Accueil / รักโบราณ / บ่าวหญิงของศิษย์รัก / บทที่ 41 : เขากำลังเติบโตทุกครั้งที่ต่อสู้

Share

บทที่ 41 : เขากำลังเติบโตทุกครั้งที่ต่อสู้

last update Dernière mise à jour: 2025-06-29 09:00:46
ท่ามกลางโถงใหญ่ของโรงเตี๊ยมไป๋อวิ๋น เสียงอาวุธเหล็กของอวี้ไป๋เฉินกับของผู้มาเยือนปะทะกันกึกก้อง ใต้แสงตะเกียงที่โยกไหวเพราะแรงลมปราณ เฉินอี้ยังยืนประจันหน้ากับ ไป่ลี่เหิน ขุนพลพรรคมารผู้ใช้มีดสั้นคู่

ชายหนุ่มร่างบางผิวซีดผ่องตรงหน้ามีท่วงท่าราวกับนักเต้นระบำ มือเรียวยาวทั้งสองถือมีดสั้นวาววับที่สะท้อนแสงสลัวในโถง ดูน่าสะพรึงกลัว แต่เฉินอี้ยังไม่ถอย แม้จะไม่มีอาวุธ แต่ฝ่าเท้าของเขาขยับอย่างแม่นยำตามที่ได้ฝึกมา เส้นทางย่างก้าวของเขาทุกก้าวเขาคือ “ปทุมยาตรา” ท่าที่เคยเห็นจากเสี่ยวซุ่ย แล้วได้รับรู้ชื่อของมันจากซูหรง

ทั้งสองเคลื่อนไหวราวกำลังร่ายรำคู่กัน อีกคนรำมีดหมุนไปมาน่าหวาดเสียว อีกคนก้าวหมุนหลบหลีกไปเรื่อย จนมีดไม่อาจแตะต้องได้อยู่หลายกระบวน ถึงอย่างนั้นเฉินอี้ก็มีความเครียดจนเหงื่อตก ด้วยยังหาจุดอ่อนอีกฝ่ายเพื่อใช้ท่าเผด็จศึกยากมาก

ฉัวะ!

เสียงมีดบาดเนื้อดังขึ้นเมื่อเฉินอี้พลาดเพียงครึ่งจังหวะ ปลายมีดขวาของไป่ลี่เหินเฉือนผ่านต้นแขนขวาของเขา เลือด:ซึมออกมาจนย้อมแขนเสื้อเป็นสีเลือด

“เจ้าหลบไม่พ้นไปตลอดหรอก” ไป่ลี่เหินหัวเราะเบา ๆ เสียงเย็นชาจนขนลุก ก่อนจะแทงมีดในมือซ้ายมาก
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Latest chapter

  • บ่าวหญิงของศิษย์รัก   บทที่ 61 : นางบอกว่านางเป็นคนโลภ

    ซูหรงเดินบนผิวน้ำ ข้ามบึงน้ำที่กว้างยาวสิบวาจนกระทั่งไปถึงอีกฝั่ง นางมองไปที่เสี่ยวซุ่ยกับหญิงในชุดคลุมเขียว ราวกับจะบอกว่าให้ส่งคนของนางกลับมา ทว่าไม่ทันจะได้เอ่ยอะไร ฝีเท้าของหญิงชุดคลุมเขียวก็กระทบพื้นเบา ๆ เพียงก้าวเดียว ร่างของนางก็ลอยขึ้นสูงผืนปฐพี เสี่ยวซุ่ยที่ถูกมัดข้อมือไว้กับเชือกสีทองไม่ทันตั้งตัว ถูกฉุดให้ลอยลิ่วตามไปด้วยเช่นกัน"เดี๋ยวก่อน!" ซูหรงร้องไล่ตาม แต่ก็ไม่ทันการณ์ หญิงสาวชุดคลุมเขียวใช้วิชาเหยียดลมเหินนภา เดินบนอากาศแล้วพาร่างของทั้งสองพุ่งทะยานหายลับ เข้าสู่ม่านหมอกของแนวป่าด้านตะวันออก"นางพาเสี่ยวซุ่ยไปแล้ว!" เฉินอี้ขบกรามแน่น แววตาเต็มไปด้วยความกังวล "ท่านต้องตามไปให้ทันนะขอรับ ท่านใช้วิชาเดียวมุ่งหน้าไปก่อนเลย ข้าจะตามท่านไปทีหลังเอง!"“ไม่ต้อง ถ้าเจ้าตามมาภายหลังจะคลาดกันเปล่า ๆ เจ้ารอที่นี่ เสร็จการทดสอบข้าจะมารับ” ซูหรงส่งเสียงตะโกนข้ามฟากของบึง ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าอย่างสงบ แล้วใช้วิชาเหยียบลมเหินนภาที่ลั่วชิงเคยสอน กระโดดสูงขึ้นเหนือยอดไม้ ข้ามผืนป่าที่สูงชันและรกทึบ ตามไอพลังปราณของศิษย์เซียนไปเรื่อย ๆไม่ช้า

  • บ่าวหญิงของศิษย์รัก   ตอนที่ 60 : นางเข้าใจความหมายของความผิดพลาด

    ร่างของซูหรงจมหายลงไปในบึงใส ดวงตาของซูหรงเบิกกว้าง ร่างของนางลอยคว้างอยู่ท่ามกลางความเวิ้งว้าของใต้ผิวน้ำ ทว่านางไม่สามารถแหวกว่าย ร่างกายของนางไม่ขยับ เพราะเสียงในหัวแทรกเข้ามาเต็มไปหมด“เจ้ามิใช่ลูกของข้า...”เสียงพ่อในความทรงจำอันห่างไกลดังขึ้นมา นางจำได้กลับคล้ายคลับคลาว่าบิดาและมารดามีปากเสียงบางอย่าง ก่อนจะนำนางมาทิ้งไว้ที่กระท่อมเชิงเขา แต่จากความทรงจำนี้ เหมือนกับนางผิดที่ได้กำเนิดมาบนโลกก็ไม่ปาน“กิเลสในใจเจ้าจะเป็นดังเปลวไฟที่แผดเผาตนเอง และอาจจะทำให้พลังปราณ และจิตใจของเจ้าไม่อาจพัฒนาได้เสียงอาจารย์ตำหนิตอนนางตัดสินใจลงจากเขาเริ่มดังเข้ามาในห้วงความคิด เหมือนจะตอกย้ำว่าที่นางตัดสินใจนั้นมันผิดพลาดตามมาด้วยภาพกับเสียงของผู้คนที่บาดเจ็บเพราะการแย่งชิงตราประมุขพรรคมารเริ่มปรากฏขึ้น ตามด้วยภาพเหตุกาณณ์ที่นางมีปากเสียงกับสามี ภาพในจิตใจไหลวนไปมาอย่างไม่รู้จบ ราวกับจะตอกย้ำว่านางผิดมาตลอด ผิดตั้งแต่มีชีวิตอยู่...ซูหรงพยายามตะเกียกตะกาย ราวกับจะหนีจากเสียงเหล่านั้น แต่ร่างกายกลับไม่ขยับ นางลอยวนอ

  • บ่าวหญิงของศิษย์รัก   บทที่ 59 : นางพร้อมรับการทดสอบ

    ยามเช้ายางกร่ายมาถึงหลังจากค่ำคืนค่อย ๆ ถอยออกไปพร้อมกับที่หมอกหนาค่อย ๆ จางหาย เงาไม้ยาวเหยียดทอดลงตามแนวลาดชันของภูเขาหลิงอวิ๋น แสงอาทิตย์สีอ่อนเริ่มสาดลงบนยอดไม้ เข้าสู่กระท่อมหลังเก่าผ่านช่องไม้ที่ผุพังเสียงฝีเท้าเบา ๆ ของใครบางคนดังขึ้นหน้าประตูกระท่อม ตามมาด้วยเสียงเคาะประตูสองครั้ง เฉินอี้ที่นั่งเฝ้ายามอยู่ข้างกระท่อมขยับตัวลุกขึ้นทันที เขามองไปยังร่างในชุดคลุมสีเขียวหม่นที่ยืนอยู่ท่ามกลางไอหมอกที่กำลังจาง ร่างนั้นสวมผ้าคลุมศีรษะ ปิดหน้าด้วยผ้าผืนบางจนเห็นเพียงดวงตาสงบนิ่ง“ท่านคือศิษย์ของเซียนหญิงลั่วชิงงั้นหรือ?” เฉินอี้เอ่ยถาม“พวกท่านคือคณะผู้ประสงค์จะขึ้นเขาเพื่อพบท่านอาจารย์ใช่หรือไม่?” เสียงของผู้มาเยือนที่ปิดหน้าราบเรียบ ฟังคล้ายหญิงสาวอายุราวสามสิบเศษ“ใช่ นายหญิงของข้าต้องการพบท่านเซียนหญิง นางอยู่ในกระท่อมนั้น” เขากล่าวขึ้น ไม่นานประตูไม้เปิดออกช้า ๆ ซูหรงก้าวออกมาด้วยท่าทีสงบ นางมองร่างนั้นอย่างประเมิน ก่อนจะค้อมศีรษะเล็กน้อย“ข้า ศิษย์เก่าของท่านอาจารย์ ข้าชื่อซูหรง ข้าอยากกลับขึ้นไปเพื่อขอขมา และพบท่านอีกครั้ง” นางเอ่ยเสียงมั่นคง ผู้มาเยือนเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจ

  • บ่าวหญิงของศิษย์รัก   บทที่ 58 : นางรำลึกถึงอดีต

    เสียงแมลงกลางคืนดังระงมไปทั่วแนวป่าโดยรอบกระท่อมเก่า ขับกล่อมไปกับเสียงลมที่เสียดผ่านใบไม้สูงต่ำ กลิ่นไอเย็นชื้นของดินและหญ้าหลังตะวันลับขอบฟ้าไหลแผ่วเข้ามาตามช่องหน้าต่างที่เปิดไว้เพียงน้อยเฉินอี้นอนเอกเขนกอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ข้างกระท่อม มือหนึ่งหนุนศีรษะ อีกมือถือท่อนไม้ยาวใช้เขี่ยใบไม้เล่นพลางเฝ้ามองแสงตะเกียงจากภายในกระท่อมผ่านช่องหน้าต่าง แสงนั้นสว่างวาบขึ้นบ้างริบหรี่ลงบ้างตามแรงลมราตรี ทว่าในใจของเขากลับแจ่มกระจ่างมั่นคงยิ่งกว่าทุกคืนที่ผ่านมาเขาไม่ได้หลับ แม้เปลือกตาจะหนักอึ้งจากความเหนื่อยล้า เขาก็ยังคงตั้งใจเฝ้ายาม ระวังภัยให้หญิงทั้งสองคนที่อยู่ข้างในภายในกระท่อม เสี่ยวซุ่ยที่เปลี่ยนเป็นชุดนอนเอนกายนอนบนเบาะฟางอีกฟากหนึ่งของห้อง ส่วนซูหรงในชุดนอนสีขาวนอนหนุนหมอนผ้าเก่าอยู่ฟากตรงข้าม ผ้าห่มบาง ๆ คลุมร่างทั้งคู่ไว้เพียงบางส่วน แสงจากตะเกียงข้างเตียงฉายลงบนใบหน้าซูหรงที่แม้จะดูนิ่งสงบ แต่ดวงตากลับยังเปิดอยู่ นางหันหน้ามาทางเสี่ยวซุ่ยที่เพิ่งจะหลับตาลงช้า ๆ“เสี่ยวซุ่ย...” เสียงเรียกเบา ๆ ทำให้นางลืมตาขึ้นอีกครั้ง“เจ้าคะ?”“เจ้าจำตอนที่เจ้ามาสมัครงานที่โรงเตี๊ยมครั้งแรกได้ไหม?”

  • บ่าวหญิงของศิษย์รัก   บทที่ 57 : นางชมอาหารรสมือข้า

    บรรยากาศในกระท่อมยามค่ำเงียบสงบ แสงจากตะเกียงน้ำมันดิบที่ตั้งอยู่กลางโต๊ะไม้เตี้ย ๆ ส่องวาบอ่อนลงบนใบหน้าของคนทั้งสาม กลิ่นน้ำแกงสมุนไพรหอมกรุ่นลอยคลุ้งไปทั่ว ราวกับลมหายใจแห่งอดีตที่ไหลเวียนกลับคืนมาอย่างเงียบงันเสี่ยวซุ่ยนั่งลงข้าง ๆ หม้อแกงที่เพิ่งยกลงจากเตาเล็ก ๆ ตรงมุมกระท่อม ใบหน้าของนางมีเหงื่อเกาะจากความร้อน แต่รอยยิ้มกลับปรากฏบนริมฝีปาก“แกงหัวไชเท้าเจ้าค่ะ ข้านำวัตถุดิบใส่ห่อสัมภาระมาด้วย เลยต้มให้ทุกคนกินกัน น่าจะพอบำรุงกำลังได้ สูตรนี่พี่หลินสอนข้ามา บอกว่านายหญิงสอนนางมาอีกที” นางกล่าวเสียงเบา พลางตักใส่ถ้วยเล็ก ๆ แล้วยื่นให้ซูหรงกับเฉินอี้ซูหรงรับถ้วยมาอย่างเงียบ ๆ ก่อนยกขึ้นจิบ ดวงตาของนางยังเต็มไปด้วยเงาความเหนื่อยล้าจากการเดินทางและอารมณ์ที่กดทับเมื่อครู่ ทว่าพอรสของน้ำแกงไหลผ่านลิ้น ความรู้สึกบางอย่างกลับแล่นวาบขึ้นมาในใจนางกลิ่นสมุนไพรอ่อน ๆ ปนกลิ่นขิง รสเค็มจางจากเกลือหิน ผสานกับความหวานจากหัวไชเท้าที่เคี่ยวจนเปื่อยนุ่มลงไปในน้ำแกง มันเป็นรสชาติธรรมดา แต่ในความธรรมดานั้นกลับมีบางสิ่งที่พิเศษจนน่าตกใจ มือที่

  • บ่าวหญิงของศิษย์รัก   บทที่ 56 : นางก็มีความหลังของนาง

    คณะเดินทางทั้งสามได้พากันเดินตามทางต่อไป จนกระทั่งแสงอาทิตย์เริ่มลับยอดไม้ ขับเงาเขียวของป่าให้กลายเป็นสีหม่น สายลมยามเย็นเริ่มพัดแรงขึ้นจนยอดไม้ไหวลั่น ซูหรงเดินนำด้วยแววตาระวัง ส่วนเสี่ยวซุ่ยก็เดินตาม นางเริ่มเริ่มรู้สึกเมื่อยล้าจากการเดินทางตลอดวัน ถึงอย่างนั้นเฉินอี้ก็ยังคงเดินตามส่งน้ำให้ดื่มเป็นระยะในที่สุดเบื้องหน้าของทั้งสาม ก็ปรากฏกระท่อมไม้หลังเล็กที่ดูเก่าแก่และเงียบงัน ตั้งอยู่ริมทางขึ้นเขา ท่ามกลางแนวไม้ที่ซ้อนทับกันเป็นฉากหลัง ข้างกระท่อมมีเพิงและแคร่ไม้ไผ่สำหรับนั่งเล่น หน้ากระท่อมมีป้ายเขียนว่า “ที่พักสำหรับผู้ต้องการพบเซียน” แม้ว่าเสาไม้เริ่มผุพัง บานประตูเอียงเล็กน้อยจนต้องผลักอย่างระวัง แต่เมื่อซูหรงนำทุกคนเข้าไปภายใน ก็พบว่ามันยังสะอาดกว่าที่คิด พอจะกันลม กันฝนได้“เราจะพักที่นี่กันคืนนี้” ซูหรงเอ่ยขึ้น ขณะก้าวเข้ามาภายในกระท่อมแล้ววางสัมภาระลง “กระท่อมหลังนี้สร้างไว้เพื่อรอการทดสอบของยอดเขาหลิงอวิ๋น คนที่หวังจะขึ้นเขาเพื่อขอพบเซียนหญิงลั่วชิง หรือติดต่อกับศิษย์ของนาง ต้องมาพักแรมที่นี่ก่อนหนึ่งคืน แล้วรอให้ศิษย์ของนางปรากฏในยามเช้า เพื่ออธิบายวิธีข้ามแต่ละด่าน”“

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status