แชร์

1.ชีวิตฉันต้องดี

ผู้เขียน: rasita_suin
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-16 14:24:36

“แกดูผอมกว่าเดิมไปมากอ่ะมัท”

พิสินีเพื่อนสนิททักขึ้นเมื่อทั้งสองนัดดูหนังแก้เซ็งกันในวันหนึ่งที่อีกฝ่ายหยุดงาน

“นั่นคงเป็นเรื่องดีเรื่องเดียวของฉันมั้ง”

มัทรีพูดพร้อมยิ้มแห้ง

การถูกเลิกจ้างครั้งแรกในชีวิตมันออกจะมึนหน่อยสำหรับเธอ แต่ก็นั่นแหละ เรื่องแบบนี้ขอแค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว

เธอค่อนข้างเครียดและคิดมาก สภาพจิตใจไม่ค่อยปกติ แม้จะไม่ได้เสียใจแต่บางวูบก็ยังรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ กับคำบอกของหัวหน้างาน ‘งานที่เธอทำมันไม่มีประโยชน์’

โชคดีมีเพื่อนกับรุ่นพี่ต้องออกมาพร้อมกันหลายคน จึงนัดกันไปจัดการเอกสารที่สำนักงานประกันสังคมเพื่อรับเงินชดเชยหกเดือนในช่วงที่ยังไม่มีงานทำ ทั้งยังคอยบอกคอยเตือนวันรายงานตัว นับว่าเป็นมิตรภาพที่ดีไม่น้อยในเวลาที่ต่างคนต่างก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับชีวิตตัวเองอย่างไร

“ว่างมาเดือนกว่าแล้วแกคิดจะเอาไงกับชีวิต”

หลังจากดูหนังแล้วสองสาวก็มานั่งละเลียดอาหารในร้านเฟรนไชส์ไก่จากเกาหลีร้านหนึ่ง

มัทรีถอนหายใจก่อนจะตอบ

“บอกตามตรง ฉันหมดศรัทธาในงานประจำแล้วอ่ะ แถมอายุก็ตั้งขนาดนี้แล้ว ไปสมัครงานที่ไหนใครเขาจะรับ”

“หยาบคาย มันก็คงยังพอหาได้อยู่หรอก”

พิสินีอดค้อนไม่ได้เพราะพูดแบบนี้ก็เท่ากับเธอก็แก่เหมือนกัน ทั้งที่เธอหยุดอายุไว้แค่ยี่สิบเจ็ดมาเจ็ดปีแล้ว

“แกไม่อยากหามากกว่า”

“อืม”

มัทรีพยักหน้ารับง่ายๆ ใครไม่เป็นเธอไม่มีวันเข้าใจ เมื่อได้เรียนรู้ว่าการตั้งใจทำงานเพื่อองค์กรไม่เคยมีความหมายใด บริษัทต้องเดินไปข้างหน้า มดงานตัวน้อยนิดไม่มีผลประโยชน์ก็จบ มีออกก็มีเข้าใหม่ได้เรื่อยๆ มันเป็นกลไกเพื่อความอยู่รอด เธอไม่โทษใคร เพียงแค่รู้สึกว่าอยากหันมาทุ่มเทกับตัวเองมากกว่า

“แกดูสิ เราทำงานงกๆ ตั้งแต่เรียนจบจนอายุสามสิบสี่ ยังโสด ยังไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง ไม่มีความมั่นคงในชีวิตสักอย่าง”

“แกมีคอนโดไง”

พิสินีบอก สองสาวซื้อคอนโดราคาไม่แพงนักอยู่โครงการเดียวกัน

“นั่นแหละ ภาระอันใหญ่ยิ่งของฉันเลย”

มัทรีหน้างอ เธอเพิ่งตัดสินใจซื้อคอนโดและเริ่มผ่อนได้ยังไม่ถึงปีด้วยซ้ำ ตอนนี้ที่ยังไม่มีปัญหาเพราะมีเงินชดเชยจากบริษัท แต่ยังไงก็ต้องร่อยหรอ อย่างไรเสียก็ต้องหาเพิ่มก่อนที่เงินก้อนนี้จะหมดลง

“แล้วจะเอาไงล่ะ”

“อยากทำร้านกาแฟอ่ะ”

หญิงสาวเปรยกับเพื่อน แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่หลายคนก็คิด และหลายคนก็ทำ แถมคนสมัยนี้ยังนิยมชงกาแฟดื่มเองที่บ้านด้วย เครื่องชงกาแฟหาซื้อได้อย่างสะดวกหลายแบบแล้วแต่ชอบ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำร้านกาแฟแล้วประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่มีทุน ยังต้องอาศัยทำเล ความรู้ รสชาติเป็นปัจจัย แต่มัทรีก็อยากทำ

“ถ้าเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ตอนนี้ จะเหนื่อย จะล้ม ฉันคิดว่าก็ยังไม่แก่จนเกินไป ยังพอสู้ต่อได้อยู่นะ”

เธอบอกพร้อมกับยักไหล่

พิสินียิ้มขำท่าทางของเพื่อน มัทรีมีความคิดบวกอยู่เสมอ เพื่อนเธอไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบข้าง ไม่สนใจผู้คนนัก ไม่ว่าคนพวกนั้นจะคิดอย่างไรพูดอย่างไร หรือเป็นคนแบบไหนก็ไม่เคยใส่ใจ ใช้ชีวิตอยู่กับความสุขในแบบของตัวเอง ไม่แปลกพอเจอเรื่องโหดร้ายกับความรู้สึกแบบนี้สิ่งที่มัทรีจะเลือกก็คือเดินหนี เดินไปหาความสุขแบบใหม่

ระหว่างนั้นโทรศัพท์ของมัทรีเข้ามาพอดีหญิงสาวจึงหยิบขึ้นมารับ

“จ้ะแม่”

เมื่อเห็นชื่อที่หน้าจอหญิงสาวก็ทักมารดาด้วยน้ำเสียงสบายๆ

‘ว่าไง ตัดสินใจได้หรือยังลูกฉัน’

คำถามถูกเอ่ยขึ้นมาแทนคำทักทายทำเอามัทรีถึงกับถอนหายใจ

“ไม่เอาอ่ะแม่”

‘อะไร แม่อุตส่าห์หาทางช่วยให้กลับมาอยู่บ้านเราสบายๆ ไปต้องดิ้นรนอยู่กรุงเทพฯ ยังเรื่องมากอยู่ได้’

คนฟังหน้างอ สบายๆ ของแม่คือกลับไปแต่งงานกับคนแก่รุ่นอา นายอำเภอที่เป็นโสดเพราะสูญเสียภรรยาไปห้าปีแล้วยังไม่แต่งงานใหม่

“ก็มันไม่ใช่อ่ะแม่”

มัทรีพูดเสียงยานคางงอแง เหลือบสบตากับพิสินีที่มองเธอด้วยความสนอกสนใจ

‘นายอำเภอเขาถูกใจแกตั้งแต่ที่เห็นตอนมาสงกรานต์แล้ว ถ้าเขาไม่สนใจจริงๆ เขาไม่ถามถึงกับแม่อีกหรอก ผู้ใหญ่บ้านเขาก็เห็นดีด้วยนะ บอกว่านายอำเภอเป็นคนดี ไม่ขี้เหล้า เลิกงานกลับบ้านไม่มีเหลวไหล’

“นั่นก็เกินไปแล้วแม่”

หญิงสาวบอกอย่างไม่เชื่อ คนส่วนใหญ่ก็พูดเอาดีเข้าตัวทั้งนั้น ไม่ใช่เธอคิดว่าผู้ใหญ่บ้านไม่ดีหรอก แต่ไม่แปลกถ้าจะช่วยสนับสนุนคนที่เอื้อผลประโยชน์กับตัวเองได้

‘เรื่องมากจริงลูกฉัน ให้กลับมาเป็นคุณนายนายอำเภอก็ไม่เอา อายุแกก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้วนะมัท’

“รู้แล้วแม่ จะย้ำทำไม”

มัทรีกลอกตาทำปากยื่น

‘ก็ย้ำให้รู้น่ะสิ ว่าปูนนี้แล้วผู้ชายในกรุงเทพฯ ที่ไหนเขาจะมามองแก รุ่นเดียวกันเขาก็หาเมียเด็กกว่าแกทั้งนั้น อย่างแกน่ะมันต้องได้กับคนสี่สิบห้าสิบน่ะถูกแล้ว’

“เดี๋ยวนี้ผู้หญิงเขาเลี้ยงตัวเองกันได้หมดแล้วแม่”

‘เฮ้อ ฉันล่ะเบื่อแกจริงๆ แล้วนี่จะไม่กลับจริงๆ ใช่ไหม ฉันจะไปพูดกับผู้ใหญ่เขายังไงล่ะ’

เสียงมารดาบ่นมาตามสายอย่างอ่อนอกอ่อนใจ

“แม่ก็เฉยๆ แค่นั้นเอง”

‘แล้วถ้าผู้ใหญ่บ้านแกถามล่ะ’

“บอกว่านังมัทมันดื้อ แค่นั้นแหละแม่”

หญิงสาวทำน้ำเสียงให้เหมือนมารดา ได้ยินเสียงอีกฝ่ายถอนหายใจหงุดหงิดมาตามสาย

‘เออ แกมันดื้อจริงๆ ฉันมันเลี้ยงลูกบังเกิดเกล้า’

แม้จะบ่นแต่น้ำเสียงมารดาไม่ได้ดุเลยสักนิด ออกจะขำด้วยซ้ำ

บิดากับมารดาของเธอเป็นชาวสวนส้มโอธรรมดา เมื่อตอนยังเด็กเธอเห็นทั้งสองคนทำงานเหนื่อยเพื่อส่งเธอกับน้องๆ วัยไล่เลี่ยกันเรียน กระทั่งพวกเธอเริ่มทำงานจึงมีลูกจ้างเพิ่มขึ้นและตอนนี้ก็ไม่ต้องทำเองแล้ว แถมบิดายังได้เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอีกด้วย เรียกได้ว่าตอนนี้มารดาของเธอออกงานเป็นหลัก งานสวนส้มโอมีน้องสาวกับน้องเขยช่วยกันดูแลจัดการ น้องชายเธอก็เป็นข้าราชการอยู่ในตัวจังหวัดนครปฐมและแต่งงานไปแล้ว

มัทรีไม่แปลกใจที่มารดาจะพยายามผลักดันให้เธอแต่งงาน ยอมรับว่าหากได้เป็นคุณนายนายอำเภอถือว่าโชคดีมาก เดาได้เลยว่าวันๆ ของเธอคงมีแค่แต่งตัวสวยออกสังคมพบเจอกับคุณหญิงคุณนาย ปั้นหน้ายิ้ม จับกลุ่มเมาท์ แต่นั่นไม่ใช่ชีวิตแต่งงานแบบที่มัทรีต้องการ

ถึงจะยังไม่รู้ว่าตนเองต้องการชีวิตแต่งงานแบบไหน ทว่าที่รู้คือเธอต้องการชีวิตประจำวันที่สงบมากกว่าสีสันจัดเต็มตลอดเวลาแบบนั้น

“แม่แกว่าไง”

พอวางสายพิสินีก็ถามทันที

“เรื่องเดิมๆ”

มัทรีตอบอย่างเซ็งๆ ขณะที่เพื่อนยิ้มให้อย่างทะเล้น

“แกไม่บอกแม่ไปตรงๆ เลยล่ะ ว่าไม่ชอบคนแก่”

“แม่ก็บอกว่าฉันแก่แล้ว ผู้ชายอายุเท่าเราเขาก็ชอบเด็กๆ ทั้งนั้น”

“แหม...ผู้ชายสมัยนี้ก็ชอบคนอายุเยอะกว่าเยอะแยะไป แม่ไม่วัยรุ่นเลย”

พิสินีบ่นอย่างขำๆ พูดเรื่องแก่เมื่อไรแล้วมันเจ็บจี๊ดทุกที

“เฮ้อ เรื่องนั้นมันหวังยากแล้ว ตอนนี้เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ”

เธอไม่ได้คิดอยากเป็นโสด แต่ตอนนี้เรื่องงานเรื่องเงินสำคัญกว่า

“ฉันอยากได้เงินก้อนเพิ่มอีกหน่อย มารวมเป็นทุนทำร้านกาแฟ แต่จะหาจากไหนยังไม่รู้ มีคอนโดเอาไปค้ำกู้ได้ไหม แต่ไม่อยากเป็นหนี้เพิ่มนี่สิ ตัวคนเดียวใช้หนี้หัวโตมันลำบากเกิน”

มัทรีนั่งคิดนอนคิดมาหลายวันระหว่างหนึ่งเดือนกว่าที่ผ่านมานี้ ว่าเธอจะหางานพิเศษทำได้จากที่ไหนบ้าง

“แกว่า ฉันทำยูทูบสอนภาษาออนไลน์ดีไหม”

“เออ อันนี้ดี ถ้าเวิร์กนี่แกอยู่ได้ตลอด ไม่ลำบากเลยนะ”

พิสินีพยักหน้าเห็นด้วย ยังโชคดีที่พวกเธอเรียนจบเอกภาษาอังกฤษมา มีโอกาสสมัครงานบริษัทใหญ่หรือบริษัทที่ร่วมทุนกับต่างชาติ เหมือนเช่นเธอตอนนี้ก็ทำงานในบริษัทนำเข้ารถยนต์แห่งหนึ่งที่เป็นของชาวต่างชาติ

“แต่ไม่อยากโชว์หน้าตัวเองอ่ะ คงต้องคิดหาวิธีนำเสนอให้น่าสนใจ”

เธอกำลังพยายามเรียนรู้ในเรื่องนี้อยู่ว่าช่องอื่นๆ มีวิธีนำเสนอคอนเทนต์ในการสอนแบบไหนบ้าง

“เอาเลยเพื่อน สู้ๆ”

เพื่อนสนิทยกมือขึ้นมากำชูขึ้นในแบบที่คนสมัยนี้มักจะทำในยุคเกาหลีฟีเว่อร์

มัทรีพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มมุ่งมั่น การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้ตั้งตัวไม่ทันก็จริง แต่เธอคิดว่ามันอาจเป็นโอกาสให้ได้ทำอะไรใหม่ๆ ในแบบที่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่เพียงแค่ก้มหน้าก้มตาทำงานประจำในหน้าที่ของตนไปวันๆ หนึ่งเหมือนที่ผ่านมา

วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไม่อาจรู้ได้ แต่มัทรีพอใจและพร้อมจะทุ่มเทกับสิ่งที่ตนเองเลือก

=====

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • มัทรีลุ้นรัก   มัทรีลุ้นรัก ตอนพิเศษ (2)

    “มัทคิดถึงคุณมาก อยากรักคุณที่สุด”มัทรีแนบร่างลงไปหาร่างสูงใหญ่แล้วกระซิบบอกลำแขนเรียวโอบลำคอแกร่งแน่นถูไถตัวเองกับชายหนุ่มพร้อมส่งเสียงครวญแผ่วเบาด้วยความรัญจวนที่ตนเป็นผู้สร้างขึ้น อกอวบกลมกลึงแนบสนิทกับอกแกร่งเสียดสีไปพร้อมกับสัดส่วนอ่อนไหวเบียดกายแกร่งยิ่งพาให้ร่างสาวทรมานมากกว่าเดิม แต่เธอก็ยังมุ่งมั่นที่จะปลุกเร้าอีกฝ่ายให้ต้องการเธอมากขึ้นไปอีก“รักเลยสิครับคนดี ผมพร้อมแล้ว”ฐิติกรบอกเสียงแตกพร่าพร้อมมือหนากุมบนสะโพกอวบเต็มมือบีบกระชับอย่างเรียกร้องต้องการ“อุ๊ย”คนเป็นฝ่ายเริ่มก่อนสะดุ้งนิดๆ เพราะกระแสซาบซ่านถูกมือหนาจุดไฟเพิ่ม ความแกร่งที่แนบสนิทอยู่ร้อนลวกไปหมดทั้งที่อยู่ในน้ำ ทำให้เธอเองก็ไม่สามารถฝืนทนความต้องการจากเรือนกายได้อีกต่อไป สะโพกสวยขยับสูงขึ้นก่อนจะค่อยครอบครองชายหนุ่มอย่างเชื่องช้า“โอย...ที่รัก ได้โปรด เร็วหน่อย”ผู้ถูกกระทำอดร้องขอออกมาไม่ได้เพราะเขาแทบจะสะกดอารมณ์อยากกระโจนเข้าหาอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว แต่ในเมื่อมัทรีคิดจะเป็นฝ่ายเริ่มครั้งแรกเขาจึงอยากอดใจรอ มือหนาเกร็งจนบีบสะโพกอวบอย่างหนักมือมัทรีกัดปากกลั้นใจ มือกำจิกไหล่หนาทั้งสองข้างแน่นขึ้น เมื่

  • มัทรีลุ้นรัก   มัทรีลุ้นรัก ตอนพิเศษ (1)

    การเป็นแม่คนมันเหนื่อยอย่างนี้นี่เอง มัทรีเข้าใจมารดาที่เป็นห่วงและหวงเธอในตอนที่รู้ว่ามีแฟนเป็นชาวต่างชาติแล้ว ก็ท่านอุตส่าห์อดหลับอดนอน ป้อนข้าวป้อนนมกว่าจะโตขึ้นมาได้ หากจะต้องไปอยู่ไกลก็คงใจหายเป็นธรรมดามัทรีคลอดลูกสาวมาได้หกเดือนแล้ว เธออยู่ที่บ้านของบิดามารดาของฐิติกรในเบอร์ลินเพราะคุณอรกนิตอยากช่วยเลี้ยงหลาน ทว่าท่านก็จ้างพี่เลี้ยงอายุไล่เลี่ยกับท่านที่ไว้ใจได้มาให้มัทรีด้วย ความจริงหญิงสาวอยากให้แม่มะเหมี่ยวมาช่วยดูแล ซึ่งท่านเองก็อยากมา แต่ติดตรงที่น้องสาวของเธอใกล้คลอดลูกเช่นกัน และเพิ่งคลอดหลังเธอหนึ่งเดือนต่อมา มารดาจึงจำเป็นต้องอยู่ดูแลหลานที่นั่น โดยน้องสาวเธอคลอดลูกชายแม้จะเสียใจที่มารดาเดินทางมาไม่ได้แต่หญิงสาวก็เข้าใจ อีกอย่างคุณอรกนิตเองก็ดูแลเอาใจใส่เธออย่างดี คุณเจอเซ่เองหากมีเวลาว่างก็ตรงมาหาหลานในทันที ทั้งสองคนรักและชอบเด็กมาก ทว่าความเครียดหลังคลอดก็ทำให้เธอค่อนข้างอารมณ์ร้อนกว่าปกติไม่น้อย“ผมคิดถึงคุณกับลูกมากเลยที่รัก เสร็จงานแล้วจะรีบกลับครับ”หลังฐิติกรขอดูหน้าลูกระหว่างวิดีโอคอลคุยกัน จากนั้นอีกฝ่ายก็บอกรักแล้ววางสายไปชายหนุ่มจำเป็นต้องไปประชุมที่เมือง

  • มัทรีลุ้นรัก   37.จัดพิเศษหลังแต่งงาน

    แม้จะอยากท้องและแต่งงานให้เร็วที่สุดทว่ากว่ามัทรีจะได้แต่งงานกับฐิติกรก็เป็นปลายปีต่อมาอย่างที่มารดาของเธอเคยบอกเอาไว้ อีกอย่างเธอก็ไม่ท้องอย่างที่คิด แม้จะพยายามใช้เวลาด้วยกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็มีช่วงที่ต้องห่างกัน และทั้งที่ผู้ใหญ่ของชายหนุ่มมาสู่ขอเธอแล้ว ทว่าฤกษ์ที่ได้มาก็คือปลายปีนั่นเองทั้งคู่จัดการแต่งแบบไทยที่บ้านในฮัมบูร์กของฐิติกรเพราะตั้งใจใช้ที่นี่เป็นเรือนหอ ซึ่งครอบครัวของเธอทุกคนบินมาอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาแม้แต่ละคนจะไม่เคยนั่งเครื่องบินนานก็ตาม รวมถึงพิสินีด้วยมัทรีเคยเจอกับตติยะและเอื้อมธารพี่ชายกับพี่สะใภ้ของชายหนุ่มสองสามครั้งในตอนที่ชายหนุ่มพาเธอไปไหว้ญาติผู้ใหญ่ที่บ้านสวน และคุยงานกับพี่ชายในวันหยุดโดยให้เธอติดสอยห้อยตามไปด้วยเพราะหญิงสาวหลงลูกชายลูกสาวฝาแฝดของทั้งคู่มากในคืนแรกที่แต่งงานทั้งคู่นอนหลับไปด้วยกันอย่างเหนื่อยล้า แม้จะคิดอยู่ว่าต้องมีอะไรกัน ทว่าสุดท้ายแล้วมัทรีที่อาบน้ำก่อนก็หลับไปทันทีที่หัวถึงหมอน ฐิติกรจึงไม่อยากปลุกหญิงสาว กว่าทั้งคู่จะได้มีเวลาเป็นส่วนตัวด้วยกันจริงๆ ก็หลังจากส่งครอบครัวของหญิงสาวขึ้นเครื่องกลับเมืองไทยในหนึ่งสัปด

  • มัทรีลุ้นรัก   36.อยากท้อง

    “มัทอยากให้ผมทำให้หรือให้เดินหน้าต่อเลย”ฐิติกรขยับหน้าขึ้นมากระซิบถามคนที่หลับตาขมวดคิ้วมุ่น เห็นชัดว่าเธอยังเกร็งและกลัวอยู่มัทรีลืมตาขึ้นมาสบตาคมที่มองอยู่ แววตาเขาดูห่วงใยเธอทว่าสีหน้ากลับราวกับกำลังไม่สบาย หน้าหล่อคมแดงก่ำ น้ำเสียงก็แตกพร่าจนน่ากลัว รู้ได้ในทันทีว่าฐิติกรกำลังทรมาน ทว่าชายหนุ่มก็ยังถามเธอก่อนมือบางกอดลำคอหนาอีกครั้งด้วยความเต็มอกเต็มใจ ดวงหน้าเล็กขยับสูงขึ้นจูบปากได้รูปเม้มย้ำ ก่อนจะเป็นฝ่ายส่งลิ้นเข้าไปซอกแซกลูบโลมอีกฝ่ายเอง กระทั่งได้ยินเสียงทุ้มดังในลำคอราวข่มอารมณ์เธอจึงผละออกมาจูบแก้มสากแล้วย้ายมาข้างหูเขาเพื่อกระซิบบอก“ทำให้มัทท้องนะคะ”คนได้ยินนิ่งงันไปอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ทว่าลิ้นเล็กที่แตะไล้ตรงใบหูทำเอาสมองเขาแทบหยุดทำงาน“มัทอยากท้อง”หญิงสาวย้ำอีกครั้งก่อนจะขบติ่งหูเขาเหมือนที่เขาทำกับเธอฐิติกรส่งเสียงฮึ่มฮั่มในลำคอเพราะคนเรียนรู้เร็ว แล้วขยับร่างสูงใหญ่ของตัวเองขึ้น นิ้วเกี่ยวเอวกางเกงอีกฝ่ายลงพร้อมซับในไปจนจรดปลายเท้าเล็ก จากนั้นก็ตามด้วยกางเกงบอกเซอร์ของตัวเองระหว่างนั้นตาคมไม่ละจากเรือนร่างขาวอวบอิ่มน่ามองเลยแม้แต่วินาทีเดียว แม้มัทรีจะเอียงห

  • มัทรีลุ้นรัก   35.When I fall in love

    ฐิติกรพามัทรีมาฮัมบูร์กในวันหยุด ชายหนุ่มมีบ้านของตัวเองอยู่ที่นี่ เป็นบ้านในแถบปริมณฑลนอกเมืองฮัมบูร์ก มีความเป็นธรรมชาติต่างจากบ้านของบิดามารดาเขาที่เบอร์ลิน แต่ชายหนุ่มก็บอกว่าพวกท่านมีบ้านพักตากอากาศอยู่อีกเมืองหนึ่งเช่นกัน หญิงสาวฟังแล้วก็ได้แต่เก็บความว้าวเอาไว้ในใจ ตั้งแต่มาถึงเยอรมนีสิ่งที่เธอสัมผัสได้ก็มีแต่ความรวยและรวยของชายหนุ่ม“คุณมีจักรยานด้วยเหรอคะ”เธอเห็นจอดอยู่ในบ้านใกล้กับครัวจึงถามขึ้น“น่าจะของแม่บ้านที่มาทำความสะอาดที่นี่เอาไว้ขี่ไปที่ใกล้ๆ ล่ะมั้ง”ชายหนุ่มบอกไม่ใส่ใจนัก ขณะขนกระเป๋าทั้งคู่เข้าไปในห้องนอน ส่วนมัทรีมองตาวาวแล้วเย็นวันนั้นหญิงสาวก็ขี่จักรยานออกมาเที่ยวเล่นรอบๆ มัทรีชอบบรรยากาศของที่นี่มาก นอกจากต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี มีบึงน้ำไม่ไกลนักแล้ว ยังมีองุ่นสตรอว์เบอร์รี่เต็มสองข้างทาง เธออยากปลูกแบบนี้ไว้ในบ้านของตัวเองบ้าง“คุณชอบที่นี่ไหม”ชายหนุ่มถามขึ้นขณะที่เธอกำลังทำบทเรียนใหม่ในโปรแกรมกราฟิก หากก็ใส่หูฟัง ฟังเพลงคลอไปด้วยเบาๆ จึงได้ยินที่เขาถาม“มากค่ะ”มัทรีเงยหน้าขึ้นมามองคนที่มีเพียงเสื้อคลุมบนร่างสูงใหญ่ด้วยความรู้สึกวาบหวิว คอแกร่งและแผงอกหนาน

  • มัทรีลุ้นรัก   34.ยังไม่ยกให้ง่ายๆ

    “รู้ไหมยายอุ๊ถามแม่ว่ายังไง ถามว่าลูกสาวได้ผัวฝรั่งเหรอ”มัทรีเข้ามาช่วยมารดาทำอาหารตอนเช้าตรู่ และก็ได้ฟังอีกฝ่ายบ่นตั้งแต่กลับจากตลาดจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่หยุด“แล้วแม่ตอบว่าไงล่ะ”“ก็บอกว่าเป็นแฟนน่ะสิ”มารดาเธอทำตาดุใส่ขณะบอก ทว่ามัทรีกลับยิ้มขำ“ที่วัดนี่ไม่มีใครกล้าเข้ามาถาม แต่เอาไปนินทากันทั้งตลาด”“มันก็ธรรมดาแหละแม่”“อยากพูดกันดีนัก แม่เลยบอกไปว่าบ้านฝรั่งเขารวยมาก รถตู้หรูนั่นก็รถเขาเอง แต่งกับแกแล้วเขาก็จะพาไปอยู่เยอรมัน แต่บ้านที่ไทยเขาก็มีนะ เขามาพักผ่อนบ่อยๆ เอาไปบอกต่อกันให้ถูกด้วย”“ฮ่าๆๆ โอ๊ย...”มัทรีหัวเราะเสียงดังจนโดนมารดาตีเข้าที่แขนไปหนึ่งที แต่เธอก็ยังขำจนตัวโยนทว่าไม่กล้าปล่อยเสียงออกมา เดี๋ยวโดนตีอีก“ยังจะมามัวขำอีก ตกลงแฟนเราเขาจะพาผู้ใหญ่บ้านเขามาหาพ่อกับแม่เมื่อไร”จู่ๆ มารดาก็ถามเรื่องนี้ขึ้นมาทำเอามัทรีอดมองอย่างแปลกใจไม่ได้“แม่จะยกให้แล้วเหรอ”“ยัง”“อ้าว?”“แต่ฉันอยากรู้เอาไว้ ถ้าใครมาถามอีกจะได้บอกให้เอาไปพูดต่อได้ถูก ถึงจะนินทา มันก็ต้องให้นินทาเรื่องจริง”“โธ่แม่ คนนินทา พูดเรื่องจริงก็ไม่สนุกสิ”หญิงสาวบอกยิ้มๆ แต่มารดาค้อนขวับ“ถ้าเขาจะมาเร็วๆ นี

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status