จ้าวเหลียนเฟยไม่สนใจเขาอีกนางเดินเชิดหน้าคอตั้งไปที่ลำธารเพื่อจัดการตัวเองทันที ยังดีที่บ้านอยู่ใกล้ลำธาร เนื้อตัวสกปรกเพียงนี้ใครจะทนไหว บ้านของเฉินมู่หยางอยู่ติดลำธารตีนเขา ไม่มีใครผ่านไปมา จ้าวเหลียนเฟยเองก็ไม่ได้สนใจธรรมเนียมขนาดนั้น นางถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนโคลนออกมาซักตาก แล้วลงไปอาบน้ำในลำธาร
เฉินมู่หยางที่ปลอบบุตรสาวเรียบร้อยก็ให้บุตรชายดูแลน้อง เขาต้องจัดการกับนางให้รู้เรื่อง อีกสองเดือนเขาต้องเดินทาง หากสามารถหาคนมาดูแลเด็กๆ ได้เขาคงเหวี่ยงสตรีน่าตายคนนี้ออกจากบ้านไปนานแล้ว
กระทั่งเขาเดินมาถึงลำธารภาพที่เห็นทำเอาถึงกับต้องผินหน้าหนี นางเป็นสตรีหยาบคายจริงๆ กลางแจ้งเช่นนี้อีกทั้งยังกลางวันแสกๆ กล้าเปลื้องผ้าลงอาบน้ำได้อย่างไรกัน
แต่จ้าวเหลียนเฟยไม่ได้สนใจ นางมาจากอีกศัตวรรษหนึ่ง แก้ผ้าใส่แต่บิกินี่เดินขายหาด นอนเหยียดยาวที่สระน้ำของโรงแรมก็ทำมาแล้ว และนี่มันที่รโหฐานไม่มีใครเข้ามาอยู่แล้ว จึงไม่รู้ว่าคนที่เพิ่งจะขู่ขายเธอนั้นกำลังยืนสำรวจสมบัติของตัวเองอยู่
ใช่นางคือคนของเขาคือสมบัติของเขา อยากหย่าหรืออย่าฝันเฟื่องเลย ก่อนเดินไปหาคนที่กำลังอาบน้ำสบายใจ แม้ว่ากลางลำตัวจะคัดตึงเพราะรูปร่างเย้ายวนที่อยู่ตรงหน้า แต่ต้องข่มอารมณ์ วันนี้ต้องคุยกับนางให้รู้เรื่อง
จ้าวเหลียนเฟยไม่รับรู้ว่ามีบางคนกำลังจ้องนางอยู่ เพราะเป็นคนสะอาดจึงทนไม่ได้ที่ต้องมาอยู่ในร่างที่เปื้อนดินโคลนตั้งแต่หัวจรดเท้าย
นางฉีกเอาชายกระโปรงที่หลุดลุ่ยออกมาเพื่อใช้เป็นที่ขัดตัว ยายหนูนี่อาบน้ำครั้งล่าสุดเมื่อไหร่กันนะ มิน่าตาแก่อัปลักษณ์นั่นถึงไม่แตะต้อง ขนาดแต่งกันมาจะครึ่งเดือนแล้ว ก็เล่นสกปรกขนาดนี้ เฮ้อ...
ตอนนี้ยอมรับแล้วว่าตัวเองต้องใช้ชีวิตในร่างใหม่และเป็นจ้าวเฟยเฟยสตรีร้ายกาจแห่งหมู่บ้านอวี๋หยาง ทำไงได้มาแล้วนี่หว่า นางนั่งลงบนโขดหินเพื่อใช้เศษผ้าขัดตัวชำระล้างร่างกาย เสียงท้องของนางร้องโครกคราก
จากความทรงจำเดิมยายหนูนี่ก็ไม่ได้ใจร้ายเท่าไหร่นักหรอก เห็นพ่อเด็กไม่อยู่พอออกจากบ้านที่สูบเลือดสูบเนื้อได้ก็อยากจะกินดีๆ สักมื้อ กำลังจะถอนขนไก่เพื่อปรุงอาหาร
แต่ได้เด็กเหลือขอเฉินโม่หวายอยากเห็นนางถูกท่านย่าใหญ่กับย่าทวดทุบตีตอนที่บิดาของเขาไม่อยู่จึงไปบอกท่านย่าใหญ่ว่าที่บ้านมีไก่อยู่หนึ่งตัว หากเขาเอามาให้ท่านย่าทวดกับท่านย่าใหญ่ ท่านย่าใหญ่จะช่วยแบ่งเนื้อให้เขากับน้องได้หรือไม่
ยายป้ามหาภัยนั่นได้ทีก็รีบมาแย่งทันที ไอ้เด็กเลวนั่นเนื้อก็ไม่ได้กิน แถมถูกยายแก่นั่นทุบตีอีก สมน้ำหน้าจริงๆ ไอ้เด็กบ้า เป็นเจ๊เหรอไม่ตีให้เสียมือหรอก เจ๊จะปล่อยให้หิวตายไปเลย คนน้องยังดีรู้จักห่วงใยคนอื่น ส่วนไอ้เด็กนั่นเหมือนบิดาจริงๆ นิสัยใช้ไม่ได้ ก่อนจะบ่นฝากลมฝากแล้ง
"เฮอะ..นึกว่าเจ๊ง้อหรือไง ฉันไม่ใช่คุณหนูหมื่นล้านที่วันๆ นั่งใช้เงินพ่อแม่ไปวันๆ กินแต่คราเวียร์นราดซอสเกรวี่นะย่ะ นี่ใครเจ๊เฟยนะโว้ย เหอะฉันหากินเองได้ย่ะไอ้แก่อัปลักษณ์ ว่ะ ว้าย"
สิ้นคำด่าว่าไอ้แก่อัปลักษณ์ร่างบางก็ถูกกระชากขึ้นจากน้ำทันที เสื้อผ้าที่แทบปิดไม่มิดเพราะมันตัวเล็กยิ่งขับให้ทรวดทรงองเอวของเธออะร้าอร่ามแนบเนื้อไปหมด จ้าวเหลียนเฟยทนไม่ไหวแล้ว ตาลุงนี่มันต้องโดนสักทีเถอะ
เขาจับมือนางไว้หนึ่งข้าง จ้าวเหลียนเฟย มือข้างที่เหลือกระแทกปลายคางคนตัวโตทันที ก่อนที่จะสะบัดหลุดออกมาแล้วคว้าเสื้อที่เพิ่งซักเสร็จมาคลุมร่าง และอาศัยจังหวะที่เขาเผลอยันบั้นท้ายจนเฉินมู่หยางหัวคะมำหน้าทิ่มลงไปน้ำในลำธาร
ร่างสูงสำลักน้ำทันที จากนั้นเขาก็พลิกกายลุกขึ้นก่อนจะย่างสามขุมมาหานาง ส่วนจ้าวเหลียนเฟยก็ตั้งการ์ดพร้อมรบเต็มที่เช่นกัน เฉินมู่หยางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
"จ้าวเฟยเฟย เจ้ามีความเป็นกุลสตรีบ้างหรือไม่ กล้าลงมือกับสามีตนเอง ที่บ้านเจ้าสั่งสอนมายังไง"
"ที่บ้านไม่มีคนสอนโว้ย พ่อหลงเมียน้อยเอาใจลูกเมียน้อย ข้าเติบโตมาเองไม่ปากกัดตีนถีบจะใช้ชีวิตได้อยู่รอดหรือตาแก่ ขนาดดิ้นรนให้หลุดพ้นสุดท้ายยังถูกยายแม่เลี้ยงใจมารนั่นยุยงบิดาข้าให้ขายเป็นเมียตาแก่ลูกติดอย่างเจ้าเลย"
เฉินมู่หยางไม่อยากทะเลาะกับนางต่อ ปากคอช่างร้ายกาจ กิริยาก็หยาบคาย เขาจึงเอ่ยในสิ่งที่ต้องการออกมาเท่านั้น
"แต่งตัวให้เรียบร้อย เดี๋ยวข้าจะให้ผิงผิงเอาเสื้อของข้าที่ใส่ไม่ได้มาให้ ข้ามีเรื่องต้องคุยกับเจ้า"
"เอาไว้ก่อนนะ..ข้ายังไม่ว่างคุยตอนนี้ ข้ามีเรื่องต้องทำก่อนตาเฒ่า"
"จ้าว เฟย เฟย พูดจาให้สมกับเป็นภรรยาหน่อยวาจาหยาบกระด้างหากข้าได้ยินอีกจะให้เจ้าอดข้าว"
"เหอะๆๆ ให้ข้าอดข้าว ไปดูลูกเจ้าเถอะตายหรือยัง อยากเห็นข้าถูกยายแก่นั่นทุบตี อุตส่าห์คาบข่าวไปบอกที่บ้านใหญ่ว่าที่บ้านมีเนื้อ สุดท้ายกระดูกพวกเขาก็ไม่คายแถมยังทุบตีกลับมาอีก ใครทุบตีบุตรเจ้ากันแน่ข้าหรือญาติเฮงซวยของเจ้าสืบดีหรือยัง"
"เจ้ากล้าแช่งลูกข้า อยากตายหรือไง"
"ฮ่าๆๆ โอ๊ยย...ไม่ต้องแช่งหรอก อีกไม่นานก็อดตายอยู่แล้ว หึ...เป็นนายพรานประสาอะไร เนื้อยังไม่มีให้ลูกกิน ลูกชาวบ้านอ้วนยังหมูก่อนตรุษจีน แต่ลูกตัวเองยังกับศพเดินได้ ถามจริงๆ นะตาเฒ่า เจ้าโง่ขนาดนี้ไปอยู่ชายแดนไม่เดินโง่ๆ ไปให้เขาเอาดาบเสียบตายเฉยๆ หรอกหรือ น่าอนาถยิ่งนัก"
เด็กทั้งสองเคี้ยวอาหารจนหมดปากจึงเอ่ยกับบิดา คู่แฝดเอ่ยชมอาหารที่จ้าวเฟยเฟยทำไม่ขาดปาก เฉินมู่หยางคิดว่าการค้าครั้งนี้เมียเขาคงได้แล้ว หากเป็นหลินอ้าวเขาเชื่อใจที่จะให้ติดต่อค้าขายกับภรรยามากกว่าคนอื่น บิดาที่รักบุตรเช่นนี้ไม่สนใจสตรีอื่นให้ปวดหัวแน่นอนเสียงด้านนอกมีคนมา ไม่นานสตรีใบหน้างดงามก็เดินมาหลังร้านก่อนจะเอ่ยเรียกหลินอ้าว"เถ้าแก่หลิน ข้านำมื้อเช้ามาฝากเด็กๆเจ้าค่ะ"เซียวฮวนฮวนเอ่ยน้ำเสียงอ่อนหวานแก่หลินอ้าว เด็กทั้งคู่หันไปหานางก่อนจะลุกมาหาเรียกนางว่าท่านแม่"ท่านแม่มาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านแม่มาทานข้าวกับซินซินสิเจ้าคะ ท่านอามู่หยางนำของอร่อยมาให้ตั้งมากมาย"เซียวฮวนฮวนหน้าแดง หลินอ้าวสู่ขอนางเมื่อหลายวันก่อน จากนั้นเขาก็บอกเด็กทั้งคู่ว่านางจะมาเป็นท่านแม่ เด็กๆดีใจที่จะมีท่านแม่ ยามใดที่เซียวฮวนฮวนมาหาจะดีใจกันมากนัก เฉินมู่หยางเอ่ยทักทายนางก่อน"คุณหนูเซียวพบกันอีกแล้ว""คุณชายเฉิน...ไม่เจอเสียนานเลยเชียวท่านสบายดีหรือไม่ ท่านพ่อมิได้ออกกองคาราวานแล้วข้าจึงไม่ได้พบท่านอีก""สบายดีขอรับ เราพบกันเมื่อหลายวันก่อนท่านคงจำข้าไม่ได้""เขาคือหลานชายเฉินหยวน
เฉินมู่หยางขับเกวียนมาจนถึงประตูเมืองเขาจ่ายค่าเข้าให้กับไป๋เซิงและบิดาก่อนจะนัดมาเจอกันอีกที เกวียนวัวผูกไว้ยังที่รับฝากจอด เฉินมู่หยางถือตะกร้าที่คลุมด้วยผ้าฝ้ายขาวสะอาดตา เดินไปทางร้านขายยาก่อนจะนำใบรายการสมุนไพรที่เมียเขียนให้มาส่งให้คนดูแลร้านพร้อมกับบอกรายละเอียด"หลงจู๊..รบกวนท่านจัดตามรายการนี้ อันไหนที่บอกให้บดเป็นผงก็รบกวนท่านช่วยบดให้ด้วย จัดเตรียมเรือบดยาให้ข้าสามอัน นี่เป็นเงินมัดจำ อีกหนึ่งชั่วยามข้าจะกลับมาเอาขอรับ""เอ่อ..นายพรานเฉิน แม้ว่ายาเหล่านี้จะราคาไม่แพง แต่บางอย่างไม่สามารถใช้ด้วยกันได้นะ""ภรรยาของข้านางจะเอาไปดับกลิ่นคาวของเนื้อน่ะ ข้าเองก็ไม่รู้หรอก นางเป็นแม่บ้านนางเข้าครัวมากว่าข้าเสียอีกขอรับ""อ้อ..เช่นนั้นข้าจะจัดการให้ แต่อย่างละสิบชั่งนี่มันไม่เยอะเกินไปหรือ""ข้าเองก็ถามนางแล้ว นางบอกว่าไม่พอด้วยซ้ำท่านจัดการตามที่นางสั่งเถอะขอรับเดี๋ยวข้าไปธุระก่อน"จากนั้นเขาก็เดินไปทางตรอกของร้านขายของชำของเถ้าแก่หลิน ร้านตรงข้ามที่มีปัญหากันยังไม่เปิดร้าน แต่หบินอ้าวเปิดแล้ว ร่างสูงของหลินอ้าวกำลังจัดร้านเปิดแต่เช้าเชียว เฉินมู่หยางมาถึงก็เอ่
ถังจื่อหยวนอุ้มร่างบางเดินไปทางลำธารสายเล็กที่ทางด้านนั้นไม่มีใครเดินผ่านก่อนจะวางร่างบางลง ไป๋เหยียนรู้สึกว่าคนตรงน่าเวลานี้นากลัวยิ่งนัก นางพยายาออกจากอ้อมกอดของเขาแต่ถังจื่อหยวนกลับโอบเอวนางเอาไว้ มืออีกข้างจับปลายคางนางไม่ให้ดิ้นหนี ก่อนจะแนบริมฝีปากตนเองลงไปหา ไป๋เหยียนเม้มปากแน่น แต่เขามีวิธีให้นางยอมเปิดปาก"ต่อต้านหรือ เจ้าแน่ใจนะหากพี่ไป๋เซิงรู้ว่าครึ่งเดือนก่อนเจ้าเอาไป๋ฮวาไปเที่ยวแล้วยังพานางไปเล่นพนันกัดจิ้งหรีดอีกด้วย เจ้าว่าพี่ชายเจ้าจะว่าอย่างไรกัน แม่ตัวแสบ"ไป๋เหยียนตาโตเขารู้ได้อย่างไรกัน วันนั้นนางพาหลานสาวไปเที่ยวหมู่บ้านข้างเคียงเพราะตามท่านพ่อไปซื้อยาให้ท่านแม่ แค่แวะวงพนันแป๊บเดียวยังไม่ได้ลงเล่นเลย ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อย"ท่านต้องการอะไรถ้าไม่พูดเรื่องนี้""เปิดปากเจ้าออก อย่าต่อต้านทำได้ไหม"ไป๋เหยียนกลืนน้ำลายก่อนจะพยักหน้าแล้วทำตาม ถังจื่อหยวนจูบนางอย่างนุ่มนวล ลิ้นร้อนชื้นเกี่ยวลิ้นเล็กควานหาความหวาน มือบางยกขึ้นโอบรอบท้ายทอยหน้า กลิ่นบุรุษเพศที่นางเพิ่งได้ใกล้ชิดเป็นครั้งแรกทำเอาท้องไส้ปั่นป่วน กระทั่งเขาถอนริมฝีปากออกมาสบตานางแล้วเอ่ย
จ้าวเฟยเฟยไปเก็บผลซานจามาทำถังหูหลู่แจกเด็กๆและชาวบ้าน หากอยากค้าขายต้องมีสินค้าทดลองก่อน ในยุคที่ไม่มีสื่อโซเชี่ยลปากต่อปากคือการประชาสัมพันธ์ที่ดีที่สุด เด็กๆต่างรู้ดีว่าเดินตามท่านป้าจ้าวย่อมมีของอร่อยให้กิน ไป๋ฮวารีบปล่อยมืออาหญิงทันทีที่เห็นหลินเฉินอี้ นางวิ่งมาหากางแขนให้อุ้ม"พี่เฉินอี้ อุ้มฮวาฮวาด้วยเจ้าค่ะ"เด็กหนุ่มก้มลงอุ้มแม่หนูน้อยขึ้นมาก่อนจะยิ้มให้ ไป๋ฮวากอดคอเขาใบหน้าเล็กๆซุกซอกคอพี่ชายอย่างออดอ้อน หลินเฉินอี้อมยิ้มกับท่าทางของแม่ตัวเล็กที่เชื่องเหมือนลูกแมวตัวน้อย (ที่ในอนาคตนางจะเปลี่ยนจากลูกแมวน้อยเป็นแม่เสือหากนางบอกไปทางซ้ายเขาก็ไม่กล้าก้าวเท้าขวา) ส่วนเฉินผิงผิงมารดาอุ้มนางเองท่านอาไปเรียนหนังสือกับพี่ชายแล้ว ไม่นานก็ถึงบริเวณที่มีต้นซานจาขึ้นอยู่หลายต้น ทุกคนช่วยกันเก็บแต่จ้าวเฟยเฟยเอ่ยออกมาก่อน"วันนี้ที่มาเก็บข้าจะทำขนมให้พวกเจ้ากิน แต่ไม่ได้รับซื้อเหมือนลูกท้อเช่นคราวก่อนนะเข้าใจไหม""ขอรับท่านป้าจ้าว""เจ้าค่ะท่านป้าจ้าว"จ้าวเฟยเฟยกลอกตามองบนก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม"ใครเรียกป้าอีกวันนี้อดกินถังหูหลู่""ขอรับพี่สาว""เจ้าค่ะพี่สาว""น่าร้ากกก เอาล่
ปลายยามโหย่วแล้วเฉินมู่หยางอาบน้ำให้บุตรชายเรียบร้อยแล้ว ส่วนเฉินผิงผิงท่านแม่อาบให้ตั้งแต่ยามเซินจากนั้นก็ล้อมวงกันกินมื้อค่ำ เฉินโม่หวานกำลังคีบเห็ดโคนยำขึ้นมาก่อนมองมันแล้วก้มมองเป้ากางเกงของตัวเอง แล้วเขาก็วางลงไม่แตะมันเลย แต่เฉินผิงผิงกับเฉินเหว่ยต่างก็ไม่วางตะเกียบ กระทั่งใกล้หมดเจ้าตัวแสบอยากลองแต่กินได้สามคำก็ไม่มีแล้ว"ท่านแม่ เห็ดนี่เรียกเห็ดอะไรหรือขอรับ""เรียกว่าเห็ดโคนน่ะ อร่อยหรือไม่ เอาไว้ถ้าฝนตกแม่จะไปเก็บมาอีก""ลูกไปช่วยนะขอรับ มันอร่อยมากเหนียวๆหนึบๆเหมือนกินเนื้อไก่เลยขอรับ""ได้..ลูกรู้ไหมเห็ดมีประโยชน์มากนัก แม้ว่าไม่ใช่เนื้อสัตว์แต่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากว่าเนื้อสัตว์เสียอีก ในเมื่ออร่อยทำไมทีแรกลูกไม่ยอมกินเล่า"เด็กน้อยหน้าแดง แต่เฉินมู่หยางกลับคีบดอกใหญ่ที่สุดในจานขึ้นมาก่อนจะบอกนางว่า"พี่ไม่โกหกนะใหญ่กว่านี้หลายสิบเท่า พิสูจน์ได้นะเมียข้า""ท่านพี่เดี๋ยวเถอะ กินๆไปเลยนะไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้จะต้มผักป่าใส่เกลือให้ท่านกินแทนคนบ้า"เด็กๆ ไม่รู้ว่าท่านแม่เป็นอะไรได้แต่มองหน้ากัน ส่วนคนตัวโตหลังจากแหย่เมียสำเร็จก็เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ เมื่อมื้อค่ำเรียบร้อยเฉินม
เฉินมู่หยางอุ้มบุตรสาวเอาไว้ ชาวบ้านไปตามหลี่เจิ้งมาแล้ว พวกเขาอยากจัดการสามคนนี้แต่ก็ไม่อาจยื่นมือเพราะเป็นดองของเฉินมู่หยาง กระทั่งเฉินกั่วต้งมาถึงเห็นสภาพหัวแตกหน้าบวมของจ้าวคังกับจูไห่หรงก็ถอนหายใจก่อนจะเอ่ย"นี่จ้าวคัง นางจู ตอนนั้นพวกเจ้ายกเสี่ยวเฟยให้กับมู่หยางพวกเจ้าลั่นวาจาว่าจากนี้ไปไม่เกี่ยวข้องกันอีก ห้ามนางกลับไปขอความช่วยเหลือใดๆ ห้ามนางเหยียบบ้านเดิม แล้วยามนี้พวกเจ้าทำไมพวกเจ้าเป็นฝ่ายผิดสัญญาเสียเล่า"ท่านผู้นำ ข้าเป็นพ่อมันนะ มันกล้าฟ้องร้องข้าเอาสมบัติมาหมด มันกะจะให้พวกเราอดตายมันยังเป็นคนหรือไม่""ใช่เจ้าค่ะ ตอนนี้พวกเราแทบไม่มีข้าวสารกรอกหม้อแล้ว เงินที่เคยมีก็ถูกนางคนอกตัญญูนี่เอาไปหมด"สองผัวเมียชิงฟ้องเพื่อให้ชาวบ้านที่นี่รังเกียจและต้องการให้เฉินมู่หยางเห็นความเลวของนางจะได้ขอหย่า แต่กลับเป็นเสียงของเฉินมู่หยางที่ดังมาแทน"เดิมทีข้าอยากเรียกเจ้าว่าท่านพ่อตาสักหน่อย แต่ดูเหมือนเจ้าจะปฏิบัติกับเมียข้าเหมือนกับนางมิใช่สายเลือด เช่นนั้นข้าก็จะไม่เกรงใจอีกแล้ว ต่อไปหากมาหาเรื่องเมียข้าอีกข้าจะทำให้เจ้าหายสาบสูญไปจากหมู่บ้านเถาฮวาเสีย จ้าวคัง จ