Home / รักโบราณ / มารเร้นกายดับแสงดารา / ตอนที่ 61 เสแสร้งเก่งนัก

Share

ตอนที่ 61 เสแสร้งเก่งนัก

last update Last Updated: 2025-05-08 07:00:42

หลังเหตุการณ์ลักพาตัวสิ้นสุดลง เรื่องราวของอีนั่วถูกรายงานให้เทียนจวินได้รับรู้ เหล่าเทพเซียนอาวุโสต่างถกเถียงกันหลายชั่วยามด้วยความเคร่งเครียด หาวิธีควบคุมมารน้อยเพราะเกรงว่าเขาจะก่อความวุ่นวายเหมือนที่บิดาเคยทำ

สวีต้าเฟิงยังคงปกป้องน้องสาวและหลานชายเหมือนอย่างเคย “ข้ารับรองได้ว่าเขาไม่เป็นภัยต่อผู้ใดขอรับ”

“ข้ายืนยันว่าอีนั่วเป็นเพียงมารน้อยธรรมดา หาใช่มารร้ายอย่างที่พวกท่านคิด เขาเป็นเพียงบุตรชายของข้า” สวีลู่ชิงเผชิญหน้ากับเทพอาวุโส

เวลานี้ความเห็นถูกแบ่งออกเป็นหลายฝ่ายแต่ทุกฝ่ายล้วนแล้วแต่ลงความเห็นว่าอีนั่วไม่ควรเพ่นพ่านอยู่ในแดนสวรรค์ อีกทั้งยังต้องมีกองกำลังคอยจับตามองไม่ให้เขาฉวยโอกาสทีเผลอทำร้ายผู้ใด

จนสุดท้ายได้ข้อสรุปว่าให้อีนั่วอาศัยอยู่ในหมู่บ้านดอกท้อดังเดิม แต่ครานี้มีกองทัพสวรรค์ลงไปปักหลักจับตามองการกระทำของเขาทุกฝีก้าว

“ท่านแม่ หากเป็นเช่นนั้นคงต้องเปลี่ยนชื่อจากหมู่บ้านดอกท้อเป็นเมืองดอกท้อหรือไม่” อีนั่วนึกสภาพหมู่บ้านที่มีเซียนทหารมากหน้าหลายตาเดินสวนกันไปมา

เทพดาราส่ายหน้ารู้สึกว่านิสัยที่เปลี่ยนสถานการณ์ตึงเครียดให้เป็นเรื่องเล่นได้เหมือนใครบางคนไม่มีผิด

“ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริง ๆ” สวีต้าเฟิงเป็นผู้เอ่ยปากก่อนพลางมองหน้าน้องสาวราวกับรู้ว่านางกำลังคิดสิ่งใดอยู่ “กลับหมู่บ้านดอกท้อก่อนเถิด ข้าจะรักษาอาการบาดเจ็บให้เจ้าต่อ”

“เจ้าค่ะ” นางยิ้มให้ผู้เป็นพี่แล้วจับมือน้อย ๆ ของอีนั่วไว้ก่อนจะหายตัวในพริบตา

ในแต่ละวัน ชีวิตของพวกเขาดำเนินไปอย่างเรียบง่ายเหมือนที่ผ่านมา หากแต่บางครั้งสวีลู่ชิงรู้สึกแปลกไปบ้างคล้ายกับว่ามีใครจ้องมองนางอยู่ตลอดเวลา

ยามค่ำคืนไออุ่นใครบางคนยิ่งชัดเจนราวกับโอบกอดนางไว้ แต่เมื่อหันไปดูกลับไม่เจอผู้ใดจึงนึกว่าคิดไปเอง

แท้จริงแล้ว จอมมารเจ้าเล่ห์ยังไม่ได้สลายอย่างที่พูดเอาไว้เสียหน่อย ไหน ๆ เขาก็กลับมาอยู่ในร่างสมบูรณ์แล้วจึงคิดว่าอยู่ต่อไปเช่นนี้น่าจะดีกว่า หากมีเทพหรือมารปีศาจตนใดคิดทำร้ายนางกับอีนั่วอีก เขาจะได้จัดการอย่างทันท่วงทีขอเพียงแค่อดทนข่มใจไม่ไหลไปตามเสียงเรียกร้องของความชั่วร้ายที่พยายามขับกล่อมโน้มน้าวให้เขาตกเป็นทาสของมันจนสิ้นสติ

กระนั้น การซ่อนตัวของจอมมารไม่ได้แนบเนียนเกินกว่าผู้มีสายใยระหว่างกันจับไม่ได้ อีนั่วส่งกระแสจิตหาบิดาทันทีที่รับรู้ว่าเขาปรากฏตัวอยู่ใกล้ ๆ

ท่านพ่อคิดจะทำเรื่องอันใดกันถึงได้โป้ปดข้ากับท่านแม่อีกแล้ว” มารน้อยอุตส่าห์คิดว่าบิดาจะรักษาสัญญาแล้วทำตามนั้น

ข้าเพียงแค่เป็นห่วงเจ้ากับนาง” กงจื่อเย่ตอบบุตรชายไปตามตรง “หากข้ายังอยู่จะไม่มีผู้ใดทำอันตรายเจ้าได้ ไม่ดีหรือ” เขาพยายามพูดโน้มน้าวใจอีนั่วอย่างมีจุดประสงค์

แน่นอนขอรับ หากมีท่านพ่ออยู่ใครจะกล้าทำอันตรายข้ากับท่านแม่ได้” มารน้อยเห็นด้วยจึงพูดไปตามที่คิด “เพราะมารปีศาจที่ร้ายกาจที่สุดคือท่านพ่ออย่างไรเล่า”

อีนั่ว ต่อให้ข้าร้ายกาจเพียงใดแต่ข้าก็ยังเป็นบิดาของเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้ายังโกรธเรื่องในอดีตแต่ข้าเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ต้องพิสูจน์อย่างไรเจ้าถึงจะยอมยกโทษให้ข้าหรือ” จอมมารแทบอ้อนวอนบุตรชายคนเดียวให้เห็นใจ

เด็กน้อยขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างหนักเพราะเรื่องที่ผ่านมาร้ายแรงนักไม่อาจให้อภัยได้โดยง่าย พลอยคิดไปว่าหากมารดาจำเรื่องที่บิดาทำในอดีตได้ขึ้นมานางก็คงไม่ให้อภัยเขาเช่นกัน

ยังไม่ใช่ตอนนี้ขอรับ” เขาจึงพูดตัดบทไปทั้งอย่างนั้น

กงจื่อเย่จึงได้แต่ถอนหายใจยอมรับความจริงว่าเรื่องพวกนี้ต้องใช้เวลาอีกนานมากนักพลันหาวิธีโน้มน้าวใจบุตรชายทุกครั้งที่มีโอกาส

เมื่อวนเวียนอยู่รอบตัวพวกเขามากเท่าไหร่ สวีลู่ชิงก็เริ่มจับทางได้แล้วว่าความรู้สึกเหล่านี้คุ้นเคยยิ่งนัก ไออุ่นที่อยู่รอบกายและสายตาที่เหมือนจ้องมองแต่นางเพียงผู้เดียวช่างน่าขนลุกเพราะหันไปรอบตัวกลับไม่เจอผู้ใด

ครั้งหนึ่งจึงแสร้งทำเป็นนอนหลับอยู่ในห้องตามลำพังพลันสัมผัสปริศนาโผล่ขึ้นมาทันใด ค่อย ๆ เอื้อมแขนกอดนางแผ่วเบาเพราะไม่ต้องการให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว

เทพดาราขมวดคิ้วเรียวไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นางต้องจับปีศาจราคะที่มายุ่งวุ่นวายกับนางให้ได้

ตราเทพสวรรค์ปรากฏกลางหน้าผากพร้อมอักขระโบราณ อาคมถูกร่ายกักเป้าหมายได้อย่างง่ายดายราวกับตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น

“โอ๊ย!” กงจื่อเย่ร้องลั่น สีหน้าโอดโอยตกอยู่ในกำมือของเทพดาราทันใด

ครั้นนางหันไปมองว่าผู้ใดกล้าแตะต้องนางจึงได้เห็นว่า “นี่เจ้าอีกแล้วหรือ”

“ไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด เยว่ชิง” เขาอ้อนวอนแต่ยังคงคุ้นชินกับนามเดิมของนางในชาติที่แล้วเสียมากกว่า

“สวีลู่ชิง” หญิงสาวทำหน้ามุ่ยที่เขาเอาแต่เรียกนางเช่นนั้น ยิ่งจำเรื่องในอดีตไม่ได้ก็ยิ่งหงุดหงิดเพราะไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาพูดมาแต่ละอย่างคือเรื่องจริงหรือหลอกลวงอย่างเช่นเวลานี้

จอมมารกล่าวเสียดิบดีว่ายินยอมสลายพลังที่จวนเจียนปะทุ แต่เหตุใดเขาจึงนั่งหน้าไม่อายอยู่ตรงนี้เล่า

“ลู่ชิง” ดวงตาสีม่วงแดงจ้องคนตรงหน้าไม่วางตา ทำให้เทพดารามั่นใจว่าสายตาแบบนี้นี่เองที่นางสัมผัสได้ “ปล่อยข้าก่อนไม่ได้หรือ ข้าเจ็บมากจริง ๆ”

คนตรงหน้าได้ยินเช่นนั้นเกิดหมั่นไส้ขึ้นมาทันใดจึงกล่าวไปว่า “เสแสร้งเก่งนัก ถูกผนึกด้วยพลังข้าเพียงน้อยนิด จอมมารอย่างเจ้าไม่สะเทือนด้วยซ้ำไป”

“เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเจ้าคือผู้เดียวที่สามารถกำราบข้าได้ พลังเพียงน้อยนิดที่เจ้าว่าก็ทำให้ข้าเจ็บหนักได้เช่นกัน” กงจื่อเย่เถียงกลับไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ และไม่ลืมแสดงท่าทีเจ็บปวดทรมานให้นางได้เห็น

“ถ้ายังไม่เลิกโกหก ข้าจะกำราบเจ้าจริง ๆ คอยดูเถอะ”

“เทพดาราผู้มีจิตใจดีงาม เวลานี้จอมมารอย่างข้าไร้สิ้นไม้ตอก เป็นเพียงมารปีศาจตัวเล็ก ๆ ไม่มีพิษภัยอันใด เจ้ายังใจร้ายคิดสังหารข้าได้ลงคออีกหรือ”

เขาทำท่าทางสลดน่าใจหายพลางแสดงให้สวีลู่ชิงได้เห็นว่าพลังชั่วร้ายที่เขาเคยดูดกลืนเมื่อไม่นานมานี้เหลือเพียงหนึ่งในสิบส่วนเท่านั้น

“...” นางครุ่นคิดอย่างหนัก คำพูดของมารอันดับหนึ่งไม่อาจเชื่อได้ในทันที ควรต้องฟังหูไว้หูแล้วพิจารณาอย่างรอบคอบ

“ไม่เชื่อใจสามีของเจ้าหรือ”

สวีลู่ชิงหงุดหงิดมากกว่าเดิมที่เขาคอยตามติดนาง ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ “ข้าไม่ใช่ภรรยาเจ้า”

“อีนั่วเป็นพยานรักของเรา จะไม่ใช่ได้อย่างไร” เขาถามนางออกไปเช่นนั้นแล้วพูดต่อ “หากอีนั่วได้ยินเจ้าบอกว่าเขาไม่ใช่ลูกของเจ้า เขาคงเสียใจมากนัก”

“ข้าพูดเช่นนั้นตอนไหน” คนตรงหน้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ รู้สึกหมดแรงทุกครั้งที่ต้องต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่าย

“หากเป็นอย่างนั้น เจ้ายอมรับแล้วใช่หรือไม่ว่าข้าเป็นสามีเจ้า” กงจื่อเย่ยิ้มมุมปากด้วยความเจ้าเล่ห์

สวีลู่ชิงพยายามไม่สนใจสิ่งไร้สาระจึงเอ่ยถามไปตามตรงว่า “เจ้าคิดจะทำอะไรถึงได้มาวนเวียนรอบตัวข้า เราสองคนไม่ใช่ว่าต้องต่างคนต่างอยู่หรอกหรือ หากพลังเทพบรรพกาลถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าคิดจะสลายไปพร้อมข้าใช่หรือไม่”

“ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นได้หรอก เจ้าสัมผัสได้ไม่ใช่หรือว่าเวลานี้พลังของข้าถดถอยไปมากเพียงใด ตัวเจ้าเองรู้สึกได้หรือไม่ว่าควรต้องสังหารข้า”

“อย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่อง” สวีลู่ชิงขมวดคิ้วจริงจังคาดคั้นคำตอบ “เหตุใดจึงไม่อยู่ภพมาร”

“ข้าอยากอยู่ข้างเจ้าไม่ได้หรือ ข้าเป็นสามีของสวีลู่ชิง เป็นบิดาของอีนั่ว เหตุใดจึงให้ข้าอยู่อย่างเดียวดายในภพมารด้วยเล่า” จอมมารแสดงท่าทีเหมือนถูกขัดใจสร้างความปวดหัวให้สวีลู่ชิงเป็นอย่างมาก

นางจึงเรียกอีนั่วเข้ามาพบแล้วเอ่ยถามสิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะเชื่อใจมารน้อยมากกว่าจอมมาร พยายามพูดคุยเสียงเบาที่สุดและร่ายอาคมกำบังไว้อีกขั้นเพราะไม่อยากให้จอมมารได้ยิน

ทว่า อีนั่วทำหน้ามุ่ยเพราะได้ยินเสียงบิดาผ่านกระแสจิตตลอดเวลาที่พูดคุยกับมารดา

อีนั่ว หากเจ้าไม่บอกนางตามความเป็นจริง ข้าจะพาเจ้ากลับภพมาร ส่วนมารดาของเจ้าอาจจะมีบุตรชายคนใหม่เป็นเทพตัวน้อยบนสวรรค์ คอยดูแลเขาจนหลงลืมเจ้าไปก็เป็นได้”

มารน้อยหันขวับที่ถูกบิดาข่มขู่ “เฮอะ” หางตาเหลือบมองอีกฝ่ายเล็กน้อย “ท่านพ่อกำลังทำให้ข้าโกรธใช่หรือไม่ บุตรคนใหม่เป็นเทพบนสวรรค์อย่างนั้นหรือ แสดงว่าสามีคนใหม่ของท่านแม่คงจะเป็นเทพที่อยู่บนนั้นกระมัง เอาเถอะ หากมีคนดี ๆ เข้ามาดูแลท่านแม่ ข้าไม่ติดใจอันใดอยู่แล้ว”

จอมมารได้ยินมารน้อยโต้เถียงราวกับรู้ความกลับมาเช่นนั้นถึงกับชะงักไปชั่วขณะ “อีนั่ว พ่อขอโทษ”

จากนั้นอีนั่วก็ไม่สนเสียงของบิดาอีกเลย ทำท่ากระซิบกระซาบกับสวีลู่ชิงเพียงสองคนจนจอมมารแทบท้อแท้ คิดในใจว่า ไม่น่ายั่วยุเลย หาเรื่องใส่ตัวเสียแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 62 จงลืมให้หมด

    สวีลู่ชิงฟังเรื่องราวจากบุตรชายแล้วคิดหาเหตุผลร้อยแปดประการสนับสนุนการตัดสินใจของตนเองทั้งยังปรึกษาหารือกับเทพวายุผู้เป็นพี่ชายรวมถึงสมุนมารทั้งสามอีกด้วยนางอยากรู้ว่าสิ่งที่นางคิดทำต่อไปนี้จะเกิดผลกระทบมากน้อยเพียงใดจนได้ข้อสรุปสุดท้ายเทพดาราพาจอมมารไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในเขตแดนสวรรค์ เอ่ยถามความในใจของอีกฝ่ายไม่อ้อมค้อม “เจ้ารู้สึกอย่างไรกับข้า”“...” ดวงตาสีม่วงแดงเต็มไปด้วยข้อสงสัยมากมาย “ทำไมถึงต้องพาข้ามาที่แห่งนี้ด้วยเล่า”“ข้าจำเรื่องราวของตัวเจ้าในอดีตไม่ได้เลย ด่านเคราะห์ครั้งแรกข้ายังจำทุกคนได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่ว่าเจ้าร้ายกาจเสียจนข้าอยากลืมเลือนหรือ”คำพูดของน

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 61 เสแสร้งเก่งนัก

    หลังเหตุการณ์ลักพาตัวสิ้นสุดลงเรื่องราวของอีนั่วถูกรายงานให้เทียนจวินได้รับรู้ เหล่าเทพเซียนอาวุโสต่างถกเถียงกันหลายชั่วยามด้วยความเคร่งเครียด หาวิธีควบคุมมารน้อยเพราะเกรงว่าเขาจะก่อความวุ่นวายเหมือนที่บิดาเคยทำสวีต้าเฟิงยังคงปกป้องน้องสาวและหลานชายเหมือนอย่างเคย “ข้ารับรองได้ว่าเขาไม่เป็นภัยต่อผู้ใดขอรับ”“ข้ายืนยันว่าอีนั่วเป็นเพียงมารน้อยธรรมดา หาใช่มารร้ายอย่างที่พวกท่านคิด เขาเป็นเพียงบุตรชายของข้า” สวีลู่ชิงเผชิญหน้ากับเทพอาวุโสเวลานี้ความเห็นถูกแบ่งออกเป็นหลายฝ่ายแต่ทุกฝ่ายล้วนแล้วแต่ลงความเห็นว่าอีนั่วไม่ควรเพ่นพ่านอยู่ในแดนสวรรค์ อีกทั้งยังต้องมีกองกำลังคอยจับตามองไม่ให้เขาฉวยโอกาสทีเผลอทำร้ายผู้ใดจนสุดท้ายได้ข้อสรุปว่าให

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 60 คิดถึงข้าบ้าง

    ดินแดนสุญญตาสถานที่ที่อยู่ระหว่างภพมารและภพสวรรค์ ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าที่รกร้างว่างเปล่าจะมีมารที่มีพลังชั่วร้ายแอบซ่อนตัวอยู่นับพันปีขณะที่กงจื่อเย่กำลังต่อสู้กับหลิ่งปินเพื่อแย่งชิงเทพดารากลับมา กองทัพสวรรค์ของเทพสงครามและสวีต้าเฟิงก็ปรากฏตัวขึ้นเข้าร่วมการศึกสงครามในครั้งนี้ในสายตาของเทพเซียนที่อยู่ตรงนั้น พวกเขาต่างมองว่าศัตรูที่เป็นภัยต่อสามภพมากที่สุดคือกงจื่อเย่ อดีตจอมมารที่เพิ่งจะสูญสลายไปไม่นานไม่ว่าจะมองอย่างไร ร่างกายและพลังที่สมบูรณ์เกินกว่าที่ควรคงเป็นเพราะเขาเร่งกลืนกินพวกเดียวกันอย่างแน่นอน ทั้งยังไม่รู้ว่าสติยังคงอยู่ครบถ้วนหรือเลือนหายแล้วใช้สัญชาตญาณนำทางอยู่กันแน่“ช้าก่อน” สวีต้าเฟิงออกคำสั่งห้ามทหารสวรรค์เคลื่อนไหวก่อนดูลาดเลาฉากการต่อสู้

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 59 ลอบทำร้าย

    เมื่อได้ยินเสียงมารน้อยสติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดก็กลับมาสมบูรณ์ แม้จะพยายามส่งกระแสจิตหาอีนั่วสักเท่าใด เขากลับไม่ได้ยินเสียงจากอีกฝ่ายเลย“มันผู้ใดกล้าทำร้ายลูกเมียข้า” พลังมารชั่วร้ายแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ ความโกรธกราดเกรี้ยวยิ่งทำให้พลังที่อยู่รอบตัวเขากลายเป็นยาพิษชั้นดีบ่อนทำลายสัตว์อสูรทีละนิดจอมมารสูบกลืนสิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงหน้าเขาเข้าไปโดยไม่รู้ตัวแทบจะหลงลืมไปชั่วขณะว่าเขาคือผู้ใด พลันลึก ๆ ในใจเหมือนมีสายลมพริ้วไหวพัดผ่านต้นไม้แห่งชีวิตของเขา ดวงตาสีม่วงแดงจึงค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ“เยว่ชิงหรือ” เขาพึมพำสัมผัสความรู้สึกนั้น “เป็นเจ้าจริงหรือ”เขาหลับตาลงปล่อยใจหลงใหลกับสัมผัสอบอุ่นนั้นชั่วขณะ เมื่อพึงพอใจแล้วจึงกลับมาเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรต

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 58 กำจัดภัย

    จอมมารที่เหลือเพียงเงาดำจาง ๆเดินทางร่อนเร่กลับภพมารตัวคนเดียว ระหว่างทางคอยสูบกินพลังชั่วร้ายที่ผุดขึ้นมาทีละนิดเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างมารปีศาจของตนเองหากแต่ครั้งนี้ทำไปเพื่อกลับคืนร่างเดิมให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้ปกป้องครอบครัวเวลานั้นเขาลืมนึกไปเลยว่าตำแหน่งผู้ปกครองภพมารสามารถสั่นคลอนได้ทุกเมื่อ มัวแต่เป็นห่วงกลัวว่าสวีลู่ชิงจะถูกอสนีบาตจนแหลกสลายจึงรีบไปห้ามนางถ้าครั้งนี้กลับมาได้คงต้องวางแผนจัดการไม่ให้มีมารปีศาจตนใดคิดกระด้างกระเดื่องอยากชิงพลังอันกล้าแกร่งของอีนั่วหรือทำร้ายเขาแม้ว่าจะต้องสลายไปอีกครั้งเพราะกฎของสวรรค์ที่มารปีศาจอย่างเขาไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ กงจื่อเย่คิดแล้วว่าแปลงร่างเป็นนกน้อยอยู่กับนางและลูกไม่ได้แย่สักเท่าใดนัก อย่างน้อยก็ได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 57 นางรักเจ้า แต่รักข้ามากกว่า

    เช้าวันหนึ่งในหมู่บ้านดอกท้อนกน้อยสีดำไซ้ขนอยู่ข้าง ๆ สวีลู่ชิงที่นั่งหลับตาฟื้นฟูแก่นวิญญาณของตนเองอยู่เงียบ ๆ ส่วนอีนั่ววิ่งเล่นอยู่กับสมุนจอมมารโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยบรรยากาศภายในหมู่บ้านเล็ก ๆ เต็มไปด้วยความสดชื่นสนุกสนานจนบางทีพวกเขาลืมไปเลยว่าสาเหตุที่ทำให้ทุกคนมาอยู่ร่วมกันในที่แห่งนี้คืออะไรสวีต้าเฟิงเดินเข้ามาทักทายน้องสาวยามเช้าเหมือนอย่างเคย รอยยิ้มบางประดับบนใบหน้านึกเอ็นดูนางราวกับเป็นเด็กน้อย แต่เวลานี้น้องสาวตัวเล็กในวันวานกลับมีบุตรชายจอมซนเหมือนนางไม่มีผิดเขาจึงรับหน้าที่ดูแลทั้งคู่ด้วยความเต็มใจ ถึงอย่างนั้นแล้วดวงตาสีฟ้ากลับจ้องมองนกน้อยตรงหน้าจิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ (มองหน้าข้า มีเรื่องอันใด)“...” เทพวายุ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 56 ยกโทษให้พ่อเถอะ

    สองอาทิตย์ต่อมาสมุนจอมมารทั้งสามล้อมวงก้มมองเจ้าถ่านด้วยความสงสัยว่านกน้อยตัวนี้เป็นมารปีศาจเผ่าพันธุ์ใดกันแน่“ผ่านมานานถึงเพียงนี้ เหตุใดบาดแผลจึงยังไม่หายหรือว่าถูกพลังร้ายกาจของผู้ใดมา” เฉินซือหยางขมวดคิ้วเป็นปมนึกสงสัยเพราะจับตามองอยู่นานแล้ว“พลังเทพอาจจะรักษาไม่ได้เพราะเป็นนกที่มาจากภพมารแต่ถึงอย่างไรพลังของนายน้อยก็ไม่ได้ผลอีก ข้าว่าเจ้าถ่านนี่มีอะไรแปลก ๆ” หลิวอิงอิงวิเคราะห์ตามความรูสึกของตัวเอง มือข้างหนึ่งเอื้อมมาจับปีกที่เป็นแผลจิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ“เฮอะ ดูสิ ข้าว่ามันบ่นเจ้าใหญ่เลย” โจวเหวินหลงพูดบ้าง คนที่มีสติดีที่สุดอย่างเขาจึงนึกเรื่องบางอย่างออกพลันจ้องมองดวงตาของนกน้อยอีกครั้งหนึ่ง&l

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 55 จอมมารยังคงเจ้าเล่ห์

    บ้านหลังเล็กของมารน้อยเมื่อทั้งสองฝ่ายตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไปจึงร่างสัญญาสงบศึกชั่วคราวเพราะต้องการดูลาดเลาสถานการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงบ้านหลังเล็กที่เคยอยู่กันเพียงสองคน เวลานี้มีหลังอื่นผุดขึ้นมาอยู่ใกล้ ๆ กันอีกสามสี่หลังจนแทบจะกลายเป็นหมู่บ้านที่มีทั้งมารและเทพอยู่ร่วมกันอย่างสันติต้นท้อรายรอบกำลังผลิดอกสีชมพูบานสะพรั่งเหมือนภาพวาด อีนั่วจึงตั้งชื่อหมู่บ้านของเขาว่าหมู่บ้านดอกท้อ ในใจคิดอยากอยู่ที่แห่งนี้อย่างสงบตลอดไปพลังของอีนั่วถูกกลบซ่อนเอาไว้ไม่ให้มารปีศาจตนอื่นรู้ รอบเขตบ้านจึงมีม่านศักดิ์สิทธิ์ของเทพวายุห้อมล้อมอยู่ด้วย“เจ้าจะทำเช่นนั้นไม่ได้ พวกข้าอึดอัด” หลิวอิง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 54 คนละครึ่งทาง

    สวีลู่ชิงและพี่ชายรอข่าวคราวจากเสี่ยวไป๋อยู่นอกเขตแดนมารนางเดินวนไปวนมาด้วยความกังวลกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับอีนั่วจนแทบอยากจะฝ่าเข้าไปในภพมารเพื่อตามหาเขาด้วยตัวเอง“นั่งลงก่อนเถิด เจ้าเดินไปเดินมาจนข้าตาลายแล้ว” สวีต้าเฟิงส่ายหน้าพลางบ่นพึมพำ“ข้าเป็นห่วงเขา” นางเอ่ยตามตรง ใจหนึ่งรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกับมารน้อยครั้งแรกแต่อีกใจกลับสัมผัสความรู้สึกคุ้นเคยได้อย่างบอกไม่ถูกช่วงเวลาเพียงเสี้ยวหนึ่ง เสี่ยวไป๋ส่งสัญญาณบางอย่างกลับมาหาผู้เป็นเจ้านายบอกให้รู้ว่ากำลังมาถึง รอยยิ้มบางจึงผุดขึ้นมาด้วยความยินดีพลันเงาดำตะคุ่มปรากฏด้านหลังเขตแดนภพมาร“สวีลู่ชิง ถอยออกมา” เทพวายุดึงร่างน้องสาวให้ออกห่างเพราะกลัวจะมีอันตราย “เจ้าอย่าเพิ่งวู่วาม จงอย่าล

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status