ฉยงฮวาสืบมาเป็นเวลานานมากแล้วแต่ไม่มีข่าวอะไรเลย เกรงว่าจะตายไปนานแล้วฉินเหยี่ยนเย่ว์หลุบตาลงสำหรับหู่พั่วแล้ว นางพูดไม่ได้ว่าชอบ แล้วก็ไม่ได้สนใจหู่พั่วมากนักเพียงแค่รู้สึกได้อย่างคลุมเครือว่าหู่พั่วจะไม่ตายไปง่าย ๆ เช่นนั้นหลังจากที่นางเงียบไปสักพัก ก็พบตำแหน่งที่สบาย และนอนตะแคง“หากมีข่าวครา
หลังจากกลับมาถึงจวนอ๋อง ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็กระโดดลงจากรถม้าและเดินขึ้นไปที่ศาลาจากศาลาสามารถชมทิวทัศน์ด้านนอกได้นางเห็นท่าทางของหลิ่วฉือที่กำลังคุ้มกันชื่อเจี้ยนขณะที่จากไป จึงยิ้มบาง ๆ“พระสนมเหยาเป็นคนที่มีความสามารถ นางเพิ่งจะยอมรับน้องชายไปเองก็เริ่มมองหาคู่ให้หลิ่วฉือเสียแล้ว แล้วยังถูกใจชื่อเจ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์อดมิได้ที่จะเปิดหน้าต่างออกมาดูทิวทัศน์ที่อยู่ด้านนอกโคมไฟตามถนนหนทางธรรมดาถูกเก็บไปหมดแล้ว เหลือเพียงโคมไฟที่ใกล้จวนอ๋องนั้นที่ยังคงสว่างแวววาวออกมาอยู่ สิ่งก่อสร้างรอบ ๆ จวนอ๋องนั้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นที่พักอาศัยเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์พวกเขาหาได้เสียดายเทียนที่อยู่บนกำแพงไม่ เพี
ตงฟางหลีหลุบสายตาลงเล็กน้อยหลายปีที่ผ่านมานี้ราชวงศ์ตงลู่อู้ฟู้เป็นอย่างมาก ข้าวสารอาหารแห้งเต็มคลังเสบียง กองคลังมีสมบัติมากมาย นั่นแสดงให้เห็นว่าในยามนี้บ้านเมืองมีความรุ่งเรืองมากเพียงใดทว่า ไม่ว่าจะร่ำรวยเพียงใด แต่ก็ยังมีสถานที่ที่มีความยากจนอยู่ดีปัญหาในตอนนี้ก็คือ ขุนนางและคนร่ำรวยในราชวงศ
“บนหอสังเกตการณ์แห่งนี้ เสียงของผู้คนจะดังขึ้นเป็นสองเท่าจากปกติ ดังจนหูอื้อ เสมือนกับว่ากำลังสื่อสารกับด้านบนสรวงสวรรค์ เมื่อมีงานเทศกาลใหญ่ ๆ มาเยือน เสด็จพ่อก็มักจะมาที่หอสังเกตการณ์แห่งนี้ เพื่อขึ้นมารับฟังเสียงสวรรค์ เพื่อบอกกล่าวกับราษฎรทั้งหลาย” ตงฟางหลีเอ่ยอธิบายฉินเหยี่ยนเย่ว์พยักหน้าลงเล็
เดิมทีตงฟางหลีหาได้ต้องการมากมายเพียงนี้ไม่ทว่า ชายชรายืนกรานที่จะให้เขาเมื่อตงฟางหลีเงยหน้าขึ้นมามองนั้น เขากลับเห็นว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์เดินหนีไปไกลแล้ว จึงมิคิดปฏิเสธอีก ก่อนจะรีบไล่ตามนางไปในทันที“ยัยหนู ถังหูลู่”เมื่อฉินเหยี่ยนเย่ว์หันกลับมานั้น พลันเห็นว่ามีถังหูลู่มากมายกองอยู่ในมือของเขาในท