แชร์

ตอนที่ 61 เสแสร้งเก่งนัก

ผู้เขียน: MACARONI/1Millionmilesaway
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-08 07:00:42

หลังเหตุการณ์ลักพาตัวสิ้นสุดลง เรื่องราวของอีนั่วถูกรายงานให้เทียนจวินได้รับรู้ เหล่าเทพเซียนอาวุโสต่างถกเถียงกันหลายชั่วยามด้วยความเคร่งเครียด หาวิธีควบคุมมารน้อยเพราะเกรงว่าเขาจะก่อความวุ่นวายเหมือนที่บิดาเคยทำ

สวีต้าเฟิงยังคงปกป้องน้องสาวและหลานชายเหมือนอย่างเคย “ข้ารับรองได้ว่าเขาไม่เป็นภัยต่อผู้ใดขอรับ”

“ข้ายืนยันว่าอีนั่วเป็นเพียงมารน้อยธรรมดา หาใช่มารร้ายอย่างที่พวกท่านคิด เขาเป็นเพียงบุตรชายของข้า” สวีลู่ชิงเผชิญหน้ากับเทพอาวุโส

เวลานี้ความเห็นถูกแบ่งออกเป็นหลายฝ่ายแต่ทุกฝ่ายล้วนแล้วแต่ลงความเห็นว่าอีนั่วไม่ควรเพ่นพ่านอยู่ในแดนสวรรค์ อีกทั้งยังต้องมีกองกำลังคอยจับตามองไม่ให้เขาฉวยโอกาสทีเผลอทำร้ายผู้ใด

จนสุดท้ายได้ข้อสรุปว่าให้อีนั่วอาศัยอยู่ในหมู่บ้านดอกท้อดังเดิม แต่ครานี้มีกองทัพสวรรค์ลงไปปักหลักจับตามองการกระทำของเขาทุกฝีก้าว

“ท่านแม่ หากเป็นเช่นนั้นคงต้องเปลี่ยนชื่อจากหมู่บ้านดอกท้อเป็นเมืองดอกท้อหรือไม่” อีนั่วนึกสภาพหมู่บ้านที่มีเซียนทหารมากหน้าหลายตาเดินสวนกันไปมา

เทพดาราส่ายหน้ารู้สึกว่านิสัยที่เปลี่ยนสถานการณ์ตึงเครียดให้เป็นเรื่องเล่นได้เหมือนใครบางคนไม่มีผิด

“ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริง ๆ” สวีต้าเฟิงเป็นผู้เอ่ยปากก่อนพลางมองหน้าน้องสาวราวกับรู้ว่านางกำลังคิดสิ่งใดอยู่ “กลับหมู่บ้านดอกท้อก่อนเถิด ข้าจะรักษาอาการบาดเจ็บให้เจ้าต่อ”

“เจ้าค่ะ” นางยิ้มให้ผู้เป็นพี่แล้วจับมือน้อย ๆ ของอีนั่วไว้ก่อนจะหายตัวในพริบตา

ในแต่ละวัน ชีวิตของพวกเขาดำเนินไปอย่างเรียบง่ายเหมือนที่ผ่านมา หากแต่บางครั้งสวีลู่ชิงรู้สึกแปลกไปบ้างคล้ายกับว่ามีใครจ้องมองนางอยู่ตลอดเวลา

ยามค่ำคืนไออุ่นใครบางคนยิ่งชัดเจนราวกับโอบกอดนางไว้ แต่เมื่อหันไปดูกลับไม่เจอผู้ใดจึงนึกว่าคิดไปเอง

แท้จริงแล้ว จอมมารเจ้าเล่ห์ยังไม่ได้สลายอย่างที่พูดเอาไว้เสียหน่อย ไหน ๆ เขาก็กลับมาอยู่ในร่างสมบูรณ์แล้วจึงคิดว่าอยู่ต่อไปเช่นนี้น่าจะดีกว่า หากมีเทพหรือมารปีศาจตนใดคิดทำร้ายนางกับอีนั่วอีก เขาจะได้จัดการอย่างทันท่วงทีขอเพียงแค่อดทนข่มใจไม่ไหลไปตามเสียงเรียกร้องของความชั่วร้ายที่พยายามขับกล่อมโน้มน้าวให้เขาตกเป็นทาสของมันจนสิ้นสติ

กระนั้น การซ่อนตัวของจอมมารไม่ได้แนบเนียนเกินกว่าผู้มีสายใยระหว่างกันจับไม่ได้ อีนั่วส่งกระแสจิตหาบิดาทันทีที่รับรู้ว่าเขาปรากฏตัวอยู่ใกล้ ๆ

ท่านพ่อคิดจะทำเรื่องอันใดกันถึงได้โป้ปดข้ากับท่านแม่อีกแล้ว” มารน้อยอุตส่าห์คิดว่าบิดาจะรักษาสัญญาแล้วทำตามนั้น

ข้าเพียงแค่เป็นห่วงเจ้ากับนาง” กงจื่อเย่ตอบบุตรชายไปตามตรง “หากข้ายังอยู่จะไม่มีผู้ใดทำอันตรายเจ้าได้ ไม่ดีหรือ” เขาพยายามพูดโน้มน้าวใจอีนั่วอย่างมีจุดประสงค์

แน่นอนขอรับ หากมีท่านพ่ออยู่ใครจะกล้าทำอันตรายข้ากับท่านแม่ได้” มารน้อยเห็นด้วยจึงพูดไปตามที่คิด “เพราะมารปีศาจที่ร้ายกาจที่สุดคือท่านพ่ออย่างไรเล่า”

อีนั่ว ต่อให้ข้าร้ายกาจเพียงใดแต่ข้าก็ยังเป็นบิดาของเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้ายังโกรธเรื่องในอดีตแต่ข้าเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ต้องพิสูจน์อย่างไรเจ้าถึงจะยอมยกโทษให้ข้าหรือ” จอมมารแทบอ้อนวอนบุตรชายคนเดียวให้เห็นใจ

เด็กน้อยขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างหนักเพราะเรื่องที่ผ่านมาร้ายแรงนักไม่อาจให้อภัยได้โดยง่าย พลอยคิดไปว่าหากมารดาจำเรื่องที่บิดาทำในอดีตได้ขึ้นมานางก็คงไม่ให้อภัยเขาเช่นกัน

ยังไม่ใช่ตอนนี้ขอรับ” เขาจึงพูดตัดบทไปทั้งอย่างนั้น

กงจื่อเย่จึงได้แต่ถอนหายใจยอมรับความจริงว่าเรื่องพวกนี้ต้องใช้เวลาอีกนานมากนักพลันหาวิธีโน้มน้าวใจบุตรชายทุกครั้งที่มีโอกาส

เมื่อวนเวียนอยู่รอบตัวพวกเขามากเท่าไหร่ สวีลู่ชิงก็เริ่มจับทางได้แล้วว่าความรู้สึกเหล่านี้คุ้นเคยยิ่งนัก ไออุ่นที่อยู่รอบกายและสายตาที่เหมือนจ้องมองแต่นางเพียงผู้เดียวช่างน่าขนลุกเพราะหันไปรอบตัวกลับไม่เจอผู้ใด

ครั้งหนึ่งจึงแสร้งทำเป็นนอนหลับอยู่ในห้องตามลำพังพลันสัมผัสปริศนาโผล่ขึ้นมาทันใด ค่อย ๆ เอื้อมแขนกอดนางแผ่วเบาเพราะไม่ต้องการให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว

เทพดาราขมวดคิ้วเรียวไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นางต้องจับปีศาจราคะที่มายุ่งวุ่นวายกับนางให้ได้

ตราเทพสวรรค์ปรากฏกลางหน้าผากพร้อมอักขระโบราณ อาคมถูกร่ายกักเป้าหมายได้อย่างง่ายดายราวกับตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น

“โอ๊ย!” กงจื่อเย่ร้องลั่น สีหน้าโอดโอยตกอยู่ในกำมือของเทพดาราทันใด

ครั้นนางหันไปมองว่าผู้ใดกล้าแตะต้องนางจึงได้เห็นว่า “นี่เจ้าอีกแล้วหรือ”

“ไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด เยว่ชิง” เขาอ้อนวอนแต่ยังคงคุ้นชินกับนามเดิมของนางในชาติที่แล้วเสียมากกว่า

“สวีลู่ชิง” หญิงสาวทำหน้ามุ่ยที่เขาเอาแต่เรียกนางเช่นนั้น ยิ่งจำเรื่องในอดีตไม่ได้ก็ยิ่งหงุดหงิดเพราะไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาพูดมาแต่ละอย่างคือเรื่องจริงหรือหลอกลวงอย่างเช่นเวลานี้

จอมมารกล่าวเสียดิบดีว่ายินยอมสลายพลังที่จวนเจียนปะทุ แต่เหตุใดเขาจึงนั่งหน้าไม่อายอยู่ตรงนี้เล่า

“ลู่ชิง” ดวงตาสีม่วงแดงจ้องคนตรงหน้าไม่วางตา ทำให้เทพดารามั่นใจว่าสายตาแบบนี้นี่เองที่นางสัมผัสได้ “ปล่อยข้าก่อนไม่ได้หรือ ข้าเจ็บมากจริง ๆ”

คนตรงหน้าได้ยินเช่นนั้นเกิดหมั่นไส้ขึ้นมาทันใดจึงกล่าวไปว่า “เสแสร้งเก่งนัก ถูกผนึกด้วยพลังข้าเพียงน้อยนิด จอมมารอย่างเจ้าไม่สะเทือนด้วยซ้ำไป”

“เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเจ้าคือผู้เดียวที่สามารถกำราบข้าได้ พลังเพียงน้อยนิดที่เจ้าว่าก็ทำให้ข้าเจ็บหนักได้เช่นกัน” กงจื่อเย่เถียงกลับไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ และไม่ลืมแสดงท่าทีเจ็บปวดทรมานให้นางได้เห็น

“ถ้ายังไม่เลิกโกหก ข้าจะกำราบเจ้าจริง ๆ คอยดูเถอะ”

“เทพดาราผู้มีจิตใจดีงาม เวลานี้จอมมารอย่างข้าไร้สิ้นไม้ตอก เป็นเพียงมารปีศาจตัวเล็ก ๆ ไม่มีพิษภัยอันใด เจ้ายังใจร้ายคิดสังหารข้าได้ลงคออีกหรือ”

เขาทำท่าทางสลดน่าใจหายพลางแสดงให้สวีลู่ชิงได้เห็นว่าพลังชั่วร้ายที่เขาเคยดูดกลืนเมื่อไม่นานมานี้เหลือเพียงหนึ่งในสิบส่วนเท่านั้น

“...” นางครุ่นคิดอย่างหนัก คำพูดของมารอันดับหนึ่งไม่อาจเชื่อได้ในทันที ควรต้องฟังหูไว้หูแล้วพิจารณาอย่างรอบคอบ

“ไม่เชื่อใจสามีของเจ้าหรือ”

สวีลู่ชิงหงุดหงิดมากกว่าเดิมที่เขาคอยตามติดนาง ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ “ข้าไม่ใช่ภรรยาเจ้า”

“อีนั่วเป็นพยานรักของเรา จะไม่ใช่ได้อย่างไร” เขาถามนางออกไปเช่นนั้นแล้วพูดต่อ “หากอีนั่วได้ยินเจ้าบอกว่าเขาไม่ใช่ลูกของเจ้า เขาคงเสียใจมากนัก”

“ข้าพูดเช่นนั้นตอนไหน” คนตรงหน้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ รู้สึกหมดแรงทุกครั้งที่ต้องต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่าย

“หากเป็นอย่างนั้น เจ้ายอมรับแล้วใช่หรือไม่ว่าข้าเป็นสามีเจ้า” กงจื่อเย่ยิ้มมุมปากด้วยความเจ้าเล่ห์

สวีลู่ชิงพยายามไม่สนใจสิ่งไร้สาระจึงเอ่ยถามไปตามตรงว่า “เจ้าคิดจะทำอะไรถึงได้มาวนเวียนรอบตัวข้า เราสองคนไม่ใช่ว่าต้องต่างคนต่างอยู่หรอกหรือ หากพลังเทพบรรพกาลถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าคิดจะสลายไปพร้อมข้าใช่หรือไม่”

“ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นได้หรอก เจ้าสัมผัสได้ไม่ใช่หรือว่าเวลานี้พลังของข้าถดถอยไปมากเพียงใด ตัวเจ้าเองรู้สึกได้หรือไม่ว่าควรต้องสังหารข้า”

“อย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่อง” สวีลู่ชิงขมวดคิ้วจริงจังคาดคั้นคำตอบ “เหตุใดจึงไม่อยู่ภพมาร”

“ข้าอยากอยู่ข้างเจ้าไม่ได้หรือ ข้าเป็นสามีของสวีลู่ชิง เป็นบิดาของอีนั่ว เหตุใดจึงให้ข้าอยู่อย่างเดียวดายในภพมารด้วยเล่า” จอมมารแสดงท่าทีเหมือนถูกขัดใจสร้างความปวดหัวให้สวีลู่ชิงเป็นอย่างมาก

นางจึงเรียกอีนั่วเข้ามาพบแล้วเอ่ยถามสิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะเชื่อใจมารน้อยมากกว่าจอมมาร พยายามพูดคุยเสียงเบาที่สุดและร่ายอาคมกำบังไว้อีกขั้นเพราะไม่อยากให้จอมมารได้ยิน

ทว่า อีนั่วทำหน้ามุ่ยเพราะได้ยินเสียงบิดาผ่านกระแสจิตตลอดเวลาที่พูดคุยกับมารดา

อีนั่ว หากเจ้าไม่บอกนางตามความเป็นจริง ข้าจะพาเจ้ากลับภพมาร ส่วนมารดาของเจ้าอาจจะมีบุตรชายคนใหม่เป็นเทพตัวน้อยบนสวรรค์ คอยดูแลเขาจนหลงลืมเจ้าไปก็เป็นได้”

มารน้อยหันขวับที่ถูกบิดาข่มขู่ “เฮอะ” หางตาเหลือบมองอีกฝ่ายเล็กน้อย “ท่านพ่อกำลังทำให้ข้าโกรธใช่หรือไม่ บุตรคนใหม่เป็นเทพบนสวรรค์อย่างนั้นหรือ แสดงว่าสามีคนใหม่ของท่านแม่คงจะเป็นเทพที่อยู่บนนั้นกระมัง เอาเถอะ หากมีคนดี ๆ เข้ามาดูแลท่านแม่ ข้าไม่ติดใจอันใดอยู่แล้ว”

จอมมารได้ยินมารน้อยโต้เถียงราวกับรู้ความกลับมาเช่นนั้นถึงกับชะงักไปชั่วขณะ “อีนั่ว พ่อขอโทษ”

จากนั้นอีนั่วก็ไม่สนเสียงของบิดาอีกเลย ทำท่ากระซิบกระซาบกับสวีลู่ชิงเพียงสองคนจนจอมมารแทบท้อแท้ คิดในใจว่า ไม่น่ายั่วยุเลย หาเรื่องใส่ตัวเสียแล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 0 จุดเริ่มต้นของโชคชะตา

    ความสงบสุขเรียบง่ายหลายหมื่นปีของภพสวรรค์กำลังถูกสั่นคลอนเพราะมารตนหนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อร้อยปีก่อน ใครเล่าจะคิดว่าสิ่งเล็ก ๆ จากบ่อโคลนของความชั่วร้ายทั้งปวงจะหลอมรวมภัยอันตรายที่สามารถทำลายล้างสวรรค์ให้ราบเป็นหน้ากลองได้ในเวลาไม่นานภพมารแซ่ซ้องสรรเสริญผู้ปกครองดินแดนคนใหม่ ยกขึ้นเป็นนายเหนือหัวที่จะกลายเป็นจอมมารปลดเปลื้องพันธะให้เหล่ามารปีศาจที่ถูกกักขังในหุบเหวดำมืด จบสิ้นการลงทัณฑ์อันยาวนานจากเทพบรรพกาลเสียงอึกทึกกึกก้องคำรามข่มขู่เหล่าเทพเซียนบนฟากฟ้าพร้อมบุกเข้าโจมตีอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยจนผู้คนในแดนศักดิ์สิทธิ์วุ่นวายโกลาหลเคราะห์ยังดีที่กองทัพสวรรค์เป่าแตรส่งสัญญาณเตือนภัยได้ทันเวลา เหล่าเทพเซียนจึงผนึกกำลังป้องกันการรุกรานของทัพมารอย่างสุดความสามารถเทพสงครามนำทัพออกมาเผชิญหน้าปกป้องสรรพสิ่งไม่ให้แตกสลายจากมหันตภัยในครั้งนี้ กลยุทธ์มากมายที่เคยใช้กับจอมมารตนอื่นกลับไม่ได้ผลนักไพ่ตายที่ถูกวางไว้สามอย่างเริ่มดำเนินไปอย่างเงียบ ๆ หวังว่าจะหยุดความเลวร้ายทั้งหมดลงไปได้ก่อนที่จะมีความสูญเสียไปมากกว่านี้เวลานั้นโฉมหน้าของผู้นำทัพมารจึงปรากฏขึ้น รอยยิ้มชั่วร้ายและแววตาเย็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 1 ทัพมารบุกสวรรค์

    ท่ามกลางความโกลาหลตรงเขตชายแดนระหว่างภพมารและภพสวรรค์ เทพจันทราเร่งหลอมรวมวิญญาณและพลังของตนเองเพื่อผนึกลิขิตสวรรค์ในต้นไม้แห่งโชคชะตาไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้แม้จะต้องสละวิญญาณแต่นั่นเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องสรรพสิ่งจากหายนะที่คืบคลานเข้ามา ชายชรารู้เป็นอย่างดีว่าจอมมารจะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชะตาของใครบางคนอย่างแน่นอน และนั่นอาจจะทำให้แผนการที่วางไว้ล่มไม่เป็นชิ้นดีเสียงคำรามของสัตว์อสูรดังกระหึ่มสร้างความวิตกในใจของเขาเป็นอย่างมาก อีกนิดเดียว ข้าขอเวลาอีกนิดเดียว เขาคิดในใจหวังว่ากองทัพสวรรค์ที่อยู่ด้านนอกจะช่วยต้านทานถ่วงเวลาผู้บุกรุกได้อีกสักเพียงนิด“หยุดนะ!” ปีศาจสาวนามว่าหลิวอิงอิงผู้เป็นมือขวาของจอมมารตะโกนก้อง นางร่ายพลังปีศาจใส่เทพจันทราโดยไม่ยั้งมือ หากแต่ถูกสกัดกั้นโดยกองอารักขาเสียก่อน จึงทำให้นางฉุนเฉียวเพราะไม่ได้ดั่งใจเทพจันทราตั้งสติมั่นพลันขอบข่ายอาคมปรากฏขึ้นหลอมรวมกับจิตวิญญาณอันแกร่งกล้าของชายชราผู้นี้โอบล้อมเป็นม่านคลุมต้นไม้แห่งโชคชะตาเอาไว้ในชั่วขณะหลิวอิงอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 2 จุติเป็นมนุษย์

    บทสนทนาระหว่างเทพวายุกับจอมมารและการต่อสู้ของทั้งสองดำเนินไปอย่างดุเดือด สวีต้าเฟิงเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อถ่วงเวลาให้เทพสงครามได้อย่างแนบเนียนจนอีกฝ่ายสามารถหลอมพลังวิญญาณได้เรียบร้อยกลายเป็นหนึ่งเดียวกับดาบคู่กายของตนเองสายตาที่เทพวายุมองสหายเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อร่ำลาทำให้กงจื่อเย่รู้สึกตัวว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นละครฉากใหญ่จังหวะที่หันไปมองตามนั้น ดาบเทพสงครามอันมหึมาก็พุ่งทะลุผ่านร่างของจอมมารในพริบตาการสละวิญญาณของเทพสงครามได้ผลชะงัดเพราะสามารถผนึกเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตดวงแรกไว้ในแก่นวิญญาณของจอมมารได้ ส่งผลให้พลังมารที่รุนแรงถดถอยลงไปหนึ่งส่วนกงจื่อเย่จะไม่รู้ตัวว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาภายในแก่นวิญญาณของตัวเองเพราะถูกพลังเทพสงครามบดบังเอาไว้แต่เฉลียวได้ว่าผู้นำกองทัพสวรรค์ย่อมไม่สละตนเองเพียงเพื่อทำลายพลังมารของเขาส่วนเดียวจอมมารยืนทื่ออยู่ครู่หนึ่ง พิจารณาว่าร่างมารของตนเองมีสิ่งใดผิดแปลกไปหรือไม่“พวกเจ้าทำอะไรข้า” เขาไม่รู้ว่าเหล่าเทพใช้วิธีใดและนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 3 ขัดขวาง

    ภพสวรรค์เซียนผู้เฝ้าหออาวุธโบราณเพิ่งสังเกตได้ว่าดวงเนตรอำพันหายไปจึงคิดรายงานเทียนจวิน แต่กลับถูกสัตว์อสูรเขาแหลมตัวเขื่องขวิดจนร่างแตกสลายไปเสียก่อนสวีต้าเฟิงเห็นจอมมารยิ้มมุมปากได้แต่นึกสงสัยว่าผู้ที่โดนรุมล้อมสังหารมีเหตุอันใดให้รื่นรมย์ใจถึงเพียงนี้ ทั้งยังแววตาท้าทายที่มองมายังเขาไม่วางตาราวกับบรรลุเป้าหมายบางอย่างครั้นจะปลีกตัวออกมาจากที่แห่งนั้นเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจกลับถูกดาบเขี้ยวอสูรเหวี่ยงเข้ามาขวางทางเอาไว้ในพริบตา“จะหนีไปที่ใดกันเล่า” กงจื่อเย่แสยะพลางเรียกดาบประจำกายกลับมา“...” เทพวายุไม่เอ่ยอันใดแต่หันไปสบตากับเทียนจวินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สีหน้ากังวลรู้สึกว่าตนเองกำลังตกหลุมพรางของมารเจ้าเล่ห์ผู้นี้“ไปเถิด” เทียนจวินเอ่ยปากบอกแล้วดันพลังของตัวเองมาต้านทานพลังมารของกงจื่อเย่แทนเทพวายุจอมมารเห็นช่องว่างช่วงเปลี่ยนผันไม่รอช้าเขวี้ยงดาบเขี้ยวอสูรใส่ทั้งคู่โดยไม่แยแสเพื่อสลายพลังที่ตรึงกายมารส่วนล่างของเขาเอาไว้กระนั้น เทพอาวุโสอีกคนหนึ่งเห็นท่าไม่ดีหลบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-18
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 4 ชีวิตใหม่ของสวีลู่ชิง

    แดนมนุษย์เดิมทีเทพดาราจะกลายเป็นดาวตกลงมาเผชิญด่านเคราะห์ทุก ๆ หนึ่งพันปีเพื่อเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตในแดนมนุษย์ นางมีโชคชะตาที่เทพบรรพกาลเลือกสรรให้เป็นผู้สังหารจอมมารที่ถือกำเนิดขึ้นในสามภพตลอดระยะเวลาหลายแสนปีที่ผ่านมา เหล่าเทพเซียนภพสวรรค์ได้รับเลือกจากเทพบรรพกาลมานับไม่ถ้วนเพราะเขาผู้นั้นคือผู้หยั่งรู้โชคชะตาเมื่อจอมมารในแต่ละช่วงเวลาถือกำเนิด หากวิธีที่รับมืออยู่ไม่สามารถต้านทานพลังมารอันชั่วร้ายได้ เมล็ดพันธุ์ต้นไม้แห่งชีวิตจึงเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะผู้ที่สังหารจอมมารตนนั้นต้องสละแก่นวิญญาณของตนเองหลอมรวมอสนีบาตสวรรค์ 19 ครั้ง ผันเปลี่ยนเป็นพลังมหาศาลทำลายจอมมารไปพร้อม ๆ กันเหตุการณ์เหล่านั้นจึงทำให้มีเทพเซียนดับสูญตลอดกาลไปไม่น้อย แต่เพื่อแลกกับความสงบสุขของสามภพแล้ว พวกเขาเหล่านั้นจึงยอมรับในโชคชะตาของตัวเองครั้งนี้สวีลู่ชิงลงมาเกิดเป็นมนุษย์ครั้งที่สองด้วยช่วงเวลาที่ห่างกันจากครั้งแรกเพียงห้าร้อยปี พลังเทพของนางจึงได้รับความเสียหายบางส่วนเด็กทารกดวงตาสีฟ้า เรือนผมขาวแต่กำเนิดราวหิมะปรา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-25
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 5 ความโกลาหล

    โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งนอกเมืองหนานพ่อค้าจากต่างเมืองที่ผ่านมาแวะพักในโรงเตี๊ยมเล่าข่าวคราวที่บังเอิญได้ยินมาให้คนที่อาศัยอยู่ละแวกนั้นฟัง เสียงเล่าลือว่าคนในหมู่บ้านหงเหลียนทางตอนใต้แคว้นชิงตายด้วยอาการประหลาดคนที่เหลือรอดมาได้เล่าวกไปวนมาว่าสิ่งที่เข้าทำร้ายพวกเขาต้องไม่ใช่คน ดูไม่มีรูปร่างแต่แววตาแดงฉานฉายชัด ครั้นจะถามต่อว่าเป็นอย่างไรบ้างกลับไม่ได้อะไรเพิ่มเติม คนเหล่านั้นเหมือนสติหลุดพูดจาไม่รู้เรื่องไปเสียแล้วเจ้าเมืองจึงต้องส่งคนไปเชิญเซียนสำนักต่าง ๆ เข้ามาตรวจสอบข่าวลือที่ว่าผีปีศาจออกอาละวาดทำร้ายชาวเมืองเป็นเรื่องจริงหรือไม่กระนั้น หลายเดือนผ่านไปยังไม่มีใครเห็นเซียนที่เข้าไปในหมู่บ้านหงเหลียนออกมาข้างนอก บรรยากาศรอบหมู่บ้านราวกับมีผีสิง อึมครึม เย็นยะเยือก นานวันเข้าจึงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หมู่บ้านร้างอีกเลย“แค่เล่าให้พวกเจ้าฟังก็ขนหัวลุกแล้ว” หนึ่งในคาราวานพ่อค้าเอ่ยปากพลางทำท่าสั่นกลัว“ไม่ใช่แค่หมู่บ้านหงเหลียนหรอก” ชายคนหนึ่งกระดกแก้วเหล้าอึกใหญ่รำลึกถึงเหตุการณ์เฉียดตายที่พบเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 6 ผจญภัย

    สำนักเซียนดาราสวรรค์“จื่อเถิง มาหาอาจารย์หน่อยเถิด” เสียงของเฉาหมิงเรียกนางด้วยความเอ็นดู ก่อนจะลูบศีรษะของศิษย์ผู้นี้อย่างอ่อนโยน “อาจารย์เจ้าสำนักฝากข้าเอามาให้เจ้า”จื่อเถิงมองดูหยกสีชมพูอ่อน สีหน้างงงวยเพราะไม่รู้ว่าหยกหน้าตาสวยงามคืออะไร“อาจารย์เจ้าสำนักเป็นห่วงเจ้ามากจึงฝากข้านำมาให้” เขาถอนหายใจเพราะรู้ว่าอาจารย์ของตนเองใช้พลังเซียนที่สั่งสมมานานหลายสิบปีหลอมหยกชิ้นนี้ขึ้นมาให้ศิษย์หลานโดยเฉพาะครั้นถามว่าเหตุใดจึงทำเช่นนั้นกลับได้คำตอบมาว่า “นางเดินทางออกนอกสำนักเป็นครั้งแรก ย่อมต้องห่วงเป็นธรรมดา”ทว่า เฉาหมิงกลับสังเกตได้ว่ารอยยิ้มของนางนั้นเต็มไปด้วยความกังวล แต่ไม่อาจถามไถ่สิ่งใดได้อีกเพราะนางคงไม่มีทางบอกอย่างแน่นอน“ขอบคุณเจ้าค่ะ” จื่อเถิงรับปากว่าจะปกป้องทุกคนและกลับมาสำนักดาราสวรรค์ก่อนเทศกาลโคมไฟแล้วรีบวิ่งไปหาศิษย์น้องอิงฮวาที่ยืนรออยู่ด้านหน้าสำนักคล้อยหลังจื่อเถิง เฉาหมิงเอ่ยปากบอกหยางซีอวิ๋นผู้เป็นศิษย์พี่ว่า &ld

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 7 มังกรดำ

    ช่วงเวลานั้นเกิดเสียงหวีดร้องและเสียงปะทะพลังของทั้งสองฝ่ายกระหึ่มดังไปทั่วบริเวณเซียนหนุ่มหันไปมองสหายด้วยสายตากังวล“ไม่เป็นอันใดหรอก เลี่ยงหวง” เซียนสาวบอกศิษย์ร่วมสำนักด้วยท่าทีใจเย็นเพราะมีประสบการณ์เรื่องต่อสู้มามาก “จำที่อาจารย์สอนเจ้าได้หรือไม่”เลี่ยงหวงพยักหน้าแล้วรวบรวมพลังเซียนวิชาหนึ่งของสำนักตนเอง พลันแสงสีขาวก่อตัวพองโตเป็นลูกกลม ๆ ขึ้นทีละนิด เขาขมวดคิ้วกลั้นหายใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ศิษย์พี่ ข้าพร้อมแล้ว”เฉินซือหยางมัวแต่วอกแวกเพื่อกวนประสาทเซียนทั้งสองจึงไม่ทันระวังตัวโดนพลังเซียนขั้นสูงสาดใส่ร่างปีศาจเข้าเต็มเหนี่ยวกระเด็นทะลุบ้านเรือนไปหลายหลังเขายันตัวลุกขึ้นเอียงคอจัดกระดูกที่หักไปหลายท่อนกลับมาดังเดิมแล้วเช็ดเลือดที่มุมปากพลางปัดฝุ่นดินบนเสื้อผ้า แสยะยิ้มที่ไม่ได้เจอผู้ใดมีฤทธิ์เดชรุนแรงเท่าสองคนข้างหน้ามานานมากแล้ว“เฉินซือหยาง เจ้าอย่าลืมว่าพวกเขามิใช่เซียนธรรมดา”มังกรดำเอ่ยปากเตือนเพราะไม่อยากให้สหายเพลี่ยงพล้ำจนเสียการงาน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16

บทล่าสุด

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 61 เสแสร้งเก่งนัก

    หลังเหตุการณ์ลักพาตัวสิ้นสุดลงเรื่องราวของอีนั่วถูกรายงานให้เทียนจวินได้รับรู้ เหล่าเทพเซียนอาวุโสต่างถกเถียงกันหลายชั่วยามด้วยความเคร่งเครียด หาวิธีควบคุมมารน้อยเพราะเกรงว่าเขาจะก่อความวุ่นวายเหมือนที่บิดาเคยทำสวีต้าเฟิงยังคงปกป้องน้องสาวและหลานชายเหมือนอย่างเคย “ข้ารับรองได้ว่าเขาไม่เป็นภัยต่อผู้ใดขอรับ”“ข้ายืนยันว่าอีนั่วเป็นเพียงมารน้อยธรรมดา หาใช่มารร้ายอย่างที่พวกท่านคิด เขาเป็นเพียงบุตรชายของข้า” สวีลู่ชิงเผชิญหน้ากับเทพอาวุโสเวลานี้ความเห็นถูกแบ่งออกเป็นหลายฝ่ายแต่ทุกฝ่ายล้วนแล้วแต่ลงความเห็นว่าอีนั่วไม่ควรเพ่นพ่านอยู่ในแดนสวรรค์ อีกทั้งยังต้องมีกองกำลังคอยจับตามองไม่ให้เขาฉวยโอกาสทีเผลอทำร้ายผู้ใดจนสุดท้ายได้ข้อสรุปว่าให

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 60 คิดถึงข้าบ้าง

    ดินแดนสุญญตาสถานที่ที่อยู่ระหว่างภพมารและภพสวรรค์ ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าที่รกร้างว่างเปล่าจะมีมารที่มีพลังชั่วร้ายแอบซ่อนตัวอยู่นับพันปีขณะที่กงจื่อเย่กำลังต่อสู้กับหลิ่งปินเพื่อแย่งชิงเทพดารากลับมา กองทัพสวรรค์ของเทพสงครามและสวีต้าเฟิงก็ปรากฏตัวขึ้นเข้าร่วมการศึกสงครามในครั้งนี้ในสายตาของเทพเซียนที่อยู่ตรงนั้น พวกเขาต่างมองว่าศัตรูที่เป็นภัยต่อสามภพมากที่สุดคือกงจื่อเย่ อดีตจอมมารที่เพิ่งจะสูญสลายไปไม่นานไม่ว่าจะมองอย่างไร ร่างกายและพลังที่สมบูรณ์เกินกว่าที่ควรคงเป็นเพราะเขาเร่งกลืนกินพวกเดียวกันอย่างแน่นอน ทั้งยังไม่รู้ว่าสติยังคงอยู่ครบถ้วนหรือเลือนหายแล้วใช้สัญชาตญาณนำทางอยู่กันแน่“ช้าก่อน” สวีต้าเฟิงออกคำสั่งห้ามทหารสวรรค์เคลื่อนไหวก่อนดูลาดเลาฉากการต่อสู้

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 59 ลอบทำร้าย

    เมื่อได้ยินเสียงมารน้อยสติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดก็กลับมาสมบูรณ์ แม้จะพยายามส่งกระแสจิตหาอีนั่วสักเท่าใด เขากลับไม่ได้ยินเสียงจากอีกฝ่ายเลย“มันผู้ใดกล้าทำร้ายลูกเมียข้า” พลังมารชั่วร้ายแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ ความโกรธกราดเกรี้ยวยิ่งทำให้พลังที่อยู่รอบตัวเขากลายเป็นยาพิษชั้นดีบ่อนทำลายสัตว์อสูรทีละนิดจอมมารสูบกลืนสิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงหน้าเขาเข้าไปโดยไม่รู้ตัวแทบจะหลงลืมไปชั่วขณะว่าเขาคือผู้ใด พลันลึก ๆ ในใจเหมือนมีสายลมพริ้วไหวพัดผ่านต้นไม้แห่งชีวิตของเขา ดวงตาสีม่วงแดงจึงค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ“เยว่ชิงหรือ” เขาพึมพำสัมผัสความรู้สึกนั้น “เป็นเจ้าจริงหรือ”เขาหลับตาลงปล่อยใจหลงใหลกับสัมผัสอบอุ่นนั้นชั่วขณะ เมื่อพึงพอใจแล้วจึงกลับมาเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรต

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 58 กำจัดภัย

    จอมมารที่เหลือเพียงเงาดำจาง ๆเดินทางร่อนเร่กลับภพมารตัวคนเดียว ระหว่างทางคอยสูบกินพลังชั่วร้ายที่ผุดขึ้นมาทีละนิดเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างมารปีศาจของตนเองหากแต่ครั้งนี้ทำไปเพื่อกลับคืนร่างเดิมให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้ปกป้องครอบครัวเวลานั้นเขาลืมนึกไปเลยว่าตำแหน่งผู้ปกครองภพมารสามารถสั่นคลอนได้ทุกเมื่อ มัวแต่เป็นห่วงกลัวว่าสวีลู่ชิงจะถูกอสนีบาตจนแหลกสลายจึงรีบไปห้ามนางถ้าครั้งนี้กลับมาได้คงต้องวางแผนจัดการไม่ให้มีมารปีศาจตนใดคิดกระด้างกระเดื่องอยากชิงพลังอันกล้าแกร่งของอีนั่วหรือทำร้ายเขาแม้ว่าจะต้องสลายไปอีกครั้งเพราะกฎของสวรรค์ที่มารปีศาจอย่างเขาไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ กงจื่อเย่คิดแล้วว่าแปลงร่างเป็นนกน้อยอยู่กับนางและลูกไม่ได้แย่สักเท่าใดนัก อย่างน้อยก็ได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 57 นางรักเจ้า แต่รักข้ามากกว่า

    เช้าวันหนึ่งในหมู่บ้านดอกท้อนกน้อยสีดำไซ้ขนอยู่ข้าง ๆ สวีลู่ชิงที่นั่งหลับตาฟื้นฟูแก่นวิญญาณของตนเองอยู่เงียบ ๆ ส่วนอีนั่ววิ่งเล่นอยู่กับสมุนจอมมารโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยบรรยากาศภายในหมู่บ้านเล็ก ๆ เต็มไปด้วยความสดชื่นสนุกสนานจนบางทีพวกเขาลืมไปเลยว่าสาเหตุที่ทำให้ทุกคนมาอยู่ร่วมกันในที่แห่งนี้คืออะไรสวีต้าเฟิงเดินเข้ามาทักทายน้องสาวยามเช้าเหมือนอย่างเคย รอยยิ้มบางประดับบนใบหน้านึกเอ็นดูนางราวกับเป็นเด็กน้อย แต่เวลานี้น้องสาวตัวเล็กในวันวานกลับมีบุตรชายจอมซนเหมือนนางไม่มีผิดเขาจึงรับหน้าที่ดูแลทั้งคู่ด้วยความเต็มใจ ถึงอย่างนั้นแล้วดวงตาสีฟ้ากลับจ้องมองนกน้อยตรงหน้าจิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ (มองหน้าข้า มีเรื่องอันใด)“...” เทพวายุ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 56 ยกโทษให้พ่อเถอะ

    สองอาทิตย์ต่อมาสมุนจอมมารทั้งสามล้อมวงก้มมองเจ้าถ่านด้วยความสงสัยว่านกน้อยตัวนี้เป็นมารปีศาจเผ่าพันธุ์ใดกันแน่“ผ่านมานานถึงเพียงนี้ เหตุใดบาดแผลจึงยังไม่หายหรือว่าถูกพลังร้ายกาจของผู้ใดมา” เฉินซือหยางขมวดคิ้วเป็นปมนึกสงสัยเพราะจับตามองอยู่นานแล้ว“พลังเทพอาจจะรักษาไม่ได้เพราะเป็นนกที่มาจากภพมารแต่ถึงอย่างไรพลังของนายน้อยก็ไม่ได้ผลอีก ข้าว่าเจ้าถ่านนี่มีอะไรแปลก ๆ” หลิวอิงอิงวิเคราะห์ตามความรูสึกของตัวเอง มือข้างหนึ่งเอื้อมมาจับปีกที่เป็นแผลจิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ“เฮอะ ดูสิ ข้าว่ามันบ่นเจ้าใหญ่เลย” โจวเหวินหลงพูดบ้าง คนที่มีสติดีที่สุดอย่างเขาจึงนึกเรื่องบางอย่างออกพลันจ้องมองดวงตาของนกน้อยอีกครั้งหนึ่ง&l

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 55 จอมมารยังคงเจ้าเล่ห์

    บ้านหลังเล็กของมารน้อยเมื่อทั้งสองฝ่ายตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไปจึงร่างสัญญาสงบศึกชั่วคราวเพราะต้องการดูลาดเลาสถานการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงบ้านหลังเล็กที่เคยอยู่กันเพียงสองคน เวลานี้มีหลังอื่นผุดขึ้นมาอยู่ใกล้ ๆ กันอีกสามสี่หลังจนแทบจะกลายเป็นหมู่บ้านที่มีทั้งมารและเทพอยู่ร่วมกันอย่างสันติต้นท้อรายรอบกำลังผลิดอกสีชมพูบานสะพรั่งเหมือนภาพวาด อีนั่วจึงตั้งชื่อหมู่บ้านของเขาว่าหมู่บ้านดอกท้อ ในใจคิดอยากอยู่ที่แห่งนี้อย่างสงบตลอดไปพลังของอีนั่วถูกกลบซ่อนเอาไว้ไม่ให้มารปีศาจตนอื่นรู้ รอบเขตบ้านจึงมีม่านศักดิ์สิทธิ์ของเทพวายุห้อมล้อมอยู่ด้วย“เจ้าจะทำเช่นนั้นไม่ได้ พวกข้าอึดอัด” หลิวอิง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 54 คนละครึ่งทาง

    สวีลู่ชิงและพี่ชายรอข่าวคราวจากเสี่ยวไป๋อยู่นอกเขตแดนมารนางเดินวนไปวนมาด้วยความกังวลกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับอีนั่วจนแทบอยากจะฝ่าเข้าไปในภพมารเพื่อตามหาเขาด้วยตัวเอง“นั่งลงก่อนเถิด เจ้าเดินไปเดินมาจนข้าตาลายแล้ว” สวีต้าเฟิงส่ายหน้าพลางบ่นพึมพำ“ข้าเป็นห่วงเขา” นางเอ่ยตามตรง ใจหนึ่งรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกับมารน้อยครั้งแรกแต่อีกใจกลับสัมผัสความรู้สึกคุ้นเคยได้อย่างบอกไม่ถูกช่วงเวลาเพียงเสี้ยวหนึ่ง เสี่ยวไป๋ส่งสัญญาณบางอย่างกลับมาหาผู้เป็นเจ้านายบอกให้รู้ว่ากำลังมาถึง รอยยิ้มบางจึงผุดขึ้นมาด้วยความยินดีพลันเงาดำตะคุ่มปรากฏด้านหลังเขตแดนภพมาร“สวีลู่ชิง ถอยออกมา” เทพวายุดึงร่างน้องสาวให้ออกห่างเพราะกลัวจะมีอันตราย “เจ้าอย่าเพิ่งวู่วาม จงอย่าล

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 53 ฝากดูแลลูก

    หลังจากกงจื่อเย่สูญสิ้นไปทัพมารที่กำลังบุกสวรรค์ครานี้จึงแตกพ่ายเพราะไร้ผู้นำถูกกองทัพสวรรค์ขับไล่กลับภพมารในเวลาไม่นานเหล่าเทพเซียนต่างพากันโห่ร้องยินดีเพราะภัยคุกคามถูกกำจัดแล้ว หากแต่เทพอาวุโสและเทพชั้นสูงบางคนยังคงไม่อาจวางใจได้มากนักแต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็พอจะโล่งใจได้บ้างว่าหลายพันปีต่อจากนี้สามภพคงจะสงบสุขราบรื่น และหากถึงเวลาที่จอมมารฟื้นคืนกลับมา ตอนนั้นพวกเขาคงหาวิธีรับมือได้บ้างแล้วตำหนักเทพดารามีแขกเข้าเยี่ยมไม่ขาดสายเพราะได้ยินเรื่องราวปากต่อปากจึงมาถามไถ่ด้วยตนเอง สวีลู่ชิงจึงบอกพวกเขาแต่เพียงว่า “มารผู้นั้นคงกลับใจกระมัง แต่ข้าไม่รู้หรอกว่าเป็นเพราะอันใด”นางกล่าวเช่นนั้นเพราะไม่รู้จริง ๆ แม้กงจื่อเย่จะจากไปแล้วแต่ความทรงจำที่ขาดหายไปก็ยังไม่กลับคืนมา

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status