่งซมอยู่ที่เบาะข้างๆ สีหน้าอ่อนเพลียเต็มทน มือหนายังคงจั
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เป็นโหมดกลับเข้าทำงานปกติ อลิสเองก็เริ่มมาวอแวที่ทำงานของเพทายมากขึ้น เพราะหญิงสาวชอบมาทวงเรื่องงานหมั้น ทำเอาอีกคนถึงกับหัวเสียร่างสูงกว่า 190 ได้ยินเสียงเล็ดลอดของคนทั้งคู่คุยกันทามไทที่นั่งอยู่ในห้องประชุมตรงข้ามทางเดิน เงี่ยหูฟังเสียงแผ่วเบาที่เล็ดลอดออกมาจากห้องทำงานของเพทาย“อลิส… เราค่อยคุยกันได้มั้ย ตรงนี้มันไม่ใช่ที่ที่เราจะมาพูดเรื่องส่วนตัว” เสียงของเพทายฟังดูอ่อนแรง แต่ก็พยายามคุมโทนให้ดูสุขุม“ทำไมล่ะคะ? หรือพี่เพทายไม่อยากหมั้นกับอลิสแล้ว” เสียงหวานของหญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ “หรือพี่มีใครคนอื่นที่คิดว่าดีกว่าอลิส?”ทามไทได้ยินคำพูดนั้นเต็มสองหู เขากำมือแน่น จ้องมองแฟ้มงานตรงหน้าอย่างไม่ใส่ใจ ในหัวมีแต่ความคิดวกวนเกี่ยวกับสิ่งที่เพทายกำลังเจอ และโดยเฉพาะความสัมพันธ์ของอีกฝ่ายกับอลิส ที่เขาไม่รู้ว่ามันซับซ้อนแค่ไหน“อลิส หยุดพูดอะไรแบบนั้นเถอะ” เพทายถอนหายใจหนักหน่วง “พี่แค่… พี่ยังไม่พร้อม และมันไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น”ทามไทเบ้ปากโดยไม่รู้ตัว พร้อมพึมพำกับตัวเองเบาๆ“ไม่พร้อม… เหอะ”ทันใดนั้น ประตูห้องทำงานของเพทายก็ถูกผลักออกมา พร้อมกับร่างบาง
วันนี้คนทั้งสี่ที่เดินทางกลับกรุงเทพพร้อมกัน โดยทามไทเป็นคนขับ และลลินดานั่งข้างๆ ซึ่งก็มีเพทายและอลิสนั่งเบาะหลัง ทุกครั้งที่ลลินดาเอื้อมมือไปจับขาคนขับ คนด้านหลังต่างแอบขบกรามอยู่บ่อยครั้งไม่ต่างจากคนขับเอง ที่หันมองกระจกหลังทีไร ก็เห็นว่าใครอีกคนมีหญิงสาวคอยนั่งซบอยู่ตลอดเวลาเอี๊ยดด …!! คนใจลอยถึงกับเผลอเบรกแทบหัวทิ่ม เมื่อคันหน้าก็เบรกอย่างกะทันหัน“นายให้ผมช่วยขับมั้ยทาม? ”คนตัวสูงหันมองกระจกหลัง ก่อนว่า“งั้นนายมาช่วยฉันขับ ให้ลลินไปนั่งข้างหลัง ฉันจะได้ช่วยนางดูทาง สาวๆ จะได้หลับกันสบายๆ ”ฟังเหมือนดูดี มีเหตุผลร่างสูงกว่า 187 หันมายิ้มให้กับความเจ้าเล่ห์ ก่อนที่ทั้งสี่จะเปลี่ยนย้ายตำแหน่ง หลังจากจอดแวะปั๊มบรรยากาศในรถเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากย้ายตำแหน่งกันใหม่ ทามไทนั่งคู่กับเพทายที่เข้ามารับหน้าที่คนขับ ส่วนสองสาวก็ถูกย้ายไปนั่งเบาะหลัง ลลินดานั่งพิงข้างประตู พร้อมกับแอบมองกระจกหลังอยู่เป็นระยะ ในขณะที่อลิสพยายามจะข่มตาหลับ แต่กลับรู้สึกได้ถึงความอึดอัดแปลกๆ ที่แฝงอยู่ด้านในเพทายเอื้อมมือไปปรับกระจกมองหลังให้เห็นมุมกว้างขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบมองทามไทที่นั่งนิ่งข้างๆ ตัวเ
ทามไทจับเจ้าแท่งอุ่นร้อนไซซ์พิเศษขึ้นมา มันผงกหัวหงึกหงักขึ้นมาแผ่ขยายท่ามกลางร่องก้น“ฉันเงี่ยน นายช่วยถูก้นขึ้นลงเล่นกับมันหน่อยสิ”คนด้านหน้าก็ทำตามอย่างว่าง่าย มือหนาของทามไทก็ซุกซนค่อยๆ บีบไต่ลามไล้ไปทั่วร่าง แต่เขาเลือกที่จะละเว้นที่ตรงนั้นเอาไว้ เขาต้องการหลอกล่อให้ใครอีกคนเสียวซ่านจนขั้นสุด มือหนาคลึงสะโพกกลมผายอย่างบางเบา ก่อนจะเด้งส่ายเจ้าแท่งแข็งขึงบดขยี้เข้ากับก้นนิ่มนุ่มอื้มมม …. เขาพลิกกายของร่างบางให้หันหน้ามาหากันอย่างไว จากนั้นก็ยกขาทั้งสองข้างของชายหนุ่มขึ้น ปากอุ่นร้อนค่อยๆ ดูดเม้มเข้ากับซอกคอของอีกฝ่าย เขาเผลอดูดจนอีกคนเป็นรอยปื้นแดงขึ้นจ้ำๆ“ฉันอยากจะทำรอยไว้ทั่วร่างของนาย ทุกคนจะได้รู้ว่านายเป็นที่รักของฉัน นายเป็นของของฉัน” คนตัวสูงกว่า 190 เอ่ยอย่างคนเอาแต่ใจคนด้านบนบิดกายไปมาด้วยความเสียวซ่าน มือเผลอจิกทึ้งศีรษะของคนใต้ร่างเข้าอย่างแรง จากนั้นคนตัวโตก็ก้มลงงับกับเจ้าลูกเชอรี่สีแดงสด เขาตวัดลิ้นระรัวขบเม้มกับเม็ดเล็กๆ ตรงหน้าอกอย่างแรง เพทายเองถึงกับอ้าปากค้างส่งเสียงครางไม่หยุดอ้าาาห์ …“มันเสียวมากเลยทาม”ชายหนุ่มพูดข้างๆ ใบหูของคนตัวโต“นายช่วยยืนขึ้นหน่อ
บรรยากาศในร้านริมหาดนั้นเต็มไปด้วยเสียงเพลงของดนตรีสดที่ทำให้ความรู้สึกของทุกคนดูผ่อนคลาย แต่ภายในใจของทามไทและเพทายกลับมีสิ่งที่ซ่อนอยู่มากมาย ทั้งสองนั่งอยู่ตรงข้ามกัน ขณะที่อลิสและลลินดานั่งอยู่ข้างๆ บนโต๊ะไม้สีอ่อนที่ตั้งอยู่ใกล้กับริมทะเล เสียงคลื่นซัดสาดทำให้บรรยากาศดูสงบ แต่ในหัวของทั้งสองกลับเต็มไปด้วยความคิดทามไทมองไปที่เพทายที่นั่งห่างออกไปแค่ไม่กี่ก้าว เขาพยายามเก็บความรู้สึกที่ปั่นป่วนภายในใจเอาไว้ ไม่ให้ใครเห็น เขาสังเกตเห็นว่าเพทายพูดคุยกับอลิสได้อย่างเป็นกันเอง เสียงหัวเราะของทั้งสองเหมือนเสียงของคู่รักที่เพิ่งพบกันไม่นาน มันทำให้ทามไทรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่เขาก็รู้ดีว่าเพทายและอลิสไม่ได้มีความสัมพันธ์กันเกินกว่าคำว่าพี่น้อง แต่ทำไมลึกๆ เขากลับรู้สึกไม่สบายใจในขณะเดียวกัน เพทายที่นั่งอยู่ข้างๆ อลิสก็รู้สึกถึงสายตาของทามไทที่จ้องมาที่เขาอย่างไม่ค่อยพอใจ เขารู้สึกได้ถึงความตึงเครียดในอากาศ แต่มันกลับเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถแสดงออกได้ ทุกครั้งที่เขาหันไปมองทามไท ทามไทก็จะทำเพียงแค่ยิ้มให้ แม้ว่าในดวงตาจะมีแววแปลกๆ ที่ทำให้เพทายไม่แน่ใจว่าเขาคิดอะไรอลิสหันไปม