Home / รักโบราณ / ซ่งเม่ยหลิน ข้ามิใช่คนดี / บทที่ 4 ไม่ใช่ที่ที่ใครจะอยู่ได้

Share

บทที่ 4 ไม่ใช่ที่ที่ใครจะอยู่ได้

last update Last Updated: 2025-08-03 23:38:36

ณ มุมหนึ่งของเรือนไม้ไผ่

ชายหนุ่มผู้หนึ่งยืนแนบผนังอย่างเงียบงัน

ดวงตาแน่นิ่งจับจ้องภาพตรงหน้าราวกับถูกสะกด

ตู้อี้จ๋าย บ่าวผู้ภักดีซึ่งตั้งใจมาเยี่ยมดูอาการเจ้านายเฉกเช่นทุกวัน

ไม่คาดคิดเลยว่า

จะได้ยินได้เห็นสิ่งที่ทำให้ชายชาตินักรบ...ถึงกับเข่าทรุดลงไปกองกับพื้น

สตรีนางนั้นร้องไห้คร่ำครวญ จนเปิดเผยสิ่งที่น่ากลัว

มันทำให้หัวใจของเขาแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี

เจ้านายของเขาจากไปไกลแล้วอย่างนั้นหรือ?

คำสั่งสุดท้ายที่บอกให้เขาห้ามทอดทิ้งพวกนาง

แท้จริงเป็นคำสั่งของบุรุษที่เป็นสามีนาง หาใช่คำสั่งเสียของเจ้านายของเขาไม่

เรื่องบ้า ๆ ที่เคยเป็นเพียงนิทานหลอกเด็ก ‘สลับร่างสับเปลี่ยนวิญญาณ’ กลับเกิดขึ้นจริง ๆ งั้นหรือ?

ตู้อี้จ๋ายหลุบตาลงช้า ๆ

ภาพความทรงจำวันวานไหลบ่าเข้ามาไม่ขาดสาย

เสียงดาบฟาดใส่โล่อย่างบ้าคลั่ง เสียงร้องของทหารบาดเจ็บ เสียงม้ากระทืบพื้นจนดินสั่นสะเทือน

สนามรบเมื่อสิบสามปีก่อน

ตู้อี้จ๋ายตอนนั้นยังเป็นเพียงองครักษ์หนุ่มที่พยายามฝึกฝนตนเองให้คู่ควรกับหน้าที่

ในวันนั้น

เขาถูกศัตรูลอบแทงจากด้านหลัง ล้มลงท่ามกลางกองเลือด...สิ้นหวังและรอความตาย

“อี้จ๋าย! ลุกขึ้น! อย่าตายที่นี่!”

เสียงหนึ่งตะโกนลั่นกลางเสียงวุ่นวาย

มือที่เปื้อนเลือดคว้าเขาขึ้นจากพื้น

พระวรกายขององค์รัชทายาททรุดตัวลงข้างเขา ไม่สนพระองค์เองจะทรงบาดเจ็บเช่นกัน

"คนอย่างเจ้าจะมาตายไร้ค่าแบบนี้ไม่ได้ เข้าใจไหม!"

เขาจำได้ถึงแววตานั้น...เด็ดเดี่ยวและแน่วแน่ที่สุดในชีวิต

มันเป็นครั้งแรกที่เขารู้ว่า ชีวิตนี้ต้องอุทิศให้เจ้านายผู้นี้แต่เพียงผู้เดียว

ภาพสลับอีกฉากหนึ่งตามมาในบัดดล...

ค่ำคืนอันเงียบสงบในวังตะวันออก

เขาคุกเข่าอยู่หน้าพระองค์

ดวงหน้าละลานไปด้วยน้ำตา ยามมองบุตรแรกเกิดของตนซึ่งมารดาสิ้นไปด้วยไข้หลังคลอด

“เด็กคนนี้อาภัพนักพ่ะย่ะค่ะ”

เขากล่าวด้วยเสียงสั่นเครือยามกอดลูกน้อยไว้ในอ้อมกอด

องค์รัชทายาททรงเอื้อมพระหัตถ์มาอุ้มลูกของเขาไว้ในอ้อมพระกร

ทรงมองดวงหน้าน้อย ๆ ที่ยังหลับตาพริ้มอย่างพินิจ แล้วรับสั่ง

“จะอาภัพได้เช่นไรกัน เขายังบิดาที่เก่งกาจอย่างเจ้า”

“และเขายังมีข้า”

“ชีวิตของเด็กน้อยผู้นี้จะต้องบินสูงดั่งนกเหยี่ยว...จงชื่อว่า ‘เฟยอิง’”

วันนั้น...น้ำตาของเขาหลั่งด้วยความปลื้มปีติ

มิใช่เพราะเพียงแค่ชื่อ

หากเพราะเขาเห็นเจ้านายอุ้มบุตรตนไว้ด้วยสองพระหัตถ์... เหมือนลูกในอ้อมอกตนเอง

มิถือพระองค์มิแต่น้อย

จากนั้นสิ่งที่ถาโถมตามมาก็คือ...สิ่งที่ทรงตรัสกับเขาทุกครั้งที่มีโอกาส

“อี้จ๋าย เจ้ารู้หรือไม่ว่าความฝันของข้าคือทำให้คนแคว้นซ่างหยุนมีแต่รอยยิ้ม”

“ร่มเย็น สงบสุข ไร้สงคราม”

“ข้ากับฮ่องเต้เคยสาบานว่าจะทำให้ได้”

“แต่บัดนี้ อำนาจในมือทำให้ฝ่าบาทเปลี่ยนไป...ทรงลืมสัญญานั่นไปเสียแล้ว”

พระสุรเสียงแสนเศร้าโศกของผู้เป็นนายดังก้อง

“องค์รัชทายาทที่เป็นเพียงแค่ชาวบ้านสามัญชน จะช่วยผู้คนได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

ตู้อี้จ๋ายค่อย ๆ ก้มศีรษะลงอย่างเงียบงันพลางร่ำไห้ลงกับพื้น ขณะถามในสิ่งที่ไม่มีทางได้คำตอบ

และการต่อสู้อย่างหนักหน่วงภายในใจของเขา

“หากกระหม่อมละทิ้งพระวรกายพระองค์ไว้ตรงนี้”

“ปล่อยให้พระองค์หายไปอย่างไร้ร่องรอย เป็นการดีที่สุดหรือไม่...”

องครักษ์หนุ่มร้องไห้ไร้เสียง

ไม่เหลือความน่าเกรงขามใดหลงเหลืออยู่อีกแล้ว

ซ่งเม่ยหลินซึ่งเฝ้ามองเขาอยู่เงียบ ๆ ไม่ไกล

นางได้ยินทุกถ้อยคำของเขา...อย่างแจ่มชัด

ทุกคำถามที่เขาเอ่ยกับความว่างเปล่า ล้วนซึมเข้าไปในใจของนางทีละคำ...

‘องค์-รัช-ทา-ยาท’

นางค้นพบ...หนทางที่จะยื้อชีวิตเขาไว้ให้ได้

ดวงตาของนางแดงก่ำแต่เด็ดเดี่ยวกว่าครั้งไหน ๆ

“ช่วยได้แน่”

ข้าและสามีจะช่วยผู้คนแทนเจ้านายท่านได้”

“ขอแค่เขาฟื้นขึ้นมา ไม่ว่าท่านต้องการสิ่งใด ข้าคนนี้จะทำให้ทุกอย่าง ฮือ ๆ”

ปึก

“ได้โปรด อย่าละทิ้งเจ้านายของท่านไว้ที่นี่”

ซ่งเม่ยหลินคุกเข่าศีรษะติดพื้นทั้งน้ำตา ขณะที่เจ้าตัวน้อยยังอยู่ในอ้อมกอดของนาง

นี่คือทางรอด...ที่นางเลือก

ทันทีที่รู้ว่าสามีของนางมีชีวิตอยู่ในร่างของชายสูงศักดิ์นางตัดสินใจได้โดยไม่ลังเล

ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะยื้อชีวิตเขาได้อยู่ที่นั่น

ทั้งหมอมากฝีมือและสมุนไพร

ทั้งหมด...อยู่ในวังหลวง

ถึงแม้ที่แห่งนั้น...ไม่ใช่ที่ที่คนอย่างนางควรเข้าใกล้

แต่... เพราะชีวิตแสนล้ำค่าของเขากับบุตรชายในอ้อมกอด

นางขอเอาชีวิตเป็นเดิมพันนับจากนี้ไป

            ซ่งเม่ยหลินเช็ดน้ำตา

พลางแหงนหน้าสบตาคนที่ยืนขึ้นพลางจ้องมองนางด้วยดวงตาแดงก่ำไม่แพ้กัน

อีกฝ่ายยังคงใจเย็นฟังนางโดยไม่คิดจะเดินหนี หรือชี้หน้าด่าว่านางเป็นสตรีบ้าเพ้อเจ้อ

“ข้ารู้ดีว่ามันยากที่จะเชื่อ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว”

นางหยัดตัวยืนขึ้นบ้างโดยมีบุตรชายที่ยังคงสะอื้นไว้แนบอก

“เจ้านายของท่านถูกคนชั่วผลักไสให้ตกลงมาตาย ไม่ต่างจากพวกข้า”

ซ่งเม่ยหลินเชิดหน้า พยายามสกัดน้ำตามิให้ไหลออกมา

“แม้ต่างกรรมต่างวาระ...แต่ถูกกระทำโดยคนชั่วทั้งสิ้น”

“ข้ากับสามี มิเคยทำร้ายผู้ใด ไม่เคยคิดเอาชีวิตผู้ใด ฮึก”

เสียงของนางขาดห้วง...พร้อมกับน้ำตาที่ห้ามไม่อยู่

“แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้ว”

“สวรรค์มิได้เข้าข้างหรือคอยปกป้องคนดี”

“มีแต่ตัวเราเท่านั้น...ที่ต้องดิ้นรนช่วยตนเอง”

“นับจากนี้ไป ข้าคนนี้จะทำทุกอย่างเพื่อเอาชีวิตรอด”

“ข้าจะยื้อชีวิตเขาไว้...”

            “ทำทุกอย่างให้เขา”

“สวมรอยเป็นองค์รัชทายาทแห่งซ่างหยุนที่องอาจและเก่งกาจไม่แพ้เจ้านายผู้อาภัพของท่าน”

            นางหยุดพูดพลางหันไปสบตาตู้อี้จ๋ายด้วยแววตาแข็งกร้าว

“เจ้าเป็นเพียงสตรีผู้หนึ่ง จะช่วยสิ่งใดองค์รัชทายาทของแคว้นซ่างหยุนได้อย่างนั้นหรือ”

 ตู้อี้จ๋ายเช็ดน้ำตาลวก ๆ พลางถามสตรีตรงหน้าด้วยแววตาเยาะเย้ยอย่างอดไม่ได้

นางเช็ดน้ำตาอย่างเข้มแข็งยามตอบโต้ตู้อี้จ๋าย

หัวใจ... เด็ดเดี่ยวหลังจากผ่านความเป็นความตาย

หัวใจ...ของคนเป็นแม่ที่ไม่อาจทนเห็นเสียงหวีดร้องเพราะหวาดกลัวของลูกน้อยได้อีก

มันทำให้นางต้องยืนหยัด...

ไม่ว่าภายในจิตใจจะพังทลายแค่ไหนก็ตาม

“สตรีที่เคยทำให้แผ่นดินล่มสลายมีมากนับไม่ถ้วน” “อย่าได้ดูเบาสตรีเช่นข้า”

“ท่านรู้ไว้เพียงว่า...”

“ข้าสามารถทำให้องค์รัชทายาท ขึ้นครองราชย์ได้ก็พอ”

ตู้อี้จ๋ายเงียบงัน ก่อนทอดตามองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาซับซ้อน

มีทั้งความเข้าใจ ความลังเล และความรู้สึกหนักหน่วงที่เขาไม่อาจเอ่ยออกมาเป็นคำได้ง่าย ๆ

“ข้ารู้ว่าท่านเจ็บปวด... และต้องการแก้แค้น”

เสียงเขาเอ่ยแผ่วเบา ทว่าเต็มไปด้วยสัจจริงของคนที่เคยผ่านแผ่นดินเปื้อนเลือดมา

“แต่วังหลวง...มิใช่ที่ที่ใครก็จะอยู่ได้”

“ท่านก็เห็นแล้ว...แม้แต่เจ้านายของข้า ผู้เกิดมาพร้อมด้วยอำนาจและบารมี”

“ยังไม่อาจรักษาชีวิตเอาไว้ได้”

เขาหยุดเงียบชั่วขณะหนึ่ง ก่อนกะพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่น้ำตาทิ้งไป พลางพูดต่ออย่างหนักแน่น

“ข้าขอแนะนำให้เจ้า...”

“ใช้เวลาที่เขามีอยู่น้อยนิดให้คุ้มค่า”

“อย่าเสียเวลาดิ้นรนไปที่นั่นเลย”

“กว่าจะเข้าวังหลวงและให้หมอหลวงรักษาเขา”

            “มันก็สายไปแล้ว”

นั่นคือคำตัดสินใจ...ที่ยากที่สุดเท่าที่เขาเคยมีมา

เขาเลือกละทิ้งพระวรกายของเจ้านายที่ตนนับถือเหนือชีวิต

องค์รัชทายาทแห่งซ่างหยุนจะไม่มีตัวตนอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป

เขาหวังว่านาง...จะมีเวลาอยู่กับสามีในร่างนั้นได้นานอีกหน่อย

ซ่งเม่ยหลินเงียบงันไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยอย่างไม่ยอมแพ้

“ขอเวลาให้ข้าได้แสดงให้ท่านเห็น”

“จากนั้น...ท่านค่อยตัดสินใจก็ไม่สาย”

คำพูดอวดดีออกจากปากนางอย่างน่าขัน

แต่มันจากหัวใจของผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเหลือจะเสียอีกแล้ว

ตู้อี้จ๋ายสบตานาง ก่อนถอนหายใจในความดื้อรั้นของอีกฝ่าย

            “พวกข้าจะอยู่ที่นี่ได้อีกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น”

“ทันทีที่คนของข้าฟื้นตัวพอจะเดินทาง...พวกเราจะจากไปทันที”

“เจ้ามีเวลาจนถึงตอนนั้น”         

ตู้อี้จ๋ายไม่ได้ปฏิเสธ

แต่กลับบอกให้รู้ว่า....นางมีเวลาไม่นานที่จะพิสูจน์

เขาปาดน้ำตาอย่างลวก ๆ

หันกลับไปมองพระวรกายของเจ้านายอีกครั้ง

‘แม้กระหม่อมจะทิ้งร่างพระองค์ไว้ที่นี่’

‘แต่ความแค้นที่พวกมันทำไว้ กระหม่อมจะเอาคืนแทนพระองค์เองพ่ะย่ะค่ะ’

องครักษ์ผู้ภักดีตัดสินใจอย่างแน่วแน่ก่อนเดินจากไป

ทว่า...ไม่ว่าตู้อี้จ๋ายจะคิดเช่นไร

แต่ซ่งเม่ยหลินถือว่านางซื้อโอกาสได้แล้ว

ที่เหลือก็แค่ต้อง...ลงมือทำให้เขายอมรับนาง

            “มะ จ๋า ฮ้าวว”

            เจ้าก้อนแป้งในอ้อมกอดซุกหน้ากับซอกคอนางพลางหาวหวอด

            ซ่งเม่ยหลินลูบหลังลูกน้อยเบา ๆ ก่อนหอมแก้มนุ่มนิ่มเบา ๆ พลางเดินไปยังคนที่นอนหลับใหล

“นี่คือพ่อของหนูนะ”

“ท่านพ่อที่รักหนูไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าแม่”

ซ่งเม่ยหลินกลั้นน้ำตายามจับมือน้อย ๆ ของลูกชายให้จับใบหน้าซีดเซียวของสามี

นางต้องทำให้ลูกรู้ว่า

คนที่ไม่คุ้นเคยนี้คือคนที่มีหัวใจดวงเดิม

จริง ๆ แล้วมิใช่แค่บอกลูกน้อย...ทว่าเป็นการบอกตัวนางเองเช่นกัน

หน้าตาเปลี่ยนไป...แต่หัวใจของเขาคงเดิม

“ป้อ จ๋า”

หานเอ๋อร์ตัวน้อยวัยหนึ่งขวบนั่งในตักมารดายามเรียกบิดา

เจ้าแก้มกลมยิ้มหวานให้มารดาอย่างไร้เดียงสา

น้ำตาของคนเป็นแม่พรั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

“ใช่แล้วพ่อของลูก”

“แม่จะทำทุกอย่างให้พ่อของเจ้าฟื้นมาเล่นกับเจ้าเหมือนเดิมนะ”

ซ่งเม่ยหลินก้มหน้าหอมกลุ่มผมลูกชายพลางร้องไห้เงียบ ๆ

นางวางแกให้นอนใกล้กับเขา

มือบอบบางตบก้นน้อย ๆ เพื่อขับกลับกล่อมให้ลูกหลับ

แต่ในใจของนางกำลังครุ่นคิด... ถึงทางออกของวันพรุ่งนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ซ่งเม่ยหลิน ข้ามิใช่คนดี   ตอนพิเศษ 4 อยู่ในใจตลอดไป

    “ซื่อหมิง จงทำหน้าที่แทนพี่ชายคนนี้ด้วย” “เจ้าต้องคืนรอยยิ้มให้ไท่จื่อเฟยให้ได้” “ท่านอย่าทำอะไรบ้า ๆ นะหวังหลุน” “พวกเราต้องรอดไปด้วยกัน” “เจ้าได้ยินไหม” “ถ้าเจ้ากล้าทิ้งข้า ข้าจะฆ่าท่าน” ฉึบ “ล่าก่อนซื่อหมิง” “อย่าให้พระองค์ร้องไห้เพราะข้า” ตูมมมม “พี่หวังหลุนนนน” นั่นคือเหตุการณ์เพียงชั่วลมหายใจ ที่เกิดขึ้นหลังจากกระโดดจากหน้าผา เขาคิดว่า....พวกเขารอดแล้ว แต่เปล่าเลย เพราะเชือกที่คว้าเอาไว้ได้... มันรับน้ำหนักไม่ไหว มีคนหนึ่งที่ต้องเสียสละ และเจ้านั่น...มันใช้มีดสั้นที่มันพกเอาไว้ ตัดช่องน้อยแต่พอตัวและทิ้งร่างลงทะเลไป ทั้งที่รู้สึกผิด หัวใจปวดร้าวจนแทบจะแตกสลาย แต่ทุกคนเชื่อไหม.... เขาไม่กล้าโดดลงไปเพื่อให้ตายตามอีกคนไป ยอมรับตามตรง... ว่าเขาอยากรอดชีวิตมากกว่า สิ่งที่ตอบตัวเองได้ในยามนั้นมิใช่เพราะเจ

  • ซ่งเม่ยหลิน ข้ามิใช่คนดี   ตอนพิเศษ 3 ครอบครัวของเรา

    “กรี๊ดดด พี่สาวทางนั้นมีขนมหนวดมังกรด้วย” “หานเอ๋อร์หยุดวิ่งเดี๋ยวนี้นะ” ซ่งเม่ยหลินห้ามพลางส่ายหน้ายิ้ม ๆ มองเจ้าก้อนแป้งทั้งสองที่วิ่งหลุน ๆ ไปยังร้านขนม โดยไม่สนใจว่านี่... มิใช่วังหลวง เด็กทั้งคู่ชอบนักยามได้ออกมาข้างนอกเช่นนี้ แต่คนที่ปวดหัวหนัก คงหนีไม่พ้นองครักษ์ทั้งหลายที่ต้องทำหน้าที่ป้องกันอันตรายให้เจ้านาย “ไม่เป็นไรหรอกเม่ยเม่ย อี้จ๋ายกับซื่อหมิงเองก็อยู่ด้วย” ลั่วอี้เสียนจับมือภรรยาเอาไว้ก่อนบอกนางให้เบาใจ แต่สิ่งที่ได้ยินกลับมาทำเอาอีกสองคนถึงกับสะดุ้ง “สองคนนั้นน่าเป็นห่วงไม่ต่างกับหานเอ๋อร์และลู่ลู่เลยนะเจ้าคะ” “คราวก่อนเด็กแสบหายไปอยู่หลังโรงงิ้ว” “เพราะผู้ใหญ่ต่างหลงเสน่ห์นางเอกผู้งดงามเข้าให้” “โธ่นายหญิงขอรับ” “ข้าน้อยบอกท่านเป็นร้อยครั้งพันครั้งแล้ว...” “พวกเรามิได้หยุดดูนางจนทำให้นายน้อยหานเอ๋อร์ กับคุณหนูน้อยลู่ลู่หายไป” เฟิ่งซื่อหมิงแกล้งโอดครวญ “กระหม่

  • ซ่งเม่ยหลิน ข้ามิใช่คนดี   ตอนพิเศษ 2 ครอบครัวเล็ก ๆ

    “พี่สาว...นี่ตัวอะไรเอ่ย” “คิก ๆ เอาไปเลย” “ว้ายยย หานเอ๋อร์ไม่นะ” “ทิ้งมันเดี๋ยวนี้” องค์หญิงน้อยลู่ลู่วัยหกชันษา ถูกองค์รัชทายาทตัวน้อยแกล้งเข้าให้อีกแล้ว “พี่สาวกลัวอะไรน่ะ มันแค่ไส้เดือนเองนะ” เจ้าตัวอ้วนหานเอ๋อร์ ยืนมือเท้าสะเอวข้างหนึ่งหัวเราะพี่สาวขณะที่มีเจ้าไส้เดือนตัวอ้วนอยู่ในมือ แม้รู้ความว่าเป็นน้องแต่ไม่ได้หมายความว่าเจ้าแสบจะเป็นน้องที่ดีเหมือนพี่น้องคู่อื่น แค่คนพี่ก็ใช่ว่าจะยอมเสียเมื่อไร “หึ หานเอ๋อร์” “ดูนี่สิ” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ผิดกับหน้าตาน่ารักดังขึ้น บ่าวไพร่รู้ดี... มันคือช่วงเวลาเอาคืน “อื้ออยยย พี่สาว” “เอามันออกไป “อย่าเอามาใกล้ข้านะ” “เสด็จแม่” “แง้งงง” ในที่สุดชัยชนะก็เป็นขององค์หญิงน้อยผู้กล้าหาญ นางกล้าจับกบตัวเป็น ๆ มาเอาคืนน้องชายตัวแสบ “...” “พอได้แล้วเด็ก ๆ” “มากินของว่างได้แล้ว ประเดี๋ยวเย็น

  • ซ่งเม่ยหลิน ข้ามิใช่คนดี   ตอนพิเศษ 1 อิ่มเอมในหัวใจ

    สำนักศึกษาภายในตำหนักตงกง ยามสายของวันเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงไล่จับ และเสียงท่องบทเรียนที่เจือปนเสียงหัวเราะ ตรงลานกว้างใต้ร่มไม้ เด็ก ๆ จากตระกูลขุนนางหมุนเวียนกันเข้ามาเรียนรู้ร่วมกับองค์รัชทายาท เหล่าอาจารย์พากันอมยิ้มบ้าง ดุด่าบ้าง ขณะมองเหล่าศิษย์ตัวเล็ก ๆ ที่บางครั้งตั้งใจ บางครั้งก็แกล้งหลับในห้องเรียน แม้ทุกอย่างจะดูวุ่นวายไปบ้างในสายตาผู้ใหญ่ แต่ความวุ่นวายนั้นกลับอบอุ่นนัก การได้เห็นว่าเด็กเหล่านี้มีเสียงหัวเราะ มีอิสระให้วิ่งเล่นและเรียนรู้ นั่นย่อมหมายความว่า… แผ่นดินในยามนี้สงบสุข และรุ่งเรืองอย่างแท้จริง “องค์รัชทายาททรงพระปรีชายิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ” “ไม่เห็นจะเก่งเลย เสด็จแม่เก่งกว่าข้าตั้งเยอะ” “ฮ้าววว ท่านอาจารย์” “วันนี้ข้าเรียนจบแล้วใช่ไหม” องค์รัชทายาทตัวน้อยของทุกคนหาวหวอด เด็กคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือเจ้าอ้วนน้อยหานเอ๋อร์ของซ่งเม่ยหลิน ทันทีที่อายุสี่ขวบเต็ม เจ

  • ซ่งเม่ยหลิน ข้ามิใช่คนดี   บทที่ 54 ซ่งเม่ยหลิน... ข้าไม่ใช่คนดี (ตอนจบ)

    “แม่จ๋าอุ้มลูก” “แม่จ๋า” “เจ้าตัวแสบ อายุสามขวบกว่าแล้วยังจะอ้อนให้แม่อุ้มอยู่อีกหรือ” คำพูดเหมือนจะดุ แต่สิ่งที่ทำคือคว้าตัวเจ้าก้อนกลม ๆ ที่วิ่งหลุน ๆ มาหาทันทีที่พวกนางเปิดประตูเข้ามา ซ่งเม่ยหลินที่ดวงตายังคงแดงก่ำเพราะเพิ่งผ่านการร้องไห้อย่างหนักมา นางอ้าแขนรับเจ้าตัวกลมขึ้นมาอุ้ม วันนี้นางกอดลูกรักไว้แน่นยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ การที่มีเขาอยู่ในอ้อมกอด และการที่เขากอดนางตอบอย่างออดอ้อน คือคำตอบ....ว่านางทำทุกสิ่งทุกอย่างไปทำไม ร้ายกับคนทั้งโลก เพื่อรักษารอยยิ้มบริสุทธิ์ของแกเอาไว้ เพื่อให้ครอบครัวเล็ก ๆ ของนางยังคงอยู่ เพื่อรักษารอยยิ้มของผู้คนที่ไม่เคยได้ลืมตาอ้าปาก “ได้โปรดอย่ากรรแสงอีกเลยนะพ่ะย่ะค่ะ” “พระองค์เป็นคนดีที่สุดเท่าที่กระหม่อมเคยพบเจอมา” เฟิ่งซื่อหมิงปาดน้ำตายามปลอบเจ้านาย เขาหมายความตามนั้น หากการเป็นคนดี...คือการปล่อยให้ตัวเองถูกทำร้าย ปล่อยให้ตัวเองถูกย่ำยีอยู่ร่ำไป

  • ซ่งเม่ยหลิน ข้ามิใช่คนดี   บทที่ 53 ไร้หัวใจอย่างสิ้นเชิง

    เงามืดที่คืบคลาน “พวกเราควรทำเช่นไรดี” “วาจาของมันศักดิ์สิทธิ์เทียบเท่าเทพเซียน” “ไม่ว่ามันจะเยื้องย่างไปที่ไหน...แม่น้ำก็กลับไปเป็นปกติทุกที่ไป” “และยิ่งมันเป็นฮ่องเต้ของแคว้นซ่างหยุน” “ยิ่งทำให้ความเชื่อของชาวบ้านยิ่งหนักแน่น” “มันคือคนที่สวรรค์เลือก ฮ่องเต้หย่งหลงเริ่มต้นปรึกษากับฮ่องเต้อีกสามแคว้น ชื่อของซ่างหวงตี้กำลังหลอกหลอนพวกเขา ทั้งเรื่องมันสังหารพี่ชายเมื่อเดือนก่อน พร้อมกับที่คนของมันก่อกบฏ แย่งชิงบัลลังก์มอบให้ผู้เป็นนายโดยเสียเลือดเนื้อเพียงน้อยนิด แม้ไรพิธีปราบดาภิเษกอย่างเป็นทางการ แต่...มันคือฮ่องเต้แห่งซ่างหยุนโดยชอบธรรม และอีกเรื่องที่ทำให้พวกเขานั่งไม่ติดไปตาม ๆ กัน ก็คือเรื่องที่มันเป็นคนที่สวรรค์เลือก หนึ่งเดือนที่ผ่านมา ดูผิวเผินเหมือนว่าพวกมันตกอยู่กับความเศร้าโศกที่ คณะทูตของพวกมันถูกไฟไหม้จนวอด เหลือผู้รอดชีวิตแค่ไม่กี่คน แต่ความรู้สึกบอกว่า... พวกมัน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status