Accueil / รักโบราณ / ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์ / บทที่ 16 ตัดปีกตระกูลเจิน

Share

บทที่ 16 ตัดปีกตระกูลเจิน

last update Dernière mise à jour: 2025-05-20 14:19:19

ตำหนักพระมเหสีรองเหมย

"ถวายพระพรพระมเหสีรองเพคะ"

เหมยฮวาชิงย่อกายทำความเคารพมเหสีรองเหมยท่านอาของนาง พระมเหสีรองเหมยพระองค์นี้เข้าวังมาได้ห้าปีแล้ว แต่ยังไม่มีพระโอรสและพระธิดาแม้สักพระองค์เดียว เพราะสุขภาพของนางค่อนข้างไม่สู้ดี แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังคงเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ เพราะราชสำนักยังต้องพึ่งพากำลังทางทหารของจวนโหวตระกูลเหมย มเหสีรองเหมยแม้ภายนอกจะดูอ่อนโยน ไม่มีปากมีเสียงกับใคร แต่ลึกๆ ภายในใจของนางซ่อนความโหดเหี้ยมเอาไว้ไม่น้อย

นางริษยาจ้าวฮวงโหวกับพระสนมเอกยิ่งนัก ทั้งที่พวกนางไม่ใช่คนโปรดของฮ่องเต้สักเท่าใด แต่วาสนากลับทำให้พวกนางมีพระโอรส แล้วนางเล่า นางเป็นที่โปรดปราน แต่สวรรค์กลั่นแกล้งนางถึงเพียงนี้เพราะเหตุใดกัน

"รีบลุกขึ้นเถิดหลาน เจ้าไม่ต้องมากพิธีการ"

"ขอบพระทัยเพคะพระมเหสีรอง"

พระมเหสีรองเหมยโบกมือเป็นการไล่บ่าวรับใช้นางกำนัลออกไปจากตำหนักให้หมด เหลือเพียงแม่นมคนสนิทของนางกับเหมยฮวาชิงและชิงฮุ่ย

"ท่านอารู้ข่าวของตระกูลเจินรึยังเพคะ"

เหมยฮวาชิงเป็นคนเริ่มบทสนทนาเรื่องของเจินเซียงกับพระมเหสีรองเหมยก่อน พระมเหสีรองเหมยยกชาขึ้นจิบเล็กน้อย พลางหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี

"ข่าวน่าอับอายเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้ได้เช่นไรเล่า"

"ท่านอามีแผนการอันใดต่อไปเจ้าคะ"

พระมเหสีรองเหมยเหลือบมองเหมยฮวาชิงหลานสาวสุดที่รักของตนอย่างอารมณ์ดี

เพราะนางไม่มีบุตรนางจึงรักหลานชายหลานสาวสองคนนี้ยิ่งนัก เหมยไป๋อวี้ก็ได้เลื่อนเป็นหัวหน้าองครักษ์ ส่วนเหมยฮวาชิงนั้นนางหมายมั่นให้นางขึ้นไปยังจุดสูงสุดเพื่อผลประโยชน์ที่งดงามของนางในวันข้างหน้า

"ข้าจะหาทางตัดปีกอำนาจของตระกูลเจินด้วยเรื่องของเจินเซียง รอให้นางเข้าพิธีเสกสมรสแล้วเราจะจัดการเรื่องนี้ทันที หึ พี่ชายของเจ้าทำให้ข้าภูมิใจไม่น้อยที่สามารถล่วงรู้ความลับที่โสมมนี้ของบุตรสาวตระกูลเจิน"

"แต่จ้าวฮวงโหวไม่ยอมให้เราทำสำเร็จแน่เพคะ"

"หึ ช่างนางปะไร ถ้าหากเรื่องนี้ล่วงรู้ถึงฝ่าบาท ตำแหน่งจ้าวฮวงโหวของนางคงสั่นสะเทือนไม่น้อย แต่ก่อนที่จะทำให้นางร่วงลงมาจากบัลลังก์ ข้าจะต้องทำให้เจ้าได้ตำแหน่งพระชายาเอกขององค์รัชทายาทให้ได้เสียก่อน"

เหมยฮวาชิงก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย พระมเหสีรองเหมยมองดูหลานสาวด้วยความรักความเอ็นดู

เมื่อใดที่หลานสาวของนางได้เป็นพระชายาเอก นางจะเปิดโปงเรื่องนี้ต่อพระพักตร์ของฝ่าบาท นางจะต้องทำให้จ้าวฮวงโหวกระเด็นออกไปจากตำแหน่งผู้ปกครองสูงสุดของวังหลังเสียก่อน แล้วนางจะขึ้นไปยืนอยู่บนตำแหน่งนั้นแทน จากนั้นนางก็จะส่งต่อตำแหน่งจ้าวฮวงโหวให้เหมยฮวาชิงหลานรักของนาง เมื่อเหมยฮวาชิงมีบุตรเป็นพระโอรสนั่นก็เท่ากับอำนาจของจวนโหวตระกูลเหมยของนางก็จะมั่นคงไม่มีใครเทียมได้ ส่วนองค์รัชทายาทนั้นหรือ ยังไงก็อยู่ในกำมือนางอยู่วันยังค่ำ

"เจ้าวางตัวให้ดี ระมัดระวังตัวให้มากหน่อย รอฟังข่าวดีจากข้า"

"เพคะท่านอา"

หลังจากที่เดินออกมาจากตำหนักของพระมเหสีรองเหมยแล้ว เหมยฮวาชิงกำลังจะเดินกลับไปที่รถม้าของจวนโหว ระหว่างทางนางพบกับหลิวลี่เซียนและเจินเซียงเข้าโดยบังเอิญ

สำหรับเจินเซียงนั้นนางคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่แล้ว แต่หญิงสาวอีกคนนั้น ใบหน้าดูงดงามชวนหลงใหล นางไม่คุ้นหน้าเท่าใด ดูแล้วน่าจะเป็นสหายร่วมเรียนขององค์หญิงจ้าวเฟยหยางเช่นเดียวกับเจินเซียง นางไม่ค่อยได้ออกจวนไปไหน ทำให้นางไม่ค่อยได้ผูกสัมพันธ์ไมตรีกับคุณหนูจวนอื่นเท่าใดนัก

เหมยฮวาชิงแสร้งยิ้มอย่างร่าเริง ก่อนจะเดินตรงไปหาหลิวลี่เซียนกับเจินเซียง

"ว่าที่พระชายาเอก หม่อมฉันถวายพระพรเพคะ"

เหมยฮวาชิงโค้งกายย่อคำนับเจินเซียงด้วยความเคารพ เจินเซียงทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย นางยังไม่ทันได้แต่งงานกับเสด็จพี่เลยด้วยซ้ำ เหมยฮวาชิงทำเช่นนี้เหล่านางกำนัลจะไม่เอาไปพูดต่อรึว่านางวางอำนาจในวังหลวง

"ไม่ต้องทำความเคารพข้าหรอก ว่าแต่เจ้ามาเข้าเฝ้าพระมเหสีรองเหมยหรือ"

"ใช่เพคะ หม่อมฉันมาถวายพระพรเสด็จอา"

"อืม"

หลิวลี่เซียนมองบทสนทนาระหว่างเจินเซียงเพื่อนรักของนางกับเหมยฮวาชิงคุณหนูน้อยนางนี้ ก่อนจะหรี่ตาลงมองเหมยฮวาชิง

เพียงแค่นางมองแวบแรกก็สัมผัสได้ถึงความไม่จริงใจของเหมยฮวาชิง แววตาริษยาจนแทบจะเป็นไฟลุกนั่น รวมทั้งกิริยาท่าทางที่พยายามทำให้เจินเซียงดูเป็นคนวางอำนาจอยู่ในสายตาของนางตลอดเวลา หลิวลี่เซียนลอบส่งเสียงเฮอะในลำคออย่างดูแคลน

ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอนัก!

"ไม่ทราบว่าคุณหนูท่านนี้เป็นสหายร่วมเรียนของพระชายากับองค์หญิงจ้าวเฟยหยางหรือเพคะ"

"ใช่ นางชื่อหลิวลี่เซียน เป็นบุตรสาวท่านเสนาบดีหลิวเทียนเฉิง ตระกูลหลิวน่ะ ลี่เซียน นี่เหมยฮวาชิง บุตรสาวจวนโหว ตระกูลเหมยหลานสาวพระมเหสีรองเหมยน่ะ"

หลิวลี่เซียนหันไปส่งยิ้มให้เหมยฮวาชิงเล็กน้อย เหมยฮวาชิงยิ้มรับโดยไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก อย่างน้อยหลิวลี่เซียนก็ไม่ใช่ศัตรูของนาง จะใส่ใจให้เสียเวลาไปทำไมกัน

นางหันไปมองเจินเซียงที่วันนี้มีสีหน้าซีดเซียวเหมือนคนไม่สบายมาหลายวัน หึ เจ้าคงกำลังร้อนใจกับเรื่องโสมมของเจ้าอยู่สินะ รอข้าอีกสักหน่อย เจ้าใกล้ถึงเวลาที่จะได้ตายทั้งเป็นอีกไม่นานนี้เป็นแน่เจินเซียง

"ทำไมวันนี้พระชายาดูไม่ค่อยสดใส ประชวรตรงไหนหรือเพคะ"

เหมยฮวาชิงเอ่ยถามเจินเซียงด้วยสีหน้าเป็นกังวลเล็กน้อย

"พอดีช่วงนี้ข้านอนไม่ค่อยหลับน่ะ"

"จริงเหรอเพคะ ตายจริง! พระชายาน่าจะทรงดีพระทัยเรื่องพิธีเสกสมรสเป็นแน่เพคะ"

"ไม่หรอก"

"ว่าแต่พระชายาเพคะ ทรงทราบเรื่องที่เขาเล่าลือกันนอกวังหลวงรึยังเพคะ"

"เรื่องอันใดหรือ"

เหมยฮวาชิงเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ใบหน้าแดงก่ำ ก่อนจะหันไปมองเจินเซียงเล็กน้อย

"เรื่องที่มีคนเล่าลือกันว่าพบหญิงสาวสูงศักดิ์พลอดรักกับชายหนุ่มบัณฑิต ทั้งที่ตนเองนั้นกำลังจะแต่งงานเพคะ"

ใบหน้าเจินเซียงซีดเผือด มือเรียวยาวที่จับมือของหลิวลี่เซียนเอาไว้เย็นเฉียบ สร้างความพึงพอใจให้กับเหมยฮวาชิงไม่น้อย

หลิวลี่เซียนหรี่ตามองเหมยฮวาชิงอย่างเย็นชา สตรีนางนี้ต้องมีนัยแอบแฝงอะไรเป็นแน่ หรือว่านางจะรู้เรื่องของเจินเซียงเข้า ไม่สิ! เป็นไปไม่ได้ วันนั้นมีแค่นางที่พบเจอเจินเซียง ไม่ได้การแล้ว นางต้องถามเจินเซียงให้ละเอียดเกี่ยวกับเหมยฮวาชิง

"พระชายาเป็นอันใดเจ้าคะ"

เหมยฮวาชิงแสร้งทำเป็นห่วงเป็นใยเจินเซียง แต่ทว่าหลิวลี่เซียนที่ยืนดูอยู่นานหันไปมองหน้านางเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมา

"เรื่องนอกวังหลวงของผู้อื่นเช่นนั้นเป็นการไม่สมควรที่จะทูลเล่าให้ว่าที่พระชายาฟัง ไม่ทราบว่าคุณหนูเหมยไม่รู้ถึงมรรยาทข้อนี้หรือ"

เหมยฮวาชิงหน้าเปลี่ยนสี นางรู้สึกเหมือนถูกหลิวลี่เซียนหลอกด่าว่าไม่มีมรรยาทอย่างไรอย่างนั้น

"โอ๊ะ ข้าลืมไปเลย ขอประทานอภัยเพคะพระชายา"

"ช่างเถิด เจินเซียง ข้าว่าเจ้ารีบกลับจวนเถอะ ข้าเองก็เหนื่อยมากแล้วเช่นกัน"

หลิวลี่เซียนพยักหน้า พร้อมกับบอกเจินเซียงว่าไม่ต้องไปส่งนาง ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับไป๋หลาง ก่อนจากกันเจินเซียงยังกระซิบบอกนางว่า เหมยฮวาชิงเป็นบุตรสาวของจวนโหวตระกูลเหมย บิดานางเป็นผู้บัญชาการทางทหารสูงสุด ส่วนพี่ชายเป็นหัวหน้าองครักษ์ที่ทรงโปรดปราน มิน่าเล่า นางถึงพูดจาไร้มรรยาทเช่นนี้ต่อหน้าเจินเซียง

"เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ คุณหนูหลิว"

หลิวลี่เซียนที่กำลังเดินมาจนถึงรถม้า หันหลังกลับไปมองก่อนจะพบว่าคนที่ตามนางมาคือเหมยฮวาชิง

น่าเบื่อชะมัด! ไม่มีเรื่องกับใคร ก็มีคนนำเรื่องมาให้จนได้

"มีอะไรเหรอ"

หลิวลี่เซียนหันไปมองเหมยฮวาชิงด้วยใบหน้าเรียบเฉย เหมยฮวาชิงก้าวเข้ามาหานางพร้อมกับยิ้มตาหยี

"ข้ารู้สึกถูกชะตากับคุณหนูหลิวยิ่งนัก ไว้ข้าจะส่งเทียบเชิญให้ท่านไปวันเกิดของข้าอีกสองวันข้างหน้าดีหรือไม่"

หลิวลี่เซียนลอบกลอกตาไปมา หล่อนจะมาไม้ไหนจ๊ะ จุ๊ๆๆๆ ฉันไม่ใช่คนตามหล่อนไม่ทันเหมือนเจินเซียงหรอกนะ หล่อนคิดจะเชือดฉันรึ ฝันไปเถอะ ฉันผ่านโลกมาถึงสองโลกแล้ว ไม่หลงกลหล่อนหรอกย่ะ

"ขอบคุณคุณหนูเหมยเช่นกันที่มีน้ำใจชวนข้า แต่ช่วงนี้ที่จวนข้าวุ่นวายนัก ตัวข้าเองก็ไม่ค่อยสบายกินอะไรไม่ค่อยได้ กลัวว่าไปที่จวนโหวของท่านจะสร้างความลำบากให้ท่านต้องมาดูแลข้าอีก"

"ไม่เป็นไรเลย ข้ายินดี"

"ไม่รบกวนคุณหนูเหมยจะดีกว่า ไว้ข้าจะส่งของขวัญไปให้ท่านที่จวนนะ"

"ก็ได้ งั้นข้าขอตัวก่อน"

เหมยฮวาชิงรู้สึกเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่ไม่สามารถพานางไปที่จวนโหวของนางได้ แต่ช่างปะไร เจ้าคิดจะตั้งตัวเป็นศัตรูไม่รับไมตรีของข้า เจ้าก็จงระวังตัวไว้เถอะ

หลิวลี่เซียนถอนหายใจพร้อมกับบิดตัวไปมาอย่างเกียจคร้าน นางเริ่มหิวแล้วสิ

"เจ้าน่ะหรือกินอะไรไม่ได้ หมั่นโถวร้อยลูกของข้าทำให้เจ้าอิ่มไม่พอหรือแม่นาง"

หลิวลี่เซียนหันไปมองก่อนจะกลอกตาไปมาอีกรอบ วันนี้มันวันอะไรเจอหายนะตัวใหญ่เลย

หลิวลี่เซียนหันไปทำความเคารพองค์ชายรองตามมรรยาท

"ไม่เจอกันตั้งนานนะคุณหนูหลิว ข้าคิดถึงเจ้ายิ่งนัก"

หลิวลี่เซียนบิดเบ้มุมปาก องค์ชายอะไรช่างน่าไม่อายยิ่งนัก

"ถ้าไม่มีอะไรแล้วหม่อมฉันขอทูลลาเพคะ"

"เดี๋ยว"

หลิวลี่เซียนจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด เจอกันทีไรหมอนี่มันจะทำให้นางโมโหจนตายเลยรึไงกันนะ

"วันนี้ที่ตำหนักข้ามีคนส่งไก่ตุ๋นยาจีนมาให้"

"หม่อมฉันไม่มีเวลามากพอไปที่ตำหนักพระองค์หรอกเพคะ"

หลิวลี่เซียนตัดบทอย่างดื้อๆ จ้าวเฟยหรงมองค้อนนางเล็กน้อย น่าโบยสักสิบไม้ โทษฐานรู้ทันองค์ชาย

เขายกยิ้มมุมปากก่อนจะยื่นกล่องใส่อาหารอย่างดีมาตรงหน้านาง

"อะไรเพคะ"

"ข้าแบ่งให้เจ้า ไก่ตุ๋นยาจีน"

หลิวลี่เซียนมองหน้าจ้าวเฟยหรงด้วยสายตาระแวดระวัง หมอนี่คิดจะใส่ยาพิษให้นางกินรึเปล่าก็ไม่รู้

จ้าวเฟยหรงส่งเสียงหึในลำคออย่างรู้ทัน ก่อนจะเปิดกล่องอาหารออกและให้ขันทีใช้ช้อนเงินตักอาหารขึ้นมาชิม

"เจ้าวางใจแล้วใช่หรือไม่"

หลิวลี่เซียนยังคงมองหน้าจ้าวเฟยหรงด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย น่ารำคาญยิ่งนัก เขาเห็นนางเป็นคนเห็นแก่กินงั้นรึ

"ข้าไม่วางยาพิษเจ้าหรอก ถ้าเป็นยาที่ทำให้เจ้าหลงรักข้าจนหัวปักหัวปำก็ว่าไปอย่าง"

หลิวลี่เซียนบิดเบ้มุมปากเล็กน้อย พูดจาชวนอ้วกเช่นนี้กับผู้หญิงทุกคนสิท่า

"หม่อมฉันอิ่มแล้วเพคะ"

หลิวลี่เซียนไม่สนใจกล่องอาหารตรงหน้านางแม้แต่น้อย

"ไก่นุ่มไม่เหนียว น้ำซุปลื่นคอหอมหวาน"

โครกครากกกก

"เอ๊ะ!!! เสียงอะไรน่ะ เสียงท้องใครร้องรึ"

จ้าวเฟยหรง ข้าเกลียดท่านยิ่งนัก ข้าจะลงโทษท่านด้วยการกินไก่นี่จนหมดตัวคอยดูเถอะ

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 50 พานพบอีกครั้ง The End.

    หลิวลี่เซียนค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ความรู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าถาโถมเข้าใส่ร่างกายของนางอย่างตั้งรับเอาไว้แทบไม่ทัน"ดื่มน้ำก่อนนะคะ คุณหนู"หลิวลี่เซียนหันไปมองก่อนจะพบเข้ากับเลขาหวัง เลขาประจำตัวของนางที่เพิ่งจ้างเข้ามาทำงานให้เมื่อห้าปีก่อนเดี๋ยวนะ!! นี่มันเรื่องอะไรกัน?หลิวลี่เซียนยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มด้วยความหิวกระหาย ก่อนจะมองสังเกตไปโดยรอบ ก็พบว่าตอนนี้ตนเองกำลังใส่ชุดของโรงพยาบาลอยู่นี่มันเกิดอะไรขึ้น? นางย้อนกลับมาร่างเดิมเช่นนั้นหรือ?หลิวลี่เซียนยกมือขึ้นบีบหว่างคิ้วที่ปวดหนึบขึ้นมาเสียดื้อๆ ความคิดมากมายประเดประดังเข้ามาในหัวของนางอย่างไม่จบไม่สิ้น"คุณหนูชิงชิงคะ อีกเดี๋ยวคุณหมอคงจะมาแล้วค่ะ""เลขาหวัง""คะคุณหนู?""ข้า เอ่อ ฉันหลับไปนานเท่าไร แล้วที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง?"เลขาหวังขมวดคิ้วมอง 'จ้าวชิงชิง' ด้วยแววตาสงสัย แต่ก็ยอมเอ่ยปากเล่าให้เธอฟังทุกเรื่องเลขาหวังเล่าว่า คุณพ่อของจ้าวชิงชิงโทรมาหาเลขาหวังกลางดึกให้รีบพาตำรวจมาที่บ้านโดยด่วนที่สุด เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรท่านประธานจึงให้เรียกตำรวจเข้าไปในเวลาดึกดื่นเช่นนี้แต่เมื่อเธอไปถึงก็พบว่าหลี่เย่สามีของจ้าว

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 49 จากลาอย่างงดงาม

    ภายในคุกหลวงที่มืดมิดไร้ซึ่งแสงไฟส่องสว่าง ปรากฏร่างของเหมยฮวาชิงที่นอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้นที่มีหนูตัวน้อยใหญ่ไต่ยั้วเยี้ยไปมาอย่างน่าขนลุก"ได้เวลาดื่มยาพิษแล้ว"เสียงผู้คุมคุกหลวงที่นางได้ยิน ราวกับเสียงแห่งขุมนรกกำลังเรียกร้องหานาง นางไม่อาจจะยอมรับได้เลยว่า สุดท้ายแล้วนางต้องมาตกตายด้วยยาพิษที่ตนเองเป็นคนสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของนางเองหลังจากเหมยฮองเฮาตายจากไปแล้ว ก็มีคำสั่งให้ประหารคนตระกูลเหมยจนสิ้นซาก ไม่เหลือรอดแม้เพียงคนเดียว บ่าวไพร่ถูกโบยจนตกตายไปตามกัน ป้ายคำสั่งทหารนับแสนนายที่เคยอยู่ในมือของท่านพ่อก็ถูกยึดคืนสู่ราชสำนักไปหมด จ้าวจิ้งเทียนช่างโหดร้ายยิ่งนัก เขาถอนรากถอนโคนตระกูลเหมยจนสิ้นซากไร้การได้ลืมตาอ้าปากอีกครั้งจวนตระกูลเหมยถูกยึดเป็นสมบัติคลังหลวง ตระกูลเหมยที่เคยโอ่อ่าใหญ่โต อำนาจบารมีล้นฟ้า ไม่มีผู้ใดกล้าต่อกรด้วย สุดท้ายแล้วกลับหายสาบสูญตายจากไปอย่างไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียวเหมยฮวาชิงถูกกรอกยาพิษทุกวัน วันละสามมื้อ หลิวลี่เซียนช่างจิตใจอำมหิตจนน่าหวาดกลัวเหมยฮวาชิงดิ้นทุรนทุราย ดวงตาเบิกโพลงกระอักเลือดออกมาคำโต ช่วงชีวิตสุดท้ายของนางนั้น นางนึกหวนย้อนไปถึง

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 48 หลิวฮองเฮาผู้มากับไม้หน้าสาม

    รัชศกจิ้งเทียนปีที่หนึ่งหลิวลี่เซียนกำลังนั่งอยู่ที่หน้ากระจกมองดูตนเองถูกเหล่านางกำนัลจัดแต่งอาภรณ์ให้ด้วยความใส่ใจ นางยกยิ้มมุมปากมองดูสตรีที่สูงส่งตรงหน้าด้วยสายตาพอใจ นี่ใช่นางจริงหรือ? ราวกับฝันไปเสียจริงๆ"ได้เวลาแล้วเพคะฮองเฮา"หลิวลี่เซียนพยักหน้าก่อนจะมองไป๋หลางด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ไป๋หลางนั้นได้เลื่อนขั้นเป็นนางกำนัลคนสนิทของหลิวลี่เซียนคอยรับใช้อยู่ข้างกายนางหลิวลี่เซียนนั่งอยู่บนเกี้ยว มองดูเหล่าขันทีนางกำนัลหมอบกราบทำความเคารพนางด้วยสายตาอ่อนโยนมีเมตตา เสียงดนตรีบรรเลงขับขาน ช่างฟังแล้วให้ความรู้สึกตื้นตันในใจเหลือคณานางกับจ้าวจิ้งเทียนอภิเษกสมรสกันเมื่อสองเดือนก่อน หลังจากที่ไท่ซังหวงทรงสละราชสมบัติ จ้าวจิ้งเทียนจึงแต่งตั้งนางขึ้นเป็นฮองเฮาหลิวฮองเฮาสวมชุดสีแดงปักลายหงส์คู่มังกร แถบเซี๊ยะเพ่ยปักลายหงส์พิลาสคู่ มงกุฎหงส์เป็นรูปแบบดั้งเดิมของราชวงศ์ต้าโจว มีหงส์รำแพนคู่หนึ่งตัว ด้านข้างคือหงส์พิลาสข้างละหนึ่งตัว ประดับด้วยทับทิมและอัญมณี ส่งเสริมให้พระนางดูงามสง่าและน่าเกรงขามยิ่งนัก ใบหน้าที่งดงามดูทรงอำนาจชวนมอง ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นไม่สามารถละสายตาจากนางไปได้ฮ่องเต้จ้

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 47 สละราชสมบัติ

    หลิวลี่ซือจ้องมองร่างอันไร้ซึ่งลมหายใจของเหมยฮองเฮาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะใช้ผ้าปิดบังใบหน้า แล้วเดินก้มหน้าก้มตาออกมาจากคุกหลวงโดยไร้ซึ่งพิรุธใดๆ นางเดินไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน ชื่นชมบรรยากาศภายในวังหลวงยามค่ำคืนอย่างสงบเยือกเย็นคืนนี้พระจันทร์ช่างงดงามเหลือเกิน ท่านแม่เจ้าคะ ป่านนี้ท่านคงกำลังชื่นชมข้ากับท่านพี่ลี่เซียนอยู่บนสรวงสวรรค์ใช่หรือไม่?รุ่งเช้าข่าวการตายอย่างปริศนาของเหมยฮองเฮาก็เป็นที่โจษจันกันไปทั่วทั้งวังหลวง สภาพศพช่างน่าเวทนาและน่าขยะแขยงไปในคราเดียวกัน อดีตฮองเฮาพระองค์นี้ช่างอายุสั้นยิ่งนัก เพิ่งจะได้เสวยความสุขอยู่ในตำแหน่งที่สูงสุดได้ไม่นาน ก็ร่วงตกลงมาสู่ความตายเบื้องล่างอย่างน่าอนาถในที่เกิดเหตุพบผ้าคลุมผืนหนึ่งปักตัวอักษรฮวาชิงเอาไว้ คาดว่าน่าจะเป็นของฆาตกรที่ใช้ฆ่าอดีตฮองเฮา ผู้คุมคุกหลวงถูกสอบสวนอย่างหนัก เขาให้การว่ามีนางกำนัลของตำหนักพระชายารององค์รัชทายาทมาขอพบกับอดีตฮองเฮา บอกว่าพระชายารองให้นำสิ่งของมามอบให้อดีตฮองเฮา หลังจากที่นางกำนัลผู้นั้นเดินออกมา อดีตฮองเฮาก็กลายเป็นศพไปเสียแล้ว กว่าจะทราบว่านางตายก็เกือบจะรุ่งสางของอีกวันเหมยฮวาชิงถูกควบคุมตัวมา

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 46 ตกตายไปตามกัน

    จ้าวเฟยหรงมองเหมยฮองเฮาด้วยแววตาเย็นเยียบ บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนที่เขารักยิ่ง นางถึงกับกล้ามาวางยาพิษเชียวหรือ ช่างบังอาจเทียมฟ้ายิ่งนัก!!!"นังคนสารเลว!!!""หึ!! ไม่ใช่แค่บุตรชายของเจ้านะ แม้แต่แม่ของเจ้าก็ถูกข้าวางยาพิษมานานเสียจนร่างกายอ่อนแอ อีกไม่นานนางคงจะไปสู่ปรโลกอย่างเป็นสุขพร้อมกับบุตรชายของเจ้า ฮ่าาๆๆๆ""นังคนสารเลว สุดท้ายเจ้าก็หลุดปากออกมาทั้งหมดว่าเจ้าเป็นคนทำ!!!""แล้วอย่างไรเล่า!! ข้าเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดด้วยตนเอง คนในตระกูลข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง"จ้าวจิ้งเทียนส่งเสียงเฮอะในลำคอ ใครเชื่อนางก็บ้าเต็มทนแล้ว เขามองนางด้วยสายตาดูแคลนก่อนจะเอ่ยปากกับนาง"คนในตระกูลของเจ้าจะมีส่วนรู้เห็นในความเลวของเจ้าหรือไม่นั้น ข้าจะเป็นคนสืบหาเอง!!!"จางอิงอิงมองเหมยฮองเฮาก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก นางค่อยๆ ย่องไปทางด้านหลังของเหมยฮองเฮาด้วยฝีเท้าที่เบาเป็นอย่างยิ่ง ก่อนจะใช้เข็มเงินอาบยาพิษแทงเข้าไปที่ต้นคอของเหมยฮองเฮาฉึก!!!"อ๊าาาา"หลิวลี่เซียนอาศัยช่วงเวลาชุลมุนนี้ กระทุ้งศอกไปที่ปลายคางของเหมยฮองเฮาอย่างแรงจนนางมึนงง เซถลาใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความทรมาน"จับนางไว้!!!"เหล่าทหารจับ

  • ชะตาฟ้าลิขิตสวรรค์   บทที่ 45 ลอบฆ่า 1-2

    หลิวลี่เซียนยื่นมือไปทุบประตู หวังจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่กลับพบว่ามันร้อนเสียจนนางต้องรีบชักมือกลับ ควันสีขาวภายในห้องยิ่งพวยพุ่งมากขึ้นจนนางรู้สึกจุกแน่นที่จมูกและเริ่มหายใจไม่ออก นางถอยหลังออกมาทรุดตัวลงนั่ง สติเริ่มรางเลือนลงไปทุกขณะ"ชิงชิง"หลิวลี่เซียนพยายามประคองสติและเงยหน้าไปมอง ร่างของนางถูกจ้าวจิ้งเทียนช้อนตัวอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมอก ก่อนที่เขาพานางพุ่งทะยานออกมาจากเรือนที่ไฟกำลังไหม้ลุกโหม"แค่ก แค่ก""เป็นอย่างไรบ้าง"หลิวลี่เซียนพยักหน้าน้อยๆ นางเองรู้สึกดีขึ้นไม่น้อยที่ได้ออกมาจากควันสีขาวที่ลอยคลุ้งเช่นนั้น"ท่านมาได้อย่างไร""ข้ารู้สังหรณ์ในใจว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับเจ้าก่อนถึงวันแต่งงานของเรา ข้าคาดเดาไว้ไม่ผิดเลย พวกมันลงมือรวดเร็วยิ่งนัก""ลี่เซียน เจ้าไม่เป็นอะไรนะ""ท่านพี่ ข้าปลอดภัยดีเจ้าค่ะ ซินฮวาเล่า""นางสำลักควันจนหมดสติ หมอหลวงกำลังดูอาการอยู่""เหตุใดไฟจึงไหม้ได้เจ้าคะ""คาดว่าเหมยฮองเฮาคงจะลงมือแล้ว สายสืบภายในของข้าที่แฝงอยู่ในตำหนักนางถูกนางสังหารจนสิ้นไปเสียแล้ว"หลิวลี่เซียนใจหล่นวูบ นางมองจ้าวฝูหมิงด้วยสายตาเป็นกังวล จ้าวฝูหมิงรับรู้ในความกังวลของน

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status