ริลถูกพาตัวมายังสถานที่ที่คุ้นเคยบ้านของเฟร์สนั้นเอง เขาลากเธอผ่านหน้าบรรดาแม่บ้านที่มองมายังเธออย่างแปลกใจคงไม่มีใครคิดว่าเธอจะกลับมาที่นี่อีก ริลทั้งดิ้นทั้งพยายามดึงแขนตัวเองออกให้ได้จนมันแดงไปหมดแต่มันก็เสียแรงเปล่า เพราะตอนนี้ริลถูกพามาถึงห้องนอนของเฟร์สเรียบร้อยเขาจัดการปิดประตูขังเธอไว้ด้านในแล้วล็อกประตูปัง! ปัง!“เปิดนะ จะขังฉันไว้แบบนี้ไม่ได้ คนมีงานมีการทำนะ!”“ตะโกนไปก็เท่านั้น อยู่ในนั้นจนกว่าจะคิดได้ว่าไม่ควรมาเก่งกับคนอย่างฉัน”ปัง ปัง“ปล่อยฉันออกไปนะ!”ริลพยายามเคาะประตูเรียกร้องความสนใจจากคนด้านนอกแต่เขากลับเงียบไปเหมือนกับว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว ริลทรุดตัวลงด้วยความเหนื่อย มือที่เคาะประตูอย่างแรงนี้กำลังแดงขึ้นและบวมร้อนจากอาการเจ็บจนทำให้เธอต้องหยุด“อยากร้องไห้จริงๆ …”เธอบ่นกับตัวเองแต่ถึงจะอยากร้องมากแค่ไหนเธอก็ต้องกลืนมันลงไป เธอสัญญาแล้วว่าจะไม่อ่อนแออีก ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอจะไม่ใช้น้ำตาแก้ปัญหาอีกแล้ว ตอนนี้เธอกำลังคิดหาทางออกทางหนึ่งที่เธอคิดได้คือปืนหน้าต่างหนีแต่มันกลับไม่เป็นอย่างหวัง.....เมื่อเธอวิ่งไปมองที่หน้าต่างมองไปเห็นผู้ชายสองสามคนย
…………………“ฉันมีสิ่งที่อยากจะพูดค่ะ….”"ว่ามาสิ”“ฉันช่วยคุณในการดัดนิสัยลูกชายได้ จริงอยู่ที่ฉันเองก็รู้สึกดีกับเขาในบางครั้งแต่ฉันไม่สามารถอยู่กับคนที่เห็นฉันเป็นแค่ที่ระบายความใคร่ได้หรอกค่ะ….ถึงแม้วันหนึ่งเขาจะเปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น....แต่สิ่งที่เขาทำกับฉัน....ฉันไม่เคยลืมและไม่สามารถยอมรับได้จริงๆ”คุณหญิงถอนหายใจยาว ตามที่คิดไว้อยู่แล้วว่าตัวหญิงสาวคงไม่ให้อภัยลูกนิสัยไม่ดีของเธอ แต่ถึงคุณหญิงจะถูกใจตัวริลมากเท่าไหร่แต่ถ้าเจ้าตัวมีอคติต่อกันมากกว่าความรัก เธอก็ต้องยอมรับในการตัดสินใจของผู้หญิงคนนี้“...ฉันรู้ว่าเธอเจ็บ”“ค่ะ เพราะฉันเป็นมนุษย์คนหนึ่งมีความคิดความรู้สึก อย่างน้อยถ้าเขาเจ็บปวดเพราะฉันมันจะทำให้เขาได้รับรู้บ้างว่าสิ่งที่เขาทำเวรกรรมมันจะสนองยังไง เขาจะได้รู้จักกับคำว่าทรมานสะบ้าง ฉันไม่ได้แค้นอะไรมากหรอกนะคะ….แต่ฉันเองก็อยากให้บทเรียนเขาเหมือนกัน”“ถ้าเธอไม่คิดที่จะอยู่กับเขา….ฉันก็ทำอะไรไม่ได้”ฉันอยู่ในร้านอาหารเดิมแต่คู่สนทนาเปลี่ยนไป ต่อหน้าฉันตอนนี้ไม่ใช่คุณหญิงแต่เป็นลิบินและอันดาเจ้านายของฉัน ลิบินจะเป็นคนเชื่อมแผนทุกอย่างโดยเข้าไปขอร้องให้อันดามาช่วยเรื่องนี้
สามวันที่เฟร์สขังตัวเองไว้ในห้องมืดๆ เขาไม่ยอมกินไม่นอนเอาแต่นั่งร้องไห้ด้วยความช็อกกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา ใจเขาเจ็บปวด มันเจ็บจนไม่รู้จะผ่านเวลาแบบนี้ไปได้ยังไง ด้านนอกประตูมีคุณหญิงที่ในใจก็แอบห่วงลูกชายเฝ้าอยู่ไม่ห่างเธอกลัวว่าคนที่ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่างเฟร์สจะคิดทำร้ายตัวเองขึ้นมา“คุณหญิงคะ? คุณเฟร์ส”“ฉันรู้น่า บางครั้ง….การที่เรานั่งสั่งสอนก็ไม่เท่ากับให้เขาได้เจอประสบการณ์จริง สิ่งที่ฉันทำมันอาจจะทำให้ลูกเจ็บนะ...เธออย่าลืมว่าคนเป็นแม่เจ็บกว่าลูก แต่นี่ เป็นสิ่งที่เขาควรได้รับเขาจะได้รู้ว่าการเห็นแก่ตัวมันส่งผลแย่แค่ไหน”คุณหญิงพูดให้ป้าแม่บ้านฟังเป็นการระบายความทุกข์ใจ เธอรู้สึกสงสารลูกมากแต่...เธอก็ต้องทำการใช้แผนนี้มันเสี่ยงมากที่จะทำให้เฟร์สเสียริลไปตลอดการที่ริลได้อยู่คนเดียวถ้าเธอไม่ได้รักเฟร์สจริง โอกาสที่เธอจะใช้เวลานี้ทำใจก็ลืมเรื่องทั้งหมดก็มีมาก“คุณหญิงจะใช้เวลานานขนาดไหนคะ? ถ้าคุณเฟร์สคิดมากจน….”“ฉันก็ไม่รู้หรอก แต่ยังไงก็ช่วยดูเขาตลอดแล้วกัน”“ได้ค่ะ”ระหว่างที่คุณหญิงกำลังจะเดินออกมาเธอก็พบเข้ากับโชนที่แอบยืนฟังอยู่นานแล้ว โชนที่กำลังสับสนกับสิ่งที่ได้ยิ
วันนี้เป็นอีกวันที่หญิงสาวยังคงเดินยื่นเอกสารสมัครงานตามบริษัทต่างๆ โชคดีที่วันนี้ทางบริษัทเพชรพร บริษัทยักษ์ใหญ่เรื่องการนำเข้าจิวเวลรี่เรียกเธอเข้ามาสัมภาษณ์งานโดยเธอแอบหวังเล็กๆ ว่าเธอจะต้องได้ทำงานที่นี่เพราะเธอรู้สึกเหนื่อยล้าและเต็มไปด้วยความสิ้นหวังมานานเหลือเกิน ขืนยังไม่มีงานทำบ้านที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ก่อนท่านเสียคงถูกยึดแน่เพราะนี่ก็จะถึงกำหนดยึดแล้วหญิงสาวยืนสูดหายใจเข้ายาวๆ เป็นการเรียกขวัญกำลังใจก่อนที่มือเรียวจะค่อยๆ เอื้อมไปผลักบานประตูแล้วก้าวเข้าไปด้วยท่าทางมั่นใจแต่เมื่อมองไปยังในห้องกลับไม่พบใครสักคน หญิงสาวจึงเดินไปนั่งรอยังโซฟาตัวยาวอาจเป็นได้ว่าเธอตื่นเต้นจนมาเช้าก่อนเวลาถือว่ามันเป็นการเพิ่มเวลาเตรียมตัวปึกเสียงผลักประตูเรียกความสนใจจากหญิงสาว ภาพตรงหน้าคือผู้หญิงวัยกลางคนที่มีท่าทางสง่างามจนเธอรู้สึกหายใจไม่สะดวกจากท่าทีน่าเกรงขามของคุณผู้หญิงคนนั้น"สวัสดีค่ะ""อืม แนะนำตัวสิ"ผู้หญิงภูมิฐานใส่สร้อยเพชรเส้นโตเดินเข้ามานั่งบนโซฟาตรงข้ามเธอในห้องสัมภาษณ์โดยยังคงใช้สายตาไล่สำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับว่ากำลังไล่ตรวจความเรียบร้อยของการแต่งตัวของเธอยิ่งทำให้เธอต้อ
: เฟร์สชายหนุ่มกำลังนั่งหัวเสียกับแม่ของเขาเองที่เอาแต่โทรตามตั้งแต่ยังไม่ออกจากบริษัทเพื่อให้เขามาพบพวกผู้หญิงที่แม่เลือกมาให้ หากถามทำไมต้องใช้คำว่าพวกน่ะเหรอ ก็มีตั้ง 5 คนเลยน่ะสิ! 4 คนในนั้นชายหนุ่มเองได้รู้จักผ่านๆ ตามงานสังคมมาบ้างแล้วเพราะพวกเธอเป็นลูกคนมีชื่อเสียง อีกคนเขาไม่รู้เลยว่าเธอจะเป็นใครมาจากไหนแต่ยังไงสะก็คงเป็นพวกผู้หญิงเห็นแก่เงินนั่นแหละไม่งั้นจะยอมรับข้อตกลงที่ไม่ต่างจากการขายตัวแบบนี้งั้นเหรอว่าแล้วเขาก็คิดถึงคะน้ากับลิบินแฟนรักขึ้นมา เร็วๆ นี้สองคนนั้นกำลังจะมีงานแต่งชายหนุ่มก็ไม่คิดเลยว่าเพื่อนรักที่นิสัยต่างกันสุดขั้วเรื่องผู้หญิงอย่างลิบินจะรักจริงหวังแต่งขนาดนี้ต่างจากตัวเขาที่คงไม่มีทางหลงรักใครได้แน่นอนเพราะพวกผู้หญิงในสายตาเขาก็เป็นแค่พวกเห็นแก่เงินเท่านั้น"คุณชายค่ะเชิญห้องโถงค่ะ"ป้าแม่บ้านเก่าแก่เห็นเขาปรากฏตัวรีบวิ่งเข้ามาต้อนรับ"ป้าครับ แม่อยู่หรือเปล่า""ไม่อยู่ค่ะ เห็นบอกจะไปอยู่บ้านพักต่างอากาศสักพัก""ดี งั้นผมมีสิทธิ์ที่จะเขี่ยยัยพวกนี้ได้ใช่ไหม""โถคุณคะคุณหญิงแค่อยากให้คุณชายรักใครสักคนอย่างจริงจังคุณชายอายุ 27 แล้วนะคะ""ก็ผมไม่เจอคนที่ใช
หลังจากทุกคนออกไปอย่างไม่เต็มใจก็เหลือเพียงริลและชายหนุ่มที่ทำสงครามเงียบกันอยู่นานสองนาน ก่อนที่เขาจะเริ่มพูดขึ้นมาก่อนเพราะความอึดอัดใจ"ดูตัวเธอไม่เหมือนผู้หญิงที่ขายตัวเลยนะ ทำไมถึงมาอยู่ในข้อตกลงนี่ได้""เพราะเงินค่ะ" เธอตอบไปตามความจริงจนทำให้คนฟังถึงกับนิ่งเงียบเพราะไม่คิดว่าเธอจะยอมรับ"ชัดเจนดี แสดงว่าฉันจะทำอะไรก็ได้ถ้าฉันจ่ายเงินงั้นเหรอ?""ค่ะ" เธอตอบตามความจริงอีกนั้นแกรุ้มกริ่มด้วยคำตอบที่ฟังดูประชดประชันทำให้คนตรงหน้ายิ่งเดินเข้ามาใกล้หญิงสาวเรื่อยๆ จนหน้าเกือบชิดกัน...อะไรเนี่ยเขาจะจูบเธอเหรอ ไม่ได้นะ! ถึงจะไม่ใช่จูบแรกเธอแต่เธอก็ไม่โอเคที่จูบกับคนที่รู้จักกันแค่วันเดียว"หึ! เธอมันไร้ค่า เอาบิลไปแล้วไปซื้อของพวกนี้มาให้ครบก่อนเที่ยง"ชายหนุ่มยื่นบิลให้เธอทำให้ริลรู้สึกโล่งใจไม่น้อยที่เขาไม่ได้คิดจะทำเรื่องอะไรแปลกๆ ริลรับบิลนั้นมาก่อนที่หญิงสาวจะเดินออกมาจากห้องโดยเจอเพื่อนร่วมบ้านอย่างทูน่าที่นั่งโต๊ะทำงานของเลขาของคุณเฟร์ส ทูน่ามองไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วทำหน้ารังเกียจจนออกนอกหน้าทำให้ริลแอบรู้สึกถึงการแบ่งชนชั้นได้ชัดเจน เฮ้อ...เธอมันไร้ค่าจริงๆ นั้นแหละ เอาน่าร
"ไปไหนมา..."ริลกลับเข้าบ้านมาเวลาเกือบเที่ยงคืนหลังจากไปดูหนังกับโชน โดยไม่คิดว่าเธอเข้าบ้านดึกขนาดนี้จะยังเจอเฟร์สที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ตรงโถงรับแขกด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์"ไปทานข้าวกับเพื่อนมาค่ะ"ริลตอบเสียงเรียบและยังคงไม่มองหน้าคนถามตรงๆ ทำเอาชายหนุ่มต้องพ่นลมหายใจออกแรงๆ เพื่อพยายามข่มไฟโกรธในใจ"เพื่อน? คงอร่อยมากเลยสินะถึงได้ใช้เวลาหลายชั่วโมง เสร็จไปกี่ครั้งละ""พูดอะไรของคุณ ไร้สาระ"หญิงสาวพูดก่อนจะเดินหนีขึ้นมาบนห้องเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มคุยไม่รู้เรื่องเสียแล้ว แต่เดินหนีมาได้ไม่นานร่างสูงก็เดินเข้ามาคว้าข้อมือเธอไว้ด้วยความโมโหแล้วจับคนตัวเล็กตรึงกับผนังอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง แต่เขาไม่ได้สนใจว่าผู้หญิงคนนี้จะเจ็บปวดหรือไม่เขาออกแรงบีบข้อมือเล็กจนเธอรู้สึกเจ็บจนน้ำตาซึม"ฉันซื้อเธอมา เธอก็ควรจะรู้ว่าตัวเองเป็นสมบัติของใครไม่ใช่ทำตัวแรดไปไหนต่อไหนกับคนอื่นแบบนี้หัดมียางอายสะบาง นั้นน่ะรุ่นน้องฉันนะ""รุ่นน้องคุณแต่เขาก็เป็นรุ่นพี่ฉันเหมือนกัน แล้วมันจะแปลกอะไรถ้าคนรู้จักกันไปกินข้าวด้วยกัน""กินข้าว? เหอะ! คิดว่าฉันโง่หรือไง? อย่ามาจับน้องฉันให้ยากเธอมันก็แค่ของเล่นไร้ค่า""
หญิงสาวเดินลงมาร่วมโต๊ะเป็นคนสุดท้ายโดยมีผู้หญิงทั้ง 4 คนมองมายังเธอด้วยสายตาไม่พอใจนัก ก็แน่ละอยู่ๆ ผู้ชายที่อยากได้เป็นสามีกลับมานอนห้องของผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเทียบเท่าพวกเธอได้สักนิดเดียวความรู้สึกของพวกเธอมันคงไม่ต่างกับการถูกทำให้เสียหน้า ชั่วพริบตาสายตาเธออ่อนบังเอิญสบตาเข้ากับสายตาของซาตานเมื่อคืนซึ่งเขาเองก็กำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาคมกริบแต่มันกลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่าและเฉยชา เรื่องเมื่อคืนคงจะไม่มีค่าอะไรกับคนอย่างเขาเพราะในสายตาเขาเธอเป็นแค่ผู้หญิงไร้ค่าเห็นแก่เงินเท่านั้น"สมใจแล้วสินะ...เขานอนกับเธอใช้ว่าเธอจะมีค่าอะไรกับเขา ผู้หญิงอย่างเธอก็แค่ของเล่นพวกฉันไม่ถือหรอกนะของเล่นมันก็เป็นของเล่นอยู่วันยังค่ำ"โมอาพูดขึ้นทันทีที่หญิงสาวนั่งลงร่วมโต๊ะอาหารสิ่งที่เธอพูดมานั้นมันเหมือนมีดที่ปักลงกลางใจ แต่หญิงสาวกลับโต้ตอบอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย....เพราะสิ่งที่พูดมามันเป็นความจริงทั้งหมดจนไม่สามารถหาข้อแก้ตัวได้ริลได้แต่นั่งก้มหน้าตลอดเวลาที่ทานข้าวเพราะไม่อยากจะเห็นสายตาดูถูกพวกนั้นรวมไปถึงสายตาเย็นชาของคนคนนั้นด้วย..โลกความเป็นจริงมันโหดร้ายอย่างนี้เองสินะ เข้าใจแล้ว...เข้าใจ
สามวันที่เฟร์สขังตัวเองไว้ในห้องมืดๆ เขาไม่ยอมกินไม่นอนเอาแต่นั่งร้องไห้ด้วยความช็อกกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา ใจเขาเจ็บปวด มันเจ็บจนไม่รู้จะผ่านเวลาแบบนี้ไปได้ยังไง ด้านนอกประตูมีคุณหญิงที่ในใจก็แอบห่วงลูกชายเฝ้าอยู่ไม่ห่างเธอกลัวว่าคนที่ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่างเฟร์สจะคิดทำร้ายตัวเองขึ้นมา“คุณหญิงคะ? คุณเฟร์ส”“ฉันรู้น่า บางครั้ง….การที่เรานั่งสั่งสอนก็ไม่เท่ากับให้เขาได้เจอประสบการณ์จริง สิ่งที่ฉันทำมันอาจจะทำให้ลูกเจ็บนะ...เธออย่าลืมว่าคนเป็นแม่เจ็บกว่าลูก แต่นี่ เป็นสิ่งที่เขาควรได้รับเขาจะได้รู้ว่าการเห็นแก่ตัวมันส่งผลแย่แค่ไหน”คุณหญิงพูดให้ป้าแม่บ้านฟังเป็นการระบายความทุกข์ใจ เธอรู้สึกสงสารลูกมากแต่...เธอก็ต้องทำการใช้แผนนี้มันเสี่ยงมากที่จะทำให้เฟร์สเสียริลไปตลอดการที่ริลได้อยู่คนเดียวถ้าเธอไม่ได้รักเฟร์สจริง โอกาสที่เธอจะใช้เวลานี้ทำใจก็ลืมเรื่องทั้งหมดก็มีมาก“คุณหญิงจะใช้เวลานานขนาดไหนคะ? ถ้าคุณเฟร์สคิดมากจน….”“ฉันก็ไม่รู้หรอก แต่ยังไงก็ช่วยดูเขาตลอดแล้วกัน”“ได้ค่ะ”ระหว่างที่คุณหญิงกำลังจะเดินออกมาเธอก็พบเข้ากับโชนที่แอบยืนฟังอยู่นานแล้ว โชนที่กำลังสับสนกับสิ่งที่ได้ยิ
…………………“ฉันมีสิ่งที่อยากจะพูดค่ะ….”"ว่ามาสิ”“ฉันช่วยคุณในการดัดนิสัยลูกชายได้ จริงอยู่ที่ฉันเองก็รู้สึกดีกับเขาในบางครั้งแต่ฉันไม่สามารถอยู่กับคนที่เห็นฉันเป็นแค่ที่ระบายความใคร่ได้หรอกค่ะ….ถึงแม้วันหนึ่งเขาจะเปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น....แต่สิ่งที่เขาทำกับฉัน....ฉันไม่เคยลืมและไม่สามารถยอมรับได้จริงๆ”คุณหญิงถอนหายใจยาว ตามที่คิดไว้อยู่แล้วว่าตัวหญิงสาวคงไม่ให้อภัยลูกนิสัยไม่ดีของเธอ แต่ถึงคุณหญิงจะถูกใจตัวริลมากเท่าไหร่แต่ถ้าเจ้าตัวมีอคติต่อกันมากกว่าความรัก เธอก็ต้องยอมรับในการตัดสินใจของผู้หญิงคนนี้“...ฉันรู้ว่าเธอเจ็บ”“ค่ะ เพราะฉันเป็นมนุษย์คนหนึ่งมีความคิดความรู้สึก อย่างน้อยถ้าเขาเจ็บปวดเพราะฉันมันจะทำให้เขาได้รับรู้บ้างว่าสิ่งที่เขาทำเวรกรรมมันจะสนองยังไง เขาจะได้รู้จักกับคำว่าทรมานสะบ้าง ฉันไม่ได้แค้นอะไรมากหรอกนะคะ….แต่ฉันเองก็อยากให้บทเรียนเขาเหมือนกัน”“ถ้าเธอไม่คิดที่จะอยู่กับเขา….ฉันก็ทำอะไรไม่ได้”ฉันอยู่ในร้านอาหารเดิมแต่คู่สนทนาเปลี่ยนไป ต่อหน้าฉันตอนนี้ไม่ใช่คุณหญิงแต่เป็นลิบินและอันดาเจ้านายของฉัน ลิบินจะเป็นคนเชื่อมแผนทุกอย่างโดยเข้าไปขอร้องให้อันดามาช่วยเรื่องนี้
ริลถูกพาตัวมายังสถานที่ที่คุ้นเคยบ้านของเฟร์สนั้นเอง เขาลากเธอผ่านหน้าบรรดาแม่บ้านที่มองมายังเธออย่างแปลกใจคงไม่มีใครคิดว่าเธอจะกลับมาที่นี่อีก ริลทั้งดิ้นทั้งพยายามดึงแขนตัวเองออกให้ได้จนมันแดงไปหมดแต่มันก็เสียแรงเปล่า เพราะตอนนี้ริลถูกพามาถึงห้องนอนของเฟร์สเรียบร้อยเขาจัดการปิดประตูขังเธอไว้ด้านในแล้วล็อกประตูปัง! ปัง!“เปิดนะ จะขังฉันไว้แบบนี้ไม่ได้ คนมีงานมีการทำนะ!”“ตะโกนไปก็เท่านั้น อยู่ในนั้นจนกว่าจะคิดได้ว่าไม่ควรมาเก่งกับคนอย่างฉัน”ปัง ปัง“ปล่อยฉันออกไปนะ!”ริลพยายามเคาะประตูเรียกร้องความสนใจจากคนด้านนอกแต่เขากลับเงียบไปเหมือนกับว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว ริลทรุดตัวลงด้วยความเหนื่อย มือที่เคาะประตูอย่างแรงนี้กำลังแดงขึ้นและบวมร้อนจากอาการเจ็บจนทำให้เธอต้องหยุด“อยากร้องไห้จริงๆ …”เธอบ่นกับตัวเองแต่ถึงจะอยากร้องมากแค่ไหนเธอก็ต้องกลืนมันลงไป เธอสัญญาแล้วว่าจะไม่อ่อนแออีก ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอจะไม่ใช้น้ำตาแก้ปัญหาอีกแล้ว ตอนนี้เธอกำลังคิดหาทางออกทางหนึ่งที่เธอคิดได้คือปืนหน้าต่างหนีแต่มันกลับไม่เป็นอย่างหวัง.....เมื่อเธอวิ่งไปมองที่หน้าต่างมองไปเห็นผู้ชายสองสามคนย
“สวัสดีริล” “สวัสดีค่ะคุณอันดา” “มีของมาส่งน่ะ ที่โต๊ะ” “ขอบคุณค่ะ” เช้าวันนี้ริลตื่นมาพบว่าซาตานเมื่อคืนได้หายตัวไปอีกแล้ว แต่มันก็ไม่แปลกสำหรับเธอหรอก เพราะสิ่งที่เขาต้องการจากก็แค่ระบายความใคร่เท่านั้น ไม่น่าเจอกันเลยจริงๆ ถือว่าให้หมามันกินแล้วกัน! “ใครส่งมานะ” ริลสะบัดความคิดแย่ๆ แล้วมาสนใจกล่องพัสดุเล็กๆ ที่ไม่มีชื่อผู้ส่ง เปิดดูข้างในกลับพบว่ามีซองสีชมพูห่อกระดาษอะไรสักอย่างไว้ภายใน O__O!!!! นะ นี่มัน รูป หญิงสาวหน้าชาแล้วรีบถือของสิ่งนั้นเดินเข้าห้องน้ำทันที ก่อนจะหันดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามเธอมาแล้วจริงๆ ….นี่มันอะไรกัน…. ในซองเต็มไปด้วยรูปเปลือยของเธอและเฟร์สเต็มไปหมดภาพมีทั้งมองเห็นใบหน้าและมีถึงขั้นมองเห็นหน้าอกของเธอชัดเจน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เขาทำแบบนี้ทำไม! ตืด… ระหว่างที่กำลังโมโหจนน้ำตาไหล โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อก็สั่นขึ้นเมื่อเธอหยิบมันขึ้นมาดูก็พบว่าชื่อที่แสดงเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก ริลกลืนความโมโหทั้งหมดลงคอไปเพื่อทำตัวให้ปกติที่สุดก่อนจะรับสายนั้น “ฮะ ฮัลโหลค่ะ” (ไง ทำไมไม่แบ่งคนอื่นดูบ้างละ หุ่นสวยๆ ของเธอกับหุ่นล่ำๆ ของฉันน่ะ) “คุณเฟร์ส!!” (ยังจ
ค่ำของวันถัดมาในโรงแรมหรูระดับต้นๆ ของประเทศภายในห้องจัดงานถูกตกแต่งไปด้วยดอกไม้สีชมพูอ่อนนานาชนิด แขกในงานต่างพากันแต่งตัวเต็มไปด้วยเครื่องเพชรราคาแพง เพียงแค่มองบรรยากาศผ่านๆ ก็ยังรู้ได้ทันทีว่านี่มันงานของคนใหญ่คนโต แต่ริลแอบแปลกใจที่อันดาไม่ได้แวะทักใครเลยสักคนซึ่งต่างจากคนอื่นในงานเขากลับเดินตรงไปหาเจ้าภาพงานอย่างกับในสถานที่นี้ไม่มีคนที่เขารู้จักแต่เมื่อหญิงสาวได้เจอกับคนที่อันดาต้องการมาอวยพร….ริลก็ได้แต่อึ้งเมื่อเห็นหน้าเจ้าบ่าวเจ้าสาว นี่มันคะน้ากับลิบินเพื่อนของคนที่ทำเธอเจ็บใจจนถึงทุกวันนี้ด้านคะน้าและลิบินก็มีท่าทีอึ้งไปไม่ต่างกันที่อยู่ๆ ก็เห็นริลมาปรากฏตัวต่อหน้าถึงในงาน"ยินดีด้วยเว้ยลิบินเพื่อนรัก""บินกลับมาอยู่ยาวเลยปะวะ"ลิบินถามเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานด้วยน้ำเสียงเครียดใจอยากรู้ว่าไอ้เจ้าเพื่อนกับเมียของเพื่อนเขานี่ทำไมถึงมาด้วยกันได้ สายตาก็ยังคงเฝ้ามองชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งอีกคนที่เมาหัวราน้ำไปตั้งแต่งานยังไม่เริ่มนั้นจะมองมาเห็นเมียตัวเองควงคู่กับชายอื่น ถ้าเป็นแบบนั้นไม่วายเพื่อนรักจะอาละวาดจนงานพัง"ก็อยู่ยาว พ่อให้รับช่วงละวะไปไหนไม่ได้""อ่อ แล้วเอิ่ม....แ
“พี่กลับไปก่อนเถอะ….”ริลพูดเมื่อโชนทำท่าจะเดินตามเธอเข้ามาในบ้าน ชั่วโมงนี้สมองเธอไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้นทุกอย่างมันมืดไปหมดเธอกำลังรู้สึกเสียใจจนอย่างจะอยู่คนเดียว เธอเสียใจที่เฟร์ส....ทำเหมือนทุกอย่างมันเป็นแค่ฝัน ทำเหมือนที่ผ่านมามันเป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้น“ริลลืมมันเถอะนะ แล้วเริ่มต้นใหม่กับพี่...นะ”“ริลไม่ใช่ผู้หญิงที่มีคุณค่าอีกแล้ว….ไม่ใช่เลย”ฟืบโชนดึงริลเข้าไปกอดแล้วลูบหลังเธอเชิงปลอบเบาๆ เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดผ่านน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่อายนี้ แต่เขาเลือกที่จะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเพราะไม่อยากตอกย้ำริลให้รู้สึกแย่ลงไปมากกว่าเดิม“พี่กลับไปเถอะ ริลอยากอยู่คนเดียว ริล...โคตรพัง ชีวิตริลตอนนี้มัน...ไร้ค่าจนริลรังเกียจตัวเอง รู้ทั้งรู้แต่ริลยังยอม ริลโคตรไร้ค่าเลย”“....ริล”“ริลแม่งเอาตัวเองลงนรก แม่งเลือกทางเดินให้ตัวเองแท้ๆ เลือกทำลายคุณค่าของตัวเองจนไม่เหลือเพียงเพราะหวังการกระทำดีๆ จากผู้ชายแบบนั้น แม่งโคตรโง่”ริลกลอกตาและพรั่งพรูพูดออกมาด้วยความโกรธที่สุดในชีวิต เธอโกรธและเกลียดตัวเองจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ ตลอดทางกลับมาบ้านเธอนั่งคิดมาตลอดว่าทำไมเธอถึงย
: โชนเขามานั่งรอริลที่บ้านของเฟร์สเป็นวันที่สองแล้วจึงรู้ว่าทั้งสองคนไม่กลับมาที่บ้านจนถึงตอนนี้ทำให้เขาอดกังวลไม่ได้ว่าเฟร์สจะทำร้ายริลเข้า ถึงเขาจะดูเหมือนมีความรู้สึกดีกับริลแต่ใช่ว่าคนเจ้าอารมณ์แบบนั้นจะไว้ใจได้“คุณโชนคะ คือ...คุณหญิงให้เรียกว่าวันนี้คุณเฟร์สกับคุณริลก็คงยังไม่กลับคุณโชนจะรอต่ออีกเหรอคะ”เมื่อฟังที่แม่บ้านพูดจบสายตาโชนก็ไปสะดุดเข้ากับร่างหญิงวัยกลางคนที่กำลังมองมาที่เขาเช่นกัน คุณหญิงยื่นกอดอกมองโชนอย่างชั่งใจ เธอแอบคิดว่าทำไมเด็กริลนั้นถึงทำให้โชนกับเฟร์สที่สนิทกันมากกลายเป็นแบบนี้กันไปได้ นี่มันความผิดพลาดชัดๆ“คุณป้าครับ…”โชนพูดพร้อมเดินขึ้นไปหยุดอยู่ตรงหน้าคุณหญิง ก่อนจะคุกเข่าลง“ทำอะไรน่ะลุกขึ้นมานะ”“ริล ไม่ใช่ผู้หญิงที่ควรมานั่งเสียใจเพราะความเจ้าชู้ของพี่เฟร์สเธอเป็นเด็กดีและไร้เดียงสา ผมขอละนะครับคืนริลให้กลับผม”คุณหญิงตกใจจนเผลอขยับออกห่างเธอรับรู้เรื่องราวของโชนกับริลมาบ้างและคิดว่าริลเป็นฝ่ายหลงรักโชนข้างเดียวมาตลอดไม่คิดว่าโชนเองก็มีใจให้ริลไม่น้อย และตอนนี้เธอไม่รู้จะทำยังไงเพราะลูกชายตัวเองก็ออกอาการสนใจริลกว่าคนที่เคยผ่านๆ มา“...ฉันไม่คิดว่าเ
หือ… อือฮือออ ริลลืมตาตื่นขึ้นพบว่าตอนนี้ตัวเองได้อยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเสียงคลื่นทะเลที่ดังเข้าหูทำให้เริ่มคิดได้ว่าไอ้คุณเฟร์สคงคิดอะไรบ้าๆ อีกแล้ว ตานี่ไม่เคยคิดจะทำงานทำการเลยให้ตายเถอะ ว่าแต่...ทำไมรู้สึกอึดอัด แปลก ๆ นะปากก็ขยับไม่ได้“อืออออ อือออ”เมื่อรู้สาเหตุของความอึดอัด ริลพยายามพูดเพื่อเรียกร้องความสนใจจากชายที่กำลังนอนอ่านหนังสือสบายใจแต่กลับมัดเธอไว้ติดเตียง“ฮะ อ้าว นึกว่าเสียงอะไรที่แท้ก็เมียจ๋านี่เอง”“อัยย๊า (ไอ้บ้า) ” ริลเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาไม่เคารงเคารพมันแล้วอีตานี้ ริลมองเฟร์สตาโตด้วยความไม่พอใจแต่เฟร์สกับมีท่าที่อารมณ์ดีเดินเข้ามาลูบหัวเธอเบาๆ อย่างหยอกล้อก่อนที่จะแทรกตัวลงข้างๆ กายเมียสาวแล้วกอดเธอไว้“ฮ๊าาา รู้สึกดีจังที่เธอนอนให้กอดนิ่งๆ แบบนี้ น่ารักน่าฟัด”“ฮ๊ายยย!!”ริลดิ้นท่าทางไม่ต่างจากปลาที่โดนจับขึ้นจากน้ำหวังให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการแต่ดิ้นเท่าไหร่คนตัวสูงก็ยิ่งกอดเธอแน่น“ทำตัวดีๆ สิจร้ะ”“งือออ >”“อยากให้เอาเทปออกให้ไหม”“อือออออ”“อาเค”ว๊ากกก“โอ๊ยยยย!”เฟร์สกระชากเทปกาวออกอย่างแรงเป็นการแก้แค้นที่เมียดันไปทำท่ามีเยื่อใยต่อชายอื่น โดยที่เข
“พี่โชน…”“ริล ปล่อยสิโว้ย!”โชนพยายามสะบัดตัวออกจากการจับกุมแต่ด้วยแรงของยามหนุ่มสองคนทำให้เขาไม่สามารถหลุดออกไปได้ โชนโดยลากออกไป ริลที่ทำอะไรไม่ได้ได้แต่เจ็บใจและรู้สึกโกรธชายหนุ่มข้างกายจนต้องขบฟันกรามแน่น...เธอรู้สึกเกลียดเฟร์สมากเลยละอยู่ๆ เฟร์สก็กระชากแขนริลลากเข้าไปในห้องลองเสื้อและใช้ท่อนแขนแกร่งดันผนังกันเธอไว้ไม่ให้สามารถหนีไปไหนได้ ส่วนมือหนาอีกข้างก็บีบเข้าที่แก้มนุ่มอย่างแรงจนคนถูกบีบเกิดอาการเจ็บจนริลไม่สามารถหันหนีไปทางไหนได้“อย่าหลบตาฉัน…”“.....”“ฉันบอกให้สบตาฉัน!!”ชายหนุ่มตะคอกเสียงดังลั่นทำให้ริลต้องหันมามองจ้องเข้าไปในดวงตาคมกริบนั้นตามคำสั่ง ภาพที่เธอเห็นมันมัวไปด้วยม่านน้ำตา ในใจตัดพ้อถึงความโชคร้ายที่ทำให้เธอมาเจอปีศาจตนนี้ ถ้าเป็นไปได้เธออยากจะตายไปสะตอนนี้เลยด้วยซ้ำ“เฟร์ส ปล่อยริลนะอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ!”เสียงคะน้าที่พยายามห้ามดังมาจากด้านนอกแต่ก็ไม่สามารถทำให้เฟร์สรู้สึกเย็นลงได้เลย เขาเอาแต่จ้องตาเมียสาวนิ่งอย่างหาคำตอบ ว่าทำไมเธอปกป้องคนอื่นนักทั้งๆ ที่เขาก็มีให้เธอทุกอย่างและที่สำคัญเขาก็มีสถานะเป็นผัวแต่ดูเมียเขาสิร้องเรียกผู้ชายคนอื่นต่อหน้า“คะน้า..