مشاركة

บทที่ 3

last update آخر تحديث: 2025-05-12 13:01:49

โรงเตี๊ยมอลเวง

หมู่บ้านสาวสองพันปีอยู่ห่างจากตัวเมืองค่อนข้างไกล ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วยาม[1] ในการเดินทางมาที่นี่

“ครั้งต่อไปข้าว่าเราเปลี่ยนบรรยากาศจากในครัวบ้านข้า เป็นครัวบ้านคนอื่นดีหรือไม่เจ้าคะ นาน ๆ ได้นั่งรถม้าเข้าเมืองที ปวดเมื่อยไม่น้อย”

“อะไรกัน! อายุเท่านี้ก็บ่นเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเป็นคนแก่แล้ว”

“41 หนาวไม่น้อยแล้วนะเจ้าคะ ท่านอย่าได้โดนรูปกายภายนอกของข้าหลอกลวงเป็นอันขาด”

ปกตินางปลูกผัก เลี้ยงไก่จากไข่ที่หลันเฟิงเก็บมาเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ได้ออกแรงทำสวนบ้าง แต่ก็ไม่ได้แข็งแรงขนาดไม่ปวดเมื่อยส่วนใดของร่างกายเลย

“ไปเถอะ โรงเตี๊ยมตรงหน้าเรานี่แหละ”

เฉียนจิ่นหงเดินนำชุนเอ๋อร์เข้าไปในโรงเตี๊ยม เพราะภาพลักษณ์ที่ดูเหมือนคุณชายผู้สูงศักดิ์จึงสามารถดึงสายตาจากผู้คนได้ไม่ยาก

“คุณชายเฉียนมาแล้ว ห้องที่คุณชายจองไว้อยู่ทางนี้ขอรับ เชิญเดินตามข้าน้อยมาได้เลยขอรับ”

เมื่อเข้าไปนั่งห้องพิเศษ เฉียนจิ่นหงก็สั่งอาหารมาสามสี่อย่าง โดยที่ชุนเอ๋อร์นั่งเงียบ ยกหน้าที่สั่งอาหารให้เป็นของเขา

“ข้าสั่งถูกใจเจ้าหรือไม่”

“อะไรก็ได้เจ้าค่ะพี่เฉียน ข้าทานได้หมด”

ชุนเอ๋อร์ตอบกลับเฉียนจิ่นหง จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปมองนอกหน้าต่าง ผู้คนสัญจรไปมาบนท้องถนนไม่ขาดสายสมกับเป็นในเมือง

“อาหารมาแล้วขอรับ”

เสี่ยวเอ้อร์ยกอาหารมาให้ที่โต๊ะ เมื่อถึงเวลาทานอาหารทั้งสองต่างก็เงียบเสียงไม่สนทนา ชุนเอ๋อร์คีบอาหารเข้าปากแล้วเคี้ยวช้า ๆ มองออกไปนอกหน้าต่างเป็นครั้งคราวดูผู้คนใช้ชีวิต

“อิ่มแล้วเจ้าค่ะ”

จนกระทั่งอาหารพร่องลงไปนิดหนึ่ง ชุนเอ๋อร์ก็วางตะเกียบหยิบน้ำชาล้างปากเป็นการจบของคาวในมื้อนี้

“ของคาวจบแล้ว ต่อด้วยของหวานใช่หรือไม่”

“เดี๋ยวดูก่อนนะเจ้าคะ”

ชุนเอ๋อร์นั่งมองเฉียนจิ่นหงทานอาหารเงียบ ๆ เขาทานไม่นานก็วางตะเกียบลงแล้ว ชี้มือผ่านหน้าต่างไปยังร้านน้ำชาซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโรงเตี๊ยม

“กุ้ยฮวาเการ้านนั้นอร่อยมาก ซื้อกลับไปทานที่บ้านไหม”

“เจ้าค่ะ”

ชุนเอ๋อร์พยักหน้ารับ เฉียนจิ่นหงจึงวางเงินเกินค่าอาหารไว้ที่โต๊ะ จากนั้นก็เดินเคียงคู่กันออกจากห้องพิเศษ

ทว่ายังไม่ทันที่เท้าของชุนเอ๋อร์จะเหยียบลงบันไดจากชั้นสองไปชั้นแรก นางก็โดนพลังงานบางอย่างพุ่งเข้าชนจนเกือบเสียหลัก ดีที่เฉียนจิ่นหงรับเอาไว้ มิเช่นนั้นได้ตกบันไดแน่

“โน่น มันอยู่ชั้นสอง!”

เสียงเข้มของบุรุษร่างหนาตะโกนลั่นโรงเตี๊ยม เขามีพรรคพวกมาหลายคน ท่าทางกักขฬะไม่แพ้กัน

ชุนเอ๋อร์มองตามสายตาของเขาไปที่ด้านหลังตนเอง คาดว่าเป้าหมายของคนกลุ่มนี้คือชายชุดดำปิดใบหน้าที่เกือบพุ่งตัวมาชนนาง

“น่ากลัวเจ้าค่ะพี่เฉียน”

“ไม่ต้องกลัว มีข้าอยู่”

เฉียนจิ่นหงกอดเอวชุนเอ๋อร์แน่น พานางโรยตัวลงมาจากชั้นสอง ปล่อยให้พวกเขาใช้กำลังตัดสินปัญหากันต่อไป

“เรารีบออกจากที่นี่กันเถิดเจ้าค่ะ เดี๋ยวโดนลูกหลง”

ชุนเอ๋อร์ดึงแขนเฉียนจิ่นหงให้รีบออกไปจากที่นี่โดยเร็ว แต่เฉียนจิ่นหงกลับส่ายหน้าปฏิเสธ มิหนำซ้ำยังจับมือชุนเอ๋อร์เดินไปหาที่หลบมุมดูการต่อสู้ของพวกเขา

“พี่เฉียน...”

“เฝ้าระวังอย่างเงียบ ๆ อยู่ตรงนี้เป็นพอ”

ชุนเอ๋อร์ถอนหายใจระบายอารมณ์ ดวงตารูปกวางมองภาพการต่อสู้ด้วยความหวาดหวั่น

“พื้นที่มีตั้งเยอะตั้งแยะ เหตุใดต้องมาสู้กันตรงนี้ด้วย”

สี่รุมหนึ่งสร้างความเสียหายให้แก่โรงเตี๊ยมไม่พอ ชายชุดดำอีกสามคนยังเข้ามาร่วมต่อสู้กับกลุ่มคนร่างหนาอีก กลายเป็นว่าการต่อสู้วันนี้ครบคู่

“ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง...”

ชุนเอ๋อร์หันไปมองหน้าเฉียนจิ่นหงด้วยความงุนงง สงสัยว่าเขานับเลขถอยหลังทำไม

จนกระทั่งหันกลับไปมองการต่อสู้อีกครั้งหนึ่ง นางจึงเห็นว่าชายกลุ่มร่างหนาได้นอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้นกันทุกคนแล้ว

“จบแล้วหรือเจ้าคะ ท่านรู้ได้อย่างไร”

“เก่ง”

ชุนเอ๋อร์ร้อง “อ้อ” สั้น ๆ แล้วสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น ก่อนจะเห็นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินสำรวจความเสียหายของโรงเตี๊ยม สีหน้าคล้ายจะร้องไห้ เข่าทรุดลงพื้นในทันที

“โรงเตี๊ยมข้า เสียหายหมดแล้ว”

เป็นเถ้าแก่โรงเตี๊ยมแห่งนี้นั่นเอง!

เขายกมือขึ้นกุมศีรษะ ใบหน้าเศร้าโศกชนิดที่ว่า หากเขาสามารถร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือดได้ มันคงเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว

“สงสารเถ้าแก่นัก ค่าเสียหายคงไม่น้อยเลย”

ด้วยความที่ลูกค้าบางส่วนรีบหนีออกไปจากโรงเตี๊ยมกันไปแล้ว บรรยากาศตอนนี้จึงเงียบสงบ

นอกจากเสียงร้องไห้ของเถ้าแก่ที่ดังชัดแล้ว

ประโยคที่ชุนเอ๋อร์กล่าวออกไปเมื่อครู่ชัดเจนจนชายชุดดำทั้งหมดได้ยิน

“นี่ค่าเสียหายทั้งหมด เถ้าแก่ลองดูว่าพอหรือไม่”

หนึ่งในชายชุดดำเดินเข้าไปหาเถ้าแก่แล้วควักเงินหนึ่งถุงยื่นให้เขา เถ้าแก่เงียบเสียงร้อง เมื่อรับถุงเงินมาแล้วก็แง้มดู ดวงตาลุกวาวให้กับเงินในถุง

“พอ ๆ”

เถ้าแก่รีบเด้งตัวขึ้นยืนเต็มความสูง โค้งกายขอบคุณแล้วรีบเดินหนีชายชุดดำ ในความคิดของเถ้าแก่ตอนนี้ ได้ค่าเสียหายมาบ้างก็ดีกว่าไม่ได้เลย

“ข้าไม่เข้าใจเจ้าค่ะพี่เฉียน เหตุใดไม่ไปสู้กันข้างนอก จะได้ไม่สร้างความเสียหายให้ผู้อื่น”

ชุนเอ๋อร์กระซิบเบา ๆ ข้างหูของเฉียนจิ่นหง

ชายหนุ่มยิ้มมุมปากแล้วกล่าวเสียงไม่เบานักตอบกลับชุนเอ๋อร์ไป

“คงมีเงินเหลือใช้กันกระมัง”

ชุนเอ๋อร์พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย คำพูดของทั้งคู่เข้าหูชายชุดดำทั้งสี่ชัดแจ๋ว

หนึ่งในนั้นทำท่าจะเดินเข้ามาหาเรื่องเฉียนจิ่นหง แต่ก็โดนชายชุดดำอีกคนดึงแขนเอาไว้ก่อน

“พี่เฉียน ไปกันเถิดเจ้าค่ะ”

ชุนเอ๋อร์รู้ตัวแล้วว่าพูดเสียงดังเกินกว่าที่จะเรียกว่ากระซิบ มือบางดึงแขนเฉียนจิ่นหงให้รีบออกจากโรงเตี๊ยม

ทว่านางได้จับเพียงชายเสื้อของเฉียนจิ่นหงเท่านั้นก็โดนแรงบางอย่างดึงแขนออกจากโรงเตี๊ยม รู้ตัวอีกทีก็มายืนอยู่ในตรอกไร้ผู้คน

“นี่! เจ้าพาข้ามาที่นี่ทำไม หรือว่าโกรธที่ข้านินทาพวกเจ้า หากเป็นเช่นนั้นข้าขอโทษ”

สีหน้าชุนเอ๋อร์ซีดเผือดอย่างชัดเจน ตกใจให้กับความแข็งแกร่งของวรยุทธ์เขา

“อย่าทำอะไรข้าเลยนะ ข้ากลัวแล้ว”

[1] หนึ่งชั่วยาม มีสองชั่วโมง
استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 103

    บางคนเกิดมาเพื่อทำลายชีวิตของผู้คน แต่สำหรับบางคนนั้นก็เกิดมาเพื่อทำหน้าที่เป็น ‘พี่เลี้ยงเด็ก’ สำหรับจางจงกว่าน ก่อนคลอดเขาปฏิญาณตนไว้แล้วว่าให้ตายอย่างไรก็จะไม่แตะต้องบุตรชายของอี้เฟยเป็นอันขาด (หากเป็นเด็กผู้ชาย) เพราะในใจเขาคิดว่า เด็กผู้ชายคนนี้ก็คงจะน่าชังไม่ต่างจากพ่อของเขา

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 102

    ๙๒มาได้ถูกจังหวะ แม้จะโดนปฏิเสธแล้ว แต่อี้เฟยก็ไม่คิดจะหนีไปไหน ยังคงคอยตามเฝ้าตามมองชุนเอ๋อร์อยู่ทุกครั้งที่มีโอกาส ครั้งไหนที่เจอหน้ากันตรง ๆ เขาจะตีหน้าเศร้าใช้สายตาอ้อนขอความรักอยู่เช่นนั้นจนคนที่หัวเสียแทนเป็นหลันเฟิง นั่นเพราะว่าเขาตัวกับมารดาตลอด การที่ต้องมาทนมองบ

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 101

    “เจ้านี่!” ด้วยไม่อยากเป็นฝ่ายดึงแขนมารดา จึงได้ลุกขึ้นยืนแล้วแกะนิ้วของอี้เฟยออกเสียเลย คนในพรรคที่ไม่รู้ความสัมพันธ์ของพวกเขาความคิดเห็นต่างกัน บ้างก็พากันผิวปากแซวอี้เฟย บ้างก็ว่าหลันเฟิงช่างหวงญาติสาวถึงเพียงนี้ แต่สำหรับเกาจี้เฉินและโจวฉือเหอนั้นนิ่งอึ้ง ไม่

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 100

    ๙๑สองแม่ลูกใจอมหิต หลังจากที่หลันเฟิงกล่าวว่า ‘แล้วเจ้าจะเสียใจ’ ลู่จั๋วหรานก็ต้องเสียใจจริง ๆ เมื่อพัดของรักของหวงของหายากในยุทธภพโดนกระชากออกจากมืออย่างง่ายดาย นี่ไม่ใช่การขโมยอาวุธของผู้อื่นเพื่อตัดกำลังเท่านั้น แต่ยังทำลายอาวุธจนไม่เหลือซาก ทีนี้จะจัดการเจ้าของอาวุธก็ไม่ใช่เ

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 99

    “เหมือนสตรีผู้นั้นจะมีปัญหากับท่านนะขอรับ ให้ข้าไปจัดการให้หรือไม่” อี้เฟยยกนิ้วชี้ไปทางสตรีที่ว่าตรง ๆ ชุนเอ๋อร์มองตามปลายนิ้วยาวไปก็ถึงกับถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย “ฮูหยินคนปัจจุบันของอดีตสามีข้าเอง ไม่รู้จะจับผิดอะไรกันนักหนา ก่อนเข้างานก็ป่าวประกาศกับชาวบ้านว่าข้าเล่นชู้กับพี่

  • บุตรชายข้าเป็นประมุขพรรคมาร   บทที่ 98

    ๙๐อี้เฟยได้เลือด ชุนเอ๋อร์ตกใจกับภาพที่เห็นมาก ยกสองมือขึ้นปิดปาก ตะลึงค้างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สายตาจับจ้องร่างสูงที่กำลังจะลงจากเวทีประลอง มือสองข้างกดทับแผลห้ามเลือดไว้ ครู่ต่อมาก็มีคนพาเขาแยกไปทางหนึ่ง “ไม่ตามไปหรือ” ชุนเอ๋อร์หันมามองหน้าเฉียนจิ่นหง อย่างขอความมั่น

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status