อารมณ์หึงหวงมักอยู่เหนือเหตุผลทั้งปวงอย่างแท้จริง เซียวหงเย่ถูกมองเช่นนั้นพลันขนลุกเกรียวเสียวสันหลังวาบจังหวะนั้นคนผู้หนึ่งตบผนังรถม้าดังลั่น “ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ข้างใน! ออกมา! อย่าเป็นเต่าหดหัว”คนถูกด่าว่าเป็นเต่าหดหัวสะดุ้งโหยง ยังไม่ทันตั้งตัว รถม้าพลันโคลงเคลง เป็นพวกมันที่ใช้ทั้งท่อนไม้และฝ่าเท้า ทั้งตีทั้งเตะอย่างกระแทกกระทั้นใส่ตัวรถม้า เห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่สนใจเซียวหงเย่เลย จ้องเล่นงานนางคนเดียวยามนี้รถม้าถูกจงใจโยกคลอนจนแทบล้มคว่ำแล้ว ขืนยังนั่งอยู่มีหวังติดอยู่ในซากรถม้าที่พังยับแน่นอนติงยวี่ถิงให้รู้สึกมึนหัวแทบอาเจียน กระทั่งนั่งไม่ไหว นางกระเด็นกระดอนไปมา จำต้องคลานออกจากรถม้าอย่างเลี่ยงมิได้ ครั้นปีนลงมายืนที่นอกรถม้ายังโงนเงนแทบล้มลง เซียวหงเย่รีบเข้ามายืนขวางหน้าใช้ตนเองกันตัวนางเอาไว้ หันไปประจันหน้ากับกลุ่มอันธพาล พยายามหาทางหนีทีไล่ติงยวี่ถิงมองแผ่นหลังอันสง่างามมากขึ้นนั้นของเขาแผ่นหลังกว้างเพิ่งให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ก็วันนี้ นางเพิ่งตระหนักถึงคำว่าสามีคือแผ่นฟ้าที่คอยคุ้มครองปกป้องภรรยาตัวน้อยให้ปลอดภัยเซียวหงเย่พยายามเจรจาต่อรองเต็มที่ “พี่ชาย ใจเย็นก่อน
บริเวณตรงนี้ยังไม่ถึงจุดชื่นชมทิวทัศน์รอบด้านล้วนเป็นชายป่าชานเมือง ริมถนนเป็นเนินที่ค่อนข้างสูงชันและลึกลงไป ด้านล่างคือสายน้ำที่ไปบรรจบกับลำธารกลางสวนบุปผาตรงจุดลับตาเรียกง่ายๆ ว่าเป็นทางที่ไม่ค่อยมีคนสัญจรเท่าใดติงยวี่ถิคิดจะแวะท่องเที่ยวชื่นชมธรรมชาติสักหน่อย ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายมิคาดฝันก่อนถึงจุดที่สวยงาม เพราะยามนี้มีกิ่งไม้ขวางทางและมีกลุ่มชายฉกรรจ์ท่าทางอันธพาลโฉดเถื่อนรุมล้อมเช่นนี้ โชคร้ายยิ่งนักในขณะที่ตามแผนของเซียวหงเย่ที่มีท่านป้าจินกับพวกสาวใช้ เสี่ยวจิง เจียวมิ่ง ช่วยขบคิดนั้น เพียงให้เขาได้รับโอกาสเดินทางมากับติงยวี่ถิงและใช้เวลาอยู่ด้วยกันตามลำพังเพียงสองต่อสอง พากันท่องเที่ยวชื่นชมธรรมชาติ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี เขาจึงไม่ได้พาคนสนิทติดตาม มิคิดว่าจะเจอโจรเข้า ซวยจริง!นอกรถม้ายามนี้นั้น มีกลุ่มโจรอันธพาลรอปล้นชิง พวกมันเดินแบบย่างสามขุมมารุมล้อมรถม้าเอาไว้แล้วหญิงสาวหันมากระซิบถามชายหนุ่มเสียงเครียด “เอาอย่างไรดี?” หนีตอนนี้ไม่ทันแล้วเซียวหงเย่หรี่ตากระซิบ “คงต้องให้เงินพวกมันไป รักษาชีวิตรอดก่อนเป็นสิ่งสำคัญ”ติงยวี่ถิงพยักหน้าน้ำตาปริ่มๆ เสียดา
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “หุ้นส่วนการค้าโรงยาหรือ?”“ใช่” เซียวหงเย่ไม่สนใจหุ้นส่วนการค้าสักนิด “ข้าอยากเป็นหุ้นส่วนชีวิตมากกว่า”ติงยวี่ถิงค้อนขวับ “เฮอะ! ฝันไปเถอะ”ชายหนุ่มถอนหายใจ “ยวี่ถิง ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้รังเกียจ แต่เจ้าตั้งแง่กับข้าด้วยเหตุใดกันแน่ เรื่องบนเตียงของเรา ก็ไม่ได้แย่ ชัดเจนว่าเข้ากันได้ดีปานใด”โอ้โห! หลงตัวเองชะมัด ติงยวี่ถิงนิ่วหน้า แต่ก็จริงอย่างเขาว่า เราเข้ากันได้ดี เรื่องนั้นของเขานับว่าสุดยอดทว่า...หญิงสาวเงียบไป แน่นอน นางอยากมีสามีจนตัวสั่น แต่มิใช่ว่าใครก็ได้ เซียวหงเย่รูปงามหล่อเหลาและเร่าร้อน ทรงเสน่ห์เปี่ยมพลังเกินต้านขนาดนี้ นางจะไปไหนรอดติงยวี่ถิงช้อนตาเสมองไปทางอื่น ทั้งที่รอบด้านมีแค่ผนังรถม้า นางเปรยเสียงเบาว่า “ข้าไม่เคยรังเกียจท่าน”เซียวหงเย่ตัดสินใจถามในที่สุด“เราแต่งงานกันอีกครั้งดีหรือไม่?” “ไม่ดีกระมัง” ติงยวี่ถิงกำลังยอมรับว่าชอบเซียวหงเย่เข้าให้แล้ว เพียงแต่เรื่องของพวกเรามันเป็นไปไม่ได้แล้วปะไรสกุลเซียวเกลียดนางเข้ากระดูกดำเลยก็ว่าได้ ตอนสกุลติงยังมีเงินทองมากมาย พวกเขายังพอกัดฟันทนเกี่ยวดองกับนางได้ แต่พอสกุลติงสิ้นท่า เกรงว่าคงเห็น
ติงยวี่ถิงเม้มปากหน้าคว่ำ ลอบมองค้อนขวับๆ แต่ต่อหน้าลูกค้าต้องรักษาภาพลักษณ์ นางจะตำหนิด่าทอเซียวหงเย่ได้อย่างไร จึงเพียงยืนนิ่งแย้มยิ้มใบหน้าแดงก่ำ ทำได้อันใดมิได้มากกว่านั้น ได้ยินเซียวหงเย่กล่าวต่ออีกว่า “อดีตภรรยาของข้าสะสวยสะคราญโฉมเกินไป มิรู้ได้ว่าใช้ยาบำรุงตัวใดจึงทำข้ามิอาจไปทางใดได้เลยขอรับ”วาจาเขาทำเอาหานฮูหยินกับบุตรีตาโตดูสิ ใช้ยาบำรุงของที่นี่ย่อมมีความงามที่น่าหลงใหล ขนาดบุรุษผู้หนึ่งหล่อเหลาอย่างร้ายกาจปานนี้ยังหลงเสน่ห์ไม่อาจไปทางใดจนต้องกลับมาตายรัง เด็กสาวคิดเช่นนั้น ในขณะที่มารดาของนางก็คิดเช่นกัน หากนางใช้ยาของเจี้ยนคัง นายท่านหานไม่รอดแน่หานฮูหยินเอ่ย “ข้าขอสั่งยาอีกสิบกล่องนะเจ้าคะ สองชุดที่สั่งมาวันนี้ให้ลูกสาว ส่วนชุดใหม่ทั้งหมดข้าจะใช้เอง”ครานี้เป็นติงยวี่ถิงบ้างที่ตาโตนี่คือยอดสั่งซื้อที่เยอะมากเลยนะ ใครบ้างไม่รู้ว่าหานฮูหยินตระหนี่จะตาย ทั้งยังชอบต่อรองราคาขอผ่อนผัน แล้วนางจะได้เงินครบถ้วนเมื่อใด?เซียวหงเย่ยังใช้สุ้มเสียงทุ้มต่ำทรงเสน่ห์กล่าวต่อ “ข้าขอขอบคุณหานฮูหยินกับคุณหนูหานจากใจจริงขอรับ เพียงแต่ ยาบำรุงของภรรยา ล้วนต้องใช้วัตถุดิบที่ล้ำค่า เกร
คนผู้นั้นรับงานชั้นต่ำทำบ่อยอยู่แล้ว เขารับถุงเงิน “ว่าแต่บุรุษที่มากับนางมีฝีมือยุทธหรือไม่”“ไม่ เขาเป็นแค่พ่อค้า ชอบอ่านตำราเฉกบัณฑิต”คนฟังพยักหน้าเหยียดยิ้มหยัน เอ่ยอย่างไม่ยี่หระว่า “ดี! เช่นนี้ข้าจะพากลุ่มอันธพาลสองสามคนไปจับแม่นางคนงามผู้นั้นมาผลัดกันชื่นชมทั้งวันทั้งคืนแล้วกัน”ดวงตาคนพูดฉายประกายประหลาด เขาทำท่าครุ่นคิด ภาพฉุดคร่าสตรีมาขืนใจในป่าผุดพรายเต็มสมอง มุมปากแหยะยิ้มกรุ่มกริ่มชวนขนลุกน่ารังเกียจ ขณะว่าต่อ “อ้อ...กระทำย่ำยีต่อหน้าบุรุษผู้นั้นเลยปะไร ได้ผลดีนักแล ว่ะฮ่าๆ”ตงซิ่วไม่อยากพร่ำวาจากับคนผู้นี้อีกจึงเอ่ยตัดบท “ตามใจเจ้า ห้ามให้เรื่องโยงใยมาถึงข้าแล้วกัน”คนรับเงินทำงานชั่วช้าค่อยๆ หรี่ตา ปิดหน้าปิดตาเสียขนาดนั้น ข้าคุยตั้งนานยังไม่รู้จักเลย แล้วใครจะโยงใย กระนั้นเขาเพียงรับปากอย่างหนักแน่นว่า “ได้...”เรือนหลักของจวนสกุลหานติงยวี่ถิงถูกเชิญเข้าด้านใน เซียวหงเย่เดินตามไม่ห่าง ทว่าระหว่างทางต้องช่วยนางจัดการกล่องไม้บรรจุยาบำรุงจึงต้องรั้งอยู่กับกลุ่มพ่อบ้านก่อนครั้นฮูหยินหานรู้ว่าเจ้าของโรงยามาส่งยาด้วยตนเอง นางก็รีบออกมาต้อนรับพร้อมบุตรีที่อยู่ในวัยสาวสะพ
คนตระกูลหานชอบความสงบ รักธรรมชาติชื่นชมสายน้ำภูผา จวนของสกุลหานจึงอยู่ทางใต้ของเมืองหลวง ติดกับเขตชานเมืองที่มีแนวชายป่ารถม้าใช้เวลาเดินทางทางเรียบราวหนึ่งชั่วยามครึ่ง ระหว่างทางยังมีบึงมรกตขนาดใหญ่เชื่อมกับภูเขาสูงเด่น รอบด้านเต็มไปด้วยดอกไม้เหมาะแก่การแวะชื่นชมทิวทัศน์“ไปส่งสินค้าให้สกุลหานก่อน ค่อยกลับมาเที่ยว” เซียวหงเย่สั่งการด้วยสุ้มเสียงขบขัน ทำเอาใครบางคนที่แอบเปิดผ้าม่านรถม้าตลอดทางต้องมองค้อน“รู้แล้วน่า”“อ้อ...เห็นแอบมองข้างทางตลอดยังทำตาละห้อย นึกว่าอยากแวะเที่ยวก่อน”“ข้ามีความรับผิดชอบเรื่องการค้ามาก อย่าใส่ร้าย”ถกเถียงกันไม่นานก็ถึงจุดหมายปลายทาง รถม้าจอดตรงประตูจวนหานพอดิบพอดีติงยวี่ถิงสำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมด้วยคันฉ่องคันใหญ่ที่ใส่รถม้ามาอย่างถ้วนถี่ตามวิสัยแม่ค้าที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ ภายใต้สายตาของเซียวหงเย่เช่นนี้ เขาจึงอดมิได้ต้องยื่นมือช่วยนาง ช่วยสำรวจอีกแรงหญิงสาวเห็นมือใหญ่ข้ามฝั่งจากตั่งยาวอีกด้านมาทำรุ่มร่ามก็ถามเสียงดุ “ทำอะไรน่ะ?”“นั่งนิ่งๆ สิ ปอยผมตรงนี้ยังไม่เรียบร้อย”“ฮึ!” แค่นเสียงหนึ่งทีก่อน นางถึงนั่งนิ่งๆ ให้เขาช่วยจัดเก็บปอยผมที่