ผลัวะ ประตูไม่ได้ล็อค คราวนี้อ้นจึงล็อคเสียเอง เขาวางถุงกระป๋องเครื่องดื่มไว้บนโต๊ะ ห้องขนาดสี่คูณสี่ เข้ามาก็เจอกับเตียงนอนขนาดห้าฟุต ผ้าปูยับยู่ยี่บ่งบอกว่าพึ่งใช้ผ่านศึกมาหยกหยก
ลูกโป่งอยู่ในห้องน้ำเพราะเขาได้ยินเสียงน้ำ อ้นถอดเสื้อถอดกางเกงยีนส์ของตนออก เหลือไว้แต่กางเกงชั้นใน เขาเปิดเครื่องดื่มที่ซื้อมาและยกขึ้นดื่มทีเดียวเกือบหมด
อ้นเดินไปที่ซิ้งค์ล้างจาน เขาดึงดุ้นที่แข็งโด่เดของตนออกมา เอาเครื่องดื่มที่เหลืออยู่ในกระป๋องราดและใช้มือถูไถชโลมให้น้ำสีทองอาบรด และเขาก็ล้างมือตัวเอง เขาล้างแต่มือ และหันกลับมาเดินไปนั่งปลายเตียง พร้อมกับเปิดกระป๋องที่สอง
ผลั๊วะ ลูกโป่งนุ่งผ้าเช็ดตัวเดินออกมาจากห้องน้ำ หล่อนเดินไปหาเขาและยื่นมือไปดึงกระป๋องในมือของอ้นมากรอกปากตัวเอง เธอดื่มไปสองสามอึกเท่านั้น
“นี่ถามหน่อย ถ้ากูกับไอ้เต้มาพร้อมกัน แกไหวมั้ยว๊ะ”
“ไม่ไหว เพราะแกสองคนบ้าพลังเหมือนกัน และอีกอย่างของโป่งไม่ฟรีโว้ย”
“แล้วถ้ากูยืมสถานที่หน่อยจะได้มั้ย จะไว้ใช้กับตู้เอทีเอ็มของกู กูจะชวนไอ้เต้มาด้วย ถ้ามันเจ๋งอย่างที่โป่งว่า”
“ไม่กลัวว่า ตู้เอทีเอ็มของแก จะเขี่ยแกทิ้งเหรอ”
“เออว๊ะ แต่กูว่านะ...แม่คุณไม่ได้มีกูคนเดียวหรอก” พูดจบอ้นก็กระชากผ้าขนหนูออกจากร่างของลูกโป่ง โอ้ว! อ้นร้องออกมา “ไอ้เต้มันเดือดปุดๆเลยสิ ยังบวมอยู่เลย” ลูกโป่งยกยิ้มมุมปาก
“โอ้ย! แค่นี้ สบายสำหรับโป่งเลย...ว่าแต่แกเตรียมเกราะมาพอมั้ย” อ้นชำเลืองเหลือบสายตาไปที่ถุงที่มีกระป๋องเครื่องดื่ม มีกล่องเล็กๆสองกล่องกลิ้งซ้อนอยู่ในนั้น
ร่างทั้งร่างของอ้นทอดลงบนเตียงนอนเมื่อลูกโป่งทาบทับอยู่ด้านบน อกอวบอึ๋มลอยเด่นตามลงมาจดจ่อยอดเกสรที่แดงฉ่ำเข้าปากของอ้นที่ก็รู้งานคาบเกี่ยวบีบอัดจากมือทั้งสอง บีบเคล้นเต็มมือ จ๊วบ จ๊าบ เสียงดูดรั้งดังอย่างไม่ต้องเกรงใจผู้ใด อ้าร์รรร...ส
กลีบฉ่ำที่เดิมบวมแดงอยู่นั่น ลูกโป่งก็ยังเบียดเสียดท่อนแข็งที่ขยายตัวใหญ่โตด้วยฤทธิ์ยาไม่สนใจว่าหลังเสร็จสมแล้วเธอจะเจ็บปวดแสบร้อนไปอีกนานสักกี่วันกี่คืน
อ้น ไม่ถนอมร่างอวบอึ๋มนี่เลยแม้แต่น้อย คนเคยค้าม้าเคยขี่ รู้ท่ารู้อารมณ์กันดี พวกเขาทั้งสองเคยแม้กระทั่งกินยาโด๊ปด้วยกันทั้งคู่ เริ่มตั้งแต่ฟ้ายังไม่มืดจนสว่างคาตา หมดเรี่ยวแรงหลับเกยเกี่ยวกันไปอีกคืน ด้วยความอยากลองของที่ได้มากันมาแล้ว
“ขอพ่นออกสักทีหนึ่งก่อนเถอะว๊ะ” เสียงของอ้นร้องบอกเพราะเขาทนมาเป็นชั่วโมงแล้ว และยิ่งถูกกระตุ้นเสียดสีกับเนินกลีบอวบฉ่ำเยิ้มด้วยแล้ว มันเกินสุดจะทนยาก็ยาเถอะ
“จะเอาบนหรือเอาล่าง” ลูกโป่งกระซิบร้องถามอย่างเย้ายวน
“ล่าง และแรงๆด้วย” อ้นบอกกลับในทันที ลูกโป่งขยับ เอื้อมไปหยิบกล่องเล็กในถุงกระป๋องเครื่องดื่ม หล่อนแกะออกจัดการให้อ้นอย่างชำนาญในกามกิจ
ดุ้นอันขนาดเขื่องตั้งแข็งดั่งท่อนไม้หายเข้าไปในร่องกลีบบวมแดง เอี๊ยด เอี๊ยด และเสียงควบโยกร่างอวบของลูกโป่งก็บรรเลงบนเตียงที่ไม่ใหม่แต่ก็ไม่เก่าจนน่าเป็นกังวล ดังเป็นจังหวะที่ให้ผู้ใดก็ตามที่เดินผ่านหน้าห้องก็ต้องได้ยินและเดาได้ว่า ลูกโป่งกำลังทำอะไรแต่กับใครนั้น ยากที่จะเดา
กึก สองสาวกับหนึ่งหนุ่มที่เผอิญเดินผ่านประตูห้องของลูกโป่งก็หยุดการก้าว อาร์รรส...เสียงครางสองเสียงดังเล็ดรอดประตูออกมา
“แม่เนี่ย กินแรดเป็นอาหารหลักหรือยังไง” หนึ่งในสองสาวเอ่ย เพื่อนสาวอีกคนยิ้มขบขัน
“เรื่องของเขาจะไปยุ่งทำไม”
“ทำไม อยากเจอแม่เนี่ยด้วยเหรอ” ฝ่ายชายไม่เอ่ยอะไรต่อ ทำหน้ารำคาญและเดินต่อไป สองสาวก็เดินตาม เสียงไม้เสียดสีที่รอดออกมาค่อยๆจางไปเมื่อระยะเดินห่างออกไป
พั่บ พั่บ อาร์ส อ้า อ้า ร่างอวบอึ๋ม ที่ขยับโยกขึ้นลงเร็วแรงเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อและหยดน้ำที่ตกค้างมาจากการอาบน้ำพร่างพราวบนผิวขาวเผือกเต็มไปหมด
โอ้วววว อู้ยยย เฮ่อ เฮ่อ อ้นครางกระสันร้องลั่น คุณแป้งก็ดี ลูกโป่งก็เยี่ยม หญิงสาวต่างวัยทั้งสองที่อ้นเกี่ยวข้องด้วย ไม่มีใครเลยที่ทำให้ตน ผิดหวัง ต่างก็ตรงที่คุณแป้งมีค่าตอบแทนให้เขาสบายเปรมปรีด์ แต่ลูกโป่งก็คุ้มค่าจ้างให้ร้อยหล่อนเล่นล้านเลยทีเดียว ไม่เกรงไม่กลัวว่าจะทำให้ตัวเองใช้งานไม่ได้ไปสักพักเลยสักนิด ขอเพียงอย่างเดียวสำหรับลูกโป่งคือห้ามถ่ายคลิปเธอเท่านั้น
โอ้ววว และไม่นานเกินรอจริงๆ สำหรับครั้งที่สองในวันนี้ของอ้น เพราะเขาอึดอัดมานาน ด้วยลีลาเรี่ยวแรงอันมากไปด้วยประสบการณ์ของลูกโป่ง อ้นก็พ่นความขุ่นครั่กในถุงเกราะป้องกันออกมาจนเอ่อ ฟู่วววว อ้นพ่นลมออกจากปากอย่างโล่ง
“เสร็จเปล่าว๊ะ” อ้นร้องถามลูกโป่ง เมื่อหล่อนหยุดแต่ยังนั่งคร่อมท่อนล่างเขาไว้ ลูกโป่งพยักหน้าหอบหายใจ “แสบเปล่าว๊ะ” อ้นไม่รู้ว่าที่ถามเพราะเป็นห่วงลูกโป่งหรือเป็นห่วงตัวเองกันแน่ เพราะฤทธิ์ยาในตัวยังไม่หมด ถ้าลูกโป่งไม่ไหว เขาก็คงค้างพาลให้หงุดหงิดแน่
“ได้อยู่” ลูกโป่งร้องบอกและยกขาออกจากท่าคร่อม อ้นดึงทิชชู่ออกมาและถอดเกราะป้องกันที่เต็มไปด้วยน้ำขุ่นออก และเหวี่ยงทิ้งลงถังขยะขนาดเล็กที่วางอยู่ไม่ไกลอย่างแม่นยำ
ลูกโป่งล้มตัวลงนอนข้างกายอ้น แยกขาออกจากกันอย่างรู้งานเมื่อฝ่ามือสีทองแดงทาบถูไถแหวกกลีบแดงฉ่ำ เหมือนเป็นกิจกรรมยามว่างที่อ้นมักจะทำกับลูกโป่งเสมอเมื่อมีโอกาส อู้ยยยย ลูกโป่งซู๊ดปากร้องเมื่อนิ้วและมือของอ้นเขย่าขยับเตร็ดเตร่เล่นอยู่แถวบริเวณเนื้อที่เปียกแฉะ นิ้วเท้าทั้งสิบจิกเกร็งขยุ้มผ้าปูที่นอนที่ยับยู่ยี่ ปากก็ร้องครวญครางเสียงดังไม่หยุด ดวงตาปิดลงปากเผยอน้อยๆ
“เบล...เบล” โฟว์วิ่งเข้ามาในห้องทำงานพร้อมแท็บเล็ต เบลเงยหน้ามองหน้าพี่โฟว์ แล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น โฟว์ไม่ได้พูดอะไรยื่นแท็บเล็ตไปตรงหน้าและชี้ให้เบลดูโพส “ฟ้อง!” เบลครางออกมา เธอไม่รู้เรื่องเลย แต่จะว่าไปเธอแทบจะไม่เคยอ่านเรื่องราวว่าร้ายแรงไปถึงไหนแล้ว “สามีเบลใช่มั้ย ต้องใช่แน่ๆ ร้ายกาจมาก ตอนแรกพี่คิดว่าเขาจะไม่สนใจ ที่ไหนได้ร่อนหมายศาลไปหาทุกคนไม่มีตกหล่นเลย ใช่แล้วพวกนี้ต้องเจอแบบนี้” เบลรู้จักคุณกลางดี ที่เธอไม่สนใจตั้งแต่แรกก็เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องถึงขั้นนี้ “เอาน่า...ที่เบลไม่รู้เรื่อง พี่ไม่แปลกใจเลย สามีเบลพี่ว่าเขาเจ๋งมาก ดั่งสุภาษิตที่ว่าอย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ เขาไม่ลดตัวลงมาพี่ว่าเขาทำถูกจริงๆ แต่ยังไงคนพวกนี้ต้องได้รับบทเรียน...ฟันธงพี่เห็นด้วย...อ๊ะอ๊ะ อย่าให้เขาไปถอนฟ้องโดยเด็ดขาด พี่รู้นะว่าเบลคิดอะไรอยู่ ปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของผู้นำครอบครัวถูกต้องแล้วน้องร
“ทำไมคุณกลางถึงอยากมีลูกอีกละคะ” “อีก?” แทนที่จะได้คำตอบ กลับมีคำถามที่เขาไม่เข้าใจ “ฉันยังไม่เคยแต่งงานแล้วฉันจะมีลูกได้ยังไง” เบลมองเขานิ่ง คนอย่างคุณกลางไม่เคยโกหก เขายอมรับการกระทำของตัวเองเสมอ “นี่เบลเข้าใจผิดอย่างงั้นเหรอ...ห้าปีที่ผ่านมาทำไมคุณกลางไม่แต่งงานกับคุณช่อคะ” “ก็ฉันไม่ได้รักเขานิ” “แต่คุณคบกับเขามาตั้งหลายปี” “ก็แค่ชอบและคิดว่าเมื่อคบกันรู้จักกันมากขึ้น ด้วยฐานะทางสังคมของเธอ ฉันจะรักเธอได้สักวันและวันนั้นก็จะเป็นวันที่ฉันจะขอเธอแต่งงาน” แม้เบลจะไ
ในเมื่อเขาขอเธอแต่งงานก่อนที่เธอจะท้อง เธอปฎิเสธ และเขาก็ไม่อยากบังคับเธอ แต่เมื่อไหร่ที่เขาทำเธอท้อง เบลจะปฎิเสธเขาไม่ได้อย่างแน่นอน “ยืนไหวมั้ย” เมื่อนิ่งพักหายใจกันไปสักพัก เขาก็เอ่ยขึ้น เบลพยักหน้ารับ และเขาก็ผละค่อยๆห่างเธอออกไป เบลมองเขาที่ว่ายน้ำตีกังเชียงไปยังอีกฝั่งของสระ ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าสระว่ายน้ำมีไว้เพื่ออะไร แต่เบลไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนเขา เธอยังยืนอยู่ที่เดิม วางหนุนศีรษะไว้บนแขนที่พาดอยู่ที่ขอบสระ และหลับตา เรี่ยวแรงเธอไม่ได้กลับมาเร็วแบบเขา และเธอก็ยังรู้สึกที่ร่องระหว่างขา กัยอาการปวดระบมที่เนินอกอวบทั้งสอง เธอปล่อยให้น้ำบำบัดร่างกายเธออย่างสงบ เสียงน้ำที่แตกจากการแหวกว่ายยังคงดังอย่างเอื่อยๆต่อเนื่องกันไป และตลอดสามสี่วันทริปฮันนีมูนก่อนแต่งของเบลและคุณกลางก็รวนไปหมด เพราะในตอนกลางวันที่คุณกลางตามใจเบลออกไปท่องเที่ยวสถานที่สำคัญต่างๆของจังหวัด เขาจะพักในเวลาช่วงเย็นสองสามชั่วโมง พอค่ำนิดหน่อยก็เป็นเวลาท
“เชียงใหม่ยังมีอะไรมากมาย ให้เราไปหลายที่มากค่ะ” และกลางก็เริ่มสงสัยแล้วว่าตัวเองแก่แล้วเหรอ นี่แค่ครึ่งวันเท่านั้นที่เบลพาเขาตะลอนๆ ไปยังที่เธอต้องการ เขารู้สึกเหนื่อยจริงๆ แต่เธอไม่มีอาการเหล่านั้นเลยสักนิด “เบล ฉันอยากกลับไปพักแล้ว” เบลกระพริบมองเขาถี่ๆ ชิ! เบลไม่อยากขัดใจจึงยอมกลับที่พักอย่างที่เขาต้องการ พรึ่บ! กลางล้มตัวลงบนโซฟา และแหงนหน้าพิงพนัก เบลวางถุงขนมและอาหารที่เธอซื้อมาบนโต๊ะ และหยิบน้ำเปล่าไม่เย็นออกมาจากถุงในหลายๆถุงที่เธอหิ้วมาด้วย “น้ำค่ะ” เบลเปิดขวดให้เขาและทรุดนั่งลงข้างๆเขา กลางดื่มน้ำหมดไปครึ่งขวด และเขากลับไปแหงนหน้าพิงพนักเหมือนเดิม เขากับเบลอายุห่างกันสิบปี ช่องว่างระหว่างวัยที่เกิดขึ้นทำให้เขากับเธอชอบอะไรที่ไม่เหมือนกัน วันนี้เขาเห็นแล้วว่าเบลสนุกสดใส “พลังเหลือเฟือจริงๆ” กลางยิ้มขันออกมา
“เบลก็ไม่คิดว่าเขาจะเป็นจุดหมายปลายทางชีวิตของเบลหรอกค่ะ เราสองคนแตกต่างกันมาก พี่โฟว์เข้าใจความหมายของดอกกุหลาบสีน้ำเงินมั้ยคะว่ามันคือการรอคอยที่ไม่สิ้นสุด เบลเคยคิดว่าความรู้สึกของเบลที่มีให้กับเขาเปรียบเสมือนดอกกุหลาบสีน้ำเงินที่ไม่มีทางสมหวัง วันแรกที่เบลเห็นเขา...” เบลนึกถึงเมื่อหกปีก่อนได้ ตอนที่เห็นเขาจากที่ไกลๆในบ้านของคุณใหญ่ เขาไม่แม้แต่จะชายตามองเธอเลย “รักเขาใช่มั้ย” โฟว์ถามขึ้นเมื่อจู่ๆเบลก็เงียบไป “ค่ะ แต่เมื่อไหร่นั้น เบลก็ไม่แน่ใจค่ะ แต่วันที่เขาเนรเทศเบล วันนั้นเบลแย่มากๆ แย่จนไม่เข้าใจว่าตัวเองผ่านช่วงนั้นมาได้อย่างไร” ตอนนั้นเบลพยายามคิดถึงอนาคตของตัวเอง แต่มันไม่ง่ายเลย เธอทรมานเป็นที่สุด แต่เธอก็ภูมิใจในตัวเองที่เธอผ่านมันมาได้ โดยที่ไม่ทำร้ายชีวิตของตัวเองลงไป “งั้นพวกพี่พร้อมแล้วที่จะขอรู้จักกับเขา&r
“ฉันจะออกไปพบกับเขาเอง” เขาพูดพร้อมกับวางโทรศัพท์ของเบลไว้บนเตียงเมื่อเขาเดินไปส่องกระจกเช็คตัวเอง และเขาก็เดินไปเปิดลิ้นชัก หยิบแหวนของมอสออกมา “ฉันจะเอาไปคืนเขา และอาจกลับดึกหน่อยนะ” เบลยืนมองเขาตกตะลึงอ้าปากค้าง “ไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลเด็กนั่นเอง” ชิ! เบลหมั่นไส้เขาขึ้นมาทันที “เมื่อกี้คุณกลางพูดอะไรกับพี่มอส” เบลกลัวเหลือเกินว่าคุณกลางจอมร้ายกาจคนนี้จะพูดจาทำร้ายจิตใจพี่มอส “รายละเอียดหลักๆ ขี้เกียจเล่า เอาเป็นว่าอดีตแฟนของเบล เขารู้แล้วว่าฉันเป็นผู้ปกครองของเบล” “ผู้ปกครองเหรอคะ” กลางพยักหน้า “ผู้ปกครองที่เป็นเจ้าชีวิตของเบลไปตลอดชีวิตไงเล่า” จุ๊บ เขาเดินมาหอมแก้มเธอ “นอนเลยนะไม่ต้องรอ”