Share

ตอนที่ 58 กำจัดภัย

last update Last Updated: 2025-05-02 07:00:23

จอมมารที่เหลือเพียงเงาดำจาง ๆ เดินทางร่อนเร่กลับภพมารตัวคนเดียว ระหว่างทางคอยสูบกินพลังชั่วร้ายที่ผุดขึ้นมาทีละนิดเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างมารปีศาจของตนเอง

หากแต่ครั้งนี้ทำไปเพื่อกลับคืนร่างเดิมให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้ปกป้องครอบครัว

เวลานั้นเขาลืมนึกไปเลยว่าตำแหน่งผู้ปกครองภพมารสามารถสั่นคลอนได้ทุกเมื่อ มัวแต่เป็นห่วงกลัวว่าสวีลู่ชิงจะถูกอสนีบาตจนแหลกสลายจึงรีบไปห้ามนาง

ถ้าครั้งนี้กลับมาได้คงต้องวางแผนจัดการไม่ให้มีมารปีศาจตนใดคิดกระด้างกระเดื่องอยากชิงพลังอันกล้าแกร่งของอีนั่วหรือทำร้ายเขา

แม้ว่าจะต้องสลายไปอีกครั้งเพราะกฎของสวรรค์ที่มารปีศาจอย่างเขาไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ กงจื่อเย่คิดแล้วว่าแปลงร่างเป็นนกน้อยอยู่กับนางและลูกไม่ได้แย่สักเท่าใดนัก อย่างน้อยก็ได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา

เงาดำของจอมมารแอบอยู่มุมหนึ่งคอยดูสถานการณ์อย่างใจเย็น จดจำได้หมดว่าผู้ใดคิดล้มล้างอำนาจของเขาจึงหมายหัวเอาไว้แล้วว่าจะกลับมาจัดการในภายหลัง

“ยังตามหาไม่เจออีกรึ” เสียงทุ้มหยาบโพล่งถามใครบางคนไม่สบอารมณ์ “ทำงานไม่ได้เรื่องจริง ๆ”

“พวกข้าตามหาทุกที่แล้วขอรับนายท่าน มารน้อยนั่นอาจจะตายไปแล้วก็ได้จึงทำให้หาไม่เจอเสียที” ลูกสมุนของเขาเอ่ยปากด้วยสีหน้าเลิ่กลั่กกลัวเจ้านายจะจับตัวเองกินเป็นอาหารเย็น

“เป็นไปไม่ได้ พวกสวรรค์ยังไม่รู้ว่าสายเลือดจอมมารยังคงอยู่ คงไม่มีผู้ใดทำอันตรายเขาหรอกเพราะฉะนั้น มารน้อยนั่นต้องหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งแน่ ๆ” ปีศาจตัวใหญ่ขบคิดด้วยสีหน้าจริงจังพลางมองไปรอบโต๊ะไม้ยาวที่มีบรรดามารปีศาจและสัตว์อสูรที่รู้ความนั่งอยู่ราวกับกำลังร่วมมือกันหาวิธีกำจัดมารน้อยอย่างไรอย่างนั้น

“ถ้าเป็นเช่นนั้น เราช่วยกันกวนน้ำให้ขุ่นดีหรือไม่” สัตว์อสูรเขายาวแสยะยิ้มคิดว่าแผนของตนดีที่สุด “ถึงจะชิงพลังนั่นมาได้แต่ว่าให้พวกสวรรค์กำจัดมารน้อยก็ดีเหมือนกัน”

“ข้าเห็นด้วย ต่อให้ไม่ได้พลังมา มารน้อยนั่นก็จะได้ไม่กลายเป็นเสี้ยนหนามคอยขัดขวางพวกเราปกครองภพมาร” ปีศาจตนหนึ่งลูบคางแหลมยาวของตนเองรอดูท่าทีของผู้อื่น

“เช่นนั้น เจ้าไปปั่นหัวพวกชาวสวรรค์เสียว่าจอมมารผู้ยิ่งใหญ่ยังหลงเหลือสายเลือดหนึ่งเดียวเอาไว้ วันข้างหน้าที่เขาเติบโตขึ้นมา สวรรค์จะถูกถล่มราบเป็นหน้ากลอง”

เสียงหัวเราะร่าดังก้องจนไม่รู้ตัวเลยว่าเวลานี้เงาดำทะมึนของจอมมารที่ว่ากำลังคืบคลานเข้าใกล้เพราะรู้สึกไม่สบอารมณ์ที่พวกมันคิดหาทางยืมมือเทพสวรรค์มากำจัดบุตรชายของตนเอง

พรึ่บ!

จู่ ๆ สมุนปีศาจหนึ่งตนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เจ้านายก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีผู้ใดสังเกตเลยว่าบนพื้นตรงนั้นมีเลือดหยดซึมลงไปใต้ดิน

กงจื่อเย่เช็ดปากหลังกินอาหารเสร็จเรียบร้อย สีหน้าเหยเกเล็กน้อยเพราะรสชาติไม่ถูกปากเหมือนเลือดเนื้อของพวกเทพเซียน พลันนึกถึงเลือดและกลิ่นหอมหวานของสวีลู่ชิงขึ้นมาทันใด

“เฮ้อ จากกันไม่นานก็คิดถึงเจ้าเสียแล้ว ไม่รู้ว่าข้าโดนคำสาปอันใดถึงได้ยึดติดกับเจ้าผู้เดียวมากถึงเพียงนี้” เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่นึกอยากหายตัวกลับหมู่บ้านดอกท้อเสียตั้งแต่ตอนนั้น

ทว่า จอมมารที่ร่างกายอ่อนแอทำได้แค่หลบซ่อนอยู่ในภพมารคอยสูบกินพลังที่ล่องลอยอยู่ในแดนนี้ทีละนิดเพื่อฟื้นฟูตัวเองให้กลับมาเป็นดังเดิม ทั้งยังคอยกำจัดมารปีศาจที่คิดเล่นงานบุตรชายของตนโดยไม่ออมมือ

หากคิดกำจัดให้หมดควรต้องไล่ล่าตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ เพื่อสะสมพลังแล้วค่อย ๆ ทำลายพวกดึกดำบรรพ์ที่อาศัยมานาน

มารปีศาจและสัตว์อสูรในตำนานล้วนหลบซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด ไม่อยู่ใต้อำนาจผู้ใดและมีบริวารเป็นของตนเอง คงเป็นเพราะได้ข่าวว่ากองกำลัง

สวรรค์อ่อนแอตอนถูกกงจื่อเย่โจมตี พวกมันเลยนึกได้ใจฉวยจังหวะนี้ปรากฏตัวยกให้ตัวเองเป็นผู้เหมาะสมที่จะปกครองภพมารแล้วสั่งการกองทัพกระหายเลือดถล่มแดนสวรรค์ซ้ำอีกครั้ง

ประวัติศาสตร์ของพวกนี้ไม่มีบันทึกเป็นกิจจะลักษณะ ไม่มีใครรู้สักเท่าใดนักว่ามารปีศาจตนใดมีพลังอำนาจกล้าแกร่งมากที่สุด พวกที่เขาเห็นในเวลานี้เป็นเพียงแค่ปลาซิวปลาสร้อยที่คิดว่าตนเองคือผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น

กงจื่อเย่พลันนึกถึงสัตว์อสูรเผ่าหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหุบเขาสีชาด พวกมันดำรงชีวิตตามสัญชาตญาณ หากมีผู้ใดล่วงล้ำเข้าไปในอาณาเขต จ่าฝูงจะส่งสัญญาณให้บริวารลอบโจมตีโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว

จอมมารเลิกคิ้วเล็กน้อยพลางคำนวณถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับหากเขาสังหารมันเพราะในตอนนี้เขาคือมารปีศาจที่อยู่ชั้นล่างสุดของห่วงโซ่อาหาร ไม่มีแรงใด ๆ จะต่อกรกับฝ่ายตรงข้ามได้เลย กระนั้นยังคิดในใจว่า ข้าไม่มีวันพ่ายแพ้ง่าย ๆ หรอก

ระหว่างการเดินทางไปยังหุบเขาซ่อนเร้นทางตอนใต้ของภพมาร เขาค่อย ๆ สูบไอมารที่แผ่กระจายมาตลอดทาง ร่างกายจึงแข็งแรงขึ้นเล็กน้อย อีกทั้งยังคว้าปีศาจตัวเล็กตัวน้อยติดมือมาด้วยเพื่อเก็บเอาใช้เป็นเกราะกำบังให้เขาหาจังหวะสังหารสัตว์อสูร

ทันทีที่เข้าสู่อาณาเขตของมัน บรรยากาศรอบตัวพลันมืดครึ้ม อากาศเย็นยะเยือกจนแทบขยับตัวไม่ได้ กลิ่นเลือดคละคลุ้งสมเป็นหุบเขาสีชาด

หากเป็นเพียงมารปีศาจทั่วไปคงจะรับรู้ได้ถึงแรงกดดันมหาศาลแต่เพราะความสามารถพิเศษของสัตว์อสูรตัวนี้จะทำให้กงจื่อเย่รู้ว่ามารตนใดคือมารผู้ยิ่งใหญ่ในเวลานี้จึงย่างกรายเข้าไปโดยไร้ซึ่งความกลัว

“เยว่ชิง อีนั่ว ข้าจะปกป้องพวกเจ้าให้ได้” เขาพึมพำฝากเสียงนั้นไปกับสายลม “รีบจัดการให้เรียบร้อยดีกว่า ข้าเริ่มคิดถึงไออุ่นของนางเสียแล้ว”

ไม่รู้ว่ามีรางวัลหอมหวานรอคอยอยู่หรืออย่างไร จอมมารจึงเดินดุ่มปะทะกับสัตว์อสูรตรง ๆ ไม่รีรอปล่อยให้เสียเวลา

“เจ้าบ้านั่น ไม่กลัวตายเรอะ พลังอ่อนแอปานนั้นยังจะทู่ซี้เข้าไปอีก” มารตนหนึ่งที่อยู่รอบนอกหุบเขายืนดูอย่างใจจดใจจ่อ

“ข้าว่าไม่ทันนับถึงสิบ มันคงได้ตายสมใจ” มารอีกตนเกาคางไม่รู้เหตุผลของกงจื่อเย่และไม่รู้ด้วยว่าเจ้ามารพลังอ่อนแอตนนั้นเคยเป็นถึงจอมมารที่บุกถล่มสวรรค์

“หนึ่ง สอง อ้าว!” พวกมันนั่งนับเวลาถอยหลังอยู่ดี ๆ ก็ประหลาดใจที่เหยื่อกลับกลายเป็นผู้ล่า “โอ้!”

เวลานั้นกงจื่อเย่ปล่อยปีศาจที่จับมาในหุบเขาร่ายอาคมสั่งให้มันวิ่งพล่านไปทั่วดึงดูดความสนใจของบริวารสัตว์อสูร

“ข้านึกว่าพวกมันเป็นสหายกันเสียอีก” มารที่สังเกตการณ์พูดกับคู่หูของตน “แต่ทำไมไอ้เจ้าดวงตาสีม่วงแดงนั่นจึงกินพวกเดียวกันเล่า”

“ดวงตาสีม่วงแดงเรอะ” มันครุ่นคิดเหมือนเคยได้ยินจากที่ใดมาก่อน เผ่าพันธุ์มารปีศาจไม่มีผู้ใดดวงตาสีม่วงแดงยกเว้นแต่ว่า “เจ้านั่น...เจ้านั่น...”

“ทำไม”

“กงจื่อเย่ไม่ใช่เรอะ ใครบอกว่ามันตายไปแล้วเล่า ก็เห็นอยู่ทนโท่ว่ามันยืนอยู่ตรงนั้น”

เพียงแค่เอ่ยชื่อเขาผู้นั้น จอมมารหันมาทางต้นเสียง แสยะยิ้มชั่วร้าย หรี่ตามองราวกับเตือนให้พวกมันรู้ว่าอะไรควรไม่ควร หากมีผู้ใดล่วงรู้ว่าข้ามีชีวิตอยู่ พวกเจ้าคงต้อง...

ไม่ทันที่เขาจะได้พูดจนจบประโยคดี มารสองตนก็สั่นกลัวลนลานพากันหายวับจากตรงนั้นในพริบตาเดียว จอมมารจึงหันกลับมาสนใจจ่าฝูงของสัตว์อสูรที่กำลังหายใจฮึดฮัด ขวิดเท้าตะกุยดินพร้อมพุ่งชนเข้าเต็มที

แม้เป็นการปะทะกันระหว่างสองฝั่งที่พลังต่างกันลิบลับแต่กงจื่อเย่มีแต้มเป็นต่อมากกว่าเพราะคู่ต่อสู้ของเขา “ช่างโง่เง่าเสียจริง มิน่าเล่าถึงได้ใกล้สูญพันธุ์อยู่ร่ำไป”

เขาปรายตามองพวกมันอย่างไม่แยแส ร่ายพลังมารเรียกดาบเขี้ยวอสูรของตนเองออกมาจัดการมัน แต่ถึงไม่มีความคิดอ่าน สัญชาตญาณของมันกลับแม่นยำยิ่งนัก จอมมารถูกพุ่งชนไม่รู้กี่ครั้งจนกระอักเลือด ร่างกายยามนี้เลือนรางราวกับจะหายไปอีกครั้ง

สติเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนได้ยินเสียงหนึ่งในใจ “ท่านพ่อ ช่วยข้าด้วย พวกมันจับท่านแม่ไปแล้ว อ๊าก!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 0 จุดเริ่มต้นของโชคชะตา

    ความสงบสุขเรียบง่ายหลายหมื่นปีของภพสวรรค์กำลังถูกสั่นคลอนเพราะมารตนหนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อร้อยปีก่อน ใครเล่าจะคิดว่าสิ่งเล็ก ๆ จากบ่อโคลนของความชั่วร้ายทั้งปวงจะหลอมรวมภัยอันตรายที่สามารถทำลายล้างสวรรค์ให้ราบเป็นหน้ากลองได้ในเวลาไม่นานภพมารแซ่ซ้องสรรเสริญผู้ปกครองดินแดนคนใหม่ ยกขึ้นเป็นนายเหนือหัวที่จะกลายเป็นจอมมารปลดเปลื้องพันธะให้เหล่ามารปีศาจที่ถูกกักขังในหุบเหวดำมืด จบสิ้นการลงทัณฑ์อันยาวนานจากเทพบรรพกาลเสียงอึกทึกกึกก้องคำรามข่มขู่เหล่าเทพเซียนบนฟากฟ้าพร้อมบุกเข้าโจมตีอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยจนผู้คนในแดนศักดิ์สิทธิ์วุ่นวายโกลาหลเคราะห์ยังดีที่กองทัพสวรรค์เป่าแตรส่งสัญญาณเตือนภัยได้ทันเวลา เหล่าเทพเซียนจึงผนึกกำลังป้องกันการรุกรานของทัพมารอย่างสุดความสามารถเทพสงครามนำทัพออกมาเผชิญหน้าปกป้องสรรพสิ่งไม่ให้แตกสลายจากมหันตภัยในครั้งนี้ กลยุทธ์มากมายที่เคยใช้กับจอมมารตนอื่นกลับไม่ได้ผลนักไพ่ตายที่ถูกวางไว้สามอย่างเริ่มดำเนินไปอย่างเงียบ ๆ หวังว่าจะหยุดความเลวร้ายทั้งหมดลงไปได้ก่อนที่จะมีความสูญเสียไปมากกว่านี้เวลานั้นโฉมหน้าของผู้นำทัพมารจึงปรากฏขึ้น รอยยิ้มชั่วร้ายและแววตาเย็

    Last Updated : 2024-10-28
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 1 ทัพมารบุกสวรรค์

    ท่ามกลางความโกลาหลตรงเขตชายแดนระหว่างภพมารและภพสวรรค์ เทพจันทราเร่งหลอมรวมวิญญาณและพลังของตนเองเพื่อผนึกลิขิตสวรรค์ในต้นไม้แห่งโชคชะตาไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้แม้จะต้องสละวิญญาณแต่นั่นเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องสรรพสิ่งจากหายนะที่คืบคลานเข้ามา ชายชรารู้เป็นอย่างดีว่าจอมมารจะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชะตาของใครบางคนอย่างแน่นอน และนั่นอาจจะทำให้แผนการที่วางไว้ล่มไม่เป็นชิ้นดีเสียงคำรามของสัตว์อสูรดังกระหึ่มสร้างความวิตกในใจของเขาเป็นอย่างมาก อีกนิดเดียว ข้าขอเวลาอีกนิดเดียว เขาคิดในใจหวังว่ากองทัพสวรรค์ที่อยู่ด้านนอกจะช่วยต้านทานถ่วงเวลาผู้บุกรุกได้อีกสักเพียงนิด“หยุดนะ!” ปีศาจสาวนามว่าหลิวอิงอิงผู้เป็นมือขวาของจอมมารตะโกนก้อง นางร่ายพลังปีศาจใส่เทพจันทราโดยไม่ยั้งมือ หากแต่ถูกสกัดกั้นโดยกองอารักขาเสียก่อน จึงทำให้นางฉุนเฉียวเพราะไม่ได้ดั่งใจเทพจันทราตั้งสติมั่นพลันขอบข่ายอาคมปรากฏขึ้นหลอมรวมกับจิตวิญญาณอันแกร่งกล้าของชายชราผู้นี้โอบล้อมเป็นม่านคลุมต้นไม้แห่งโชคชะตาเอาไว้ในชั่วขณะหลิวอิงอ

    Last Updated : 2024-11-04
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 2 จุติเป็นมนุษย์

    บทสนทนาระหว่างเทพวายุกับจอมมารและการต่อสู้ของทั้งสองดำเนินไปอย่างดุเดือด สวีต้าเฟิงเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อถ่วงเวลาให้เทพสงครามได้อย่างแนบเนียนจนอีกฝ่ายสามารถหลอมพลังวิญญาณได้เรียบร้อยกลายเป็นหนึ่งเดียวกับดาบคู่กายของตนเองสายตาที่เทพวายุมองสหายเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อร่ำลาทำให้กงจื่อเย่รู้สึกตัวว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นละครฉากใหญ่จังหวะที่หันไปมองตามนั้น ดาบเทพสงครามอันมหึมาก็พุ่งทะลุผ่านร่างของจอมมารในพริบตาการสละวิญญาณของเทพสงครามได้ผลชะงัดเพราะสามารถผนึกเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตดวงแรกไว้ในแก่นวิญญาณของจอมมารได้ ส่งผลให้พลังมารที่รุนแรงถดถอยลงไปหนึ่งส่วนกงจื่อเย่จะไม่รู้ตัวว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาภายในแก่นวิญญาณของตัวเองเพราะถูกพลังเทพสงครามบดบังเอาไว้แต่เฉลียวได้ว่าผู้นำกองทัพสวรรค์ย่อมไม่สละตนเองเพียงเพื่อทำลายพลังมารของเขาส่วนเดียวจอมมารยืนทื่ออยู่ครู่หนึ่ง พิจารณาว่าร่างมารของตนเองมีสิ่งใดผิดแปลกไปหรือไม่“พวกเจ้าทำอะไรข้า” เขาไม่รู้ว่าเหล่าเทพใช้วิธีใดและนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย

    Last Updated : 2024-11-11
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 3 ขัดขวาง

    ภพสวรรค์เซียนผู้เฝ้าหออาวุธโบราณเพิ่งสังเกตได้ว่าดวงเนตรอำพันหายไปจึงคิดรายงานเทียนจวิน แต่กลับถูกสัตว์อสูรเขาแหลมตัวเขื่องขวิดจนร่างแตกสลายไปเสียก่อนสวีต้าเฟิงเห็นจอมมารยิ้มมุมปากได้แต่นึกสงสัยว่าผู้ที่โดนรุมล้อมสังหารมีเหตุอันใดให้รื่นรมย์ใจถึงเพียงนี้ ทั้งยังแววตาท้าทายที่มองมายังเขาไม่วางตาราวกับบรรลุเป้าหมายบางอย่างครั้นจะปลีกตัวออกมาจากที่แห่งนั้นเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจกลับถูกดาบเขี้ยวอสูรเหวี่ยงเข้ามาขวางทางเอาไว้ในพริบตา“จะหนีไปที่ใดกันเล่า” กงจื่อเย่แสยะพลางเรียกดาบประจำกายกลับมา“...” เทพวายุไม่เอ่ยอันใดแต่หันไปสบตากับเทียนจวินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สีหน้ากังวลรู้สึกว่าตนเองกำลังตกหลุมพรางของมารเจ้าเล่ห์ผู้นี้“ไปเถิด” เทียนจวินเอ่ยปากบอกแล้วดันพลังของตัวเองมาต้านทานพลังมารของกงจื่อเย่แทนเทพวายุจอมมารเห็นช่องว่างช่วงเปลี่ยนผันไม่รอช้าเขวี้ยงดาบเขี้ยวอสูรใส่ทั้งคู่โดยไม่แยแสเพื่อสลายพลังที่ตรึงกายมารส่วนล่างของเขาเอาไว้กระนั้น เทพอาวุโสอีกคนหนึ่งเห็นท่าไม่ดีหลบ

    Last Updated : 2024-11-18
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 4 ชีวิตใหม่ของสวีลู่ชิง

    แดนมนุษย์เดิมทีเทพดาราจะกลายเป็นดาวตกลงมาเผชิญด่านเคราะห์ทุก ๆ หนึ่งพันปีเพื่อเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตในแดนมนุษย์ นางมีโชคชะตาที่เทพบรรพกาลเลือกสรรให้เป็นผู้สังหารจอมมารที่ถือกำเนิดขึ้นในสามภพตลอดระยะเวลาหลายแสนปีที่ผ่านมา เหล่าเทพเซียนภพสวรรค์ได้รับเลือกจากเทพบรรพกาลมานับไม่ถ้วนเพราะเขาผู้นั้นคือผู้หยั่งรู้โชคชะตาเมื่อจอมมารในแต่ละช่วงเวลาถือกำเนิด หากวิธีที่รับมืออยู่ไม่สามารถต้านทานพลังมารอันชั่วร้ายได้ เมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตจึงเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะผู้ที่สังหารจอมมารตนนั้นต้องสละแก่นวิญญาณของตนเองหลอมรวมอสนีบาตสวรรค์ 19 ครั้ง ผันเปลี่ยนเป็นพลังมหาศาลทำลายจอมมารไปพร้อม ๆ กันเหตุการณ์เหล่านั้นจึงทำให้มีเทพเซียนดับสูญตลอดกาลไปไม่น้อย แต่เพื่อแลกกับความสงบสุขของสามภพแล้ว พวกเขาเหล่านั้นจึงยอมรับในโชคชะตาของตัวเองครั้งนี้สวีลู่ชิงลงมาเกิดเป็นมนุษย์ครั้งที่สองด้วยช่วงเวลาที่ห่างกันจากครั้งแรกเพียงห้าร้อยปี พลังเทพของนางจึงได้รับความเสียหายบางส่วนเด็กทารกดวงตาสีฟ้า เรือนผมขาวแต่กำเนิดราวหิมะปรา

    Last Updated : 2024-11-25
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 5 ความโกลาหล

    โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งนอกเมืองหนานพ่อค้าจากต่างเมืองที่ผ่านมาแวะพักในโรงเตี๊ยมเล่าข่าวคราวที่บังเอิญได้ยินมาให้คนที่อาศัยอยู่ละแวกนั้นฟัง เสียงเล่าลือว่าคนในหมู่บ้านหงเหลียนทางตอนใต้แคว้นชิงตายด้วยอาการประหลาดคนที่เหลือรอดมาได้เล่าวกไปวนมาว่าสิ่งที่เข้าทำร้ายพวกเขาต้องไม่ใช่คน ดูไม่มีรูปร่างแต่แววตาแดงฉานฉายชัด ครั้นจะถามต่อว่าเป็นอย่างไรบ้างกลับไม่ได้อะไรเพิ่มเติม คนเหล่านั้นเหมือนสติหลุดพูดจาไม่รู้เรื่องไปเสียแล้วเจ้าเมืองจึงต้องส่งคนไปเชิญเซียนสำนักต่าง ๆ เข้ามาตรวจสอบข่าวลือที่ว่าผีปีศาจออกอาละวาดทำร้ายชาวเมืองเป็นเรื่องจริงหรือไม่กระนั้น หลายเดือนผ่านไปยังไม่มีใครเห็นเซียนที่เข้าไปในหมู่บ้านหงเหลียนออกมาข้างนอก บรรยากาศรอบหมู่บ้านราวกับมีผีสิง อึมครึม เย็นยะเยือก นานวันเข้าจึงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หมู่บ้านร้างอีกเลย“แค่เล่าให้พวกเจ้าฟังก็ขนหัวลุกแล้ว” หนึ่งในคาราวานพ่อค้าเอ่ยปากพลางทำท่าสั่นกลัว“ไม่ใช่แค่หมู่บ้านหงเหลียนหรอก” ชายคนหนึ่งกระดกแก้วเหล้าอึกใหญ่รำลึกถึงเหตุการณ์เฉียดตายที่พบเ

    Last Updated : 2024-12-02
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 6 ผจญภัย

    สำนักเซียนดาราสวรรค์“จื่อเถิง มาหาอาจารย์หน่อยเถิด” เสียงของเฉาหมิงเรียกนางด้วยความเอ็นดู ก่อนจะลูบศีรษะของศิษย์ผู้นี้อย่างอ่อนโยน “อาจารย์เจ้าสำนักฝากข้าเอามาให้เจ้า”จื่อเถิงมองดูหยกสีชมพูอ่อน สีหน้างงงวยเพราะไม่รู้ว่าหยกหน้าตาสวยงามคืออะไร“อาจารย์เจ้าสำนักเป็นห่วงเจ้ามากจึงฝากข้านำมาให้” เขาถอนหายใจเพราะรู้ว่าอาจารย์ของตนเองใช้พลังเซียนที่สั่งสมมานานหลายสิบปีหลอมหยกชิ้นนี้ขึ้นมาให้ศิษย์หลานโดยเฉพาะครั้นถามว่าเหตุใดจึงทำเช่นนั้นกลับได้คำตอบมาว่า “นางเดินทางออกนอกสำนักเป็นครั้งแรก ย่อมต้องห่วงเป็นธรรมดา”ทว่า เฉาหมิงกลับสังเกตได้ว่ารอยยิ้มของนางนั้นเต็มไปด้วยความกังวล แต่ไม่อาจถามไถ่สิ่งใดได้อีกเพราะนางคงไม่มีทางบอกอย่างแน่นอน“ขอบคุณเจ้าค่ะ” จื่อเถิงรับปากว่าจะปกป้องทุกคนและกลับมาสำนักดาราสวรรค์ก่อนเทศกาลโคมไฟแล้วรีบวิ่งไปหาศิษย์น้องอิงฮวาที่ยืนรออยู่ด้านหน้าสำนักคล้อยหลังจื่อเถิง เฉาหมิงเอ่ยปากบอกหยางซีอวิ๋นผู้เป็นศิษย์พี่ว่า &ld

    Last Updated : 2024-12-09
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 7 มังกรดำ

    ช่วงเวลานั้นเกิดเสียงหวีดร้องและเสียงปะทะพลังของทั้งสองฝ่ายกระหึ่มดังไปทั่วบริเวณเซียนหนุ่มหันไปมองสหายด้วยสายตากังวล“ไม่เป็นอันใดหรอก เลี่ยงหวง” เซียนสาวบอกศิษย์ร่วมสำนักด้วยท่าทีใจเย็นเพราะมีประสบการณ์เรื่องต่อสู้มามาก “จำที่อาจารย์สอนเจ้าได้หรือไม่”เลี่ยงหวงพยักหน้าแล้วรวบรวมพลังเซียนวิชาหนึ่งของสำนักตนเอง พลันแสงสีขาวก่อตัวพองโตเป็นลูกกลม ๆ ขึ้นทีละนิด เขาขมวดคิ้วกลั้นหายใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ศิษย์พี่ ข้าพร้อมแล้ว”เฉินซือหยางมัวแต่วอกแวกเพื่อกวนประสาทเซียนทั้งสองจึงไม่ทันระวังตัวโดนพลังเซียนขั้นสูงสาดใส่ร่างปีศาจเข้าเต็มเหนี่ยวกระเด็นทะลุบ้านเรือนไปหลายหลังเขายันตัวลุกขึ้นเอียงคอจัดกระดูกที่หักไปหลายท่อนกลับมาดังเดิมแล้วเช็ดเลือดที่มุมปากพลางปัดฝุ่นดินบนเสื้อผ้า แสยะยิ้มที่ไม่ได้เจอผู้ใดมีฤทธิ์เดชรุนแรงเท่าสองคนข้างหน้ามานานมากแล้ว“เฉินซือหยาง เจ้าอย่าลืมว่าพวกเขามิใช่เซียนธรรมดา”มังกรดำเอ่ยปากเตือนเพราะไม่อยากให้สหายเพลี่ยงพล้ำจนเสียการงาน

    Last Updated : 2024-12-16

Latest chapter

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 58 กำจัดภัย

    จอมมารที่เหลือเพียงเงาดำจาง ๆเดินทางร่อนเร่กลับภพมารตัวคนเดียว ระหว่างทางคอยสูบกินพลังชั่วร้ายที่ผุดขึ้นมาทีละนิดเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างมารปีศาจของตนเองหากแต่ครั้งนี้ทำไปเพื่อกลับคืนร่างเดิมให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้ปกป้องครอบครัวเวลานั้นเขาลืมนึกไปเลยว่าตำแหน่งผู้ปกครองภพมารสามารถสั่นคลอนได้ทุกเมื่อ มัวแต่เป็นห่วงกลัวว่าสวีลู่ชิงจะถูกอสนีบาตจนแหลกสลายจึงรีบไปห้ามนางถ้าครั้งนี้กลับมาได้คงต้องวางแผนจัดการไม่ให้มีมารปีศาจตนใดคิดกระด้างกระเดื่องอยากชิงพลังอันกล้าแกร่งของอีนั่วหรือทำร้ายเขาแม้ว่าจะต้องสลายไปอีกครั้งเพราะกฎของสวรรค์ที่มารปีศาจอย่างเขาไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ กงจื่อเย่คิดแล้วว่าแปลงร่างเป็นนกน้อยอยู่กับนางและลูกไม่ได้แย่สักเท่าใดนัก อย่างน้อยก็ได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 57 นางรักเจ้า แต่รักข้ามากกว่า

    เช้าวันหนึ่งในหมู่บ้านดอกท้อนกน้อยสีดำไซ้ขนอยู่ข้าง ๆ สวีลู่ชิงที่นั่งหลับตาฟื้นฟูแก่นวิญญาณของตนเองอยู่เงียบ ๆ ส่วนอีนั่ววิ่งเล่นอยู่กับสมุนจอมมารโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยบรรยากาศภายในหมู่บ้านเล็ก ๆ เต็มไปด้วยความสดชื่นสนุกสนานจนบางทีพวกเขาลืมไปเลยว่าสาเหตุที่ทำให้ทุกคนมาอยู่ร่วมกันในที่แห่งนี้คืออะไรสวีต้าเฟิงเดินเข้ามาทักทายน้องสาวยามเช้าเหมือนอย่างเคย รอยยิ้มบางประดับบนใบหน้านึกเอ็นดูนางราวกับเป็นเด็กน้อย แต่เวลานี้น้องสาวตัวเล็กในวันวานกลับมีบุตรชายจอมซนเหมือนนางไม่มีผิดเขาจึงรับหน้าที่ดูแลทั้งคู่ด้วยความเต็มใจ ถึงอย่างนั้นแล้วดวงตาสีฟ้ากลับจ้องมองนกน้อยตรงหน้าจิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ (มองหน้าข้า มีเรื่องอันใด)“...” เทพวายุ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 56 ยกโทษให้พ่อเถอะ

    สองอาทิตย์ต่อมาสมุนจอมมารทั้งสามล้อมวงก้มมองเจ้าถ่านด้วยความสงสัยว่านกน้อยตัวนี้เป็นมารปีศาจเผ่าพันธุ์ใดกันแน่“ผ่านมานานถึงเพียงนี้ เหตุใดบาดแผลจึงยังไม่หายหรือว่าถูกพลังร้ายกาจของผู้ใดมา” เฉินซือหยางขมวดคิ้วเป็นปมนึกสงสัยเพราะจับตามองอยู่นานแล้ว“พลังเทพอาจจะรักษาไม่ได้เพราะเป็นนกที่มาจากภพมารแต่ถึงอย่างไรพลังของนายน้อยก็ไม่ได้ผลอีก ข้าว่าเจ้าถ่านนี่มีอะไรแปลก ๆ” หลิวอิงอิงวิเคราะห์ตามความรูสึกของตัวเอง มือข้างหนึ่งเอื้อมมาจับปีกที่เป็นแผลจิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ“เฮอะ ดูสิ ข้าว่ามันบ่นเจ้าใหญ่เลย” โจวเหวินหลงพูดบ้าง คนที่มีสติดีที่สุดอย่างเขาจึงนึกเรื่องบางอย่างออกพลันจ้องมองดวงตาของนกน้อยอีกครั้งหนึ่ง&l

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 55 จอมมารยังคงเจ้าเล่ห์

    บ้านหลังเล็กของมารน้อยเมื่อทั้งสองฝ่ายตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไปจึงร่างสัญญาสงบศึกชั่วคราวเพราะต้องการดูลาดเลาสถานการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงบ้านหลังเล็กที่เคยอยู่กันเพียงสองคน เวลานี้มีหลังอื่นผุดขึ้นมาอยู่ใกล้ ๆ กันอีกสามสี่หลังจนแทบจะกลายเป็นหมู่บ้านที่มีทั้งมารและเทพอยู่ร่วมกันอย่างสันติต้นท้อรายรอบกำลังผลิดอกสีชมพูบานสะพรั่งเหมือนภาพวาด อีนั่วจึงตั้งชื่อหมู่บ้านของเขาว่าหมู่บ้านดอกท้อ ในใจคิดอยากอยู่ที่แห่งนี้อย่างสงบตลอดไปพลังของอีนั่วถูกกลบซ่อนเอาไว้ไม่ให้มารปีศาจตนอื่นรู้ รอบเขตบ้านจึงมีม่านศักดิ์สิทธิ์ของเทพวายุห้อมล้อมอยู่ด้วย“เจ้าจะทำเช่นนั้นไม่ได้ พวกข้าอึดอัด” หลิวอิง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 54 คนละครึ่งทาง

    สวีลู่ชิงและพี่ชายรอข่าวคราวจากเสี่ยวไป๋อยู่นอกเขตแดนมารนางเดินวนไปวนมาด้วยความกังวลกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับอีนั่วจนแทบอยากจะฝ่าเข้าไปในภพมารเพื่อตามหาเขาด้วยตัวเอง“นั่งลงก่อนเถิด เจ้าเดินไปเดินมาจนข้าตาลายแล้ว” สวีต้าเฟิงส่ายหน้าพลางบ่นพึมพำ“ข้าเป็นห่วงเขา” นางเอ่ยตามตรง ใจหนึ่งรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกับมารน้อยครั้งแรกแต่อีกใจกลับสัมผัสความรู้สึกคุ้นเคยได้อย่างบอกไม่ถูกช่วงเวลาเพียงเสี้ยวหนึ่ง เสี่ยวไป๋ส่งสัญญาณบางอย่างกลับมาหาผู้เป็นเจ้านายบอกให้รู้ว่ากำลังมาถึง รอยยิ้มบางจึงผุดขึ้นมาด้วยความยินดีพลันเงาดำตะคุ่มปรากฏด้านหลังเขตแดนภพมาร“สวีลู่ชิง ถอยออกมา” เทพวายุดึงร่างน้องสาวให้ออกห่างเพราะกลัวจะมีอันตราย “เจ้าอย่าเพิ่งวู่วาม จงอย่าล

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 53 ฝากดูแลลูก

    หลังจากกงจื่อเย่สูญสิ้นไปทัพมารที่กำลังบุกสวรรค์ครานี้จึงแตกพ่ายเพราะไร้ผู้นำถูกกองทัพสวรรค์ขับไล่กลับภพมารในเวลาไม่นานเหล่าเทพเซียนต่างพากันโห่ร้องยินดีเพราะภัยคุกคามถูกกำจัดแล้ว หากแต่เทพอาวุโสและเทพชั้นสูงบางคนยังคงไม่อาจวางใจได้มากนักแต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็พอจะโล่งใจได้บ้างว่าหลายพันปีต่อจากนี้สามภพคงจะสงบสุขราบรื่น และหากถึงเวลาที่จอมมารฟื้นคืนกลับมา ตอนนั้นพวกเขาคงหาวิธีรับมือได้บ้างแล้วตำหนักเทพดารามีแขกเข้าเยี่ยมไม่ขาดสายเพราะได้ยินเรื่องราวปากต่อปากจึงมาถามไถ่ด้วยตนเอง สวีลู่ชิงจึงบอกพวกเขาแต่เพียงว่า “มารผู้นั้นคงกลับใจกระมัง แต่ข้าไม่รู้หรอกว่าเป็นเพราะอันใด”นางกล่าวเช่นนั้นเพราะไม่รู้จริง ๆ แม้กงจื่อเย่จะจากไปแล้วแต่ความทรงจำที่ขาดหายไปก็ยังไม่กลับคืนมา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 52 สัญญาได้หรือไม่

    เทพเซียนที่ยืนอยู่รายรอบมองหน้ากันด้วยความงุนงงครั้นจะพุ่งตัวเข้าไปดึงจอมมารออกมาจากที่นั่นก็ทำไม่ได้เพราะรังแต่จะเสี่ยงชีวิตของตัวเองไปด้วยคราวแรกก็คิดว่าเขาเข้ามาขัดขวางไม่ให้นางทำภารกิจสำเร็จ แต่ไป ๆ มา ๆ กลับได้เห็นว่าจอมมารกำลังใช้ร่างกายตัวเองเป็นเกราะกำบังและรับอสนีบาตแต่เพียงผู้เดียว“สวีต้าเฟิง นี่มันเรื่องอันใดกัน” หนึ่งในเทพอาวุโสถามเขาเพราะเพิ่งมาถึง“ข้าก็ไม่รู้ขอรับ” เขาไม่อาจตอบคำถามนั้นได้เพราะไม่คิดว่าเรื่องราวตรงหน้าจะกลับตาลปัตรได้ขนาดนั้น“แต่ถ้าปล่อยเอาไว้แล้วจะจัดการจอมมารได้อย่างไร เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเทพดาราจะต้องเป็นผู้รับทัณฑ์สวรรค์ ไม่ได้การแล้ว ข้าต้องรีบเข้าไปห้าม”เทพอาวุโสส่ายหน้าหนักใจ ช่วงท

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 51 อย่าผลักไสข้า

    เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นคนเป็นพี่ชายอย่างสวีต้าเฟิงแทบทำอาวุธหลุดมือ ในใจนึกโกรธเกรี้ยวที่จอมมารเจ้าเล่ห์พูดอะไรไม่เข้าเรื่อง“เจ้าอย่ามาพูดซี้ซั้ว” เทพวายุกำอาวุธประจำกายไว้แน่น “กล้าพูดใส่ร้ายให้น้องสาวข้ามีมลทิน เห็นทีคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่”กงจื่อเย่ไม่ยอมน้อยหน้าเพราะทุกสิ่งที่พูดออกไปเป็นความจริงจึงยืนยันว่า “ข้าคือสามีที่ถูกต้องตามประเพณีในด่านเคราะห์ชาติที่สองของนาง” ใจจริงเขาอยากจะพูดต่อด้วยซ้ำไปว่ามีพยานรักหนึ่งคนที่มีดวงตาสีฟ้างดงามเหมือนกับนางแต่เพื่อความปลอดภัยของมารน้อย เขาจึงต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้ต่อไป“เฮอะ” เทพปฐพีแสยะยิ้ม “ก็แค่ด่านเคราะห์ เจ้าจะมายึดถือเช่นนั้นได้อย่างไร” เขาถามออกไปแต่ในใจเริ่มคิดแล้วว่าถ้าเขาได้ตัวภรรยากลับไปแล้วเรื่องราวสงครามของจอมมา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 50 บุกสวรรค์ตามหาภรรยา

    สายใยระหว่างแม่ลูกที่ถักทอในแก่นวิญญาณมารน้อยทำให้เขารู้ว่าเวลานี้นางหายไปอยู่ในที่แสนไกล ถึงอย่างนั้นก็ยังคงหวังลึก ๆ และนั่งรอมารดาอยู่ที่เดิมทว่า ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ในใจของอีนั่วเศร้าหมองและคิดถึงนางยิ่งนักจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ไม่เกรงกลัวว่าจะมีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับตัวเองพลันใช้พลังมารหายตัวเข้าสู่แดนสวรรค์ในพริบตาอีนั่วรีบพุ่งไปที่ตำหนักเทพดาราในทันที ไม่ข้องแวะที่ใดเพราะห่วงว่าจะมีใครสังเกตเห็นตัวตนมารปีศาจ คอยแอบอยู่ในมุมมืด พรางตัวราวกับเป็นอากาศ แล้วกวาดสายตามองหามารดา“ท่านแม่...” เขาเผลอเรียกออกไปแบบนั้นอย่างเคยแต่หยุดชะงักไปเพราะรู้สึกได้ว่าหญิงสาวตรงหน้ามีอะไรแปลกไปจากเดิม นางกำลังหัวเราะและยิ้มให้คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ โดยไม่รู้สึกตัวเลยว่าเลือดเนื้อเชื้อไขตัวน้อย ๆ รอนางเพียงลำพัง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status