หลังจากรับประทานอาหารมื้อดึกเสร็จ ดงชิกก็พาแพทตี้กลับคอนโดของเขา ชายหนุ่มลงทุนซื้อคอนโดเอาไว้ที่พัทยาเพื่อเอาไว้พักผ่อนเวลาที่มาเที่ยว
คอนโดสุดหรูใจกลางเมืองพัทยาทำให้แพทตี้รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เป็นคนอื่นอาจจะดีใจที่มีลูกค้ามีเงินมาใช้บริการ แต่เธอนั้นรู้ดีว่าลูกค้าพวกนี้นั้นเอาแต่ใจตัวเองมากขนาดไหน และเธอก็ยังไม่แน่ใจว่าดงชิกคนนี้จะแสนดีแบบที่แสดงออกมาจริงไหม
“ดงชิก...คุณอยู่ที่นี่คนเดียวหรือคะ” เสียงหวานเอ่ยถามทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก
“ใช่สิ... ผมยังโสดนะแพทตี้ ไม่ต้องกังวลหรอก รับรองว่าไม่มีใครมาต่อว่าคุณแน่นอน”
ดงชิกบอกพร้อมทั้งดึงร่างบางให้เดินตามเขาไป ห้องของหนุ่มเกาหลีอยู่ชั้นยี่สิบ มือหนาแตะคีย์การ์ดด้วยมือที่ว่างอยู่ส่วนอีกมือหนึ่งก็จับมือบางเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
“คุณอยากอาบน้ำก่อนไหมแพทตี้” เขาเอ่ยถามหลังจากที่พาเธอเดินเข้าไปในห้องเรียบร้อยแล้ว
“อยากเห็นหน้าสดฉันใช่ไหมดงชิก” เธอเอ่ยออกมาติดตลก เพราะครั้งที่แดนเนียลเขาก็ให้เธอไปอาบน้ำล้างหน้าก่อนเพียงเพราะอยากเห็นหน้าสด ดงชิกยิ้มก่อนที่จะยอมรับออกมา
“ใช่สิแพทตี้ คุณสวยมากเลยนะเวลาแต่งหน้า แต่ผมก็อยากเห็นคุณเวลาหน้าสดเหมือนกัน”
“ถ้าเห็นแล้วห้ามเปลี่ยนใจนะดงชิกคิกๆๆ”
แพทตี้บอกก่อนที่จะหัวเราะออกมาจนตาหยี ดงชิกมองหญิงสาวตาพร่า เธอสวยและน่ารัก เสียดายที่เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ทำงานอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เพราะถ้าครอบครัวของเขารู้ว่าเขาชอบพอกับผู้หญิงกลางคืนที่ใช้ร่างกายแลกกับเงิน พวกท่านก็คงไม่ยอมให้เขาคบกับเธออย่างแน่นอน
ร่างระหงเดินเข้าไปในห้องน้ำก่อนที่จะลงกลอนประตูและเริ่มปลดเปลื้องชุดเดรสที่สวมใส่ออกจากร้านมาอย่างใจเย็น เธอมองเรือนร่างสัดส่วนที่สวยงามของตนอย่างพอใจ ร่างกายและความสวยมันมีระยะเวลาจำกัด และเธอจะใช้เวลาอันน้อยนิดนี้ทำให้ครอบครัวของเธอได้อยู่กันอย่างสุขสบาย
เสียงน้ำจากฝักบัวไหลลงกระทบพื้น ดงชิกเดินไปหยิบเบียร์ขวดเล็กยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่งขึ้นมาจิบ เขารู้สึกตื่นเต้นที่กำลังจะได้ครอบครองร่างงามที่เขาไปตามเฝ้าดูเธออยู่หลายวัน และเสียเงินไปไม่น้อยกว่าที่เธอจะยอมออกมา
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ร่างระหงในชุดคลุมอาบน้ำก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เส้นผมยังคงเปียกชื้น ดงชิกเดินเข้าไปหาก่อนที่จะยกมือหนาลูบไล้ไปบนใบหน้างามที่ปราศจากเครื่องสำอาง
ใบหน้าของเธอสวย ใส ผิวของเธอก็ขาวและที่สำคัญตัวของเธอหอมมาก หอมจนเขาแทบจะทนเอาไว้ไม่ไหว แต่แล้วหนุ่มเกาหลีก็ต้องตัดใจเดินผ่านเธอเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาดบ้าง อย่างน้อยก็ทำให้เธอประทับใจ
แพรวาหรือแพทตี้เดินไปหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าของเธอที่วางอยู่บนหัวเตียงขึ้นมาเปิดดูหน้าจอที่มีรูปครอบครัวเป็นรูปภาพพื้นหลังของหน้าจอหลักอยู่
เธอยิ้มบางๆ เมื่อนึกไปถึงวันที่เธอบังคับบิดาและมารดาให้ถ่ายรูปนี้ด้วยกันเพื่อเป็นที่ระลึกยามห่างไกล แต่เธอยิ้มได้เพียงครู่เดียวน้ำหยดใสๆ ก็ไหลลงมาจากดวงตาคู่งาม
คืนนี้เธอต้องนอนกับผู้ชายแปลกหน้าอีกแล้ว ความสัมพันธ์ของเขากับเธอเป็นเพียงผู้ขายและลูกค้า ผ่านคืนนี้ไปก็ไม่มีความอะไร
ระหว่างที่แพทตี้กำลังนั่งคิดทบทวนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา เสียงทุ้มของดงชิกก็ดังขึ้นจนหญิงสาวต้องเงยหน้าจากสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าของตนขึ้นมอง รูปร่างสูงโปร่งที่มีแผงอกหนั่นแน่นเต็มไปด้วยซิกซ์แพ็ก ผิวกายขาวผ่องตามแบบฉบับของหนุ่มเมืองหิมะ หญิงสาวแทบจะหยุดหายใจเมื่อเขาเดินเข้ามาประชิดกาย
“ดื่มเบียร์หน่อยไหม เผื่อย้อมใจคุณได้ ผมรู้ว่าคุณไม่มีอะไรกับใครมาเป็นเดือนแล้ว หลังจากลูกค้าคนแรกของคุณ.... ใช่ไหม”
“อะ...เอ่อ ค่ะ สักขวดก็พอค่ะ เดี๋ยวเมาแล้วจะง่วงซะก่อน” หญิงสาวบอกยิ้มๆ ชายหนุ่มจึงเดินไปหยิบเบียร์ในตู้เย็นขึ้นมาเปิดและเดินนำมันมาส่งให้กับเธอ ปากเล็กเอ่ยขอบคุณก่อนที่จะลุกจากเตียงไปนั่งตรงระเบียงนอกห้อง ซึ่งชายหนุ่มก็นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวตามออกไป
“ทำไมคุณถึงยอมออกมากับผมล่ะแพทตี้” เขาเอ่ยถามขึ้นมาทันทีที่นั่งลงจนคนฟังแทบจะสำลักเบียร์ที่เพิ่งจะดื่มไปออกมา
“เอ่อ... พอดีที่บ้านมีปัญหาต้องใช้เงินน่ะค่ะ” แพทตี้ตอบเขาก่อนที่จะยกขวดเบียร์ขึ้นมากระดกลงคออีกครั้ง สายตาเรียวเล็กมองใบหน้าสวยริมฝีปากสีชมพูเป็นธรรมชาติด้วยความเห็นใจ
“คุณหาเงินคนเดียวหรือแพทตี้ ถ้าคุณทำงานแบบผู้หญิงกลางวันคงจะดีไม่น้อย” เขาเอ่ยถามในประโยคแรก ก่อนที่จะเอ่ยประโยคต่อมาเสียงเบาราวกับกำลังพูดกับตนเอง
“ใช่ค่ะ แม่ของฉันป่วย พ่อฉันอาจจะทำงานหาเงินได้บ้าง แต่ค่าจ้างก็ไม่เพียงพอต่อการใช้หนี้ ฉันมีหน้าที่หาเงินใช้หนี้ให้ครอบครัวค่ะ คุณคงไม่คิดว่าชีวิตฉันน่าสงสารใช่ไหมคะ แต่ผู้หญิงหลายคนที่มาพัทยาก็มีเหตุผลคล้ายๆ กันค่ะ” เธอบอกเขาก่อนที่จะยกขวดเบียร์ขึ้นมากระดกอีกครั้ง
“แล้วคุณไม่อยากทำงานอย่างอื่นหรอ งานที่ไม่ต้องใช้ร่างกายแลกกับเงิน”
“ถ้างานอื่นมันหาเงินได้เร็วและเยอะเพียงพอต่อหนี้สินและความต้องการของครอบครัว ฉันก็จะทำค่ะ แต่ความจริงโลกมันไม่ได้ใจดีกับคนจนขนาดนั้น หลายๆ คนอาจจะมองว่าพวกผู้หญิงกลางคืนไร้ศักดิ์ศรี ไร้ค่า มันก็ไม่ใช่ความจริงทั้งหมดหรอกค่ะ พวกคุณรู้อะไรไหมคะ พวกเรามีค่าและมีราคากว่าผู้หญิงที่ทำงานดีๆ บางคนเสียอีก”
แพทตี้ร่ายยาวออกมา ดงชิกพยักหน้าอย่างเข้าใจ ค่าแรงขั้นต่ำในประเทศไทยนั้นมันน้อยเกินไปจริงๆ น้อยจนบางครอบครัวก็ต้องกัดก้อนเกลือกินก็มี
“สามดอกหนึ่งร้อยบาทค่ะ” เด็กหญิงตัวน้อยที่มาช่วยมารดาขายดอกไม้เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม“เอาสามดอกจ้ะ”แพรวาบอกพร้อมกับส่งเงินให้ เด็กหญิงยกมือไหว้ก่อนที่จะรับเงินมาแล้วส่งดอกไม้ให้กับลูกค้าใจดี“ขอบคุณค่า...ขอให้คุณน้าสวยๆ รวยๆ ได้เป็นมาดามนะคะ”คำขอบคุณผสมคำอวยพรของเด็กหญิงรุ่นราวคราวเดียวกับอินทัชเรียกเสียงหัวเราะเอ็นดูออกมาจากหญิงสาวที่นั่งฝั่งตรงกันข้าม แอมมี่ส่ายหน้าไปมาให้กับความใจดีของเพื่อนสนิท กับความไร้เดียงสาของเด็กขายดอกไม้“อันนี้หม่ามี๊ให้อินทัช อันนี้ให้น้องอันนา และอีกดอกให้ป้าแอมมี่กับน้องแองจี้ค่ะ”“ขอบใจจ้ะ..ขอให้ได้เป็นมาดาม คิกๆๆๆ”แอมมี่ไม่วายรับดอกไม้มาก่อนเอ่ยแซว แพรวายิ้มเขินส่งไปให้ คำว่ามาดาม มีคำจำกัดความมาจากอะไร เธอรู้ดี แต่เธอก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตนี้จะได้เป็นมาดามของใครสักคนดีที่ว่าดอกกุหลาบทั้งสามมีพลาสติกสีสวยห่อหุ้มก้านจับอยู่ เธอเลยให้เด็กๆ ถือได้ แอมมี่เมื่อรับดอกไม้มาจากเพื่อนสาวแล้วจึงส่งให้กับบุตรสาว โชคดีที่ก้านกุหลาบไม่มีหนาม“ขอบคุณครับ/ค่ะ” สองพี่น้องเอ่ยคำขอบคุณมารดาพร้อมกัน“หม่ามี๊ครับ ทำไมเด็กผู้หญิงคนนั้นต้องมาขายดอกไม้ด้วยล่ะครับ”อินท
ภาพของหนุ่มฝรั่งกับผู้หญิงไทยผิวขาวผมดำยาวคลุมแผ่นหลังไปถึงบั้นท้ายเดินจูงเด็กชายวัยห้าขวบกับเด็กหญิงวัยสามขวบเดินออกมาจากประตูทางออกของผู้โดยสารขาเข้า การเดินทางมารอบนี้สองสามีภรรยาไม่มีผู้ติดตามมาด้วยเป็นการเดินทางมาแบบครอบครัวเมียร์จริงๆ“ลุงโอเว่น ป้าแอมมี่ น้องแองจี้ สวัสดีครับ” เสียงเด็กชายวัยห้าขวบร้องเรียกชื่อของคนที่มารอรับ“โอ้โห... หลานชายป้าโตเป็นหนุ่มแล้วหล่อเชียว” แอมมี่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นร่างเล็กของหลานชาย ลูกชายคนแรกของเพื่อนสนิท“นั่นสิ.. โตแล้วหล่อเหมือนพ่อเรานะเนี่ย”โอเว่นเห็นด้วยก่อนที่จะยักคิ้วให้เพื่อนสนิทที่เดินเข็นรถเข็นที่มีกระเป๋าเดินทางหลายใบตามหลังภรรยาและลูกๆ มา“น้องอันนาก็โตวัยจังเลย ดูสิกลายเป็นสาวขี้อายไปแล้ว น่ารักจัง”อันนา บุตรสาวคนเล็กของแพรวากับสตีเว่นมีนิสัยต่างจากพี่ชาย เธอขี้อายแต่ทว่าเรียนรู้เร็ว ส่วนอินทัชนั้นช่างเจรจา ช่างซัก ช่างถามตามวัยของเขา“น้องแองจี้ก็โตแล้วนะครับ”แองจี้คือลูกสาววัยหนึ่งขวบของแอมมี่และโอเว่น ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันเมื่อสองปีที่แล้ว โดยโอเว่นขอเธอแต่งงานขณะที่ไปเยี่ยมแพรวาตอนครั้งที่แพรวาคลอดน้องอันนา ทั้งคู่แต่งงานก
พ่อแม่ลูกสวมกอดกัน แพรวากราบลาก่อนที่จะให้ตากับยายได้อุ้มหลานชายอีกครั้งหนึ่ง เด็กชายอินทัช เมียร์ ดูเหมือนจะรู้เขาร้องไห้ออกมาเนื่องจากรู้สึกผูกพันกับตายายอยู่ไม่น้อยแพรวากลั้นน้ำตาอุ้มลูกขึ้นรถตู้ที่มีป้าเดซี่และน้องเอวานรออยู่ สตีเว่นยกมือไหว้ลาพ่อตาแม่ยายอย่างน่าเอ็นดู แพรวายกมือขึ้นโบกลาบิดามารดาในขณะที่รถตู้ค่อยๆ ขับเคลื่อนออกจากบริเวณบ้านไปสองเดือนต่อมาหลังจากกลับมาจากประเทศไทยแพรวาก็ทำหน้าที่ภรรยาและแม่ที่ดีไม่มีขาดตกบกพร่อง แม้จะคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อแม่ที่ประเทศไทยบ้าง แต่พอได้หายคิดถึงบ้างก็เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่ อินทัชส่งเสียงอ้อแอ้เข้าไปตามสายให้คนอีกซีกโลกได้ชื่นใจ แพรวาแค่เห็นว่าบิดาและมารดายังแข็งแรงดีเธอก็รู้สึกสบายใจ“อุ๊บ!!! แอว๊ะ”เสียงอาเจียนของคุณนายเมียร์ดังขึ้นหลังจากที่เพิ่งเข้ามาในครัวในยามเช้า ป้าเดซี่ต้องรีบเข้ามาดู เพราะปกติคุณนายเมียร์ไม่เคยมีอาการแบบนี้“คุณนายเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเป็นห่วง“เหม็นกระเทียมค่ะ ปกติไม่ได้เหม็นขนาดนี้”ป้าเดซี่ถึงกับทำหน้าสงสัย เพราะที่คุณนายบอกมานั้นไม่ผิด ปกติคุณนายเมียร์จะไม่เหม็นหรือแพ้อะไ
เช้าวันใหม่ในวันแรกในจังหวัดเชียงใหม่ วันนี้แพรวามีแพลนว่าจะพาบิดามารดาเข้าเมืองไปเลือกซื้อเสื้อผ้าใหม่ ป้าเดซี่กับเอวานเดินทางมาจากในเมืองเพื่อมารับครอบครัวเมียร์และบิดามารดาของคุณนายเมียร์ สตีเว่นทำหน้าที่อุ้มลูกชายอย่างน้องอินทัชระหว่างที่ภรรยาของเขาพาครอบครัวเลือกซื้อเสื้อผ้า ป้าเดซี่อยากไปเที่ยวชมวัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ พอดีกับแพรวาที่จะพาครอบครัวไปแวะไหว้พระพอดี“วัดนี้ชื่อวัดพระสิงห์ค่ะ เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดเชียงใหม่อีกวัดหนึ่งและเป็นอีกหนึ่งวัดที่นักท่องเที่ยวจากทั้งไทยและต่างประเทศมักจะแวะเวียนมาเที่ยวชมอยู่ไม่ขาด”ไกด์จำเป็นอย่างแพรวาเริ่มบอกเล่าประวัติความเป็นมาของวัดพระสิงห์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ให้กับสามีและป้าเดซี่ที่ดูจะสนอกสนใจกับประติมากรรมแบบล้านนา กรุ๊ปทัวร์ต่างมองมาที่สาวไทยที่มีใบหน้าสวย ผิวขาวผุดผ่องที่ดูภายนอกเหมือนจะเป็นไกด์จากบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่ดูอีกทีก็เหมือนจะเป็นคนในครอบครัวของฝรั่งกลุ่มนั้นด้วยสายตาชื่นชมที่การพูดสำเนียงภาษาเยอรมันราวกับว่าเกิดและเติบโตที่ประเทศเยอรมนีก็ไม่ปาน“นั่นไกด์หรอ หรือว่านักท่องเที่ยวเหมือนกัน”“น่าจะเ
สิบชั่วโมงกับการเดินทางไกล เด็กน้อยทั้งสองรวมไปถึงป้าเดซี่ต่างพากันสลบไสลตั้งแต่ถึงจังหวัดตากแล้ว จน ณ เวลานี้รถตู้เคลื่อนตัวเข้าสู่อำเภอบ้านเกิดของแพรวาทั้งสามคนก็คงยังไม่ตื่น สตีเว่นเปิดห้องพักที่โรงแรมในเมืองให้กับป้าเดซี่ เอวานและคนขับรถได้พัก ส่วนสามคนพ่อแม่ลูกก็ไปพักที่บ้านของแพรวา ขณะที่รถตู้เคลื่อนไปจอดหน้าบ้านทรงโมเดิร์นหลังขนาดกลาง ชายหญิงวัยกลางคนก็รีบเดินออกมาต้อนรับด้วยความตื่นเต้น“พ่อจ๋า...แม่จ๋า หนูกลับมาแล้วจ้ะ”แพรวาอุ้มลูกน้อยวัยหนึ่งขวบลงมาจากรถตู้ สองตายายน้ำตาซึมที่ได้เห็นหลานชายตัวจริง ไม่ใช่เห็นเพียงการพูดคุยผ่านกล้องอย่างเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา“จ๋า...”เด็กน้อยเลียนแบบมารดาเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของตาและยายได้เป็นอย่างดี“อินทัช...หลานตา”“อินทัช...หลานยาย”สองตายายรีบเรียกชื่อหลานชายตัวน้อยขึ้นมาทันที ก่อนที่คุณยายจะส่งมือมารออุ้มหลานชายตัวน้อย อินทัชมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะโผเข้าไปหาอ้อมแขนของคุณยายยิ้มสวยตรงหน้าอย่างง่ายดาย“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะลูก เข้าบ้านก่อนไปๆ เดินทางกันมาเหนื่อยๆ”คุณตารีบบอกบุตรสาวและบุตรเขยพร้อมทั้งคนที่มาด้วยกันทันที“พ่อจ๋าแม
หลังจากที่พาบุตรชายดื่มด่ำบรรยากาศที่เมืองพัทยาอยู่สามวันครอบครัว ‘เมียร์’ ก็พากันเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแพรวา เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวพาบุตรชายกลับมาเยี่ยมตากับยาย การเดินทางไปครั้งนี้แพรวาได้เหมารถตู้จากพัทยาไปจังหวัดเชียงใหม่ โดยคนขับรถตู้คืออดีตการ์ดของอะโกโก้ที่เธอเคยทำงานอยู่ มาม่าซังจินตนาเป็นคนจัดหามาให้“คุณน้าแพรฮะ บ้านคุณน้าอยู่ไกลไหมฮะ” เด็กชายเยอรมันเอ่ยถามคุณน้าคนสวยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น“ไม่ไกลเท่าไหร่ครับ แต่ว่าเอวานต้องนอนหลับก่อนนะ ตื่นมาก็คงถึงพอดี”เสียงหวานเอ่ยออกมาเป็นภาษาเยอรมันจนคนขับรถอดที่จะรู้สึกชื่นชมหญิงสาวอดีตดาวอะโกโก้คนนี้ไม่ได้ เขาเห็นเธอเป็นเด็กที่ตั้งใจทำงาน เป็นคนดีมีน้ำใจ เวลาที่หญิงสาวออกไปกับลูกค้ากลับมา มักจะซื้อเหล้าหรือไม่ก็เครื่องดื่มชูกำลังเลี้ยงพวกการ์ดหน้าร้านเสมอ เขายังแอบคิดว่าสักวันเธอจะต้องได้เจอคนดีๆ มารักและสร้างครอบครัวกับเธอ จนในวันนี้ เขาอดที่จะดีใจไปกับเธอไม่ได้“พี่แบงค์ อยากทานอะไรไหมจ๊ะ”และเธอไม่เคยคิดว่าเขามารับจ้างเพียงเท่านั้น เธอคอยถามไถ่ความต้องการของเขาตลอดเส้นทาง“ไม่เป็นไรครับ น้องแพทตี้กับ