เมืองซีเหลียน
ยามค่ำคืนของเมืองซีเหลียนอากาศเย็นสบาย ตึกและอาคารต่างๆ เปิดไฟประดับสว่างไสวทำให้บรรยากาศคึกคัก ผู้คนพลุกพล่านไม่ต่างจากตอนเช้า
“ท่านประธานจะกลับโรงแรมเลยหรือว่าจะไปดื่มก่อนดีครับ”
ต่งเหอเก๋อที่กำลังขับรถอยู่เหลือบสายตามองเจ้านายผ่านกระจกมองหลัง
“กลับโรงแรม”
โม่เหยี่ยนตอบ แต่เมื่อรถถึงหน้าโรงแรมก็กลับพูดขึ้น
“ฉันจะลงตรงนี้”
เขาเปิดประตูลงจากรถ นัยน์ตาคมมองทางฝั่งซ้ายของโรงแรมที่มีถนนเส้นเล็กสายยาวแต่เต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านขายของหลายร้าน จึงเดินไปอย่างรวดเร็ว
“เดินเที่ยวบ้างก็ดี”
เขาพูดบอกเลขาเสียงไม่ดังนัก
ต่งเหอเก๋อมองตามหลังเจ้านายหนุ่ม ก่อนที่จะขับรถเข้าไปจอดภายในโรงแรม ปล่อยให้โม่เหยี่ยนเดินชมวิวกลางคืนของเมืองคนเดียว
โม่เหยี่ยนปรายตามองแต่ละร้านอย่างไม่สนใจเท่าใด เขาไม่ได้เที่ยวตอนกลางคืนมาหลายปี คืนนี้เลยถือโอกาสเดินชมบรรยากาศเมืองซีเหลียน
เมืองนี้แม้ผู้คนจะเยอะแต่ก็ไม่วุ่นวายเท่าเมืองจินไห่ ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลาย เขาแวะซื้อเบียร์ที่ร้านสะดวกซื้อข้างทาง จากนั้นก็หาเก้าอี้นั่งรับลมริมแม่น้ำที่ไหลผ่านใจกลางเมือง
นั่งดื่มเบียร์จนหมดสองกระป๋องเขาก็ลุกขึ้นเพื่อที่จะกลับโรงแรม เดินได้ไม่กี่ก้าวก็พบกับกลุ่มชายอันธพาลทำทีเดินเข้ามาล้อมรอบเขา
“เฮ้ พี่ชาย ขอเงินซื้อเบียร์กินหน่อยสิ”
ชายที่มีลักษณะเหมือนหัวหน้าแก๊งอันธพาลพูดกับโม่เหยี่ยน เขาทำสีหน้าดุร้ายเพื่อขุ่มขู่ชายหนุ่ม
“พี่ชายแต่งตัวดีขนาดนี้ ดูท่าจะมีเงินไม่ใช่น้อย แบ่งๆ กันใช้เถอะ”
ชายอีกคนมองสำรวจโม่เหยี่ยนพร้อมกับแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปาก
โม่เหยี่ยนชำเลืองดูอันธพาลพวกนั้น เขาถอดเสื้อสูทอย่างใจเย็นก่อนพาดไว้บนเก้าอี้ตัวที่ใกล้ แล้วถลกแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นทั้งสองข้าง
“อยากได้เงินก็เข้ามา”
เรื่องวิวาทต่อยตีโม่เหยี่ยนไม่เป็นรองใคร
หลังจากเขากล่าวจบ อันธพาลทั้งสี่คนก็เข้ามารุมชกต่อยกับเขา โม่เหยี่ยนแม้จะมึนเมาแต่ก็ไม่มาก เขาตั้งรับและสวนหมัดกลับไปอย่างช่ำชอง
เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าหนึ่งในสี่นั้นพกมีดสั้นติดตัว มันอาศัยจังหวะที่โม่เหยี่ยนรับมือกับคนอื่นไม่ทันระวังตัวแทงเข้าที่ท้องของเขา
โม่เหยี่ยนตกใจยกมือกุมที่ท้อง เลือดสดๆ ไหลออกมาจำนวนมาก เขาทรุดลงบนพื้นก่อนจะหมดสติไป
“ประธานโม่”
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนบอกผู้คนที่อยู่ใกล้เคียงให้ช่วยเรียกตำรวจและรถพยาบาล
........
โรงพยาบาลเมืองซีเหลียน
โม่เหยี่ยนฟื้นขึ้นหลังจากได้รับการทำแผลเรียบร้อยแล้ว นัยน์ตาคมกวาดมองรอบห้องผู้ป่วย เขาเห็นต่งเหอเก๋อและหญิงสาวที่ไม่คุ้นหน้าคนหนึ่ง
“ประธานโม่ฟื้นแล้ว” ต่งเหอเก๋อรีบลุกขึ้นมาดูเขา
“คอแห้งอยากดื่มน้ำไหมครับ”
“ยัง” โม่เหยี่ยนตอบน้ำเสียงแหบแห้ง
“นั่นใคร” เขาหันหน้าไปทางหญิงสาวคนนั้น
“นี่คุณอู๋ อู๋อี้ตัน เธอเป็นคนช่วยท่านประธานไว้”
“อ่อ”
โม่เหยี่ยนพยายามจะลุกนั่งบนเตียง แต่ถูกต่งเหอเก๋อห้ามไว้ เขาปรับระดับเตียงให้ยกขึ้น โม่เหยี่ยนจะได้อยู่ในท่านั่งพูดคุยกับอู๋อี้ตันได้
“ขอบคุณคุณอู๋มากๆ”
ชายหนุ่มบอกหญิงสาวน้ำเสียงแหบพร่า ไม่รู้ว่าเขาหลับไปนานแค่ไหนถึงได้คอแห้งเช่นนี้
“ผมต้องตอบแทนคุณแน่นอน คุณบอกเลขาต่งได้เลยว่าต้องการอะไร”
เขาพูดจริงจังกับหญิงสาวก่อนยกมือขอน้ำดื่มจาก ต่งเหอเก๋อ
“ใช่ครับ คุณอู๋บอกผมได้เลย”
เลขาหนุ่มตอบก่อนที่จะหยิบแก้วน้ำและใส่หลอดดูดส่งให้โม่เหยี่ยน
“ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวตอบ
“แต่ถ้าประธานโม่อยากตอบแทน ฉันก็มีเรื่องร้องขอที่ไม่ยากเกินไป”
อู๋อี้ตันส่งรอยยิ้มหวานบางๆ ให้กับโม่เหยี่ยนและ ต่งเหอเก๋อ
“ฉันขอทำงานกับคุณได้ไหมคะ ฉันเพิ่งลาออกจากงานพอดี”
“ได้เลยครับไม่มีปัญหา”
ต่งเหอเก๋อตอบรับอย่างรวดเร็ว บริษัทต้าเฉิงเป็นบริษัทขนาดใหญ่จะหาตำแหน่งฝากคนทำงานนั้นง่ายนิดเดียว
“แต่ฉันอยากเป็นเลขาประธานโม่ค่ะ”
หญิงสาวตอบ สายตาจ้องมองโม่เหยี่ยนคล้ายต้องการคำตอบทันที
“ได้” โม่เหยี่ยนยื่นแก้วน้ำให้ต่งเหอเก๋อ “คุณพร้อมเริ่มงานเมื่อไหร่ก็บอกเลขาต่งนะ”
“อย่าลืมตามเรื่องคดีด้วยล่ะ” เขาสั่งเลขาตน
“ได้ครับ”
โม่เหยี่ยนพูดจบก็หยิบรีโมทข้างเตียงปรับให้นอนลงเหมือนเดิม สงสัยว่าถูกฉีดยาแก้ปวดที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงจึงรู้สึกอยากนอนพักต่อ
........
บริษัทต้าเฉิง
อู๋อี้ตันที่มาทำงานวันแรกผลักประตูเข้ามาในห้องทำงานของโม่เหยี่ยน มีเลขาสาวอีกคนเดินตามหลัง
เธอมองสำรวจทั่วห้องทำงาน สายตาเห็นกรอบรูปที่มีรูปของโม่เหยี่ยนและหลี่ชิวโหรวยืนคู่กันอยู่บนชั้นวางหนังสือ
“ประธานโม่หย่ากับภรรยาแล้วไม่ใช่หรือคะ ทำไมยังเก็บรูปไว้อีก”
อู๋อี้ตันเลิกคิ้วถามน้ำเสียงสงสัย
เลขาเฉินซึ่งเดินตามหลังปรายตามองหญิงสาวด้วยแววตาไม่พอใจ
“ไม่ทราบค่ะ นั่นเป็นเรื่องของท่านประธาน ฉันไม่ก้าวก่าย อีกอย่างคุณนายก็สวยน่ารัก นิสัยดี ถ้าประธานจะเก็บรูปเธอไว้ก็ไม่แปลก”
“คงเก็บไว้เตือนใจมั้งคะ ว่าภรรยาเคยสวมเขาให้”
อู๋อี้ตันพูดน้ำเสียงเหมือนไม่ใส่ใจ ก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นเรื่องงานแทน
“คุณอู๋ตั้งใจทำงานนี้ด้วยนะคะ ตำแหน่งเลขาหน้าห้องประธานโม่ไม่ได้มีแต่งานง่ายๆ ความสามารถต้องมากจริงๆ แค่เรียกตำรวจเรียกรถพยาบาลเป็นไม่ได้หมายความว่าจะทำงานออกมาดี”
เลขาเฉินกล่าวทิ้งท้ายแล้วเดินออกนอกห้อง
ประธานหนุ่มของเธอไม่เคยมีปัญหาเรื่องผู้หญิง แต่เมื่ออู๋อี้ตันมาทำงาน ความรู้สึกของเฉินเสี่ยวหรูก็เริ่มบอกว่าผู้หญิงคนนี้ต้องระวัง
“สุดท้ายก็เป็นเรื่องของท่านประธานอยู่ดี”
เธอบ่นพึมพำเบาๆ ด้วยฐานะที่ชื่นชอบหลี่ชิวโหรว เธอคงไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเลขาใหม่คนนี้เป็นอันขาด
.........
“ลืมไม่ได้งั้นหรือ”
อู๋อี้ตันเปิดหาคลิปเก่าๆ ของหลี่ชิวโหรว เธอดูแต่ละคลิปด้วยความตั้งใจ สังเกตลักษณะท่าทาง วิธีการพูดและการแต่งตัวของหญิงสาว
ในเมื่อประธานโม่ชอบแบบนี้ เธอก็จะเป็นตัวแทนของหลี่ชิวโหรวให้
หลังเลิกงาน อู๋อี้ตันไปเดินห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อชุดทำงานใหม่ทั้งหมด เธอโละเสื้อผ้าที่เซ็กซี่วาบหวิว เปลี่ยนเป็นชุดทำงานที่เรียบร้อยตามการแต่งตัวของหลี่ชิวโหรว
........
วันถัดมา โม่เหยี่ยนเข้ามาบริษัทในตอนเช้า เขานั่งอ่านรายงานและแฟ้มเอกสารที่ถูกวางกองบนโต๊ะอย่างตั้งใจ ไม่นานนักเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
นัยน์ตาคมมองผู้หญิงที่เข้ามาในห้องด้วยความแปลกใจ
‘โหรวโหรว’
เขาส่งเสียงเรียกเธอในใจ แต่เมื่อสังเกตดูอีกครั้งพบว่าคนที่เดินเข้ามาคืออู๋อี้ตัน
“เลขาอู๋นี่เอง”
เขาทักทาย ก่อนรับแก้วกาแฟที่หญิงสาวส่งให้
“ฉันถามเลขาเฉินมาแล้วว่าประธานโม่ชอบรสชาติแบบนี้ ลองชิมดูนะคะ”
เธอวางจานร้องแก้วลงบนโต๊ะแล้วส่งสายตาหวานให้เขา
“ใช้ได้” โม่เหยี่ยนตอบก่อนวางแก้วลงบนโต๊ะ
“เลขาอู๋กลับไปที่โต๊ะทำงานเถอะ”
อู๋อี้ตันยิ้มบางๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้เลขาต่งไม่อยู่ ฉันจะนั่งโต๊ะของเขารอประธานโม่เรียกใช้แทน”
โม่เหยี่ยนไม่ได้ตอบอะไร หากเธออยากทำงานตามที่สั่งก็ปล่อยให้เธอทำไป
ถึงเวลากลางวัน อู๋อี้ตันก็ลงไปหยิบถาดอาหารของโม่เหยี่ยนมาเสิร์ฟตรงตามเวลา บุรุษนัยน์ตาคมชำเลืองมองอาหารในจานไม่ได้กล่าวอะไรเป็นพิเศษ
ของที่เธอสั่งล้วนเป็นอาหารที่เขาชื่นชอบ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน
“ฉันกำชับห้องครัวไว้ค่ะ ว่าต้องเป็นอาหารที่ประธานโม่ชอบเท่านั้น”
อู๋อี้ตันบอกกับเขาก่อนที่จะเดินกลับโต๊ะทำงาน
“คุณก็ไปหาอะไรกินเถอะ” ชายหนุ่มบอกหญิงสาว
“ฉันเตรียมมาเองค่ะ ช่วงนี้ฉันไดเอท”
อู๋อี้ตันตอบน้ำเสียงเขินอาย เธอจะพยายามลดหุ่นให้เท่ากับหลี่ชิวโหรวให้ได้
........
ห้าเดือนผ่านไป
“เลขาเฉิน งานที่ฉันสั่งได้หรือยังคะ”
อู๋อี้ตันเดินออกมาจากห้องทำงานของโม่เหยี่ยน เธอใช้น้ำเสียงออกคำสั่งถามเฉินเสี่ยวหรู
“กองนี้ค่ะ หยิบไปได้เลย”
เฉินเสี่ยวหรูไม่เงยหน้ามองหญิงสาว เธอทำราวกับว่าตัวเองมีงานยุ่งให้อู๋อี้ตันหยิบไปด้วยตัวเอง
“คราวหลังเอาไปไว้ที่โต๊ะทำงานฉันข้างในเลยนะคะ ไม่ต้องให้ฉันออกมาตาม”
อู๋อี้ตันบอกก่อนที่จะหยิบแฟ้มด้วยแววตาไม่พอใจ
“โหรวโหรว เหยียนเหยี่ยน”เสียงของมิ่งมิ่งดังขึ้นเรียกพวกเขาทั้งสองคนหลังพิธีเสร็จสิ้น“เรียกพ่อแม่แบบนี้ได้ยังไง ไม่น่ารักเลย”ซูเหม่ยบอกหลานชายตัวน้อย“พวกเขาแอบมาแต่งงานกันสองคน มิ่งมิ่งตัดขาดการเป็นพ่อแม่ลูกกับพวกเขาแล้ว”เด็กชายตัวน้อยใส่แว่นตาดำ เชิดหน้าใส่คู่บ่าวสาว“แอบตรงไหนกัน พ่อให้คนไปรับมิ่งมิ่งมานะ”โม่เหยี่ยนพยายามงอนง้อลูกชายเด็กชายมองลอดแว่น“น้องสาวอย่างน้อยหนึ่งคน แต่ถ้าแฝดด้วยก็ยิ่งดี”“ตกลง”โม่เหยี่ยนรับคำทันที“อะไร หมา
เมืองหมิงตูเมืองบนเขาขนาดเล็ก มีความเป็นชนบทค่อนข้างสูง คงเอกลักษณ์ท้องถิ่นอย่างเต็มเปี่ยมประชากรในเขตนี้จำนวนไม่มาก การคมนาคมขนส่งยังไม่สะดวกสบาย การเดินทางไปเรียนหรือไปโรงพยาบาลต้องใช้เวลานานโม่เหยี่ยนเดินทางมาเมืองนี้กับหลี่ชิวโหรวและต่งเหอเก๋อ เขาสำรวจรอบเมืองในเวลาสองวันก็สั่งต่งเหอเก๋อให้กลับจินไห่ไปเตรียมงานตามที่สั่งส่วนเขาและหลี่ชิวโหรวพักที่บ้านพักหลังไม่ใหญ่บนเนินเขา พื้นที่รอบบ้านเป็นสวนผักและสวนผลไม้ มีธารน้ำใสอยู่ไม่ไกล“ที่รักจะให้ทำผมอะไรบ้าง”ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าใกล้หญิงสาวตอนที่เธอกำลังเก็บผลไม้ข้างบ้าน“คุณสอนหนังสือได้มั้ย”หลี่ชิวโหรวถาม“แต่อย่าเลย คนอย่างคุณเดี๋ยวไปทำให้ค
‘อารมณ์ไหนเนี่ย’หลี่ชิวโหรวบ่นในใจ มือเรียวจูงเขาเข้าห้องนอนแล้วหยิบเสื้อผ้าในตู้เพื่อจะแต่งตัวให้เขาเธอหยิบเสื้อใส่ให้เขาอย่างคล่องแคล่ว แต่เมื่อสายตามองผ้าเช็ดตัวที่พันตรงบริเวณเอว ก็มีอาการลังเลเล็กน้อย“ใส่กางเกงกับกางเกงในเอง”หญิงสาวหน้าแดงระเรื่อออกคำสั่งชายหนุ่ม“ไม่เอา งั้นก็ไม่ใส่”โม่เหยี่ยนทำท่างอนเดินไปนั่งบนเตียง ในหัวเริ่มคิดประมวลผลอย่างหนัก ถ้าเขาแกล้งเธอมากกว่านี้ พอเธอรู้ความจริง นอกจากจะง้อไม่สำเร็จ เขาอาจจะไม่มีชีวิตรอดอีกด้วยเพราะฉะนั้น โอกาสมีแค่ครั้งนี้จากนั้นค่อยไปขอไถ่โทษสำนึกผิดทีหลังหลี่ชิวโหรวทำหน้าหงุดหงิด หยิบกางเกงแล้ววางลงบนเตียง ขณะที่กำลังชั่งใจจะช่วยโม
“มิ่งมิ่งเลือกชุดว่ายน้ำได้หรือยัง”หลี่ชิวโหรวถามลูกชายแต่สายตากลับเหลือบมองผู้ชายตัวโตที่ยืนข้างเขา“มิ่งมิ่งเลือกชุดคู่ จะได้เหมือนกับพ่อ” “เหอะ ไม่เลือกชุดคู่กับแม่ล่ะ”เธอก้มหน้าถามมิ่งมิ่ง มือเรียวบีบแก้มเด็กชายด้วยความหมั่นไส้“ไม่ต้องห่วง ผมเลือกให้เอง”โม่เหยี่ยนยกแขนมาโอบไหล่เธอ“เลือกให้คุณด้วย”“ไม่ต้อง ฉันเลือกของฉันเองได้”หลี่ชิวโหรวปัดมือของเขาออกแล้วเดินไปบริเวณชุดว่ายน้ำสตรียังไม่ทันที่เธอจะเลือกชุดได้ โม่เหยี่ยนก็ให้มิ่งมิ่งวิ่งมาบอกเธอว่าพวกเขาเช่าชุดเรียบร้อยแล้ว
“คุณไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นเลย”โจวฟางฟางนั่งเอนศีรษะซบไหล่ของซ่งเวย มือของคนทั้งสองกุมกันแน่น“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเพื่อคุณเลย ขอผมทำบ้างนะ”ซ่งเวยพูดออดอ้อนหญิงสาว“คุณทำเพื่อฉันกับลูกหลายอย่าง ฉันไม่ได้ตาบอดใจบอดจนมองไม่เห็นนะ”โจวฟางฟางบอกเสียงหวาน“คุณอุ้มท้องลู่ลู่ เลี้ยงดูมาดีขนาดนี้ ทั้งยังไม่คิดหาพ่อเลี้ยงให้เธอ ผมทำดีกับคุณมากขนาดไหนก็ไม่พอกับความดีของคุณ”โจวฟางฟางอมยิ้มกับสิ่งที่เขาพูด ดวงตากลมใสมองหน้าเขา“คุณอยากได้ของขวัญอะไรหรือคะถึงปากหวานขนาดนี้”ซ่งเวยเห็นสายตาที่เป็นประกายของโจวฟางฟาง ในใจก็สั่นควบคุมไม่ได้ เขากระซิบบอกเธอให้ได้ยินกันแค่สองคน
“มิ่งมิ่งจะไปหาพ่อ”เด็กชายร้องเสียงดัง เขาเบะปากทำท่าจะร้องไห้ “ไม่ต้องไป เขาเป็นพ่อของเราจริงๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้”ซูเหม่ยปรายสายตา พูดประชดอดีตลูกเขยของตน หลี่ชิวโหรวส่งเสียงทันใด“แม่ แม่กำลังกล่าวหาว่าหนูมีชู้อยู่นะ” ซูเหม่ยตกใจรีบปฏิเสธทันที“เปล่า ลูกสาวแม่ออกจะดี จะไปมีชู้ได้ยังไง มิ่งมิ่งก็ไม่ใช่ลูกชู้”เธอลูบผมหลานชายปลอบใจเขา “มิ่งมิ่งจะหาพ่อ ฮือ”
เมืองเจียงโจว วิลล่าของซ่งเวย รถยนต์คันหรูของโม่เหยี่ยนเลี้ยวเข้าประตูวิลล่าของซ่งเวย เมื่อรถยนต์จอดสนิท เด็กหญิงตัวน้อยก็วิ่งออกมาจากตัวบ้านแล้วกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “มิ่งมิ่งมาถึงแล้ว” ประตูรถเปิดออก เด็กชายที่ถูกเรียกชื่อก็ลงจากรถอย่างรวดเร็ว เขาวิ่งมากอดเด็กหญิงตัวน้อย “ลู่ลู่” “เรียกว่าน้องลู่ลู่สิ”ซ่งเวยกับโจวฟางฟางเดินออกมารับแขก พวกเขายิ้มแย้มเมื่อเห็นเด็กทั้งสองดีต่อกัน 
โจวฟางฟางรับโทรศัพท์จากจั่วซิ่วหลิงผู้เป็นมารดา สีหน้าของเธอดูเหนื่อยหน่ายอย่างเห็นได้ชัด “มีอะไรเหรอ”ซ่งเวยยื่นกระป๋องน้ำผลไม้ส่งให้เธอพร้อมกับถามน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่มีอะไรค่ะ แม่แค่สั่งให้ฉันออกไปทำธุระข้างนอก”เธอลอบถอนหายใจก่อนหันไปคุยกับลูกสาวตัวน้อย “ลู่ลู่อยู่กับป่าป๊านะจ๊ะ ตอนเย็นหม่าม้าจะกลับมาหา” เด็กหญิงพยักหน้ารับ “ได้ค่ะ” “ผมไปส่งไหม”ซ่งเวยพูด เขาลุก
วิลล่าของซ่งเวย “คุณโจวฟางฟาง ผมขอเรียกคุณว่าฟางฟางนะ”ซ่งเวยพูดขณะที่ช่วยเธอถือกระเป๋าเดินทางเข้ามาภายในวิลล่า “เอ่อ ก็ได้ค่ะ”โจวฟางฟางตอบ สายตามองรอบบริเวณบ้าน เมื่อรู้สึกไว้วางใจเธอจึงปล่อยลูกสาวตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนลงบนพื้น “ลู่ลู่อย่าดื้อ อย่าทำลายข้าวของในบ้านคุณลุงนะ” “ไม่ใช่คุณลุง ต้องเรียกว่าป่าป๊า พ่อทูนหัวก็คือป่าป๊า”ซ่งเวยรีบพูดแก้อย่างรวดเร็ว โจวฟางฟางเงียบ เธ