หลังจากทุกคนออกไปอย่างไม่เต็มใจก็เหลือเพียงริลและชายหนุ่มที่ทำสงครามเงียบกันอยู่นานสองนาน ก่อนที่เขาจะเริ่มพูดขึ้นมาก่อนเพราะความอึดอัดใจ
"ดูตัวเธอไม่เหมือนผู้หญิงที่ขายตัวเลยนะ ทำไมถึงมาอยู่ในข้อตกลงนี่ได้" "เพราะเงินค่ะ" เธอตอบไปตามความจริงจนทำให้คนฟังถึงกับนิ่งเงียบเพราะไม่คิดว่าเธอจะยอมรับ "ชัดเจนดี แสดงว่าฉันจะทำอะไรก็ได้ถ้าฉันจ่ายเงินงั้นเหรอ?" "ค่ะ" เธอตอบตามความจริงอีกนั้นแกรุ้มกริ่มด้วยคำตอบที่ฟังดูประชดประชันทำให้คนตรงหน้ายิ่งเดินเข้ามาใกล้หญิงสาวเรื่อยๆ จนหน้าเกือบชิดกัน ...อะไรเนี่ยเขาจะจูบเธอเหรอ ไม่ได้นะ! ถึงจะไม่ใช่จูบแรกเธอแต่เธอก็ไม่โอเคที่จูบกับคนที่รู้จักกันแค่วันเดียว "หึ! เธอมันไร้ค่า เอาบิลไปแล้วไปซื้อของพวกนี้มาให้ครบก่อนเที่ยง" ชายหนุ่มยื่นบิลให้เธอทำให้ริลรู้สึกโล่งใจไม่น้อยที่เขาไม่ได้คิดจะทำเรื่องอะไรแปลกๆ ริลรับบิลนั้นมาก่อนที่หญิงสาวจะเดินออกมาจากห้องโดยเจอเพื่อนร่วมบ้านอย่างทูน่าที่นั่งโต๊ะทำงานของเลขาของคุณเฟร์ส ทูน่ามองไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วทำหน้ารังเกียจจนออกนอกหน้าทำให้ริลแอบรู้สึกถึงการแบ่งชนชั้นได้ชัดเจน เฮ้อ...เธอมันไร้ค่าจริงๆ นั้นแหละ เอาน่าริลอดทนให้เรื่องนี้มันผ่านไปนะ แค่สองเดือนเธอจะมีบ้านมีทุนเลี้ยงดูตัวเอง เธอได้เพียงแต่คิดในใจแล้วก้มหน้าอดทนต่อไปว่าแต่เขาให้ฉันซื้ออะไรบ้างนะ... -ถุงยางอนามัย 5 แพ็ก -เจลหล่อลื่น 5 แพ็ก "เห้ยยยย บ้าไปแล้ว!!! ฉันต้องไปซื้อของพวกนี้เหรอเนี่ยเขาเอาไปทำอะไรนักหนา โอ๊ยยยย จะบ้าตาย " หญิงสาวได้แต่ตีอกชกต่อยตัวเองไปเรื่อยที่ยอมรับข้อตกลงบ้าๆ นี่ สุดท้ายก็ได้แต่ทำใจยอมรับสิ่งที่ตัวเองเลือกจนเดินใจลอยมาถึงร้านเภสัชที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัทเท่าไรนักเพราะสุดท้ายถึงเธอไม่พอใจก็ได้แต่ทนให้มันจบไป ริลถอนหายใจยาวแล้วดันประตูเข้าไปในร้านเภสัชโดยที่เธอยังคงกล้าๆ กลัวๆ ที่จะแจ้งความต้องการของตัวเองต่อเภสัชสาวที่กำลังจ้องเธออยู่ด้วยความเตรียมพร้อมที่จะบริการ "เอิ่ม...." "รับอะไรดีคะ?" "ซะ ซื้อถุงยางอนามัย 5 แพ็กค่ะ" "เอาแบบคละกันหรือแบบธรรมดาอย่างเดียวค่ะ" ....ถุงยางมีคละกันด้วยเหรอ? เขาก็ไม่ได้สั่งไว้ด้วยสิ... "เอิ่ม เอาคละกันก็ได้ค่ะ แล้วก็เจลหล่อลื่นอีก 5 แพ็ก" "โห กะซื้อใช้ยาวเลยเหรอคะ"เภสัชสาวสวยยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะก้มไปเตรียมของตามออเดอร์ที่ได้รับทำเอาริลที่ยืนรออยู่หน้าแดงก่ำทั้งเขินทั้งอายจนอยากจะมุดดินหนี "ไม่ทราบเหมือนกันค่ะพอดี ดิฉันมาซื้อให้เจ้านาย" "เจ้านายคุณนี่น่ากลัวจังเลยนะคะ...คงเจ้าชู้น่าดู" "ค่ะ แฮร่" เมื่อได้รับของและจ่ายเงินเรียบร้อยริลจึงมุ่งหน้ากลับมาที่บริษัททันทีระหว่างทางกลับเธอทั้งบ่นทั้งด่าเจ้านายลับหลังเพราะรู้ดีว่าเขาต้องจงใจแกล้งเธอแน่นอน เมื่อถึงหน้าลิฟต์หญิงสาวได้แต่ใช้เสื้อแขนยาวห่อถุงไว้ไม่ให้ใครเห็นด้วยความที่ร้านไม่มีถุงสีอื่นนอกจากสีใสเธอเลยจำใจจะต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น ตึง! "คุณค่ะรอด้วยค่ะ" หญิงสาวรีบวิ่งเข้าลิฟต์อย่ารวดเร็วเมื่อเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้าลิฟต์ไปก่อนเธอ เมื่อริลเข้ามาในลิฟต์กลับรู้สึกว่าคนตัวสูงข้างๆ เธอนั้นหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับรุ่นพี่ที่เธอแอบชอบตอนเรียนมหาวิทยาลัยและเมื่อเธอสังเกตดูท่าทางแล้วก็ต้องตกใจเพราะชายคนนี้คือคนที่เธอเคยชอบจริงๆ และตอนนี้เขาเองก็กำลังมองใบหน้าเธอผ่านการสะท้อนของผนังลิฟต์อยู่เช่นกัน "คุณ...หน้าคุ้นๆ นะครับ" "ละ เหรอคะ" หญิงสาวก้มหน้าดัดเสียงให้เล็กที่สุดเพื่อไม่ให้คนตัวสูงสงสัยว่าเธอเป็นใครขืนพูดออกมาเขาต้องจำเสียงเธอได้แน่ ให้ตายเถอะทำไมเขาต้องลงชั้นเดียวกันด้วย กดลงอีกชั้นแล้วค่อยวิ่งไปดีกว่า ตอนนี้แหละ ... "ช่วยกดเปิดหน่อยค่ะ" "โอเคครับ" โชนรุ่นพี่คณะบริหารที่ริลแอบชอบมาสามปีทั้งคู่ห่างหายกันมานานจนไม่คิดว่าจะกลับมาเจอกันด้วยซ้ำ เขาทำงานที่นี่งั้นเหรออย่างนี้เธอคงต้องแอบไปตรวจดูเสียแล้วจะได้ไปแอบดูเป็นกำลังใจ "เดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คงดีใจที่ได้ใกล้ชิดพี่เฟร์สละสิ"ระหว่างทางเข้าห้องทำงานเสียงคุ้นหูก็ดังขึ้น ริลได้แต่กลอกสายตาไปมาด้วยความเบื่อหน่าย ...เฮ้อ...ทูน่า ชื่อก็เป็นปลาแต่ทำไมจิกกัดเหมือนไก่... "ไม่ได้ยิ้มเพราะคุณเฟร์สหรอกค่ะ ขอตัวนะคะ"หญิงสาวสวนกลับก่อนจะทำเมนไม่มองใบหน้าสาวสวยที่กำลังโมโหสุดขีด "รีบเสนอหน้าจังเลยนะ" "ก็ดีกว่าคนที่พยายามจะเสนอแต่ผู้ชายไม่สนอง" หญิงสาวตั้งใจตอบกลับให้ทูน่าโมโหเล่น เอาให้รู้ไปว่าเธอก็ตอบโต้คนเป็นเธอทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มหวานก่อนจะกลอกตาใส่สาวเจ้าไปหนึ่งทีแล้วเดินเข้าห้องทำงานไป แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องตกใจเมื่อเธอสบตาเข้ากับร่างสูงโปร่งที่เธอเพิ่งจะหนีมา เขาคือโชนคนที่เธอแอบนักและเขากำลังนั่งคุยอยู่กับเฟร์สในห้องนี้! พรึบ! ของในมือตกกระจายจนทำให้โชนต้องวิ่งมาช่วยเก็บเขาหยิบกล่องถุงยางขึ้นมาดูอย่างงุนงงจนคิ้วขมวดก่อนที่จะหันมามองหน้าหญิงสาวชัดๆ แล้วระบายยิ้มอบอุ่นออกมา ....แต่ในเวลานี้หญิงสาวไม่มีหน้าไปสู้สายตาโชนจนต้องก้มหน้านิ่ง ...เขาจะคิดยังไงกับผู้หญิงที่มีเจลหล่อลื่นกับถุงยางในมือถึงอย่างละ 5 แพ็กเชียวนะ... "ริล?" จนได้เขาจำเธอได้ "แฮ่ๆ ริลเองค่ะ"ริลเงยหน้าขึ้นเมื่อถูกเรียกชื่อออกมาเต็มเต็ง "ทำงานที่นี่เหรอแล้วของพวกนี้คือ.?" "ริลเพิ่งทำวันนี้น่ะค่ะ คุณเฟร์สเขาคงแกล้งริล" "ฮ่าๆๆ พี่เข้าใจพี่เฟร์สเขาก็อย่างนี้แหละ"โชนระบายยิ้มอบอุ่นก่อนจะช่วยหยิบกล่องถุงยางอนามัยใส่เข้าไปในถุงพลาสติกให้หญิงสาวแล้วยื่นมาให้เธอตามเดิม "พี่โชนรู้จักคุณเฟร์สด้วยเหรอคะ" "ใช้แล้วเราสนิทกัน เพราะเราเจอกับตามงานสังคมบ่อยน่ะ" "แล้ว...." "ไม่ไปเปิดห้องคุยกันเลยละ...ได้ครบแล้วก็รีบเอามาให้ฉันสิ" ยังไม่ทันที่ริลจะพูดถามไถ่ให้จบประโยค เฟร์สที่นั่งมองอยู่นานส่งเสียงดังด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดขึ้นขัด ก่อนที่หญิงสาวที่ถูกขัดจังหวะจะเอาถุงไปวางข้างๆ โต๊ะเขา แล้วเดินออกมานั่งที่โต๊ะทำงานตัวเอง "พี่เฟร์สโชคดีจังที่ได้ลูกน้องแบบริล ผมน่ะ อยากได้บ้าง" โชนมองใบหน้าริลพร้อมส่งยิ้มหวานมาทางหญิงสาวจนเธอเขินแทบละลายเป็นน้ำให้รู้แล้วรู้รอด เมื่อก่อนถ้าไม่ติดว่าเขามีแฟนคลับเยอะจนเธอไม่กล้าบอกรักเขาป่านนี้คงได้บอกความรู้สึกที่มีไปแล้วละ "ไม่รู้ว่าแม่ฉันไปซื้อมาเท่าไหร่" "ซื้อ...? หมายความว่าไง" โชนชะงักเมื่อถูกคนเป็นรุ่นพี่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด และประโยคเมื่อครู่ทำให้สีหน้าของริลซีดไปจนไม่มีสี "ยัยนี่เป็นหนึ่งในว่าที่คู่หมั้นฉัน น่ารำคาญ" เฟร์สจิกตามองหญิงสาวก่อนจะกลอกตาเหมือนเขารำคาญมากจนไม่อยากเห็นเธอ "หวา...ตอนนี้ผมโสดอยู่ด้วยแถมได้เจอคนตรงใจที่ตามหา" หญิงสาวรู้สึกเหมือนชายหนุ่มผู้อบอุ่นกำลังจีบเธอเข้าเต็มๆ แต่ตอนนี้เธอก็ยังคงทำอะไรไม่ได้เพราะต้องมาติดสัญญาบ้าๆ นั้นจึงได้แต่ยิ้มแห้งส่งให้คนตรงหน้าไป "เลิกพูดคำบ้าๆ กลับไปได้แล้วฉันต้องทำงาน" "ไล่น้องเชียวนะ" "รำคาญ" เฟร์สพูดก่อนจะทำท่าก้มหน้าทำงานต่อ โชนเดินมาหาหญิงสาวอีกครั้งก่อนที่จะวางนามบัตรบนโต๊ะแล้วส่งสัญญาณว่าให้เธอโทรหา พอโชนเดินออกจากห้องไปริลก็รีบเอามือถือออกมากดเบอร์โทรเข้าไปยังมือถือโชนทันทีด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ มันเป็นเรื่องราวกับความฝันเมื่อคนที่ชอบเขากำลังทำท่าจะจีบเธอเข้าแล้ว ปรือ! "เห้ย!!" เฟร์สที่มายืนพิงโต๊ะทำงานเธออยู่ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ถือวิสาสะดึงมือถือของหญิงสาวออกจากมือแล้วกดวางทันที "ทำหน้าไม่พอใจคืออะไร? แปลกดีเนอะเจอไอ้โชนแล้วเป็นคนละคนดี๊ด๊าจนตัวสั่นไปหมด" เธอนิ่งแล้วมองเขาด้วยหางตาอย่างไม่พอใจ และเหมือนเขาจะมีท่าทีโกรธมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก เมื่อเธอทำท่าทีไม่สนใจแล้วหันนั่งเปิดคอมทำงานโดยที่เขายังพูดไม่จบเสียด้วยซ้ำ "เหอะ! เธอตั้งใจกวนประสาทฉันสินะยัยริล" "ฉันเปล่า แต่ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณแล้วทำไมฉันต้องดี๊ด๊าเมื่อเจอคุณ" "ทำตัวไร้ค่า!" "แล้วแต่จะคิดค่ะ" "ได้ ลองดี!" ชายหนุ่มที่ทนหญิงสาวยั่วโมโหต่อไปไม่ไหวเข้ามาจับเข้าที่แขนเล็กก่อนจะกระชากมันอย่างแรงจนร่างเธอถูกลากให้ไปนอนราบกับโซฟาตัวยาวในห้อง ก่อนที่เขาจะขึ้นมาคร่อมตัวเธอไว้แล้วใช้ขาแข็งแรงกดเข้าที่ขาทั้งสองข้างของเธอไว้จนรู้สึกเจ็บ "ปล่อยนะ" "ปล่อยเหรอ เธอรู้ไหมว่าเกิดมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเมินฉัน และทำฉันอารมณ์เสียได้เท่าเธอมาก่อนถ้าเธอยังทำตัวต่อต้านฉัน เมินฉัน ฉันจะสั่งสอนเธอให้จำไปจนตาย" "...ค่ะ" เธอทำได้เพียงพูดตอบรับเพื่อให้คนที่กำลังโมโหได้ใจแล้วหลบตาเขาเพื่อไม่ให้เขาเห็นแววตาที่หวาดกลัวของเธอ เกิดมาไม่เคยโดนผู้ชายด่าว่าไร้ค่า ไม่เคยถูกทำแบบนี้ ริลกำลังรู้สึกกลัวแต่ต้องเข้มแข็งยิ่งแสดงว่าอ่อนแอเท่าไหร่เขาจะยิ่งใช้จุดอ่อนนั้นทำร้ายเธอ "ดี จำไว้อย่าขัดคำสั่งหรือทำฉันหงุดหงิดอีก!" "ค่ะ" ชายหนุ่มปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระแล้วกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิมราวกับว่าเมื่อครู่ไม่เกิดอะไรขึ้นเธอถอนหายใจโล่งอกก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองด้วยความตื่นตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ตกเย็นมีเพียงหญิงสาวและชายหนุ่มที่กลับเข้าบ้านช้ากว่าคนอื่นเพราะเฟร์สต้องประชุมในตอนเย็นทำให้กลับมาไม่มีใครรอกินข้าวอยู่เลย หญิงสาวเลยรีบใช้จังหวะนั้นปลีกตัวขึ้นมาบนห้องเพื่อหนีหน้าชายหนุ่ม เธอไม่อยากจะนั่งกินข้าวร่วมโต๊ะกับผู้ชายเผด็จการคนนั้นวันนี้ยอมอดข้าวดีกว่าต้องมานั่งกินข้าวกับปีศาจ ต้องยอมรับเลยว่าริลรู้สึกอึดอัดมากเวลาถูกเขามองด้วยสายตาดุๆ นั้น และเธอก็อยากร้องไห้กับคำว่าไร้ค่าที่ออกจากปากเขาในทุกครั้งที่ได้ยิน '1 ข้อความ' 0987××× 'ดีใจจังที่เราได้มาเจอกันอีก ค่ำนี้ว่างไปกินข้าวกันไหมพี่เลี้ยงเอง' '....พี่โชน' ริลหัวใจเต้นแรงราวกับมันจะระเบิดออกมาจากอกเมื่ออ่านข้อความที่ได้รับจบ เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนลืมไปว่าเมื่อครู่ยังรู้สึกไม่สบายใจเรื่องคนคนนั้นอยู่ ตอนนี้เพียงเธอได้รับการติดต่อจากคนที่เธอรู้สึกดีด้วยก็ทำให้เธอดีใจจนเนื้อเต้นรีบกดโทรกลับเบอร์ของเขาทันที ตูด....ตูด (ฮัลโหล...ริล) "พี่โชนค่ะที่ส่งข้อความมา..." (ตอนนี้พี่ก็รอริลตอบอยู่ ยังไม่ได้ทานอะไรเลย) โชนทำน้ำเสียงอ้อนจากปลายสายทำเอาคนทางนี้หน้าแดงก่ำไปด้วยความเขินอาย นี่มันเหมือนฝันที่เธอเคยนึกถึงสมัยยังคงแอบรักชายหนุ่มคนนี้และในเมื่อมันเกิดขึ้นจริงเธอก็จะไม่มีวันทิ้งโอกาสนั้น "งั้นเจอกันที่ไหนคะ" (รอพี่ที่หน้าบ้านพี่เฟร์สก็ได้นะพี่อยู่แถวนี้แหละ) "พี่โชนรู้เรื่อง..." (เอาไว้เราคุยกันต่อหน้าดีกว่านะ) ริลกดวางสายด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยวลงคำพูดจากปลายสายเมื่อครู่เดาได้ไม่ยากเลยว่าเขารู้ถึงสถานะของเธอในบ้านหลังนี้แล้วแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็จะอธิบายทุกอย่างให้เขาเข้าใจให้ได้ หญิงสาวแต่งตัวด้วยชุดเดรสสั้นสีชมพูอ่อนแล้วค่อยๆ เดินอ้อมออกทางหลังบ้านเพื่อหลบเฟร์สที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่ในห้องรับแขกคนเดียวและโชคดีที่เขาไม่เห็นเธอจึงทำให้เธอแอบออกมาได้สำเร็จ โชนมารับเธอหน้าบ้านเฟร์สอย่างที่บอก เขาพาเธอออกมาทานอาหารแถวบ้านเฟร์สซึ่งเป็นอาหารไทยธรรมดาที่มีรสชาติอร่อยมากริลได้แต่ก้มหน้าก้มตากินเพราะไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงเรื่องที่เธอต้องเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้นเพราะเงิน "พูดมาเถอะถ้ามันจะทำให้สบายใจ" โชนที่ดูอาการของหญิงสาวออกเอ่ยเปิดประเด็น "คือริล...เฮ้อ ที่ริลเข้าไปอยู่ที่บ้านคุณเฟร์สเพราะบ้านริลกำลังจะถูกยึด คุณหญิงยื่นข้อเสนอให้ริลมาเป็นหนึ่งในว่าที่คู่หมั้นเพื่อแลกกับบ้าน และท่านมีค่าตอบแทนให้ 50,000 บาท ริลแค่คิดว่าทั้งสี่คนที่เหลือเพียบพร้อมไปทุกอย่างยังไงเขาก็ไม่มีวันมองริลอยู่แล้วที่ริลต้องทำก็แค่อดทนอยู่ที่นั่นให้ครบสองเดือนเท่านั้น" "ทำไมริลไม่บอกเรื่องนี้กับคนอื่นละคนที่เขาช่วยริลได้" "ริลไม่มีญาติที่ไหน....ตอนนี้ริลก็ตัวคนเดียวไม่มีใครช่วยริลได้หรอกค่ะ แล้วอีกอย่างตอนนี้ริลไม่ต่างจากคนไร้ค่าเลย" ริลพูดแล้วทำหน้าเศร้าทำเอาคนมองอยู่ถึงกับถอนหายใจยาวด้วยความเห็นใจ "เฮ้อ ถ้าพี่เจอเราเร็วกว่านี้พี่คงซื้อบ้านหลังนั้นคืนให้ริล แต่มีข้อแม้นะ ว่าริลต้องผ่อนพี่วันละบาทจะได้เจอพี่ทุกวันไง" โชนพูดพร้อมส่งยิ้มหวานให้ริลเป็นการผ่อนคลายเรื่องเครียดที่ได้ฟัง "ฮ่าๆๆ พี่โชนพูดเป็นเล่นริลเซ็นสัญญาไปแล้วนี่คะ" "พี่เป็นห่วงริล พี่เฟร์สเขาเป็นเสือผู้หญิงนะแล้วยิ่งเขารู้ว่าเขามีสิทธิ์ในตัวริลพี่ยิ่งห่วง" "ไม่ต้องห่วงนะคะ ริลจะดูแลตัวเองดีๆ อีกอย่างริลก็ไม่ใช่สเปกเขาแน่นอนค่ะ"ริลยิ้มจนตาหยีทำให้โชนรู้สึกโล่งใจขึ้นไม่น้อย "สัญญานะว่าจากนี้ไปมีเรื่องอะไรริลต้องบอกพี่" "ได้ค่ะ ^_^" ผู้ชายคนนี้ให้อบอุ่นใจจนไม่อยากกลับไปที่บ้านหลังนั้นเลยมันคงจะดีถ้าเธอได้อยู่กับโชนแทนที่จะไปอยู่กับคนเผด็จการแบบนั้น ขอให้สองเดือนนี้มันผ่านไปด้วยดีเถอะนะ"ไปไหนมา..."ริลกลับเข้าบ้านมาเวลาเกือบเที่ยงคืนหลังจากไปดูหนังกับโชน โดยไม่คิดว่าเธอเข้าบ้านดึกขนาดนี้จะยังเจอเฟร์สที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ตรงโถงรับแขกด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์"ไปทานข้าวกับเพื่อนมาค่ะ"ริลตอบเสียงเรียบและยังคงไม่มองหน้าคนถามตรงๆ ทำเอาชายหนุ่มต้องพ่นลมหายใจออกแรงๆ เพื่อพยายามข่มไฟโกรธในใจ"เพื่อน? คงอร่อยมากเลยสินะถึงได้ใช้เวลาหลายชั่วโมง เสร็จไปกี่ครั้งละ""พูดอะไรของคุณ ไร้สาระ"หญิงสาวพูดก่อนจะเดินหนีขึ้นมาบนห้องเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มคุยไม่รู้เรื่องเสียแล้ว แต่เดินหนีมาได้ไม่นานร่างสูงก็เดินเข้ามาคว้าข้อมือเธอไว้ด้วยความโมโหแล้วจับคนตัวเล็กตรึงกับผนังอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง แต่เขาไม่ได้สนใจว่าผู้หญิงคนนี้จะเจ็บปวดหรือไม่เขาออกแรงบีบข้อมือเล็กจนเธอรู้สึกเจ็บจนน้ำตาซึม"ฉันซื้อเธอมา เธอก็ควรจะรู้ว่าตัวเองเป็นสมบัติของใครไม่ใช่ทำตัวแรดไปไหนต่อไหนกับคนอื่นแบบนี้หัดมียางอายสะบาง นั้นน่ะรุ่นน้องฉันนะ""รุ่นน้องคุณแต่เขาก็เป็นรุ่นพี่ฉันเหมือนกัน แล้วมันจะแปลกอะไรถ้าคนรู้จักกันไปกินข้าวด้วยกัน""กินข้าว? เหอะ! คิดว่าฉันโง่หรือไง? อย่ามาจับน้องฉันให้ยากเธอมันก็แค่ของเล่นไร้ค่า""
หญิงสาวเดินลงมาร่วมโต๊ะเป็นคนสุดท้ายโดยมีผู้หญิงทั้ง 4 คนมองมายังเธอด้วยสายตาไม่พอใจนัก ก็แน่ละอยู่ๆ ผู้ชายที่อยากได้เป็นสามีกลับมานอนห้องของผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเทียบเท่าพวกเธอได้สักนิดเดียวความรู้สึกของพวกเธอมันคงไม่ต่างกับการถูกทำให้เสียหน้า ชั่วพริบตาสายตาเธออ่อนบังเอิญสบตาเข้ากับสายตาของซาตานเมื่อคืนซึ่งเขาเองก็กำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาคมกริบแต่มันกลับเต็มไปด้วยความว่างเปล่าและเฉยชา เรื่องเมื่อคืนคงจะไม่มีค่าอะไรกับคนอย่างเขาเพราะในสายตาเขาเธอเป็นแค่ผู้หญิงไร้ค่าเห็นแก่เงินเท่านั้น"สมใจแล้วสินะ...เขานอนกับเธอใช้ว่าเธอจะมีค่าอะไรกับเขา ผู้หญิงอย่างเธอก็แค่ของเล่นพวกฉันไม่ถือหรอกนะของเล่นมันก็เป็นของเล่นอยู่วันยังค่ำ"โมอาพูดขึ้นทันทีที่หญิงสาวนั่งลงร่วมโต๊ะอาหารสิ่งที่เธอพูดมานั้นมันเหมือนมีดที่ปักลงกลางใจ แต่หญิงสาวกลับโต้ตอบอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย....เพราะสิ่งที่พูดมามันเป็นความจริงทั้งหมดจนไม่สามารถหาข้อแก้ตัวได้ริลได้แต่นั่งก้มหน้าตลอดเวลาที่ทานข้าวเพราะไม่อยากจะเห็นสายตาดูถูกพวกนั้นรวมไปถึงสายตาเย็นชาของคนคนนั้นด้วย..โลกความเป็นจริงมันโหดร้ายอย่างนี้เองสินะ เข้าใจแล้ว...เข้าใจ
หญิงสาวผลักแผงอกชายหนุ่มเบาเป็นสัญญาณสื่อให้เขาพาเธอเดินเข้าไปในห้อง แต่ชายหนุ่มกลับยังคงยืนนิ่งมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างหมดอาลัยตายอยาก จนเธอเริ่มหงุดหงิดใจและสับสนกับสีหน้าของคนที่เคยสนุกด้วยกันปกติแล้วเขาจะรีบดึงเธอเข้าไปเสียด้วยซ้ำเพียงไม่นานหญิงสาวที่พักอยู่ห้องรอบๆ เขาก็เปิดประตูพร้อมกันในชุดที่แทบจะไม่เหลืออะไรเลยออกมาจนเฟร์สถึงกับหัวเราะในลำคอจากการกระทำของผู้หญิงพวกนี้จะยกเว้นก็แต่หญิงสาวห้องสุดท้ายที่อยู่ไกลเขาที่สุดเธอไม่ได้ออกมายั่วเขาเหมือนคนอื่นๆ แต่มันกลับดึงดูดให้เขาอยากจะเดินเข้าไปหาเสียเองเขาได้แต่มองหน้าผู้หญิงทั้งสี่อย่างเอือมระอา ก่อนที่จะเดินผ่านสายตาอิจฉาของพวกเธอมาหยุดยังหน้าประตูห้องสุดท้าย“พี่เฟร์สจะทำอะไรคะ”นูน่าหญิงสาวที่เคยเป็นคู่ดูตัวของเขาพูดขัดขึ้นก่อนที่หญิงสาวทั้งสี่จะเดินมารวมกันเป็นแถวเหอะ...ชายหนุ่มหัวเราะในใจเพราะภาพตรงหน้าเขาตอนนี้อย่างกับกำลังดูรูปแก๊งเสือสาวปลุกใจอยู่ยังไงยังงั้นมันช่างตลกเหลือทน“ว่าไงละคะ พี่จะมาห้องยัยริลทำไม” โมอาทักท้วงอีกแรง“จะมานอนกับเมีย” ชายหนุ่มตอบอย่างเซ็งๆ“พวกเราก็เป็นหนึ่งในเมียๆ ของพี่นี่คะ” ทูน่าพูดพร้อมเดินเข
______19:00 น.ประเทศแคนนาดาทั้งสี่คนเดินทางเข้ามาในโรงแรมระดับห้าดาวก่อนที่พนักงานจะเดินนำขึ้นมายังห้องพักมันเป็นห้องสวีตแบบสองห้องนอนและมีสระน้ำในตัวและมองบรรยากาศตัวเมืองแคนาดาได้สุดลูกหูลูกตาด้วยห้องที่มีจำกัดทั้งสี่จึงต้องแบ่งกันนอนห้องละสองคนซึ่งมูลี่เลือกห้องติดสระน้ำและริลเองก็คิดว่าเธอควรจะเลือกห้องเดียวกับมูลี่เพราะผู้ชายนอนกับผู้หญิงคงไม่เหมาะมากนัก “ฉันนอนกับคุณมูลี่ก็ได้ค่ะ”“ทำไมเธอไม่ไปนอนอีกห้องละ ฉันไม่ได้อยากรวมห้องกับเธอ” มูลี่พูดพลางเชิดหน้า“งั้น...ในเมื่อมูลี่กับเฟร์สยังไงก็เป็นว่าที่คู่หมั้นกันก็นอนด้วยกันก็ได้ ส่วนพี่จะนอนห้องเดียวกับริล” เมทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส...ทำให้เฟร์สถึงกับเลือดขึ้นหน้าเมื่อได้ยินประโยคนั้น กล้าดียังไงถึงจะไปนอนห้องเดียวกับเมียของเขาชายหนุ่มจึงจัดการส่งสายตาโหดไปให้เมียสาวเพื่อบอกให้เธอปฏิเสธสะแต่หญิงสาวกับยังคงทำหน้างงกับเรื่องที่เกิดขึ้น...ยัยบ้านี่บื้อสะจริง... เขาแอบคิดในใจ“เอิ่มมม คืองั้นริลนอนโซฟาดีกว่าค่ะริลเป็นแค่ผู้ช่วยคุณเฟร์สคงจะไม่เหมาะที่จะใช้ห้องนอน”“ได้ยังไงละ คุณเป็นผู้หญิงนะ อย่างน้อยคุณนอนบนเตียงเดี๋ยวผมจะนอนพ
ภายในห้องที่ตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบทำให้ริลรู้สึกหายใจติดขัดชอบกล ชายหนุ่มที่อารมณ์ร้อนเมื่อครู่...ตอนนี้ได้แต่นิ่งเงียบและทำสายตาน่ากลัวอย่างน่ากังวลจนริลรู้สึกขนลุกชู ริลที่รู้สึกกลัวได้แต่ถอนหายใจอยู่ข้างๆ เขาท้องก็เริ่มเกิดอาการแสบร้อนเพราะความหิวเพราะนี่ก็ปาเข้าไปมืดเสียแล้วแต่ถ้าจะออกไปคนเดียวคงได้ดูคนอารมณ์ร้อนโมโหอีกรอบแน่ก๊อก! ก๊อก!เสียงดังขึ้นหน้าประตูเรียกความสนใจของหญิงสาว แต่คงไม่เท่าชายหนุ่มที่อยากรู้ว่าใครเป็นคนมาเคาะจนเขารีบตรงไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว ภาพที่เขาเห็นคือชายใส่ชุดสูทวัยกลางคนกำลังถือถาดของกินต่างๆ ยืนอยู่ทำให้เฟร์สรู้สึกงุนงงไม่น้อย“ขอโทษครับ พอดีท่านเห็นว่ายังไม่ลงไปก็เลยให้ผมมาตามครับ หรืออยากจะทานที่นี่เลยก็ได้ครับ”พนักงานหนุ่มยืนก้มหน้าพูดด้วยความเคารพ สายตาหญิงสาวที่แอบมองด้วยความอยากรู้อย่างเห็นอยู่ด้านมีประกายขึ้นมาเมื่อรู้ว่าเธอกำลังจะได้ทานอะไรเพื่อระงับความหิวแล้ว แต่เฟร์สยังยืดยาดแต่งตัวไม่เสร็จสักทีดูท่าเธอคงต้องออกไปก่อน....ไม่สนว่าชายหนุ่มจะว่าอย่างไรเพราะท้องของเธอทนความหิวไม่ไหวแล้ว“งั้นนำไปเลยค่ะ”หญิงสาวแทรกตัวออกผ่านชายหนุ่มที
“ใช่ค่ะคุณพ่อ สวยสมกับจะเป็นว่าที่ลูกสะใภ้คุณพ่อเชียวละ”มูลี่เสริมพร้อมเดินเข้ามาเกี่ยวแขนเฟร์สเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของอย่างออกนอกหน้า เมทได้ทีรีบตรงเข้าไปฉวยโอกาสโอบเข้าที่เอวริลแบบหลวมๆ จนทำให้เฟร์สที่มองอยู่ถึงกับต้องขบฟันกรามข่มอารมณ์แน่น ส่วนริลก็ได้แต่นิ่งเงียบเพราะไม่กล้าจะพูดอะไรออกไปต่อหน้าผู้ใหญ่ “เหมาะสมดี หนูริลใช่ไหม”“ชะ ใช่ค่ะคุณท่าน”“สวยสมกับที่ไอ้เมทมันว่า ฮ่าๆ สงสัยคุณหญิงคงจะจับให้ผิดคู่ละกะมั้ง ดีๆ แบบนี้พ่อก็ดีใจนี่แต่งงานพร้อมกันเลยดีไหม”“คุณพ่ออ่าาา”มูลี่เขินตัวบิดก่อนที่จะส่งสายตาบอกพี่ชายให้ลากก้างขว้างคอเธอออกไปไกลๆ เมทได้โอกาสจึงรีบพาริลขอตัวออกมาจากตรงนั้น มูลี่รู้ดีว่าเฟร์สเป็นคนเกรงใจผู้ใหญ่คงไม่กล้าที่จะตามริลไปแน่จึงเลือกใช้ผู้ใหญ่มาเป็นข้ออ้างให้เขาอยู่กับเธอ ทางด้านเมทเขาพาริลมายังริมสระว่ายน้ำก่อนจะดึงตัวเธอเข้ามาใกล้ๆ แล้วโน้มตัวเข้ามาหาอย่างรวดเร็วจนริลที่ไม่ทันตั้งตัวรีบยกมือขึ้นมาดันแผงอกกว้างเอาไว้ด้วยความกลัว“ทำอะไรคะ?”“พี่แค่...ชอบริลมาก มากจนไม่อยากละสายตาไปไหนเลย”“เอิ่ม คนเราไม่สามารถชอบกันได้เร็วขนาดนั้นหรอกค่ะ”ริลพูดพร้อมเบี่ยงใบหน
“โถ่เว้ย! ยัยของเล่นไร้ค่า”เฟร์สพูดอย่างหัวเสียกับการกระทำของริลนางบำเรอเบอร์หนึ่งของตัวเอง ให้ตายเถอะเขาคิดว่าริลจะแตกต่างจากผู้หญิงคนที่ผ่านๆ มาสะอีกที่ไหนได้เธอก็ง่ายไปหมด“โถ่เว้ย แล้วไอ้ความรู้สึกร้อนรนบ้าๆ นี่เมื่อไรจะหายไปสักทีวะหงุดหงิดเว้ย!!!”ปัง!ต่อยเข้าผนังเพื่อระบายอารมณ์ขุ่นมัวในอกนึกแปลกใจตัวเองนักที่รู้สึกไปกับยัยนางบำเรอได้มากขนาดนี้ ปกติเขาควงผู้หญิงคนไหนพอได้เห็นเธอคนนั้นไปกับชายอื่นเขาก็แค่สะบัดทิ้งอย่างคนไม่เคยรู้จัก แต่ยัยนี่....เขารู้สึกโกรธ โกรธที่เธอยินยอมใครๆ เหมือนที่ยอมเขา“ไร้ค่า!...”เฟร์สทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างอ่อนล้าก่อนจะค่อยๆ หลับตาลง เขาไม่รู้จะสงบสติอารมณ์ตัวเองให้เย็นลงได้ด้วยวิธีไหนเพียงหวังว่าการนอนหลับจะช่วยให้มันผ่านไป อารมณ์บ้าๆ นี่หายไปทีเถอะ ไม่ชอบ...ไม่ชอบเลยริลนั่งร้องไห้อยู่ในห้องน้ำพักใหญ่เธออดที่จะรู้สึกรังเกียจตัวเองไม่ได้เลย ยิ่งเธอได้ฟังคำพูดของคนที่โมโหอยู่ข้างนอกห้องน้ำนั้นมันยิ่งตอกย้ำสถานะของเธอ ไม่น่าเลย….เธอไม่น่าจะเห็นแก่เงินตั้งแต่แรกทำงานใช้หนี้ไปสะก็ไม่ต้องมาเป็นของเล่นให้ใครแบบนี้“ฉันอยากหายไปจริงๆ ….”ริลมองตัวเองในก
………… “อะ โอ๊ย” ริลรู้สึกเจ็บแสบบริเวณของสงวนมากจนน้ำตาซึมเพียงแค่ขยับตัวนิดหน่อยก็เจ็บจนน้ำตาแทบไหลออกมาจนต้องนอนนิ่งๆ อีกแล้ว...เธอตกเป็นของเขาง่ายๆ อีกแล้ว...หญิงสาวได้แต่คิดโทษตัวเองที่ปล่อยตัวให้ซาตานครอบงำเอาสะง่ายๆ หลายต่อหลายครั้งที่เธอต้องกลายเป็นคนไร้ค่ามันทำให้เธออยากจะให้มันจบลงเสียทีจริงๆ “ครั้งนี้...อยากให้มันเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ” ริลมองหน้าชายใจร้ายที่นอนเปลือยเปล่าอยู่ข้างเธอ คนคนนี้คงไม่เคยจะรู้สึกผิดจนติดเป็นนิสัยถึงสามารถทำเรื่องแบบนี้กับใครต่อใครไปทั่ว ก๊อกๆ “อือ ….” คนนอนหลับลืมตาขึ้นช้าๆ จากภวังค์หลับใหล เพราะเสียงเคาะประตูที่ดังจากด้านนอก ก่อนที่เขาจะหันมองใบหน้าเมียสาวที่มองเขาอยู่ด้วยสายตาเย็นชาให้เธอเจ็บใจเล่นแล้วลุกขึ้นไปนุ่งผ้าเช็ดตัวก่อนจะตรงไปเปิดประตู “...มีอะไร” “คุณหญิงเรียกหาค่ะ” เด็กในบ้านพูดโดยที่ไม่กล้ามองหน้าเจ้านาย “ยัยพวกนั้นสินะ….เดี๋ยวฉันลงไป” ริลตกใจที่อยู่ๆ คุณแม่ของเฟร์สก็เรียกหาลูกชายขึ้นมา...หรือเธอจะโดนเรียกค่าเสียหายที่เป็นต้นเหตุให้ลูกชายคนเดียวของคุณหญิงต้องเจ็บตัว “ไม่ใช่เพราะเธอ…” เฟร์สที่ไม่รู้คุยกับคนใช้เสร็จตั้งแต่เ
สามวันที่เฟร์สขังตัวเองไว้ในห้องมืดๆ เขาไม่ยอมกินไม่นอนเอาแต่นั่งร้องไห้ด้วยความช็อกกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา ใจเขาเจ็บปวด มันเจ็บจนไม่รู้จะผ่านเวลาแบบนี้ไปได้ยังไง ด้านนอกประตูมีคุณหญิงที่ในใจก็แอบห่วงลูกชายเฝ้าอยู่ไม่ห่างเธอกลัวว่าคนที่ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่างเฟร์สจะคิดทำร้ายตัวเองขึ้นมา“คุณหญิงคะ? คุณเฟร์ส”“ฉันรู้น่า บางครั้ง….การที่เรานั่งสั่งสอนก็ไม่เท่ากับให้เขาได้เจอประสบการณ์จริง สิ่งที่ฉันทำมันอาจจะทำให้ลูกเจ็บนะ...เธออย่าลืมว่าคนเป็นแม่เจ็บกว่าลูก แต่นี่ เป็นสิ่งที่เขาควรได้รับเขาจะได้รู้ว่าการเห็นแก่ตัวมันส่งผลแย่แค่ไหน”คุณหญิงพูดให้ป้าแม่บ้านฟังเป็นการระบายความทุกข์ใจ เธอรู้สึกสงสารลูกมากแต่...เธอก็ต้องทำการใช้แผนนี้มันเสี่ยงมากที่จะทำให้เฟร์สเสียริลไปตลอดการที่ริลได้อยู่คนเดียวถ้าเธอไม่ได้รักเฟร์สจริง โอกาสที่เธอจะใช้เวลานี้ทำใจก็ลืมเรื่องทั้งหมดก็มีมาก“คุณหญิงจะใช้เวลานานขนาดไหนคะ? ถ้าคุณเฟร์สคิดมากจน….”“ฉันก็ไม่รู้หรอก แต่ยังไงก็ช่วยดูเขาตลอดแล้วกัน”“ได้ค่ะ”ระหว่างที่คุณหญิงกำลังจะเดินออกมาเธอก็พบเข้ากับโชนที่แอบยืนฟังอยู่นานแล้ว โชนที่กำลังสับสนกับสิ่งที่ได้ยิ
…………………“ฉันมีสิ่งที่อยากจะพูดค่ะ….”"ว่ามาสิ”“ฉันช่วยคุณในการดัดนิสัยลูกชายได้ จริงอยู่ที่ฉันเองก็รู้สึกดีกับเขาในบางครั้งแต่ฉันไม่สามารถอยู่กับคนที่เห็นฉันเป็นแค่ที่ระบายความใคร่ได้หรอกค่ะ….ถึงแม้วันหนึ่งเขาจะเปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น....แต่สิ่งที่เขาทำกับฉัน....ฉันไม่เคยลืมและไม่สามารถยอมรับได้จริงๆ”คุณหญิงถอนหายใจยาว ตามที่คิดไว้อยู่แล้วว่าตัวหญิงสาวคงไม่ให้อภัยลูกนิสัยไม่ดีของเธอ แต่ถึงคุณหญิงจะถูกใจตัวริลมากเท่าไหร่แต่ถ้าเจ้าตัวมีอคติต่อกันมากกว่าความรัก เธอก็ต้องยอมรับในการตัดสินใจของผู้หญิงคนนี้“...ฉันรู้ว่าเธอเจ็บ”“ค่ะ เพราะฉันเป็นมนุษย์คนหนึ่งมีความคิดความรู้สึก อย่างน้อยถ้าเขาเจ็บปวดเพราะฉันมันจะทำให้เขาได้รับรู้บ้างว่าสิ่งที่เขาทำเวรกรรมมันจะสนองยังไง เขาจะได้รู้จักกับคำว่าทรมานสะบ้าง ฉันไม่ได้แค้นอะไรมากหรอกนะคะ….แต่ฉันเองก็อยากให้บทเรียนเขาเหมือนกัน”“ถ้าเธอไม่คิดที่จะอยู่กับเขา….ฉันก็ทำอะไรไม่ได้”ฉันอยู่ในร้านอาหารเดิมแต่คู่สนทนาเปลี่ยนไป ต่อหน้าฉันตอนนี้ไม่ใช่คุณหญิงแต่เป็นลิบินและอันดาเจ้านายของฉัน ลิบินจะเป็นคนเชื่อมแผนทุกอย่างโดยเข้าไปขอร้องให้อันดามาช่วยเรื่องนี้
ริลถูกพาตัวมายังสถานที่ที่คุ้นเคยบ้านของเฟร์สนั้นเอง เขาลากเธอผ่านหน้าบรรดาแม่บ้านที่มองมายังเธออย่างแปลกใจคงไม่มีใครคิดว่าเธอจะกลับมาที่นี่อีก ริลทั้งดิ้นทั้งพยายามดึงแขนตัวเองออกให้ได้จนมันแดงไปหมดแต่มันก็เสียแรงเปล่า เพราะตอนนี้ริลถูกพามาถึงห้องนอนของเฟร์สเรียบร้อยเขาจัดการปิดประตูขังเธอไว้ด้านในแล้วล็อกประตูปัง! ปัง!“เปิดนะ จะขังฉันไว้แบบนี้ไม่ได้ คนมีงานมีการทำนะ!”“ตะโกนไปก็เท่านั้น อยู่ในนั้นจนกว่าจะคิดได้ว่าไม่ควรมาเก่งกับคนอย่างฉัน”ปัง ปัง“ปล่อยฉันออกไปนะ!”ริลพยายามเคาะประตูเรียกร้องความสนใจจากคนด้านนอกแต่เขากลับเงียบไปเหมือนกับว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว ริลทรุดตัวลงด้วยความเหนื่อย มือที่เคาะประตูอย่างแรงนี้กำลังแดงขึ้นและบวมร้อนจากอาการเจ็บจนทำให้เธอต้องหยุด“อยากร้องไห้จริงๆ …”เธอบ่นกับตัวเองแต่ถึงจะอยากร้องมากแค่ไหนเธอก็ต้องกลืนมันลงไป เธอสัญญาแล้วว่าจะไม่อ่อนแออีก ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอจะไม่ใช้น้ำตาแก้ปัญหาอีกแล้ว ตอนนี้เธอกำลังคิดหาทางออกทางหนึ่งที่เธอคิดได้คือปืนหน้าต่างหนีแต่มันกลับไม่เป็นอย่างหวัง.....เมื่อเธอวิ่งไปมองที่หน้าต่างมองไปเห็นผู้ชายสองสามคนย
“สวัสดีริล” “สวัสดีค่ะคุณอันดา” “มีของมาส่งน่ะ ที่โต๊ะ” “ขอบคุณค่ะ” เช้าวันนี้ริลตื่นมาพบว่าซาตานเมื่อคืนได้หายตัวไปอีกแล้ว แต่มันก็ไม่แปลกสำหรับเธอหรอก เพราะสิ่งที่เขาต้องการจากก็แค่ระบายความใคร่เท่านั้น ไม่น่าเจอกันเลยจริงๆ ถือว่าให้หมามันกินแล้วกัน! “ใครส่งมานะ” ริลสะบัดความคิดแย่ๆ แล้วมาสนใจกล่องพัสดุเล็กๆ ที่ไม่มีชื่อผู้ส่ง เปิดดูข้างในกลับพบว่ามีซองสีชมพูห่อกระดาษอะไรสักอย่างไว้ภายใน O__O!!!! นะ นี่มัน รูป หญิงสาวหน้าชาแล้วรีบถือของสิ่งนั้นเดินเข้าห้องน้ำทันที ก่อนจะหันดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามเธอมาแล้วจริงๆ ….นี่มันอะไรกัน…. ในซองเต็มไปด้วยรูปเปลือยของเธอและเฟร์สเต็มไปหมดภาพมีทั้งมองเห็นใบหน้าและมีถึงขั้นมองเห็นหน้าอกของเธอชัดเจน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เขาทำแบบนี้ทำไม! ตืด… ระหว่างที่กำลังโมโหจนน้ำตาไหล โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อก็สั่นขึ้นเมื่อเธอหยิบมันขึ้นมาดูก็พบว่าชื่อที่แสดงเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก ริลกลืนความโมโหทั้งหมดลงคอไปเพื่อทำตัวให้ปกติที่สุดก่อนจะรับสายนั้น “ฮะ ฮัลโหลค่ะ” (ไง ทำไมไม่แบ่งคนอื่นดูบ้างละ หุ่นสวยๆ ของเธอกับหุ่นล่ำๆ ของฉันน่ะ) “คุณเฟร์ส!!” (ยังจ
ค่ำของวันถัดมาในโรงแรมหรูระดับต้นๆ ของประเทศภายในห้องจัดงานถูกตกแต่งไปด้วยดอกไม้สีชมพูอ่อนนานาชนิด แขกในงานต่างพากันแต่งตัวเต็มไปด้วยเครื่องเพชรราคาแพง เพียงแค่มองบรรยากาศผ่านๆ ก็ยังรู้ได้ทันทีว่านี่มันงานของคนใหญ่คนโต แต่ริลแอบแปลกใจที่อันดาไม่ได้แวะทักใครเลยสักคนซึ่งต่างจากคนอื่นในงานเขากลับเดินตรงไปหาเจ้าภาพงานอย่างกับในสถานที่นี้ไม่มีคนที่เขารู้จักแต่เมื่อหญิงสาวได้เจอกับคนที่อันดาต้องการมาอวยพร….ริลก็ได้แต่อึ้งเมื่อเห็นหน้าเจ้าบ่าวเจ้าสาว นี่มันคะน้ากับลิบินเพื่อนของคนที่ทำเธอเจ็บใจจนถึงทุกวันนี้ด้านคะน้าและลิบินก็มีท่าทีอึ้งไปไม่ต่างกันที่อยู่ๆ ก็เห็นริลมาปรากฏตัวต่อหน้าถึงในงาน"ยินดีด้วยเว้ยลิบินเพื่อนรัก""บินกลับมาอยู่ยาวเลยปะวะ"ลิบินถามเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานด้วยน้ำเสียงเครียดใจอยากรู้ว่าไอ้เจ้าเพื่อนกับเมียของเพื่อนเขานี่ทำไมถึงมาด้วยกันได้ สายตาก็ยังคงเฝ้ามองชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งอีกคนที่เมาหัวราน้ำไปตั้งแต่งานยังไม่เริ่มนั้นจะมองมาเห็นเมียตัวเองควงคู่กับชายอื่น ถ้าเป็นแบบนั้นไม่วายเพื่อนรักจะอาละวาดจนงานพัง"ก็อยู่ยาว พ่อให้รับช่วงละวะไปไหนไม่ได้""อ่อ แล้วเอิ่ม....แ
“พี่กลับไปก่อนเถอะ….”ริลพูดเมื่อโชนทำท่าจะเดินตามเธอเข้ามาในบ้าน ชั่วโมงนี้สมองเธอไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้นทุกอย่างมันมืดไปหมดเธอกำลังรู้สึกเสียใจจนอย่างจะอยู่คนเดียว เธอเสียใจที่เฟร์ส....ทำเหมือนทุกอย่างมันเป็นแค่ฝัน ทำเหมือนที่ผ่านมามันเป็นแค่เรื่องตลกเท่านั้น“ริลลืมมันเถอะนะ แล้วเริ่มต้นใหม่กับพี่...นะ”“ริลไม่ใช่ผู้หญิงที่มีคุณค่าอีกแล้ว….ไม่ใช่เลย”ฟืบโชนดึงริลเข้าไปกอดแล้วลูบหลังเธอเชิงปลอบเบาๆ เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดผ่านน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่อายนี้ แต่เขาเลือกที่จะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเพราะไม่อยากตอกย้ำริลให้รู้สึกแย่ลงไปมากกว่าเดิม“พี่กลับไปเถอะ ริลอยากอยู่คนเดียว ริล...โคตรพัง ชีวิตริลตอนนี้มัน...ไร้ค่าจนริลรังเกียจตัวเอง รู้ทั้งรู้แต่ริลยังยอม ริลโคตรไร้ค่าเลย”“....ริล”“ริลแม่งเอาตัวเองลงนรก แม่งเลือกทางเดินให้ตัวเองแท้ๆ เลือกทำลายคุณค่าของตัวเองจนไม่เหลือเพียงเพราะหวังการกระทำดีๆ จากผู้ชายแบบนั้น แม่งโคตรโง่”ริลกลอกตาและพรั่งพรูพูดออกมาด้วยความโกรธที่สุดในชีวิต เธอโกรธและเกลียดตัวเองจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ ตลอดทางกลับมาบ้านเธอนั่งคิดมาตลอดว่าทำไมเธอถึงย
: โชนเขามานั่งรอริลที่บ้านของเฟร์สเป็นวันที่สองแล้วจึงรู้ว่าทั้งสองคนไม่กลับมาที่บ้านจนถึงตอนนี้ทำให้เขาอดกังวลไม่ได้ว่าเฟร์สจะทำร้ายริลเข้า ถึงเขาจะดูเหมือนมีความรู้สึกดีกับริลแต่ใช่ว่าคนเจ้าอารมณ์แบบนั้นจะไว้ใจได้“คุณโชนคะ คือ...คุณหญิงให้เรียกว่าวันนี้คุณเฟร์สกับคุณริลก็คงยังไม่กลับคุณโชนจะรอต่ออีกเหรอคะ”เมื่อฟังที่แม่บ้านพูดจบสายตาโชนก็ไปสะดุดเข้ากับร่างหญิงวัยกลางคนที่กำลังมองมาที่เขาเช่นกัน คุณหญิงยื่นกอดอกมองโชนอย่างชั่งใจ เธอแอบคิดว่าทำไมเด็กริลนั้นถึงทำให้โชนกับเฟร์สที่สนิทกันมากกลายเป็นแบบนี้กันไปได้ นี่มันความผิดพลาดชัดๆ“คุณป้าครับ…”โชนพูดพร้อมเดินขึ้นไปหยุดอยู่ตรงหน้าคุณหญิง ก่อนจะคุกเข่าลง“ทำอะไรน่ะลุกขึ้นมานะ”“ริล ไม่ใช่ผู้หญิงที่ควรมานั่งเสียใจเพราะความเจ้าชู้ของพี่เฟร์สเธอเป็นเด็กดีและไร้เดียงสา ผมขอละนะครับคืนริลให้กลับผม”คุณหญิงตกใจจนเผลอขยับออกห่างเธอรับรู้เรื่องราวของโชนกับริลมาบ้างและคิดว่าริลเป็นฝ่ายหลงรักโชนข้างเดียวมาตลอดไม่คิดว่าโชนเองก็มีใจให้ริลไม่น้อย และตอนนี้เธอไม่รู้จะทำยังไงเพราะลูกชายตัวเองก็ออกอาการสนใจริลกว่าคนที่เคยผ่านๆ มา“...ฉันไม่คิดว่าเ
หือ… อือฮือออ ริลลืมตาตื่นขึ้นพบว่าตอนนี้ตัวเองได้อยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเสียงคลื่นทะเลที่ดังเข้าหูทำให้เริ่มคิดได้ว่าไอ้คุณเฟร์สคงคิดอะไรบ้าๆ อีกแล้ว ตานี่ไม่เคยคิดจะทำงานทำการเลยให้ตายเถอะ ว่าแต่...ทำไมรู้สึกอึดอัด แปลก ๆ นะปากก็ขยับไม่ได้“อืออออ อือออ”เมื่อรู้สาเหตุของความอึดอัด ริลพยายามพูดเพื่อเรียกร้องความสนใจจากชายที่กำลังนอนอ่านหนังสือสบายใจแต่กลับมัดเธอไว้ติดเตียง“ฮะ อ้าว นึกว่าเสียงอะไรที่แท้ก็เมียจ๋านี่เอง”“อัยย๊า (ไอ้บ้า) ” ริลเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาไม่เคารงเคารพมันแล้วอีตานี้ ริลมองเฟร์สตาโตด้วยความไม่พอใจแต่เฟร์สกับมีท่าที่อารมณ์ดีเดินเข้ามาลูบหัวเธอเบาๆ อย่างหยอกล้อก่อนที่จะแทรกตัวลงข้างๆ กายเมียสาวแล้วกอดเธอไว้“ฮ๊าาา รู้สึกดีจังที่เธอนอนให้กอดนิ่งๆ แบบนี้ น่ารักน่าฟัด”“ฮ๊ายยย!!”ริลดิ้นท่าทางไม่ต่างจากปลาที่โดนจับขึ้นจากน้ำหวังให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการแต่ดิ้นเท่าไหร่คนตัวสูงก็ยิ่งกอดเธอแน่น“ทำตัวดีๆ สิจร้ะ”“งือออ >”“อยากให้เอาเทปออกให้ไหม”“อือออออ”“อาเค”ว๊ากกก“โอ๊ยยยย!”เฟร์สกระชากเทปกาวออกอย่างแรงเป็นการแก้แค้นที่เมียดันไปทำท่ามีเยื่อใยต่อชายอื่น โดยที่เข
“พี่โชน…”“ริล ปล่อยสิโว้ย!”โชนพยายามสะบัดตัวออกจากการจับกุมแต่ด้วยแรงของยามหนุ่มสองคนทำให้เขาไม่สามารถหลุดออกไปได้ โชนโดยลากออกไป ริลที่ทำอะไรไม่ได้ได้แต่เจ็บใจและรู้สึกโกรธชายหนุ่มข้างกายจนต้องขบฟันกรามแน่น...เธอรู้สึกเกลียดเฟร์สมากเลยละอยู่ๆ เฟร์สก็กระชากแขนริลลากเข้าไปในห้องลองเสื้อและใช้ท่อนแขนแกร่งดันผนังกันเธอไว้ไม่ให้สามารถหนีไปไหนได้ ส่วนมือหนาอีกข้างก็บีบเข้าที่แก้มนุ่มอย่างแรงจนคนถูกบีบเกิดอาการเจ็บจนริลไม่สามารถหันหนีไปทางไหนได้“อย่าหลบตาฉัน…”“.....”“ฉันบอกให้สบตาฉัน!!”ชายหนุ่มตะคอกเสียงดังลั่นทำให้ริลต้องหันมามองจ้องเข้าไปในดวงตาคมกริบนั้นตามคำสั่ง ภาพที่เธอเห็นมันมัวไปด้วยม่านน้ำตา ในใจตัดพ้อถึงความโชคร้ายที่ทำให้เธอมาเจอปีศาจตนนี้ ถ้าเป็นไปได้เธออยากจะตายไปสะตอนนี้เลยด้วยซ้ำ“เฟร์ส ปล่อยริลนะอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ!”เสียงคะน้าที่พยายามห้ามดังมาจากด้านนอกแต่ก็ไม่สามารถทำให้เฟร์สรู้สึกเย็นลงได้เลย เขาเอาแต่จ้องตาเมียสาวนิ่งอย่างหาคำตอบ ว่าทำไมเธอปกป้องคนอื่นนักทั้งๆ ที่เขาก็มีให้เธอทุกอย่างและที่สำคัญเขาก็มีสถานะเป็นผัวแต่ดูเมียเขาสิร้องเรียกผู้ชายคนอื่นต่อหน้า“คะน้า..