Share

4.สาวปากไว

last update Dernière mise à jour: 2025-06-14 00:11:46

“ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้ซุ่มซ่าม มาทำให้ฉันต้องอายและเจ็บตัวทำไมล่ะ”

มารศรีไหวไหล่เอ่ยตอบอย่างไม่สนใจแววตาแสดงอารมณ์ของคู่กรณี หล่อนเก็บธนบัตรในมือยัดใส่กระเป๋าก่อนจะหยิบเหรียญบาทออกมาแทนแล้วยื่นส่งให้กับแม่ค้าขนม

“ผู้หญิงอะไร...หน้าเลือดชะมัด” เขาบ่นอุบแต่ไม่คิดเรียกร้องเอาเงินทอนคืนได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ แล้วเดินตรงไปที่ท่าเรือ เลิกใส่ใจคู่กรณีซึ่งเดินตามหลังเขามาห่าง ๆ

มารศรีแบะริมฝีปากใส่แผ่นหลังของชายตัวโตที่ก้าวนำหน้า หล่อนเดินตามไปห่าง ๆ เห็นอีกฝ่ายลงไปในเรือและเดินลึกเข้าไปมองหาที่นั่งชั้นล่างตรงบริเวณหัวเรือ

“ดีนะที่นั่งคนละชั้น...จะได้ไม่ต้องเห็นหน้าให้เสียอารมณ์ไปตลอดทาง” หล่อนบ่นพึมพำขณะก้าวลงเรือและปีนขึ้นไปยังชั้นสองสลัดภาพใบหน้าชายหนวดครึ้มคนนั้นออกจากหัว

พื้นที่บนเรือที่ค่อนข้างว่างเมื่อตอนออกจากท่าเรือผักไห่หลังสิ้นเสียงระฆังที่แขวนอยู่ตรงหัวเรือเป็นสัญญาณเตือนว่าเรือกำลังจะแล่นออกจากท่า ทุกพื้นที่เคยว่างกลับเต็มไปด้วยผู้โดยสารที่ขึ้นมาจากท่าเรือบ้านแพนและเรือค่อย ๆ แล่นฝ่ากระแสน้ำออกจากท่า มุ่งหน้าสู่บางกอกอย่างเชื่องช้า เสียงเครื่องยนต์ดังแข่งกับเสียงพูดคุยในหมู่คนโดยสารที่ค่อย ๆ เงียบลงเมื่อเรือแล่นออกจากท่ามาพักใหญ่นาน ๆ จึงจะมีเสียงขยับตัวเปลี่ยนท่านั่งสลับเสียงไอจามหรือเสียงหยิบข้าวของเป็นครั้งคราว

“เรือบื๋อ” ที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากเป็นเรือลักษณะหัวแหลมท้ายตัดติดเครื่องยนต์ท้ายเรือ แล่นฉิวออกจากคลองลาดชะโดสู่แม่น้ำน้อยกำลังจะมุ่งหน้าสู่ท่าเรือบ้านแพนโดยมีชายร่างท้วม ตัวกลมราวกระปุกตั้งฉ่ายชื่อว่านายแอ๊ะเป็นคนขับเรือให้กับอดีตผู้ใหญ่บ้านตำบลจักราชที่นั่งหน้าง้ำอยู่ในเรือลำเดียวกัน

“ป่านนี้เรือเมล์คงถึงท่าบ้านแพนแล้ว เอ็งรีบตามไปให้ไวเลยนะไอ้แอ๊ะ” อารมณ์ขุ่นมัวทำให้กุศล อดีตผู้ใหญ่บ้านตำบลจักราชแห่งคุ้งลาดชะโดออกคำสั่งเสียงห้วน

“จ้ะลุง” คนขับเรือขานรับแข่งเสียงลมและเสียงเครื่องยนต์ขับเรือเร็วแล่นกระโดดล้อผิวน้ำเร็วฉิว มุ่งหน้าสู่ท่าเรือบ้านแพน

กุศล ผลบุญบิดาของมารศรีกำลังหงุดหงิดกับการไล่กวดเรือรุ่งเรืองรัศมีตามบุตรสาวที่หนีเข้าบางกอกไปกับเรือเมล์ลำนี้ อดีตผู้ใหญ่บ้านหนองน้ำใหญ่นึกคาดโทษบุตรสาวในใจขณะทอดสายตามองไกลอย่างคาดหวังว่าจะได้เห็นท้ายเรือเมล์ใหญ่แล่นอยู่ข้างหน้าในเวลาอันใกล้กระทั่งเรือเร็วแล่นเข้าใกล้ท่าเรือบ้านแพน เจ้าแอ๊ะลดระดับความเร็วเรือลงเตรียมเข้าจอดเทียบท่า

กุศลถอนหายใจแรงระบายความหงุดหงิดเมื่อมั่นใจว่าเรือเมล์รุ่งเรืองรัศมีออกจากท่าเรือบ้านแพนไปแล้ว

“เรือออกจากท่าไปแล้วจ้ะลุงศลทำยังไงกันต่อดีจ๊ะ” แอ๊ะร้องถามนายจ้าง

“ไหน ๆ ก็มาถึงบ้านแพนแล้วข้าจะแวะไปหาไอ้กำนันเปลวมันสักหน่อย ส่วนนังศรีกับนังจืดเอาไว้มันสองคนกลับมาเมื่อไหร่ ข้าจะชำระความพวกมันให้หนักทีเดียว”

คนสนิทของกุศลทำตามคำสั่งนายจ้าง นำเรือแล่นเลยท่าเรือไปตามซอยคดเคี้ยว ลึกเข้าไปจนถึงท่าน้ำบ้านกำนันเปลวเพื่อนรักของกุศล

“เดี๋ยวข้าจะไปกินเหล้ากับไอ้กำนันเปลวมันสักหน่อย เอ็งไปรอข้าที่บ้านพักยายไฝก่อนก็ได้ไอ้แอ๊ะ”

คนเป็นนายเอ่ยก่อนจะก้าวขึ้นไปยืนบนท่าน้ำ คิดว่าลูกน้องจะเข้าใจคำสั่งตน แต่ที่ไหนได้ นายแอ๊ะซึ่งถนัดนักเรื่องการฟังไม่ได้ศัพท์กลับเข้าใจผิด ได้ยินเพี้ยนไปว่านายจ้างให้กลับไปรอที่ผักไห่แทนบ้านพักยายไฝแม่ครัวฝีมือดีแห่งบ้านกำนันเปลวอย่างที่ควรเป็น

“จ้ะลุง”

หนุ่มตัวอวบขานรับเหมือนเข้าใจคำสั่งแต่กลับกลายเป็นว่า นายแอ๊ะได้ยินว่านายจ้างไล่ให้ตนนำเรือกลับไปรอที่บ้านผักไห่ เรือบื๋อจึงหันหัวออกจากท่าน้ำหน้าบ้านกำนันเปลวแล่นฉิวกลับไปตามเส้นทางเดิมที่มาอย่างรวดเร็วจนคนเป็นนายร้องตะโกนเรียกไว้ไม่ทัน

“เฮ้ย! ไอ้แอ๊ะไอ้แอ๊ะ!! ไอ้เวรตะไลเอ๊ย...จะไปไหนของมึงวะ ไอ้แอ๊ะ!!!” กุศลร้องตะโกนสุดเสียง ร้องเรียกคนสนิทตะเบ็งคอแทบแตกแข่งกับเสียงเครื่องยนต์เรืออย่างไรเจ้าแอ๊ะก็ไม่ได้ยิน

“อ้าวเฮ้ยไอ้ศล โวยวายอะไรอยู่วะ” กำนันคนดังแห่งบ้านแพนร้องตะโกนทักทายพลางเอ่ยถามเพื่อนรักเสียงดังมาแต่ไกล “แล้วไปยังไงมายังไงถึงได้มาตะโกนเอะอะอยู่หน้าบ้านข้าวะ”

กุศลหมุนตัวหันหลังกลับมามองหน้าเพื่อนที่กำลังเดินมาหาพลางเอ่ยตอบเสียงหงุดหงิด

“ผ่านมาเลยถือโอกาสแวะมาเยี่ยมเยียนเอ็งนะสิวะ”

“ผ่านมา? เอ็งมาทำธุระอะไรแถวนี้ฮะเพื่อน”

หนุ่มใหญ่รูปร่างบึกบึนอย่างกำนันเปลวเดินเข้ามายืนใกล้เพื่อนรักและรอฟังคำตอบ

“ความจริงข้ามาบ้านแพนเพราะจะมาตามนังมารศรีกลับบ้าน มันหนีไปบางกอกกับเรือเมล์รุ่งเรืองรัศมีพร้อมคนสนิทของมันนะสิ”

“เฮ้ย!นังหนูมารศรีนะเหรอหนีออกจากบ้าน” กำนันเปลวทำตาโต

“มันไม่ได้หนีออกจากบ้านแต่มันขัดคำสั่งข้า หนีไปดูยี่เกที่บางกอกต่างหาก”

“อ้อ...” กำนันเปลวพยักหน้าหงึก คลายอาการตกใจพลางเอ่ยคาดคะเนตามประสาคนคุ้นชินการเดินทางกับเรือเมล์ “ป่านนี้เรือลำนั้นคงแล่นเลยคุ้งสำเภาไปแล้วละมั้ง ออกไปตั้งนานแล้วนิ”

“ข้ามาไม่ทันเรือแต่มาถึงที่นี่แล้วก็เลยคิดจะแวะมาก๊งเหล้ากับเอ็งให้คลายอารมณ์โมโหลูกเสียหน่อยนะสิวะ”

“เหมาะทีเดียว ข้าก็กำลังหงุดหงิดกับเรื่องไอ้ลูกชายตัวแสบอยู่เหมือนกัน เอ็งกับข้ามันหัวอกเดียวกันแท้ ๆ สิวะเพื่อน”

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • คุ้งเสน่หา   5.กำนันกับผู้ใหญ่

    กำนันเปลวระบายลมหายใจแรงเมื่อนึกถึงบุตรชายคนโตที่เพิ่งเดินทางกลับเข้าบางกอกเช่นเดียวกัน“นี่ข้าไม่ได้เจอลูกชายเอ็งมากี่สิบปีแล้ววะไอ้เปลว ไปเรียนในบางกอกเสียงนานนมจนข้าแทบจะจำหน้าหลานชายไม่ได้อยู่แล้ว”“เกือบยี่สิบปีละมัง ตั้งแต่เจ้าอุ่นมันจบป.๔ แล้วไปเรียนต่อกระทั่งจบมาเป็นตำรวจก็ไม่ยอมกลับบ้าน รับใช้ทางการอยู่ที่บางกอกนั่นแหละ” กำนันเปลวเอ่ย“จริงสิ เจ้าอุ่นมันเรียนจบตำรวจนี่นะ” กุศลเอ่ยถึงหลานชายด้วยความเอ็นดู“เออ...เป็นตำรวจ ไม่ค่อยอยู่บ้านอยู่ช่องหรอก บางทีหายไปเป็นเดือน ๆ ไม่ติดต่อกลับบ้าน เพราะมัวแต่ไปสืบความลับให้ทางการเขา ทำเอาแม่เย็นจิตแม่เขากลุ้มใจ เป็นห่วงลูกแทบไม่ได้กินไม่ได้นอนนอนเลยทีเดียว” พ่อกำนันเอ่ยระบายความหนักใจให้เพื่อนฟัง“มีเมียหรือยังละลูกชายเอ็งนะ” กุศลซักด้วยความสนใจ“ยังนะสิ แม่เย็นจิตก็พยายามมองหาสาว ๆ ให้ลูกอยู่เหมือนกันแต่ไอ้คนของเรามันไม่เล่นด้วย ชอบทำหน้าตาขึงขังข่มขู่เขาร่ำไปเลยยังไม่มีเมียเสียที ไม่ได้เลือดพ่อมันเอาเสียเลย” กำนันเปลวส่ายหน้าเบา ๆ เมื่อเอ่ยถึงลูกชายเสียงเอือม“เจ้าอุ่นมันคงเบื่อผู้หญิงละมั้ง”กุศลเอ่ยยิ้ม ๆ นึกถึงหลานชายที่โตมากับครอ

  • คุ้งเสน่หา   4.สาวปากไว

    “ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้ซุ่มซ่าม มาทำให้ฉันต้องอายและเจ็บตัวทำไมล่ะ”มารศรีไหวไหล่เอ่ยตอบอย่างไม่สนใจแววตาแสดงอารมณ์ของคู่กรณี หล่อนเก็บธนบัตรในมือยัดใส่กระเป๋าก่อนจะหยิบเหรียญบาทออกมาแทนแล้วยื่นส่งให้กับแม่ค้าขนม“ผู้หญิงอะไร...หน้าเลือดชะมัด” เขาบ่นอุบแต่ไม่คิดเรียกร้องเอาเงินทอนคืนได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ แล้วเดินตรงไปที่ท่าเรือ เลิกใส่ใจคู่กรณีซึ่งเดินตามหลังเขามาห่าง ๆมารศรีแบะริมฝีปากใส่แผ่นหลังของชายตัวโตที่ก้าวนำหน้า หล่อนเดินตามไปห่าง ๆ เห็นอีกฝ่ายลงไปในเรือและเดินลึกเข้าไปมองหาที่นั่งชั้นล่างตรงบริเวณหัวเรือ“ดีนะที่นั่งคนละชั้น...จะได้ไม่ต้องเห็นหน้าให้เสียอารมณ์ไปตลอดทาง” หล่อนบ่นพึมพำขณะก้าวลงเรือและปีนขึ้นไปยังชั้นสองสลัดภาพใบหน้าชายหนวดครึ้มคนนั้นออกจากหัวพื้นที่บนเรือที่ค่อนข้างว่างเมื่อตอนออกจากท่าเรือผักไห่หลังสิ้นเสียงระฆังที่แขวนอยู่ตรงหัวเรือเป็นสัญญาณเตือนว่าเรือกำลังจะแล่นออกจากท่า ทุกพื้นที่เคยว่างกลับเต็มไปด้วยผู้โดยสารที่ขึ้นมาจากท่าเรือบ้านแพนและเรือค่อย ๆ แล่นฝ่ากระแสน้ำออกจากท่า มุ่งหน้าสู่บางกอกอย่างเชื่องช้า เสียงเครื่องยนต์ดังแข่งกับเสียงพูดคุยในหมู่คนโดยสารท

  • คุ้งเสน่หา   3.สะดุดรัก

    “น้องศรีจะไปไหน” จืดเงยหน้าขึ้นมองสาวรุ่นน้อง เอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย “ฉันจะลงไปซื้อขนมมาตุนไว้กินเสียหน่อย เมื่อตะกี้ตอนอยู่ผักไห่มัวแต่กังวลเรื่องไอ้พี่แอ๊ะจนลืมซื้อเลย” มารศรีเอี้ยวหน้าหันไปตอบ “เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้เองก็ได้ น้องศรีอยากกินอะไรล่ะ” จืดกุลีกุจอจะลุกขึ้นหวังจะบริการลูกสาวนายจ้าง “ไม่ต้อง พี่นั่งรอตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันลงไปเลือกซื้อเอง”มารศรีปฏิเสธแล้วเดินลงบันไดไปยังชั้นล่างช้า ๆ กวาดตามองบนท่าน้ำซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดบ้านแพนผู้คนจำนวนมากกำลังซื้อหาจับจ่ายสินค้ากันอย่างคึกคักสมกับเป็นท่าเรือใหญ่ เรือแจวพายเอื่อยผ่านหางตาหล่อนแล่นเข้าไปตามตรอกซอกซอยในขณะที่เรือหางติดเครื่องแล่นปรู๊ดปร๊าดรับส่งผู้โดยสารกันขวักไขว่ ลูกสาวอดีตผู้ใหญ่บ้านก้าวขึ้นไปบนท่าและเดินตรงดิ่งเข้าหาขนมแผ่นบางบนเตาที่แม่ค้าสาวกำลังละเลงแป้งเป็นวงดูน่ากิน“พี่สาวจ๊ะ เอาขนมเบื้องให้ฉันสามแผ่นสิจ๊ะ”มารศรีสั่งพลางล้วงเหรียญบาทออกจากกระเป๋ากางเกงยืนรอแม่ค้าใส่เครื่องและน้ำตาลลงในแป้งที่ละเลงอยู่บนกระทะ เมื่อขนมสุกแม่ค้าพับแผ่นแป้งทบเป็นครึ่งวงกลมหยิบขึ้นจากกระทะว

  • คุ้งเสน่หา   2.โอ้บ้านแพน

    จืดชะโงกหน้าเข้าไปใกล้หูมารศรีพลางจีบปากจีบคอเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระฟัดกระเฟียด “อีนังดอกเอื้องต้องเป็นตัวการแน่เชียวน้องศรี มันคงเป็นคนห้ามไม่ให้นังชมมาบอกเราแน่ ๆ” “หึ...อีนังนี่มันร้ายนัก มันคิดจะกันท่าไม่ให้ฉันตามไปดูพี่วิชาญละสิ” มารศรีเอ่ยเสียงสะบัดอย่างเกรี้ยวกราดแล้วเม้มปากเป็นเส้นด้วยความขัดใจ “แต่เขาไปแสดงไกลถึงบางกอกนู่น พ่อเอ็งจะให้ไปหรือวะ” สาวใหญ่เอื้อนเอ่ยอย่างคนที่รู้จักนิสัยของผู้ใหญ่กุศลเป็นอย่างดี “ก็จริงจ้ะ...พ่อคงไม่ให้ฉันไปหรอก” มารศรีเอ่ยกระฟัดกระเฟียด “ก็นั่นนะสิ อย่างนั้นเอ็งก็อย่าไปโกรธนังชมกับเพื่อนของมันเลยวะยังไงเอ็งก็ไปไม่ได้อยู่แล้ว เอาไว้รอดูที่บ้านเราก็ได้ ปิดวิกที่บางกอกเสร็จ เขาก็มาเล่นที่บ้านเราอยู่แล้ว” สาวใหญ่เอ่ยปลอบ “ป้าไม่ต้องห่วง ฉันไม่โกรธนังชมมันหรอกจ้ะ” มารศรีตอบอย่างใจคิดเพราะคนที่หล่อนโกรธไม่ใช่ชวนชมแต่เป็นนางเอกลิเกนามว่าดอกเอื้องต่างหาก ไอร้อนจากแสงอาทิตย์สาดส่องไปทั่วคุ้งน้ำซึ่งเนืองแน่นไปด้วยลำเรือของเหล่าพ่อค้าแม่ขายลอยเรียงบนผิวน้ำใกล้ท่าเรือเพื่อค้าขายกับผู้โดยสารจ

  • คุ้งเสน่หา   1แม่ค้าขนมหวาน

    หญิงสาวรูปร่างผอมแกร็นผิวกายคล้ำหยาบนั่งอยู่ท้ายเรือกำลังพายเรือหัวแหลมขนาดเล็กซึ่งชาวท้องถิ่นเรียกว่า “เรือเข็ม” ออกจากบันไดท่าน้ำหน้าตลาดลาดชะโดมีชื่อว่านังจืด หล่อนเป็นคนสนิทของมารศรีสาวสวยวัย ๒๐ ที่นั่งเสงี่ยมอยู่ตรงหัวเรือ นังจืดกำลังพายเรือล่องไปตามลำคลองขุดที่แยกมาจากแม่น้ำน้อยไหลผ่านหน้าบ้านเรือนสองฝากฝั่งเกิดเป็นชุมชนริมน้ำขนาบข้างด้วยชุมชนเรือนแพที่ปลูกลอยเหนือผิวน้ำไปตลอดแนวลาดชะโดคือชุมชนที่เงียบสงบในเขตอำเภอผักไห่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีพื้นราบต่ำ น้ำท่วมถึงจึงทำให้มีปลาชะโดชุกชุมไปทั้งคุ้งน้ำ คลองลาดชะโดแยกย่อยมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาเกิดเป็นชุมชนขนาบคลองซึ่งแบ่งออกเป็น ๒ตำบล ๑๗ หมู่บ้าน ฝั่งหนึ่งเรียกบ้านหนองน้ำใหญ่ประกอบด้วย ๑๑ หมู่บ้านกับอีกฝั่งเรียกว่าบ้านจักราชแยกเป็นอีก ๖ หมู่บ้านมารศรีเป็นบุตรสาวคนเดียวของนางผ่องแผ้ว ผลบุญกับนายกุศล ผลบุญ อดีตผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งของตำบลจักราชหล่อนได้รับฉายาว่าดอกบัวแย้มกลีบแห่งคุ้งลาดชะโดด้วยวัยเพียง ๒๐ ปีทำให้หล่อนเสมือนบัวเพิ่งบานชูเกสรล้อแมลงเพศผู้อาจเพราะธรรมชาติลำเอียงจึงได้เสกสรรความงามให้กับหญิงสาวเสียจนล้นเหลือ รูปร่างระหง

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status