Share

คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ
คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ
Author: หรงหรงจื่ออี

บทที่ 1

Author: หรงหรงจื่ออี
เสิ่นชิงซูกับฟู่ซือเหยียนแต่งงานกันลับ ๆ มาห้าปี เป็นสามีภรรยากันตามพฤตินัย หากว่าไม่มีความรักใคร่เข้ามาเกี่ยวข้อง

ไม่สิ น่าจะต้องพูดว่าเสิ่นชิงซูซ่อนเร้นความรู้สึกที่มีต่อสามีได้อย่างมิดชิดไร้ร่องรอยใดปรากฏมากกว่า

ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เมืองที่เจริญรุ่งเรืองถูกปกคลุมด้วยหิมะอันขาวโพลน ทั่วทุกสารทิศมีแต่ความคึกคักครื้นเครง

เว้นแต่ในคฤหาสน์หนานซีที่ใหญ่โตโอ่อ่ากลับมีแค่เสิ่นชิงซูอยู่เพียงลำพัง

เธอต้มบะหมี่ง่าย ๆ ให้ตัวเองถ้วยหนึ่ง แต่กลับไม่กินสักคำ

มือถือบนโต๊ะอาหารกำลังเล่นภาพเคลื่อนไหวบนไทม์ไลน์ในแอปพลิเคชันไลน์หนึ่งอยู่...

ผู้ชายในจอมีนิ้วเรียวยาวเห็นข้อกระดูกชัดเจน มือข้างนั้นถือแหวนเพชรเม็ดเท่าไข่นกพิราบ ดันสวมเข้าไปที่นิ้วนางอันเรียวเล็กของหญิงสาวย่างแม่นยำ

ตามด้วยเสียงอ่อนหวานชดช้อยของหญิงสาวดังแว่วขึ้นมา “คุณฟู่ ขอฝากชีวิตที่เหลือด้วยนะ”

เสิ่นชิงซูจ้องนาฬิกาที่ข้อมือของชายในจอนิ่ง เครื่องหมายแสดงตัวตนซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ความขมขื่นก็เริ่มทะลักเข้ามาในใจ

ภาพเคลื่อนไหวได้หยุดนิ่งลงแล้ว ทว่านิ้วมือกลับยังคงไม่อาจเลื่อนขยับ เธอทำได้แค่ยืนยันราวกับการทรมานตัวเองซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น

เมื่อครึ่งปีก่อนหญิงสาวเป็นฝ่ายเพิ่มเพื่อนเธอในไลน์

นับแต่นั้นมา เธอก็มักได้เห็นสามีตัวเองผ่านไทม์ไลน์ของหญิงสาวอยู่เนืองนิตย์

แต่งงานแบบไม่เปิดเผยมาห้าปี จนมาวันนี้ เสิ่นชิงซูถึงเพิ่งรู้ว่าที่แท้สามีของเธอก็อบอุ่น โรแมนติกและใส่ใจรายละเอียดได้ถึงขนาดนี้ด้วย

บะหมี่ที่เมื่อครู่ยังมีควันพวยพุ่งเย็นชืดแล้ว

บะหมี่กินไม่ได้แล้ว เธอเพิ่งจะจับตะเกียบคีบขึ้นมา กลับเหมือนว่าไร้ซึ่งเรี่ยวแรง

เฉกเช่นเดียวกับการสมรสอันเลวร้ายนี้ของเธอ ไม่ควรถลำลึกไปมากกว่านี้อีก

เสิ่นชิงซูหลับตาลง น้ำตาร่วงเผาะ เธอลุกขึ้นกลับห้องไปล้างหน้าล้างตา ก่อนปิดไฟแล้วล้มตัวนอนลง

ดึกมากแล้ว ภายในห้องที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นกลับแทรกขึ้นมาด้วยเสียงปลดสายรัดเสื้อผ้า

เสิ่นชิงซูนอนตะแคงข้างอยู่บนเตียงหลังใหญ่

เธอรู้ว่าฟู่ซือเหยียนกลับมาแล้ว แต่ยังคงหลับตาปี๋แสร้งทำทีเป็นว่านอนหลับสนิท

เตียงด้านข้างยุบลงยวบ

ตามด้วยร่างกายใหญ่โตที่เข้ามาคร่อมอยู่บนตัวเธอ

หัวคิ้วของเสิ่นชิงซูขมวดเป็นปมเล็กน้อย

ชั่วอึดใจต่อมาชายกระโปรงชุดนอนถูกเลิกขึ้นสูง ฝ่ามือกระด้างแต่อุ่นร้อนเริ่มวางนาบลงมา...

เสิ่นชิงซูสะดุ้งตกใจ รีบลืมตาฉับพลัน

เค้าโครงองคาพยพอันคมคายบนใบหน้าหล่อเหลาอยู่ใกล้เพียงคืบ แว่นกรอบบางสีเงินวางคาดไว้บนสันจมูกที่สูงโด่ง

ไฟหัวเตียงดวงเล็กยังคงเปิดไว้ในค่ำคืน แสงนวลสีส้มตกกระทบบนกระจกแว่น

ดวงตาเฉี่ยวยาวหลังเลนส์แว่นของชายหนุ่มระคนด้วยความต้องการ

“ทำไมจู่ ๆ ถึงกลับมาล่ะคะ?”

เสียงของเธอนุ่มนวลละมุนละไมแต่กำเนิด

ชายหนุ่มจดจ้องหางตาอันแดงก่ำของเธอ คิ้วดกดำเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อย “ไม่ต้อนรับเหรอ?”

เสิ่นชิงซูมองเข้าไปในแววตาลุ่มลึกสีดำขลับประหนึ่งหยกทมิฬของชายหนุ่มตรง ๆ ก่อนกล่าวอธิบายเสียงแผ่ว “เปล่า แค่คิดไม่ถึงนิดหน่อยน่ะ”

ปลายนิ้วอันเรียวยาวของชายหนุ่มแข็งกระด้างแต่ก็อบอุ่น ลูบไล้ผ่านใบหน้าอันนวลลออผุดผ่องของเธอเบา ๆ นัยน์ตาสีดำขลับมืดสนิท น้ำเสียงทุ้มต่ำที่น่าฟังดังขึ้น “ถอดแว่นตาออกซะ”

เสิ่นชิงซูขมวดคิ้วเล็กน้อย

ดวงหน้าถูกปลายนิ้วของเขาลูบไล้อย่างเบามือ เธอมองใบหน้าที่ทำให้เธอหลงรักหัวปักหัวปำมานานนับปี ในหัวพลันปรากฏภาพเคลื่อนไหวบนไทม์ไลน์เมื่อครู่นี้...

เธอที่ทำใจขัดอารมณ์เขาไม่ได้มาโดยตลอดปฏิเสธเขาด้วยสีหน้าเย็นยะเยือกเป็นครั้งแรก “ฉันไม่ค่อยสบาย”

“ประจำเดือนมาแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่ค่ะ ก็แค่…”

“งั้นก็อย่ามาทำให้เสียอารมณ์”

เสียงทุ้มต่ำเย็นชาตัดบทเธอที่กำลังจะอธิบาย นัยน์ตาลุ่มลึกเริ่มมืดมนดังบรรยากาศยามราตรี

เสิ่นชิงซูรู้ว่าเขาไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ แน่

ในชีวิตสมรสครั้งนี้ เธอคือฝ่ายที่ต่ำต้อยและยึดเอาความต้องการของเขาเป็นหลักเสมอมา

เสิ่นชิงซูรู้สึกชอกช้ำในใจ จึงน้ำตารื้นอย่างห้ามไม่อยู่

แว่นตาถูกชายหนุ่มโยนทิ้งไปที่ตู้ข้างหัวเตียง มือใหญ่ของบุรุษคว้าหมับเข้าที่ข้อเท้าอันเรียวเล็กและงดงามของเธอ...

ไฟดวงเล็กสีส้มที่หัวเตียงดับลง

ภายในห้องนอนเข้าสู่ความมืดมิด

การรับรู้ถูกเพิ่มขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด

ไม่ได้เจอกันหนึ่งเดือน ฟู่ซือเหยียนรุนแรงจนน่ากลัว

เสิ่นชิงซูขัดขืนแต่ไร้ผล สุดท้ายได้แต่กัดฟันฝืนทน...

หิมะนอกหน้าต่างตกหนักขึ้นทุกที ลมหนาวพัดกระโชกหวีดหวิว

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว เสิ่นชิงซูเปียกโชกไปทั้งร่าง

รู้สึกไม่สบายท้องเล็กน้อย

นึกถึงเรื่องที่ประจำเดือนของตนยังไม่มาเสียที สุดท้ายเธอจึงเอ่ยออกไปว่า “ฟู่ซือเหยียน ฉัน…”

แต่บุรุษกลับไม่พอใจที่เธอวอกแวก จึงกระแทกร่างอย่างกระหน่ำยิ่งขึ้น

เสียงเล็กบางที่พูดไม่เป็นคำของเธอถูกชายหนุ่มกลืนกินไปพร้อมกับจุมพิตที่เอาแต่ใจไม่หยุด...

ครั้นเสร็จกิจ ท้องฟ้ายังไม่สว่าง

เสิ่นชิงซูเหนื่อยล้าจนแทบสติเลือนราง ท้องน้อยรู้สึกปวดหนึบ อาการไม่รุนแรง แต่ก็ไม่อาจมองข้ามได้

ได้ยินเสียงกริ่งโทรศัพท์แล้ว เธอจึงพยายามดึงสติไว้และลืมตาขึ้นมา

ภายในทัศนวิสัยอันพร่ามัว เห็นเพียงชายหนุ่มเดินไปรับสายที่ริมหน้าต่าง

ในห้องเงียบสงัด จึงสามารถได้ยินเสียงออดอ้อนที่ดังแว่วมาราง ๆ

เขากล่าวปลอบโยนปลายสายอย่างใจเย็น แต่หมางเมินไม่สนใจไยดีภรรยาที่หลับลึกอยู่ข้าง ๆ

ผ่านไปไม่นาน มีเสียงเครื่องยนต์ดังมาจากชั้นล่าง

ฟู่ซือเหยียนไปแล้ว

……

ครั้นตื่นขึ้นในวันถัดมา ที่นอนข้างกายยังคงเย็นเฉียบดังเดิม

เสิ่นชิงซูพลิกตัวทีหนึ่ง ลูบท้องน้อยเบา ๆ

ไม่ปวดแล้ว

กริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นฉินฟางแม่ของฟู่ซือเหยียน

“เธอมาที่นี่เดี๋ยวนี้” น้ำเสียงเย็นชาแกมบังคับ ไม่เปิดช่องให้เธอปฏิเสธ

เสิ่นชิงซูตอบรับเสียงเรียบไปคำหนึ่ง

ฉินฟางกดวางโทรศัพท์

แต่งงานกับฟู่ซือเหยียนอย่างลับ ๆ มาห้าปี ฉินฟางก็ไม่เคยชอบขี้หน้าเธอเลย เสิ่นชิงซูจึงชินแล้ว

อย่างไรเสียตระกูลฟู่ก็เป็นอันดับหนึ่งในสี่ตระกูลเศรษฐีใหญ่แห่งเมืองเป่ย แม้เธอจะเกิดในตระกูลเสิ่น แต่กลับเป็นลูกสาวถูกทิ้งที่ไม่มีใครรัก

การแต่งงานระหว่างเธอและฟู่ซือเหยียนเกิดจากการทำข้อตกลงกัน

เมื่อห้าปีก่อนแม่ได้พลั้งมือฆ่าพ่อตายระหว่างโดนทำร้ายร่างกายครั้งหนึ่ง น้องชายร่วมมือกับย่าและทุกคนในตระกูลเสิ่นฟ้องร้องแม่ พยายามขอให้ตัดสินโทษประหารชีวิต

ตระกูลเจียงซึ่งเป็นครอบครัวเดิมของแม่ก็เป็นตระกูลเศรษฐีในเมืองเป่ยเหมือนกัน กลับประกาศตัดขาดความสัมพันธ์กับแม่หลังจากเกิดเรื่องในทันที

เนื่องจากเป็นกระบอกเสียงให้แม่ เสิ่นชิงซูจึงถูกตระกูลเสิ่นและตระกูลเจียงตามทำร้ายและเอาคืน ครั้นอับจนหนทาง เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาที่แนะนำให้เธอไปหาฟู่ซือเหยียน

ในแง่ของอำนาจ ภูมิหลังของตระกูลฟู่คือตัวตนที่ตระกูลเจียงและตระกูลเสิ่นร่วมมือกันก็ไม่อาจสร้างความสะเทือนได้

ในด้านกฎหมาย คดีที่ผ่านมือฟู่ซือเหยียนจวบจนถึงปัจจุบันยังคงสถิติแพ้คดีเป็นศูนย์ดังเดิม

ในท้ายที่สุดฟู่ซือเหยียนช่วยเหลือให้แม่มีโทษจำคุกแค่ห้าปี ซึ่งตามที่ได้ตกลงกันไว้ เสิ่นชิงซูต้องแต่งงานแบบไม่เปิดเผยกับฟู่ซือเหยียน

จากที่ฟังฟู่ซือเหยียนพูด พ่อแม่บังเกิดเกล้าของลูกเลี้ยงฟู่ซืออวี่ลาโลกไปด้วยอุบัติเหตุอย่างโชคไม่ดี

และเขาเป็นเพื่อนรักกับพ่อของฟู่ซืออวี่ ดังนั้นจึงรับฟู่ซืออวี่ที่ยังแบเบาะมาเลี้ยง

ตอนนี้ผ่านมาห้าปีแล้ว อีกแค่เดือนเดียว แม่ก็จะพ้นโทษออกมาแล้ว

การแต่งงานครั้งนี้ถูกตีราคาอย่างชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับในสิ่งที่ต้องการ ฉะนั้นเสิ่นชิงซูไม่ได้เสียเปรียบ

น่าเสียดายที่รู้อยู่แก่ใจดีว่าการแต่งงานนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องความรัก หนำซ้ำยังไม่รู้ด้วยว่ามันจะจบลงเมื่อใด แต่กระนั้นเธอก็ยังแอบมีใจให้อยู่ดี

เสิ่นชิงซูหยุดความคิดนั้นไว้ ก่อนลุกขึ้นเดินเข้าห้องอาบน้ำไป

ขณะอาบน้ำพลันรู้สึกไม่สบายท้องน้อยขึ้นมาอีกรอบ

ความวิตกกังวลเริ่มก่อเกิดขึ้นในใจเป็นครั้งที่สอง

เธอกับฟู่ซือเหยียนป้องกันทุกครั้ง มีเพียงครั้งนั้นครั้งเดียวที่ฟู่ซือเหยียนเมาเหล้าเมื่อหนึ่งเดือนก่อน...

แม้วันถัดมาเธอจะกินยาไปแล้ว แต่ก็มีกรณีที่ป้องกันการตั้งครรภ์หลังมีเพศสัมพันธ์ล้มเหลวเหมือนกัน

เพื่อรับประกันความเสี่ยง ระหว่างทางที่เสิ่นชิงซูขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านตระกูลฟู่ ก็มาจอดเทียบที่หน้าร้านยาแห่งหนึ่ง ก่อนลงรถไปซื้อที่ตรวจครรภ์
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ณัฐตรี กุศลเพิ่มพูล
น่าติดตามดีค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 356

    จู่ ๆ เสิ่นชิงซูก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา“เธอดูเสี่ยวอันหนิงนะ ฉันจะไปดูหน่อย”“ได้”เสิ่นชิงซูเดินออกมาจากห้องของเสี่ยวอันหนิงก็เห็นหนีอวี่เถียนเดินออกมาจากห้องนอนหลัก“คุณหนี กระเป๋าเดินทางของฉันล่ะ?”หนีอวี่เถียนยิ้มพูด “ฉันวางไว้ที่ห้องแต่งตัวของห้องนอนหลักแล้วค่ะ”“ใครให้คุณเอาไปวางไว้ที่ห้องนอนหลัก?” เสิ่นชิงซูสีหน้าไม่พอใจ “ฉันไม่อยู่ห้องนั้น”“คุณไม่อยู่ห้องนั้น?” หนีอวี่เถียนตกใจ “แต่... คุณกับคุณฟู่เป็นสามีภรรยากัน นี่คุณ...”เสิ่นชิงซูขี้เกียจจะอธิบายกับเธอ จึงเดินเข้าห้องนอนหลักเลยหากระเป๋าเดินทางเจอในห้องแต่งตัวเสิ่นชิงซูลากกระเป๋าเดินทางเดินออกมาข้างนอก กลับเกือบชนกับฟู่ซือเหยียนที่หน้าห้องฟู่ซือเหยียนแลมองกระเป๋าเดินทางในมือของเธอ “คุณจะไปห้องข้าง ๆ เหรอ?”“การที่ฉับกลับมาก็เป็นการยอมให้ที่สุดแล้ว คุณอย่ามาได้คืบเอาศอก”ฟู่ซือเหยียนหรี่ตาลง “ต้องแบบนี้ให้ได้ใช่ไหม?”“นี่คือขีดจำกัดของฉัน” เสิ่นชิงซูน้ำเสียงแน่วแน่ฟู่ซือเหยียนได้ยินอย่างนั้น คิ้วหมึกเลิกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเบี่ยงตัวเปิดทางให้เสิ่นชิงซูลากกระเป๋าเดินทางเดินตรงไปที่ห้องเด็กด้านข้างป

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 355

    เวินจิ่งซีสบตากับถานอีอี้ทีหนึ่ง อดหัวเราะออกมาไม่ได้!เสิ่นชิงซูขยี้หัวเสี่ยวอันหนิง จึงพูดอย่างจนใจ “เสี่ยวอันหนิง ต้องมีมารยาทนะจ๊ะ”เสี่ยวอันหนิงพยักหน้า จากนั้นก็ทักทายฟู่ซืออวี่อย่างใจกว้าง “สวัสดีค่ะพี่ชาย หนูชื่อเสี่ยวอันหนิง!”ฟู่ซืออวี่มองใบหน้าเล็ก ๆ เลือดฝาดของเสี่ยวอันหนิงเสี่ยวอันหนิงหน้าตาเหมือนเสิ่นชิงซูมาก โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นฟู่ซืออวี่รู้สึกมีปมในใจเล็กน้อยแม่มีลูกเป็นของตัวเองแล้วจริง ๆ เธอจะไม่ดีกับเขาเหมือนเมื่อก่อนอีกถึงขนาดว่าตอนนี้เธอไม่ให้เขาเรียกเธอว่าแม่แล้วฟู่ซืออวี่แสบจมูกนิด ๆ แต่เขาไม่อยากขายหน้าต่อหน้าน้องสาว จึงฝืนยิ้มพูด “สวัส สวัสดี ฉันชื่อฟู่ซืออวี่”ตอนนี้เอง โทรศัพท์ของเวินจิ่งซีดังขึ้นคนขับรถที่มารับเขามาถึงแล้ว“เสี่ยวอันหนิง ป๊ะป๋ากลับบ้านก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกัน“บ๊ายบายค่ะป๊ะป๋า!” เสี่ยวอันหนิงส่งจุ๊บทางอากาศกับเวินจิ่งซีเวินจิ่งซียีหัวเล็ก ๆ ของเด็กน้อย กล่าวลากับเสิ่นชิงซู ก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางของตัวเองเดินไปเสิ่นชิงซูอุ้มเสี่ยวอันหนิงเข้าบ้านถานอีอี้ลากกระเป๋าเดินทางตามเธออยู่ข้างหลังด้านหลัง ฟู่ซืออวี่มองแผ่นหลังขอ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 354

    “เพราะเขาไม่ใช่ลูกของแม่ เขามีแม่ของตัวเองจ้ะ”ฟู่ซือเหยียนหน้าตึง “เสิ่นชิงซู คุณไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องพวกนี้กับเด็ก”“ทำไมจะไม่จำเป็น?” เสิ่นชิงซูมองเขา แสยะยิ้มพูด “คุณอยากให้เสี่ยวอันหนิงสนิทสนมกับฟู่ซืออวี่ แต่ทำไมคุณไม่คิดว่าฟู่ซืออวี่รับน้องสาวที่จู่ ๆ ก็โผล่มาได้จริงเหรอ?”ฟู่ซือเหยียนหน้าดำทะมึน “คุณกำลังสอนให้เสี่ยวอันหนิงระวังซืออวี่เหรอ?”“ฉันแค่เล่าความจริงกับลูกสาวฉัน ถึงเธอยังเด็ก แต่เธอไม่ได้โง่ เธอต้องรู้ว่าจะอยู่กับฟู่ซืออวี่ยังไง ฉันว่าเธอคงมีความคิดเป็นของตัวเอง”ฟู่ซือเหยียนมองเสิ่นชิงซู ดวงตาเจือความผิดหวัง“เสิ่นชิงซู คุณเปลี่ยนไปแล้ว”“คุณไม่เคยเข้าใจฉันเลยต่างหาก” เสิ่นชิงซูแค่นเสียงหัวเราะ “และคุณก็ไม่เคยเข้าใจฟู่ซืออวี่จริง ๆ ฟู่ซือเหยียน อย่าใช้สายตาตำหนิมองฉัน คุณควรถามตัวคุณเองว่ารักฟู่ซืออวี่มากขนาดนั้นจริงเหรอ? ถ้าคุณรักเขาขนาดนั้น ทำไมชอบผลักความรับผิดชอบในการดูแลเขาให้คนอื่นล่ะ?”ฟู่ซือเหยียนนัยน์ตาดำจ้องเสิ่นชิงซูตาเขม็งเสิ่นชิงซูกลับไม่สนใจเขาอีก หันออกไปมองนอกหน้าต่างฟู่ซือเหยียนเห็นดังนั้นจึงไม่พูดอะไรอีก ผินหน้าดำทะมึนกลับไปในห้องโดย

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 353

    ไป๋เจี้ยนเหวินกับเจี่ยงเหวินจิ่นรู้ว่าเธอจะกลับไปก็รู้สึกซับซ้อนและหนักอึ้งแต่พวกเขารู้ดี ครั้งนี้จะไม่กลับไปก็ไม่ได้ จึงไม่พูดอะไรมากเสิ่นชิงซูเป็นคนซื้อบ้านหลังนี้ ไม่มีราคาอะไรในเขตเมืองเก่า แต่เสิ่นชิงซูชอบมากจึงคิดจะเก็บเอาไว้รอให้ทุกอย่างจบลงแล้ว บางทีเธออาจจะกลับมาอยู่ที่เขตเมืองเก่านี่คือตำบลเล็ก ๆ ที่มีค่าความสุขสูงมาก เทียบกับเมืองใหญ่ที่รุ่งเรืองจอแจ เธอชอบที่นี่มากกว่า!เสิ่นชิงซูแค่เก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวันจำนวนหนึ่ง จึงมีสัมภาระที่เอากลับไปไม่มากกระเป๋าเดินทางสองใบ ใบหนึ่งของเธอ อีกใบหนึ่งของเสี่ยวอันหนิง……วันต่อมาฟู่ซือเหยียนมารับพวกเขาไปสนามบินด้วยตัวเองเมื่อรู้ว่าเวินจิ่งซีจะกลับเมืองเป่ยด้วย ฟู่ซือเหยียนแค่มองเวินจิ่งซีด้วยสายตาล้ำลึกทีหนึ่งลูกสาวอยู่ในอ้อมอกของเวินจิ่งซี แขนเล็ก ๆ คล้องคอเวินจิ่งซี ไม่มองเขาสักสายตาฟู่ซือเหยียนเม้มริมฝีปากไม่ได้พูดอะไร ถอนสายตาเย็นชากลับมาจากนั้นเขาก็ยื่นมือไปจับคันลากกระเป๋าเดินทางของเสิ่นชิงซู “ไปกันเถอะ”เสิ่นชิงซูขมวดคิ้วนิด ๆ จึงปล่อยมือออกถึงไม่ยี่หระกับการช่วยเหลือของเขา แต่ในเมื่อเขา

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 352

    เมื่อช้อนตาขึ้นอีกครั้ง เขามองเสิ่นชิงซูแล้วถาม “คุณยื่นเงื่อนไขมาเถอะ ผมต้องทำยังไง คุณถึงจะยอมพาลูกสาวกลับไป?”“จะให้ฉันกลับให้ได้มันก็ได้” เสิ่นชิงซูสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็นเฉียบ “คุณฟ้องโจวอวี๋ชู ส่งเธอเข้าคุก!”“เรื่องนี้ผมทำไม่ได้”“งั้นก็ไม่มีอะไรต้องคุยกัน!” เสิ่นชิงซูน้ำเสียงเย็นชา “นอกเสียจากลูกชายคุณจะฟื้นขึ้นมา ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ยอมคุณอีกเด็ดขาด!”“ผมเคยรับปากเคออวี่หางว่าจะดูแลโจวอวี๋ชู ผมจะผิดคำพูดไม่ได้ แต่...” ฟู่ซือเหยียนหยุดไปแล้วพูดอีก “ผมรับรองกับคุณได้ ต่อไปผมจะไม่ยุ่งเรื่องที่เกี่ยวกับโจวอวี๋ชูอีก”ความหมายของคำพูดนี้คือ ถ้าเสิ่นชิงซูจะทำอะไรโจวอวี๋ชู เขาจะไม่ขวางอีกพูดง่าย ๆ ก็คือ เขาจะไม่ปกป้องโจวอวี๋ชูอีกเสิ่นชิงซูรู้ นี่คือการยอมให้มากที่สุดที่ฟู่ซือเหยียนทำได้ในตอนนี้แล้ว!“ฟู่ซือเหยียน ทางที่ดีคุณก็ทำให้ได้อย่างที่พูด!”“ผมไม่ถึงกับหลอกคุณแม้แต่เรื่องอย่างนี้หรอก”เสิ่นชิงซูแค่นเสียงหัวเราะ “เรื่องที่คุณหลอกฉันยังน้อยเหรอ?”“ตอนนี้อย่างน้อยเราก็มีลูกสาวของตัวเอง” ฟู่ซือเหยียนมองเธอด้วยสีหน้าจริงจัง “เสิ่นชิงซู เพื่อลูกสาว เราอยู่ด

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 351

    ฟู่ซือเหยียนเดินมานั่งบนโซฟาเดี่ยวด้านข้างดวงตาเรียวยาวจ้องมองเธอ ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำ “เมื่อไรจะกลับบ้าน?”“กลับบ้าน?” เสิ่นชิงซูแค่นเสียงเย็นทีหนึ่ง “ฟู่ซือเหยียน ฉันมีบ้านกับคุณด้วยเหรอ?”“เรายังไม่ได้หย่ากัน” ฟู่ซือเหยียนสีหน้าเย็นชา “หนึ่งอาทิตย์แล้ว คุณควรเลิกหายโกรธได้แล้ว”เสิ่นชิงซูได้ยินแล้วก็หัวเราะ“ฟู่ซือเหยียน ในสายตาของคุณ ที่ฉันหลบอยู่ในเขตเมืองเก่าสี่ปีเป็นเพราะฉันโกรธคุณเหรอ?”เขาหรือจะฟังการถากถางของเธอไม่ออก?เขายกมือนวดหว่างคิ้ว “ตกลงต้องทำยังไงคุณถึงจะตามผมกลับไป?”“ฉันอยู่ที่นี่สงบสุขดี มีครอบครัว มีเพื่อน แล้วยังไม่ต้องกลัวว่าจะถูกโจวอวี๋ชูของคุณวางแผนทำร้าย แล้วฉันจะกลับไปทำไม? กลับไปให้ทำร้ายต่อเหรอ?”ฟู่ซือเหยียนเม้มริมฝีปาก นิ่งเงียบไปพักหนึ่งจึงพูด “ถือว่าให้เด็ก ๆ มีบ้านที่สมบูรณ์ เสี่ยวอันหนิงจะอยู่ในตำบลเล็ก ๆ อย่างนี้ตลอดไปไม่ได้ กลับเมืองเป่ย ผมจะให้ทุกอย่างที่ดีที่สุดกับเธอ”“ทุกอย่างที่ดีที่สุดของคุณคือการเป็นคุณหนูตระกูลฟู่เหรอ? หรือว่ามรดกมหาศาลของคุณฟู่ซือเหยียน?”เสิ่นชิงซูหัวเราะเสียงเย็น “ฟู่ซือเหยียนคุณอย่าลืมสิ คุณยังมีฟู่ซืออวี่อีก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status