เรื่องราวความรักระหว่าง คัตสึยะ ไฮยาโตะ ที่ตกหลุมรัก ชิซากิ ฮิโยริ ตั้งแต่แรกพบใต้ต้นซากุระหน้าโรงเรียนในยามเย็นระหว่างกลับบ้าน การได้รู้จักกันและได้อยู่ด้วยกันมากขึ้น ทำให้ชิซากิ ฮิโยริก็เริ่มตกหลุมรักคัตซึยะเหมือนกัน เรื่องราวความรักที่อบอุ่นหัวใจจึงได้เริ่มขึ้น
View Moreความรักคืออะไร...
ลมเย็นพัดผ่าน พร้อมกลีบดอกซากุระที่ปลิวล่องไปกับแสงอาทิตย์อ่อน บรรยากาศยามเย็นอบอุ่นอย่างประหลาด — อบอุ่นจนเหมือนฤดูใบไม้ผลิกำลังโอบกอดใจผมไว้
ผมกำลังจะเดินออกจากโรงเรียนเพื่อกลับบ้าน แต่สายตากลับหยุดนิ่ง
ผมสีชมพูหม่นของเธอสั่นไหวตามแรงลม ดวงตาสีม่วงเข้มดูสงบ เยือกเย็น และ...อบอุ่น
ผมหยุดยืน มองเธออยู่อย่างนั้น
เธอหันมามองตรงมา
...และเธอยิ้ม
รอยยิ้มบางเบาที่ทำให้โลกทั้งใบหยุดหมุนในพริบตา
วันที่สองของการเปิดภาคเรียน
แสงแดดยามเช้าส่องลอดกระจกเข้ามาตามโถงทางเดิน ผมเดินไปตามทางอย่างง่วง ๆ ราวกับคนนอนไม่พอ ก่อนจะรู้สึกเจ็บแปลบเบา ๆ ที่ไหล่
“ไง คัตสึยะ วันนี้ดูสดใสดีนะ!”
คิยามะ ไคโตะ เพื่อนสนิทของผมโผล่มาพร้อมรอยยิ้มกวน ๆ
“วันนี้นายเป็นพระอาทิตย์เหรอ?” ผมแกล้งเหน็บเบา ๆ
“แน่นอนสิ เพื่อนอย่างฉันน่ะ ส่องแสงอยู่ตลอดเวลานะเฟ้ย!” เขาหัวเราะ
ผมส่ายหน้าอย่างระอา ก่อนที่เราทั้งคู่จะเดินเข้าห้องเรียนไปพร้อมกัน
ปี 1 ห้อง D — ห้องที่ว่ากันว่า “ป่วนที่สุดในรุ่น”
ผมนั่งอยู่ริมหน้าต่าง แถวกลางของห้อง จ้องมองออกไปที่ต้นซากุระต้นเดิม
จู่ ๆ เสียงฮือฮาในห้องก็ดังขึ้นรอบตัว
...เธอกำลังเดินผ่านหน้าห้องของผม
เรียบร้อย สง่างาม ราวกับนางฟ้าในฤดูใบไม้ผลิ
“เธอคนนั้นไง ชิซากิ ฮิโตมิ ตัวท็อปของห้อง A เลยนะ ทั้งสวยและฉลาด โคตรจะสมบูรณ์แบบ!”
ผมไม่ได้ตอบอะไร
“เฮ้ย! นายเนี่ยนะ ทำลายความสุขของฉันจริง ๆ” ผมหันไปแซวเพื่อน พลางถอนหายใจ
คิยามะทำหน้างง ก่อนที่ผมจะหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ
ช่วงเย็น
ผมเดินกลับบ้านตามปกติ แต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นบางอย่าง...
และคนที่อยู่ตรงกลางคือ...เธอ
ผมรู้สึกหนักในอก ก้าวขาไม่ออก
ผมรีบวิ่งเข้าไป คว้าข้อมือเธอเบา ๆ แล้วดึงเธอออกมาช้า ๆ
ผมกวาดตามองไปรอบ ๆ เหมือนเป็นคำเตือน — โชคดีที่อีกฝ่ายยอมถอยออกไปโดยไม่มีเรื่อง
ผมหันไปมองเธอ
“คือว่า...ขอบคุณนะ”
น้ำเสียงของเธออ่อนหวาน เหมือนจะละลายหัวใจผมได้ทันที
แต่ทันใดนั้น...เธอกลับดึงแขนเสื้อผมไว้
“เดี๋ยวก่อน คือว่า...นายชอบกินเค้กไหม?”
ผมหยุดกึก มองเธออย่างงง ๆ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ
“งั้น… ให้ฉันเลี้ยงเค้กตอบแทนวันนี้ได้ไหม?”
หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง
เพียงแค่เห็นรอยยิ้มนั้นอีกครั้ง…
ตั้งแต่วันนั้น วันที่เธอเลือกเดินกลับบ้านกับผม เราก็เริ่มใช้เวลาร่วมกันมากขึ้นไม่ใช่แบบคนรัก... แต่ก็ไม่ใช่แค่คนรู้จักธรรมดาเป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่หัวใจเริ่มเต้นแรง โดยที่ไม่ต้องเอื้อนเอ่ยคำใดหลังจากวันนั้น กลุ่มของพวกเราก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น มีผม — คัตสึยะ, ชิซากิ, โคโมริ, คิยามะ และเพื่อนสนิทของชิซากิคนหนึ่งชื่อว่า ชิโนโมริ เร็นกะเร็นกะเป็นผู้หญิงที่ร่าเริง สดใส และพูดเก่งจนบางครั้งก็เอาชนะการเถียงของคิยามะได้อย่างง่ายดาย เธอมีผมยาวสีน้ำตาลทองอ่อนและดวงตาสีฟ้าใส ดูคล้ายตุ๊กตาที่มีชีวิตและทันทีที่เธอแนะนำตัวกับคิยามะในวันแรก... “ฉันชื่อเร็นกะ ชิโนโมริ เรียกเร็นก็ได้~” คิยามะก็ยืนค้างเหมือนโลกหยุดหมุนอยู่สามวินาที ก่อนจะหันมากระซิบผมว่า “ฉันว่าฉันชอบเธอแล้วว่ะ…”ผมกลั้นหัวเราะไม่ไหว ส่วนชิซากิที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็แอบยิ้มบาง ๆ เหมือนจะรู้ทันว่าเกิดอะไรขึ้นสายตาของผมหันไปเห็นโคโมริที่ดูเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจ แต่ผมก็ไม่ได้ถามออกไปพักเที่ยงของแต่ละวัน กลายเป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นที่สุดของพ
ช่วงสายของวันจันทร์ อากาศอบอ้าวเล็กน้อยราวกับเตือนให้หัวใจคนบางคนไม่อยู่ในจุดเดิมอีกต่อไปผมนั่งอยู่ริมหน้าต่างประจำตำแหน่ง แต่อารมณ์วันนี้กลับไม่สงบเหมือนเคย ภาพในหัวมีแต่ใบหน้าของชิซากิ...กับแววตาเยือกเย็นของผู้ชายคนนั้นโคโมริ เซนช่วงพักกลางวัน ผมเดินผ่านโถงอาคารหลัก เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นจากอีกฟากของทางเดินสายตาผมเผลอมองไป และต้องหยุดชะงักเธอ...ชิซากิ กำลังยืนคุยกับโคโมริอยู่ตรงมุมบอร์ดประชาสัมพันธ์ของนักเรียน ทั้งคู่ถือแฟ้มคนละเล่ม และดูเหมือนกำลังหารืออะไรบางอย่างอย่างตั้งใจเธอหัวเราะกับประโยคบางอย่างที่โคโมริพูด เขาหัวเราะตาม แต่ยังคงแววตาเฉียบคมและสงบนิ่งแบบคนที่มีความมั่นใจทั้งคู่เหมือนภาพที่ลงตัว…"เหมาะสมกันมากจริง ๆ" ผมคิดในใจโดยไม่รู้ตัวทันใดนั้น หัวใจของผมเหมือนโดนบีบ ไม่ใช่เพราะโกรธ ไม่ใช่เพราะหึง แต่เป็นเพราะความรู้สึกที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในเงามืดของความรักความรู้สึกว่า...เธออยู่ไกลเกินไปสำหรับคนอย่างผมผมเดินหลบออกจากตรงนั้น เงียบ ๆ ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนดาดฟ้าตามลำพังอีกครั้ง"ฉันไม่ใช่คนดีหรอกนะ" "ไม่ได้ฉลาด ไม่ได้เก่งอะไรเหมือนโคโมริคุง"ผมพึมพำกับต
วันหยุดสุดสัปดาห์มาถึงเร็วกว่าที่คิดแสงแดดอุ่นส่องลอดผ่านหน้าต่างห้องนั่งเล่น เสียงนกร้องจางๆ ข้างนอกเหมือนกล่อมให้บรรยากาศผ่อนคลายกว่าทุกวันผมนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่เงียบๆ จู่ๆ ข้อความในมือถือก็ดังขึ้น"วันนี้ว่างไหม ไปเดินเล่นด้วยกันได้รึป่าว?" – ชิซากิจังหัวใจผมเต้นแรงโดยอัตโนมัติแม้จะตอบอย่างมีมาดว่า “ก็พอว่างอยู่นะ”แต่ในใจนั้นลิงโลดไปหมดสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเมืองกลีบซากุระร่วงลงบนพื้นหญ้าราวกับสร้างพรมสีชมพูอ่อนเธอใส่เสื้อคลุมบางสีขาวและกระโปรงพริ้วสีพีช เดินตรงมาหาผมพร้อมรอยยิ้มที่คุ้นเคย“ขอโทษที่ให้รอนะ”“ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็เพิ่งมาเอง”เราสองคนเดินเคียงข้างกัน บางช่วงก็เงียบ แต่ไม่รู้ทำไมความเงียบแบบนี้ถึงไม่อึดอัดเลยระหว่างที่เดิน เธอหยุดมองร้านเค้กเล็ก ๆ ที่อยู่ข้างทาง แล้วพูดขึ้นเบา ๆ“ตอนที่โคโมริคุงพามาที่นี่...ฉันนึกถึงนายขึ้นมาทันทีเลยล่ะ”เธอยิ้มให้ ผมหันไปมองเธออย่างช้าๆ“เพราะว่านายชอบดาร์กช็อกโกแลตไม่ใช่เหรอ?”ผมพยักหน้าช้า ๆใจหนึ่งดีใจ...แต่ก็อดรู้สึกตึงในอกไม่ได้เมื่อได้ยินชื่อของเขาอีกครั้งเราแวะนั่งที่ม้านั่งใต้ต้นไม้เธอยื่นขนมเค้กที่ซื้อมาให้ผมชิ
ร้านค้าภายในโรงเรียนช่วงเที่ยงแน่นขนัดไปด้วยนักเรียนที่เบียดเสียดกันเลือกซื้อของกิน ผมฝ่าฝูงชนเข้าไปอย่างยากลำบาก สุดท้ายก็ได้ขนมปังเมล่อนกับนมกล่องมาจนได้ขณะที่กำลังจะหันหลังกลับ สายตากลับไปสะดุดเข้ากับขนมปังครีมสตรอเบอร์รี่ในมุมวางขาย ไม่รู้ทำไม...แต่ภาพของเธอก็ผุดขึ้นมาในหัวโดยอัตโนมัติผมลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือหยิบมันเพิ่มใส่ถุงไปอีกชิ้นผมขึ้นมาบนดาดฟ้าโรงเรียน อากาศเย็นสบาย ลมพัดเอื่อย ๆ ราวกับฤดูใบไม้ผลิกำลังโอบกอดโลกทั้งใบผมนั่งลงบนพื้นคุ้นเคย หยิบขนมปังเมล่อนมากินพลางดื่มนมกล่องเงียบ ๆ จนเสียงเปิดประตูดาดฟ้าดังขึ้น ผมหันไปมอง...เธอเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม“อยู่บนนี้จริง ๆ ด้วย” เสียงใสของเธอทำให้หัวใจผมกระตุกเล็กน้อยเธอเดินมานั่งข้าง ๆ เว้นระยะพอสมควร กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสบู่ลอยมาแตะจมูก เป็นกลิ่นนมบลูเบอร์รี่ที่คนทั่วไปก็น่าจะใช้กัน แต่กับเธอ...มันกลับเข้ากันอย่างน่าประหลาด“ชิซากิจังมาหาผม มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?” ผมถามขณะหันไปสบตากับเธอ ดวงตาสีม่วงคู่นั้นยังคงงดงามไม่เปลี่ยนเธอนั่งพิงกำแพงแล้วเอนตัวเล็กน้อยเหมือนกำลังผ่อนคลาย“แค่อยากมาหาเฉย ๆ น่ะ…เพรา
ร้านเค้กเล็ก ๆ ตกแต่งด้วยโทนสีพาสเทล บรรยากาศสบาย ๆ รายล้อมด้วยกลิ่นหอมของเค้กที่ลอยอบอวลไปทั่วร้าน เธอเดินนำผมเข้าไปนั่งที่มุมหนึ่งของร้านอย่างเงียบ ๆแม้จะไม่มีบทสนทนาในตอนแรก แต่ความเงียบกลับไม่ได้น่าอึดอัดเลย... มันกลับอบอุ่นอย่างน่าประหลาด“นายน่ะ...ชื่ออะไรเหรอ?” คำถามนั้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว ผมเงอะงะเล็กน้อยก่อนจะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามเก็บอาการ“คัตสึยะ... ไฮตาโตะ ปี 1 ห้อง D”ผมเหลือบตามองเธอ หวังว่าเธอจะไม่กลัวหรือรู้สึกอึดอัดที่มานั่งกับคนแปลกหน้า แต่เธอกลับหัวเราะออกมาเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มสดใส“ห้อง D ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คนอื่นพูดกันเลยนะ”หัวใจผมเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และท่าทีอ่อนโยนของเธอ... ทำให้ผมหลงรักเธอซ้ำแล้วซ้ำอีกบนโต๊ะ มีเค้กสองชิ้นวางอยู่ ของเธอเป็นบลูเบอร์รี่ชีสเค้ก ส่วนของผมเป็นดาร์กช็อกโกแลตที่เข้มข้นแม้จะมีของโปรดอยู่ตรงหน้า แต่ผมกลับละสายตาไปจากเธอไม่ได้เธอมักจะเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาก่อนเสมอ และผม...ก็เอาแต่ฟังเธออย่างเงียบ ๆ ด้วยหัวใจที่ค่อย ๆ เปิดรับ“คัตสึยะคุง เท่มากเลยนะ ทำยังไงถึงจะเท่แบบนั้นได้บ้างเหรอ?”เธอพูดพร้อมกับร
ความรักคืออะไร... ผมถามกับตัวเองอยู่ทุกวัน ไม่เคยตกหลุมรักใครมาก่อน ไม่เคยรู้สึกว่าแค่สบตาก็ทำให้หัวใจเต้นแรง ...จนกระทั่ง เย็นวันเปิดภาคเรียนฤดูใบไม้ผลิวันแรกลมเย็นพัดผ่าน พร้อมกลีบดอกซากุระที่ปลิวล่องไปกับแสงอาทิตย์อ่อน บรรยากาศยามเย็นอบอุ่นอย่างประหลาด — อบอุ่นจนเหมือนฤดูใบไม้ผลิกำลังโอบกอดใจผมไว้ผมกำลังจะเดินออกจากโรงเรียนเพื่อกลับบ้าน แต่สายตากลับหยุดนิ่ง ใต้ต้นซากุระต้นใหญ่ของโรงเรียน... เธอยืนอยู่ตรงนั้นผมสีชมพูหม่นของเธอสั่นไหวตามแรงลม ดวงตาสีม่วงเข้มดูสงบ เยือกเย็น และ...อบอุ่น มันช่างเข้ากันจนเหมือนหลุดออกมาจากภาพวาดผมหยุดยืน มองเธออยู่อย่างนั้น แล้วลมก็พัดมาอีกครั้ง—เบา ๆ พอจะปลุกหัวใจให้ตื่นขึ้นเธอหันมามองตรงมา เราสบตากัน...และเธอยิ้มรอยยิ้มบางเบาที่ทำให้โลกทั้งใบหยุดหมุนในพริบตา ผมยืนนิ่ง ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำใด เธอก็หมุนตัวเดินจากไป กลีบดอกไม้ปลิวตามหลังเธอไปอย่างช้า ๆ ...นี่สินะ ความรู้สึกของการตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบวันที่สองของการเปิดภาคเรียนแสงแดดยามเช้าส่องลอดกระจกเข้ามาตามโถงทางเดิน ผมเดินไปตามทางอย่างง่วง ๆ ราวกับคนนอนไม่พอ ก่อนจะรู้สึกเจ็บแปลบเบ
Comments