แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: ฉินอันอัน
อากาศบนผิวน้ำสดชื่นกว่าอากาศในน้ำมาก

แม่นมฮวาคิดจะฆ่านางให้จมน้ำตายจริง น่าขันสิ้นดี

นางต้องรับผิดชอบเรื่องต่าง ๆ ภายในบ้านมาตั้งแต่ตอนที่เริ่มหัดกินข้าวเองได้

เหล่าชาวนาต้องจ่ายค่าเช่าทำนาให้กับเจ้าของที่ดิน หลี่ซิ่วเหนียงและคนขายเนื้อสวี่ก็ใช้สารพัดวิธีกดขี่ขูดรีดเงินจากนาง

ขึ้นเขาเก็บเห็ด ตัดฟืน เก็บเมล็ดชา ลงน้ำจับปลา จับเต่า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นงานถนัดของนาง

สวี่อินอินเงยหน้าโผล่พ้นน้ำ รู้สึกได้ว่าแรงดิ้นรนของแม่นมฮวาค่อย ๆ น้อยลง จนกระทั่งไม่มีแรงเหลืออยู่

สายลมอ่อน ๆ พัดมาจากริมฝั่ง นางอ้าปากจาม กำลังจะดำลงไปลากแม่นมฮวาขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพเหตุการณ์ ‘วีรกรรมช่วยชีวิต’ ของนาง

แต่ใครจะรู้ว่าขณะที่ยกมือขึ้น ข้อศอกของนางกลับไปกระแทกเข้ากับบางอย่าง

สัมผัสนี้ทำให้นางรู้สึกเย็นวาบไปถึงกระดูกสันหลัง สมองพลันว่างเปล่า จากนั้นก็ตระหนักได้ในทันทีว่า มีคนอื่นอยู่ในน้ำด้วย!

หรือว่าแม่นมฮวาจะยังเตรียมคนไว้ในน้ำอีก?

หากเป็นเช่นนั้น...

ในชั่วพริบตา เลือดในร่างกายของนางก็เดือดพล่านขึ้น แต่สมองกลับสงบลงอย่างประหลาด นางค่อย ๆ ปล่อยแม่นมฮวา และพุ่งตัวไปด้านหลังอย่างรวดเร็วโดยอาศัยสัญชาตญาณ คว้าคนที่อยู่ในน้ำเอาไว้ได้

แต่คนคนนั้นกลับไม่ยอมแพ้ บิดไหล่อย่างแรง แล้วเปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหัน จากนั้นพลิกตัวขึ้นมา กดไหล่ของสวี่อินอินเอาไว้

สวี่อินอินไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่าย ๆ ? นางแค่นหัวเราะในใจ ปิ่นทองในแขนเสื้อได้ร่วงลงมาที่ฝ่ามือ ฉวยโอกาสนี้แทงขึ้นไปอย่างแรง

แต่ดูเหมือนคนคนนั้นจะคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว มืออีกข้างคว้าข้อมือของสวี่อินอินไว้ ทั้งสองคนเห็นหน้ากันอย่างชัดเจน

มงกุฎหยกขาว ดวงตาดอกท้อ อาภรณ์ยาวสีทองอ่อนบนร่างกายทอประกายระยิบระยับภายใต้แสงแดด ขับให้ทั้งตัวเขาดูราวกับเทพเซียนที่จุติลงมาจากสรวงสวรรค์

เซียวอวิ๋นถิง จิ้งอ๋อง!

นางรู้จักเขา

ชาติที่แล้ว หลังจากที่ขาของนางถูกตีจนหัก นางก็ถูกโยนเข้าไปในหอนางโลม

แต่นางก็ยังไม่ยอมรับชะตากรรม ในครั้งแรกที่รับแขก นางได้ฆ่าแขกของตัวเอง ทำให้แม่เล้าโกรธมากจนอยากจะฆ่านาง แต่เซียวอวิ๋นถิงกลับยื่นมือเข้ามาช่วยนาง และถามนางว่าอยากจะติดตามเขาไปหรือไม่

ในตอนนั้น นางสิ้นเนื้อประดาตัว มีชีวิตอยู่ไปก็แทบจะไม่ต่างอะไรจากตาย แล้วจะมีอะไรที่ไม่เต็มใจอีก?

ตั้งแต่นั้นมา นางก็ได้เข้าไปอยู่ในจวนจิ้งอ๋อง กลายเป็นหน่วยกล้าตายของจวนจิ้งอ๋อง

ว่ากันตามตรง ที่นางฆ่าคนได้คล่องแคล่วขนาดนี้ ก็ต้องขอบคุณการฝึกฝนของคนตรงหน้า

เพียงแต่ว่าการพบกันในชาตินี้มันเร็วเกินไป และยังด้วยวิธีแบบนี้ นางจำเป็นต้องใช้เวลาสักพักเพื่อควบคุมอารมณ์ ปล่อยมือ โยนปิ่นทองลงไปในน้ำ แล้วยิ้มให้เซียวอวิ๋นถิงเล็กน้อย “ขออภัย ข้าคิดว่าท่านเป็นพวกเดียวกับยายแก่คนนี้ ตอนนี้เห็นท่านแบบนี้ ก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ เป็นแค่ความเข้าใจผิดเท่านั้น พวกเราต่างคนต่างไปเถอะ”

เซียวอวิ๋นถิงมองนางตั้งแต่ลงมือฆ่าคนอย่างรวดเร็วและเฉียบขาด จนกระทั่งตอนที่ตกใจเมื่อพบว่ามีคนอื่นอยู่ในน้ำ จากนั้นก็กลับมาสงบเยือกเย็นได้อย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาฉายแววประหลาดใจเล็กน้อย

ช่างเป็นต้นกล้าที่ดีเสียจริง ในชนบทกลับมีบุคคลที่โหดเหี้ยมเช่นนี้อยู่ หาได้ยากจริง ๆ

“กฎหมายของต้าโจว ฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต” เซียวอวิ๋นถิงมองนาง มุมปากยกยิ้มเยาะ “ข้าเห็นกับตา”

สวี่อินอินดำลงไปในน้ำ พลันยกยิ้มมุมปากเยาะเย้ยเขาเช่นกัน “อย่างนั้นหรือ? ท่านเห็นแล้ว เช่นนั้นท่านก็แจ้งทางการมาจับข้าสิ?”

ระหว่างที่นางพูด ทันใดนั้นก็มีเสียงเกือกม้าดังมาแต่ไกล เซียวอวิ๋นถิงสีหน้าเคร่งเครียด รีบปล่อยสวี่อินอินทันที จากนั้นดำลงไปในน้ำ

เสียงเกือกม้าดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนมาถึงบนถนนอย่างรวดเร็ว

ม้าตัวหนึ่งหยุดลงที่ริมทะเลสาบอย่างกะทันหัน บนหลังม้ามีชายคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำเหลือบมองผิวน้ำ

แส้ในมือของเขาชี้ไปที่สวี่อินอิน “นี่ นางหนู เจ้าเห็นคุณชายที่สวมชุดสีทองอ่อน ๆ อยู่แถวนี้บ้างหรือไม่?”

สีหน้าหยอกล้อของเซียวอวิ๋นถิงหายไป มือที่อยู่ในน้ำคว้าข้อเท้าของเด็กสาวเอาไว้ หากนางกล้าบอกที่อยู่ของเขา เขาก็จะฆ่านางทันที

เจตนาสังหารปรากฏขึ้น ความเป็นและความตายห่างกันเพียงเส้นบาง ๆ เท่านั้น

สวี่อินอินไม่ลังเลเลยสักนิด กลับส่ายหน้าอย่างงุนงง “ไม่มีนะ! ข้าอยู่ที่นี่ตั้งแต่เช้าแล้ว ไม่เห็นคุณชายคนไหนเลย”

ขบวนม้าหยุดอยู่ครู่หนึ่ง ชายผู้เป็นหัวหน้ามองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า แต่งกายธรรมดา ไม่ต่างอะไรกับเด็กสาวขี้อายและขี้กลัวคนอื่น ๆ ในชนบท

เขาตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เด็กสาวแบบนี้คงไม่กล้าที่จะโกหก จึงเดินทางต่อไป

เซียวอวิ๋นถิงโผล่ขึ้นมาจากน้ำ มองเด็กสาวในทะเลสาบด้วยสีหน้าซับซ้อน “เจ้าเป็นใคร?”

กล้าหาญยิ่งนัก การตอบสนองก็รวดเร็วจนน่าประหลาดใจ

หมู่บ้านเล็ก ๆ มีคนแบบนี้อยู่ได้อย่างไร?

“รบกวนด้วย ขอทางหน่อย!” สวี่อินอินกระโดดลงไปในทะเลสาบ พยายามลากแม่นมฮวาขึ้นมา

ใกล้ถึงฝั่ง นางหยุดแล้วมองเซียวอวิ๋นถิง “ท่านบังเอิญมาเห็นข้าฆ่าคน ส่วนข้าช่วยท่านปิดบังร่องรอย พวกเราหายกัน”

“ตอนนี้ ท่านไปได้แล้ว ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวมีคนมา ท่านจะอธิบายได้ยาก”

เซียวอวิ๋นถิงจ้องมองนางอย่างลึกซึ้ง ก่อนจะจากไป เขาก็ถามนางด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เจ้าชื่ออะไร?”

สวี่อินอินเงียบไปครู่หนึ่ง

นางนึกถึงเรื่องราวมากมายในชาติที่แล้ว คนตรงหน้าเป็นเหมือนดวงจันทร์บนฟ้า บุปผากลางน้ำ ไม่ใช่คนที่นางจะเอื้อมถึง

ต่อไปคงไม่ได้พบเจอกันอีก นางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “แค่คนแปลกหน้าที่บังเอิญพบกัน ไม่มีชื่ออะไรหรอก”

เซียวอวิ๋นถิงก็ไม่ได้ตอแย เดินจากไปทันที

พอเขาจากไป คนของจวนหย่งผิงโหวและคนในหมู่บ้านบางคนก็ตามมา

สวี่อินอินลากแม่นมฮวาที่ตัวซีดเพราะแช่น้ำนานขึ้นมาไว้ที่ริมฝั่งแล้ว

เมื่อเห็นคนมา นางก็ร้องขอความช่วยเหลือด้วยความยากลำบากพลางลากแม่นมฮวาขึ้นฝั่ง

ทุกคนต่างกรูกันเข้ามาช่วยเหลือ

หลังจากลากแม่นมฮวาขึ้นมาบนฝั่ง สาวใช้ที่แต่งตัวงดงามคนหนึ่งก็รีบเอ่ยปากถามสวี่อินอิน “คุณหนูใหญ่ ท่านฆ่าแม่นมฮวา!”

นางใช้ประโยคบอกเล่า

สวี่อินอินแช่อยู่ในน้ำนานแล้ว ตอนนี้พอได้ยินนางถามเช่นนี้ ก็จามติด ๆ กันหลายครั้ง

มองดูใบหน้าสาวใช้ที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง นางจึงยกยิ้มมุมปาก “แจ้งทางการสิ”

...

คนของจวนหย่งผิงโหวต่างมองหน้ากัน คุณหนูใหญ่ผู้นี้เหตุใดถึงไม่เป็นไปตามที่คิดไว้?

มีคนบอกว่านางฆ่าคน นางกลับบอกให้ไปแจ้งทางการ

จวนหย่งผิงโหวเลี้ยงดูลูกสาวที่ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ มาสิบกว่าปี ลูกแท้ ๆ ยังไม่ทันรับกลับมาก็มีเรื่องฆ่าคนตาย ต้องแจ้งทางการ

หากเรื่องนี้แพร่ไปถึงเมืองหลวง จวนหย่งผิงโหวจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

บ่าวไพร่อย่างพวกเขาก็คงไม่พ้นโทษ

สาวใช้คนนั้นเห็นได้ชัดว่ารู้เรื่องนี้เช่นกัน จึงเบิกตากว้างด้วยความโกรธ “คุณหนูใหญ่ ถึงแม้ท่านจะเป็นนาย แต่ก็ไม่สามารถฆ่าคนอย่างไร้เหตุผลได้นะเจ้าคะ!”

สวี่อินอินมองนางด้วยความสงสัย “ข้ายังไม่ทันพูดอะไร เจ้ากลับมากล่าวหาว่าข้าฆ่าคนก่อน ข้าจึงบอกว่าให้ไปแจ้งทางการ”

“ตอนนี้เจ้าก็ไม่ให้ข้าไปแจ้งทางการ แล้วยังยืนยันว่าข้าฆ่าคนอีก”

“เจ้าน่าเกรงขามกว่าฮ่องเต้เสียอีก! เหตุใดยังยอมลดตัวมาเป็นบ่าวในจวนโหวอีกเล่า? เจ้าควรจะไปเป็นขุนนางตัดสินคดีความสิ!”

สาวใช้โกรธจนพูดไม่ออก “แม่นมฮวาออกมาพร้อมกับท่าน พอถูกพบอีกทีก็ตายแล้ว...”

“ใช่” สวี่อินอินกวาดตามองบ่าวไพร่ของจวนหย่งผิงโหว “ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านสามารถเป็นพยานให้ข้าได้ ตอนนั้นมีสาวใช้คนหนึ่งวิ่งมาหาข้า บอกว่าแม่นมฮวาตามหาข้า”

“พอข้ามาถึง แม่นมฮวาก็ผลักข้าจากด้านหลัง ทำให้ข้าตกลงไปในทะเลสาบ”

“ต่อมาตัวนางเองก็เสียหลักตกลงไปในน้ำ ข้าจะช่วยนาง แต่นางกลับดิ้นรนขัดขืนสุดชีวิต”

สาวใช้ที่แต่งตัวงดงามเริ่มกระวนกระวายใจ

สวี่อินอินมองนางอย่างใจเย็น “ดังนั้นข้าจึงอยากแจ้งทางการเพื่อสืบหาความจริงให้ชัดเจน ข้ากับนางไม่มีความแค้นเคืองกัน เหตุใดนางถึงต้องมาฆ่าข้า? นางเป็นแค่บ่าวไพร่ ไปเอาความกล้ามาจากที่ไหนกัน?”

แม่นมฮวาต้องการฆ่าสวี่อินอิน!

คนของจวนหย่งผิงโหวมีสีหน้าแตกต่างกันไป

สวี่อินอินมองไปที่หัวหน้าหมู่บ้านที่เงียบมาตลอด “หัวหน้าหมู่บ้าน รบกวนท่านไปแจ้งทางการเถิด ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่ไม่อยากให้ข้ากลับจวนโหว”

“บ่าวไพร่พวกนี้ ข้าไม่ไว้ใจเลยสักคน”

เอาสิ ไม่อยากให้นางกลับไปใช่หรือไม่?

นางจะกลับไปอย่างยิ่งใหญ่ให้ดู!
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
นางเอกแกร่งดี ตาต่อตาฟันต่อฟัน ชอบๆ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 721

    สุนัขทุกตัวกรูออกมาพร้อมกัน ภาพนั้นช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนักแม้แต่เฝิงไฉ่เวยยังหน้าถอดสี ถอยกรูดไปหลายก้าวจนเกือบล้ม ดีที่มีซิ่วอี๋อยู่ข้างกายคอยประคองนางไว้ทัน ซิ่วอี๋เอ่ยถามเสียงต่ำ “คุณหนู พวกเราจะทำอย่างไรดี?”หัวใจของเฝิงไฉ่เวยเต้นระส่ำ นางเองก็ตกใจจนงุนงง แต่เมื่อเห็นสุนัขมากมายเช่นนี้ก็อดขนลุกวาบไม่ได้เถียนเป่าซื่อมันบ้าจริง ๆ!เขาไฉนจึงบ้าคลั่งได้ถึงเพียงนี้! เลี้ยงสุนัขก็เลี้ยงไปเถิด แต่นี่เขากลับเลี้ยงไว้มากมายเพียงนี้!ยิ่งไปกว่านั้น พอแข่งแพ้ ยังไม่สนว่ามีผู้คนอยู่มากเพียงใด กลับปล่อยสุนัขทั้งหมดออกมาในทันที!คนบ้าผู้นี้ ทั้งที่ผู้คนมากมายอยู่ตรงนี้ ยังมีคุณชายจากตระกูลใหญ่ เขาไม่กลัวหรือว่าหากมีผู้ใดถูกกัดตายแล้วเรื่องจะลุกลามใหญ่โต?!เซียวจิ่งจาวทนไม่ไหวอีกต่อไป คว้ามือเฝิงไฉ่เวยแน่น “เจ้ามันสมควรตาย!”ว่าจบก็สะบัดนางออก แล้วตะโกนบอกเถียนเป่าซื่อเสียงกร้าว “เถียนเป่าซื่อ สั่งสุนัขของเจ้าให้กลับเข้าไปเดี๋ยวนี้!”อย่างไรเสียเขาก็เป็นจวิ้นอ๋อง แม้เขาออกมาแบบปิดบังฐานะ แต่ก็ยังมีองครักษ์ติดตามมาด้วยนับสิบกว่าคนยามนี้องครักษ์เหล่านั้นก็ได้แสดงฝีมือ กรูกันขึ้นหน้าไป

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 720

    ชีเจิ้นรู้สึกสบายอกสบายใจ จนแทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ดี!สมแล้วที่เป็นบุตรสาวของเขาเขารู้อยู่แล้วว่าชีหยวนไม่มีวันปล่อยให้ศัตรูได้อยู่สุขเถียนเป่าซื่อเดือดดาลจนแทบคลั่ง เงื้อไม้ในมือจะฟาดใส่ชีหยวนอย่างแรง “ข้าจะฆ่าเจ้า!”สีหน้าของชีหยวนยังคงเรียบนิ่ง ปลายเท้าแค่เขี่ยเบา ๆ ก้อนหินก้อนหนึ่งก็พุ่งตรงไปยังเถียนเป่าซื่อ ตรงเข้ากระแทกศีรษะเขาเต็มแรง เขาส่งเสียงร้องโดยหวนล้มลงไปนอนกองกับพื้น กระแทกอย่างแรงจนกลิ้งไปหนึ่งตลบฝีมือของชีหยวนรวดเร็ว อีกทั้งเตะหินจากด้านหลังสุนัข จึงแทบไม่มีผู้ใดเห็นว่าก้อนหินนั้นพุ่งออกมาอย่างไร เห็นเพียงเถียนเป่าซื่อที่ร้องขู่จะฆ่าคน ทว่าท้ายที่สุดกลับล้มกระแทกพื้นเองจังหวะนั้น ในที่สุดสุนัขลายจุดก็ปล่อยแม่ทัพ ก่อนหันไปมองเถียนเป่าซื่อที่ล้มกองอยู่กับพื้น แล้วพุ่งตรงเข้าใส่เขาทันทีทุกคนต่างตกตะลึงงันไป ก่อนจะพากันร้องอุทานขึ้นพร้อมกันบรรดาเพื่อนเสเพลของเถียนเป่าซื่อต่างพากันหน้าถอดสี ภาพเมื่อครู่ที่สุนัขตัวนั้นกัดแม่ทัพยังชัดเจนในใจ พวกเขาล้วนรู้ดีถึงความร้ายกาจของมันสวรรค์ หากมันกัดเถียนเป่าซื่อสักครั้ง อาจจะ อาจจะเจ็บหนักถึงขั้นเสียชีวิตได้เล

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 719

    หลังจากล้มกระแทกพื้น สุนัขสองตัวต่างส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดแต่แทบจะในทันที แม่ทัพก็ลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งเถียนเป่าซื่อขมวดคิ้ว “แม่ทัพ! กัดมันให้ตาย! กัดมันให้ตาย!”แม่ทัพยันขาหน้า แผ่นหลังโก่งดั่งเสือดาวที่เตรียมตะปบเหยื่อทว่าสุนัขลายจุดกลับไม่รีรอเลยแม้แต่น้อย ครั้นลุกขึ้นจากพื้น ก็หอนหนึ่งเสียงแล้วพุ่งตรงเข้าใส่แม่ทัพทันที อ้าปากงับเข้าที่หางของแม่ทัพอย่างแม่นยำแม่ทัพร้องโหยหวน ดิ้นพล่านเห่าไม่หยุด พยายามสะบัดตัวและหมุนกลับไปงับสุนัขลายจุดแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะสุนัขลายจุดเลือกมุมได้ฉลาดยิ่ง แม้แม่ทัพจะโก่งเอวแล้วก็ยังไม่อาจงับถึงมัน มีเพียงขาหลังที่เตะสะเปะสะปะไม่หยุดแต่ถึงขาหลังของมันจะเตะใส่หัวและหน้าของสุนัขลายจุดไม่หยุด สุนัขลายจุดก็ยังกัดและกระชากมันอย่างแรง ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยสุนัขลายจุดกัดกัดกระชากไม่หยุด พองับได้เนื้อได้ก็ไม่ยอมปล่อย ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดมันก็กัดหางของแม่ทัพจนขาดสะบั้นแม่ทัพส่งเสียงโหยหวนประหลาดออกมาทันใดนั้น สุนัขลายจุดก็ฉวยจังหวะที่แม่ทัพพยายามจะหนี พุ่งงับเข้าที่ก้นมันอีกครั้งภาพตรงหน้าช่างนองเลือดนัก เลือดเนื้อพลั

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 718

    แต่พวกเขาไม่อาจมองว่านี่เป็นเรื่องเล็กได้จริง ๆหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาเล่า?ช่างน่ากังวลเสียจริงเฮ้อครั้นเห็นพวกคนทางฝั่งเถียนเป่าซื่อหัวเราะครึกครื้นอย่างสะใจ ในใจพวกเขาก็ยิ่งรู้สึกขมขื่นหนักเข้าไปอีกเถียนเป่าซื่อกลับอารมณ์เบิกบาน เขาหันมองส่งสัญญาณให้บ่าวไพร่ บรรดาบ่าวไพร่ก็เริ่มผลักฝูงชนออกไป จากนั้นก็เปิดที่ให้กว้าง พอให้สุนัขทั้งสองตัวได้ประลองกันชีหยวนเลิกคิ้วเล็กน้อย “เดี๋ยวก่อน”เถียนเป่าซื่อที่กำลังลูบหัวแม่ทัพไร้พ่ายของตนอยู่ก็ขมวดคิ้วทันที “อะไร หรือจะหนีเอาตอนนี้?”“คุณชายหกเถียนคิดมากไปแล้ว” ชีหยวนมองไปรอบ ๆ ฝูงชนที่เบียดแน่น “คนเยอะขนาดนี้ หากเกิดเหตุผิดพลาดอะไรขึ้นมา จะไม่เป็นอันตรายต่อคนอื่นหรือ?”เถียนเป่าซื่อยิ้มเยาะทันที “เจ้ากังวลเกินไปแล้ว สุนัขที่เจ้าพามา ไม่พอให้แม่ทัพของข้ากัดด้วยซ้ำ อย่ามัวรีรอหาข้ออ้าง รีบประลองเถิด!”ชีหยวนสีหน้าเรียบนิ่ง หันไปมองเซี่ยงเจี้ยหนึ่งครั้ง “ท่านดูแลน้องหญิงหรงให้ดี”เซี่ยงเจี่ยตอบรับไปตามสัญชาตญาณ พอรู้สึกตัวก็คิดว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลชีหยวนหมายความว่าอย่างไรกัน?เวลานี้สุนัขของชีหยวนได้เข้ามายังลานประลองแล้ว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 717

    ฝ่าเท้าของเถียนเป่าซื่อยังคงรู้สึกเจ็บอยู่ พอได้ยินคำพูดของชีหยวน สีหน้าก็มืดมนลงทันทีเขาจ้องมองสุนัขของชีหยวน แล้วก็ผิวปากหนึ่งทีราวกับได้ยินคำสั่งพิเศษ แม่ทัพที่กำลังง่วนอยู่กับการกินไก่ในกรงเมื่อครู่ก็เห่ากรรโชกขึ้นทันที ก่อนจะกระโจนเกาะกรงแล้วเห่าลั่นไม่หยุดผู้ที่อยู่ใกล้ ถึงกับได้กลิ่นคาวเลือดรุนแรงจากตัวมันโชยออกมามีหญิงสาวที่จิตไม่แข็งอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องขึ้นมา พอมองสุนัขที่น่ากลัวตัวนั้นก็แทบจะเป็นลมล้มพับไปแม้แต่คนที่ใจกล้าขึ้นมาหน่อย ในตอนนี้ใบหน้าก็ยังซีดขาวสุนัขแบบนี้...พวกคุณชายเสเพลที่สนิทกับเถียนเป่าซื่อยังอดถามไม่ได้ “คุณชายหก พวกเราจะ จะดูการประลองกันตรงนี้เลยหรือ?”ปลอดภัยหรือเปล่าเนี่ย?หากเจ้าตูบสองตัวนี้สู้กันเอาเป็นเอาตาย ถึงตอนนั้นถ้าห้ามไม่ได้ แล้วมากัดโดนคนธรรมดาเข้าจะทำอย่างไร?เถียนเป่าซื่อกลับยิ่งลำพองใจสุนัขของเขา เขาย่อมรู้ดี แม่ทัพใช้เวลาไม่นานก็คงฆ่าสุนัขขี้เรื้อนของชีหยวนได้อีกอย่าง แม่ทัพฟังคำสั่งของเขา จะมีอันใดเป็นภัยแฝงได้เล่า?แน่นอนว่าต้องให้พวกมันสู้กันต่อหน้าผู้ชมถึงจะสนุกการดูประลองสุนัข หากไม่เห็นเลือดแล้วจะไปสนุกอะไร?

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 716

    นางคิดจะเอาสุนัขชนิดใดมาสู้กับฝูงสุนัขสุดหวงแหนของเถียนเป่าซื่อกันนะ?สีหน้าของซิ่วอี๋แสดงความลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด นางพูดเสียงเบา “คุณหนู คุณหนูใหญ่ชีไม่ได้ไปหาสุนัขมา”......การกระทำของเฝิงไฉ่เวยหยุดลงทันที ก่อนจะหัวเราะเยาะ “ไม่รู้จักเจียมตัวเสียเลย”ยังคิดว่าเรื่องทุกอย่างอยู่ในกำมือของตนงั้นหรือ?นางหัวเราะอีกครั้ง “ไปเถิด ไปดูเรื่องสนุกกัน”ความจริงแล้ว พอเฝิงไฉ่เวยมาถึง เรือนพักนอกเมืองของจวนเฉิงเอินกงก็มีผู้คนมารวมตัวกันอยู่ไม่น้อยแล้วเมื่อวานเถียนเป่าซื่อพูดต่อหน้าผู้คนทั้งโรงเตี๊ยม ว่าใครอยากดูการประลองก็สามารถมาได้ ดังนั้นผู้ที่ได้ยินข่าวต่างก็ชวนสหายมาดูกันเต็มไปหมดเรื่องสนุก ๆ แบบนี้ ใครจะไม่อยากดูเล่า?พอเห็นคนมามากมายเช่นนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าเฝิงไฉ่เวยก็ยิ่งเด่นชัดขึ้นดีมาก คนยิ่งเยอะยิ่งดี นางอยากดูเรื่องสนุกครั้งนี้ใจแทบขาดแล้วตัวเอกของละครเรื่องนี้มาถึงแล้วหนึ่งคน เถียนเป่าซื่อจัดลานฝึกซ้อมด้านหลังให้เป็นลานประลองสุนัขเมื่อก่อนตอนที่เขาเล่นสนุกกับพวกเพื่อนหัวไม้ก็มักเล่นกันที่นี่ สำหรับเขาและสุนัขของเขา ที่นี่เป็นที่ที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีตอนนี้เขาขว้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status