หลังจากทุกคนออกไปอย่างไม่เต็มใจก็เหลือเพียงริลและชายหนุ่มที่ทำสงครามเงียบกันอยู่นานสองนาน ก่อนที่เขาจะเริ่มพูดขึ้นมาก่อนเพราะความอึดอัดใจ
"ดูตัวเธอไม่เหมือนผู้หญิงที่ขายตัวเลยนะ ทำไมถึงมาอยู่ในข้อตกลงนี่ได้" "เพราะเงินค่ะ" เธอตอบไปตามความจริงจนทำให้คนฟังถึงกับนิ่งเงียบเพราะไม่คิดว่าเธอจะยอมรับ "ชัดเจนดี แสดงว่าฉันจะทำอะไรก็ได้ถ้าฉันจ่ายเงินงั้นเหรอ?" "ค่ะ" เธอตอบตามความจริงอีกนั้นแกรุ้มกริ่มด้วยคำตอบที่ฟังดูประชดประชันทำให้คนตรงหน้ายิ่งเดินเข้ามาใกล้หญิงสาวเรื่อยๆ จนหน้าเกือบชิดกัน ...อะไรเนี่ยเขาจะจูบเธอเหรอ ไม่ได้นะ! ถึงจะไม่ใช่จูบแรกเธอแต่เธอก็ไม่โอเคที่จูบกับคนที่รู้จักกันแค่วันเดียว "หึ! เธอมันไร้ค่า เอาบิลไปแล้วไปซื้อของพวกนี้มาให้ครบก่อนเที่ยง" ชายหนุ่มยื่นบิลให้เธอทำให้ริลรู้สึกโล่งใจไม่น้อยที่เขาไม่ได้คิดจะทำเรื่องอะไรแปลกๆ ริลรับบิลนั้นมาก่อนที่หญิงสาวจะเดินออกมาจากห้องโดยเจอเพื่อนร่วมบ้านอย่างทูน่าที่นั่งโต๊ะทำงานของเลขาของคุณเฟร์ส ทูน่ามองไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วทำหน้ารังเกียจจนออกนอกหน้าทำให้ริลแอบรู้สึกถึงการแบ่งชนชั้นได้ชัดเจน เฮ้อ...เธอมันไร้ค่าจริงๆ นั้นแหละ เอาน่าริลอดทนให้เรื่องนี้มันผ่านไปนะ แค่สองเดือนเธอจะมีบ้านมีทุนเลี้ยงดูตัวเอง เธอได้เพียงแต่คิดในใจแล้วก้มหน้าอดทนต่อไปว่าแต่เขาให้ฉันซื้ออะไรบ้างนะ... -ถุงยางอนามัย 5 แพ็ก -เจลหล่อลื่น 5 แพ็ก "เห้ยยยย บ้าไปแล้ว!!! ฉันต้องไปซื้อของพวกนี้เหรอเนี่ยเขาเอาไปทำอะไรนักหนา โอ๊ยยยย จะบ้าตาย " หญิงสาวได้แต่ตีอกชกต่อยตัวเองไปเรื่อยที่ยอมรับข้อตกลงบ้าๆ นี่ สุดท้ายก็ได้แต่ทำใจยอมรับสิ่งที่ตัวเองเลือกจนเดินใจลอยมาถึงร้านเภสัชที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัทเท่าไรนักเพราะสุดท้ายถึงเธอไม่พอใจก็ได้แต่ทนให้มันจบไป ริลถอนหายใจยาวแล้วดันประตูเข้าไปในร้านเภสัชโดยที่เธอยังคงกล้าๆ กลัวๆ ที่จะแจ้งความต้องการของตัวเองต่อเภสัชสาวที่กำลังจ้องเธออยู่ด้วยความเตรียมพร้อมที่จะบริการ "เอิ่ม...." "รับอะไรดีคะ?" "ซะ ซื้อถุงยางอนามัย 5 แพ็กค่ะ" "เอาแบบคละกันหรือแบบธรรมดาอย่างเดียวค่ะ" ....ถุงยางมีคละกันด้วยเหรอ? เขาก็ไม่ได้สั่งไว้ด้วยสิ... "เอิ่ม เอาคละกันก็ได้ค่ะ แล้วก็เจลหล่อลื่นอีก 5 แพ็ก" "โห กะซื้อใช้ยาวเลยเหรอคะ"เภสัชสาวสวยยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะก้มไปเตรียมของตามออเดอร์ที่ได้รับทำเอาริลที่ยืนรออยู่หน้าแดงก่ำทั้งเขินทั้งอายจนอยากจะมุดดินหนี "ไม่ทราบเหมือนกันค่ะพอดี ดิฉันมาซื้อให้เจ้านาย" "เจ้านายคุณนี่น่ากลัวจังเลยนะคะ...คงเจ้าชู้น่าดู" "ค่ะ แฮร่" เมื่อได้รับของและจ่ายเงินเรียบร้อยริลจึงมุ่งหน้ากลับมาที่บริษัททันทีระหว่างทางกลับเธอทั้งบ่นทั้งด่าเจ้านายลับหลังเพราะรู้ดีว่าเขาต้องจงใจแกล้งเธอแน่นอน เมื่อถึงหน้าลิฟต์หญิงสาวได้แต่ใช้เสื้อแขนยาวห่อถุงไว้ไม่ให้ใครเห็นด้วยความที่ร้านไม่มีถุงสีอื่นนอกจากสีใสเธอเลยจำใจจะต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น ตึง! "คุณค่ะรอด้วยค่ะ" หญิงสาวรีบวิ่งเข้าลิฟต์อย่ารวดเร็วเมื่อเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้าลิฟต์ไปก่อนเธอ เมื่อริลเข้ามาในลิฟต์กลับรู้สึกว่าคนตัวสูงข้างๆ เธอนั้นหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับรุ่นพี่ที่เธอแอบชอบตอนเรียนมหาวิทยาลัยและเมื่อเธอสังเกตดูท่าทางแล้วก็ต้องตกใจเพราะชายคนนี้คือคนที่เธอเคยชอบจริงๆ และตอนนี้เขาเองก็กำลังมองใบหน้าเธอผ่านการสะท้อนของผนังลิฟต์อยู่เช่นกัน "คุณ...หน้าคุ้นๆ นะครับ" "ละ เหรอคะ" หญิงสาวก้มหน้าดัดเสียงให้เล็กที่สุดเพื่อไม่ให้คนตัวสูงสงสัยว่าเธอเป็นใครขืนพูดออกมาเขาต้องจำเสียงเธอได้แน่ ให้ตายเถอะทำไมเขาต้องลงชั้นเดียวกันด้วย กดลงอีกชั้นแล้วค่อยวิ่งไปดีกว่า ตอนนี้แหละ ... "ช่วยกดเปิดหน่อยค่ะ" "โอเคครับ" โชนรุ่นพี่คณะบริหารที่ริลแอบชอบมาสามปีทั้งคู่ห่างหายกันมานานจนไม่คิดว่าจะกลับมาเจอกันด้วยซ้ำ เขาทำงานที่นี่งั้นเหรออย่างนี้เธอคงต้องแอบไปตรวจดูเสียแล้วจะได้ไปแอบดูเป็นกำลังใจ "เดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คงดีใจที่ได้ใกล้ชิดพี่เฟร์สละสิ"ระหว่างทางเข้าห้องทำงานเสียงคุ้นหูก็ดังขึ้น ริลได้แต่กลอกสายตาไปมาด้วยความเบื่อหน่าย ...เฮ้อ...ทูน่า ชื่อก็เป็นปลาแต่ทำไมจิกกัดเหมือนไก่... "ไม่ได้ยิ้มเพราะคุณเฟร์สหรอกค่ะ ขอตัวนะคะ"หญิงสาวสวนกลับก่อนจะทำเมนไม่มองใบหน้าสาวสวยที่กำลังโมโหสุดขีด "รีบเสนอหน้าจังเลยนะ" "ก็ดีกว่าคนที่พยายามจะเสนอแต่ผู้ชายไม่สนอง" หญิงสาวตั้งใจตอบกลับให้ทูน่าโมโหเล่น เอาให้รู้ไปว่าเธอก็ตอบโต้คนเป็นเธอทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มหวานก่อนจะกลอกตาใส่สาวเจ้าไปหนึ่งทีแล้วเดินเข้าห้องทำงานไป แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องตกใจเมื่อเธอสบตาเข้ากับร่างสูงโปร่งที่เธอเพิ่งจะหนีมา เขาคือโชนคนที่เธอแอบนักและเขากำลังนั่งคุยอยู่กับเฟร์สในห้องนี้! พรึบ! ของในมือตกกระจายจนทำให้โชนต้องวิ่งมาช่วยเก็บเขาหยิบกล่องถุงยางขึ้นมาดูอย่างงุนงงจนคิ้วขมวดก่อนที่จะหันมามองหน้าหญิงสาวชัดๆ แล้วระบายยิ้มอบอุ่นออกมา ....แต่ในเวลานี้หญิงสาวไม่มีหน้าไปสู้สายตาโชนจนต้องก้มหน้านิ่ง ...เขาจะคิดยังไงกับผู้หญิงที่มีเจลหล่อลื่นกับถุงยางในมือถึงอย่างละ 5 แพ็กเชียวนะ... "ริล?" จนได้เขาจำเธอได้ "แฮ่ๆ ริลเองค่ะ"ริลเงยหน้าขึ้นเมื่อถูกเรียกชื่อออกมาเต็มเต็ง "ทำงานที่นี่เหรอแล้วของพวกนี้คือ.?" "ริลเพิ่งทำวันนี้น่ะค่ะ คุณเฟร์สเขาคงแกล้งริล" "ฮ่าๆๆ พี่เข้าใจพี่เฟร์สเขาก็อย่างนี้แหละ"โชนระบายยิ้มอบอุ่นก่อนจะช่วยหยิบกล่องถุงยางอนามัยใส่เข้าไปในถุงพลาสติกให้หญิงสาวแล้วยื่นมาให้เธอตามเดิม "พี่โชนรู้จักคุณเฟร์สด้วยเหรอคะ" "ใช้แล้วเราสนิทกัน เพราะเราเจอกับตามงานสังคมบ่อยน่ะ" "แล้ว...." "ไม่ไปเปิดห้องคุยกันเลยละ...ได้ครบแล้วก็รีบเอามาให้ฉันสิ" ยังไม่ทันที่ริลจะพูดถามไถ่ให้จบประโยค เฟร์สที่นั่งมองอยู่นานส่งเสียงดังด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดขึ้นขัด ก่อนที่หญิงสาวที่ถูกขัดจังหวะจะเอาถุงไปวางข้างๆ โต๊ะเขา แล้วเดินออกมานั่งที่โต๊ะทำงานตัวเอง "พี่เฟร์สโชคดีจังที่ได้ลูกน้องแบบริล ผมน่ะ อยากได้บ้าง" โชนมองใบหน้าริลพร้อมส่งยิ้มหวานมาทางหญิงสาวจนเธอเขินแทบละลายเป็นน้ำให้รู้แล้วรู้รอด เมื่อก่อนถ้าไม่ติดว่าเขามีแฟนคลับเยอะจนเธอไม่กล้าบอกรักเขาป่านนี้คงได้บอกความรู้สึกที่มีไปแล้วละ "ไม่รู้ว่าแม่ฉันไปซื้อมาเท่าไหร่" "ซื้อ...? หมายความว่าไง" โชนชะงักเมื่อถูกคนเป็นรุ่นพี่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด และประโยคเมื่อครู่ทำให้สีหน้าของริลซีดไปจนไม่มีสี "ยัยนี่เป็นหนึ่งในว่าที่คู่หมั้นฉัน น่ารำคาญ" เฟร์สจิกตามองหญิงสาวก่อนจะกลอกตาเหมือนเขารำคาญมากจนไม่อยากเห็นเธอ "หวา...ตอนนี้ผมโสดอยู่ด้วยแถมได้เจอคนตรงใจที่ตามหา" หญิงสาวรู้สึกเหมือนชายหนุ่มผู้อบอุ่นกำลังจีบเธอเข้าเต็มๆ แต่ตอนนี้เธอก็ยังคงทำอะไรไม่ได้เพราะต้องมาติดสัญญาบ้าๆ นั้นจึงได้แต่ยิ้มแห้งส่งให้คนตรงหน้าไป "เลิกพูดคำบ้าๆ กลับไปได้แล้วฉันต้องทำงาน" "ไล่น้องเชียวนะ" "รำคาญ" เฟร์สพูดก่อนจะทำท่าก้มหน้าทำงานต่อ โชนเดินมาหาหญิงสาวอีกครั้งก่อนที่จะวางนามบัตรบนโต๊ะแล้วส่งสัญญาณว่าให้เธอโทรหา พอโชนเดินออกจากห้องไปริลก็รีบเอามือถือออกมากดเบอร์โทรเข้าไปยังมือถือโชนทันทีด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ มันเป็นเรื่องราวกับความฝันเมื่อคนที่ชอบเขากำลังทำท่าจะจีบเธอเข้าแล้ว ปรือ! "เห้ย!!" เฟร์สที่มายืนพิงโต๊ะทำงานเธออยู่ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ถือวิสาสะดึงมือถือของหญิงสาวออกจากมือแล้วกดวางทันที "ทำหน้าไม่พอใจคืออะไร? แปลกดีเนอะเจอไอ้โชนแล้วเป็นคนละคนดี๊ด๊าจนตัวสั่นไปหมด" เธอนิ่งแล้วมองเขาด้วยหางตาอย่างไม่พอใจ และเหมือนเขาจะมีท่าทีโกรธมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก เมื่อเธอทำท่าทีไม่สนใจแล้วหันนั่งเปิดคอมทำงานโดยที่เขายังพูดไม่จบเสียด้วยซ้ำ "เหอะ! เธอตั้งใจกวนประสาทฉันสินะยัยริล" "ฉันเปล่า แต่ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณแล้วทำไมฉันต้องดี๊ด๊าเมื่อเจอคุณ" "ทำตัวไร้ค่า!" "แล้วแต่จะคิดค่ะ" "ได้ ลองดี!" ชายหนุ่มที่ทนหญิงสาวยั่วโมโหต่อไปไม่ไหวเข้ามาจับเข้าที่แขนเล็กก่อนจะกระชากมันอย่างแรงจนร่างเธอถูกลากให้ไปนอนราบกับโซฟาตัวยาวในห้อง ก่อนที่เขาจะขึ้นมาคร่อมตัวเธอไว้แล้วใช้ขาแข็งแรงกดเข้าที่ขาทั้งสองข้างของเธอไว้จนรู้สึกเจ็บ "ปล่อยนะ" "ปล่อยเหรอ เธอรู้ไหมว่าเกิดมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเมินฉัน และทำฉันอารมณ์เสียได้เท่าเธอมาก่อนถ้าเธอยังทำตัวต่อต้านฉัน เมินฉัน ฉันจะสั่งสอนเธอให้จำไปจนตาย" "...ค่ะ" เธอทำได้เพียงพูดตอบรับเพื่อให้คนที่กำลังโมโหได้ใจแล้วหลบตาเขาเพื่อไม่ให้เขาเห็นแววตาที่หวาดกลัวของเธอ เกิดมาไม่เคยโดนผู้ชายด่าว่าไร้ค่า ไม่เคยถูกทำแบบนี้ ริลกำลังรู้สึกกลัวแต่ต้องเข้มแข็งยิ่งแสดงว่าอ่อนแอเท่าไหร่เขาจะยิ่งใช้จุดอ่อนนั้นทำร้ายเธอ "ดี จำไว้อย่าขัดคำสั่งหรือทำฉันหงุดหงิดอีก!" "ค่ะ" ชายหนุ่มปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระแล้วกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิมราวกับว่าเมื่อครู่ไม่เกิดอะไรขึ้นเธอถอนหายใจโล่งอกก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองด้วยความตื่นตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ตกเย็นมีเพียงหญิงสาวและชายหนุ่มที่กลับเข้าบ้านช้ากว่าคนอื่นเพราะเฟร์สต้องประชุมในตอนเย็นทำให้กลับมาไม่มีใครรอกินข้าวอยู่เลย หญิงสาวเลยรีบใช้จังหวะนั้นปลีกตัวขึ้นมาบนห้องเพื่อหนีหน้าชายหนุ่ม เธอไม่อยากจะนั่งกินข้าวร่วมโต๊ะกับผู้ชายเผด็จการคนนั้นวันนี้ยอมอดข้าวดีกว่าต้องมานั่งกินข้าวกับปีศาจ ต้องยอมรับเลยว่าริลรู้สึกอึดอัดมากเวลาถูกเขามองด้วยสายตาดุๆ นั้น และเธอก็อยากร้องไห้กับคำว่าไร้ค่าที่ออกจากปากเขาในทุกครั้งที่ได้ยิน '1 ข้อความ' 0987××× 'ดีใจจังที่เราได้มาเจอกันอีก ค่ำนี้ว่างไปกินข้าวกันไหมพี่เลี้ยงเอง' '....พี่โชน' ริลหัวใจเต้นแรงราวกับมันจะระเบิดออกมาจากอกเมื่ออ่านข้อความที่ได้รับจบ เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนลืมไปว่าเมื่อครู่ยังรู้สึกไม่สบายใจเรื่องคนคนนั้นอยู่ ตอนนี้เพียงเธอได้รับการติดต่อจากคนที่เธอรู้สึกดีด้วยก็ทำให้เธอดีใจจนเนื้อเต้นรีบกดโทรกลับเบอร์ของเขาทันที ตูด....ตูด (ฮัลโหล...ริล) "พี่โชนค่ะที่ส่งข้อความมา..." (ตอนนี้พี่ก็รอริลตอบอยู่ ยังไม่ได้ทานอะไรเลย) โชนทำน้ำเสียงอ้อนจากปลายสายทำเอาคนทางนี้หน้าแดงก่ำไปด้วยความเขินอาย นี่มันเหมือนฝันที่เธอเคยนึกถึงสมัยยังคงแอบรักชายหนุ่มคนนี้และในเมื่อมันเกิดขึ้นจริงเธอก็จะไม่มีวันทิ้งโอกาสนั้น "งั้นเจอกันที่ไหนคะ" (รอพี่ที่หน้าบ้านพี่เฟร์สก็ได้นะพี่อยู่แถวนี้แหละ) "พี่โชนรู้เรื่อง..." (เอาไว้เราคุยกันต่อหน้าดีกว่านะ) ริลกดวางสายด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยวลงคำพูดจากปลายสายเมื่อครู่เดาได้ไม่ยากเลยว่าเขารู้ถึงสถานะของเธอในบ้านหลังนี้แล้วแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็จะอธิบายทุกอย่างให้เขาเข้าใจให้ได้ หญิงสาวแต่งตัวด้วยชุดเดรสสั้นสีชมพูอ่อนแล้วค่อยๆ เดินอ้อมออกทางหลังบ้านเพื่อหลบเฟร์สที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่ในห้องรับแขกคนเดียวและโชคดีที่เขาไม่เห็นเธอจึงทำให้เธอแอบออกมาได้สำเร็จ โชนมารับเธอหน้าบ้านเฟร์สอย่างที่บอก เขาพาเธอออกมาทานอาหารแถวบ้านเฟร์สซึ่งเป็นอาหารไทยธรรมดาที่มีรสชาติอร่อยมากริลได้แต่ก้มหน้าก้มตากินเพราะไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงเรื่องที่เธอต้องเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้นเพราะเงิน "พูดมาเถอะถ้ามันจะทำให้สบายใจ" โชนที่ดูอาการของหญิงสาวออกเอ่ยเปิดประเด็น "คือริล...เฮ้อ ที่ริลเข้าไปอยู่ที่บ้านคุณเฟร์สเพราะบ้านริลกำลังจะถูกยึด คุณหญิงยื่นข้อเสนอให้ริลมาเป็นหนึ่งในว่าที่คู่หมั้นเพื่อแลกกับบ้าน และท่านมีค่าตอบแทนให้ 50,000 บาท ริลแค่คิดว่าทั้งสี่คนที่เหลือเพียบพร้อมไปทุกอย่างยังไงเขาก็ไม่มีวันมองริลอยู่แล้วที่ริลต้องทำก็แค่อดทนอยู่ที่นั่นให้ครบสองเดือนเท่านั้น" "ทำไมริลไม่บอกเรื่องนี้กับคนอื่นละคนที่เขาช่วยริลได้" "ริลไม่มีญาติที่ไหน....ตอนนี้ริลก็ตัวคนเดียวไม่มีใครช่วยริลได้หรอกค่ะ แล้วอีกอย่างตอนนี้ริลไม่ต่างจากคนไร้ค่าเลย" ริลพูดแล้วทำหน้าเศร้าทำเอาคนมองอยู่ถึงกับถอนหายใจยาวด้วยความเห็นใจ "เฮ้อ ถ้าพี่เจอเราเร็วกว่านี้พี่คงซื้อบ้านหลังนั้นคืนให้ริล แต่มีข้อแม้นะ ว่าริลต้องผ่อนพี่วันละบาทจะได้เจอพี่ทุกวันไง" โชนพูดพร้อมส่งยิ้มหวานให้ริลเป็นการผ่อนคลายเรื่องเครียดที่ได้ฟัง "ฮ่าๆๆ พี่โชนพูดเป็นเล่นริลเซ็นสัญญาไปแล้วนี่คะ" "พี่เป็นห่วงริล พี่เฟร์สเขาเป็นเสือผู้หญิงนะแล้วยิ่งเขารู้ว่าเขามีสิทธิ์ในตัวริลพี่ยิ่งห่วง" "ไม่ต้องห่วงนะคะ ริลจะดูแลตัวเองดีๆ อีกอย่างริลก็ไม่ใช่สเปกเขาแน่นอนค่ะ"ริลยิ้มจนตาหยีทำให้โชนรู้สึกโล่งใจขึ้นไม่น้อย "สัญญานะว่าจากนี้ไปมีเรื่องอะไรริลต้องบอกพี่" "ได้ค่ะ ^_^" ผู้ชายคนนี้ให้อบอุ่นใจจนไม่อยากกลับไปที่บ้านหลังนั้นเลยมันคงจะดีถ้าเธอได้อยู่กับโชนแทนที่จะไปอยู่กับคนเผด็จการแบบนั้น ขอให้สองเดือนนี้มันผ่านไปด้วยดีเถอะนะ“ไหนว่าจะกลับบ้านไงแล้วนี่คุณพาฉันมาที่ไหน…”“นี่บริษัทลิบิน”“หะ? ละ แล้วมาทำไม หรือว่าอันดาเขา…”“มันบอกหมดแล้ว เธอคิดว่าคนอย่างฉันจะปล่อยให้ไอ้เพื่อนบ้านี่ใช้ชีวิตสบายๆ ทั้งที่หลอกฉันขนาดนี้น่ะเหรอ?”พูดแล้วเฟร์สก็โกรธจนลมออกหู ให้ตายเหอะ! ไม่คิดว่าเพื่อนรักจะทำกับเขาได้ขนาดนี้“กลับเถอะ เราก็ดีกันแล้วนิ นะๆ” ริลทำหน้าอ้อนเพราะไม่อยากให้ลิบินต้องโดนอะไรจากเฟร์ส แต่มันสายไปแล้วเมื่อร่างที่คุ้นเคยเปิดประตูเข้ามา ลิบินที่เห็นเฟร์สอยู่กับริลก็ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอทันที“อะ อ้าว ดีกันแล้วเหรอ ดีๆ เพื่อนรักมีความสุขก็ดี”ลิบินเดินเข้ามากอดเฟร์สอย่างพยายามเก็บอาการ ใจหวังว่าเจ้าเพื่อนรักจะไม่รู้ว่าตัวเองมีส่วนกับเรื่องนี้“หึๆ เพื่อนรักแกก็รู้ดีว่าฉันรักแกมาก มีอะไรก็ช่วยตลอดตอนที่ทะเลาะกับคะน้าก็ฉันนี่แหละที่ช่วยให้คืนดีกัน….เพราะฉะนั้น…”“พะ เพราะฉะนั้น? ....”“ฉันเห็นแกเหนื่อยมากที่ต้องฟังคำบ่นของคะน้าบ่อยๆ เลยส่งคะน้า....ไปพักผ่อนเมาดีฟกับนายแบบชั้นนำซักสามสี่วันน่ะนะ”“ห๊า! แก....อย่ามาหลอกฉันวันนี้ตอนเช้าคะน้าเพิ่งมาส่งฉัน”“ใช่ไง ไม่สงสัยเหรอว่าทำไมอยู่ๆ คะน้าถึงอาสามาส่งแกที่ทำงาน
“วันนี้คุณไม่ต้องไปส่งผมนะ เดี๋ยวผมจะแวะไปที่ที่หนึ่งก่อน”“ได้ค่ะ ของที่ท่านประธานสั่งดิฉันไว้ถูกส่งไปตามที่บอกเรียบร้อยแล้วค่ะ”“โอเค พอดีเลยวันนี้ผมจะเข้าไปเช็กดูถ้าขาดเหลืออะไร ขอรบกวนคุณอีกรอบแล้วกันนะ”“ได้ค่ะ”“ขอบใจมาก”อันดาขับรถออกจากบริษัทมุ่งหน้าไปคอนโดลับที่แม่ของเฟร์สซ่อนริลไว้ แต่พอขับมาได้ครึ่งทางเขากลับรู้สึกว่ารถรอบๆ ตัวเขาตอนนี้มีลักษณะการขับที่แปลกๆ เหมือนรถทั้งสามคันที่ประกบทั้ง ซ้าย ขวา หน้า หลัง นี่พยายามขับไปทางเดียวกับเขาตลอด“ใช่แน่ๆ ต้องเป็นเฟร์สแน่”เมื่อสังเกตจนมั่นใจว่าคนในรถต้องมีเจตนาตามเขาก็ไม่แปลกเลยที่เขาจะรู้ได้ทันทีว่าใครเป็นคนบงการ ไหนคุณหญิงบอกว่าเฟร์สยอมถอยห่างจากริลโดนดี ทำไมอยู่ถึงมาส่งคนตามเขาแบบนี้ปึก!ก้อนกระดาษกลมๆ ถูกปาเข้าที่กระจกฝั่งคนขับ เมื่ออันดาหันไปตามเสียงก็เจอว่าเฟร์สกำลังกอดอกยิ้มให้เขาอยู่ ขนเขาลุกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเพราะความกลัว สมองก็รับรู้ได้ทันทีว่าเฟร์สกำลังคิดจะทำอะไม่ดีกับเขาแน่“จอดรถ เดี๋ยว นี้!”กระบอกปืนสีดำถูกเล็งมาทางเขา นาทีนั้นวิญญาณอันดาจะออกจากร่างให้ได้“แย่แล้วอันดา จะเอาถึงตายเลยเหรอ งืออออ”อันดาใจสั่น ค
สามวันที่เฟร์สขังตัวเองไว้ในห้องมืดๆ เขาไม่ยอมกินไม่นอนเอาแต่นั่งร้องไห้ด้วยความช็อกกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา ใจเขาเจ็บปวด มันเจ็บจนไม่รู้จะผ่านเวลาแบบนี้ไปได้ยังไง ด้านนอกประตูมีคุณหญิงที่ในใจก็แอบห่วงลูกชายเฝ้าอยู่ไม่ห่างเธอกลัวว่าคนที่ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่างเฟร์สจะคิดทำร้ายตัวเองขึ้นมา“คุณหญิงคะ? คุณเฟร์ส”“ฉันรู้น่า บางครั้ง….การที่เรานั่งสั่งสอนก็ไม่เท่ากับให้เขาได้เจอประสบการณ์จริง สิ่งที่ฉันทำมันอาจจะทำให้ลูกเจ็บนะ...เธออย่าลืมว่าคนเป็นแม่เจ็บกว่าลูก แต่นี่ เป็นสิ่งที่เขาควรได้รับเขาจะได้รู้ว่าการเห็นแก่ตัวมันส่งผลแย่แค่ไหน”คุณหญิงพูดให้ป้าแม่บ้านฟังเป็นการระบายความทุกข์ใจ เธอรู้สึกสงสารลูกมากแต่...เธอก็ต้องทำการใช้แผนนี้มันเสี่ยงมากที่จะทำให้เฟร์สเสียริลไปตลอดการที่ริลได้อยู่คนเดียวถ้าเธอไม่ได้รักเฟร์สจริง โอกาสที่เธอจะใช้เวลานี้ทำใจก็ลืมเรื่องทั้งหมดก็มีมาก“คุณหญิงจะใช้เวลานานขนาดไหนคะ? ถ้าคุณเฟร์สคิดมากจน….”“ฉันก็ไม่รู้หรอก แต่ยังไงก็ช่วยดูเขาตลอดแล้วกัน”“ได้ค่ะ”ระหว่างที่คุณหญิงกำลังจะเดินออกมาเธอก็พบเข้ากับโชนที่แอบยืนฟังอยู่นานแล้ว โชนที่กำลังสับสนกับสิ่งที่ได้ยิ
…………………“ฉันมีสิ่งที่อยากจะพูดค่ะ….”"ว่ามาสิ”“ฉันช่วยคุณในการดัดนิสัยลูกชายได้ จริงอยู่ที่ฉันเองก็รู้สึกดีกับเขาในบางครั้งแต่ฉันไม่สามารถอยู่กับคนที่เห็นฉันเป็นแค่ที่ระบายความใคร่ได้หรอกค่ะ….ถึงแม้วันหนึ่งเขาจะเปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น....แต่สิ่งที่เขาทำกับฉัน....ฉันไม่เคยลืมและไม่สามารถยอมรับได้จริงๆ”คุณหญิงถอนหายใจยาว ตามที่คิดไว้อยู่แล้วว่าตัวหญิงสาวคงไม่ให้อภัยลูกนิสัยไม่ดีของเธอ แต่ถึงคุณหญิงจะถูกใจตัวริลมากเท่าไหร่แต่ถ้าเจ้าตัวมีอคติต่อกันมากกว่าความรัก เธอก็ต้องยอมรับในการตัดสินใจของผู้หญิงคนนี้“...ฉันรู้ว่าเธอเจ็บ”“ค่ะ เพราะฉันเป็นมนุษย์คนหนึ่งมีความคิดความรู้สึก อย่างน้อยถ้าเขาเจ็บปวดเพราะฉันมันจะทำให้เขาได้รับรู้บ้างว่าสิ่งที่เขาทำเวรกรรมมันจะสนองยังไง เขาจะได้รู้จักกับคำว่าทรมานสะบ้าง ฉันไม่ได้แค้นอะไรมากหรอกนะคะ….แต่ฉันเองก็อยากให้บทเรียนเขาเหมือนกัน”“ถ้าเธอไม่คิดที่จะอยู่กับเขา….ฉันก็ทำอะไรไม่ได้”ฉันอยู่ในร้านอาหารเดิมแต่คู่สนทนาเปลี่ยนไป ต่อหน้าฉันตอนนี้ไม่ใช่คุณหญิงแต่เป็นลิบินและอันดาเจ้านายของฉัน ลิบินจะเป็นคนเชื่อมแผนทุกอย่างโดยเข้าไปขอร้องให้อันดามาช่วยเรื่องนี้
ริลถูกพาตัวมายังสถานที่ที่คุ้นเคยบ้านของเฟร์สนั้นเอง เขาลากเธอผ่านหน้าบรรดาแม่บ้านที่มองมายังเธออย่างแปลกใจคงไม่มีใครคิดว่าเธอจะกลับมาที่นี่อีก ริลทั้งดิ้นทั้งพยายามดึงแขนตัวเองออกให้ได้จนมันแดงไปหมดแต่มันก็เสียแรงเปล่า เพราะตอนนี้ริลถูกพามาถึงห้องนอนของเฟร์สเรียบร้อยเขาจัดการปิดประตูขังเธอไว้ด้านในแล้วล็อกประตูปัง! ปัง!“เปิดนะ จะขังฉันไว้แบบนี้ไม่ได้ คนมีงานมีการทำนะ!”“ตะโกนไปก็เท่านั้น อยู่ในนั้นจนกว่าจะคิดได้ว่าไม่ควรมาเก่งกับคนอย่างฉัน”ปัง ปัง“ปล่อยฉันออกไปนะ!”ริลพยายามเคาะประตูเรียกร้องความสนใจจากคนด้านนอกแต่เขากลับเงียบไปเหมือนกับว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว ริลทรุดตัวลงด้วยความเหนื่อย มือที่เคาะประตูอย่างแรงนี้กำลังแดงขึ้นและบวมร้อนจากอาการเจ็บจนทำให้เธอต้องหยุด“อยากร้องไห้จริงๆ …”เธอบ่นกับตัวเองแต่ถึงจะอยากร้องมากแค่ไหนเธอก็ต้องกลืนมันลงไป เธอสัญญาแล้วว่าจะไม่อ่อนแออีก ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอจะไม่ใช้น้ำตาแก้ปัญหาอีกแล้ว ตอนนี้เธอกำลังคิดหาทางออกทางหนึ่งที่เธอคิดได้คือปืนหน้าต่างหนีแต่มันกลับไม่เป็นอย่างหวัง.....เมื่อเธอวิ่งไปมองที่หน้าต่างมองไปเห็นผู้ชายสองสามคนย
“สวัสดีริล” “สวัสดีค่ะคุณอันดา” “มีของมาส่งน่ะ ที่โต๊ะ” “ขอบคุณค่ะ” เช้าวันนี้ริลตื่นมาพบว่าซาตานเมื่อคืนได้หายตัวไปอีกแล้ว แต่มันก็ไม่แปลกสำหรับเธอหรอก เพราะสิ่งที่เขาต้องการจากก็แค่ระบายความใคร่เท่านั้น ไม่น่าเจอกันเลยจริงๆ ถือว่าให้หมามันกินแล้วกัน! “ใครส่งมานะ” ริลสะบัดความคิดแย่ๆ แล้วมาสนใจกล่องพัสดุเล็กๆ ที่ไม่มีชื่อผู้ส่ง เปิดดูข้างในกลับพบว่ามีซองสีชมพูห่อกระดาษอะไรสักอย่างไว้ภายใน O__O!!!! นะ นี่มัน รูป หญิงสาวหน้าชาแล้วรีบถือของสิ่งนั้นเดินเข้าห้องน้ำทันที ก่อนจะหันดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามเธอมาแล้วจริงๆ ….นี่มันอะไรกัน…. ในซองเต็มไปด้วยรูปเปลือยของเธอและเฟร์สเต็มไปหมดภาพมีทั้งมองเห็นใบหน้าและมีถึงขั้นมองเห็นหน้าอกของเธอชัดเจน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เขาทำแบบนี้ทำไม! ตืด… ระหว่างที่กำลังโมโหจนน้ำตาไหล โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อก็สั่นขึ้นเมื่อเธอหยิบมันขึ้นมาดูก็พบว่าชื่อที่แสดงเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก ริลกลืนความโมโหทั้งหมดลงคอไปเพื่อทำตัวให้ปกติที่สุดก่อนจะรับสายนั้น “ฮะ ฮัลโหลค่ะ” (ไง ทำไมไม่แบ่งคนอื่นดูบ้างละ หุ่นสวยๆ ของเธอกับหุ่นล่ำๆ ของฉันน่ะ) “คุณเฟร์ส!!” (ยังจ