Share

๕ ชีวิตเขาเป็นของนาง

last update Dernière mise à jour: 2025-05-29 08:48:38

บาดแผลจากรอยแทงของเฝิงอวี่เซี่ยนนับว่าสาหัสอยู่มาก ตอนที่เชิญท่านหมอมารักษายังเอ่ยปากว่า บุรุษผู้นี้ก้าวขาข้างหนึ่งเข้าสู่ปรโลกแล้ว หากจะมีชีวิตรอดต่อไปได้ล้วนขึ้นอยู่กับโชคชะตาที่สวรรค์ลิขิต

ยามนี้นั้น ผ้าพันแผลสีขาวที่พันรอบเริ่มซึมไปด้วยโลหิตสีแดงฉานคาดว่าบาดแผลคงปริแตกแล้ว

“เฝิงอวี่เซี่ยน!”น้ำเสียงหวานร้องด้วยความตกใจ นัยน์ตาเมล็ดซิ่งมองเลือดที่ไหลทะลักออกมาไม่หยุด

นางไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เขาเจ็บหนักกว่าเดิมแต่ผู้ใดใช้ให้เขาบีบคอนางจนแทบหมดหนทางหายใจเล่า!

เฝิงอวี่เซี่ยนพลันยกมือกุมบาดแผลพลันกระอักเลือดออกมาอีกครา ใบหน้าของเขาแสดงความเจ็บปวดออกมาอย่างปิดไม่มิดก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา “ออกไปให้ห่างจากข้า”

หลี่จื่อหนิงยื่นมือออกไปหมายจะตรวจดูบาดแผล ทว่าจู่ๆ มือหนากลับปัดออกอย่างไม่ไยดี

“ข้าขอดูหน่อย” นางกล่าวขึ้นอย่างร้อนใจ

 

เฝิงอวี่เซี่ยนเหลือบมองสตรีตรงหน้า สายตาคมกริบฉายด้วยความแข็งกร้าว มุมปากหนาโค้งยกยิ้ม “ข้าไม่ต้องการเป็นหนี้บุญคุณผู้ใดอีก”

พอได้ยินประโยคนี้ นางชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าสบตากับอีกฝ่ายทันที หลี่จื่อหนิงพลันหัวเราะออกมาเบาๆ กล่าวเสียงความหนักแน่น “ชีวิตของท่านเป็นของข้าแล้วเช่นนั้นไม่มีอันใดต้องทวงคืนและหากท่านเป็นอะไรไปนั่นย่อมเป็นความรับผิดชอบของข้า”

สตรีเจ้าเล่ห์!

เฝิงอวี่เซี่ยนสบถด่านางอยู่ในใจทันที เขากัดฟันกรอดกล้ำกลืนความโกรธลงท้องไปพยายามตั้งสติ

ในสายตาของเขา สตรีเป็นสิ่งน่ารำคาญทว่าเจียงชุนหลินกลับเป็นข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียวสำหรับเฝิงอวี่เซี่ยน ตลอดชีวิตเขาเลือกที่จะไม่ข้องแวะกับให้เกิดอารมณ์ขุ่นมัวใจแต่หากสตรีผู้นี้ยังคงยั่วโทสะเขาไม่เลิก…ความอดทนของเขาก็มีขีดจำกัดเช่นกัน!

“ตกลง…จะให้ข้าช่วยหรือจะปล่อยให้เลือดไหลหมดตัว” น้ำเสียงหวานดังขึ้นอีกครั้ง หลี่จื่อหนิงลุกขึ้นยืน กอดอกปรายสายตามองราวกับว่าถือไพ่ในมือเหนือกว่าทั้งนางเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย

“ชีวิตข้าเป็นของเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ…นึกไม่ถึงว่าคำพูดนั้นจะเป็นเพียงแค่ลมปากเท่านั้น” เฝิงอวี่เซี่ยนย้อนกลับ

อย่างไรเสีย หากไม่ตายครานี้เขาก็ปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อเอาคืนอีกฝ่ายอย่างสาสม

หลี่จื่อหนิงได้ยินแล้วถอดหายใจออกมา ใบหน้าคนงามระบายยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ “เช่นนั้นท่านก็ยืนยันแล้วว่าชีวิตของท่านหาใช่ของท่านอีกต่อไปเฝิงอวี่เซี่ยน…แต่เป็นของข้า”

 

 

หลี่จางเหว่ยกลับถึงจวนอีกครั้งก็ยามพลบค่ำแล้ว ทันทีที่ก้าวข้ามพ้นหน้าประตูจวนก็พลันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นับว่าเป็นเรื่องดีไม่น้อยที่วันนี้ไม่มีสาวใช้วิ่งแจ้นเข้ามารายงานเรื่องวุ่นวายเฉกเช่นทุกวัน

ทว่าความรู้สึกผ่อนคลายนั้นอยู่ได้ไม่นาน จื่อจางเหว่ยกลับต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง  

เกรงว่านางคงไม่ได้เอาแต่นั่งเฝ้าบุรุษผู้นั้นทั้งวันกระมัง

พอนึกถึงเรื่องนี้ จื่อจางเหว่ยก็พลันหมุนตัวเดินไปอีกทางโดยทันที ฝีเท้าของเขาหนักแน่นทุกย่างก้าว แผ่นหลังเหยียดตรง แววตาฉายความเยือกเย็นออกมาอย่างเห็นได้ชัด

ท่าทางของจื่อจางเหว่ยในยามนี้บ่งบอกได้ชัดเจนว่าเขาไม่พอใจอยู่มาก

นางช่างสรรคหาเรื่องให้เขาไม่พ้นในแต่ละวันจริงๆ!

หลี่จางเหว่ยเดินดุ่มๆ ไปข้างหน้าโดยไม่ทันได้สนใจสิ่งรอบตัว สายตาของเขาจับจ้องไปยังเรือนหลักเพียงอย่างเดียวทว่าในระหว่างทางผ่านห้องโถงนั้นก็พลันได้ยินน้ำเสียงหวานคุ้นหูของสตรีผู้หนึ่งพลันดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนต้องหยุดชะงักฝีเท้า ปรายสายตาหันไปมองดู

“พี่ชาย!”

“…”

“ท่านพี่!”

“…”

“พี่ชายข้าทางนี้!”

เหอะ! เหตุใดถึงไม่มีความเป็นกุลสตรี เรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้เลยแม้แต่น้อย!

หลี่จื่อหนิงมองเห็นเงาดำของใครบางคนเดินผ่านไปอย่างไม่ใส่ใจแต่พอมองให้ชัดก็พบว่าเป็นพี่ชายของนางเอง

เกรงว่าเขาคงมองไม่เห็นกระมังถึงได้เดินเลยผ่านไปเฉยๆ

น้ำเสียงหวานเจื้อยแจ้วของนางตะโกนร้องดังลั่นพร้อมกับโบกไม้โบกมือให้แก่อีกฝ่าย ใบหน้าของนางระบายรอยยิ้มอารมณ์ดี

จื่อจางเหว่ยพลางขมวดคิ้วมุ่น หรี่สายตาเพ่งมองนางก่อนจะเบนไปยังบุรุษอีกคนที่นั่งอยู่ข้างกัน น้ำเสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจถึงเจ็ดส่วน “เจ้ากำลังทำอันใดอยู่หลี่จื่อหนิง!”

คนผู้นั้นยังไม่ตายอีกงั้นหรือ!?

หึ! เกรงว่าแม้แต่ปรโลกก็ยังไม่อยากได้ชีวิตคนผู้นี้กระมัง

“เจ้ากำลังทำอันใดอยู่หลี่จื่อหนิง!”

“ข้ากำลังกินมื้อค่ำกับเฝิงอวี่เซี่ยน…หากท่านไม่รังเกียจ อยากจะร่วมวงด้วยกันหรือไม่” นางพลันตะโกนโต้ตอบกลับมา

พอได้ยินประโยคนี้ จื่อจางเหว่ยถึงกับถอนหายใจออกมาอีกครั้ง สายตาของเขาปรายมองเหล่าบ่าวรับใช้ในจวนทว่าพวกนั้นกลับหลบสายตาไม่มีใครกล้าสบตาเขาแม้แต่ผู้เดียว

สตรีผู้นี้โง่เขลาได้ถึงเพียงนี้เลยหรือไร!?

นางคิดว่าตัวเองเป็นสตรีออกเรือนกลายเป็นภรรยาของบุรุษผู้นั้นไปแล้วหรืออย่างไรกัน

“ข้าบอกแล้วอย่างไรว่าอย่างทำตัววุ่นวาย”

!!!

นางทำอันใดวุ่นวายกัน…หลี่จื่อหนิงครุ่นคิดครู่หนึ่ง หัวคิ้วขมวดมุ่นฉายแววความไม่เข้าใจออกมาอย่างชัดเจน “ท่านคิดมากเกินไปแล้วกระมังพี่ชาย”

“…”

หลี่จางเหว่ยไม่เอ่ยคำพูดใดออกมา เขาเดินพุ่งตรงไปยังห้องโถงทันทีก่อนที่เพียงชั่วอึดใจหนึ่งก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้านาง สายตาปรายมองเฝิงอวี่เซี่ยนเพียงแวบหนึ่งจากนั้นจึงหันกลับมา หลี่จื่อหนิงแทน

น้ำเสียงทุ้มต่ำกล่าวออกมาด้วยความจริงจัง “ข้าบอกแล้วอย่างไรว่าบุรุษผู้นี้ไม่สมควรจะข้องเกี่ยว”

“เขาสมควรต้องกินข้าว…”

รักษาชีวิตของพ่อตัวร้ายเอาไว้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด กว่าหลี่จื่อหนิงจะตามท่านหมอมาเปลี่ยนผ้าพันแผลให้เฝิงอวี่เซี่ยนเสร็จสิ้นก็ใช้เวลานานพอสมควรแล้วยังต้องพาเขาออกมากินข้าวอีก

นี่ไม่ต่างจากการหาภาระใส่ตัวเองเลยไม่แต่น้อย!

หลี่จื่อหนิงกระพริบตาปริบๆ เอ่ยออกมาเสียงเรียบ “ข้าไม่อาจปล่อยให้คนของข้าต้องอดตายได้”

คนของนาง?

หมายความว่าอย่างไรกัน!

ถ้อยคำนั้นทำให้หลี่จางเหว่ยต้องหยุดชะงัก สายตาคมกริบเบิกกว้างราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เกรงว่าคงเป็นเขาที่หูฝาดได้ยินผิดเพี้ยนไปเองกระมัง

“คนของเจ้าหรือ?” หลี่จางเหว่ยเลิกคิ้วเอ่ยถามราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

ยามนี้ใบหน้าของเขาขมวดคิ้วมุ่นย่ำแย่ไม่น้อย

เฝิงอวี่เซี่ยนนั่งอยู่ที่โต๊ะยังคงใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ใดๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาเหลือบตามองหลี่จางเหว่ยแวบหนึ่งก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ “ชีวิตของข้าเป็นของนางแล้ว...ไม่ว่านางเอ่ยอันใดข้าย่อมไม่อาจขัดขืนได้”

หมายความว่านางบังคับเขางั้นหรือ?

พอได้ยินประโยคนี้นางหันขวับมองตาขวางทันที เหตุใดกลับกลายเป็นว่านางใจร้ายไปได้ทั้งที้หวังดีเพียงนี้!

“หลี่จื่อหนิง!” หลี่จางเหว่ยปรายตามองน้องสาวตาขวาง แท้จริงแล้วสตรีผู้นี้คิดจะทำอันใดกันแน่

นางพยักหน้าหงึกๆ ด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ “หากจะกินก็นั่งลงเถอะ…ปานนี้เย็นจืดชืดไม่น่ากินแล้ว”

มีเหตุผลอันใดกันพี่ชายผู้นี้ของนางถึงได้หวาดระแวงไม่อยากข้องเกี่ยวกับเฝิงอวี่เซี่ยนมากเพียงนี้ ทั้งที่ชะตากรรมชีวิตของเขาน่าสงสารเวทนานัก

“ข้าไม่เห็นด้วย!” ใบหน้าของหลี่จางเหว่ยเต็มไปด้วยความโกรธและไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

นางพลันปรายสายตาหันไปสบเข้ากับหลี่จางเหว่ยก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความจริงจัง “ข้าตัดสินใจไปแล้วไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจเปลี่ยนใจได้”

 

 

 

 

 

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๓๑ ร่วมหอหนึ่งราตรีผูกพันนับร้อยวัน

    ภายในเรือนหอประดับประดาตกแต่งอย่างงดงาม โคมไฟสีและแสงเทียนสีแดงส่องแสงวูบไหวสะท้อนเงาลวดลายมงคลบนผ้าปูเตียงลายคู่นกยวนยาง ทั่วทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นของกำยานหอมจางๆ ราวกับพรให้กับคู่บ่าวสาวที่พึ่งแต่งงานใหม่เฝิงอวี่เซี่ยนยืนอยู่เบื้องหน้าม่านสีแดงสด…เขาสวมใส่อาภรณ์สีแดงเข้มมงคลที่ปักลวดลายอย่างประณีต ท่าทางสงบนิ่งดังเดิมทว่าภายในดวงตาคมกริบกลับสะท้อนแววอ่อนโยนออกมาอย่างปิดไม่มิดในยามนี้หลี่จื่อหนิงนั่งอยู่หลังม่าน ใต้ผ้าคลุมหน้าสีแดงใบหน้าของนางร้อนผ่าวเล็กน้อย จู่ๆ หัวใจก็เต้นกระหน่ำขึ้นมาแม้จะพยายามสงบอารมณ์ให้เป็นปกติก็ตามนางไม่รู้ว่าด้านนอกเขากำลังทำสีหน้าเช่นไรและไม่รู้ว่าเขาจะก้าวเข้ามาหานางเมื่อใด…หลี่จื่อหนิงฟังแต่เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ด้วยความประหม่า“วันนี้ทำเจ้าเหน็ดเหนื่อยไม่น้อย” น้ำเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นที่เบื้องหน้า เฝิงอวี่เซี่ยนค่อยๆ ก้าวเดินอย่างแผ่วเบานางเม้มริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะตอบออกมาเบาๆ“อืม...” วันนี้นางเหนื่อยมาจริงๆ หลี่จื่อหนิงถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่ท้องฟ้ายังมืดสนิทมิหนำซ้ำแล้ว ตลอดทั้งวันนางยังถูกพิธีการต่างๆ เคี่ยวกรำอย่างหนักกว่าจะได้พักผ่อนก็เ

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๓๐ บุพเพมิอาจหวนคืน

    เนิ่นนานหลายปีกว่าเฝิงอวี่เซี่ยนจะลบคำกล่าวหาได้…แม้ว่าคนผู้นั้นจะไม่ได้ลงไปคุกเข่าต่อบรรพชนสกุลเฝิงที่ปรโลกแล้วอย่างไรกัน แต่ทว่าในตอนนี้มีสภาพย่ำแย่แม้แต่ขุดหลุมหนียังทำไม่ได้“นายท่านเจ้าคะ...คุณหนูหลี่มาขอพบเจ้าค่ะ”เสียงสาวใช้ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัด มือที่กำลังตวัดพู่กันอย่างสงบนิ่งพลันชะงัก เฝิงอวี่เซี่ยนวางพู่กันลงบนแท่นหมึกอย่างไม่รีบร้อนก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง“นางมาแล้วหรือ”ใบหน้าที่เรียบเฉยมาตลอดทั้งวัน ทว่าบัดนี้กลับปรากฏรอยยิ้มจางๆ ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเหล่าสาวใช้ที่เฝ้ามองนายท่านของตนลอบขนลุกไม่น้อย แม้ว่าพวกนางจะคุ้นชินกับสีหน้าดังกล่าวมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลัง แต่ก็ยังอดรู้สึกแปลกประหลาดมิได้คงมีเพียงแต่คุณหนูหลี่เท่านั้นกระมังที่นายท่านยิ้มให้อย่างอ่อนโยนเช่นนี้“อวี่เซี่ยน!”น้ำเสียงหวานเจื้อยแจ้วดังขึ้นด้านนอกเรือน เฝิงอวี่เซี่ยนลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจากนั้นจึงก้าวออกไปหาอีกฝ่าย สายตาคมกริบเต็มไปด้วยความคะนึงหาหลี่จื่อหนิงเข้าออกจวนสกุลเฝิงราวกับเป็นจวนของอีกหลังของตนเอง และไม่มีผู้ใดกล้าปริปากห้ามปราม ใบหน้างามของนางประดับด้วยรอยยิ้มแจ่มใส ดวงตากลมโตกวาดมองสอดส

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๒๙ ไม่เหลือผูเใดอีกแล้ว

    ท่ามกลางราตรีที่เงียบสงัด ยามสายลมพัดมาโชยมาผ่านสวนดอกไม้ กลิ่นหอมอ่อนๆ ล่องลอยอบอวลไปในอากาศแต่ทว่าหาได้ช่วยปลอบประโลมจิตใจที่เดียวดายของเจียงชุนหลินได้… นางเงยหน้ามองจันทราบนท้องฟ้าครั้งแล้วครั้งเล่า นิ้วมือเรียวเคาะโต๊ะเบาๆ พลางจมดิ่งอยู่กับความคิดที่วกวนไม่สิ้นสุดและทุกครั้งที่สายตาปรายมองไปยังประตูจวน หัวใจของนางยิ่งรู้สึกหนักอึ้งเสมือนกับมีก้อนหินขนาดใหญ่กดทับเอาไว้จนแทบหายใจไม่ออก ดึกดื่นเพียงนี้ทั่วทั้งจวนต่างดับตะเกียงจนมืดมิด เหล่าสาวใช้ล้วนกลับเข้าเรือนนอนกันหมดแล้ว…แต่ทว่าผู้เป็นสามีกลับยังไม่กลับจวน นับแต่วันที่เฉิงอี้หยางเป็นผู้เอ่ยปากขอหย่าและนางตกปากรับคำ ทุกอย่างก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป ความสัมพันธ์ที่เคยแนบแน่น บัดนี้กลับห่างเหินยิ่งกว่าคนแปลกหน้า เมื่อต้องอยู่ต่อหน้ากันมีเพียงความอึดอัดและความเงียบงันเท่านั้น แต่หากว่าตามตรง เรื่องนี้เป็นความผิดของเฉิงอี้หยาง แล้วเหตุใดเขาถึงได้ทำราวกับเป็นฝ่ายถูกกระทำและให้นางกลายเป็นคนผิดด้วยเล่า? ในยามที่นางลำบากต้องเผชิญกับความสูญเสียราวกับเป็นเคราะห์กรรมครั้งใหญ่ จวนสกุลเจียงถูกวางเพลิงมอดไหม้ไปทั้งหลัง ผู้คนในจวนต่างถูกสังหาร บิด

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๒๘ ท่านและข้า.. สิ้นสุดกันเพียงเท่านี้

    เกรงว่าคงเป็นนางที่ตาฝาดไปเองกระมัง… หลี่จื่อหนิงหรี่สายตาลงเพ่งมองบุรุษตรงหน้าครั้งแล้วครั้งเล่าพลางกระพริบตาถี่ๆ อย่างไม่อยากเชื่อสายตาราวกับว่าตาฝาดมองเห็นผิดเพี้ยนไป เหตุใดบุรุษผู้นี้ถึงมานั่งอยู่ตรงนี้ได้กัน…!? นางกำลังนอนหลับอย่างสบายใจ ทว่าสะดุ้งตื่นเมื่อสาวใช้เข้ามาปลุกบอกว่ามีคุณชายผู้หนึ่งมาหาถึงจวน เดิมทีหลี่จื่อหนิงขี้เซาไม่น้อยกว่าจะลืมตาตื่นลุกขึ้นมาจากเตียงได้ก็ใช้เวลาอยู่นานเอาแต่พลิกกายบิดขี้เกียจซ้ำแล้วซ้ำเล่าทว่าพอได้ยินสาวใช้กล่าวเช่นนั้น นางก็พลันตื่นเต็มตา ลุกพรวดขึ้นจากทันที นางจะรู้จักผู้ใดได้อีกเล่านอกจากเฝิงอวี่เซี่ยน! แล้วเหตุใดจึงบุกมาหานางถึงจวนแต่เช้าตรู่เช่นนี้อย่างเร่งร้อนราวกับมีเรื่องด่วน…หรือเขาถูกทางการตามจับได้แล้ว? “มาหาข้ามีเรื่องอันใดกัน” นางเอ่ยถามด้วยเสียงแข็ง พลางเชิดใบหน้าขึ้นเล็กน้อยราวกับมิได้ใส่ใจ ทั้งที่ในใจนั้นกลับร้อนรนอยากจะเค้นความจากปากอีกฝ่ายออกมาตอนนี้ให้ได้ หลี่จางเหว่ยซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ พอได้ยินประโยคก่อนหน้าจึงเอ่ยแทรกขึ้นทันที “เช้าปานนี้ต่อให้เป็นฮ่องเต้…จวนสกุลหลี่ก็ปิดประตูไม่รับแขก” เขาเอ่ยออกมาเสียงเรียบ “เจ้าค่ะ”

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๒๗ ชะตากรรมพลิกผัน

    ตลอดสองสามวันที่ผ่านมา เจียงชุนหลินเอาแต่ทำตัววุ่นวายคอยหลีกเลี่ยงที่จะพบหน้าหรือไม่แม้แต่จะสบตาเฉิงอี้หยางเพียงแวบเดียวเลยด้วยซ้ำ…นางโกรธเขาไม่น้อยทว่าในใจก็สับสนว้าวุ่นเสียจนไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรต่อไป“แม่…กลายเป็นภาระของเจ้าหรือไม่?”น้ำเสียงอ่อนล้าของเจียงฮูหยินขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือมากอบกุมมือของบุตรสาวไว้แน่น ดวงตาของนางฉายแววเวทนาตนเองไม่น้อยเจียงชุนหลินได้ยินแล้วพลางเงยหน้ามองมารดา นางเม้มฝีปากแน่นภาระหรือ…?ยามนี้ จวนสกุลเจียงที่เคยสูงศักดิ์กลับร่วงหล่นลงมาเพียงชั่วพริบตาทุกสิ่งทุกอย่างสูญสิ้นไปจนไม่หลงเหลือสิ่งใดภายหลังเหตุการณ์ไฟไหม้ในคืนนั้น บิดาของนางพลันถูกเรียกตัวเข้าวังกะทันหันถึงขั้นส่งทหารจากวังหลวงมาตามถึงที่จวนสกุลเฉิงเพื่อสอบสวนคดีทุจริตในราชสำนัก ซึ่งเป็นการตรวจสอบย้อนหลังไปหลายสิบปี ตั้งแต่ยามที่ท่านพ่อรับราชการเป็นขุนนางครั้งแรกมิใช่ว่าที่ผ่านมานางไม่รู้เลยแม้แต่น้อยแต่ทว่า…ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาบิดาพยายามชุบตัวให้ใสสะอาดเสมือนสายน้ำแต่ภายในกลับเป็นน้ำที่ตกตะกอนเพียงแค่มีผู้ยื่นมือไปกวนก็พลันขุ่นมัวขึ้นมาที่ผ่านมาล้วนกล่าวได้ว่าสวรรค์บังตาหรือเห็นใจกันแน่ถึง

  • นิยายเรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย   ๒๖ เรื่องที่ต้องรู้

    หลี่จื่อหนิงเงยหน้ามองเฝิงอวี่เซี่ยนตาปริบๆ คล้ายไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน นัยน์ตาเมล็ดซิ่งหรี่ลงราวกับกำลังจับผิดอีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยออกมา “เหอะ! ข้าจะเชื่อได้อย่างไร”เพียงแค่แม่ดอกบัวขาวนางนั้นปรากฏตัวขึ้น…เขาก็รีบตามติดราวกับสุนัขที่เจอเจ้าของแล้ว!ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเฝิงอวี่เซี่ยนจึงต้องสนใจความรู้สึกของนางนัก มุมปากหนาโค้งยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นแล้วก้าวมายืนอยู่ตรงหน้า สายตาคมกริบเพ่งมองหลี่จื่อหนิงจากนั้นจึงโน้มใบหน้าลงมาใกล้“แล้วต้องทำอย่างไรเล่าเจ้าถึงจะเชื่อข้า” น้ำเสียงทุ้มแหบพร่าพูดอย่างแผ่วเบาหลี่จื่อหนิงส่ายหน้าไปมา “ช่างเถอะ…ท่านจะชอบผู้ใดแล้วมันเกี่ยวอันใดกับข้า”หากว่ากันตามตรงแล้ว เรื่องความรู้สึกของจิตใจปล่อยให้เขาจัดการเองเถอะ นางหาได้สอดมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือสร้างความวุ่นวายให้…ขอเพียงเฝิงอวี่เซี่ยนมีชีวิตรอดอยู่ถึงวันพรุ่งนี้ก็พอ!!!ทว่าในจังหวะเดียวกันนั้น เพียงชั่วพริบตาเดียวหลี่จื่อหนิงยังไม่ทันได้ตั้งตัวกลับต้องสะดุ้งด้วยความตกใจทันที ฝ่ามือหนาเอื้อมมาประคองใบหน้าคนงามอย่างอ่อนโยน นิ้วโป้งลูบผ่านแก้มนุ่มนิ่มราวกับสำรวจความรู้สึกของนางก่อนที่จู่ๆ เฝิงอวี่เ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status