ใครจะไปหลงรักผู้หญิงอย่างเธอได้ลง…รีบๆ แต่งให้จบๆ ไปแล้วค่อยหาเรื่องหย่าทีหลังก็แล้วกันอย่าคิดว่าฉันจะรักเธอเพราะไม่มีวัน!!
ดูเพิ่มเติมบ้านพิบูลย์ลักษณ์
“พ่อรับปากเองก็แต่งเองสิครับผมมีแฟนแล้วจะให้ผมไปแต่งงานกับคนอื่นได้ยังไง”
“บ๊ะ..ไอ้ลูกคนนี้ ดูมันพูดดูสิคุณเดี๋ยวนี้ชักลามปามใหญ่แล้วไม่รู้เหมือนใครไม่ได้อย่างใจเลยจริงๆ”
“ใจเย็นก่อนเถอะน่าคุณ..ลูกโตแล้วค่อยๆพูดค่อยๆ จากกันก็ได้”
“ถูกต้องครับคุณแม่ผมโตแล้วนะครับจะมาบังคับคุมถุงชนกันแบบนี้ได้ยังไง”
“อย่าพูดอย่างนั้นสิลูกนี่เป็นคำสัญญาของพ่อกับแม่ที่ให้ไว้กับเพื่อนรักนะ ลูกจะให้พ่อกับแม่ผิดสัญญากับเพื่อนที่ช่วยเหลือกันมาจนเรามีทุกวันนี้ได้ยังไงหนูอรก็เป็นเด็กดีมากนะการศึกษาก็ไม่น้อยหน้าใครรับรองว่าถ้าลูกได้เห็นน้องลูกเองก็จะต้องหลงรักน้องเหมือนพ่อกับแม่แน่ๆ ”
“ไม่มีทางหรอกครับแม่ผมรักปัดคนเดียวผมจะแต่งงานกับลูกปัดครับ”
“โอ๊ยคุณผมปวดหัวเราออกไปดูเรือนหอกันดีกว่าว่าสร้างไปถึงไหนแล้วนะ”
“อุ้ยดีเลยค่ะคุณถ้าอย่างนั้นรอแป๊บนะคะฉันไปหยิบกระเป๋าก่อน ”
“อ้าวทำไมจบแบบนี้ล่ะครับพ่อ..แม่ นี่ถึงขนาดสร้างเรือนหอเลยเหรอครับปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่สิครับพ่อกับแม่ทำแบบนี้กับผมได้ยังไง”
“ทีอย่างนี้แล้วจะมาเรียกร้องความเป็นธรรมทีตอนแกเป็นเด็กพ่อกับแม่เลี้ยงแกมายากลำบากขนาดไหนไม่เห็นแกจะอยากตอบแทนเลยพอๆ ไม่ต้องมาพูด”
“พร้อมแล้วค่ะคุณไปกันเถอะค่ะ”
“เดี๋ยวสิครับแม่กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิครับ..แม่..พ่ออย่าเพิ่งไป”
“อย่าไปฟังเสียงนกเสียงกาเลยเราไปกันดีกว่า…”
เมื่อพูดจบสุเมธและทัศนีย์ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของจอมทัพก็เดินควงแขนกันออกจากบ้านไปอย่างอารมณ์ดี ทั้งสองมั่นใจว่าถึงแม้ตอนนี้ลูกชายของเขาและเธอจะค้านหัวชนฝายังไงแต่เมื่อถึงเวลาที่เขาได้เจอกับว่าที่ภรรยาของเขาแล้วจะต้องหลงรักเธออย่างแน่นอน
“เฮ้อ…”
จอมทัพทิ้งตัวลงนั่งกับโซฟาตัวใหญ่ก่อนจะหลับตาลงด้วยความรู้สึกเซ็งกับชีวิตที่ถูกพ่อและแม่จับคู่ให้แต่งงานกับลูกของเพื่อนที่ได้ตกลงกันเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ทั้งสองครอบครัวยังไม่มีลูกว่าถ้าหากลูกของทั้งสองครอบครัวเกิดมาเป็นผู้หญิงและผู้ชายก็จะให้แต่งงานกันแต่ถ้าหากเป็นเพศเดียวกันก็ให้นับเป็นพี่น้องกัน
แล้วก็ดันเป็นไปตามที่ทั้งสองครอบครัวหวังเอาไว้พวกเขาได้ลูกสาวและลูกชายคำสัญญาที่ให้ไว้ในวันนั้นวันนี้กำลังจะเป็นเรื่องจริง
บ้าน เศรษฐสิริ
“แต่ว่าอรยังไม่พร้อมเลยนะคะคุณแม่.. คุณพ่อช่วยอรพูดหน่อยสิคะอรยังใช้ชีวิตไม่คุ้มเลยนะคะยังมีอะไรที่อรยังไม่ได้ทำอีกตั้งหลายอย่างแน่ะ”
“แต่งงานแล้วก็ทำได้นะลูกแถมดีซะอีกที่จะได้มีคนคอยช่วยคิดคอยดูแลพ่อกับแม่จะได้สบายใจที่เห็นลูกเป็นฝั่งเป็นฝามีครอบครัวกับเขาสักที”
“ที่แม่พูดก็ถูกนะลูก..พ่อกับแม่ก็แก่ลงทุกวันไม่รู้ว่าจะอยู่ดูแลลูกไปได้อีกนานแค่ไหนการที่ลูกแต่งงานมันคือความฝันสูงสุดของพ่อกับแม่พี่เขาก็ไม่ใช่คนไม่ดี เดี๋ยวแต่งกันไปแล้วก็รักกันเอง”
“แต่อรยังไม่เคยเจอกันเลยนะคะ ไม่เคยรู้นิสัยใจคอกันเลยจะอยู่ด้วยกันได้ยังไงคะ”
“ลุงสุเมธกับป้าทัศนีย์ เป็นคนดีขนาดนั้นต้องเลี้ยงลูกให้โตขึ้นมาเป็นคนดีได้แน่ๆ จากที่แม่เห็นมาพี่จอมเขาก็เป็นคนดีสุภาพบุรุษมากนะลูกพ่อกับแม่มองคนไม่ผิดแน่ๆ เชื่อแม่นะ”
“โธ่แม่คะ..”
“อรก็รู้ว่าแม่มีโรคประจำตัวไม่รู้จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนแม่ขอแค่เรื่องนี้ได้ไหม..เรื่องเดียวทำให้แม่ก่อนที่แม่จะเป็นอะไรไปได้ไหมลูก..”
“อย่าใช้ไม้นี้สิคะแม่พูดแบบนี้แล้วอรจะขัดใจแม่ได้ยังไง”
เมื่อได้ยินอรหรือดีลูกสาวคนสวยพูดอย่างนั้นคนเป็นแม่อย่างสิริวดีก็อ้าแขนโอบกอดเธอไว้อย่างอ่อนโยน ด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขบนใบหน้า ซึ่งแตกต่างกับอรฤดีที่ ครุ่นคิด หาทางทำให้ตัวเองรอดพ้นจากการแต่งงานที่ไม่เต็มใจครั้งนี้ไปได้
“อรก็ยังไม่มีใครนี่ลูกเรียนก็จบมาหลายปีแล้วพ่อว่าควรเป็นฝั่งเป็นฝาได้แล้วนะ”
คเชนทร์เดินมาลูบหัวลูกสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของตัวเองเบาๆ ถึงแม้สิ่งที่อรฤดีพูดนั้นจะถูก แต่สิ่งที่คนเป็นพ่อและแม่อย่างเขาสองคนเลือกให้เธอก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเหมือนกัน
ความคิด
[ คอยดูเถอะฉันจะทำให้เธอทนไม่ได้จนต้องหนีงานแต่งไปเลย ]
[ คอยดูเถอะงานแต่งงานครั้งนี้จะต้องไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ]
ทั้งสองต่างคิดออกมาพร้อมๆ กัน ก่อนจะยิ้มออกมากับภาพในหัวที่จินตนาการไว้ว่าอีกฝ่ายจะต้องขนหัวลุกกับแผนการของตัวเอง…
.
.
.
“เห้อ… บอกตรงๆ นะ ไม่รู้จะช่วยยังไงดีเลยว่ะงานนี้ คุณลุงกับคุณป้าเล่นใหญ่ซะขนาดนั้นอะไรก็หยุดไม่อยู่แล้วแหละ ”
“แล้วที่สำคัญนะชั้นยังไม่เคยเจอกับผู้ชายคนนั้นเลย ไม่รู้จักนิสัยใจคอ หน้าตาเป็นยังไงถึงคุณลุงกับคุณป้าจะเป็นคนดีก็เถอะแต่ถ้าเกิดลูกชายดันผ่าเหล่าขึ้นมาจะทำยังไงเล่า ”
อรฤดีทำหน้าสยดสยองเมื่อจินตนาการภาพของอีกคนไว้ในหัว
“นั่นสิ เวรกรรมแท้ๆ เลย เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วชั้นพาไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ที่วัดนะ วัดนี้เด็ดขออะไรไม่เคยพลาด”
กรองขวัญเพื่อนสนิทของอรฤดีพูดออกมาด้วยความเห็นใจเพื่อนสาว ถ้าเป็นเธอก็คงจิตตกเหมือนกันที่จะต้องแต่งานกับคนที่ตัวเองไม่เคยเจอมาก่อนแบบนี้
เมื่อมาถึงวัดแล้วสองสาวเพื่อนสนิทก็พนมมือพร้อมกับท่องบทสวดบูชาพระพุทธรูปที่ตั้งใจว่าเพื่อความสิริมงคลในชีวิต โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากำลัง ถูกจดจ้องอยู่ด้วยคนที่ เต็มไปด้วยความเกลียดชังและแค้นเคือง
“เพราะแกทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้อีนังผู้หญิงหน้าด้าน เกลียด..ฉันเกลียดแก”
แววตาอาฆาตมาดร้ายจากหญิงสาวใบหน้าสวยที่เธอเองก็ตั้งใจมากราบพระขอพรที่นี่เช่นเดียวกันแต่ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอกับศัตรูหัวใจผู้เป็นเจ้ากรรมนายเวรที่เธอไม่อยากจะหายใจร่วมโลกด้วยเลยสักนิด
ถึงจะไม่ใช่ความผิดของผู้หญิงตรงหน้าแต่แล้วยังไง..ในเมื่อถ้าไม่มีผู้หญิงคนนี้เรื่องวุ่นวายทั้งหมดก็คงจะไม่เกิดขึ้นคนที่จะได้แต่งงานกับจอมทัพป่านนี้ก็คงจะเป็นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
“ผมรักแต่คุณ คุณก็รู้เรื่องการแต่งงานผมไม่ได้ยินยอมแต่ถึงอย่างนั้นผมก็ขัดใจพ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ดี”
จอมทัพเอ่ยพูดพร้อมกับโอบกอดเอวบางของแฟนสาวที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดเขาด้วยความน้อยอกน้อยใจเมื่อคนรักของตัวเองกำลังจะต้องถูกทางครอบครัวคลุมถุงชนให้แต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น
“ปัดทำอะไรผิดคะถึงต้องเจอกับเรื่องแบบนี้แล้วอีกหน่อยจอมต้องใช้ชีวิตร่วมกับแม่นั่นทุกวันเดี๋ยวจอมก็คงต้องลืมปัดไป..แล้วก็หลงรักผู้หญิงคนนั้นเหมือนที่พ่อกับแม่ของคุณตั้งใจเอาไว้”
ลูกปัดแฟนสาวคนสวยของจอมทัพเธอกับเขาตกหลุมรักกันตั้งแต่เรียนอยู่ที่เมืองนอกครอบครัวของ ลูกปัดเป็นไฮโซทางเธอเองก็มีคนที่ทางครอบครัววางตัวเอาไว้อยากให้เป็นลูกเขยซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่จอมทัพแต่เป็นลูกชายของรัฐมนตรีที่มีหน้ามีตาในแวดวงสังคมเดียวกัน…ถูกต้องลูกปัดเองก็ฝืนคำสั่งพ่อแม่มาคบกับจอมทัพเช่นกันเดียวกันเธอเลือกที่จะทำตามหัวใจของตัวเองจนต้องมาพบกับความเจ็บปวดอยู่เช่นนี้
“คุณเชื่อใจผมนะผมจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นเป็นฝ่ายยกเลิกการแต่งงานให้ได้หรือถ้าไม่เป็นตามที่คิดผมก็จะทำให้ผู้หญิงคนนั้นเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอหย่ากับผมให้เร็วที่สุด”
”ปัดเชื่อคุณนะคะ ปัดรักคุณค่ะ…“
เช้าวันต่อมา เมื่อแสงสว่างรอดผ่านหน้าต่างเข้ามาได้อรฤดีก็รีบตื่นมาดูแลเช็ดตัวให้คนที่ยังคงหลับอยู่ในทันที “แผลเต็มหน้าเลย คงจะเจ็บน่าดูเลยนะคะ”แหนมที่เปิดผ้าม่านชะโงกหน้ามาดูแล้วพูดออกมาด้วยความกลัว เกิดมาเพิ่มเคยเจอเรื่องแบบนี้แต่ก็ยิ่งปลื้มชายหนุ่มไปอีกเมื่อเขาพยายามปกป้องคนที่เขารักไว้โดยไม่ห่วงชีวิตของตัวเองเลย“ผมขอโทษ… ผม ผมขอโทษ” เสียงละเมอเบาๆ ดังขึ้นทั้งที่เจ้าตัวยังคงหลับอยู่ แต่คนที่เฝ้ารอการตื่นของอย่างใจจดใจจ่อนั้นกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน .. หัวใจของเธอชาวาบไปทั้งตัวมันเหมือนความกลัวและความกังวลทั้งหมดสลายหายไปเมื่อได้ยินเสียงที่ออกจากปากของเขาแม้จะยังไม่ตื่นขึ้นมาก็ตาม..“ถ้ายังมัวนอนอยู่แบบนี้ชั้นจะไม่ยกโทษให้แล้วนะ ลูกหิวจะแย่แล้วเมื่อไหร่จะตื่นมาทำกับข้าวให้ลูกกิน.. ผ้าเต็มตะกร้าแล้วใครจะซัก คนงานก็ลาใครจะรดน้ำต้นไม้มัวนอนอยู่ได้ ..” “โอ้โหคุณอร เอาจริงเหรอคะ ..” แหนมขมวดคิ้วรีบหันขวับไปมองเจ้านายตนเองในทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น อันนี้คือคุณอรให้อภัยจริงๆ แล้วใช่เปล่าหรือต้องการคนมาใช้แรงงานกันแน่ “ถ้าคุณให้อภัยผมให้ทำมากกว่านี้ผมก็ยอม” จอมทัพค่อยๆ ลืมตาขึ้
การกระทำดูแลเอาใจใส่ของเขาการเป็นกิจวัตรประจําวันที่ไม่ว่าจะเป็นเธอและเขาต่างคุ้นชินแม้ดูเหมือนจะหมางเมินอยู่บ้างเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ยังตีหน้ามึนไปเรื่อยๆ ไม่สนใจและยังมีป้าพันคอยเป็นกำลังใจสำคัญคอยช่วยเหลือทำให้ทุกอย่างดูราบรื่นไปได้ด้วยดีขึ้นทุกวันๆ แม้เขาจะยังคงได้นอนที่ห้องเก็บของหลังบ้านเหมือนเดิม … “เห้ยบ้านนี้แหละมีแต่ผู้หญิงกับคนแก่ ป่านนี้คนงานกลับไปหมดแล้วทางสะดวกเว้ย” เด็กแว้นสองคนที่ต้องการเงินคอยซุ่มดูอยู่หลายวันตั้งใจจะเข้ามาขโมยเงินหรือของมีค่าเอาไปใช้กินใช้เที่ยว หลังจากที่ดูลาดเลามานานพอสมควรวันนี้ก็ตัดสินใจลงมือ.. “แล้วถ้ามีคนขัดขืนจะให้ทำยังไงวะ” “ก็ตบให้กลิ้งไปดิ่วะ ให้มันรู้ซะบ้างแต่พวกมันคงไม่กล้าหรอกมีแต่ผู้หญิงท้องกับคนแก่นี่หว่า” “อีคนท้องเป็นเจ้าของบ้านห้องมันน่าจะมีเงินเก็บไว้ แอบเข้าไปให้เงียบๆ อย่าให้อีแก่นั่นรู้จะได้จบงานไวๆ เข้าใจไหม” “เออๆ รู้แล้วน่า มึงนั่นแหละอย่าพลั้งมือทำให้เป็นเรื่องใหญ่ก็แล้วกัน”“พูดมา! ไปได้แแล้วๆ”เมื่อตกลงกันได้ บอกแผนการกันเสร็จสรรพแจ็กและเจก็ค่อยๆ ย่องเข้าไปในบ้านและเดินเลาะไปยังห้องที่คิดว่าเป็นห้องของอรฤดี แกร่ก..
“นังแหนมรีบมาทำความสะอาดให้คุณเขาเร็ว”ป้าพันรีบบอกให้แหนมมาทำความสะอาดเมื่อชายหนุ่มรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ “นั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนะคะเดี๋ยวป้าไปเอาน้ำเย็นๆ มาให้ดื่มค่ะ” “ขอบคุณมากครับ”แหนมรีบทำความสะอาดอย่างรวดเร็วตามที่เธอถนัดป้าพันเองก็เดินเข้าบ้านไปเตรียมน้ำเตรียมของว่างมาให้ชายหนุ่มจอมทัพเดินดูในสวนไปรอบๆ บริเวณเรื่อยๆ ทอดมองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตาพร้อมกับลมเย็นๆ ที่พัดเอื่อยๆ ปะทะหน้าเขาเป็นระยะๆ มันทำให้รู้สึกเหมือนหลุดมาอีกโลกหนึ่งที่ปราศจากความวุ่นวายใดๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงเลือกมาอยู่ในที่แบบนี้ “ห้องพร้อมแล้วค่ะคุณผู้ชาย” “ขอบใจนะ” แหนมวิ่งมาบอกแล้วก็รีบวิ่งหนีไปเพราะทนมองหน้าเขานานๆ ไม่ได้มันเขินจนพูดผิดพูดถูกไปหมดดาเมจคนหล่อมันรุนแรงเกินไปสำหรับเธอเมื่อยามค่ำคืนมาถึงชายหนุ่มล้มตัวลงนอนด้วยความอิ่มอกอิ่มใจเพียงแค่ได้เห็นหน้าเธอเขาก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ยิ่งได้เห็นท้องที่นูนขึ้นมาแตกต่างจากเดิมนั้นก็ยิ่งทำให้เขาตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกต่อให้นอนกับพื้นดินเขาก็มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ลูกใกล้เมียแบบนี้ นอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้วก็หลับไปจากความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้ง
“อรเดี๋ยววันนี้พ่อแม่ว่าจะออกไปในเมืองหน่อยนะลูกน่าจะกลับดึกพักผ่อนให้มากๆ ไม่ต้องรอนะ ให้หลานแม่พักผ่อนมากๆ เข้าใจไหม”“ค่ะคุณแม่เที่ยวให้สนุกนะคะ” สิริวดีและทัศนีย์เดินมาบอกอรฤดีที่กำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงเด็กอยู่ในห้องหนังสือจริงๆ แล้วก็ต้องการเปิดโอกาสให้ทั้งสองคนได้ปรับความเข้าใจกันนั่นเอง แล้วบรรดาคนแก่ชอบเที่ยวก็พากันออกไปพร้อมกับรถตู้คู่ใจสวนกับจอมทัพที่หน้าบ้านแต่ก็ไม่ได้ทักทายอะไร ตอนนี้หัวใจเขาอยู่กับหญิงสาวที่ขโมยมันไปตั้งแต่เมื่อไหล่ก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีเขาก็เอาแต่คิดถึงเธออยู่ตลอดเวลาอย่างนี้ “เห้ยย.. จิ๊ ลืมได้ไงวะ”เขาสบถออกมาเมื่อควานมือหาชุดนอนของเมียที่ต้องเอาไว้ดมเพื่อเติมพลังชีวิตแล้วไม่เจอ ตายแน่ๆ ถ้าไม่มีชุดนอนเธอเอาไว้ดมมีหวังเขาได้อ้วกแตกกินอะไรไม่ได้อีกแน่ๆ ถึงจะดูเหมือนคนโรคจิตก็เถอะแต่มันช่วยได้จริงๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเลยแค่คิดว่าลืมเอาติดมาด้วยก็รู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมาทันที นี่มันอะไรกันวะเนี่ย… “มาหาใครเหรอคะ”แหนมรีบวิ่งออกไปรับแขกเมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าตาไม่คุ้นเดินลงจากรถมา “อรอยู่หรือเปล่า ผมมาหาอรไปบอกเธอที”“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” แหนมเ
วันต่อมา “หน้าตาสดชื่นขึ้นนะคะวันนี้ “พี่ปลาเอ่ยทักเมื่อเห็นจอมทัพเดินมานั่งที่โต๊ะอาหารด้วยใบหน้าแจ่มใสกว่าทุกวัน “พี่ปลาๆ ผมเดินในสวนเห็นต้นไม้หลังบ้านตรงนั้นมีลูกเต็มเลยผมอยากลองชิมครับ” ไม่รู้หรอกว่าต้นอะไรแต่เห็นลูกของมันแล้วก็รู้สึกน้ำลายไหลขึ้นมาซะอย่างนั้น“หูยยยย คุณจอมทานไม่ได้หรอกค่ะ มันเปรี้ยวววเข็ดฟันเลยนะคะ เดี๋ยวพี่ปลาไปหาดูผลไม้อย่างอื่นมาให้ดีกว่าค่ะ “มันคือมะยมไม่รู้เกิดมาเขาจะเคยกินไหมและก็คิดว่าคนอย่างเขาน่าจะไม่ชอบแน่นอน มะยมเนี่ยนะ เห็นปกติทานแต่ผลไม้นำเข้า กับเหล้ากับเบียร์ นี่จะมาอารมณ์ไหนกันแน่ นับวันเจ้านายของเธอยิ่งเพี้ยนขึ้นทุกที เมียทิ้งนี่ทำให้คนเสียสูญไปได้ไม่น้อยเลยนะะเพิ่งเคยเจอก็วันนี้แหละ “ทานมื้อเช้าก่อนนะคะ ข้าวต้มปลากระพงค่ะ เดี๋ยวพี่ปลาไปเอาผลไม้มาให้นะคะ” จอมทัพยื่นหน้าไปดมกลิ่นข้าวต้มแล้วก็รู้สึกจะอ้วกขึ้นมาทันทีแล้วก็คิดขึ้นมาได้..รีบหยิบชุดนอนของอรฤดีขึ้นมาดมอาการคลื่นไส้ก็ทุเลาลงแล้วตักข้าวต้มเข้าปาก จะอ้วกอีกก็ทำแบบเดิมอยู่อย่างนั้นจนพี่ปลาที่ถือจานสตอเบอร์รี่มาเห็นชะงักไปอีกที.. ไม่ปกติ เจ้านายของเขาไม่ปกติแล้ว..“มาแล้วค่ะ ผลไม้
“พ่อกับแม่ล่ะครับพี่ปลา” จอมทัพเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในบ้านแล้วก็มีเพียงความเงียบงันไร้ซึ่งเสียงของแม่เขาที่มักจะดังลงมาถึงชั้นล่างเวลาที่ดูรายการตลกชื่อดังช่องหนึ่ง “คุณๆ ทั้งสองไม่อยู่บ้านค่ะ แต่ไม่ได้แจ้งไว้ว่าจะไปที่ไหนค่ะกลับเมื่อไหร่ค่ะ” ชายหนุ่มกวาดสายตามองบ้านที่ว่างเปล่าและเงียบเหงานี้ด้วยหัวใจที่มันห่อเหี่ยวเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป ก่อนจะเดินขึ้นห้องของตัวเองบนชั้นสอง ความเหงาและความว่างเปล่าที่มันรู้สึกได้ว่าไม่เหลือใครสักคนเลยจริงๆ โดยเฉพาะสายตาของพ่อเขาที่แม้ปกติจะไม่ค่อยพูดอะไรมากมายและเป็นคนตลกใจดีแต่ตอนนี้สายตาของพ่อเขาที่มองมามันช่างเย็นชาเหลือเกิน ยิ่งแม่เขาที่เสียน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจนี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำให้แม่ร้องไห้ออกมาแบบนั้นมันคือคำตอบว่าเขาเป็นคนที่เลว เป็นคนที่ใช้ไม่ได้เอาเสียเลย เมื่อเปิดโทรศัพท์มือถือก็เจอรูปของลูกปัดคนที่เราเคยรักและตั้งใจจะใช้ชีวิตร่วมกับเธอไปจนวันสุดท้าย…แต่เธอกลับโกหกหลอกลวงเขาตลอดเวลา คำพูดที่แสนหวานของเธอมันไม่มีคำไหนที่เป็นเรื่องจริงเลย.. สาเหตุที่ครอบครัวของเธอไม่ค่อยจะชอบลูกปัดสักเท่าไหร่นักนั่นก็เพราะว่าเรื่องเมื่อหล
ความคิดเห็น