จากนั้นก็มาถึงหน้าบ้านใหญ่สกุลเฉิน จ้าวเฟยเฟยเรียกเฉินกังบิดาไอ้เด็กเปรตเฉินกวงมาเปิดประตูทันที
"ตาแกเฉินกัง ข้ามาเอาของๆ ข้าคืน ทางที่ดีคืนข้ามาซะ"
เฉินกังไม่ยอมมาเปิดกระทั่งเสียงร้องไห้ของบุตรชายดังมาเขาจึงรีบออกมาดู นางหูภรรยาของเขาก็ตามมาด้วย ก่อนจะชี้หน้าด่าทอ
"นางตัวดี ถุ้ย อย่ามาทำบ้านข้าสกปรกไสหัวไป"
"ฮือๆๆ ท่านแม่ นางตัวดีนี่ตีข้าขอรับ ข้าเจ็บจังเลย"
นางหูรีบมาดูบุตรชายทันที กล้าตีบุตรชายนางหรือ เมื่อเปิดเสื้อถกกางเกงออกก็เห็นแต่แนวไม้เรียว นางหูโมโหจึงไปคว้าด้ามจอบเดินมาหาจ้าวเฟยเฟยทันที จากนั้นก็เงื้อมือหมายจะฟาดลงที่ร่างของนาง แต่จ้าวเฟยเฟยตั้งรับยังไม่ทันฟาดลงมาก็มีมือหนามาคว้าเอาไว้
"ป้าสะใภ้ใหญ่...ท่านจำต้องลงมือกับหลานสะใภ้ตนเองหนักเพียงนี้เชียวหรือ"
เฉินกังเห็นหลานชายปกป้องจ้าวเฟยเฟยก็ชี้หน้าของเฉินมู่หยางทันทีก่อนจะเอ่ยถากถาง
"ถุ้ย...เจ้าอยากจะปกป้องนางสารเลวแพศยานี่ มันกล้าตีลูกชายข้าวันนี้ข้าจะตีมันให้ตายใครจะทำไม โอ๊ะ โอ๊ย นางจ้าวเฟยเฟยเจ้ากล้าตีข้าหรือ"
เฉินมู่หยางกำลังเอ่ยกับนางหู ใครจะรู้ว่าด้ามจอบมาอยู่ในมือนางจากนั้นก็ฟาดไปที่สีข้างลุงใหญ่ของเขาทันที นางหูจะเข้ามาช่วยก็ถูกถีบออกไป จ้าวเฟยเฟยตีไม่ยั้ง แต่รู้ว่าที่ใดที่ตีแล้วไม่ทิ้งรอยเอาไว้จึงกระหน่ำไม่ยั้งมือ
สองผัวเมียสะบักสะบอม พ่อเฒ่าและแม่เฒ่าเฉินรีบออกมาจากบ้านเพราะบุตรชายคนโตและสะใภ้ร้องโหยหวนเสียงดัง ชาวบ้านเองก็พากันมามุงดูเหตุการณ์เช่นกัน กระทั่งมีคนไปตามผู้ใหญ่บ้านมา ผู้ใหญ่บ้านนับว่ายุติธรรมพอสมควรเมื่อมาถึงก็เอ่ยปากถามเรื่องราวทันที
"พวกเจ้าโวยวายกันแต่เช้าจะไม่ให้คนได้กินข้าวหรืออย่างไรกัน"
"ผู้ใหญ่บ้านท่านต้องช่วยพวกเราด้วยนะเจ้าคะ นางสารเลวจ้าวเฟยเฟยนี่มาถึงก็ทุบตีพวกเราสตรีร้ายกาจเช่นนี้ข้าจะให้หลายชายข้าหย่ากับเจ้า"
"ถุ้ย...ยายแก่เจ้าจะให้ใครหย่าใคร โกงสมบัติพ่อแม่ของเขายังพอว่า ขับไล่ลูกชายเขาออกจากบ้าน ข้าวสักเม็ดก็ไม่ให้ หึ ท่านปู่หลี้เจิ้ง เดิมข้ามิคิดจะมีเรื่องแต่ท่านก็รู้พวกเขานอกจากแยกบ้านยังตัดความสัมพันธ์กับพวกเราอีก ที่ข้ามาเพื่อทวงคืนสินเดิมของข้าเจ้าค่ะ"
"น่าขัน เพ้ยนางคนชั้นต่ำสินเดิมของเจ้ามีที่ไหนกัน"
จ้าวเฟยเฟยเดินเข้าไปในบ้านก่อนจะขนหม้อกะทะออกมา นางหูภรรยาของเฉินกังรีบไปแย่งเอามาแต่กลับถูกถีบกระเด็น จ้าวเฟยเฟยบเอ่ยเสียงดัง
"สินเดิมข้ามีหม้อสามใบ กะทะสองใบ ผ้าห้มแพรสามผืน ผ้านวมสามผืน แม้ว่าบิดาของข้าจะได้ใหม่ลืมเก่าแต่ของเหล่านี้เป็นขอบงที่มารดาข้าเตรียมไว้ให้ รวมถึงปิ่นเงินกับกำไลเงินที่บุตรสาวของเฉินกังแย่งไป ตอนนี้ข้าต้องการสินเดิมของข้าคืน"
"ไม่ได้ แต่งมาแล้วทุกอย่างที่นำมาย่อมเป็นของบ้านข้า"
"เพ้ย...ยายแก่หน้าหนา เดิมอยากเรียกเจ้าว่าท่านย่าสักหน่อย แต่ในเมื่อตัดความสัมพันธ์กันแล้วเจ้านับเป็นตัวอะไร ไปเปิดประตูห้องเก็บของข้าต้องการผ้าห่มและผ้าฝ้ายของข้าคืนไม่งั้นข้าไม่มีบ้านอยู่พวกเจ้าก็ไม่มีเช่นกัน"
แม่เฒ่าเฉินลงไปนั่งเหยีดยาวทุบหน้าขาตนเองร้องคร่ำครวญด่าทอเฉินมู่หยางว่าแต่งสตรีเนรคุณเข้าบ้าน
"ฮือๆๆ สวรรค์ท่านฆ่าข้าซะเถอะ ลูกหลานอกตัญญูแล้ว แต่สตรีชั่วร้ายคนนี้มาก็มีแต่เรื่อง ท่านมารับข้าไปเถอะได้โปรด"
จ้าวเฟยเฟยมองยายแก่ตรงหน้า ดูละครคุณธรรมาเยอะ แต่ๆ ไอ้ประเภทที่ลงไปนั่งแข่งร้องไห้กับยายแก่นี่แบบในละครเจ๊ไม่ทำหรอก อยากตายหรือได้เดี๋ยวสงเคาระห์ให้
"อยากตายหรือ สวรรค์รับฟัวงความต้องการของเจ้าแล้ว มาเถอะยายเฒ่าเฉินข้าส่งเจ้าเอง ส่วนจะไปสวรรค์หรือนรกเจ้าคงรู้ดีกว่าข้า ทำกรรมไว้ไม่น้อยนี่"
จ้าวเฟยเฟยเดินไปถึงก็คว้าคอเหี่ยวย่นออกแรงบีบจนผู้ใหญ่บ้านต้องห้าม ชายฉกรรจ์มาแยกนางออกไป แต่ทุกคนกลับนสู้ไม่ได้ ถึงจะไม่ได้ทำงานในองค์กรแต่ชาติก่อนก็ฝึกอยู่หลายปีไม่ให้เสียชื่อหน่วยสวาทหรอก
"มู่หยางห้ามเมียเจ้าหน่อยเถอะ เฟยเฟยเอ๋ย เจ้าเห็นแก่หน้าแก่ๆ ของข้าได้หรือไม่ปล่อยนางก่อน"
จ้าวเฟยเฟยไม่ได้จะฆ่าใครจริงๆ ที่ทำเพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู ในเมื่อบ้านเฉินรังแกร่างเดิมสารพัดจนนางปกป้องตัวเอง ในที่สุดก็ถูกคนบ้านนี้เอาไปป่าวประกาศว่านางเป็นสตรีชั่วร้ายและชาวบ้านก็เชื่อ งั้นก็ร้ายให้สมใจเสียเลย
ตั้งแต่บ้านใหม่เสร็จเรียบร้อยนี่เป็นครั้งแรกที่เลี้ยงอาหาร เฉินกั่วต้งกับท่านย่าใหญ่ภรรยาของเขาก็ได้รับเชิญมาด้วยในวันนี้ สตรีนั่งอีกโต๊ะกับเด็กๆ บุรุษนั่งแยกเสียงพูดคุยกันถึงเรื่องการเดินทางในวันพรุ่งนี้ เฉินกั่วต้งเอ่ยออกมา"มู่หยางเอ๊ย....พรุ่งนี้ยามซื่อใต้เท้าฮั่วจะมารับคนที่หมู่บ้านเราเป็นหมู่บ้านสุดท้ายพวกเจ้าเตรียมตัวดีหรือยัง""ท่านปู่ใหญ่อย่ากังวลเลยขอรับ เสี่ยวเฟยนางเตรียมเสบียงให้พวกเรากว่าสามเกวียน อาหารมีพอจนไปถึงชายแดนแน่ขอรับ""อืม...นางช่างเป็นภรรยาที่ดีเจ้าแต่งนางมาไม่ผิดเลย แล้วพวกเจ้าเล่าบิดามารดานั้นพูดใครสั่งความกันเรียบร้อยหรือยัง จื่อหยวนเจ้ามีไป๋เหยียน คอยดูแลมารดาของเจ้า ส่วนเจ้าฟางฉายอย่ากังวลเลย พวกเจ้าคือวีรบุรุษของหมู่บ้านเรา มารดาเจ้าก็เหมือนกับมารดาคนในหมู่บ้าน พวกเราจะดูแลนางเอง"ฟางฉายคีบขาหมูใส่ในถ้วยของผู้นำหมู่บ้านก่อนจะเอ่ยขอบคุณ"ขอบพระคุณท่านผู้นำขอรับ หมู่บ้านเราโชคดีที่ได้ท่านปกครอง"ไป๋เซิงที่มีน้องสาวคอยดูแลบิดากับมารดาและบุตรสาวก็ไม่กังวลเท่าไหร่ มีเพียงหลิวเยี่ยนฉางที่พี่สาวอยู่ไกล แต่ว่าอาซ้อรับปากแล้วว่าจะดูแลให้เขา
ทั้งสองเดินลงจากเขามาถึงบ้านก็ปลายยามเซินพอดี เฉินมู่หยางอุ้มจ้าวเฟยเฟยเดินข้ามก้อนหินมาตามลำธาร จางซือเหยียนที่อาสาเลี้ยงเด็กๆถึงกับส่ายหน้า หลงพระชายาเพียงนี้หากไม่ติด/ไปชายแดนคงหัวปีท้ายปีกระมัง ก่อนจะเอ่ยกระเซ้าทั้งคู่"มิใช่ไปเก็บเห็ด ไปเก็บบ่อยๆไม่เคยจะเห็นเพลียสักนิด พอมีคนไปด้วยทำเป็นหมดแรง"จ้าวเฟยเฟยนับหนึ่งถึงสิบในใจ ตาเฒ่านี่ต้องโดนสักทีสิน่า ถ้าไม่ติดว่าพรุ่งนี้เดินทางนะ แม่จะใส่ยาถ่ายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ใบหน้าหวานที่ซุกอยู่กับอกสามีก็เงยหน้าสบตาหวานฉ่ำเอ่ยออดอ้อนกับเขา"ท่านพี่..เสียงแมลงหวี่แมลงวันน่ารำคาญนัก ท่านช่วยไปหายาไล่แมลงให้ข้าทีนะเจ้าคะ"เฉินมู่หยางสบตาเมียก่อนจะพยักหน้า เขาไม่อาจตอบได้คนหนึ่งก็อาจารย์ที่เคารพ อีกคนก็เมียสุดที่รัก จางซือเหยียนหนวดกระดิกเมื่อได้ยินวาจาของนาง หึ ท่านอ๋องและองค์ชายทั้งหลายยังต้องเกรงใจเขา แต่นี่ท่านอ๋องน้อยที่ยังไม่รู้แม้แต่สถานะตนเองกลับเอาแต่เข้าข้างพระชายาของตน ก่อนจะมองหน้าคนในอ้อมกอดเฉินมู่หยาง เขามองเห็นใบหน้าของนางทับซ้อนกับอีกคนที่อยู่ในวัง"สมกับที่เป็นสายเลือดตาแก่มู่ ตาหลานมิต่างกันจริงพวกปากค
เฉินมู่หยางสอบเอวหนาช้าๆ คนใต้ร่างกอดแผ่นหลังเขาแนบแน่น ไม่ว่าเขาจะจูงไปที่ใดนางก็พร้อมเดินตาม ร่างสูงสอบเอวหนาไม่หยุด เรียกเสียงครางจากเมียสาวดังลั่นห้อง เตียงนี้เด้งจริงๆอย่างที่เมียบอก "อ๊า..ท่านพี่ เร่งอีก ไม่ไหวแล้ว""เสี่ยวเฟยจ๋า เจ้าอย่ารัดพี่แน่นพี่จะไม่ไหว""ท่านพี่ เร่งเถอะ เฉินมู่หยางได้โปรด อ๊ายยย"เฉินมู่หยางเร่งความเร็วสาวเอวถี่ ร่างงามกระตุกเกร็ง กายสาวแอ่นโค้งขึ้น มือบางขยำผ้าปูเตียงเอาไว้ เหงื่อเม็ดเล็กๆซึมใบหน้าของนาง ผมเปียกชื้นแนบไปกับใบหน้าและลำคอ มันเย้ายวนในสายตาเฉินมู่หยางยิ่งนัก เขาส่งนางไปสวรรค์ถึงสามครั้งแล้ว ครั้งนี้เขาจะไปพร้อมกับนาง"อ่าห์ เสี่ยวเฟยพร้อมกันอีกครั้งนะคนดี""อื้อ ท่านพี่เร่งเลย ข้าไม่ไหว อ๊า จะถึงแล้ว ท่านพี่ได้โปรดแรงอีก อื้อ""เสี่ยวเฟยจ๋า อ่าห์มาแล้วพร้อมกันนะ""อ๊าคคค /อ๊ายยย"ทั้งคู่ปลดปล่อยพร้อมกัน สองร่างหอบหายใจอย่างแรง เฉินมู่หยางซบลงกับซอกคอหอมกรุ่น ในขณะที่นางเอกก็กอดตอบเขาแนบแน่น จนทั้งคู่ผ่อนคลายร่างสูงจึงยอมถอยออกมาให้นางได้พัก สายตาเขามองไปยังกลางกายสาวที่มีจุดสีแดงก็ยิ้มภูมิใจก่อนจะเอ่ยกับค
เฉินมู่หยางคลายอ้อมกอดก่อนจะเชยคางนางขึ้น จ้าวเฟยเฟยยิ้มตอบและใช้สองมือคล้องท้ายทอยหนาไว้ สัมผัสอุ่นร้อนจากริมฝีปากหนาแนบลงมายังเรียวปากอวบอิ่มของนางอย่างแผ่วเบา ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นจูบที่ร้อนแรงและดูดดื่ม"ท่านพี่.. ตอนปลดอาภรณ์ของข้าวันนี้ท่านห้ามใช้มือช่วยนะ""ลองภูมิพี่หรือคนดี""ท่านทำได้หรือไม่เล่า หากทำได้กลับไปคืนนี้จะให้ต่อ คิกๆๆ"เสียงหัวเราะยั่วยวนมาจากนาง สายตาซุกซนมองหน้าเขา เฉินมู่หยางจูบนางอีกครั้ง จากนั้นก็ละจากริมฝีปากพรมจูบไต่ลงมา เขาดูดเลียใบหูเล็กจนจ้าวเฟยเฟยสยิวครางกระเส่ามือบางของนางเลื่อนจากท้ายทอยหนาของเขามาด้านหน้า กรีดไล้นิ้วเรียวไปตามลำคอแกร่ง ก่อนจะหยุดที่ปมสายรัดเอวแล้วค่อยๆ คลายออก สองมือผลักเสื้อตัวนอกของเขาออกไปอย่างเชื่องช้าเฉินมู่หยางละจากริมฝีปากนุ่ม พรมจูบไล่ลงมาตามลำคอระหง กดย้ำเบาๆ ให้เป็นรอยประทับ เสียงครางแผ่วหวานของนางดังแว่วในลำคอ เมื่อเขาใช้ปากงับสายเสื้อนอนให้หลุดจากไหล่ทีละข้าง จนลงมากองอยู่ที่เอวบางนางเอ่ยนยั่วยวนสามีน้ำเสียงกระเส่ารัญจวน“ท่านพี่...หนาวยิ่งนัก ขนลุกไปหมดแล้วเจ้าค่ะ” จ้าวเฟยเฟยเอ่ยเสียงกระซิบ ขณะที่นิ้วเรียวของนางกรีดไ
ยามซวีจางซือเหยียนก็มาหาลูกศิษย์ของตนก่อนจะเรียกเฉินมู่หยางออกไปคุย ร่างสูงเดินมาหาชายชราที่ยืนรออยู่ เขามอบจดหมายสองฉบับให้กับเขาจากนั้นก็เอ่ยกำชับ"ต้องส่งมอบด้วยตนเอง และที่สำคัญห้ามให้ใครรู้หาโอกาสที่ปลอดคนเพื่อส่งมอบ แม้แต่สหายของเจ้าทุกคนด้วย""ขอรับท่านอาจารย์ ว่าแต่อาจารย์จะแยกทางกับข้าเลยหรือขอรับ""อืม..ใช่แล้วข้ามีงานต้องไปทำ เสียเวลามามากแล้ว""มิใช่ท่านบอกว่ามาตามหาคนหรอกหรือ เช่นนั้นท่านตามหาคนเจอแล้วหรือขอรับ""ได้ข่าวแล้วจึงต้องรีบไปพบ เจ้าไปพักผ่อนเถอะ มีอะไรก้พูดคุยกันเสียให้เรียบร้อย วันมะรืนต้องเดินทางแล้ว""ขอรับ อาจารย์ท่านก็รีบพักผ่อนเถอะขอรับค่ำมากแล้ว"เฉินมู่หยางหันหลังกลับ แต่หูเขาได้ยินอาจารย์เอ่ยตามมาเบาๆ"ท่านอ๋องน้อย ทรงระวังตัวด้วยนะพ่ะย่ะค่ะ"ร่างสูงหันกลับมาก็เห็นชายชราดีดตัวไปทางหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว เมื่อสักครู่อาจารย์เรียกผู้ใดกัน ท่านอ๋องน้อยเช่นนั้นหรือหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้นอกจากองค์ชายแปดคนนั้นยังมีใครอีก จางนั้นเขาก็สะบัดศีรษะและเลิกสนใจ ไม่ว่าจะเป็นท่านอ๋องหรือองค์ชายก็ไม่เกี่ยวกับเขา ขอเพียงลูกเมียมีความสุขกินอิ่มนอนหลับ
บ้านเฉินมู่หยางจ้าวเฟยเฟยกำลังจัดเสื้อผ้าใส่ห่อให้สามีอยู่ เฉินมู่หยางที่วางข้าวของเรียบร้อยก็ตรงมาหานางสวมกอดจากด้านหลัง มือบางกุมหลังมือของเขาก่อนะเอี้ยวตัวกลับมา ชายหนุ่มกำลังจะจุมพิตเมียตัวเองเสียงเล็กๆก็ดังมา"ท่านพ่อ...ท่านแก่ป่านนี้แล้วเหตุใดยังอ้อนท่านแม่อีกขอรับ ข้าห้าขวบยังไม่ทำตัวเช่นท่านเลย"เฉินมู่หยางหันขวับไปทันที ไอ้ตัวแสบนี่ ตั้งแต่เข้ากันได้ดีกับมารดาก็กีดกันเขายึดเอาท่านแม่ไว้คนเดียว มันน่านักเจ้าลูกชายข้าจะส่งเจ้าไปสำนักศึกษาประจำเสียเลย ก่อนจะเอ่ยยียวน"พ่อจะไปทัพแล้ว ต้องคิดถึงท่านแม่เจ้าเป็นธรรมดา กอดนางนิดหน่อยจะเป็นไรไป"ร่างเล็กเดินตรงมา มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาไว้ด้านหน้าระดับเอว อีกข้างไพล่หลังกำเอาไว้ หลังตั้งตรง วางท่าราวกับบัณฑิตผู้เคร่งขรึม ก่อนจะเอ่ยกับเขา"คุณชายเฉิน ท่านจะโอบกอดสตรีในที่สาธารณะนั้นไม่ได้ ต่อให้สตรีนั้นแม้เป็นภรรยาตนก็ย่อมต้องให้เกียรติ ท่านเองเคยเป็นบัณฑิตเรื่องแค่นี้มิเข้าใจหรอกหรือ"เฉินมู่หยาง"............"คิกๆๆๆ จ้าวเฟยเฟยหัวเราะเขา ในที่สุดก็ถูกบุตรชายสั่งสอน เฉินมู่หยางมองบุตรชายตาเขียวก่อนจะเอ่ยกับเมียร