: เฟร์ส
ชายหนุ่มกำลังนั่งหัวเสียกับแม่ของเขาเองที่เอาแต่โทรตามตั้งแต่ยังไม่ออกจากบริษัทเพื่อให้เขามาพบพวกผู้หญิงที่แม่เลือกมาให้ หากถามทำไมต้องใช้คำว่าพวกน่ะเหรอ ก็มีตั้ง 5 คนเลยน่ะสิ! 4 คนในนั้นชายหนุ่มเองได้รู้จักผ่านๆ ตามงานสังคมมาบ้างแล้วเพราะพวกเธอเป็นลูกคนมีชื่อเสียง อีกคนเขาไม่รู้เลยว่าเธอจะเป็นใครมาจากไหนแต่ยังไงสะก็คงเป็นพวกผู้หญิงเห็นแก่เงินนั่นแหละไม่งั้นจะยอมรับข้อตกลงที่ไม่ต่างจากการขายตัวแบบนี้งั้นเหรอ ว่าแล้วเขาก็คิดถึงคะน้ากับลิบินแฟนรักขึ้นมา เร็วๆ นี้สองคนนั้นกำลังจะมีงานแต่งชายหนุ่มก็ไม่คิดเลยว่าเพื่อนรักที่นิสัยต่างกันสุดขั้วเรื่องผู้หญิงอย่างลิบินจะรักจริงหวังแต่งขนาดนี้ต่างจากตัวเขาที่คงไม่มีทางหลงรักใครได้แน่นอนเพราะพวกผู้หญิงในสายตาเขาก็เป็นแค่พวกเห็นแก่เงินเท่านั้น "คุณชายค่ะเชิญห้องโถงค่ะ"ป้าแม่บ้านเก่าแก่เห็นเขาปรากฏตัวรีบวิ่งเข้ามาต้อนรับ "ป้าครับ แม่อยู่หรือเปล่า" "ไม่อยู่ค่ะ เห็นบอกจะไปอยู่บ้านพักต่างอากาศสักพัก" "ดี งั้นผมมีสิทธิ์ที่จะเขี่ยยัยพวกนี้ได้ใช่ไหม" "โถคุณคะคุณหญิงแค่อยากให้คุณชายรักใครสักคนอย่างจริงจังคุณชายอายุ 27 แล้วนะคะ" "ก็ผมไม่เจอคนที่ใช่นี่น่า อีกอย่าง 27 นี่ก็ยังถือว่าเด็กอยู่เลยนะครับ" "แต่การใช้ชีวิตเรื่องผู้หญิงของคุณชายไม่เด็กน่ะสิคะแบบนั้นคุณแม่ถึงใช้วิธีนี่ ไม่งั้นคุณชายอย่าปิดใจจากคุณเธอเขาสิคะ เอาน่าถ้าคุณชายไม่ชอบสักคนใน 5คนนี้ ป้าจะคุยกับคุณหญิงให้เองอย่างนี้ดีไหมคะ" "เฮ้อ ก็ได้ครับ" ชายหนุ่มเดินเข้ามายังห้องโถงอย่างเซ็งอารมณ์เพื่อเจอกับพวกผู้หญิงทั้ง 5 คนที่มารออยู่แล้วด้วยความจำใจ แต่สายตาเขาดันไปสะดุดกับผู้หญิงคนหนึ่งในนั้นอย่างหยุดมองไม่ได้ไม่ใช่ว่าเธอสวยอะไรมากมาย แต่เธอแต่งตัวสบายๆ ด้วยเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีดำผิดกับคนอื่นที่แต่งตัวราวกับจะมาเดินแฟชั่นโชว์ทำให้เขาหยุดมองสำรวจหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย ...แม่ไปหายัยนี่มาจากไหนเนี่ย... ชายหนุ่มบ่นในใจใบหน้าก็ไม่แต่งแต้มแม้แต่น้อยแต่ผิวกลับอมชมพูเป็นธรรมชาติอย่างเห็นได้ชัด ท่าทีที่ไม่ได้สนใจว่าเขาจะมองเธอยังไงนั้นยิ่งทำให้เขารู้สึกสับสนจนเกิดอาการงง "เชิญคุณๆ แนะนำตัวเลยค่ะ" "สวัสดีค่ะพี่เฟร์ส โมอาว่าเรารู้จักกันดีแล้วนะคะ" โมอานางแบบลูกครึ่งญี่ปุ่นที่ชายหนุ่มเคยมีสัมพันธ์กับเธอผ่านๆ เข้ามาจับแขนเขาไว้อย่างไม่อายจนเขารำคาญรีบแกะแขนเธอออกแล้วมองหน้าคนต่อไป แต่ในใจไม่คิดว่าโมอาจะมาเป็นหนึ่งในว่าที่คู่หมั้นเขาเลยเพราะก่อนหน้านี้ก็เคยตกลงกันว่าจะเป็นเพียงคู่นอนเท่านั้นเอง "สวัสดีค่ะพี่เฟร์ส...จำนูน่าได้ไหมคะ" "จำได้..." นูน่าคุณหนูของตระกูลที่รวยอันดับสามเธอเคยถูกจับมาดูตัวกับชายหนุ่มมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเธอสารภาพว่าชอบเขาแต่เขาไม่ชอบคนเรียบร้อยแต่ข้างในยับเลยบอกปัดไป ที่เขารู้ว่าเธอเป็นคนเรียบร้อยเฉพาะฉากหน้าก็เพราะเพื่อนของเขาทุกคนล้วนแต่เลยมีความสัมพันธ์กับหลอนมาแล้วทั้งนั้น "มูลี่เองค่ะ ^_^" ชายหนุ่มกลอกตามองบนเมื่อต้องมานั่งฟังคนที่รู้จักกันอยู่แล้วแนะนำตัวนี่คงเป็นการแนะนำตัวเพื่อให้คนในกลุ่มรู้จักสะมากกว่า มูลี่เป็นลูกสาวบริษัทส่งออกผักของเพื่อนแม่ของเขาเอง....แน่นอนเธอก็ชอบเขาอยู่ไม่น้อย "ทูน่า เองไงคะไม่ได้เจอกันนานเลยนะพี่เฟร์ส" "อือ" ทูน่าลูกสาวเพื่อนสนิทของแม่ชายหนุ่มที่หลงรักเขาตั้งแต่เด็กจนโตทั้ง 4 คนดูมีเหตุจงใจจะเข้าหาเขาทั้งนั้นแล้วผู้หญิงบ้านๆ นี่มาที่นี่เพื่ออะไร? "เอิ่ม...ฉันริลค่ะ" "อายุเท่าไหร่..." "24ปี"เอาเป็นว่าทั้งห้าคนเด็กกว่าเขาสองถึงสามปี ดูจากการคาดเดาน่าจะประมาณ 24 ปีเท่ากันหมด ไม่รู้แม่ของเขาคิดอยากได้ลูกสะใภ้เด็กอยู่หรือไงกัน "เธอมาทำอะไรที่นี่" ชายหนุ่มกอดอกมองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ในใจคิดว่าเธอก็ดูท่าทางเป็นผู้หญิงที่ท่าทางเรียบร้อยแต่ดูแก่นแก้วพอควร เมื่อถูกจ้องตรงๆ จากชายหนุ่มใบหน้าคมหล่อเหลาแถมสูงโปร่งสมเป็นลูกผู้ดีใบหน้าขาวเนียนก็เริ่มแดงขึ้นด้วยความเขินอายอย่างบอกไม่ถูก "ฉะ ฉันก็มาเป็นหนึ่งตัวเลือกให้คุณ อือ... ชื่ออะไรนะ? เฟร์ส"ชายหนุ่มถอนหายใจยาวใบหน้าบ่งบอกถึงอารมณ์ที่ขุ่นเคืองเพราะแม้แต่ชื่อของเขาผู้หญิงคนนี้ก็ยังไม่รู้สัก "แม่จ้างเธอมาสินะ" "รู้ได้ไงคะ ○~○" "ผิดคาดจริงๆ ฉันนึกว่าแม่จะพาแต่พวกผู้หญิงที่เห็นฉันแล้วอยากได้เหมือนยัยพวกนี้มาสะอีก ที่ไหนได้มีผู้หญิงที่เห็นแก่เงินติดมาด้วย " "เหอะ!..."เธอหัวเราะในลำคอแล้วมีแววตาแข็งกร้าวขึ้นทันทีที่ได้ยินประโยคที่เต็มไปด้วยคำดูถูก แต่กลับไม่เถียงเขากลับสักคำเธอคงไม่ชอบคำพูดของเขาแต่มันดันเป็นเรื่องจริงสินะนั้นยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกได้ใจยกใหญ่ "ผู้หญิงขายตัวมีสิทธิ์ไม่ชอบคำพูดของนายจ้างด้วยเหรอ?" "ฉัน...เหอะ! ช่างเถอะมันก็เหมือนขายตัวจริงๆ"ชายหนุ่มหรี่ตามองใบหน้าหญิงสาวอย่างแปลกใจเมื่อเธอยอมรับมาตรงๆ ตามจริงเขาคิดว่าเธอจะโวยวายและแสดงกิริยาไม่ดีออกมาตอบโต้เสียอีกเห็นเธอนิ่งยอมรับมาตามตรงแบบนี้ยิ่งทำให้เขาสับสนว่าคนนี้เป็นคนประเภทไหนกันแน่ "แนะนำตัวจบละนะ ไปล่ะ" อยู่ๆ ริลนั้นก็เดินหนีผ่านหน้าชายหนุ่มขึ้นไปบนห้องหน้าตาเฉยโดยไม่ไว้หน้าเขาสักนิดทั้งๆ ที่เธอควรจะรอเขาเป็นคนอนุญาตให้ทุกคนไปพักสิแต่นี่...เธอกลับเดินไปเสียหน้าตาเฉย! ทำให้ทุกคนในที่นั้นตกใจจนต้องหันไปมองหน้าเฟร์สที่คิ้วสวยกำลังผูกโบชนกันเขารู้สึกเหมือนกับว่าผู้หญิงคนนี้กำลังฉีกหน้าเขาต่อหน้าคนอื่นๆ "ยัย...กล้ามาก" ชายหนุ่มสบถอย่างหงุดหงิดเกิดมาไม่มีใครเคยหักหน้าเขาได้นอกจากคะน้ากับลิบินแต่ผู้หญิงขายตัวคนนี้กล้าดียังไง!! หลังจากชายหนุ่มขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าขจัดความหัวเสียเมื่อครู่ เขาปรับสีหน้าให้เรียบเฉยและกำลังจะลงไปกินข้าวแต่เมื่อเปิดประตูออกมาเขากลับเจอเข้ากับหญิงสาวเจ้าปัญหาที่กำลังจะลงไปเหมือนกันพอดี แต่แทนที่เธอจะมองมาที่เขาแล้วกล่าวขอโทษเรื่องเมื่อเย็นแต่เธอกับแค่มองเขาด้วยหางตาแล้วเดินผ่านตัวเขาลงไปก่อน เหอะ! สะ สองครั้งแล้วนะ! เธอคนนี้เมินเขาถึงสองครั้งแล้ว ทำให้เฟร์สรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันควันเธอคนนี้มาที่นี่ทำไม! เธอต้องเข้ามาหามายั่วเขาเหมือนคนอื่นสิแต่นี่อะไรทำท่ารังเกียจขนาดนี้ถ้าเธอเห็นแก่เงินเธอยิ่งควรจับเขาไว้สิ...แต่ก็ดีเพราะเขาก็ไม่ได้อยากรู้จักกับผู้หญิงอย่างเธอนักหรอก เขาทิ้งความคิดแล้วเดินลงมาสายตาก็ยังคงมองสำรวจใบหน้าสวยของบรรดาสาวๆ ที่หันมามองจ้องเขาตาเป็นมันยกเว้นก็แต่ผู้หญิงคนเดิมที่มองใบหน้าเพื่อนร่วมโต๊ะไปมาราวกับกำลังสงสัยในการกระทำของพวกเธอ เขาเดินเข้ามานั่งตรงหัวโต๊ะและเริ่มทานอาหารเป็นคนแรกก่อนที่คนอื่นๆ จะเริ่มทานอาหารกันไม่ทันที่ที่เขาจะเริ่มตักกับข้าวลงจานบรรดาสาวสวยทั้งหลายก็จัดการตักนั้นนี่ใส่ลงมาจนล้นจานโดยที่เขาไม่ได้ขอเลยสักนิด "พี่เฟร์สกินปลานี่ดูสิคะ" มูลี่ตักปลามาวางบนจาน "ทานนี่ด้วยสิคะ" แล้วผู้หญิงคนอื่นก็ตักนู่นนี่มาจนเต็มจานไปหมดยกเว้นแต่ริล...ที่นอกจากจะนั่งห่างชายหนุ่มที่สุดแล้วยังกินแบบไม่สนว่ามีเขาหรือผู้หญิงพวกนี้อยู่ร่วมโต๊ะ เธอกินไปชมอาหารกับคุณป้าแม่บ้านว่าอันนี้อร่อยอันนั้นอร่อยจนเขารู้สึกได้ว่าเธอกำลังเมินเขา! เธอดูสนใจแม่บ้านมากกว่าเขาสะอีก "พอ! รำคาญมีมือจะตักเองได้" พอเฟร์สเสียงดังทำให้ริลหันมามองเขานิดหน่อยก่อนที่จะกลับไปกินข้าวของตัวเองต่อ ส่วนคนที่เหลือก็หน้าหงอยตามระเบียบ "อ่อ..." เขาลืมเรื่องสำคัญไปเลย คุณแม่ของเขาบอกกับเขาไว้ว่าต้องการให้ผู้หญิงพวกนี้ไปช่วยงานที่บริษัทวันละคน แต่แบบนั้นสำหรับเขามันสบายเกินไปเขาเลยตั้งใจที่จะให้ไปทำพร้อมกันหมด เว้นแต่สำหรับผู้หญิงขายตัวท่าทีอวดเก่งคนนั้นที่เขาคงต้องใช้งานเธอให้สมเงินที่เธอได้ไป "พรุ่งนี้ทุกคนจะต้องไปทำงานกับฉันด้วย พอไปถึงฉันจะบอกเองว่าใครจะทำหน้าที่อะไร" "ค่ะ"ทุกคนตอบพร้อมกัน วันแรกผ่านไปแบบทุกข์ทรมานเพราะผู้หญิงพวกนี้เหมือนพร้อมเปิดสงครามกันตลอดเวลาจนเฟร์สต้องค่อยห้ามทัพอยู่หลายครั้ง ทั้งทางสายตาและคำพูดบอกได้คำเดียวว่านี่มันนรกชัดๆ เฟร์สได้แต่บอกตัวเองให้อดทนและปลอบใจตัวเองว่ามันก็แค่ช่วงหนึ่งของชีวิตพ้นจากผู้หญิงพวกนี้ไปเขาก็จะหาข้ออ้างให้ตัวเองเป็นอิสระเหมือนเดิมได้ :บริษัท หญิงสาวยืนรวมกลุ่มกับพวกผู้หญิงทั้งสี่คนในห้องทำงานของชายหนุ่มอย่างเบื่อหน่าย เธอจะอดทนกับการสู้รบของคนพวกนี้ได้ยังไงทั้งคำพูดสายตาจิกกัดแล้วตัวต้นเหตุก็ไม่ได้ทุกข์ใจหรือจัดการอะไรแม้แต่น้อยแถมตอนนี้ก็เอาแต่นั่งขีดๆ เขียนๆ กระดาษอยู่นั้น เธอชักไม่สบอารมณ์แล้วสิ "พวกเธอก็คงรู้ว่าบริษัทฉันเป็นบริษัทนำเข้าจิวเวลรี่ขนาดใหญ่ ฉะนั้นฉันจัดงานให้สำหรับทุกคนแล้ว....และฉันไม่สนว่าพวกเธอจะโอเคกับการตัดสินใจของฉันหรือเปล่า ถ้าทนไม่ได้ก็เก็บของออกจากบ้านฉันไป" โหดจัง....หญิงสาวคิดในใจ คำพูดเย็นชานั้นถ้าพูดกับเธอคนเดียวไม่คงเท่าไหร่แต่ดูเหมือนผู้หญิงที่เหลือจะชอบชายหนุ่มอยู่มากโขคำพูดรุนแรงของคนเผด็จการแถมยังใจดำแบบนี้คงทำให้พวกเธอเสียใจไม่น้อย แต่นอกจากหน้าตาและรูปร่างที่ดีแล้วเธอเองก็ยังไม่เห็นว่าคนคนนี้จะดีตรงไหนเลยผู้หญิงพวกนี้ชอบลงได้ยังไงกัน เธอไม่เข้าใจเลย "โมอา ในฐานะที่เธอรู้เรื่องออกแบบเธอไปอยู่กับฝ่ายจัดแสดง" "ได้ค่ะพี่เฟร์ส" "นูน่าเธอไปอยู่ฝ่ายการเงิน" "ได้ค่ะ สบายมาก" "มูลี่ไปอยู่ฝ่ายส่งออก ทูน่าไปช่วยงานเลขาฉัน" "ได้ค่ะ/ค่ะ" "ส่วนเธอ...."เขากอดอกจ้องที่ริลแล้วกระตุกยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย ทำเอาหญิงสาวที่ถูกจ้องด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ถึงกับใจคอไม่ดีจนต้องกลืนน้ำลายลงคอดัง อึก "มาเป็นคนใช้ของฉัน" "ห๊า!!!" หญิงสาวทั้งห้าตกใจพร้อมกันแบบไม่ทันตั้งตัวโดยเฉพาะริล จริงๆ แล้วเธอรู้เรื่องงานอื่นเป็นอย่างดีแล้วทำไมต้องให้เธอเป็นคนใช้ของเขาด้วย อย่างน้อยเป็นคนใช้ของทุกคนในบริษัทคงจะดีกว่าอยู่ใกล้ชิดเสือป่าแบบเขา "มูลี่ไม่ยอมนะคะ แบบนี้ยัยบ้านี่ก็ได้อยู่ใกล้ชิดพี่สิคะ" อยากใกล้ตายละ=_= ริลบ่นในใจ "งั้นก็กลับบ้านเธอไปสะสิ" "หือออ"มูลี่ทำหน้าไม่พอใจแต่ก็ต้องหยุดเมื่อถูกชายหนุ่มมองจ้องด้วยสายตาไม่พอใจ "อย่ามาทำตัวน่ารำคาญแถวนี้ แยกย้ายกันไปทำงานได้แล้วส่วนเธอ ริลฉันเขียนสิ่งที่เธอต้องทำไว้หมดแล้ว หึๆ"“ไหนว่าจะกลับบ้านไงแล้วนี่คุณพาฉันมาที่ไหน…”“นี่บริษัทลิบิน”“หะ? ละ แล้วมาทำไม หรือว่าอันดาเขา…”“มันบอกหมดแล้ว เธอคิดว่าคนอย่างฉันจะปล่อยให้ไอ้เพื่อนบ้านี่ใช้ชีวิตสบายๆ ทั้งที่หลอกฉันขนาดนี้น่ะเหรอ?”พูดแล้วเฟร์สก็โกรธจนลมออกหู ให้ตายเหอะ! ไม่คิดว่าเพื่อนรักจะทำกับเขาได้ขนาดนี้“กลับเถอะ เราก็ดีกันแล้วนิ นะๆ” ริลทำหน้าอ้อนเพราะไม่อยากให้ลิบินต้องโดนอะไรจากเฟร์ส แต่มันสายไปแล้วเมื่อร่างที่คุ้นเคยเปิดประตูเข้ามา ลิบินที่เห็นเฟร์สอยู่กับริลก็ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอทันที“อะ อ้าว ดีกันแล้วเหรอ ดีๆ เพื่อนรักมีความสุขก็ดี”ลิบินเดินเข้ามากอดเฟร์สอย่างพยายามเก็บอาการ ใจหวังว่าเจ้าเพื่อนรักจะไม่รู้ว่าตัวเองมีส่วนกับเรื่องนี้“หึๆ เพื่อนรักแกก็รู้ดีว่าฉันรักแกมาก มีอะไรก็ช่วยตลอดตอนที่ทะเลาะกับคะน้าก็ฉันนี่แหละที่ช่วยให้คืนดีกัน….เพราะฉะนั้น…”“พะ เพราะฉะนั้น? ....”“ฉันเห็นแกเหนื่อยมากที่ต้องฟังคำบ่นของคะน้าบ่อยๆ เลยส่งคะน้า....ไปพักผ่อนเมาดีฟกับนายแบบชั้นนำซักสามสี่วันน่ะนะ”“ห๊า! แก....อย่ามาหลอกฉันวันนี้ตอนเช้าคะน้าเพิ่งมาส่งฉัน”“ใช่ไง ไม่สงสัยเหรอว่าทำไมอยู่ๆ คะน้าถึงอาสามาส่งแกที่ทำงาน
“วันนี้คุณไม่ต้องไปส่งผมนะ เดี๋ยวผมจะแวะไปที่ที่หนึ่งก่อน”“ได้ค่ะ ของที่ท่านประธานสั่งดิฉันไว้ถูกส่งไปตามที่บอกเรียบร้อยแล้วค่ะ”“โอเค พอดีเลยวันนี้ผมจะเข้าไปเช็กดูถ้าขาดเหลืออะไร ขอรบกวนคุณอีกรอบแล้วกันนะ”“ได้ค่ะ”“ขอบใจมาก”อันดาขับรถออกจากบริษัทมุ่งหน้าไปคอนโดลับที่แม่ของเฟร์สซ่อนริลไว้ แต่พอขับมาได้ครึ่งทางเขากลับรู้สึกว่ารถรอบๆ ตัวเขาตอนนี้มีลักษณะการขับที่แปลกๆ เหมือนรถทั้งสามคันที่ประกบทั้ง ซ้าย ขวา หน้า หลัง นี่พยายามขับไปทางเดียวกับเขาตลอด“ใช่แน่ๆ ต้องเป็นเฟร์สแน่”เมื่อสังเกตจนมั่นใจว่าคนในรถต้องมีเจตนาตามเขาก็ไม่แปลกเลยที่เขาจะรู้ได้ทันทีว่าใครเป็นคนบงการ ไหนคุณหญิงบอกว่าเฟร์สยอมถอยห่างจากริลโดนดี ทำไมอยู่ถึงมาส่งคนตามเขาแบบนี้ปึก!ก้อนกระดาษกลมๆ ถูกปาเข้าที่กระจกฝั่งคนขับ เมื่ออันดาหันไปตามเสียงก็เจอว่าเฟร์สกำลังกอดอกยิ้มให้เขาอยู่ ขนเขาลุกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเพราะความกลัว สมองก็รับรู้ได้ทันทีว่าเฟร์สกำลังคิดจะทำอะไม่ดีกับเขาแน่“จอดรถ เดี๋ยว นี้!”กระบอกปืนสีดำถูกเล็งมาทางเขา นาทีนั้นวิญญาณอันดาจะออกจากร่างให้ได้“แย่แล้วอันดา จะเอาถึงตายเลยเหรอ งืออออ”อันดาใจสั่น ค
สามวันที่เฟร์สขังตัวเองไว้ในห้องมืดๆ เขาไม่ยอมกินไม่นอนเอาแต่นั่งร้องไห้ด้วยความช็อกกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา ใจเขาเจ็บปวด มันเจ็บจนไม่รู้จะผ่านเวลาแบบนี้ไปได้ยังไง ด้านนอกประตูมีคุณหญิงที่ในใจก็แอบห่วงลูกชายเฝ้าอยู่ไม่ห่างเธอกลัวว่าคนที่ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่างเฟร์สจะคิดทำร้ายตัวเองขึ้นมา“คุณหญิงคะ? คุณเฟร์ส”“ฉันรู้น่า บางครั้ง….การที่เรานั่งสั่งสอนก็ไม่เท่ากับให้เขาได้เจอประสบการณ์จริง สิ่งที่ฉันทำมันอาจจะทำให้ลูกเจ็บนะ...เธออย่าลืมว่าคนเป็นแม่เจ็บกว่าลูก แต่นี่ เป็นสิ่งที่เขาควรได้รับเขาจะได้รู้ว่าการเห็นแก่ตัวมันส่งผลแย่แค่ไหน”คุณหญิงพูดให้ป้าแม่บ้านฟังเป็นการระบายความทุกข์ใจ เธอรู้สึกสงสารลูกมากแต่...เธอก็ต้องทำการใช้แผนนี้มันเสี่ยงมากที่จะทำให้เฟร์สเสียริลไปตลอดการที่ริลได้อยู่คนเดียวถ้าเธอไม่ได้รักเฟร์สจริง โอกาสที่เธอจะใช้เวลานี้ทำใจก็ลืมเรื่องทั้งหมดก็มีมาก“คุณหญิงจะใช้เวลานานขนาดไหนคะ? ถ้าคุณเฟร์สคิดมากจน….”“ฉันก็ไม่รู้หรอก แต่ยังไงก็ช่วยดูเขาตลอดแล้วกัน”“ได้ค่ะ”ระหว่างที่คุณหญิงกำลังจะเดินออกมาเธอก็พบเข้ากับโชนที่แอบยืนฟังอยู่นานแล้ว โชนที่กำลังสับสนกับสิ่งที่ได้ยิ
…………………“ฉันมีสิ่งที่อยากจะพูดค่ะ….”"ว่ามาสิ”“ฉันช่วยคุณในการดัดนิสัยลูกชายได้ จริงอยู่ที่ฉันเองก็รู้สึกดีกับเขาในบางครั้งแต่ฉันไม่สามารถอยู่กับคนที่เห็นฉันเป็นแค่ที่ระบายความใคร่ได้หรอกค่ะ….ถึงแม้วันหนึ่งเขาจะเปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น....แต่สิ่งที่เขาทำกับฉัน....ฉันไม่เคยลืมและไม่สามารถยอมรับได้จริงๆ”คุณหญิงถอนหายใจยาว ตามที่คิดไว้อยู่แล้วว่าตัวหญิงสาวคงไม่ให้อภัยลูกนิสัยไม่ดีของเธอ แต่ถึงคุณหญิงจะถูกใจตัวริลมากเท่าไหร่แต่ถ้าเจ้าตัวมีอคติต่อกันมากกว่าความรัก เธอก็ต้องยอมรับในการตัดสินใจของผู้หญิงคนนี้“...ฉันรู้ว่าเธอเจ็บ”“ค่ะ เพราะฉันเป็นมนุษย์คนหนึ่งมีความคิดความรู้สึก อย่างน้อยถ้าเขาเจ็บปวดเพราะฉันมันจะทำให้เขาได้รับรู้บ้างว่าสิ่งที่เขาทำเวรกรรมมันจะสนองยังไง เขาจะได้รู้จักกับคำว่าทรมานสะบ้าง ฉันไม่ได้แค้นอะไรมากหรอกนะคะ….แต่ฉันเองก็อยากให้บทเรียนเขาเหมือนกัน”“ถ้าเธอไม่คิดที่จะอยู่กับเขา….ฉันก็ทำอะไรไม่ได้”ฉันอยู่ในร้านอาหารเดิมแต่คู่สนทนาเปลี่ยนไป ต่อหน้าฉันตอนนี้ไม่ใช่คุณหญิงแต่เป็นลิบินและอันดาเจ้านายของฉัน ลิบินจะเป็นคนเชื่อมแผนทุกอย่างโดยเข้าไปขอร้องให้อันดามาช่วยเรื่องนี้
ริลถูกพาตัวมายังสถานที่ที่คุ้นเคยบ้านของเฟร์สนั้นเอง เขาลากเธอผ่านหน้าบรรดาแม่บ้านที่มองมายังเธออย่างแปลกใจคงไม่มีใครคิดว่าเธอจะกลับมาที่นี่อีก ริลทั้งดิ้นทั้งพยายามดึงแขนตัวเองออกให้ได้จนมันแดงไปหมดแต่มันก็เสียแรงเปล่า เพราะตอนนี้ริลถูกพามาถึงห้องนอนของเฟร์สเรียบร้อยเขาจัดการปิดประตูขังเธอไว้ด้านในแล้วล็อกประตูปัง! ปัง!“เปิดนะ จะขังฉันไว้แบบนี้ไม่ได้ คนมีงานมีการทำนะ!”“ตะโกนไปก็เท่านั้น อยู่ในนั้นจนกว่าจะคิดได้ว่าไม่ควรมาเก่งกับคนอย่างฉัน”ปัง ปัง“ปล่อยฉันออกไปนะ!”ริลพยายามเคาะประตูเรียกร้องความสนใจจากคนด้านนอกแต่เขากลับเงียบไปเหมือนกับว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว ริลทรุดตัวลงด้วยความเหนื่อย มือที่เคาะประตูอย่างแรงนี้กำลังแดงขึ้นและบวมร้อนจากอาการเจ็บจนทำให้เธอต้องหยุด“อยากร้องไห้จริงๆ …”เธอบ่นกับตัวเองแต่ถึงจะอยากร้องมากแค่ไหนเธอก็ต้องกลืนมันลงไป เธอสัญญาแล้วว่าจะไม่อ่อนแออีก ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอจะไม่ใช้น้ำตาแก้ปัญหาอีกแล้ว ตอนนี้เธอกำลังคิดหาทางออกทางหนึ่งที่เธอคิดได้คือปืนหน้าต่างหนีแต่มันกลับไม่เป็นอย่างหวัง.....เมื่อเธอวิ่งไปมองที่หน้าต่างมองไปเห็นผู้ชายสองสามคนย
“สวัสดีริล” “สวัสดีค่ะคุณอันดา” “มีของมาส่งน่ะ ที่โต๊ะ” “ขอบคุณค่ะ” เช้าวันนี้ริลตื่นมาพบว่าซาตานเมื่อคืนได้หายตัวไปอีกแล้ว แต่มันก็ไม่แปลกสำหรับเธอหรอก เพราะสิ่งที่เขาต้องการจากก็แค่ระบายความใคร่เท่านั้น ไม่น่าเจอกันเลยจริงๆ ถือว่าให้หมามันกินแล้วกัน! “ใครส่งมานะ” ริลสะบัดความคิดแย่ๆ แล้วมาสนใจกล่องพัสดุเล็กๆ ที่ไม่มีชื่อผู้ส่ง เปิดดูข้างในกลับพบว่ามีซองสีชมพูห่อกระดาษอะไรสักอย่างไว้ภายใน O__O!!!! นะ นี่มัน รูป หญิงสาวหน้าชาแล้วรีบถือของสิ่งนั้นเดินเข้าห้องน้ำทันที ก่อนจะหันดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามเธอมาแล้วจริงๆ ….นี่มันอะไรกัน…. ในซองเต็มไปด้วยรูปเปลือยของเธอและเฟร์สเต็มไปหมดภาพมีทั้งมองเห็นใบหน้าและมีถึงขั้นมองเห็นหน้าอกของเธอชัดเจน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เขาทำแบบนี้ทำไม! ตืด… ระหว่างที่กำลังโมโหจนน้ำตาไหล โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อก็สั่นขึ้นเมื่อเธอหยิบมันขึ้นมาดูก็พบว่าชื่อที่แสดงเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก ริลกลืนความโมโหทั้งหมดลงคอไปเพื่อทำตัวให้ปกติที่สุดก่อนจะรับสายนั้น “ฮะ ฮัลโหลค่ะ” (ไง ทำไมไม่แบ่งคนอื่นดูบ้างละ หุ่นสวยๆ ของเธอกับหุ่นล่ำๆ ของฉันน่ะ) “คุณเฟร์ส!!” (ยังจ