ตอนที่ 3
2/3
"กลับดึกแบบนี้เจ้านายไม่ว่าเอาเหรอคะ"
หญิงสาวถามอย่างใสซื่อ กษิดิศงุนงงกับคำพูดของเธอแต่ก็ตอบไปตามความจริง
"คงไม่มีใครว่าอะไรครับ ปกติผมก็กลับดึกอยู่แล้ว"
"แล้วที่บ้านไม่มีคนรอเหรอคะ"
"ไม่ครับ ผมพักคนเดียวนี่ก็ว่าจะหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนเอาไว้คอยดูแลห้องให้"
คนที่อยากหามาเป็นเพื่อนในความหมายของกษิดิศคือแม่บ้าน เขาอยากจ้างมาไว้ทำความสะอาดคอนโดและดูแลเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารหารกินหรือเตรียมชุดไว้ใส่ไปทำงาน แต่ขวัญข้าวคิดไปไกลกว่านั้นมาก เธอนั่งเขินตัวบิดเพราะคิดว่าคนที่เขาอยากให้ไปอยู่ด้วยคือตัวเอง มือของเธอก็อยู่ไม่สุขลูบปอยผมไปมาแก้เขิน กัดริมฝีปากตนเองอย่างอายๆ แล้วล้วงกระเป๋าเอาสิ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นลิปมันออกมาทาปาก เขาหันกลับมามองเธอแวปเดียวก็ต้องหันขวับกลับมาอีกครั้งด้วยแววตาตกละตึง เพราะสิ่งที่เธอกำลังใช้ทาปากอยู่มันคือปลัดขิก!
"คุณข้าวครับ เอ่อ..."
"ที่จริงข้าวก็คิดว่ามันน่าจะเร็วไป แต่ข้าวก็จะเก็บไปคิดดูนะคะ"
"พกของแบบนั้นด้วยเหรอครับ"
"แบบไหนคะ อุ้ย! เกือบเลยแล้วค่ะ เลี้ยวขวาเข้าซอยข้างหน้าเลยค่ะคุณต่อ"
เธอตีต้นแขนเขาเบาๆ เพื่อให้ลดความเร็วลง จากนั้นเอาปลัดขิกยัดใส่กระเป๋าโดยที่ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าหยิบผิด มันไม่ใช่ลิปติกแต่เป็นของขลังที่บูชามา! หลังจากหักพวงมาลัยเลี้ยวขวาตามที่เธอบอกก็เจอกับหอพักตึกสี่ชั้น เป็นตึกขนาดไม่ใหญ่มาก มีห้องพักทั้งหมดน่าจะไม่ถึงห้าสิบห้อง กษิดิศชะเง้อมองเข้าไปที่ป้อมยาม เห็น รปภ.กำลังนั่งคอพับอยู่จึงถามด้วยความเป็นห่วง
"จากตรงนี้เดินไปคนเดียวได้ใช่มั้ยครับ"
"ได้ค่ะ"
"ให้ผมเดินไปส่งถึงหน้าประตูหอพักมั้ยครับ"
ขวัญข้าวมโนไปอีกว่าเขาอยากให้ชวนขึ้นห้อง หญิงสาวกลอกตาไปมาครุ่นคิด หลังจากไตร่ตรองดูแล้วก็ได้ข้อสรุปว่าคงไม่น่าจะดี ถ้าทำตัวเหมือนอยากมีซัมติงกับเขามากเกินไปเดี๋ยวจะถูกมองว่าใจง่าย ดังนั้นจึงรีบปฏิเสธไปทันที
"ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวข้าวเดินไปเอง วันนี้ขอบคุณมากนะคะ คุณต่อกลับเถอะค่ะ ข้าวไม่อยากทำให้คุณต่อเดือดร้อน"
หากเขากลับช้าเพราะเธอเป็นต้นเหตุแล้วถูกเจ้านายดุขวัญข้าวคงรู้สึกไม่ดีตามไปด้วย มิหนำซ้ำดีไม่ดีเขาอาจถูกหักเงินเดือนก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นกษิดิศจะลำบากเอา ชายหนุ่มได้ฟังแล้วก็ยิ้มบาง ๆ พอเธอลงจากรถไปแล้วเขาก็เปิดกระจกนั่งคอย แค่อยากเห็นกับตาว่าขวัญข้าวเข้าไปในหอพักอย่างปลอดภัยดี แต่ทว่าเธอเดินไปได้ไม่ถึงห้าก้าวก็หันกลับมาสบตาเขา ร้อยยิ้มค่อยๆ ผุดขึ้นบนใบหน้างามช้าๆ
"ข้าวก็ยังไม่มีแฟนนะคะ บอกเฉยๆ ค่ะ ข้าวแค่กลัวว่ามันจะไม่ยุติธรรม วันนี้ข้าวรู้เรื่องคุณต่อมากขึ้นแต่คุณต่อกลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับข้าวเลย ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มเติม...เอ่อ...มีไลน์มั้ยคะข้าวจะพิมพ์ไปบอก"
คนที่นั่งในรถทำหน้างงเพราะยังไม่ได้ถามอะไรเลยสักอย่างแต่เธอก็เล่าเป็นฉาก ๆ เหมือนเขาอยากรู้ ที่นั่งรอเพราะเขากลัวว่าเธอจะมีอันตรายไม่ได้คิดเป็นอื่น แต่ดูเหมือนว่าขวัญข้าวจะคิดไปไกลถึงไหนต่อไหน กษิดิศกะพริบตาติดกันหลายครั้ง กำลังครุ่นคิดอยู่ว่าควรให้หรือไม่ให้ดี รู้ตัวอีกทีเธอก็เดินกลับมาพร้อมกับยื่นมือถือที่หน้าจอกำลังแสดงคิวอาร์โค๊ดให้เขา
"อ๋อ ครับ ๆ"
ชายหนุ่มรับมาแล้วแอดเพื่อนไปอย่างงง ๆ พอขวัญข้าวได้ช่องทางติดต่อสมปรารถนาก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
"ข้าวไปก่อนนะคะ ฝันดีค่ะ"
"ครับ"
พอขึ้นมาถึงห้องแล้วก็กระโดดโลดเต้นเหมือนคนบ้า รีบคว้ามือถือมาเปิดช่องทางแชทที่เพิ่งเพิ่มเพื่อนไปไม่นาน อยากจะพิมพ์ไปถามเหลือเกินว่าเขาถึงบ้านแล้วหรือยัง แต่มันก็เพิ่งจะผ่านไปไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ จึงต้องลบข้อความที่พิมพ์แล้วทิ้งไป นั่งเฝ้ารอเวลาอย่างใจจดใจจ่อ กระทั่งผ่านไปราวสี่สิบนาที ขวัญข้าวรีบกดส่งข้อความไปถามเขาทันที
ขวัญข้าว : ถึงบ้านรึยังคะคุณต่อ
เมื่อพิมพ์ข้อความส่งไปแล้วก็จ้องมองหน้าจอรอคอยการตอบกลับ แต่ผ่านไปนานก็ยังไม่มีข้อความติดต่อกลับมา เขาไม่แม้แต่จะเปิดอ่านเสียด้วยซ้ำ เธอจึงลุกขึ้นมานั่งงอนแก้มป่อง ขวัญข้าวตัดสินใจรออยู่อย่างนั้นอีกยี่สิบนาที ใจหนึ่งยังคาดหวังว่าที่เขาไม่ตอบกลับมาเพราะยังกลับไม่ถึงบ้าน แต่อีกใจก็คิดเองว่าที่เขาไม่ได้เปิดอ่านเพราะไม่ได้เป็นคนชอบเล่นมือถือ ไม่อย่างนั้นมือถือก็อาจจะวางเอาไว้ไกลตัวเลยไม่ทันได้เห็นข้อความของเธอ
หญิงสาวพยายามฝืนตาเต็มที่เพื่อที่จะไม่ให้ตัวเองเผลอหลับ จนแล้วจนรอดก็ผล็อยหลับไปจนได้ รู้สึกตัวอีกที่ก็เมื่อเสียงนาฬิกาหัวเตียงร้องปลุก ขวัญข้าวดีดตัวเด้งขึ้นจากเตียงด้วยความตกใจราวกับว่ามีใครมากระชากตัว มือเรียวควานหามือถือไปทั่วจนพบว่ามันซุกอยู่ใต้ผ้าห่ม รีบเปิดขึ้นมาดูด้วยคาดหวัง คิดว่าจะได้เจอสิ่งที่ดีต่อใจในเช้าวันนี้ แต่หน้าจอมือถือกลับว่างเปล่าไม่มีข้อความที่กษิดิศตอบกลับสักข้อความเดียว
ตอนที่ 62/3ขวัญข้าวปวดเมื่อยเนื้อตัวจนอยากจะเอนหลัง จึงปิดคอมพิวเตอร์แล้วล้มตัวลงบนเตียงแข็ง ๆ จ้องมองเพดานห้องสีหม่นมันช่างแตกต่างจากห้องกษิดิศเหลือเกิน เธอไม่มีอะไรเทียบเขาได้สักอย่าง...พอเอียงหน้ามองปฏิทินเห็นว่ามีรอยปากกาแดงวงวันที่เอาไว้ พรุ่งนี้จะถึงกำหนดส่งดอกไม้วันแรกของสัปดาห์ หญิงสาวพูลลมหายใจออกมาหนักๆ ไม่อยากย่างกายไปที่นั่นเลย เพราะสำนึกและคิดได้หลายๆ อย่าง เท่านี้ก็อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้วเช้าวันรุ่งขึ้นขวัญข้าวนำดอกลิลลี่ไปส่งที่ SGD กรุป เมื่อเข้าไปในบริษัทแล้วเธอก็แจ้งประชาสัมพันธ์ตามปกติ พนักงานสาวรายหนึ่งกดเบอร์ภายในไปยังห้องทำงานของกษิดิศ พอเจ้านายพูดกรอกสายมาว่าอนุญาตให้ขึ้นไปได้ขวัญข้าวจึงหอบดอกไม้ช่อโตไปชั้นสี่ ร่างบางเคาะประตูก่อนจะย่องเข้าไปให้เงียบเชียบที่สุด กะว่าจะเอาช่อดอกไม้ไปวางไว้ที่โต๊ะตัวเดิมแล้วรีบแผ่นหนีให้ไวกษิดิศนั่งอยู่โต๊ะประจำตำ
ตอนที่ 61/3กษิดิศกำลังกลั้นขำในท่าทางสงบเสงี่ยมเหมือนผ้าผับไว้ของขวัญข้าว เธอไม่เหมือนคนเดิมเลยสักนิด ดูเรียบร้อยและเจียมตัวจนเกินเหตุ เพิ่งรู้ว่าจากไซบีเรียนก็เปลี่ยนมาเป็นกระต่ายน้อยได้เหมือนกัน"ข้าวไปได้แล้วใช่มั้ยคะ"ขวัญข้าวยืนขึ้นแล้วยกมือไหว้อย่างนอบน้อม เขาไม่ใช่คุณต่อคนขับรถอีกต่อไปแล้วแต่เป็นลูกค้าที่สั่งออร์เดอร์แพงหูฉี่ ขณะที่กำลังจะก้าวพ้นจากห้อง เสียงจามของกษิดิศก็ดังไล่หลังสามครั้งติด เธอจึงหยุดฝีเท้าแล้วหันกลับมามองเขา จมูกของชายหนุ่มเริ่มขึ้นสีหน่อยๆ นั่นเป็นเพราะก่อนออกมาส่งดอกไม้ขวัญข้าวกำลังจัดช่อกุหลาบอยู่ ละอองเกสรกุหลาบก็เลยติดตัวเธอมาด้วย คนที่รู้ดีว่านี่คืออาการแพ้แน่ๆ คือกษิดิศ ส่วนเธอไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง เขาหลบตาเธอด้วยการลุกขึ้นยืนหันหลังให้ ดังนั้นขวัญข้าวเลยคิดว่าไม่มีอะไรแล้วจึงจากไปทันทีกษิดิศยังคงไปร้านกาแฟเห
ตอนที่ 53/3เขาปรายตามองแค่แป๊บเดียวก็เดินขึ้นลิฟต์ไปทันที ประตูลิฟต์ปิดลงแล้วขวัญข้าวยังยืนอึ้งอยู่ที่เดิม กว่าจะได้สติก็ตอนเสียงประชาสัมพันธ์สาวแว่วเข้าหู"ท่านประธานให้เอาขึ้นไปให้บนห้องทำงานค่ะ""ฉันวานให้พวกคุณเอาไปให้เขาแทนได้มั้ยคะ""GSD กรุป ผูกปิ่นโตกับร้านดอกไม้ของคุณแล้วนะคะ ถ้าท่านประธานบอกให้คุณเอาไปให้เองไม่แน่ว่าอาจจะมีทิปให้ หรือไม่อย่างนั้นก็อาจมีเรื่องคอมแพลน มีแค่สองอย่างนี้เท่านั้นค่ะ รบกวนคุณเอาขึ้นไปเองนะคะ ท่านประธานอยู่ชั้นสี่ห้องแรกทางซ้ายมือค่ะ"คนพูดทำหน้าอิดออดไม่กล้าทำเกินคำสั่งของเจ้านาย ขวัญข้าวเข้าใจในความอึดอัดของพนักงานสาวเป็นอย่างดี เธอจึงพยักหน้าให้แล้วตามเขาขึ้นไปชั้นผู้บริหาร พอถึงห้องที่ประชาสัมพันธ์บอกก็ยกมือขึ้นเคาะประตูสองสามครั้ง หลังได้ยินเสียงอนุญาตจากคนข้างในก็ดันบานประ
ตอนที่ 52/3ปลัดขิกอันเท่าลิปสติกถูกหยิบออกมาจากกระเป๋า ขวัญข้าวชูขึ้นต่อหน้าเพื่อน กองทัพที่เงี่ยหูฟังอยู่นานแล้วปรายตามองมาแวปเดียว พอเห็นสิ่งที่ขวัญข้าวถืออยู่ก็ย่นคิ้ว"วันที่ฉันเจอกับคุณต่อครั้งแรกลุงขับแท็กซี่ให้ฉันบูชาไอ้นี่มา บอกว่าพกไว้แล้วจะมีผัว ฉันก็เลยคิดว่าคุณต่อต้องเป็นคนนั้นแน่ๆ แต่ก็ผิดคาดไปเลย""โอ้ย พี่ข้าวโดนหลอกแล้ว รู้ไว้นะว่าปลักขิกไม่ได้ทำให้มีผัว ถ้าพกแล้วมีผัวจริงทัพก็มีไปสิบผัวแล้วคร๊าบ"เจ้าหนุ่มถลกเสื้อขึ้นมาเผยให้เห็นสายผูกเอวที่มีปลัดขิกห้อยอยู่ด้วย ขวัญข้าวเห็นแล้วถึงกับเหวอไปเลย"ตามความเชื่อเขาบูชามาช่วยเรื่องค้าขาย""ขายตัวเอง""ขายของ!""ก็ตาลุงนั่นบอกว่าถ้าพกไว้แล้วฉันจะขายออกนี่นา"ขวัญข้าวเสียงอ๋อย หดคอล
ตอนที่ 51/3"ข้าวไม่เป็นเพื่อนกับคุณต่อค่ะ"อาจจะฟังดูเหมือนประชด แต่ขวัญข้าวไม่ได้มีเจตนาจะประชดเขาเลยสักนิด เธอคิดแบบนั้นจริงๆ เพราะไม่เห็นประโยชน์อะไรที่ต้องไปเป็นเพื่อนกับเขา หากไม่เห็นทางไปต่อก็ควรหยุดไว้เท่านี้ การตัดใครสักคนออกจากใจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การไม่ต้องแวะเวียนมาเกี่ยวข้องกันอีกจะทำให้ตัดใจได้เร็วขึ้น เวลารักใครขวัญข้าวทุ่มหมดตัวแต่ครั้งนี้มันก็ไม่ได้แตกต่างจากครั้งไหน มันพังเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมาไม่มีผิด หรืออาจจะต่างกันก็ตรงที่กษิดิศไม่ได้ทำร้ายจิตใจให้บอบช้ำ เขาไม่ได้หักหลังจนเธอต้องโกรธแค้น แล้วเธอจะมีหน้าไปโทษเขาที่ไม่มีใจให้ได้อย่างไร ถ้าทำแบบนั้นเธอจะกลายเป็นคนที่เอาแต่ใจเกินไป อยู่ดีไม่ว่าดีดันรนหาที่เจ็บ ในเมื่อรักเองก็เจ็บเองไปสินักเลงพอ"โกรธผมเหรอ""ไม่ค่ะ
ตอนที่ 43/3"หรือว่าเขาจะแอบมาเปิดคอนโดของเจ้านายเพื่อรอเรา...แต่แบบนี้จะดีเหรอ คุณต่อคงอยากสร้างความประทับใจให้เรา โอ้ย ใส่ใจกันมากขนาดนี้เลย"หญิงสาวพึมพำก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน พอไปถึงล็อบบี้ก็หยิบมือถือออกมาตั้งใจจะโทรถามว่าอยู่ห้องไหน แต่กษิดิศก็ได้ส่งข้อความมาบอกก่อนตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ดังนั้นขวัญข้าวจึงขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนทันที เธอเดินมาหยุดที่หน้าห้องหนึ่ง อ่านทวนหมายเลยห้องให้แน่ใจแล้วค่อยยกมือขึ้นเคาะประตูรอไม่นานเจ้าของห้องก็เปิดประตูออกมารับ กษิดิศสวมเสื้อยืดคอเชิ๊ตกับกางเกงสเลคในลุคสบายๆ เขายิ้มให้เธอเธอก็ยิ้มตอบเขินๆ ขณะที่ขวัญข้าวกำลังจะเดินเบียดเข้าไปในห้องกษิดิศก็เดินออกมาข้างนอกแล้วล็อกประตู เธอยืนงงทำหน้าไม่ถูก ตกลงที่ให้มาหาที่ห้องนี่ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ในนี้ด้วยกันทั้งวันหรอกเหรอ"ผมมีที่อยากพาคุณไปรับรองต้องช