ไรต์เหนื่อยใจกับสองคนนี้ จะรักกันกี่โมงเนี่ย ดูท่าจะต้องลำบากสามแฝดอีกแล้วววว
“ชิงหยวน ช่วยผมด้วย”ซ่งเจียซินขมวดคิ้วเรียวจดจำได้ในทันทีว่าเสียงจากปลายสายคือหลี่โจวอี้“เกิดอะไรขึ้น แล้วคุณอยู่ที่ไหน”“ไป๋ชิงหลันเธอวางยาปลุกอารมณ์ผม ตอนนี้ผมอยู่ที่โรงแรมของตระกูลฮั่ว”ซ่งเจียซินถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ถูกตระกูลฟู่หรือเจียงชิงชุนเล่นงานแค่ถูกไป๋ชิงหลันวางยาปลุกอารมณ์เท่านั้น...เมื่อคิดถึงความสนิทสนมของหลี่โจวอี้กับไป๋ชิงหลันในงานเลี้ยงสมาคมฟู่หลันครั้งก่อน ซ่งเจียซินก็รู้สึกหงุดหงิดโดยไม่มีเหตุผล ไป๋ชิงหลันกับเขาก็คนคุ้นเคยกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง ยังต้องโทรศัพท์มาบอกเธอให้ไปช่วยอีกทำไมกัน“คุณจะทำเรื่องแบบนั้นกับเธอ ยังต้องโทรศัพท์มาบอกฉันด้วยหรือ”“ชิงหยวน ผมไม่เต็มใจทำเรื่องแบบนั้นกับชิงหลัน ตอนนี้ไม่เต็มใจทำ ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยทำ คุณรีบมาช่วยผมที”ตอนนี้ไม่เต็มใจทำ ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยทำ เมื่อได้ยินประโยคนี้ในใจของซ่งเจียซินก็เกิดความรู้สึกยินดีขึ้นมา ความหงุดหงิดไม่พอใจก่อนหน้านี้หายไปจนหมดสิ้นรีบตอบรับเขาด้วยความร้อนใจ“บอกเลขห้องของคุณมา ฉันจะรีบไป”“2301 ชิงหยวนคุณรีบหน่อยนะ ผมจะไม่ไหวแล้ว”ถึงแม้ตอนที่ถูกพาตัวขึ้นห้อง สายตาของหลี่โจวอี้จ
“ข้อแลกเปลี่ยนของฉันไม่ยุ่งยากมากค่ะ ฉันแค่... ต้องการให้คุณช่วยกันตัวฉันออกจากคดีของตระกูงฟู่ก็พอ”หลี่โจวอี้กำมือแน่น แต่เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วก็พยักหน้าตอบรับคำของไป๋ชิงหลัน“ตกลง”พูดจบก็ยื่นมือไปรับเอกสารจากหญิงสาว ทว่าไป๋ชิงหลันกลับวางมือของเธอลงบนฝ่ามือหนาแทน“ชิงหลัน อย่ามาล้ำเส้นฉัน!”หลี่โจวอี้รีบเก็บมือของตนเองคืน พร้อมกับตวาดเสียงดุโต้กลับในทันที“แหม... ก่อนหน้านี้ไม่เห็นคุณจะหวงตัวกับฉันขนาดนี้เลย”“อย่ามาเล่นลิ้นส่งหลักฐานมา”“ไม่มีค่ะ”“ไป๋ชิงหลัน!”หลี่โจวอี้ตวาดเสียงดุอีกรอบ ดวงตาคมชัดเจนถึงความไม่พอใจ ทว่าไป๋ชิงหลันกลับไม่มีท่าทางหวาดกลัวเลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับยิ้มกว้างแล้วพูดเสียงราบเรียบ“ถึงฉันจะเป็นผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้โง่ขนาดที่จะพกหลักฐานสำคัญแบบนั้นติดตัวมาด้วยนะคะ”ไป๋ชิงหลันพูดจบก็โน้มตัวลงมาหาชายหนุ่มแล้วพูดเสียงเบายั่วยวน“ฉันยังมีภาพถ่ายความสนิทสนมของคุณเสวี่ยกับคุณเจียงด้วยนะคะ”“ชิงหลัน อย่าให้มันมากไปนัก ส่งหลักฐานพวกนั้นมาให้ฉันก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน”“ใจร้อนขนาดนี้คุณก็ไปเอาเองก็แล้วกันค่ะ”ไป๋ชิงหลันยื่นกุญแจห้องพักโรงแรมดังให้กับหลี่โจวอี้ ชายหนุ่
เช้าวันต่อมาเด็กชายทั้งสามไปโรงเรียนตามปกติ ส่วนคนแขนเจ็บเดิมทีคิดจะลางาน แต่เพราะเรื่องของเจียงชิงชุนยังไม่เรียบร้อย เขาจึงต้องไปจัดการให้แล้วเสร็จ เพื่อไม่ให้เกิดช่องโหว่จนคนตระกูลฟู่ใช้บิดพลิ้วหลบเลี่ยงความผิดได้“นี่เป็นเอกสารความผิดทั้งหมดของตระกูลฟู่ นายตรวจสอบได้เลย”เฟิ่งเฉิงเย่ววางรายงานทั้งหมดลง หลี่โจวอี้มองเอกสารตรงหน้าพลางตวัดสายตามองเพื่อนสนิท“นี่มันงานของนายไม่ใช่หรือไง”เขาเป็นแพทย์ทหารหน้าที่ของเขาคือตรวจสอบยาผิดกฏหมายที่ตระกูลฟู่จำหน่าย ส่วนเรื่องอื่นๆ เป็นส่วนของเฟิ่งเฉิงเย่วที่ต้องจัดการ“โธ่... นายพลหลี่ครับ ช่วงนี้คุณไม่มีคนไข้สักหน่อย ถือว่าช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชาสักหน่อยเถอะนะครับ”“นายไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาของฉัน”“อย่างนั้นก็เพื่อจัดการศัตรูหัวใจ โจวอี้... นายลองคิดดูสิ หากครั้งนี้เราจัดการตระกูลฟู่ให้ล้มแบบราบคาบไม่ได้ เจียงชิงชุนก็จะมีคนช่วยให้พ้นผิด คนคลั่งรักแบบนั้นไม่มีทางปล่อยคุณเสวี่ยภรรยาของนายไปแน่นอน”“หากมันกล้าก็ลองดู”พูดจบก็หลี่โจวอี้หยิบเอกสารตรงหน้ามาตรวจสอบในทันที เฟิ่งเฉิงเย่วมองดูสหายสนิทแล้วยกยิ้มกว้าง หากเทียบความคลั่งรักคุณเสวี่ย ระ
หลังจากที่สิงฉู่หรันจากไปทุกคนก็กลับเข้าบ้าน โดยมีหูหลินอิง อู๋จินอ้าย และเหอเถา เดินตามทั้งน้ำตาแห่งความยินดีที่ทุกคนกลับมาอย่างปลอดภัย “คุณหลี่ครับ แขนขวาของคุณบาดเจ็บหรือครับ”เหอเถาถามด้วยความกังวล เมื่อเห็นว่าที่ต้นแขนของหลี่โจวอี้มีรอยเลือดซึมออกมาเป็นวงกว้าว หลี่โจวอี้ยกแขนของตนขึ้นมาดูอาการปวดร้าวทำให้เขาขมวดคิ้ว กัดกรามแน่นต่อหน้าเสวี่ยชิงหยวนเขาจะอ่อนแอให้เธอเห็นได้อย่างไรกัน แต่ว่าก่อนหน้านี้ตอนที่นั่งรถเร่งไปช่วยเสวี่ยชิงหยวนที่สนามบิน เขาก็ได้รับการทำแผลจากคนติดตามแล้วแท้ๆ ทำไมตอนนี้ถึงได้มีเลือดซึมออกมาได้กัน แบบนี้เสงี่ยมชิงหยวนจะมองว่าเขาอ่อนแอไร้ความสามารถหรือไม่ซ่งเจียซินหันมาจับต้นแขนของชายหนุ่มมองดู เมื่อเห็นว่ามีรอยเลือดเป็นวงกว้างซึมออกมาจริงๆ ก็รีบจับแขนของเขามาสำรวจ“คุณบาดเจ็บตอนไหนกัน”"เอ่อ..."“ต้องเป็นตอนที่พ่อไปช่วยพวกเราแน่ๆ ผมจำได้ตอนนั้นมีคยร้ายตั้งสี่คน พ่อสู้อยู่คนเดียว เลยถูกลอบทำร้ายจากข้างหลังได้แผลยาวแล้วก็ลึกมากด้วย แต่เพราะเป็นห่วงแม่มาก ขนาดคุณลุงเฟิ่งให้ทำแผลก่อนก็ไม่ยอม จะต้องไปช่วยแม่ให้ได้"เป็นหลี่จื่อชิงที่อธิบายแทนคนเป็นพ่อ วันนี้ที่โ
“แม่!”เสียงของเด็กชายสามคนร้องพร้อมกันในทันทีที่ซ่งเจียซินเปิดประตูเข้ามาในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาล ร่างเล็กวิ่งเข้าจับแขนของมารดาเลี้ยง สำรวจรอบตัวคนด้วยความห่วงใย“แม่บาดเจ็บตรงไหนไหมครับ”“คุณลุงเจียงทำอะไรแม่ไหม”หลี่จื่อชิงและหลี่จื่อรั่วผลัดกันถามไถ่ ในขณะที่หลี่จื่อหมิงยืนนิ่งแต่สายตาจดจ้องกวาดมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของมารดา ก่อนจะเห็นว่าที่ข้อมือซ้ายของเธอมีรอยแดงช้ำ สองขาก้าวตรงเข้ามาจับยกแขนเรียวขึ้นตรวจสอบในทันที โดยไม่สนว่าจะเบียดคนเป็นพ่อที่ยืนอยู่กระเด็นออกไป“ฝีมือลุงเจียงหรือครับ”ซ่งเจียซินยิ้มแห้ง ไม่กล้าเอ่ยตอบว่ารอยช้ำนี้เกิดจากฝีมือคนเป็นพ่อของพวกเขาที่ฉุดกระชากเธอมาจากเจียงชิงชุนอย่างรุนแรง อีกทั้งยังจับยึดแน่นมาตลอดทาง“ผมจะไปตามคุณหมอมาตรวจให้”หลี่จื่อหมิงบอกเสียงเข้มพร้อมกับตรงไปที่ประตู ซ่งเจียซินไม่ต้องการให้เรื่องราวใหญ่โต จึงรีบจับคนเอาไว้ย่อตัวดึงเด็กชายทั้งสามมาไว้ในอ้อมแขน“แม่ไม่เป็นอะไร ลูกๆ ล่ะ เจ็บตรงไหนกันไหม กลัวกันหรือเปล่า”“พวกเราเป็นผู้ชายเรื่องแค่นี้ไม่กลัวอยู่แล้วครับ ตอนที่ถูกพวกมันข่มขู่ก็ไม่กลัว”หลี่จื่อชิงตอบด้วยท่าทางแข็งขัน จนหลี่
หลี่โจวอี้และทีมทหารของเฟิ่งเฉิงเย่วเดินทางไปตามพิกัดต้องสงสัย เมื่อพบตึกสูงอยู่ตรงข้ามกับร้านหมาล่าหม้อไฟตามที่หลี่จื่อหมิงบอกใบ้เอาไว้ ก็เริ่มดำเนินการตามแผนการในที โดยแผนที่ว่านี้ก็คือเฟิ่งเฉิงเย่วจะจัดการชายเจ็ดคนที่อยู่ด้านล่าง ส่วนหลี่โจวอี้จะขึ้นไปจัดการชายสี่คนด้านบนทว่าขณะที่หลี่โจวอี้กำลังแอบลอบขึ้นไปที่ชั้นบนเพื่อเข้าช่วยเหลือลูกชายทั้งสาม เสียงปืนก็ดังมาจากด้านล่าง ปัง! สายตาชายฉกรรจ์สี่คนซึ่งทำหน้าที่ยืนเฝ้าหน้าประตูห้องหันมามองทางเขาในทันที“บัดซบ! รีบรายงานเจ้านาย เร็ว!”ชายคนหนึ่งตะโกนก่อนจะชักปืนออกมายิงใส่โรมรัน หลี่โจวอี้เองก็ไม่ใช่คนไร้ฝีมือ แม้ว่าเขาจะสังกัดกรมแพทย์ทหารทว่าทักษะความสามารถใดๆ ที่ทหารพึ่งมีเขาเองก็ล้วนชำนาญครบทุกด้าน รีบชักปืนออกมายิงไปที่โทรศัพท์เพื่อตัดการติดต่อของคนร้ายตรงหน้ากับเจียงชิงชุน ก่อนจะหมุนปลายกระบอกปืนเหนี่ยวไกโต้ตอบกันไปมาสุดท้ายอีกฝ่ายก็ตกตายไปหนึ่ง พร้อมกับกระสุนในมือที่หมดลงทั้งสองฝ่ายดังนั้นการต่อสู้จึงเปลี่ยนเป็นการตอบโต้ด้วยมือเปล่าและมีด คนร้ายคนที่หนึ่งพุ่งเข้าโจมตีหลี่โจวอี้ด้วยมีดสั้น เขาเบี่ยงตัวหลบและใช้ศอกกระแทกเข้าที่