แชร์

บทที่ 1482

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนหันหลังกลับไปมองแวบหนึ่ง พลันมิสบายใจขึ้นมา

เมื่อคำนวณตำแหน่งและระยะทางอีกครั้ง ลั่วชิงยวนก็รีบกระซิบข้างหูคนใบ้ว่า “ไปสุสาน”

“เข้าหมู่บ้านจากด้านหลัง”

อาคมลวงตาของหมู่บ้านนั้นยังมิได้ถูกปลดออกไป ก่อนหน้านี้ตั้งไว้เพื่อป้องกันฝูเหมิ่ง จนถึงบัดนี้ก็ยังคงอยู่

คนใบ้พยักหน้าแล้วรีบแบกลั่วชิงยวนเดินอย่างรวดเร็ว พาคนอื่น ๆ รีบรุดไปยังสุสาน

คนสิบกว่าคนที่อวี๋หงพามาต่างหยิบธนูออกมายิงใส่คนของเกาเหมียวเหมี่ยวเพื่อสกัดกั้นนางไว้

มินานหลายคนก็ทยอยวิ่งเข้าไปในหมู่บ้าน

ลั่วชิงยวนถูกวางลงกับพื้น นางมองคนใบ้ด้วยความเป็นห่วง “อาถู่ เจ้ามิเป็นกระไรใช่หรือไม่?”

คนใบ้ส่ายหน้า แสดงว่าเขามิเป็นอะไร

จากนั้นพวกอวี๋หงก็ทยอยมาถึง

หลังจากทุกคนเข้าไปในหมู่บ้านแล้ว ลั่วชิงยวนก็ขยับตำแหน่งอักขระ

“ท่านเจ้าเมือง ท่านให้คนสองคนเฝ้าอยู่ที่นี่ ส่วนคนอื่น ๆ ไปยังลานด้านหน้าก่อนเถิด”

บัดนี้ใกล้พลบค่ำแล้ว หมอกหนาเริ่มก่อตัวในป่า

กอปรกับฤทธิ์ของอาคมลวงตา จึงซ่อนหมู่บ้านทั้งหมดไว้

พวกเขาอยู่ในหมู่บ้านและได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่ภายนอกหมู่บ้าน มีคนมิน้อย แต่ก็เพียงแค่เดินผ่านไป

คนพวกนั้นหาหมู่บ้านมิพบ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1490

    ถนนหนทางประดับประดาด้วยโคมไฟหลากสี สว่างไสวครึกครื้น ลั่วชิงยวนได้กลิ่นหอมประหลาดลอยมาเตะจมูก นางเดินตามหาทั่วทั้งถนนจึงมาพบในตรอกเล็ก ๆ แห่งหนึ่งเพียงแต่โรงสุราในตรอกนั้นกลับมีผู้คนต่อแถวยาวเหยียดลั่วชิงยวนเขย่งเท้าชะโงกมองแถวยาวเหยียดเบื้องหน้า แล้วก็อดมิได้ที่จะถามคนข้างหน้า “สุราที่นี่เลื่องชื่อมากหรือ? เหตุใดจึงมีคนมาซื้อมากมายถึงเพียงนี้”ถึงแม้นางจะได้กลิ่นสุรา แต่ความคึกคักของโรงสุราแห่งนี้กลับทำให้นางประหลาดใจคนเบื้องหน้าหัวเราะแล้วกล่าวว่า “สิ่งที่ขายที่นี่มิใช่สุราธรรมดา แต่เป็นสุราแห่งวันเพ็ญเดือนเจ็ด”“กล่าวกันว่า จอกหนึ่งส่งวิญญาณสหายเก่าเข้าฝัน สองจอกสื่อถึงหล้าวิญญาณ สามจอกสามารถพบพานคนที่คิดถึงได้อีกครั้ง”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “แล้วมันศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นจริงหรือ?”อีกฝ่ายหัวเราะ “ศักดิ์สิทธิ์หรือมิศักดิ์สิทธิ์ คนเราก็อยากจะมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ”“หากมิศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะเป็นเพราะคนที่เจ้าอยากพบมิอยากมาพบเจ้า”ลั่วชิงยวนใจหายวูบความรู้สึกเศร้าโศกพลันถาโถมเข้ามาภาพฟู่เฉินหวนครั้นสิ้นชีพผุดขึ้นในห้วงความคิดนางเจ็บแปลบในอกนางหันไปมอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1489

    หญิงสาวร้องไห้หนักกว่าเดิม แล้วกล่าวว่า “ท่านพี่ ท่านพอจะให้เงินนี้แก่ข้าได้หรือไม่?”“ข้าต้องการมันมากจริง ๆ!”โฉวสือชีขมวดคิ้วแน่น กล่าวเสียงเย็น “อย่าทำเรื่องไร้สาระ”เขาจะแย่งถุงเงินมา แต่ใครเล่าจะรู้ว่าหญิงสาวกลับทรุดตัวลงคุกเข่าพลางกุมถุงเงินไว้แน่นมิยอมปล่อยนางมองเขาด้วยสายตาอ้อนวอน “ข้ามิได้อยากขโมยของ เพียงแต่ข้ามิได้ขโมยสิ่งใดมาสามวันแล้ว หากข้ากลับไปมือเปล่า คืนนี้ก็จะไม่มีอะไรให้กิน”“ข้าอดอาหารมาสามวันแล้ว”“ท่านพี่โปรดเมตตาข้าด้วยเถิด”เมื่อได้ยินดังนั้น โฉวสือชีก็ตกใจ“ว่ากระไรนะ? มีคนขู่เจ้าให้ขโมยของรึ?”หญิงสาวพยักหน้า “ข้ากับสหายถูกโจรหลายคนจับตัวไป พวกมันขู่ข้าให้มาขโมยเงิน หากเจ็ดวันข้าขโมยเงินมิได้ พวกมันจะขายข้าให้หอนางโลม…”หญิงสาวกล่าวพลางร้องไห้หนักกว่าเดิมเมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของโฉวสือชีก็เปลี่ยนไปจากนั้นเอื้อมมือพยุงหญิงสาวลุกขึ้น แล้วถามว่า “เจ้ามีนามว่ากระไร?”น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนลงกว่าเดิมมากหญิงสาวมองเขาผ่านม่านน้ำตา “ข้านามว่าฉีอวี้”โฉวสือชีกล่าวเสียงเย็น “อย่าร้องไห้ พาข้าไปหาพวกมัน ข้าจะช่วยสหายเจ้าเอง”“จริงหรือ?” ฉีอวี้เช็ด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1488

    โฉวสือชีกล่าวจบก็เหาะตัวเบาจากไปหลังจากวิ่งไล่ตามไปสองตรอกแล้ว โฉวสือชีจึงตามหมอผีสวมหน้ากากผู้นั้นทัน เพียงสองสามกระบวนท่าก็สามารถควบคุมอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย แล้วกดร่างอีกฝ่ายติดกำแพง“เงินอยู่ที่ใด?”“บังอาจมาขโมยของเจ้านายข้า ถือว่าซวยแล้ว!”โฉวสือชีกล่าวพลางลงมือล้วงหาถุงเงินทันที“เดี๋ยว ๆ อย่า อย่าคลำมั่ว!”ทว่าในขณะที่กล่าวคำนั้น มือของโฉวสือชีกลับคลำไปถูกหน้าอกของอีกฝ่ายพอดี เขาตกใจรีบชักมือกลับคนผู้นั้นหันหลังให้ สวมชุดหมอผีหลวมโคร่งและสวมหน้ากาก โฉวสือชีจึงมิได้สังเกตว่าแท้จริงแล้วเป็นสตรีโฉวสือชีรีบจับไหล่ผู้นั้นพลิกตัวกลับ คว้าหน้ากากเปิดออกในทันทีหน้ากากหลุดร่วงพร้อมปิ่นปักผม ใบหน้างามหมดจดปรากฏแก่สายตาโฉวสือชีผมดำสยายลงโฉวสือชีมองด้วยสีหน้าตะลึงงันหญิงสาวเห็นสายตาเขาแล้วก็มิอาจกลั้นยิ้ม “ท่านพี่ เหตุใดท่านถึงจับข้า?”“เอาถุงเงินมา!” โฉวสือชีได้สติแล้วยื่นมือไปตรงหน้านางหญิงสาวกลับมองเขาอย่างมิเข้าใจ “ถุงเงินกระไร? ข้าไม่มีเงิน”“ท่านพี่คงจำคนผิดแล้วกระมัง?”เสียงหวานใสของหญิงสาวเรียกเขาว่าท่านพี่คำแล้วคำเล่า ทำเอาโฉวสือชีเริ่มสับสน“เจ้ามิได้ขโม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1487

    “หากเจ้ามิรีบร้อนจากไปก็จงพักอยู่ที่นี่ต่ออีกสองสามวันเถิด”“อย่างไรเสีย เจ้ากลับไปตอนนี้ เกาเหมียวเหมี่ยวผู้นั้นย่อมต้องหาเรื่องเจ้าอีก พักอยู่ที่นี่อีกสักสองสามวันเถิด”“ข้าจะคัดเลือกผู้คุ้มกันร้อยกว่าคนให้เจ้าเป็นการส่วนตัว ต่อไปนี้พวกเขาจะคอยติดตามเจ้า ข้าจะดูว่าใครจะกล้าข่มเหงเจ้าอีก!”ลั่วชิงยวนมิได้เอ่ยคำใด นางเคยหาเรื่องพวกราชวงศ์มาแล้วด้วยซ้ำแต่เมื่อดูจากท่าทีของอวี๋หงแล้ว เขาก็มิได้เกรงกลัวที่จะเป็นศัตรูกับราชวงศ์เช่นกันท้ายที่สุดแล้วเขาก็มีทรัพย์สมบัติอันน่าทึ่งมากมายถึงเพียงนี้แต่กลับถ่อมตนกว่าที่คิดไว้มากนักหลังจากออกไป ลั่วชิงยวนก็นำสมุนไพรเหล่านั้นทั้งหมดมาใช้รักษาและบำรุงร่างกายของผู้อาวุโสทั้งสองหลังจากได้รับเถ้ากระดูกของอวี๋ตันเฟิ่ง ผู้อาวุโสทั้งสองก็เศร้าโศกอยู่หลายวัน แต่เมื่อนำอวี๋ตันเฟิ่งไปฝังแล้ว ปมในใจก็คลายลงอย่างสมบูรณ์ท้ายที่สุดอวี๋ตันเฟิ่งก็ได้กลับคืนสู่อ้อมอกของครอบครัว และความแค้นของนางก็ได้รับการชำระแล้วหลังจากกินยาติดต่อกันหลายวัน จิตใจของท่านพ่ออวี๋ก็ฟื้นฟูขึ้นมากยามว่างก็จะออกไปอาบแดด ลั่วชิงยวนก็จะคอยอยู่เคียงข้างเป็นครั้งคราว“เด็

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1486

    ในเวลานั้นลั่วชิงยวนยังมิได้รู้สึกอะไร จนกระทั่งกลับไปแล้ว อวี๋หงจึงพานางไปยังที่ซึ่งเรียกว่าคลังสมบัตินางจึงได้ประจักษ์ถึงความมั่งคั่งของตระกูลอวี๋อย่างแท้จริงเมื่อมองไปยังหีบทองคำอร่ามเรืองเต็มพื้น ลั่วชิงยวนมิอยากจะเชื่อ “ท่านพี่ เงินทองของท่านมากมายถึงเพียงนี้นับว่ามั่งคั่งกว่าบางแคว้นเสียอีก!”นางทราบว่าเจ้าเมืองตลาดมืดร่ำรวย แต่คาดมิถึงว่าจะร่ำรวยถึงเพียงนี้อีกทั้งเครื่องเรือนต่าง ๆ ในคฤหาสน์ของเจ้าเมือง ถึงจะวิจิตรงดงามแต่ก็มิได้หรูหราฟุ่มเฟือยคาดมิถึงว่าสิ่งของที่หรูหราอย่างแท้จริงล้วนอยู่ในคลังสมบัติอวี๋หงยิ้ม แล้วกางมือออกพลางกล่าวว่า “หากเจ้าชอบ ก็เอาไปได้เลยตามสบาย”“อย่างไรเสียสิ่งเหล่านี้ก็มิได้ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ตายไปก็เอาไปด้วยมิได้”“ข้าไม่มีทายาท หากเก็บไว้ที่นี่ก็เป็นประโยชน์แก่คนนอกเปล่า ๆ”คำพูดของอวี๋หงแฝงไว้ด้วยความนัยบางอย่างแต่ลั่วชิงยวนกลับมิเข้าใจ เพียงแต่ถามว่า “ท่านพี่มีเงินทองมากมายถึงเพียงนี้ มิคิดจะขยายกิจการของตลาดมืดให้กว้างขวางกว่านี้หรือเจ้าคะ?”อวี๋หงชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถามว่า “เจ้าหมายถึงแคว้นเทียนเชวียหรือ?”อวี๋หงค่อย ๆ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1485

    ลั่วชิงยวนจึงกล่าวคำอำลาลุงเฉิง จากนั้นจึงเดินทางลงเขาไปกับอวี๋หงเพื่อเดินทางกลับระหว่างทาง ลั่วชิงยวนกล่าวกับอวี๋หงว่า “สมบัติทุกสิ่งในเมืองแห่งภูตผีล้วนเป็นของตระกูลอวี๋ของท่าน ท่านเป็นพี่ชายของอวี๋ตันเฟิ่ง ย่อมสมควรที่จะเข้าควบคุมเมืองแห่งภูตผี”“หากท่าน…”ลั่วชิงยวนยังมิทันกล่าวจบ อวี๋หงก็ขัดจังหวะนาง “มิต้องแล้ว”“ข้าทราบเรื่องราวทั้งหมดจากลุงเฉิงแล้ว เมืองแห่งภูตผีเป็นสิ่งที่น้องสาวข้ามอบให้ท่าน”“ท่านแก้แค้นให้นางสำเร็จ ก็ถือว่าเป็นผู้มีพระคุณต่อตระกูลอวี๋ของพวกข้า”“ท่านเป็นเจ้าเมืองแห่งภูตผีแล้ว อย่าได้ปฏิเสธเลย”อวี๋หงรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก ทั้งยังเสียใจที่เคยเข้าใจลั่วชิงยวนผิดไปโชคดีที่ลั่วชิงยวนมิได้ถือสา มิเช่นนั้นคืนนั้นตระกูลของพวกเขาคงต้องประสบเคราะห์ร้าย เกรงว่าจะมิเหลือผู้รอดชีวิตเมื่อคิดถึงตรงนี้ อวี๋หงก็หันมายิ้มให้ลั่วชิงยวน “ข้าเห็นว่าแม่นางลั่วมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ทั้งยังขับไล่ภูตผีปีศาจและมีความสามารถทางการแพทย์ เมืองแห่งภูตผีมีกับดักและอันตรายมากมาย ท่านก็ยังสามารถบุกเบิกหนทางได้ ช่างน่าเลื่อมใสยิ่งนัก”“มิทราบว่าจะมีวาสนาได้สาบานเป็นพี่น้องกับแม่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status