เธอไม่อยากทะเลาะกับตาแก่ใจแคบนี่ เพิ่งมาอยู่ที่นี่ที่สำคัญคือต้องมีเงิน และเธอรู้ดีว่าต้องไปหาที่ไหน เมื่อเอ่ยจบก็เดินกลับไปที่บ้าน ถอนหายใจหดหู่แล้วหดหู่อีก เฮ้อ...แน่ใจนะว่าบ้าน จากนั้นไม่นานเด็กน้อยเฉินหยุนผิงก็นำเสื้อมาให้ท่านแม่ปีศาจของนาง จ้าวเหลียนเฟยที่จากนี้ไปนางก็คือจ้าวเฟยเฟยแล้วของหมู่บ้านอวี๋หยางแล้ว นางเอ่ยขอบใจกับเด็กน้อยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"เด็กดีขอบใจนะผิงผิง เดี๋ยวแม่กลับมาจะทำของอร่อยๆ ให้กิน"
"ท่านแม่ปีศาจจะไปที่ใดเจ้าคะ"
จ้าวเฟยเฟยกลอกตามองบน ใครสั่งใครสอนให้เรียกแบบนี้นะ ยังเด็กอยู่เลยวาจาไม่น่ารักจริงๆ นางจึงนั่งลงยองๆ มือบางลูบศีรษะน้อยๆ อย่างเอ็นดูก่อนจะเอ่ยสั่งสอน
"ผิงผิง ลูกต้องไม่เรียกแม่อย่างนี้ หากว่าคนอื่นมาได้ยินวาจาเช่นนี้จะคิดว่าสกุลเฉินไร้การอบรม เด็กจะน่ารักอยู่ที่กิริยาวาจา มิใช่หน้าตาเข้าใจหรือไม่"
"เจ้าค่ะ ต่อไปไม่เรียกท่านแม่ปีศาจแล้วเจ้าค่ะ"
"เด็กดี ต้องอย่างนี้สิน่ารักจริงๆ"
เฉินมู่หยางมาถึงตอนที่นางกำลังสั่งสอนบุตรสาวก็แปลกใจ ส่วนเฉินโม่หวายมองหน้านางอย่างระแวงก่อนจะเอ่ยออกไป
"เฮอะ...เสแสร้งคนอย่างเจ้ามันก็เป็นปีศาจอยู่วันยังค่ำ"
"นี่ไอ้เด็กเปรต ถึงข้าจะเป็นแม่เลี้ยงแต่อย่างไรก็ขึ้นชื่อว่ามารดา หัดเคารพสักหน่อย พวกเจ้าสองคนนี่สมกับเป็นพ่อลูกกันจริงๆ นรกส่งมาเกิดหรือไง"
"เจ้าๆๆ เจ้าว่าใครเด็กเปรตสตรีแพศยา"
"น้องสาวเจ้าเป็นเด็กดี ส่วนเด็กอีกคนที่เหลือนั่นแหละเด็กเปรต"
"เจ้าๆๆๆๆ"
เฉินโม่หวายชี้หน้าจ้าวเฟยเฟยมือสั่นอย่างโมโหแต่กลับพูดอะไรออกมาไม่ได้เลย นี่นางถูกย่าใหญ่ทุบจนสมองกลับหรือไง เฉินมู่หยางเดินมาก่อนจะทำตาขวางใส่นางแต่จ้าวเฟยเฟยไม่สนใจ เข้าไปแต่งตัวก่อนจะกลับออกมาแล้วเอ่ยกับเด็กน้อยเฉินหยุนผิง
"ผิงผิงเด็กดีเดี๋ยวแม่มานะ"
"ท่านแม่จะไปไหนเจ้าคะ"
"ไปเอาของที่เป็นของเราคืน หากใครไม่คืนแม่ก็จะเผาเรือนมันซะเลย ลูกว่าดีไหม"
เอ่ยจบจากนั้นจ้าวเฟยเฟยก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะสาวเท้าเดินหน้าตรงไปในหมู่บ้าน ระหว่างทางเจอชาวบ้านส่งสายตารังเกียจมาให้ไม่น้อย แต่นางไม่สนใจนางจะไปทวงคืนสินเดิมของยายหนูร่างเดิมคนนี้
ถึงจะมีแต่ที่นอนและเครื่องครัว อย่างน้อยซื้อใหม่ก็ต้องใช้เงินหลายตำลึง บ้านเฉินที่ปกติช่วยกันรุมตบตีด่าทอร่างเดิมเสมอ ไม่รู้เลยว่าบัดนี้นรกกำลังไปเยือนพวกเขาแล้วอย่างเป็นทางการ
บ้านของเฉินมู่หยางอยู่ไกลจากหมู่บ้านเกือบๆ สองลี้ จ้าวเฟยเฟยลากรถเข็นที่ปกติเฉินมู่หยางใช้เข็นสัตว์ที่ได้มาไปขายเข็นมาตามทาง เมื่อมาถึงปากทางเข้าหลังหมู่บ้านเด็กๆ ที่นั่งเล่นกันอยู่ก็เอ่ยวาจาชั่วร้ายด่าทอนาง
"นางสตรีแพศยามาแล้ว นางแม่เลี้ยงใจร้ายมาแล้ว"
"ฮ่าๆๆ นางคนอัปลักษณ์ มาทำไมที่นี่หรือว่าจะมาขอทานที่บ้านท่านย่าของข้า ฮ่าๆๆๆ"
"ต้องใช่แน่ๆ เลยเฉินเหว่ย นางคนใจร้ายนี่ต้องมาขอทานบ้านเจ้าแน่ๆ"
แง แง แงๆๆๆๆๆๆ ไม่นานเด็กๆ ที่ส่งเสียงก่นด่าจ้าวเฟยเฟยก็ก้นลายไปตามๆ กัน ทุกคนต่างร้องไห้งอแงไปฟ้องบิดามารดาตนเอง
แง แง แงๆๆๆๆๆๆ ไม่นานเด็กๆที่ส่งเสียงก่นด่าจ้าวเฟยเฟยก็ก้นลายไปตามๆกัน ทุกคนต่างร้องไห้งอแงไปฟ้องบิดามารดาตนเอง เพราะจ้าวเฟยเฟยฟาดด้วยไม้เรียวสั่งสอนทุกคน ยุคสมัยนี้ไม่มีสิทธิคุ้มครองเด็ก มาสิแม่จะสอนแทนบิดามารดาเจ้าเองไอ้เด็กเปรตทั้งหลาย
สองแม่ลูกเอ่ยจนจ้าวคังก็เริ่มลังเล ใช่นางแต่งออกไปแล้วมีสิทธิ์อันใดมาวุ่นวาย แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยต่อคนที่ไปตามเฉินหยวนก็มาถึง เขาได้ยินแล้วว่านางปีศาจนั่นกอดกับบุรุษอื่นที่ไม่ใช่เฉินมู่หยาง วันนี้เขาจะเอานางให้ตาย"ไหนๆๆ นางตัวดีจ้าวเฟยเฟยอยู่ที่ใด กล้าคบชู้สู่ชายหรือ แม้ว่าหลานชายข้าจะอัปลักษณ์แต่เจ้าก็แต่งมาแล้ว เห็นสกุลเฉินของข้าเป็นอะไร"เฉินหยวนเดินกร่างเข้ามาในศาล จ้าวเฟยเฟยคุกเข่าอยู่ก็หัวเราะเบาๆก่อนจะหันไปหาเฉินหยวน "อาสามของสามีท่านมาแล้วหรือ""หึ เจ้าถึงกับพาบุรุษมาเดินโอบกอดกันที่ตำบลยังมีหลานชายข้าในสายตาหรือไม่"เฉินมู่หยางหันมาเผชิญหน้ากับเฉินหยวนช้าๆก่อนจะเอ่ย"อาสาม ข้าพาภรรยามาเดินเล่นซื้อของเหตุใดถึงไม่ได้ นางมิได้คบชู้กับผู้ใดทั้งนั้น"เฉินอี้เห็นหลานชายโกนหนวดเคราแล้วก็ยิ่งให้โมโห ไอ้เด็กนี่หน้าตาหล่อเหลายิ่งนัก แล้วอย่างไรเล่าคนอื่นไม่เคยเห็นใบหน้านี้ถ้าเขาไม่ยอมรับ มันก็ไม่ใช่คนสกุลเฉิน จึงกล่าวออกไป"หลานชายข้า เจ้าหรือช่างน่าขันเจ้าเป็นใครกันแน่ มาหลอกลวงหลานสะใภ้ของข้า"ซุนเต๋อฉายเดินมากลางโถงก่อนจะเอ่ยกับเขา"เฉินหยวน หลี่อี้ และพวกเจ้า
นางจางนั่งลงร้องไห้เงินเยอะเพียงนั้นจะเอามาจากที่ใดกัน กระทั่งจ้าวเฟยเฟยค่อยๆลุกขึ้น เฉินมู่หยางเข้ามาประคอง นางเดินไปหาจ้าวอี้หรูพร้อมกระซิบข้างหูเช่นกัน"ว่าที่สามีเจ้าต้องจ่ายเงินให้ข้า น้องหญิงเจ้าบอกว่าจะดูแลเขาอย่างดี ตอนนี้ได้เวลาแสดงความจริงใจของเจ้าแล้ว""จ้าวเฟยเฟยนางสตรีชั่วช้า คอยดูเถอะข้าไม่จบแน่ๆ หึสามีเฒ่าเจ้าไม่มาเจ้ากลับมาโอบกอดกับบุรุษนอกบ้าน ข้าจะทำให้เจ้าถูกใส่กรงถ่วงน้ำ""ไอ้โย่ว ข้ากลัวจัง ไม่ต้องห่วงยังมีอีกคนที่ข้ายื่นคำร้อง จ้าวคังบิดาแสนดีของเจ้าไง"นางจางทรุดลงปิดหน้าร่ำไห้ราวกับถูกใครเข่นฆ่า เงินจำนวนห้าสิบตำลึงหรือนางจะไปเอามาจากที่ใด บุตรชายกำลังรอหนังสือรับรองอยู่ แต่ใต้เท้าให้จ่ายวันนี้ ที่สำคัญไอ้ลูกเนรคุณนี่ไปยืมเงินนั่นมาตอนไหนกัน"อาอี้ เจ้าไปยืมเงินนางมาเมื่อไหร่กัน""ท่านแม่ ข้า ข้ายืมมาเมื่อสองเดือนก่อนขอรับ""แล้วที่นางแพศยานี่พูดหมายความว่าอย่างไร ข้าจะตายเจ้าไม่มีเงินมาซื้อโลงศพน่ะห๊ะ""คือว่า คือ โอ๊ย ท่านแม่ท่านทำอะไรน่ะ"นางจางลุกมาได้ก็ทุบตีบุตรชายไม่ยั้ง ปากก็ด่าเขาไม่หยุด"ไอ้สารเลว ไอ้คนอกตัญญู เจ้ากล้าแช่งข้
เสียงสะอื้นขาดช่วงราวกับอัดอั้นจนไม่อาจกล่าวออกมาได้ ชาวบ้านที่มาดูการไต่สวนสงสารนางอย่างจับใจ "พ่อแบบไหนกัน ถึงอย่างไรนางก็เป็นลูก เสือร้ายยังไม่กินลูกตัวเอง แต่บิดาของสตรีคนนี้เลวเหลือเกิน""ใช่ๆ ดูเหมือนจะเป็นคนนั้นที่ยืนอยู่ด้านข้าง ที่ถูกนางฟ้องร้องอีกคน"ปึงๆๆๆ ฮั่วเทียนฉีเคาะโต๊ะให้ชาวบ้านเงียบจากนั้นก็เอ่ยถาม"แล้วอย่างไรต่อ จากนั้นเจ้าเอาเงินที่ไหนให้เขายืม""นางไม่มีเงินแต่อ้างว่าให้บุตรชายข้ายืมเงิน เพ้ยนางแพศยานี่โกหกกระทั่งท่านขุนนาง"นางจางเอ่ยทะลุกลางปล้อง จ้าวเฟยเฟยซ่อนยิ้มก่อนจะเงยหน้า น้ำตาที่เปื้อนแก้มนวลเรียกความสงสารจากคนน้อยใหญ่ที่มาดูการพิพากษาไม่น้อย เสียงพูดปนเสียงสะอื้นเอ่ยแก่คนด้านบน"ใต้เท้า ข้าขออนุญาตท่านพูดคุยกับนางได้ไหมเจ้าคะ"ฮั่วเที่ยนฉีมองไปยังนางจางก่อนจะเอ่ย" เด็กๆตบปากนางสิบทีโทษฐานที่เอ่ยแทรกกลางขณะที่ข้าไต่สวน ส่วนเจ้าจ้าวเฟยเฟยมีเรื่องอันใดจะคุยกับนางก็รอให้ลงโทษนางเสร็จก่อน"เพียะ!! เพียะ!! เพียะ!! เพียะ!! นางจากเลือดกบปาก หลี่อี้เห็นมารดาถูกตบกลับไม่ยื่นมือมาขอร้องเพื่อช่วยเหลือ น้ำหนักของเขาในใจอาจารย์สำนักศึกษาที่ตามซุน
จ้าวเฟยเฟยเรียกคนที่มามุงดู หนึ่งในนั้นคือซุนเต๋อชิวน้องชายซุนเต๋อฉายจากสำนักศึกษาเต๋อถัง จ้าวเฟยเฟยล้วงอกเสื้อก่อนจะหยิบกระดาษออกมาคลี่ สองมือบางจับมุมกระดาษด้านบนสะบัดเบาๆราวกับกำลังสลัดผ้าเช็ดหน้าก่อนจะยื่นไปด้านหน้าแล้วกวาดแขนไปด้านซ้ายจากนั้นก็กลับมาด้านขวาช้าๆ น้ำเสียงกังวานของนางเอ่ยขึ้น"ทุกท่าน ได้อ่านแล้วใช่หรือไม่ ตอบข้าหน่อยเจ้าค่ะว่านี่เขียนสิ่งใด"ชาวบ้านคนหนึ่งแต่ตัวคล้ายบัณฑิตแต่เป็นอีกสำนักก้าวออกมาแล้วเอ่ยตอบนาง"เป็นสัญญากู้ยืมเงินจากคนที่ชื่อหลี่อี้ เขียนว่าข้าหลี่อี้ ขอยืมเงินจ้าวเฟยเฟยเป็นจำนวนยี่สิบตำลึง ภายในสองเดือนนับจากวันนี้จะคืนนางสามสิบตำลึงพร้อมดอกเบี้ย""ใช่ๆ ข้าก็อ่านได้เช่นนั้นเช่นกัน พ่อหนุ่มเจ้าชื่อหลี่อี้หรือเปล่า"หลี่อี้หน้าดำเป็นก้นหม้อ ก่อนจะขาวซีดราวกับกระดาษ เขาเขียนมันเอง นางเอากำไลกับปิ่นและจี้หยกไปจำนำเอาเงินให้เขา แต่ไอ้คนรับจำนำบอกว่าเงินทองควรชัดเจน เขากลัวนางจะเปลี่ยนใจจึงเขียนสัญญานั่นและลงนาม แต่นางนี่อ่านหนังสือไม่ออกเขาจึงไม่กังวล เหตุใดวันนี้นางกลับรู้จักเอาสัญญานี่ออกมา หลี่อี้ไม่ยอมเขาจึงเอ่ยกลับไป"เจ้ารู้ไหม
เฉินมู่หยางขับเกวียนเคลื่อนเข้ามาจนถึงประตูเมือง เขาควักเงินจ่ายค่าเข้าเมืองหกอีแปะ จ้าวเฟยเฟยพยายามจดจำรายละเอียดของผังเมือง กระทั่งเขาเอาเกวียนไปผูกยังบริเวณที่รับฝากก่อนจะอุ้มนางลงจาเกวียน จ้าวเฟยเฟยหน้าแดงเพราะตรงนั้นมีคนไม่น้อย หลายคนน่าจะเป็นคนรู้จักกันกับเขาจึงได้เอ่ยกระเซ้า"ไอ้หยา พวกเจ้าดูสิวันนี้พี่มู่หยางเช่าเกวียนมาเลยเชียว""แหม่ๆๆ...สตรีที่ทำให้พี่ใหญ่ของเราถึงกับทะนุถนอมได้คงเป็นอาซ้อของพวกเราใช่หรือไม่""ฮ่าๆๆๆ พี่มู่หยางแนะนำอาซ้อให้พวกเรารู้จักสักหน่อยเถอะขอรับ"ทั้งหมดเป็นนายพรานที่เคยร่วมกันล่าหมีป่าเมื่อครั้งที่อาละวาดจนทำร้ายชาวบ้านตายไปสามคนและบาดเจ็บอีกมากมาย คนที่ให้เฉินมู่หยางแนะนำจ้าวเฟยเฟยคือหลิวเยี่ยนฉาง เขามาจากหมู่บ้านชุยเจียงซึ่งต้องข้ามเขาไปครึ่งวันถึงจะสามารถถึงหมู่บ้านนี้ได้ เฉินมู่หยางจูงมือจ้าวเฟยเฟยเดินมาหาทั้งสามคนก่อนจะเอ่ยกับนางแนะนำให้รู้จักกัน"พวกเจ้านี่เสี่ยวเฟยภรรยาของข้า เสี่ยวเฟยคนนี้คือฟางฉายนายพรานหมู่บ้านเดียวกับเราแต่บ้านของเขาอยู่ชายป่าอีกด้าน""ส่วนนี่คือหลิวเยี่ยนฉางจากหมู่บ้านชุยเจียง ส่วนนั่นเจ้าปากมาก ถังจื่
เสียงนั้นลอยมาตามลมแผ่วเบา จ้าวเฟยเฟยยิ้มให้กับสายลม ทุกอย่างอยู่ในสายตาเฉินมู่หยางทั้งหมด นางมีเรื่องอันใดมากมายที่เขาต้องค้นหากันนะ เกวียนขับมาเรื่อยๆ บรรยากาศสองข้างทางเป็นสิ่งตื่นตาตื่นใจมากสำหรับจ้าวเฟยเฟย ชาติก่อนชอบตอนกลับไปหาคุณยายที่ชนบทที่สุด กระทั่งเห็นดอกเล็กๆสีเหลียงที่บานเต็มท้องทุ่งส่งกลิ่นหอมมากนัก จ้าวเฟยเฟยที่นั่งอยู่ก็หันไปหาเฉินมู่หยางก่อนจะเอ่ยกับเขา"ตาเฒ่า...ขากลับท่านแวะตรงนี้ให้ขาได้หรือไม่"".........""เฉินมู่หยางท่านหูหนวดหรือ""..........."เสียงล้อเกวียนบดกับถนนดินดังเอี๊ยดอ๊าดแต่ไม่มีเสียงตอบกลับจากคนข้าง จ้าวเฟยเฟยนั่งกอดอกใบหน้างอง้ำไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด เหอะใครสนใจเจ้ากันตาทึ่ม กระทั่งเสียงล้อเกวียนเงียบบไป เฉินมู่หยางนำเกวียนเข้าข้างทางใต้ต้นไม้ใหญ่ก่อนจะใช้มือรวบเอวบางยกนางมานั่งที่ตักตนเอง จ้าวเฟยเฟยตกใจมือบางดันหน้าอกเขาเอาไว้ก่อนจะเอ่ย"ท่านทำอะไร นี่มันทางเข้าตำบลนะ ใครไปใครมาเห็นเข้าจะมองเช่นไร ตาเฒ่าปล่อยข้าลง"เฉินมู่หยางสูดลมหายใจยาวๆก่อนจะเอ่ยกับคนบนตัก"ต่อไปเรียกข้าท่านพี่ หากเรียกตาเฒ่าอีกรับรองข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่""นี่