Home / รักโบราณ / พ่ายรักพระชายาที่รัก / ตอนที่  9   อาสาสู้ศึก

Share

ตอนที่  9   อาสาสู้ศึก

last update Last Updated: 2025-09-27 01:09:50

 

เว่ยซ่างเจวี๋ยเองก็ไม่ได้มั่นใจนักว่าอันลี่ซินจะคิดเช่นไรในเรื่องนี้ แม้นว่านางจะบอกว่าเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่จัดการ ซึ่งเมื่อเขาได้ฟังก็แค่คิดว่านางช่างไร้ความคิดเสียจริง ชีวิตของตนเองแท้ ๆ กลับให้ผู้อื่นจัดการให้ แต่หากมองจากเรื่องที่ต้าอู๋มารายงานก็นับว่าเขาได้คู่หมั้นที่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ

“อันลี่ซินเหตุใดมองพระจันทร์แล้วนึกถึงเจ้ากันนะ หึ แม้นจะงดงามราวจันทร์เต็มดวง แต่ก็มีบางมุมที่แอบซ่อนเอาไว้สินะ”

เว่ยอ๋องเลือกที่จะสานสัมพันธ์กับสกุลอันต่อ ในเมื่อฝ่าบาทตัดสินพระทัยเช่นนี้ย่อมมีเหตุผล ส่วนตัวเขาเองไม่ว่าผู้ใดจะครอบครองตำแหน่งพระชายานั่นไม่สำคัญเท่ากับนางต้องไม่เข้ามาวุ่นวายเรื่องในกองทัพของเขา และไม่ทำตัวเป็นตัวถ่วงหากต้องกรำศึกหนักอยู่นอกเมือง

“หวังว่าเจ้าจะเป็นพระชายาที่ดีให้ข้าได้นะ”

สองเดือนผ่านไป

ศึกที่ประชิดเมืองหลวงที่มีอวี้อ๋องนำทัพออกจากเมืองหลวงไปร่วมสองเดือนแล้ว แต่ก็ยังมิอาจชนะข้าศึกที่แข็งแกร่งอย่างแคว้นหลันที่ตั้งใจยกทัพมาเพื่อแก่งแย่งดินแดนที่เป็นหุบเขาเอาไว้ได้

“เหตุใดกองทัพของอวี้อ๋องจึงไม่สามารถเอาชนะข้าศึกได้ นี่จะเข้าฤดูน้ำหลากแล้ว หากยังไม่ชนะข้าศึกคงบุกตีเข้าเมืองหลวงเป็นแน่”

“กระหม่อมเห็นสมควรว่าควรให้เว่ยอ๋องยกทัพไปเสริม เพื่อจะได้จัดการข้าศึกได้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะลุกลามถึงเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ”

“เหลวไหล! หากว่าเว่ยอ๋องยกทัพออกไปอีก แล้วผู้ใดจะอยู่ปกป้องเมืองหลวงกันเล่า”

เสียงฮึมฮำของเหล่าขุนนางที่ไม่รู้ว่าจะเสนอแผนการใดออกไปดีทำให้ฝ่าบาทนั้นคิดไม่ตก 

“เว่ยอ๋อง เรื่องนี้เจ้ามีความเห็นหรือไม่”

เว่ยซ่างเจวี๋ยเดินออกมาและคำนับต่อฝ่าบาทเพื่อกราบทูล

“เสด็จพ่อ ลูกเห็นว่าชัยภูมิที่ตั้งของต้าซ่งในตอนนี้ กองทัพของอวี้อ๋องค่อนข้างเสียเปรียบเนื่องจากศัตรูมาจากทางเหนือ รับรู้และชำนาญเส้นทางการเดินทัพระหว่างภูเขาได้ดีกว่าทหารม้าของต้าซ่งที่ถนัดทางราบ ดังนั้นต้องเปลี่ยนวิธีการรับศึกพ่ะย่ะค่ะ”

“ไหนเจ้าลองว่ามาสิ”

“ต้องหลอกล่อให้ข้าศึกลงจากเขา ให้เข้ามาทางราบเพื่อปิดล้อมโจมตีพ่ะย่ะค่ะ”

ขุนนางหลายคนเริ่มส่งเสียงในลำคออีกครั้ง หลายคนเห็นด้วยกับวิธีการนี้ แต่หากจะส่งข่าวไปให้ทางกองทัพก็เกรงว่าแผนการอาจจะหลุดไปได้

“เช่นนั้นเจ้าคิดว่าเราจะส่งข่าวไปให้กองทัพได้เช่นไรโดยที่จะไม่ให้แผนการนี้ถูกพบเจอเข้า”

“เรื่องนี้เพียงแค่ลูกและองครักษ์ไม่กี่คนเดินทางไปด้วยตัวเองก็จัดการได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“อะไรนะ! แต่ว่า…”

“เส้นทางระหว่างเมืองหลวงไปที่ชายแดนเป็นเส้นทางที่ลูกถนัด ก่อนหน้านี้หากทราบก่อนคงจะกราบทูลขอนำทัพไปด้วยตนเอง แต่ไม่คิดว่าเสด็จพี่จะกล้าหาญและเป็นผู้นำทัพไป ครั้งนี้ลูกเพียงแค่จะไปบอกแผนการเท่านั้น ไม่คิดก้าวล่วงวิธีการของกองทัพพ่ะย่ะค่ะ”

“อืม เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า ข้าอนุญาต”

“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ”

จวนราชครู 

“อะไรนะเจ้าคะ ท่านอ๋องขออาสาออกไปที่กองทัพของอวี้อ๋องงั้นหรือเจ้าคะ”

“ใช่ เว่ยอ๋องมีแผนการที่จะจัดการข้าศึกได้แต่ว่าจะมินำกองทัพไปด้วย เพียงแค่จะเสด็จไปพร้อมกับแผนการเท่านั้น”

“แต่แบบนั้นมันไม่อันตรายเกินไปหรือเจ้าคะท่านพี่ หากว่ามีผู้ที่คอยดักซุ่มโจมตี…”

“เรื่องนั้นฝ่าบาททรงตรัสถามแล้ว แต่เว่ยอ๋องดูเหมือนจะมั่นพระทัยมากว่าจะสามารถเข้าเขตกองทัพได้โดยที่ศัตรูไม่สามารถจับพระองค์ได้”

“ก็แน่ล่ะสิเจ้าคะ พระองค์ชำนาญด้านกองทัพดักซุ่มโจมตีและเก่งเรื่องการอำพรางกาย อีกทั้งแผนการรับมือข้าศึกในแถบชายแดนเหนือแลตะวันออกเว่ยอ๋องชำนาญกว่าอวี้อ๋องที่รบอยู่เพียงตอนใต้อยู่แล้ว”

ราชครูอันหันมามองหน้าบุตรสาวที่เอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาด้วยความมั่นใจ อีกทั้งสิ่งที่นางพูดก็ตรงกับความคิดของราชครูอันเช่นกัน

“อืม เจ้าวิเคราะห์ได้ถูกต้องแล้ว ที่จริงพ่อเองก็แปลกใจไม่น้อยที่จู่ ๆ อวี้อ๋องก็ขอออกศึกครั้งนี้ด้วยตัวเองทั้ง ๆ ที่ไม่ชำนาญการศึกชัยภูมิเช่นนี้”

“ท่านอ๋องจะออกเดินทางเมื่อใดหรือเจ้าคะ”

“เห็นว่าอีกสามวัน น่าจะรอให้เป็นคืนเดือนมืดก่อน”

อันลี่ซินเดินกลับมาที่ห้องพร้อมกับมองรูปดอกเหมยที่นางพึ่งวาดจนเสร็จ นางตัดสินใจม้วนภาพและเดินทางไปที่ตำหนักเว่ยอ๋องพร้อมกับห่อยาสมานแผลที่นางทำขึ้นมาด้วยตัวเองจากตำรับยาของหมอเทวดา “หลินฟู่” ที่สอนนางตอนเด็ก

ตำหนักเว่ยอ๋อง

“คุณหนูอัน!”

“ข้ามาขอเข้าเฝ้าเว่ยอ๋อง เห็นว่าจวนจะออกเดินทางแล้วจึงนำสิ่งของมามอบให้ รบกวนท่านแจ้งท่านอ๋องให้ข้าได้หรือไม่”

“เช่นนั้นคุณหนูอัน เชิญตามข้าน้อยมาทางนี้เถิดขอรับ”

“ขอบคุณท่านมาก”

ลี่ซินเดินตามต้าอู๋มาด้านในตำหนัก นางไม่เคยมาที่นี่มาก่อนแต่เมื่อทราบข่าวว่าท่านอ๋องจะเดินทางออกนอกเมือง จึงอยากมาส่งและมอบสิ่งของติดกายให้เขาเพื่อเป็นการแสดงน้ำใจ

“เหตุใดให้พวกเรารอที่นี่ หรือว่าท่านอ๋องมิได้ประทับอยู่ที่นี่งั้นหรือ”

“มิได้ขอรับ คุณหนูอันตอนนี้ท่านอ๋องรับแขกอยู่ข้าน้อยจะเร่งไปแจ้งให้ท่านอ๋องทราบก่อน”

“แต่ว่า...”

“อาหรูอย่าเสียมารยาท เช่นนั้นข้าขอฝากของสิ่งนี้เอาไว้ ข้าไม่รบกวนเวลาของท่านอ๋องแล้ว ฝากทูลด้วยว่าขอให้พระองค์เดินทางปลอดภัย”

“แต่ว่าคุณหนูอัน ท่านควรจะรอเข้าเฝ้าท่านอ๋อง ข้าน้อยจะรีบไปทูลแจ้งให้พระองค์ทราบ”

“ไม่เป็นไร เรื่องบ้านเมืองสำคัญกว่าข้าคงมิอาจรบกวนได้ ฝากท่านมอบของสองสิ่งนี้ให้ท่านอ๋องแทนข้าด้วย ขอตัวกลับก่อนไปกันเถิดอาหรู”

“เจ้าค่ะ”

นางเดินออกมาทันที ต้าอู๋มิอาจทัดทานนางเอาไว้ได้เขาจึงรีบเดินนำของไปที่เรือนชั้นกลางซึ่งท่านอ๋องกำลังรับแขก แต่กลับโชคร้ายที่เว่ยอ๋องกับแขกผู้มาเยือนกำลังจะกลับพอดี ซึ่งเส้นทางนั้นเป็นทางเดียวกับที่ลี่ซินจะเดินออกจากตำหนักแต่เมื่อได้ยินเสียงพูดคุยนางจึงได้หยุด

“หม่อมฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี เหตุใดจึงไม่ยกทัพเสริมไปช่วย เดินทางไปเพียงลำพังเช่นนี้หม่อมฉันกังวลเหลือเกินเพคะ”

“แม่นางเฟิ่งเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงมากหรอก อวี้อ๋องปลอดภัยอยู่ที่กองทัพ ข้าคิดว่าเขาจะไม่ได้รับอันตราย”

“แต่ว่า! ท่านให้ผู้ใดไปแทนก็ได้เหตุใดต้องไปด้วยตัวเองเช่นนี้พี่ซ่างเจวี๋ยข้ามิอาจทนได้อีกต่อไป ข้าไม่สนว่าอวี้อ๋องจะเป็นเช่นไรแต่ท่านไม่ควรจะเสี่ยงชีวิตเพื่อเขา”

อันลี่ซินยืนนิ่งเมื่อได้ฟังอีกฝ่ายหนึ่งพูด แม้ว่าเว่ยอ๋องจะมิได้ตอบอะไรนางและดันตัวเฟิ่งถงหลินออกห่าง แต่คำพูดนั้นก็แน่ชัดว่านางมีใจให้เว่ยอ๋องไม่ผิดแน่

“แม่นางเฟิ่งข้าบอกแล้วว่าระหว่างเราจะไม่มีเรื่องเช่นนี้อีก วันนี้ที่ข้ายอมออกมาพบเจ้า เพราะคิดว่าจะฝากสิ่งใดไปถึงพี่ใหญ่ของข้า”

“ไม่! ข้าไม่สนใจเลยสักนิด ได้โปรดเถิดพี่ซ่างเจวี๋ยข้าเองก็เติบโตมาในกองทัพของท่านพ่อ ข้าไปกับท่านได้”

“คุณหนูเจ้าคะ”

“เจ้าเงียบ ครั้งนี้ข้าจะฟังให้จบ”

“แต่ว่า…”

เว่ยอ๋องถอยห่างจากเฟิ่งถงหลิน แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเคยนึกชื่นชมนางแต่การกระทำในวันนี้ทำให้เขานึกเคืองนางไม่น้อย เพราะนอกจากจะไม่รู้กาลเทศะแล้วยังมาเป็นตัวถ่วงในการเดินทางของเขาอีก

“เฟิ่งถงหลินเจ้ากลับไปเถอะ หากมิได้มีธุระหรือจะฝากจดหมายอันใดให้อวี้อ๋องก็ไม่ควรมาพบข้าถึงในตำหนักเช่นนี้อีก หวังว่าเจ้าจะเก็บความคิดที่โง่เขลานั้นกลับไปด้วยเล่า”

“พี่ซ่างเจวี๋ย! นี่ท่านกำลังดูถูกข้าอยู่งั้นหรือ ท่านไม่คิดว่าสตรีเช่นข้าจะเคียงข้างท่านในฐานะขุนศึกข้างกายได้อย่างนั้นหรือ”

เสียงของทั้งคู่ดังจนทำให้ต้าอู๋ที่วิ่งมาจากเรือนชั้นกลางตกใจ เมื่อเดินมาถึงก็พบว่าอันลี่ซินที่ยืนอยู่อีกฝั่งของประตูยืนฟังทั้งคู่อยู่ จึงรีบเรียกชื่อนางเพื่อให้เว่ยอ๋องได้รู้ตัว

“คุณหนูอันขอรับ!!”

  

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • พ่ายรักพระชายาที่รัก    ตอนที่  18  ชอบนางงั้นหรือ

    “แต่หากครั้งนี้คุณหนูเฟิ่งยังแอบติดตามพระองค์ไปอีก จะทำเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”“เจ้าถามก็ดีแล้ว เสด็จพ่อทรงสั่งการให้กองทัพของเฟิ่งฉวนตรึงกำลังรักษาเมืองหลวง ครั้งนี้มีอวี่เหริน (องค์ชายห้า) คอยกำกับกองทัพแทนเฟิ่งฉวนที่ถูกลดอำนาจลงเหลือเพียงรองแม่ทัพเท่านั้น”“ถึงจะมีองค์ชายห้าอยู่แต่ว่า…”“หากนางกล้าออกจากจวนคนของเราก็จะทราบทันที อีกอย่างข้าไม่ห้ามที่นางจะมาวุ่นวายที่นี่เพราะถึงอย่างไรนางต้องมาแน่ ลูกหมาป่าหรือจะสู้แม่เสือที่เฝ้าถ้ำอยู่ แม้จะไม่ได้กางกรงเล็บง่าย ๆ ข้าเชื่อว่าแค่ข่มขู่ ลูกหมาป่าก็สู้นางไม่ได้แล้ว”“เหตุใดพระองค์ดูมั่นพระทัยในตัวคุณหนูอันนักเล่าพ่ะย่ะค่ะ หรือว่าเพราะ…”“อย่าพูดเหลวไหล ที่ข้าเลือกอันลี่ซินเพราะนางเป็นคนที่รู้จักธรรมเนียมมารยาท อีกทั้งนางที่อ่อนนอกแข็งในและใช้สติในการแก้ปัญหาย่อมเหมาะสมกว่าผู้ที่ใช้แต่อารมณ์และไร้สติอย่างบุตรแม่ทัพเฟิ่งผู้นั้นแน่นอน”“ท่านอ๋อง พระองค์มิได้มีใจชอบพอนางบ้างหรือพ่ะย่ะค่ะ”“เจ้ารีบนำหนังสือนี้ออกไปส่งให้คนของเราที่นอกเมือง เตรียมการให้พร้อมก่อนที่จะออกศึกในอีกเจ็ดวันข้างหน้า”“พ่ะย่ะค่ะ”เว่ยอ๋องตัดบทองครักษ์ข้างกายในทันที เขามิอาจ

  • พ่ายรักพระชายาที่รัก    ตอนที่  17 อย่าเมินเฉยต่อข้า

    “หม่อมฉันมิได้โกรธพระองค์ เพียงแต่ว่าข่าวลือในเมืองหลวงที่หนาหูนั่นทำให้ไม่อยากเสียเวลา และไม่อยากสร้างความลำบากพระทัยให้พระองค์จึงเลือกที่จะวางเฉยปล่อยเรื่องนี้ให้เงียบไปเอง แต่ไม่คิดว่าข้าศึกจะมาประชิดเมืองทางตะวันออกอีก”“เช่นนั้นที่เจ้าทำเมินเฉยต่อข้าและไม่มาพบที่ตำหนักก็เพราะเรื่องนี้งั้นหรือ เจ้ากล้าพูดหรือว่าเจ้าไม่โกรธข้าเลยแม้แต่นิดเดียวลี่ซิน”“หม่อมฉัน… ยอมรับเพคะว่ามีเคืองใจพระองค์อยู่บ้าง แต่ว่าท่านพ่อบอกเสมอว่าให้ถือหน้าที่ของตัวเองเป็นสำคัญ การที่หม่อมฉันเลือกที่จะไม่สนใจและเพิกเฉยต่อข่าวลือทำให้ข่าวนั้นไม่มีความสำคัญอีกต่อไป”“แต่การที่เจ้าไม่ยอมพบข้า จงใจหลบหน้าข้านี่ก็เป็นสิ่งที่เจ้าปฏิเสธไม่ได้นะ”“ที่หม่อมฉันทำเช่นนั้นอาจจะไม่ถูกก็จริง แต่ว่าทุกครั้งที่พระองค์ไปที่จวนก็มิได้มีครั้งใดที่ตั้งใจจะไปหาหม่อมฉันนี่เพคะ”“ข้า…”ใช่แล้ว ทุกครั้งที่เขาไปที่จวนสกุลอันก็เพียงแค่หาเหตุผลอื่นโดยมิได้ตั้งใจจะไปหานางจริง ๆ แต่คนเช่นเว่ยอ๋องที่มีทิฐิสูงย่อมไม่กล้ายอมรับอยู่แล้วว่าจะไปง้อนาง แม้ว่านางจะเพียงแค่รอให้เขาแสดงความจริงใจแต่ก็ไม่เคยมีเลยสักครั้ง ดังนั้นนี่คือสิ่งที่นางลง

  • พ่ายรักพระชายาที่รัก    ตอนที่ 16 โอรสสวรรค์ก็มิอาจช่วย

    ฝ่าบาทมองเห็นเนตรที่ตื่นเต้นและโมโหจนนึกลอบขำอยู่ไม่น้อย มิใช่ว่าพระองค์จะไม่รู้เห็นสิ่งใดเลย ก่อนหน้านี้ก็ทรงเรียกราชครูอันมาไถ่ถามแล้วและพบว่าเว่ยอ๋องเองก็อยู่ไม่เป็นสุขเช่นกัน เมื่อบุตรีของราชครูวางเฉยและไม่มาพบหน้าเขาเลยตั้งแต่กลับจากศึกแดนเหนือมาได้เกือบสองเดือน“ไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นคนที่รักษาสัญญาเช่นนี้ เจ้าคงมิได้กลัวราชครูอันโกรธใช่หรือไม่ หากว่าพ่อจะประทานสตรีสกุลเฟิ่งให้เจ้าอีกคน”“มิใช่พ่ะย่ะค่ะเพียงแต่ว่าตามที่ลูกรายงานให้พระองค์ทราบ สตรีผู้นี้สร้างความวุ่นวายให้กองทัพ อีกทั้งเฟิ่งฉวนยังใช้เรื่องนี้มาต่อรองกับลูกเพื่อให้ช่วยตัวปัญหาเช่นนาง ลูกไม่มีทางรับสตรีเช่นนี้เข้ามาในตำหนักไม่ว่าจะด้วยฐานะใด ขอเสด็จพ่อโปรดทรงอภัยที่ลูกมิอาจรับได้พ่ะย่ะค่ะ”“อืม เช่นนั้นก็ตามแต่ใจเจ้าก็แล้วกัน จริงสิเรื่องข้าศึกที่ดินแดนตะวันออกที่เริ่มก่อกบฏเจ้าคิดว่าจะจัดการเช่นไร”“ตอนนี้ลูกสั่งให้กองทัพส่วนหนึ่งดักซุ่มรอดูเหตุการณ์ อีกส่วนหนึ่งเข้าไปสืบข่าวและพบว่าสิ่งที่พวกเป่ยลี่ต้องการคือเหมืองแร่เหล็กสำหรับผลิตอาวุธพ่ะย่ะค่ะ”“เจ้าคิดว่าศึกครั้งนี้จะรุนแรงกว่าศึกกับแคว้นหลันหรือไม่ ครั้งก่อนแคว

  • พ่ายรักพระชายาที่รัก    ตอนที่  15   ไม่อยากแต่งก็อย่าแต่ง!

    “ให้ตายสิแล้วคนที่เดือดร้อนก็เป็นพวกข้า เช่นนั้นแล้วควรทำเช่นไรดีเล่าขอรับ”“ก็ต้องให้ท่านอ๋อง….”หมัวมัวพูดกับองครักษ์ต้าอู๋ แต่กลับไม่รู้เลยว่าผู้ที่ลอบแอบฟังอยู่อีกฝั่งหนึ่งกำลังยิ้มและรีบเดินกลับไปที่ห้องอักษรมองภาพวาดตรงหน้าอีกครั้ง“อันลี่ซินข้าจะดูสิว่าครั้งนี้เจ้าจะปฏิเสธไม่พบข้าได้เช่นไรกัน”วันถัดมา / หลังประชุมราชสำนัก“อาจารย์ขอรับ”“ท่านอ๋อง ทรงมีสิ่งใดหรือพ่ะย่ะค่ะ”“คือว่าครั้งก่อนที่ข้ากลับมาจากแดนเหนือ มีกลยุทธ์ศึกอย่างหนึ่งที่ยังไม่เข้าใจ จากที่ท่านเคยสอนข้าจดจำได้ว่ามันอยู่ในตำราหนึ่งในพิชัยยุทธ์ซึ่งอยู่ที่ห้องหนังสือในจวนของท่าน ข้าใคร่อยากจะขอติดตามเพื่อไปยืมตำราเล่มนั้นสักหน่อยขอรับ”“พิชัยยุทธ์ของจักรพรรดิตี้หวันลี่ที่สอง อ้อ เช่นนั้นเชิญท่านอ๋องเสด็จเถิดพ่ะย่ะค่ะกระหม่อมจะพาพระองค์ไปด้วยตนเอง”“ขอบคุณท่านอาจารย์”เว่ยอ๋องเดินตามราชครูอันขึ้นรถม้าไปทันที เขาพูดคุยเรื่องต่าง ๆ กับราชครูจนกระทั่งถึงจวน เมื่อลงจากรถม้าและติดตามราชครูอันเข้าไปในจวนก็เริ่มมองไปทั่ว ๆ จวนราชครูอันทราบดีอยู่แล้วว่าท่านอ๋องมิได้อยากมาหาตำราอย่างที่ตรัสเอาไว้ เพียงแค่จะหาเรื่องมาหาบุตรส

  • พ่ายรักพระชายาที่รัก    ตอนที่ 14   กำจัดข่าวลือ

    ท่านอ๋องเดินเข้าไปยังตำหนักชั้นในทันทีโดยไม่หันมามองนางอีก เฟิ่งถงหลินถูกองครักษ์ขวางเอาไว้ก่อนจะถอยออกมา พวกเขาเป็นองครักษ์ที่มิได้เหมือนทหารทั่วไป แต่เป็นองครักษ์ชั้นเยี่ยมที่ถูกส่งมาอารักขาตำหนักอ๋อง พวกเขาไม่พูดแต่จะลงมือเลย อีกทั้งไม่ปล่อยโอกาสให้เหยื่อได้ขอร้องเพราะเพียงอ้าปากก็ถูกส่งไปปรโลกแล้ว“แม่นางเฟิ่งเชิญกลับเถิดขอรับ แม่ทัพเฟิ่งรออยู่ที่รถม้านานแล้ว”“สกุลเฟิ่งช่วยพวกท่านในกองทัพครั้งก่อน เหตุใดท่านอ๋องจึงปฏิบัติกับข้าเช่นนี้”“เชิญขอรับ”“เจ้า!”เฟิ่งถงหลินได้แต่โมโหแต่ก็ต้องยอมถอย เพราะตอนนี้แม้อยากจะดื้อดึงก็ไร้ประโยชน์ นางจึงยอมกลับไปก่อนเพื่อจะไปตั้งหลัก เมื่อต้าอู๋เห็นว่านางไปแล้วจึงได้แต่ส่ายหัว“แค่โผล่ไปที่กองทัพแล้วสร้างความวุ่นวายครั้งก่อนยังไม่พอหรืออย่างไรกันนะ ยังกล้ามาแสดงตัวที่นี่อีกช่างไร้ยางอายเกินจะทนจริง ๆ”ห้องอักษรเว่ยซ่างเจวี๋ยเดินมาในห้องเพื่อมองภาพดอกเหมยที่อันลี่ซินนำมามอบให้ก่อนที่เขาจะออกศึก นับตั้งแต่วันที่เขาจูบนางที่ห้องนี้และวันที่พบนางที่หน้าจวนก่อนเข้าวัง หลังจากนั้นนางก็ไม่มาพบเขาอีกเลย“ลี่ซิน…”“ท่านอ๋อง แม่นางเฟิ่งกลับไปแล้วพ่ะย่ะค่

  • พ่ายรักพระชายาที่รัก    ตอนที่  13   ไร้เงาคู่หมั้น

    ลี่ซินเพียงแค่พยายามยิ้มและถอยออกมาทันทีที่มอบดอกไม้ให้เขาก่อนจะคำนับให้เว่ยอ๋องอีกครั้ง“ยังมีอีกหลายที่ที่ท่านอ๋องจะต้องเสด็จผ่าน อย่ารั้งรอเวลาที่นี่เลยเพคะ”เว่ยอ๋องรู้ว่านางต้องทำท่าทางเช่นนี้อยู่แล้ว แต่ในเวลานี้เขาไม่มีเวลาที่จะอธิบาย ลี่ซินเองก็รู้ดีว่ามิใช่เวลาที่จะมาโกรธ เว่ยซ่างเจวี๋ยคิดว่าหากนางจะต้องมาเป็นพระชายาของเขาจริง ๆ จะต้องเข้าใจบริบทการทำงานของกองทัพและผู้คนที่จะเข้ามาทำงานร่วมกับเขาด้วย “เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน”ลี่ซินย่อคำนับก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นและทันได้เห็นรอยยิ้มเย้ยหยันเล็กน้อยของสตรีที่สวมเพียงเกราะอ่อนที่อยู่ด้านหลังเยื้องไปค่อนข้างไกลจากท่านอ๋องแม้จะมิได้เคียงข้างและไม่ได้เป็นที่สนใจ แต่อย่างน้อยนางก็ร่วมเดินทางไปกับกองทัพด้วย ลี่ซินเพียงแค่ยิ้มตอบกลับไปทำเอาเฟิ่งถงหลินนึกแปลกใจจนทำหน้าไม่ถูก เมื่อขบวนค่อย ๆ ผ่านจวนสกุลอันไป‘เหตุใดนางจึงยังยืนยิ้มด้วยสีหน้าน่าหมั่นไส้นั้นให้ข้า นี่นางไม่หึงเว่ยอ๋องกับข้าเลยงั้นหรือ’ขบวนผ่านไปกว่าครึ่งแล้วเมื่อลี่ซินขอตัวเข้าไปในจวนพร้อมกับอาหรูที่พยุงนางไปนั่งที่ศาลา มือนางสั่นจนเกือบซ่อนอาการเอาไว้ไม่มิด แม้นว่าในตอนนี้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status