ณลิน หรือริน หญิงสาววัย 25 ปี ที่เกิดอุบัติเหตุณ์ทางรถยนต์ และได้รับโอกาสให้ได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ในชาตินี้เธอจึงตั้งใจปฏิญาณตนว่าจะรักคนให้ถูกเสียที!
View Moreแสงไฟนีออนสว่างจ้าสะท้อนผิวยางมะตอยที่เปียกชื้นจากฝนพรำเมื่อครู่ รถยนต์สปอร์ตคันหรูของ ณลิน หรือ ริน ขับเคลื่อนไปบนถนนยามค่ำคืนด้วยความเร็วที่สม่ำเสมอ หัวใจของเธอพองโตด้วยความหวังและความเหนื่อยล้าจากการถกเถียงกับคุณพ่อเรื่องแผนการผลักดันบริษัทส่งออกเสื้อผ้าของ คิมหันต์ สามีของเธอ ให้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ณลินทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อชายที่เธอรัก เธอเชื่อมั่นในตัวเขามาตลอด และคิดว่าการที่เขามีฐานะที่มั่นคงขึ้นจะทำให้ชีวิตคู่ของพวกเขาสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม
ลมหายใจถอนออกมาอย่างเชื่องช้า ดวงตาคู่สวยทอดมองออกไปนอกกระจก ความคิดถึงปอร์เช่ อดีตคู่หมั้นที่ไม่ได้เจอกันมานานผุดขึ้นมาในห้วงคำนึง หากแต่เธอสะบัดมันทิ้งไป เธอตัดสินใจเลือกคิมหันต์แล้ว และเธอก็พร้อมจะเดินหน้าไปกับเขาอย่างเต็มที่ ทันใดนั้นเอง แสงไฟขนาดใหญ่ก็สาดเข้าม่านตาของเธอจากด้านข้าง เสียงแตรรถบรรทุกที่ดังลั่นราวกับฟ้าผ่ากรีดแทรกความเงียบงันยามค่ำคืน ร่างกายของณลินแข็งทื่อไปชั่วขณะ เธอไม่มีเวลาแม้แต่จะเหยียบเบรก หรือหักหลบ แรงกระแทกมหาศาลถาโถมเข้าใส่รถของเธออย่างจัง เสียงเหล็กฉีกขาดดังสนั่น ตัวรถบิดเบี้ยวผิดรูป แรงเหวี่ยงส่งให้ร่างของเธอไปกระแทกกับคอนโซลหน้ารถอย่างรุนแรง ความเจ็บปวดแล่นแปลบไปทั่วร่าง เลือดอุ่นๆ ไหลซึมออกมาจากหน้าผาก ชโลมดวงตาของเธอให้พร่าเลือน ภาพทุกอย่างรอบกายหมุนคว้าง สลับกับความมืดมิดที่เข้าปกคลุม หูของเธอได้ยินเสียงไซเรนหวีดหวิวแว่วมาแต่ไกล สติที่เคยชัดเจนกำลังเลือนหายไปช้าๆ เพียงไม่นาน เสียงไซเรนก็ใกล้เข้ามามากขึ้น รถพยาบาล คันสีขาวจอดเทียบข้างซากรถของเธออย่างรวดเร็ว ประตูท้ายเปิดออก เจ้าหน้าที่กู้ภัยและพยาบาลกรูกันเข้ามาช่วย เธอมองเห็นใบหน้าของพยาบาลคนหนึ่งที่ก้มลงมามองเธอ ดวงตาของพยาบาลฉายแววเคร่งเครียดและกังวลอย่างเห็นได้ชัด "คนไข้คะ ได้ยินไหมคะ? คุณณลิน!" เสียงพยาบาลพยายามเรียกสติเธอ แต่ณลินไม่สามารถตอบโต้ได้ เธอรู้สึกราวกับร่างกายกำลังลอยละลิ่วอยู่ในความว่างเปล่า ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือใบหน้าของพยาบาลที่กำลังสวมเครื่องช่วยหายใจให้เธอ ก่อนที่ความมืดมิดจะกลืนกินทุกสิ่ง ร่างของณลินถูกเคลื่อนย้ายขึ้นเปลสนามและนำส่งขึ้นรถพยาบาลอย่างเร่งด่วน ภายในรถพยาบาล พยาบาลประจำรถที่มีใบหน้าตึงเครียดเพราะอาการที่น่าเป็นห่วงของณลิน ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือของณลินที่ตกอยู่ข้างๆ ขึ้นมาเพื่อติดต่อญาติ "เบอร์แรกเลยนะคะ" เสียงพยาบาลสั่งการเพื่อนร่วมงานพลางกดโทรออกไปที่เบอร์ของ คิมหันต์ ซึ่งบันทึกไว้ในชื่อ "สามี" เสียงรอสายดังขึ้นถี่ๆ ไม่มีใครรับสาย พยาบาลพยายามโทรอีกครั้ง ครั้งแล้วครั้งเล่า จนในที่สุด... "ฮัลโหล... มีอะไร?" เสียงปลายสายดังขึ้น เป็นเสียงทุ้มต่ำของคิมหันต์ แต่เต็มไปด้วยความเย็นชาและไร้อารมณ์ ราวกับว่าการโทรศัพท์จากเบอร์ภรรยาในยามวิกาลเป็นเรื่องน่ารำคาญ พยาบาลถอนหายใจ พยายามรวบรวมสติ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง "นี่จากรถพยาบาลนะคะ คุณณลินประสบอุบัติเหตุรถชน อาการสาหัสมากค่ะ ตอนนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาลด่วนเลยค่ะ" เงียบ... ปลายสายเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ณลินที่แม้จะอยู่ในสภาพสะลึมสะลือ สติลอยเลื่อน แต่หูของเธอยังคงได้ยินเสียงปลายสายอย่างชัดเจน ความหวังริบหรี่สุดท้ายที่เธอจะได้รับกำลังใจจากสามี ทำให้เธอพยายามรวบรวมสติทั้งหมดเพื่อรอฟังคำตอบ แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงหวานใส แต่แฝงไปด้วยความแสร้งทำเป็นไอเบาๆ แทรกเข้ามาในสายนั้น "แค่กๆ... ถ้ามีเรื่องสำคัญไปก่อนได้นะคะพิมอยู่คนเดียวได้ค่ะ พี่คิม... แค่กๆ" เสียงของ พิม น้องสาวบุญธรรมของเธอเอง ณลินจำได้ดี เสียงที่แกล้งทำเป็นอ่อนแอ แกล้งทำเป็นป่วย เพื่อเรียกร้องความสนใจจากคิมหันต์ เสียงที่เธอคุ้นเคยดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา หัวใจของณลินบีบรัดอย่างเจ็บปวด เธอรู้ดีว่าพิมกำลังเล่นบทอะไรอยู่ "ไม่มีอะไรสำคัญหรอก" เสียงของคิมหันต์ตอบกลับมาอย่างไม่ลังเล ไม่มีแม้แต่ความกังวลในน้ำเสียง ราวกับว่าชีวิตของภรรยาที่กำลังจะหมดลมหายใจตรงหน้าไม่ใช่เรื่องที่ควรใส่ใจแม้แต่น้อย คลิก! เสียงตัดสายดังสนั่นในโสตประสาทของณลิน มันไม่ใช่แค่เสียงตัดสายโทรศัพท์ แต่มันคือเสียงที่ตัดขาดทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเคยเชื่อมั่น เสียงที่ทำลายความรัก ความทุ่มเท และความหวังที่เธอมีต่อคิมหันต์จนหมดสิ้น ความเจ็บปวดทางกายไม่ได้เทียบเท่าความเจ็บปวดในใจที่แล่นเข้าจู่โจม ณลินรู้สึกราวกับถูกฉีกเป็นชิ้นๆ จากความเฉยชาของสามี และความร้ายกาจของน้องสาวบุญธรรมที่เธอรัก ความรู้สึกผิดหวัง ความโกรธแค้น และความเสียใจถาโถมเข้ามาพร้อมกัน ในเสี้ยววินาทีสุดท้ายที่สติกำลังจะดับไป ณลินตั้งจิตอธิษฐานอย่างแรงกล้า เสียงในใจของเธอดังกึกก้อง ราวกับจะทะลุผ่านความมืดมิดที่รายล้อม "ถ้าชาติหน้ามีจริง... ฉันจะไม่แต่งงานกับผู้ชายเฮงซวยอย่างนายอีกเด็ดขาดคิมหันต์! และจะไม่ทุ่มเทความรักทั้งหมดให้คนอย่างนายอีกแล้ว!" ดวงตาของณลินค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ พร้อมกับที่ลมหายใจสุดท้ายก็ถูกพ่นออกมา ร่างกายของเธออ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว หน้าจอเครื่องวัดชีพจรข้างเตียงบนรถพยาบาลปรากฏเป็นเส้นตรงยาวนิ่งสนิท... ชีพจรของเธอได้ดับลงแล้ว ในขณะเดียวกันนั้นเอง เสียงโทรศัพท์มือถือของณลินที่อยู่ในมือของพยาบาลก็ดังขึ้นอีกครั้ง แสงไฟจากหน้าจอแสดงเบอร์ที่ไม่คุ้นเคยปรากฏขึ้น... เป็นเบอร์ของใครบางคนกำลังโทรเข้ามาข่าวการจับกุม คิมหันต์ และเครือข่ายมาเฟียที่นำโดย เฮียเกา แพร่สะพัดไปทั่วทั้งวงการธุรกิจและสังคมออนไลน์ราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ ทุกหน้าหนังสือพิมพ์และทุกสำนักข่าวต่างพาดหัวข่าวใหญ่ถึงจุดจบของชายผู้บ้าคลั่งที่พยายามทำร้าย ณลินและ ปอร์เช่ ณลินและปอร์เช่ที่ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ในบ้านของพวกเขามองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด ทั้งความโล่งอก ความดีใจ และความเศร้าในสิ่งที่เกิดขึ้น"ในที่สุด...เขาก็ได้รับผลกรรมในสิ่งที่เขาทำลงไปแล้วนะคะ" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือปอร์เช่กอดเธอไว้แน่น "ใช่ครับ...ริน...แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันจบลงแบบนี้เลย"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ ณลินมองไปที่ปอร์เช่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย "คุณรู้สึกสงสารเขาเหรอคะ?""ผมไม่ได้สงสารเขาหรอก...ผมแค่รู้สึกเสียใจ...เสียใจที่คนคนหนึ่ง...ต้องจมอยู่กับความแค้นและความอิจฉาริษยาจนชีวิตของเขาต้องพังทลายลงไปแบบนี้" ปอร์เช่พูดพร้อมกับมองไปที่ณลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยน "ริน...ผมไม่อยากให้เราเป็นเหมือนเขา...เรามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันนะครั
ควันไฟสีดำลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งโกดังร้างที่ตอนนี้กลายเป็นสนามรบไปแล้ว เสียงปืนและเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพังและร่างของลูกน้องที่นอนจมกองเลือด ปอร์เช่ ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น มือของเขากำปืนไว้แน่น ราวกับจะส่งความแค้นทั้งหมดไปที่ คิมหันต์ และ เฮียเกา"ปอร์เช่! แกยังไม่ตายงั้นเหรอ!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ผมไม่ได้ตายหรอกครับ...คุณคิมหันต์...ผมแค่แกล้งทำเป็นตาย...เพื่อที่จะได้ล่อให้แกออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้คิมหันต์ถึงกับอึ้งไป เขาไม่เชื่อในสิ่งที่ปอร์เช่พูดเลยแม้แต่น้อย"โกหก! แกกำลังโกหกฉัน!?" คิมหันต์ตะโกนอย่างสุดเสียงในขณะนั้นเอง เฮียเกา ก็เดินเข้ามาหาปอร์เช่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "แกมันเลว! เลวที่สุด!"ปอร์เช่หัวเราะในลำคอ "ผมไม่ได้เลวหรอกครับ...เฮียเกา...ผมแค่ทำให้พวกคุณได้รับผลกรรมในสิ่งที่ทำลงไปเท่านั้นเอง"คำพูดของปอร์เช่ทำให้เฮียเกาถึงกับเงียบไป เขาไม่สามารถเถียงอะไรได้อีก เพราะสิ่งที่ปอร์เช่พูดคื
ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ ที่โรงพยาบาลจนอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว ในขณะที่ปอร์เช่กำลังวางแผนการที่ซับซ้อนเพื่อที่จะจัดการกับ คิมหันต์ และ เฮียเกา ให้สิ้นซากในค่ำคืนหนึ่ง ปอร์เช่ได้ให้ลูกน้องที่ปลอมตัวเป็นหมอพาเขาไปยังที่ซ่อนของพวกตัวร้าย ลูกน้องของปอร์เช่ได้สลับตัวเขาและปลอมตัวเป็นปอร์เช่ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างแนบเนียน ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้ปอร์เช่กำลังจะไปที่ไหนรถยนต์คันหรูของปอร์เช่ได้ขับมาจอดที่หน้าโกดังร้างแห่งหนึ่ง ชายในชุดสูทสีดำจำนวนหนึ่งได้เดินออกมาจากรถแล้วเปิดประตูรถให้ปอร์เช่ ปอร์เช่เดินออกมาจากรถด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยแต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น"แกแน่ใจนะว่าพวกมันอยู่ที่นี่?" ปอร์เช่ถามชายคนนั้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาที่สุดชายคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อย "แน่ใจครับ...บอส...พวกมันอยู่ที่นี่กันหมดเลย"ปอร์เช่ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย "ดี...เราไปจัดการพวกมันกันเถอะ"ปอร์เช่และลูกน้องของเขาเดินเข้าไปในโกดังร้างแห่งนั้นอย่างเงียบๆ พวกเขาเดินผ่านโกดังไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะไปที่ไหนในขณะเดียวกันนั้นเอง คิมหันต์ และ เฮียเกา กำลังนั่งดื่มเบียร
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธอรู้
เช้าวันรุ่งขึ้น ณลินตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของปอร์เช่ เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกได้ถึงความกังวลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในใจ ณลินเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาของเขาที่กำลังหลับอย่างสงบ เธอรู้สึกได้ถึงความรักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"คุณตื่นแล้วเหรอคะ?" ณลินถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมตื่นมานานแล้ว...ผมแค่อยากมองหน้าเธอในตอนที่เธอกำลังหลับ"ณลินกอดเขาไว้แน่น "ฉันมีความสุขมากเลยค่ะปอร์เช่""ผมเองก็มีความสุขมากเหมือนกันครับ...ริน" ปอร์เช่พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรัก "ริน...ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอ"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่างที่ไม่ดี "เรื่องอะไรคะ?""ผมจะให้ลูกน้องของผมปล่อยข่าวออกไปว่าอาการของผมแย่ลง...และผมก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน" ปอร์เช่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง "ผมจะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้คิมหันต์กับเฮียเกาออกมาจากที่ซ่อน"คำพูดของปอร์เช่ทำให้ณลินถึงกับอึ้งไป เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้ได้"ปอร์เช่! คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ! มันอันตรายเกินไป!" ณลินพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ"ผมรู้ครับ..
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่คุ้นเคยในโรงพยาบาลไม่ได้ทำให้ ณลิน รู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ควรจะเป็น ตรงกันข้าม...มันกลับเป็นกลิ่นที่ปลุกเธอให้ตื่นจากฝันร้ายอันยาวนาน ณลินนั่งเฝ้า ปอร์เช่ อยู่ข้างเตียงของเขามาตลอดทั้งคืน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยคราบน้ำตาและใบหน้าที่ซีดเซียว เธอไม่ได้หลับตาลงเลยแม้แต่นาทีเดียว"ปอร์เช่...คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ...คุณต้องไม่เป็นอะไร" ณลินพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอกุมมือของเขาไว้แน่น ราวกับจะส่งความรักและความอบอุ่นไปให้เขาเมื่อเปลือกตาคู่สวยของปอร์เช่ค่อยๆ กระพริบ ณลินก็รู้สึกถึงความหวังที่แทรกซึมเข้ามาในหัวใจ เธอรีบกุมมือของเขาไว้แน่น"ปอร์เช่...คุณฟื้นแล้ว! คุณเป็นยังไงบ้าง? มีอะไรไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?" ณลินถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนปอร์เช่ยิ้มบางๆ "ผมไม่เป็นไร...ริน...ผมไม่เป็นไรแล้ว"คำพูดของปอร์เช่ไม่ได้ทำให้ณลินรู้สึกโล่งใจเลยแม้แต่น้อย "ปอร์เช่...ฉันกลัว...ฉันกลัวว่าเขาจะกลับมาอีก"ปอร์เช่เอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอเบาๆ "ไม่ต้องกลัวนะครับ...ผมจะปกป้องเธอเอง...ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกแล้ว"ณลินพยักหน้าเล็กน้อย เธ
Comments