เมื่อเห็นว่าหญิงสาวสนใจคอนโดมิเนียมจริงๆ ทินภัทรเลยรับปากว่าจะลองถามผู้ซื้อคนก่อนๆ ให้ว่ามีใครอยากจะปล่อยห้องต่อบ้างแล้วเขาจะติดต่อเธอมาอีกที
ที่ชายหนุ่มยังไม่ตัดสินใจขายก็เพราะเขาอยากจะรู้จักเธอให้มากขึ้นกว่านี้อีกนิด เพราะถ้าต้องขายห้องให้กับเธอแล้วเขาก็อยากจะมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาปัญหาอะไรตามมาทีหลัง
หลังจากทานอาหารเสร็จทั้งสองก็บอกลากันที่หน้าร้าน
“แล้วผมจะติดต่อไปนะครับ”
“ได้ค่ะ หวังว่าคุณทินจะมีข่าวดีให้ชัญญ่านะคะ”
“ครับ ขับรถกลับบ้านดีๆ นะครับ”
“เช่นกันค่ะ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะคะ”
มญชุ์ชัญญาขับรถกลับมาที่บ้านที่ตนเองอาศัยอยู่ตั้งแต่เกิดแต่ตอนนี้หญิงสาวรู้สึกว่าสมาชิกในบ้านนั้นมากเกินจนเธอแทบไม่มีเวลาส่วนตัวเลย
“อาชัญญ่าขาทำไมวันนี้กลับช้าจังเลยคะ น้องหมิวคิดถึงอาชัญญ่าที่สุดเลยค่ะ” น้องหมิวเด็กน้อยวัยห้าขวบลูกสาวของพี่ชายคนโตวิ่งเข้ามาหามญชุ์ชัญญาเมื่อเธอเดินเข้ามาในบ้าน
“อาไปทำธุระมาค่ะ น้องหมิวทำการบ้านเสร็จแล้วเหรอคะ”
“เสร็จแล้วค่ะ อาชัญญ่าเล่านิทานให้น้องหมิวฟังหน่อยได้มั้ยคะ”
“อาขอไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนได้ไหมคะ อาเพิ่งมาจากข้างนอกตอนนี้มีแต่เหงื่อเลยค่ะ ตัวอาเหม็นมาก”
“ไม่เหม็นเลยค่ะตัวอาชัญญ่าห้อมหอมกว่าคุณแม่อีกนะคะ”
“น้องหมิวอย่าพูดแบบนี้สิคะ ถ้าเกิดคุณแม่ได้ยินจะเสียใจนะ” เธอรีบกระซิบกับหลานสาว
“ก็น้องหมิวพูดจริง อาชัญญ่าสวยแล้วตัวก็หอมมากเลยค่ะ” เด็กสาวพูดพร้อมกับหอมแก้มคุณอาสาวอย่างประจบ
“ชัญญ่าไปไหนมาเหรอลูก” คุณวารีถามลูกสาวคนเล็กซึ่งปกติแล้วจะต้องมารับประทานอาหารค่ำด้วยกันแต่วันนี้เธอโทรศัพท์มาบอกผู้เป็นมารดาว่าจะกลับมาบ้านช้าหน่อยให้ทุกคนทานอาหารเย็นได้เลย
“หนูไปกินข้าวกับเพื่อนมาค่ะ”
“เพื่อนแน่นะไม่ใช่แอบมีแฟนล่ะ”
“แม่ขาหนูเพิ่งกลับมาเมืองไทยจะมีแฟนที่ไหนกันล่ะ”
“ไม่มีก็ดีแล้ว แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับชัญญ่าหน่อยนะ เดี๋ยวอาบน้ำแล้วเข้าไปคุยกับแม่ในห้องทำงานของคุณพ่อนะ”
“เรื่องสำคัญเหรอคะแม่ ทำไมต้องเข้าไปคุยในห้องทำงานด้วยคุยกันตรงนี้ก็ได้”
“เรื่องสำคัญจ้ะ หนูรีบอาบน้ำเถอะเดี๋ยวจะได้คุยกัน”
“ได้ค่ะแม่” มญชุ์ชัญญาก้มลงหอมแก้มหลานสาวตัวน้อยก่อนจะขึ้นไปอาบน้ำ
เธอพอจะรู้มาว่าเรื่องที่มารดาจะคุยนั้นเป็นเรื่องอะไร หญิงสาวอาบน้ำเสร็จก็เคาะประตูห้องทำงานของผู้เป็นบิดาเมื่อเปิดเข้ามาด้านในก็เห็นว่าตอนนี้นอกจากบิดามารดาของตนเองแล้วยัง ยังมีคุณปู่กับคุณย่าอยู่ด้านในด้วย
“สงสัยจะเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ ใช่ไหมคะทุกคนถึงอยู่กันพร้อมหน้าแบบนี้”
“ใช่จ้ะ หนูมานั่งกับย่าตรงนี้นะลูก”
“ค่ะคุณย่า” มญชุ์ชัญญาเดินไปนั่งกับคุณย่าไพลิน
“ชัญญ่าพร้อมจะฟังเรื่องที่ปู่จะพูดแล้วใช่มั้ยลูก”
“คุณปู่จะพูดเรื่องอะไรคะ”
“ก็เรื่องการแต่งงานของหนูไงล่ะลูก”
“การแต่งงานของหนูเหรอคะคุณปู่” มญชุ์ชัญญาพอรู้มาว่าคุณปู่อยากจะให้เธอแต่งงานซึ่งคุณปู่ก็เคยพูดเรื่องนี้ไว้ก่อนที่เธอจะไปเรียนต่อต่างประเทศ
หญิงสาวคิดว่าทุกคนจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วเพราะตอนที่เธอกลับมาถึงเมืองไทยใหม่ๆ ก็ไม่ได้มีใครพูดถึงเรื่องนี้เลย
“หนูนึกว่าคุณปู่จะเปลี่ยนใจแล้วนะคะ”
“ไม่เปลี่ยนใจหรอกแต่ที่ปู่ยังไม่พูดตอนที่หนูกลับมาถึงบ้านเพราะปู่อยากให้หนูได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระก่อน”
“คุณปู่ขาหนูเพิ่งกลับมาจากอังกฤษได้แค่สองเดือนเองนะคะขอเวลาหน่อยได้ไหมหนูยังไม่อยากแต่งงาน”
“หนูไม่อยากแต่งแต่หนูก็จำเป็นต้องแต่ง”
“ทำไมหนูจะต้องแต่งด้วยล่ะคะคุณปู่ หนูว่าอยู่เป็นโสดแบบนี้มันก็ดีมากๆ หรือคุณปู่กับคุณย่าและคุณพ่อคุณแม่ไม่อยากจะเลี้ยงดูหนูแล้วถึงอยากจะให้หนูแต่งงาน” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังน้อยใจ
“ไม่มีใครคิดแบบนั้นเลยแต่ที่ปู่อยากจะให้แต่งก็เพราะอยากจะทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนน่ะ”
“เพื่อนคุณปู่ใครคะ”
“ก็คุณปู่สุทัศน์ไงล่ะ”
“หนูรู้มาว่าท่านเสียชีวิตไปแล้ว ทำไมคุณปู่ยังจะยึดกับสัญญาอีกล่ะ”
“มันไม่ใช่แค่เพียงสัญญาหรอกนะ ตอนนี้พินัยกรรมของคุณปู่สุทัศน์เปิดออกมาแล้วในพินัยกรรมระบุว่าหนูต้องแต่งงานกับหลานชายของเขา”
“พินัยกรรมของบ้านนั้นมันเกี่ยวอะไรกับหนูคะ”
“ปู่จะอธิบายให้ฟังนะ พินัยกรรมของปู่สุทัศน์บอกว่าจะให้หลานชายของเขาแต่งงานกับหนูและมีลูกด้วยกันหนึ่งคนแล้วสมบัติของคุณปู่สุทัศน์จะตกเป็นของหลานชายแต่ถ้าหนูไม่แต่งงานกับเขาสมบัติทุกอย่างจะตกมาเป็นของหนู”
“มีพินัยกรรมแปลกๆ แบบนี้ด้วยเหรอคะ”
“ใช่จ้ะ”
“คุณปู่คะแล้วถ้าหนูไม่ยอมแต่งงานล่ะ”
“มันก็เป็นสิทธิ์ของหนูนะแต่สมบัติทั้งหมดของเขาก็จะเป็นของหนู หนูคิดว่าจะรับสมบัติทั้งหมดได้ไหม”
“ถ้าหนูไม่แต่งงานแต่หนูเซ็นยกสมบัติคืนให้เขาได้ไหมคะ หนูยังไม่พร้อมที่จะแต่งงานหรือมีครอบครัว”
“มันเป็นไปไม่ได้หรอกลูกทุกคนต้องทำตามเงื่อนไขในพินัยกรรม”
“แต่เราเป็นคนนอกนะคะคุณปู่ทำไมจะต้องทำตามด้วย” หญิงสาวมองไม่เห็นเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องทำตามเลย
“เพราะปู่สุทัศน์เป็นเพื่อนสนิทของปู่และก็เป็นคนที่มีบุญคุณกับปู่มาก ปู่ก็อยากให้ทุกคนทำตามพินัยกรรม ปู่อยากให้เราสองครอบครัวมีทายาทเพื่อสืบสกุล”
“แล้วทำไมต้องเป็นหนูด้วยล่ะคะ”
“ก็เพราะทางนั้นเขามีแต่หลานผู้ชายนี่”
“คุณปู่คะ นี่มันปีไหนแล้วไม่มีใครเขาคลุมถุงชนกันหรอกค่ะ”
“หนูจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะ ลูกเพราะเราจะพาหนูไปเจอพี่เขาก่อนให้หนูทำความรู้จักพี่เขาสักนิดแล้วค่อยแต่งงานกัน” คุณย่าประไพอธิบายเพิ่ม
“แต่มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะคะเพราะสุดท้ายหนูก็ต้องแต่งงานใช่ไหม แม่คะแม่ช่วยหนูได้ไหม”
“แม่เข้าใจหนูนะลูกแต่เรื่องนี้แม่ช่วยหนูไม่ได้จริงๆ”
“ชัญญ่าถ้าหนูลำบากใจมากหนูไม่ต้องแต่งก็ได้นะลูก ลืมเรื่องคำสัญญาที่ปู่มีให้กับเพื่อนไปก็ได้ แล้วก็เอาสมบัติของเขามาตามที่พินัยกรรมระบุ ยังไงเพื่อนของปู่ก็ตายไปแล้ว คงมาต่อว่าปู่ไม่ได้ เอาไว้ปู่ตายไปปู่จะไปขอโทษและอธิบายกับเขาเอง” คุณอำนาจพูดอย่างปลงตกที่ตนเองไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนรักได้อย่างที่รับปากไว้
ก่อนที่คุณสุทัศน์จะเสียชีวิตเขาได้พูดเรื่องนี้และฝากให้จัดการทุกอย่างต่อเพราะอยากให้ทั้งสองครอบครัวได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน เนื่องจากคุณสุทัศน์กลัวว่าหลานชายจะไปคว้าเอาผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าเข้ามาเป็นสะใภ้และตนเองก็รับปากเพื่อนไว้แล้วว่าจะยกหลานสาวให้
“คุณค่ะ อย่าคิดมากเลยฉันเชื่อว่าเพื่อนของคุณจะเข้าใจค่ะ” ย่าประไพปลอบใจสามี
“ผมก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ”
“เอาล่ะย่าว่าเราคุยกันแค่นี้ก่อนดีกว่านะ คุณปู่ถึงเวลาพักผ่อนแล้ววิทยากับวารีพาพ่อขึ้นข้างบนหน่อยนะ”
“ค่ะคุณแม่”
ทินภัทรถอนหายใจอย่างหนักเมื่อสายจากบ้านยังคงโทรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มจึงตัดสินใจกดรับ“พี่ทินอยู่ไหนคะ” เสียงหวานที่ดังมาจากปลายสายทำให้เขารู้สึกตกใจจนตัวชา“ชัญญ่าเหรอ”“ค่ะ พี่ทินอยู่ที่ไหนทำไมไม่กลับบ้านมีประชุมด่วนหรือออกไปกับลูกค้าคะ” หญิงสาวถามเขาออกมาเป็นชุดด้วยความเป็นห่วงเพราะวันนี้เธอกับเขาไม่ได้คุยกันเลยตลอดทั้งวัน“ชัญญ่าจริงๆ ใช่ไหม”“พี่ทินถามอะไรแปลกๆ คะหรือจำเสียงชัญญ่าไม่ได้ น่าน้อยใจจังเลยนะคะ”“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ชัญญ่าแล้วโทรศัพท์ของชัญญ่าไปไหน”“ชัญญ่าลืมกระเป๋าไว้บนรถเมล์ค่ะ รู้ตัวอีกทีก็ลงมาจากรถเมล์แล้ว พอกลับมาที่บ้านคุณย่ากับพี่ทินก็ไม่อยู่ นี่ก็เพิ่งจัดการโทรอายัดบัตรเครดิตและเปลี่ยนรหัสผ่านพวก Facebook กับไอจีเพิ่งเสร็จ แล้วพี่ทินล่ะคะอยู่ไหนทำอะไรอยู่”“ชัญญ่าพี่ดีใจมากๆ เลยพี่ขอโทษนะ ขอโทษที่ไม่ไปตามนัดขอโทษจริงๆ”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ชัญญ่ารู้ว่าพี่ทินอาจจะงานยุ่ง”“โกรธพี่หรือเปล่า”“ไม่โกรธหรอกค่ะแค่น้อยใจนิดหน่อยที่พี่เงียบหายไปไม่โทรมาบอกชัญญ่าเลยว่าตัวเองไม่ว่าง พี่ทินตอบชัญญ่ามาก่อนได้ไหมว่าตอนนี้พี่ทินอยู่ที่ไหน”“พี่อยู่ที่โรงพยาบาล”“อะไรนะ พ
เสียงหวอของรถกู้ภัยดังมาก่อนที่ตัวรถจะมาถึงหน้าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อรถจอดสนิทพนักงานของโรงพยาบาลก็รีบตรงไปเปิดประตูด้านหลังด้านในเป็นร่างของผู้หญิงคนหนึ่งเนื้อตัวและเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดถูกเข็นลงมาจากรถกู้ภัย จากนั้นร่างของเธอก็ถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน จากนั้นก็ถูกย้ายขึ้นไปบนเตียงของโรงพยาบาล พนักงานที่มากับรถกู้ภัยก็รายงานอาการเบื้องต้นให้กับคุณหมอประจำห้องฉุกเฉินอย่างคร่าวๆ ก่อนจะขอตัวออกมา“ชีพจรอ่อนมากหายใจลำบากเตรียมอุปกรณ์สอดท่อและแจ้งห้องผ่าตัดให้เตรียมเลือดไว้ด้วยนะ คนเจ็บเสียเลือดมาก เรียกเอกซเรย์เคลื่อนที่มาด้วยบริเวณขาน่าจะหักมีหมอออร์โธฯไหมเรียกให้เขาตามไปดูคนไข้ที่ห้องผ่าตัดด้วยนะ” คุณหมอประจำแผนกสั่งงานกับทั้งพยาบาลและหมอรุ่นน้องอีกให้ “ครับ / ค่ะ”“คนเจ็บมีญาติไหม”“ไม่มีเลยค่ะกู้ ภัยบอกว่าข้างตัวเธอมีแต่กระเป๋าใบนี้ตกอยู่”“ค้นกระเป๋าหาหาหลักฐานแล้วประสานงานกับญาติด่วนนะ”“ค่ะหมอ”“หมอคะตอนนี้คลำชีพจรไม่ได้แล้วค่ะ”“ขึ้นปั๊มเลย” คุณหมอหันมาสั่งหมอรุ่นน้องให้ขึ้นไปปั๊มหัวใจคนเจ็บส่วนตัวเขาเองกำลังสอดท่อช่วยหายใจอยู่ขณะที่กำลังปั๊มหัวใจยื้อชีวิตหญิ
การได้อยู่กับคนรักในทุกๆ วันมันทำให้เวลาผ่านไปเร็วมากตอนนี้ก็ครบหนึ่งปีแล้วที่มญชุ์ชัญญาและทินภัทรจดทะเบียนสมรสกัน ก่อนหน้านี้หนึ่งสัปดาห์หญิงสาวได้ให้ทนายเตรียมเอกสารการหย่าไว้ให้เรียบร้อยเธอเซ็นชื่อลงในทะเบียนหย่าใส่ซองสีน้ำตาลและจะส่งให้ทินภัทร์เซ็นที่บริษัทหลังจากไปทำงานที่บริษัทของสามีได้ห้าเดือนมญชุ์ชัญญาก็กลับมาช่วยงานมารดาที่ร้านทองเหมือนอย่างเคยเนื่องจากเลขาของเขากลับมาทำงานได้ตามปกติแล้วเรื่องที่เธอจะหย่ากับทินภัทรหญิงสาวไม่ได้ปรึกษาเขาก่อนเพราะคิดว่าเขาคงไม่ยอม แต่เธอปรึกษากับคุณย่าอรุณีแล้วเพราะเธออยากจะคืนสมบัติทุกอย่างให้กับชายหนุ่ม แต่หลังจากนั้นจะจดทะเบียนสมรสกับเขาอีกครั้ง เรื่องนี้คุณย่าอรุณีไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ แต่มญชุ์ชัญญาก็ยืนยันว่าอยากจะทำแบบนั้นเพราะอยากคืนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับทินภัทรเธออยากใช้ชีวิตกับเขาเหมือนคู่สามีภรรยาที่รักกันจริงๆ ไม่ได้รั้งกันไว้ด้วยพินัยกรรม ถึงแม้ที่ผ่านมาเขาได้เธอจะเปิดใจและยอมรับว่าต่างฝ่ายต่างก็มีความรักให้แก่กันด้วยใจจริง แต่เรื่องนี้มันก็ยังคาใจหญิงสาวอยู่ หญิงสาวคิดว่าหลังจากหย่าจากเขาและจดทะเบียนกับเขาครั้งใหม่เธอกับเขาจะใ
ทินภัทรขับรถพามญชุ์ชัญญามายังคอนโดมิเนียมของเขาซึ่งตั้งแต่แต่งงานเขาก็เคยพาเธอมาค้างที่นี่อยู่สองสามครั้งเมื่อประตูห้องปิดลงทินภัทรก็รวบตัวภรรยาเข้ามาจูบอย่างเร่าร้อนมือก็รีบถอดชุดของหญิงสาวออก มือเล็กของมญชุ์ชัญญาก็แกะกระดุมเสื้อของเขาออกเช่นกัน ร่างเปลือยเปลาสกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่หน้าประตูห้องก่อนที่ผู้เป็นสามีจะอุ้มเธอมาวางบนโซฟาเขาผละจูบออกจากริมฝีปากอิ่มแล้วจูบพรมไปทั้งซอกคอขาวเนียน สูดกลิ่นกายหอมเข้าเต็มปอด มือใหญ่ฟอนเฟ้นเคล้นคลึงหน้าอกอวบอิ่มอย่างไม่ปรานี เสียงหวานครางอยู่ในลำคอกับการจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวของคนรัก เธอก็ตอบสนองไปตามสัญชาตญาณอกอิ่มแอ่นเข้าหาริมฝีปากร้อน กายสาวเบียดเข้าหากายแกร่ง เสียงหวานครางฮืออยู่ในลำคอเมื่อทินภัทรใชฟันครูดเบาๆ บนเนินอกอิ่มสร้างความวาบหวามเสียวซ่านจนหญิงสาวรู้สึกปั่นป่วนไปทั่วท้องน้อยแอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายของทั้งสองเป็นตัวกระตุ้นให้สัญชาตญาณดิบเถื่อนที่ซ่อนอยู่ตื่นตัวขึ้นมา เขาดูดดุนเม็ดเชอร์รี่สีสดเข้าปากจนพอใจก็จับเท้าของหญิงสาวไปวางบนโซฟาแยกเข่าทั้งสองข้างแยกจากกันจนกว้าง“อื้อ.....”มญชุ์ชัญญาครางกระเส่าเมื่อปากก้มลงดูดรวบกลีบกุหล
กลับมาจากฮันนีมูนครั้งนี้โลกทั้งใบของมญชุ์ชัญญากลายเป็นสีชมพู หญิงสาวเข้ามาช่วยงานที่บริษัทในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของทินภัทร แม้จะทำงานยังไม่ค่อยคล่องแต่เธอก็พยายามเรียนรู้จากพี่กัญญาหรือพี่แก้วที่ตอนนี้กำลังตั้งครรภ์ได้หกเดือนหญิงสาวต้องเรียนรู้ทุกอย่างก่อนที่เลขาของเขาจะลาคลอด“พี่แก้วคะเอกสารตรงนี้ชัญญ่าเรียงถูกแล้วหรือเปล่าคะ”“ถูกแล้วน้องชัญญ่าเรียนรู้งานได้เร็วมากๆ แบบนี้พี่น่าจะลาคลอดได้อย่างสบายใจ”“พี่แก้วแค่ลาคลอดนะคะไม่ใช่ว่าเลี้ยงลูกเพลินแล้วไม่กลับมาทำงานล่ะ” มญชุ์ชัญญารีบบอกเพราะกลัวว่าเธอจะไม่มาทำงานเป็นเลขาของทินภัทรอีก“ถ้าพี่ไม่กลับมาจริงๆ ล่ะ” กัญญาถามภรรยาของเจ้านายที่สอนงานจนตอนนี้เริ่มสนิทกันมากแล้ว“ไม่ได้นะคะพี่แก้ว ชัญญ่าไม่ถนัดงานแบบนี้เลย”“แต่พี่ว่าชัญญ่าก็ทำได้ดีนะ”“พี่แก้วแกล้งชมชัญญ่าเพราะรู้ว่าชัญญ่าเป็นภรรยาพี่ทินหรือเปล่า”“เปล่าเลยพี่ไม่ได้แกล้งชมพี่พูดทุกอย่างไปตามเนื้อผ้า”“พี่แก้วรำคาญไหมคะที่ชัญญ่าชอบถามพี่แก้วบ่อยๆ” หญิงสาวรู้สึกเกรงใจมากแต่ถ้าไม่ถามก็กลัวว่าจะทำงานไม่เรียบร้อยและปัญหาจะตามมาถ้าหากพี่กัญญาลาคลอดไปแล้ว“ไม่หรอกที่ชัญญ่าถามพี่เพราะช
คำสารภาพรับที่ออกมาจากปากของทั้งสองมันเหมือนเชื้อไฟที่โหมกระหน่ำลงบนกองเพลิงแห่งตัณหาทินภัทรก้มลงจูบเธออย่างเร่าร้อนก่อนจะใช้เข่าดันเรียวขาของหญิงสาวให้แยกออกจากกัน มือใหญ่จับท่อนเอ็นร้อนลากลงบนกลีบกุหลาบให้น้ำหวานอาบทั่วปลายหยักแล้วกดแก่นกายเข้ามาหาเธอทีเดียวจนสุดความยาว“อ๊ะ!....”หญิงสาวสะดุ้งตกใจเพราะไม่คิดว่าทินภัทรจะกระแทกเข้ามาพรวดเดียว แต่เธอก็รับความใหญ่โตของเขาไว้ได้ทั้งหมด“อ่า...ตอดแน่นจัง”“ก็ชัญญ่าเสียวของพี่ทินทั้งใหญ่ทั้งยาว”“ชอบหรือเปล่า”“ถ้าตอบว่าชอบมันจะน่าเกลียดเกินไปไหม”“ไม่น่าเกลียดเลยพี่ชอบกินของชัญญ่าพี่ยังพูดตรงๆ พี่ก็อยากรู้ว่าชัญญ่าชอบน้องชายของพี่บ้างหรือเปล่า”“ชอบค่ะพี่ทิน พี่ทินสัญญากับชัญญ่าได้ไหมว่าจากนี้จะมีแค่ชัญญ่าคนเดียวจะไม่ไปนอนกับผู้หญิงอื่น”“พี่ไม่สัญญาแต่พี่สาบานเลยนะว่าจากนี้พี่จะมีชัญญ่าเป็นเมียคนเดียว จะทำให้ชัญญ่ามีความสุขแบบนี้คนเดียว”ชายหนุ่มพูดขณะที่สะโพกก็เริ่มปรับจังหวะให้เร็วขึ้นไปตามอารมณ์ มือใหญ่ฟอนเฟ้นอกอิ่ม หญิงสาวแอ่นโค้งเข้าหาอย่างห้ามไม่อยู่ เสียงหวานครางชื่อเขาไม่ขาดปากเมื่อปลายท่อนเอ็นกระแทกกระทั้นเข้าหาจุดอ่อนไหว ปากร