หญิงสาวยืนขยุกขยิกอยู่ไม่สุขตลอดเวลา ใจดวงน้อยเต้นระรัวขณะที่สายตาก็จับจ้องตัวเลขบริเวณเหนือแผงควบคุมภายในลิฟต์อย่างไม่วางตา
ความตื่นเต้นสุมอยู่ในอกยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามตัวเลขที่เปลี่ยนไปตามลำดับชั้นที่สูงขึ้น
ตื่นเต้น ๆ เสียดายไม่มีโทรศัพท์ ไม่งั้นเธอจะแอบอัดวิดีโอเก็บเอาไว้ดูเป็นหลักฐาน ว่าครั้งหนึ่งเธอมีบุญถึงขนาดได้ขึ้นห้องของหมอณัฐพล นายแพทย์หนุ่มคนดังของโรงพยาบาล
ติ้ง!
ฟ้าใสสะดุ้งเล็กน้อย มีสีหน้าตื่น ๆ ตอนที่ประตูลิฟต์เปิดออกกว้างเมื่อถึงชั้นที่ต้องการ ก่อนที่พนักงานสาวสวยจะผายมือส่งสัญญาณให้เธอเดินออกไปจากลิฟต์ก่อน
“เชิญค่ะคุณฟ้าใส”
แล้วตัวพนักงานสาวสวยจึงค่อยเดินตามออกมาติด ๆ ก่อนที่เจ้าหล่อนจะเดินแซงขึ้นมานำทางให้อีกครั้ง
“ห้องคุณณัฐพลจะอยู่ทางด้านริมสุดทางปีกขวาค่ะ”
ขาเรียวค่อย ๆ ก้าวไปตามทางเดินอย่างเชื่องช้า ดวงตากลมกวาดมองป้ายตัวเลขไล่ไปทีละห้องแล้วหัวใจก็ยิ่งเต้นแรงมากขึ้น เมื่อพบว่าจุดหมายปลายทางอยู่ข้างหน้าไม่ไกล
และแล้วทั้งสองก็มาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องหมายเลข 3014 ซึ่งเป็นห้องพักที่อยู่ในสุดของทางเดินในที่สุด
ชั้นที่เธอกำลังยืนอยู่นี้มีห้องพักในโครงการเพียงแค่ 4 ห้องเท่านั้น แถมเธอยังได้ยินแว่ว ๆ จากพนักงานที่มาส่งเธอว่าห้องของรุ่นพี่เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่และแพงที่สุดของโครงการนี้อีกด้วย
“ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่มาส่ง”
“ยินดีค่ะ ขากลับคุณฟ้าใสสามารถกดเลือกชั้น G ได้เลยนะคะ ไม่ต้องสแกนบัตรแล้วค่ะ”
ฟ้าใสคลี่ยิ้มหวานพลางก้มหัวให้พนักงานเล็กน้อย รอจนเจ้าหล่อนเดินเลี้ยวหายเข้าไปในลิฟต์ เธอจึงดึงสายตากลับมาหยุดมองป้ายตัวเลขของห้องพักอีกครั้งอย่างชั่งใจ
เธอตื่นเต้นจนมือไม้เย็นเฉียบไปหมด เกิดมาจนจะเข้าวัยทองอยู่แล้ว เธอก็ยังไม่เคยก้าวเท้าเข้าไปในห้องนอนของผู้ชายคนไหนมาก่อน ขนาดเพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียน เธอก็ยังรอแค่หน้าห้องเลย
แล้วนี่! ครั้งแรกของเธอจะประเดิมที่ห้องของผู้ชายในฝันเลยเหรอ ฮือ ตื่นเต้น! ตื่นเต้นโว้ย
ฟ้าใสกู่ร้องในใจ ลนลานยกมือขึ้นป้องปากแล้วพ่นลมออกมาเบา ๆ เพื่อเช็คความสะอาดสดชื่น ก่อนจะตรวจดูความเรียบร้อยส่วนอื่น ๆ อีกครั้ง
“ฮ้า~ ฮ้า~ โอเคลมหายใจใช้ได้ เสื้อผ้าหน้าผมโอเคแล้ว เติมน้ำหอมแล้ว ฮึบ ๆ เอาวะ! คนเรามันก็ต้องมีครั้งแรกด้วยกันทั้งนั้นแหละ”
เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ พลางทำท่าฮึกเหิมเรียกความมั่นใจให้ตัวเองหลังยืนทำใจมาสักพักใหญ่ สายตามุ่งมั่นมองบานประตูตรงหน้าก่อนจะกลั้นใจเคาะมันในที่สุด
ก้อกก้อกก้อก
เธอหลับตาปี๋ รอฟังเสียงเปิดประตูด้วยใจลุ้นระทึกทว่าทุกอย่างกลับเงียบกริบ! ไม่มีสัญญาณใด ๆ ตอบกลับมา
ฟ้าใสขมวดคิ้วเข้าหากันพลางเหลือบตาไปมองป้ายตัวเลขของห้องพักอีกครั้ง
เธอก็มาถูกห้องแล้วนี่นา หรือว่าเธอจะเคาะเบาไปจนรุ่นพี่ไม่ได้ยินเสียง
คิดดังนั้นเธอจึงออกแรงเคาะประตูดูอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังขึ้นกว่าเก่า
ก้อกก้อกก้อก
ก็ยังคงไร้เสียงตอบรับอีกตามเคย ฟ้าใสทำหน้ามึนงง ก่อนจะแนบใบหูเข้ากับบานประตู ตั้งใจฟังเสียงความเคลื่อนไหวด้านใน แต่ว่าบานประตูนั้นก็หนาเกินไปจนเธอไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
“หรือว่าจะอาบน้ำอยู่!”
จบประโยคมือเล็กก็เคาะประตูห้องให้ดังขึ้นไปอีก เร่งเร้าให้อีกฝ่ายมาเปิดประตูไว ๆ ด้วยหวังว่าเธออาจจะโชคดีได้เห็นรุ่นพี่ในเวอร์ชันมีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบเอวสอบอย่างในซีรี่ส์ก็เป็นได้
ก้อกก้อกก้อก
“พี่นัทคะ ฟ้าใสเองค่าาาา”
เสียงใสร้องตะโกนจนดังก้องไปทั่วโถงทางเดิน เพียงแค่นึกภาพร่างสูงกำลังอยู่ในสภาพล่อแหลมแบบนั้น ใจดวงน้อยก็เต้นตึกตักเสียงดังแข่งกับเสียงเคาะประตูแล้ว
อาย อยากเห็น ๆ ๆ!
แกร่ก!
ในจังหวะที่เธอกำลังจะเคาะเป็นรอบที่ 5 เสียงปลดล็อกจากด้านในก็ดังขึ้น ก่อนที่บานประตูจะเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของผู้เป็นเจ้าของห้อง
“โอ๊ะ!”
ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นพร้อมกับแก้มนวลที่แดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย เพราะสภาพของเจ้าของห้องดูไม่ค่อยเรียบร้อยนัก แถมยังงัวเงียคล้ายกับคนเพิ่งตื่นนอนมาหมาด ๆ
ทรงผมที่ปกติเคยเซตไว้อย่างดี บัดนี้ยุ่งเหยิงชี้โด่ชี้เด่อย่างน่าเอ็นดู เสื้อเชิ้ตถูกปลดกระดุมออกถึงสองเม็ดจนสามารถมองเห็นแผงอกขาว ๆ ที่แสนน่าสัมผัส
ลุคสบาย ๆ ในตอนนี้ ส่งผลให้รุ่นพี่ที่มักจะมีภาพลักษณ์ ‘คุณชายเนี้ยบ’ ที่เรียบร้อยทุกกระเบียดนิ้ว กลายมาเป็นผู้ชายหล่อร้ายและเซ็กซี่อย่างร้ายกาจ
ถึงจะไม่ใช่ในแบบล่อแหลมที่ฝัน แต่สภาพนี้ก็ดูดีไม่เลวแฮะฮี่ฮี่
ฟ้าใสกัดปากเบา ๆ มองไล่ไปตามรอยแยกของสาบเสื้อเชิ้ตพลางนึกจินตนาการถึงความขาวสะอาดที่อยู่ภายในร่มผ้านั้นไปด้วย ดวงตากลมโตเปล่งประกายวิบวับจนเผลอฉายแววร้อนแรงออกมาอย่างลืมตัว
“จะจ้องพี่อีกนานไหม ฮึ!”
เสียงแหบแห้งเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับสายตาขบขัน ทำให้ฟ้าใสสะดุ้งหลุดออกจากห้วงความคิดแล้วรีบดึงสายตากลับคืน
“อ่า ฟ้าใสมารับโทรศัพท์คืนค่ะ”
ก่อนจะหัวเราะแห้งเบา ๆ แก้เก้อ รู้สึกอับอายเล็กน้อยที่ถูกจับได้ว่าเผลอจ้องแผงอกขาว ๆ นั่นนานเกินไป
แต่แหม....เธอก็แค่มองไหม ยังไม่ได้จับซะหน่อย ทำเป็นหวงตัวไปได้!
“อืม เข้ามาสิ”
นัทเบี่ยงตัวหลบให้หมอสาวเดินเข้ามาด้านในห้องก่อนจะดึงประตูให้ปิด มองหญิงสาวที่หันซ้ายหันขวามองสำรวจไปรอบ ๆ ห้องด้วยสีหน้าตื่นเต้นแล้วนึกขำในใจ
ห้องของเขามันดูแปลกไปจากห้องพักทั่ว ๆ ไปหรือยังไง?
“รับรองค่ะว่ามันจะไม่หวาดเสียวแบบเจ้าพวกนั้นหรอก”ฟ้าใสยืนยันเสียงหวานพลางกระชับมือที่เกาะกุมกันให้แนบแน่นขึ้น เข้าใจถึงความหวาดวิตกของคนข้างกายที่สีหน้าออกอาการอย่างชัดเจนว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเจ้าเครื่องเล่นพวกนี้อีกแล้วนัทก้าวเดินไปตามแรงฉุดของภรรยาอย่างว่าง่าย แม้ใจแกร่งจะยังสั่นไหวและหวาดหวั่นว่าจะถูกพาตัวไปทรมาน แต่พอได้เห็นรอยยิ้มหวานหยดของคนอารมณ์ดีที่มีความมุ่งมั่นเขาก็ใจอ่อนแล้วยอมใจเธอโดยไม่มีข้อแม้เดินลัดเลาะตามทางเดินไม่นานภรรยาก็หยุดฝีเท้าลงก่อนหันมาคลี่ยิ้ม นัทกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วขมวดคิ้วงุนงง เมื่อพบว่าเธอพามาต่อแถวเพื่อใช้บริการเจ้าจักรยานน้ำลายการ์ตูนหลากสีสันที่ทะเลสาบซึ่งตั้งอยู่บริเวณโซนหน้าของสวนสนุกแม้แสงแดด จะยังร้อนอยู่พอสมควรทว่ายังดีที่มีสายลมเย็นฉ่ำพัดผ่านนำเอาไอน้ำให้ลอยขึ้นมากระทบผิวกายบ้างเป็นระยะ ๆ บรรยากาศจึงไม่แย่นักกับการปั่นจักรยานน้ำในช่วงบ่ายแก่ ๆ ของวัน“ครั้งแรกที่ฟ้าใสได้มาปั่นจักรยานน้ำที่นี่ ก็คือตอนวันเกิดครบอายุเก้าขวบแหละ ตอนนั้นชอบมาก ๆ เลย ถึงขนาดอธิษฐานตอนเป่าเค้กเลยนะคะว่าขอให้พ่อกับแม่พาฟ้าใสมาอีกทุกปี แต่สุดท้ายมันก็เป็
กรี๊ดดดดเสียงกรี๊ดดังระงมไปทั่วบริเวณจนนัทนิ่วหน้า ยกนิ้วขึ้นมาอุดสองหูเพื่อปิดกั้นเสียงแหลม ๆ ของผู้คนที่กำลังถูกเครื่องเล่นเหวี่ยงสะบัดไปมาดวงตาคมกริบมองตามเครื่องเล่นตรงหน้าแล้วลอบกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่ มันที่มีลักษณะคล้ายเรือลำใหญ่ ทว่าเจ้าลำนี้กลับแล่นอยู่กลางอากาศแทนที่เป็นผืนน้ำ และมีผู้โดยสารเป็นหนุ่มสาววัยรุ่นร่วมยี่สิบชีวิตที่กำลังกรีดร้องขอชีวิตกันดังลั่น“อ่า ฟะ...ฟ้าใสครับ พี่ว่าเราไปเล่นอันอื่นที่มัน เอ่อ ดูปลอดภัยกว่านี้ไหมครับ”นัทสะกิดหัวไหล่มนของภรรยาที่ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าบนรถเพื่อให้เข้ากับสถานที่แล้วคัดค้านเสียงอ่อนเสียงหวาน หวังจะเอาตัวเองให้รอดจากการถูกเหวี่ยงไปมาซ้ำ ๆ บนไอ้เครื่องนั้น แต่คนตรงหน้าก็ยังตั้งมั่นที่จะเล่นมันให้ได้“ลองอันนี้แหละค่ะ ดูจากแถวแล้วหนูว่ามันต้องสนุกแน่ ๆ เลย”“สนุกหรือสยองกันแน่วะ”นัทบ่นพึมพำแผ่วเบา ก่อนจะรีบฉีกยิ้มกว้างแล้วส่ายหน้าว่าไม่มีอะไร เมื่อภรรยาตวัดสายตามามองด้วยความสงสัย อย่าหาว่าเขาป้อดเลยนะ แต่ภาพของผู้โดยสารเซตก่อนหน้าที่ถลาลงมายืนเกาะต้นไม้แล้วอาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตายยังคงติดตาเขาอยู่เลยมือใหญ่ยกขึ้นปาดเ
คนมือไวรีบดันบราเซียร์สีขาวสะอาดตาขึ้นไปกองอยู่ใต้คางแล้วอ้าปากลงไปตะโบมดูดดึงยอดถันอย่างหนักหน่วง“อา พะ...พอ พอเลยค่ะ อื้อออ”ฟ้าใสร้องห้ามปรามเสียงขาดกระท่อนกระแท่น พยายามรวบรวมสติที่กำลังกระเจิดกระเจิงแล้วผลักใบหน้าคมคายออกจากสองเต้าอย่างแรง ใบหน้านวลแดงก่ำ สองมือสาละวนกับการดึงเสื้อผ้าขึ้นมาปิดบังเนื้อตัวด้วยความเขินอาย หากเป็นแสงสลัวแบบเมื่อคืนเธอคงปล่อยผ่าน แต่ว่าตอนนี้มันสว่างโร่ด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาหลายกิโลจากการเร่งผลิตลูกน้อยคนที่สอง ส่งผลให้ร่างกายของเธอดูอวบอิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก ซ้ำยังเต็มไปด้วยรอยแตกลายจนดูคล้ายแผนที่โลกเข้าไปทุกที“ฮืม ปิดทำไมละครับ”นัทเอ่ยถามเสียงนุ่มพลางดึงมือเล็กมาเกาะกุมแล้วยึดไว้แน่น คนส่ายหน้าไม่ยอมตอบแล้วรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เปิดช่องให้เขาก้มลงไปหอมแก้มนุ่มได้อย่างสบายใจ“ไม่ว่าหนูจะเป็นยังไง พี่ก็รักหนูเหมือนเดิมนะ”ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วใจดวงน้อยที่กำลังเต้นแรงระรัวทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นข้างใบหู สัมผัสได้ถึงความจริงใจที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงแต่ก็แสร้งทำเป็นแง่งอนเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย“ไม่ต้องมายกยอปอปั้นเลยค่ะ ห
แสงแดดสาดส่องเข้ามาตามรอยแยกของผ้าม่านสีทึบซึ่งถูกเปิดทิ้งไว้ ตกกระทบลงบนใบหน้าหวานเข้าพอดิบพอดี ปลุกให้ฟ้าใสรู้สึกตัวตื่นขึ้นในในช่วงใกล้เที่ยงของวัน“อื้ออ”ความเมื่อยขบตรงเข้าโจมตีทันทีที่เธอลืมตาขึ้นมาได้ เธอค่อย ๆ ประคองร่างขึ้นมานั่งที่ปลายเตียงพลางชะโงกหน้าไปมองเปลนอนของลูกน้อยซึ่งอยู่ในห้องถัดไป พลันคิ้วเรียวก็ขมวดมุ่นเข้าหากันแน่นเมื่อพบว่ามันว่างเปล่า“หายไปไหนทั้งพ่อทั้งลูกเนี้ย”ฟ้าใสพึมพำบ่นด้วยความไม่เข้าใจ ถึงแม้สามีจะตื่นก่อนเป็นปกติในทุกวัน ทว่าครั้งนี้มันแปลกไปตรงที่เขาไม่คิดแม้แต่จะปลุกเธอ มิหนำซ้ำยังหายตัวไปพร้อมกันทั้งพ่อและลูกสาวตัวน้อยวัยขวบเศษทั้ง ๆ ที่วันนี้เป็นวันหยุดมือเล็กเอื้อมไปหยิบชุดคลุมที่ชายหนุ่มวางเตรียมไว้ให้บนปลายเตียงมาคลุมร่างเปลือยเปล่าแล้วมุ่งหน้าเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำเพื่อชำระล้างคราบแห้งกรังที่สามีฝากรักไว้ให้เมื่อคืนเท้าเล็กเปลือยเปล่าก้าวเข้ามาในห้องแต่งตัวก่อนหยุดชะงักลงที่หน้าตู้เสื้อผ้า ดวงตาเบิกกว้างฉายแววประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อพบชุดเดรสสีครีมสุดละมุนจากแบรนด์ดังถูกแขวนไว้พร้อมกระดาษโน้ตใบเล็ก ชุดพิเศษ สำหรับคนพิเศษ ในวันพิเศษ
ใจดวงน้อยอ่อนยวบลงแทบจะในทันทีที่ได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยออดอ้อนเว้าวอน แล้วไหนจะฝ่ามือที่กอบกุมแล้วเคล้นคลึงสองเต้าอย่างหนักหน่วงอีก “พี่นัท มะ...ไม่เอา อื้ออ”ฟ้าใสสะดุ้งโหยงเมื่อปลายนิ้วร้ายสะกิดยอดถันผ่านเนื้อผ้าระรัว ร้องปรามได้ไม่กี่คำก็อ่อนระทวยสิ้นฤทธิ์ ปล่อยให้คนหื่นช้อนตัวขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาวแล้วพาตัวกลับมายังเตียงนุ่มในที่สุดทันทีที่แผ่นหลังแนบไปกับเตียงนุ่ม ชุดนอนตัวบางก็ถูกคนใจร้อนดึงทึ้งจนขาดวิ่นหลุดติดมือก่อนจะปลิวหายไปอยู่มุมใดมุมหนึ่งของห้องอย่างน่าสงสารปากร้อนพรมจูบไปตามเนินเนื้ออวบอิ่มที่เพิ่มขยายขึ้นตามน้ำหนักตัวของผู้เป็นแม่ แล้วย้ายมาตะโบมดูดดึงยอดถันอย่างมูมมามจนเกิดเสียงลามกพร้อม ๆ กับเนื้ออ่อนที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเถือก“พี่นัท บะ...เบาหน่อยค่ะ อ๊ะ จะ...เจ็บ”ฟ้าใสครางกระเส่าพลางบิดเร่าร่างกายไปมา สะดุ้งเฮือก ๆ ยามฟันคมขบกัด เกิดเป็นความเจ็บแปลบระคนเสียวซ่านที่แสนรัญจวนใจแตกต่างจากเวลาที่ลูกน้อยดูดดึงอย่างสิ้นเชิงเธอแอ่นกายเข้าหาสัมผัสวาบหวามพร้อมกับสอดมือเข้าใต้เรือนผมสีดำของสามีแล้วออกแรงกดให้ใบหน้าคมคายแนบไปกับเต้าอวบมากขึ้น ฟันคมขบกัดไปตามเนื้อนุ่ม
“อุแง แอะ แอ้!~”เสียงร้องไห้จ้าดังลั่นห้อง ทำเอาฟ้าใสที่เพิ่งผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลียเมื่อสิบนาทีก่อน ถึงกับสะดุ้งเฮือกสุดตัวด้วยความตกใจฟ้าใสลนลานหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่อย่างลวก ๆ ก่อนพุ่งตัวไปยังห้องนอนเล็กที่ถูกสร้างประตูเชื่อมแล้วเปิดทิ้งไว้เพื่อความสะดวกแก่การดูแลเด็กตัวน้อย ขาเรียวชะงักแล้วหยุดยื่นอยู่ตรงกรอบประตู ทอดมองสามีที่ยืนตระกองกอดลูกสาวตัวน้อยวัยขวบเศษไว้ในอ้อมแขนแล้วเห่กล่อมอยู่ข้างเปลนอน ในขณะที่เนื้อตัวมีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอวสอบอย่างหมิ่นเหม่แล้วคลี่ยิ้มหวานออกมา“ชู่ววว ไม่เอาไม่ร้องน้า เอเอ๊~”“แอะ แอ้ มามาา”“จะหามาม๊าเหรอครับ มาม๊ายังหลับอยู่เลยครับ อยู่กับปะป๊าก่อนน้า”“แอะแอ้!”“หื้มม หนูเพิ่งจะขวบเดียวนะ ขี้นเสียงใส่ปะป๊าแล้วเหรอ”“มา หม่ำ!”นัทส่ายหน้ายิ้ม ๆ มองปากเล็กที่อ้า ๆ หุบ ๆ รอท่าอย่างน่ารักน่าชังแล้วรีบหันไปหยิบขวดนมซึ่งเตรียมไว้ตั้งแต่เข้ามาเจอลูกสาววัยขวบเศษกำลังร้องไห้จ้ามายื่นให้ ส่งผลให้เสียงร้องงอแงเงียบลงทันควัน“ไม่รู้ไปได้นิสัยดื้อรั้นแล้วก็ชอบเถียงแบบนี้มาจากใครกันนะ หื้ม? ไอ้ตัวแสบ”นัทพึมพำบ่น ทอดมองเด็กโมโหหิวที่ตั้งหน้าต