ตอนที่ 9 ขอฝากเพื่อนฉันด้วยนะคะ
ตะวันบ่ายคล้อยวันนี้ท้องฟ้าอึมครึมเหมือนฝนจะตก ลูกค้าไม่ค่อยมีเท่าไหร่นักเสี่ยวหลิงออกมานั่งเล่นหน้าร้าน แม้ว่าไป๋เทียนเฉินไม่ได้มารบกวนเธอ แต่หยางฟงเพื่อนของเขาก็ยังคอยมาหาเธออยู่บ่อย ๆ ครั้งทว่าช่วงหลังมานี้เหมือนเขาจะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำงานทำให้เธอไม่ได้เจอเขาหลายเดือน และเขายังไม่รู้ว่าเธอนั้นกำลังท้องอีกด้วย
“เสี่ยวหลิงคิดอะไรอยู่นั่งเหม่อเชียวนะ ฉันคิดถึงเธอจังเลยช่วงนี้ฉันวุ่นวายทำให้สองเดือนที่ผ่านมาไม่ได้มาหาเธอ สบายดีหรือเปล่าเอ๊ะ! นี่เธออ้วนขึ้นหรือเปล่านะดูสิสะโพกของเธอหนาขึ้นมากกว่าเดิมอีก” เสียงสูงดังขึ้นสายตาของเธอจ้องมองเสี่ยวหลิงตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้ว่าจะอวบอ้วนขึ้นใบหน้าของเธอกลับผ่องใสมากกว่าเดิมเสียอีก
“หรูเหยามาตั้งแต่เมื่อไหร่ นั่งลงก่อนสิเดี๋ยวฉันไปเอาน้ำกับขนมมาให้”
“นี่! เสี่ยวหลิงเธอไม่ได้อ้วนใช่มั้ย? ทำไมหน้าท้องของเธอถึงได้ใหญ่เหมือนคนท้องหรือว่าเธอท้อง!!” หรูเหยาคิดตามตั้งแต่ครั้งก่อนที่อาการของเสี่ยวหลิงเหมือนคนแพ้ท้องและตอนนี้ท้องเธอใหญ่ขึ้นเหมือนท้องหลายเดือนแล้ว ดวงตาของหรูเหยาเบิกโพลงอ้าปากค้างก่อนจะยิ้มออกมาระรื่น
“ใช่ เหมือนที่ฉันใช่มั้ย? ฉันดีใจด้วยนะ แต่ทำไมเธอไม่บอกฉันเลยล่ะว่าเธอมีคนรักแล้วเธอไปแต่งงานกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันเป็นเพื่อนคนเดียวของเธอนะ น่าน้อยใจจังที่เธอแต่งงานแต่ไม่ยอมให้ฉันไปร่วมงานแต่งเลย ทั้ง ๆ ที่ฉันคิดถึงเธอตลอด”
“เอ่อ..ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ฉันไม่ได้แต่งงานและไม่มีคนรัก ฉันท้องจริง แต่ท้องเพราะความผิดพลาดนะแต่ฉันไม่อยากทำบาปเลยเก็บเด็กคนนี้เอาไว้” ในเมื่อปิดบังไม่ได้อีกต่อไปเสี่ยวหลิงเลือกที่จะบอกความจริงเรื่องที่เธอท้อง
“อะไรนะ เธอท้องไม่มีพ่อเหรอ? น่าสงสารจังเลยเรื่องมันเป็นมายังไงช่วยเล่าให้ฟังได้มั้ย” หรูเหยาจับมือของเสี่ยวหลิงประคองให้เธอนั่งลงด้วยความเห็นใจ เสี่ยวหลิงเล่าเรื่องของเธอให้แก่หรูเหยาฟังแต่ไม่ได้เล่าความจริงทั้งหมดว่าใครเป็นพ่อของเด็ก เพียงแค่บอกว่าเธอเจอเขาในผับเท่านั้น
“โธ่ ๆ ชีวิตของเธอช่างน่าสงสารจริง ๆ ถ้าเธอเดือดร้อนอะไรบอกฉันได้นะ ฉันพร้อมจะช่วยเหลือเธอเสมอรู้ใช่มั้ยว่าไม่มีใครหวังดีกับเธอเท่าฉันแล้ว”
“อืม ขอบใจเธอมากนะหรูเหยาเธอช่างดีกับฉันจริง ๆ” เสี่ยวหลิงดีใจจริง ๆ ที่เจอเพื่อนที่แสนดีอย่างหรูเหยานี่สินะนางเอกนิยายตัวจริง ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าหรือจิตใจสดใสบริสุทธิ์เสียจนเธอละอายใจจะให้บอกความจริงได้อย่างไรว่าใครเป็นพ่อของเด็กในท้อง เธอจะไม่ยอมทำให้เพื่อนของเธอต้องเสียใจ เธอเองที่จะเลือกเดินออกไปให้หรูเหยามีความสุขกับไป๋เทียนเฉิน และไม่ได้บอกเรื่องที่เธอจะย้ายไปอยู่ที่อื่นหากในอนาคตหรูเหยาแต่งงานกับไป๋เทียนเฉินจริง ๆ คงมีเรื่องให้เธอได้พบเจอเขาอีก เสี่ยวหลิงจึงเลือกที่จะหายไปอย่างเงียบ ๆ ทั้งสองพูดคุยกันอยู่พักใหญ่จนหรูเหยาขอตัวกลับเพราะเย็นนี้มีงานเลี้ยงที่เธอจะต้องไปกับคุณพ่อคุณแม่
ณ โรงแรมหรูแห่งหนึ่งวันนี้มีงานเปิดตัวบริษัทใหญ่นักธุรกิจต่างพากันมาร่วมงานเพื่อแสดงความยินดี ครอบครัวของไป๋เที่ยนเฉินก็ได้มาร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้ด้วย หรูเหยาแต่งตัวมาในชุดราตรีสีสมพูอ่อนที่เข้ากับสีผิวของเธอผู้ชายในงานต่างพากันจ้องมองไม่กระพริบตาเพราะตอนนี้เธอเป็นที่จับจ้องของลูกชายเศรษฐีมากมาย แต่ทว่าสายตาของเธอกลับมีเพียงชายคนเดียวคือไป๋เทียนจิน เธอเห็นเขาเดินแยกออกจากคุณแม่เธอถือโอกาสนี้เข้าไปหาเขาทันที
“พี่ไป๋เทียนเฉินสบายดีมั้ยคะ ฉันดีใจจังเลยที่ได้เจอพี่ที่นี่ช่วงนี้พี่คงงานยุ่งสินะขนาดการเตรียมงานหมั้นของเราพี่ยังไม่เคยมาช่วยเลือกของเลย”
“คิดว่าใคร เธอนี่เองเรื่องงานหมั้นฉันบอกไปแล้วไม่ว่าจะจัดที่ไหนจะเลือกอะไรก็ตามใจเธอเถอะ ฉันไม่ว่างที่จะเสียเวลาไปกับเรื่องอย่างนั้นหรอกนะ”
“แต่ว่ามันเป็นเรื่องสำคัญของเรานะคะ ทำไมพี่เทียนเฉินดูเหมือนไม่ดีใจเลย”
“เฮ้อ! ฉันมีงานมากมายที่จะต้องทำ แค่งานหมั้นไม่ใช่งานแต่งสักหน่อย อีกอย่างฉันเคยบอกแล้วใช่มั้ย ฉันไม่ชอบผู้หญิงที่เอาแต่ใจจู้จี้จุกจิกจนน่ารำคาญ”
“ฉันรู้ค่ะ ฉันคิดถึงพี่นี่น่า กว่าจะได้เจอพี่ไม่ใช่เรื่องง่าย จริงสิพี่หยางฟงช่วงนี้ไปไหนคะฉันไม่ค่อยเห็น ฉันมีเรื่องอยากจะแสดงความเสียใจกับเขาเสียหน่อย” หรูเหยาเห็นท่าทีของเทียนเฉินที่แสดงสีหน้าออกมาอย่างชัดเจนที่เริ่มเบื่อและหงุดหงิดใจจึงเริ่มเปลี่ยนเรื่องพูดทันที แม้จะเจ็บลึก ๆ ที่หัวใจที่เขาไม่สนใจเธอเหมือนเมื่อก่อนคงเป็นเพราะช่วงนี้เขางานยุ่ง เธอพยายามที่จะเข้าใจเพราะไม่ว่ายังไงเธอก็กำลังจะได้เป็นคู่หมั้นอนาคตตำแหน่งภรรยาและคอยเคียงข้างเขาจะเป็นของเธอในที่สุด
“แสดงความเสียใจกบหยางฟง มีเรื่องอะไรที่เธอต้องแสดงความเสียใจกับเพื่อนของฉัน”
“ก็เรื่องเพื่อนของฉันอย่างไรละคะ เหยียนเสี่ยวหลิงคนที่พี่หยางฟงถูกชะตาตอนนี้เธอท้องแถมยังท้องไม่มีพ่อด้วย เธอเป็นคนใจง่ายมันจะปล่อยตัวไปกับผู้ชายไปทั่ว ไปมั่วจนไม่รู้ว่าลูกในท้องมีใครเป็นพ่อ พูดไปแล้วก็น่าสงสารนะคะเธอเองก็เป็นเด็กกำพร้าไม่น่าทำแบบนี้เลย แค่ตัวเองคนเดียวก็พอแล้วแต่เธอกลับทำแบบนี้กับลูกอีก อยากให้ลูกเหมือนตัวเองหรือไง ไม่เข้าใจสักนิดอีกอย่างผู้ชายที่ทำเธอและไม่รับผิดชอบนิสัยไม่ดีสักนิดไร้ความเป็นคนจริง ๆ ” เทียนเฉินได้ยินคำพูดของหรูเหยาใจของเขาเต้นแรงตึกตัก เพราะคนที่เป็นพ่อของเด็กคือเขาที่ยืนอยู่ต่อหน้าเธอ เขาให้ซ่งเถาตรวจสอบก่อนหน้าที่เธอจะนอนกับเขาในคืนนั้น เธอไม่เคยคบหาหรือนอนกับชายอื่นเลย ฉะนั้นเขาจึงมั่นใจว่าลูกในท้องของเสี่ยวหลิงต้องเป็นลูกของเขาแน่นอน และนั่นก็ทำให้เขาสับสนและคิดมากตลอดมาเพราะเธอทำตามที่เธอเขียนในกระดาษจริง ๆ เธอไม่เคยมาหาหรือมาเรียกร้องอะไรจากเขาเลย มีแต่เขาที่คอยเฝ้าตามเธออยู่ไม่ห่าง
“อะไร! ที่พูดเมื่อครู่เรื่องจริงเหรอ” จู่ ๆ เสียงของหยางฟงได้ดังขึ้น
“พี่หยางฟงมาร่วมงานนี้ด้วยหรือคะ”
“ใช่..แต่ว่าเรื่องที่หรูเหยาพูดเมื่อครู่นั่นเรื่องจริงเหรอ”
“ใช่ค่ะ ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะที่ตอนนี้เสี่ยวหลิงไม่ได้โสดอย่างที่ฉันเคยแนะนำ”
“ไม่โสดฉันก็ไม่แคร์หรอกนะ ชีวิตของเธอช่างน่าสงสารฉันเองก็เคยมีครอบครัว เรื่องแค่นี้ฉันรับได้เพราะฉันถูกกชะตากับคุณเสี่ยวหลิงจริง ๆ เอาไว้พรุ่งนี้ต้องไปหาที่ร้านหน่อยแล้ว”
“อย่าบอกนะว่านายรับได้ไม่ว่าเธอจะท้องลูกของใคร” เทียนเฉินพูดน้ำเสียงเรียบเฉยสะกดอารมณ์หงุดหงิดใจเอาไว้จนเส้นเลือดที่ใบหน้าปรากฎขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
“ใช่นะสิ เธอน่าสงสารยิ่งท้องไม่มีพ่อ ชีวิตของเธอเคยเป็นเด็กกำพร้าคงไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กกำพร้าเหมือนตัวเองหรอก เพียงแค่โชคไม่ดีเจอผู้ชายชาติชั่วที่ไม่สนใจชีวิตคนอื่น สนใจแค่ชีวิตตัวเองทั้ง ๆ ที่ไข่เอาไว้แต่ไม่รับผิดชอบ ฉันจะยอมรับเป็นพ่อของเด็กเองหากคุณเสี่ยวหลิงเปิดโอกาสให้ ขอบคุณหรูเหยาที่บอกเรื่องนี้นะ” หยางฟงพูดด้วยความแน่วแน่ใบหน้าจริงจังจนหรูเหยาต้องยกมือมาทาบอกทราบซึ้งแทนเพื่อนของตัวเอง
“ฉันดีใจจริง ๆ ที่เสี่ยวหลิงจะได้พบเจอคนที่ดีเหมือนพี่หยางฟง ฉันฝากเพื่อนของฉันด้วยนะคะ” หยางฟงยิ้มรับก่อนจะเดินไปที่อื่นเพราะเขาคือหุ่นส่วนบริษัทที่จัดงานเลี้ยงในคืนนี้ ส่วนเทียนเฉินเขากำแก้วไวน์ในมือแน่น กระดกเข้าปากรวดเดียวในใจร้อนรุ่มยิ่งกว่าเดิม ที่ได้ยินคำพูดของเพื่อนรัก
ตอนที่ 23 อับอายขายขี้หน้าหลังจากคุยกันเสร็จเสี่ยวหลิงก็ออกไปจากห้องรับแขก เทียนเฉินให้สาวใช้พาเสี่ยวหลิงขึ้นไปพักที่ห้องของเขา ส่วนเขาได้เข้ามาคุยกับหยางฟง“ฉันคิดว่านายจะไม่มาร่วมงานเพราะโกรธเรื่องเสี่ยวหลิงเสียอีก นายคงรู้มาบ้างจากคนอื่นในงานสินะถึงมาหาถึงที่บ้าน ”“ใช่ ! และฉันก็รู้มาบ้างจากคุณเสี่ยวหลิงว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันดีใจนะที่แกคิดได้ก่อนที่จะสายไปและคิดไม่ถึงเลยว่าคุณเสี่ยวหลิงจะใจกล้าบุกพังงานหมั้นของนาย ”“เธอเป็นคนแบบนั้นตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรผู้หญิงคนนี้ใจกล้า กล้าได้กล้าเสี่ยงจนไม่คิดถึงใจคนอื่นเลยสักนิด ”“แล้วนายจะทำยังไงต่อไป คุณหรูเหยาจากที่ได้ยินมาก็ร้ายใช่ย่อย เป็นเพราะเธอหลงรักนายไม่อยากให้นายเป็นของใคร ฉันคิดว่าเธอคงไม่ยอมและหยุดอยู่แค่นี้แน่ ๆ”“เรืองนั้นฉันรู้และคิดหาทางรับมือเอาไว้บ้างแล้ว หวังว่าทางนั้นจะยอมเลิกลากันโดยดี” เทียนเฉินพูดพลางครุ่นคิด เขารู้เรื่องและมีหลักฐานที่ตระกูลมู่เกี่ยวข้องกับตลาดมืด หากเอาเรื่องนี้ไปต่อรองคงไม่ยากที่ทางนั้นจะยอมแยกย้ายต่างคนต่างอยู่ พรุ่งนี้เขาจะเข้าไปหาคุณพ่อของหรูเหยาด้วยตัวของเขาเอง ทั้งสองคุยกันอยู่นายจนหยา
ตอนที่ 22 พาเข้าบ้าน“นายทำแบบนั้นคุณพ่อคุณแม่นายไม่โกรธนายหรือไง แล้วบอกที่จะออกจากตระกูลไป๋นายใช้สมองส่วนไหนคิดทำแบบนี้ยิ่งทำให้เรื่องมันใหญ่ไปมากกว่าเดิมไม่ใช่หรือไง”“เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่เรื่องใหญ่ที่สุดคือเรื่องที่หรูเหยาส่งคนมาทำร้ายเธอมากกว่าเธอไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนใช่มั้ย?” เทียนเฉินร้อนอกร้อนใจรีบจับตัวของเสี่ยวหลิงหันซ้ายหันขวาเมื่อเดินออกมาอยู่หน้าโรงแรมก่อนจะสั่งให้ซ่งเถาไปเอารถมาเพื่อพาเสี่ยวหลิงไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล“ซ่งเถาไปนำรถมา รีบพาเสี่ยวหลิงไปโรงพยาบาลเร็วเข้าหากลูกของฉันได้รับผลกระทบฉันไม่ไว้หน้าครอบครัวตระกูลมู่แน่นอน”“หยุด ๆ ฉันไม่ได้รับบาดเจ็บสักนิดเพราะความรอบคอบของนายที่ให้คนคอยเฝ้าดูแลความปลอดภัย ฮึ ๆ ไม่คิดเลยว่าคนที่เคยเกลียดชังฉันจะห่วงใยจนแสดงออกทางสีหน้าจนหมด ว่าแต่เมื่อครู่นี้ฉันเห็นคุณแม่ของนายหมดสติไป ท่านจะเป็นอะไรหรือเปล่า”“เธอไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก คุณพ่อคุณแม่รักฉันต่อให้ฉันบอกว่ายอมออกจากตระกูลไป๋ตัดขาดความเป็นลูก ท่านทั้งสองไม่มีทางปล่อยไปง่าย ๆ ซ่งเถาเดินทางไปที่สถานีตำรวจเร็วเข้าฉันกลัวว่าคนพวกนั้นจะถูกปล่อยไปก่อนที่เราจะไปถึง
ตอนที่ 21 มาตามหาสามีงานหมั้นถูกจัดที่โรงแรมใหญ่ที่สุดในมณฑลเติ่งหัว แขกเหลือเริ่มเข้ามาแสดงความยินดี พิธีกำลังจะเริ่มใบหน้าของหรูเหยาเบิกบานมีความสุขสบายใจไม่มีเรื่องให้ต้องคิดมาก ส่วนเทียนเฉินใบหน้านิ่งเรียบในหัวของเขาตอนนี้คิดเรื่องแต่เรื่องของเสี่ยวหลิง หลังงานหมั้นเสร็จเมื่อไหร่เขาจะบอกความจริงกับคุณพ่อคุณแม่และบอกว่าเขามีลูกและภรรยาอยู่แล้ว อยากจะยกเลิกงานแต่งพร้อมยอมเสียค่าเสียหายให้แก่หรูเหยาหลายเท่าตัวเท่าที่ฝ่ายหญิงจะเรียกร้องค่าเสียหาย“วันนี้เป็นวันดีของลูกทั้งสองต่อจากนี้ครอบครัวของเราสองตระกูลจะเป็นหนึ่งเดียวกัน มณฑลเติ่งหัวไม่มีใครจะยิ่งใหญ่ไปกว่าเราแล้ว ฮ่า ฮ่า ใช่หรือไม่คุณนายไป๋”“แหม ๆ อย่าเรียกเป็นคนอื่นคนไกลสิคะ ต่อจากนี้เราเป็นทองเนื้อเดียวกันแล้ว ดูสิวันนี้ลูก ๆ ของเรามีความสุขขนาดไหนตอนนี้ก็ใกล้ถึงเวลาพิธีสำคัญแล้ว เราไปนั่งด้านนู้นกันเถอะค่ะ” คุณนายไป๋รีบชักชวนพ่อกับแม่ของหรูเหยาไปนั่งที่เก้าอี้เริ่มทำพิธีการต่อไปตอนนั้นนั่นเองเสียงโหวกเหวกโวยวายได้ดังขึ้นทุกคนต่างพากันหันไปมองเป็นตาเดียวกัน“ฮื้อ ๆ พี่เทียนเฉิน พี่ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไงไหนพี่บอกว่าจะแต่งกับ
ตอนที่ 20 ดักทำร้ายรุ่งเช้าวันต่อมาเสี่ยวหลิงระบมไปทั้งตัวแม้ว่าเขาจะนุ่มนวลกับเธอมากเพียงใดแต่ก็นานมาแล้วที่ร่างกายนี้ไม่ได้ร่วมหลับนอนกับใคร เธอลืมตาขึ้นมาไม่เห็นแม้แต่เงาของเทียนเฉินแล้ว เหลือเพียงไออุ่นที่ยังคงค้างคาบนเตียงนอนกับร่องรอยที่เขาฝากเอาไว้บนตัวเธอ“ฉันคงไม่ใจง่ายไปหรอกนะ ถึงยังไงฉันก็ไม่เชื่อคำพูดหวาน ๆ ของเขาเมื่อคืนนี้หรอก ผู้ชายเวลาอยากได้มักจะปากหวานอย่างนี้ทุกคน ดูสิเมื่อคืนนอนกอดฉันอยู่ทั้งคืน ตื่นเช้ามากลับไปเข้าพิธีหมั้นกับผู้หญิงอีกคน นายมันเห็นแกได้จริง ๆ แต่ก็ช่างเถอะเพราะนี่ก็เป็นความต้องการของฉันเหมือนกัน วันนี้ฉันต้องแสดงบทผู้หญิงน่าสงสารเรียกร้องหาสามีเสียหน่อยแล้ว” เสี่ยวหลิงลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเตรียมจะออกไปงานหมั้นของเทียนเฉินระหว่างที่เธอแต่งหน้าอยู่เสียงประตูได้ดังขึ้น เสี่ยวหลิงคิดว่าซ่งเถามารับเธอไปส่งที่ร้านเหมือนเมื่อวาน เธอยิ้มกริ่มแม้แต่ซ่งเถาเธอก็ไม่ให้รู้เด็ดขาดว่าเธอจะไปทำลายงานหมั้นเมื่อซ่งเถาไปส่งที่ร้านแล้วเธอจะเดินทางไปที่งานหมั้นด้วยตัวเอง เธอหยิบกระเป๋าก้าวเท้าเดินออกไปเปิดประตูทันทีที่เธอเปิดประตูคนที่มาไม่ใช่ซ่งเถาอย่างที่ควรจะเป็น
บทที่ 19 ครั้งนี้ไม่ใช่ความผิดพลาดเธอเลือกชุดที่จะใส่ไปงานหมั้นในวันพรุ่งนี้เสร็จแล้วก็ออกจากห้องมาพร้อมอาหารที่เอาออกมาจากมิติ ทำการอุ่นอาหารมารวางไว้บนโต๊ะเตรียมพร้อมจะกิน จู่ ๆ เสียงประตูได้ดังขึ้น คิ้วของเธอขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย หากเป็นเทียนเฉินทำไมเขาถึงกลับมาเร็วขนาดนี้“คงจะเป็นคุณซ่งเถาสินะ”“คุณซ่งเถายังไม่กลับหรือคะ? มานั่งกินข้าวด้วยกันมั้ยฉันทำอาหารเยอะมากพอที่จะแบ่งค่ะ คุณเฝ้าอยู่หน้าห้องแบบนี้คงหิวแย่ เทียนเฉินเป็นเจ้านายที่ขูดเลือดขูดเนื้อกับลูกน้องจริงๆ ตอนนี้ถึงเวลาพักผ่อนแต่กลับใช้ให้ยืนอยู่หน้าห้อง หน้าเลือดจริง ๆ ” เสี่ยวหลิวก้มหน้าตักข้าวใส่ชามโดยไม่ได้มองด้วยซ้ำว่าคนที่เข้ามาไม่ใช่ซ่งเถาแต่เป็นเทียนเฉินต่างหาก“หึ! ใช่ฉันมันหน้าเลือด เก่งเสียจริงนะกล้าพูดถึงฉันลับหลังแบบนี้” เทียนเฉินแสยะยิ้มเมื่อได้ยินเสียงบ่นของเสี่ยวหลิง ความรู้สึกหงุดหงิดอึดอัดใจเมื่อครู่จางหายไปหมด ตอนนี้เขาให้ซ่งเถากลับไปแล้วก่อนจะเดินเข้ามาเห็นเสี่ยวหลิงกำลังวุ่นวายกับอาหารอยู่บนโต๊ะทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย“ทำไมนายถึงกลับเร็วแบบนี้ ไปกินข้าวกับหรูเหยามาไม่ใช่หรือไง! แต่มาแล้วก
ตอนที่ 18 ไม่สมควรเสี่ยวหลิงอยู่ร้านทั้งวันอย่างที่เธอบอก จนกระทั่งดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง เธอเก็บของใช้เตรียมตัวกลับอพาร์ทเมนท์ของเทียนเฉิน ตอนนั้นหูของเธอได้ยินเสียงรถยนต์ดับลงหน้าร้าน ในใจคิดว่าเป็นซ่งเถาและก็เป็นอย่างที่เธอคิดจริง ๆ“เฉี่ยวซือฉันกลับก่อนนะ เธอกวาดร้านเสร็จแล้วปิดร้านกลับไปพักผ่อนเถอะเหนื่อยมาทั้งวัน วันนี้ลงของเยอะเสียด้วยคงปวดหลังแย่ ฉันก็ช่วยอะไรหนัก ๆ ไม่ค่อยได้ปล่อยให้เธอใช้แรงอยู่คนเดียวเลย”“เรื่องแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อยพี่เสี่ยวหลิงไม่ต้องเกรงใจ ฉันเก็บกวาดตรงนี้เสร็จแล้วจะปิดร้านเองพี่เดินทางปลอดภัยนะคะ” เฉี่ยวซือตอบกลับพลางก้มกวาดพื้นต่อ เสี่ยวหลิงเดินออกมาหน้าร้านซ่งเถารีบเปิดประตูให้เธอขึ้นไปนั่งด้านหลังคนขับทันที“ไม่เห็นต้องทำแบบนี้กับฉันก็ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะเปิดเอง”“ผมทำตามคำสั่งครับ อยากไปไหนก่อนกลับเข้าที่พักมั้ยครับ? หรือมีของที่อยากได้หรือเปล่าบอกได้นะครับผมจะพาไปทุกที่ที่คุณต้องการ"“ไม่ค่ะ ฉันอยากกลับไปพักแล้วนั่งทั้งวันปวดหลังไปหมด” เสี่ยวหลิงมีเรื่องที่จะต้องทำก่อนที่เทียนเฉินจะกลับมาดังนั้นเธอจึงอยากกลับเข้าที่พักก่อนเขา“ได้คร