Share

บทที่ 10

Author: ปลาทองหางเดียว
กลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวบนร่างของโจวเฉาหลี่ทำให้จือจือตัวหดลง เธอเม้มปากเล็ก ๆ แล้วเปลี่ยนคำพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ “ขอบคุณค่ะคุณอา...”

ขอบตาของเธอร้อนผ่าว รู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมาก

แต่เธอก็กัดริมฝีปาก ดื้อรั้นไม่ยอมให้น้ำตาไหลออกมา

เธอยังนึกว่า... พ่อจะยอมรับเธอแล้วเสียอีก

ชิงอี้ตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ตอนที่จือจือล้มไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเธอ เธออยากจะเข้าไปรับในทันที แต่ระยะทางมันไกลเกินไป

โชคดีที่ลูกสาวไม่เป็นอะไร

เธอรับจือจือมาจากอ้อมแขนของโจวเฉาหลี่ แล้วปลอบโยนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ตกใจใช่ไหม? เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”

จือจือส่ายหน้าเงียบ ๆ

แค่เพียงเอ่ยปาก เธอก็รู้สึกว่าตัวเองจะร้องไห้ออกมาแล้ว

หนานหนานยืนมองอยู่ข้าง ๆ ในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง

เมื่อก่อนแม่ก็เคยกอดเขาแบบนี้ ทั้งยังอ่อนโยนมากด้วย

แม่ไม่ได้กลับบ้านมานานมากแล้ว และก็ไม่ได้กอดเขามานานมากแล้วเช่นกัน

ลึก ๆ ในใจเขาก็แอบคิดถึงแม่

อีกอย่างเมื่อกี้แม่บอกว่าเขาไม่มีแม่ เขาก็รู้สึกเสียใจนิดหน่อย

แต่พอคิดดูอีกที แค่ไม่มีแม่ ก็ยังมีคุณน้าหนิงถังอยู่เป็นเพื่อน พอคิดแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่าไม่ขาดทุน

ยังไงซะแม่ก็ไม่มีทางทิ้งเขาไปจริง ๆ คำพูดเมื่อกี้ต้องเป็นแค่คำพูดประชดประชันแน่ ๆ

ชิงอี้เมินโจวเฉาหลี่โดยสิ้นเชิง ไม่แม้แต่จะชายตามอง เธออุ้มจือจือแล้วเดินจากไป

ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อย

เมื่อเทียบกับความกระตือรือร้นของชิงอี้ในอดีต กับความเย็นชาในตอนนี้ เขาไม่มีทางที่จะไม่รู้สึกตัว

ไม่รู้ว่ากำลังงอนอะไร

“ขนาดเด็กยังรู้จักขอบคุณ แล้วคุณไม่รู้จักหรือไง?”

ฝีเท้าของชิงอี้ชะงักไปครู่หนึ่ง เธอหันกลับมาหัวเราะเยาะอย่างเย็นชา “สิ่งที่คุณติดค้างเธอ ไม่ใช่แค่นี้หรอกมั้ง?”

สิ้นเสียง เธอก็ไม่สนใจว่าโจวเฉาหลี่จะทำสีหน้าอย่างไร เธออุ้มจือจือแล้วจากไปทันที

คำพูดนี้ ช่างไร้เหตุผลและน่าประหลาดใจอย่างที่สุด

โจวเฉาหลี่ขมวดคิ้วมุ่น ทั่วทั้งร่างแผ่ไอเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง

ถ้าหากเขาดูไม่ผิด สายตาที่ชิงอี้มองมาที่เขา แฝงไปด้วยความเกลียดชังเหรอ?

เฉินเซิ่งหัวเราะเยาะ “นี่ใช่ชิงอี้คนที่คอยเอาแต่ตามตื๊อที่ฉันรู้จักเหรอ? ทำไมจู่ ๆ ถึงได้เย็นชากับนายขนาดนี้ หรือว่าเปลี่ยนแผนใหม่ เป็นอยากจะจับ เลยแกล้งปล่อยไปก่อนหรือเปล่า?”

ปลายคิ้วของโจวเฉาหลี่กระตุกเล็กน้อย

ความสนใจของเขาสะดุดอยู่กับเพียงคำว่า ‘อยากจะจับ เลยแกล้งปล่อยไปก่อน’

บางทีอาจจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ

แบบนี้ก็พอจะอธิบายได้

หลังจากงานนิทรรศการป้องกันประเทศสิ้นสุดลง

ขณะที่ชิงอี้กำลังพาจือจือไปทานข้าวกับอาจารย์ เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากฟู่หว่าน พอรับสาย ปลายทางก็พูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดทันที “เสี่ยวชิง! เธอเห็นประเด็นร้อนบนเฟซบุ๊กหรือยัง?!”

เธอและฟู่หว่านเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก เมื่อได้ยินน้ำเสียงโกรธเคืองของเพื่อน ชิงอี้ก็ยิ้มออกมา “ประเด็นร้อน? หรือว่าศิลปินคนโปรดคนไหนของเธอมีเรื่องอื้อฉาวอีกแล้วล่ะ?”

“เธอยังมีอารมณ์มาล้อฉันเล่นอีกเหรอ ประธานโจวของเธอน่ะ นอกใจแล้ว!” ฟู่หว่านกัดฟันพูด “ตอนนี้เธออยู่ไหน? ฉันจะรีบไปหาแล้วบุกไปสับไอ้ผู้ชายเฮงซวยนั่นด้วยกัน!”

ชิงอี้ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าหยิบมือถือขึ้นมากดดู ประเด็นร้อนเกี่ยวกับงานนิทรรศการป้องกันประเทศกำลังครองเต็มหน้าฟีด

ผู้คนทั้งหลายต่างก็รู้สึกว่าประเทศชาติมีความเข้มแข็งขึ้น และภาคภูมิใจอย่างยิ่ง

เพียงแต่ในบรรดาประเด็นร้อนเหล่านั้น มีหัวข้อหนึ่งแทรกอยู่

#ประธานโจวและครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูกชมงานนิทรรศการป้องกันประเทศอย่างชื่นมื่น#

เมื่อมองตัวอักษรประโยคนี้ ชิงอี้ก็รู้สึกว่ามันช่างบาดตาเหลือเกิน

ในภาพคือโจวเฉาหลี่ หร่วนหนิงถัง และหนานหนานที่อยู่ด้วยกันอย่างสนิทสนม ดูแล้วเป็นครอบครัวที่มีความสุขจริง ๆ

เมื่อได้ย้อนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เธอรู้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นไม่ได้เรียบง่ายแค่เพื่อน แต่การได้มาเห็นหัวข้อข่าวร้อนแรงแบบนี้กับตาตัวเอง ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ดี

มันทำให้เธอดูเหมือนตัวตลกที่ช่วยพวกเขาเลี้ยงลูกอย่างขยันขันแข็งมาตลอดห้าปี

น่าขำสิ้นดีที่เธอเลี้ยงดูหนานหนานเหมือนลูกแท้ ๆ แต่พอแม่ผู้ให้กำเนิดของเด็กกลับมา หนานหนานกลับรู้สึกว่าหร่วนหนิงถังดีที่สุด

ถ้าไม่ใช่เพราะหร่วนหนิงถังกลับมา และเธอได้มีปฏิสัมพันธ์กับเขามาตลอด เธอก็คงไม่รู้เลยว่าหนานหนานจะเกลียด ‘แม่’ อย่างเธอได้มากขนาดนั้น

มิน่าล่ะ ในชาติที่แล้วช่วงเวลานี้ หนานหนานถึงได้เย็นชาและโมโหใส่เธอบ่อย ๆ

ความรักความผูกพันห้าปีที่เธอมีต่อหนานหนาน เหมือนเสียไปให้หมากิน

ชิงอี้ออกจากหน้าจอนั้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ฉันเห็นพวกเขาที่งานนิทรรศการแล้ว”

“แล้วเธอยังใจเย็นขนาดนี้นี่นะ?” ฟู่หว่านพูด “อย่าบอกนะว่าเธอโกรธจนสติแตกไปแล้ว?”

“หว่านหว่าน” ชิงอี้เอ่ยขึ้น “ฉันจะหย่ากับเขาแล้ว”

“หย่า?” ฟู่หว่านอึ้งไปครู่หนึ่ง

เธอไม่คิดว่าชิงอี้จะตัดสินใจแบบนี้

มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่าชิงอี้รักโจวเฉาหลี่มากขนาดไหน

การที่ทำให้ชิงอี้ตัดสินใจหย่าอย่างกะทันหันได้ คงมีเพียงเหตุผลเดียวคือเธอต้องได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส

“เขารังแกเธอเหรอ?” น้ำเสียงของฟู่หว่านจริงจังขึ้น “ถ้าเขารังแกเธอ ฉันไม่ปล่อยเขาไว้แน่ ไม่มีทางที่จะปล่อยให้เรื่องจบง่าย ๆ แค่การหย่าหรอก!”

ชิงอี้ก้มหน้าลง เธอรู้ว่าฟู่หว่านเป็นห่วงเธอจากใจจริง

เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ “เปล่าหรอก ฉันแค่คิดได้แล้วน่ะ”

ฟู่หว่านได้ฟังดังนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ก็ยังคงไม่วางใจ “จริง ๆ นะ? ถ้าเธอมีเรื่องอะไร ต้องบอกฉันนะ”

“วางใจเถอะน่า ถ้าฉันมีเรื่องอะไร จะไม่ลืมมาลากเธอลงน้ำไปด้วยแน่นอน”

“เธอควรจะหย่ากับเขาตั้งนานแล้ว ในที่สุดก็คิดได้สักที”

ฟู่หว่านบ่นไม่หยุดอยู่ปลายสาย

ชิงอี้ฟังเสียงบ่นพึมพำของเธอ ริมฝีปากก็ประดับด้วยรอยยิ้มจาง ๆ

เธอจูงมือลูกสาว เดินอยู่ใต้ฟ้าครามและเมฆขาว ในโทรศัพท์มีเสียงบ่นของเพื่อนสนิทดังอยู่

ที่แท้ ความสุขก็เป็นเรื่องง่าย ๆ แบบนี้เอง

แต่ในชาติที่แล้ว ความสนใจทั้งหมดของเธอกลับอยู่ที่โจวเฉาหลี่เพียงคนเดียว จนทำให้เธอละเลยสิ่งดี ๆ มากมายรอบตัวไป

หลังจากวางสายจากฟู่หว่าน ชิงอี้ก็เดินทางมาถึงสถานที่ที่นัดไว้กับลู่จินอัน

พวกเขาจองห้องส่วนตัวไว้ห้องหนึ่ง

ชิงอี้มาถึงห้องส่วนตัวก่อนเวลานัดเพื่อรออยู่ก่อนแล้ว

ขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดว่าจะอีกเดี๋ยวจะเผชิญหน้ากับอาจารย์ยังไงดี ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดออก

อาจารย์เฮ่อและลู่จินอันเดินเข้ามาด้วยกัน

ชิงอี้จูงจือจือแล้วลุกขึ้นยืน “อาจารย์เฮ่อ”

ไม่ได้พบอาจารย์มานาน อาจารย์ดูแก่ลงไปมาก ผมข้างขมับขาวโพลนไปหมดแล้ว

อาจารย์เฮ่อไม่ได้ตอบกลับ

เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ ในใจรู้สึกเจ็บแปลบ ก็คงต้องเป็นแบบนี้

เธอสูญเสียคุณสมบัติที่จะเรียกเขาว่าอาจารย์ไปนานแล้ว

คุณสมบัตินั้น เป็นเธอเองที่ตัดสินใจทิ้งมันไปอย่างไม่ลังเลด้วยมือของเธอเอง

ชิงอี้เม้มริมฝีปาก หันไปมองจือจือ “ทักทายคุณปู่เฮ่อสิลูก”

จือจือพูดอย่างว่าง่ายและมีมารยาท “สวัสดีค่ะคุณปู่เฮ่อ”

น้ำเสียงของเด็กหญิงนั้นนุ่มนวลน่าเอ็นดู ดวงตากลมโตคู่สวยก็หยีลงเป็นรอยยิ้ม

เมื่ออาจารย์เฮ่อเห็นเด็กหญิงที่ดูนุ่มนิ่มน่ารัก ใบหน้าที่เคร่งขรึมก็พลันปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาทันที เขาลูบศีรษะของจือจือ แล้วหันไปมองชิงอี้ “ลูกสาวของเธอก็ว่าง่ายดีนะ”

จือจือได้รับยีนเด่นของโจวเฉาหลี่และชิงอี้มาเต็ม ๆ ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอดูงดงามเป็นพิเศษ สวยราวกับตุ๊กตา

ลู่จินอันเอ่ยขึ้น “อาจารย์ครับ อย่ามัวแต่ยืนอยู่เลย นั่งลงทานข้าวกันเถอะครับ”

มื้ออาหารนี้ ถ้าหากไม่มีลู่จินอันคอยช่วยสร้างบรรยากาศ ชิงอี้ก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะเผชิญหน้ากับอาจารย์เฮ่ออย่างไร

ในตอนนี้ การที่อาจารย์เฮ่อเต็มใจให้เกียรติมาร่วมโต๊ะทานอาหารกับลูกศิษย์ ‘ที่เนรคุณ’ เช่นเธอ ก็ถือเป็นเกียรติอย่างสูงแล้ว

เธอยังเคยคิดว่าชาตินี้อาจารย์เฮ่อคงจะไม่ยอมพบหน้าเธออีกแล้ว

“เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆ ตอนนั้นศิษย์น้องยังเป็นแค่เด็กสาวที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ทำตัวเป็นเด็ก ๆ ทะเลาะแย่งของกินกับผมทุกวัน เผลอแป๊บเดียวลูกสาวของศิษย์น้องก็โตขนาดนี้แล้ว”

ลู่จินอันหวนนึกถึงอดีต เมื่อคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ก็ได้แต่รู้สึกว่าการที่ชิงอี้ล้มเลิกความตั้งใจไปในตอนนั้น ช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียดายจริง ๆ

อาจารย์เฮ่อมีสีหน้าเคร่งขรึม เขาแค่นเสียงเย็นชา “ใช่ เพื่อผู้ชาย ก็ยอมทิ้งได้ทุกอย่าง”

เพราะยังมีจือจืออยู่ด้วย อาจารย์เฮ่อจึงไม่ได้พูดอะไรที่รุนแรงเกินไป เกรงว่าเด็กได้ยินแล้วจะไม่ดี

ชิงอี้หันไปมองลูกสาว “จือจือ ไปเรียกพนักงานให้ชงชาเถี่ยกวนอินมาให้คุณปู่เฮ่อกับลุงลู่หนึ่งกาหน่อยสิ แล้วลูกอยากดื่มน้ำอะไรก็ไปหยิบเองเลยนะ”

“ค่ะ” จือจือรับคำอย่างว่าง่าย แล้วกระโดดโลดเต้นออกจากห้องไป

หลังจากจือจือออกไปแล้ว

อาจารย์เฮ่อมองชิงอี้ “ได้ยินจินอันบอกว่า เธอกำลังจะหย่า แล้วก็อยากจะหางานในสายงานเดิมด้วยใช่ไหม?”

“ค่ะ” ชิงอี้เม้มปาก “แต่ตอนนั้นฉันทิ้งการเรียนต่อปริญญาโทและปริญญาเอกไป ตอนนี้จะหางานก็เลยลำบากหน่อยค่ะ”

เธอพบว่าในสังคมปัจจุบัน วุฒิการศึกษาคือใบเบิกทาง แม้ว่าเธอจะมีประสบการณ์ทำงานที่โจวกรุ๊ป แต่ที่อื่นก็ไม่ยอมรับ

“เรซูเม่ของเธอที่ส่งเข้ามา ฉันดูแล้ว ไม่ตรงตามเกณฑ์การรับสมัครของสถาบันเรา”

การที่อาจารย์เฮ่อปฏิเสธเธอ ชิงอี้ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ และเธอก็ไม่มีหน้าไปขอร้องให้อาจารย์เฮ่อยกโทษให้เธอเช่นกัน

ลู่จินอันเห็นบรรยากาศเริ่มไม่ดี จึงรีบพูดแก้สถานการณ์ “เอาละครับ พวกอาจารย์ไม่ได้เจอกันตั้งนาน อย่าคุยเรื่องเครียด ๆ เลย ทานข้าวก่อนดีกว่าครับ”

อีกด้านหนึ่ง

หลังจากที่จือจือบอกให้พนักงานชงชาแล้ว เธอก็ยืนเลือกเครื่องดื่มอยู่หน้าตู้แช่

บังเอิญว่ากลุ่มของโจวเฉาหลี่ที่เพิ่งเข้ามาก็มาเจอเธอพอดี

เฉินเซิ่งเห็นจือจือเข้า ก็ทำเสียงจิ๊จ๊ะ “อย่างกับวิญญาณตามติดไม่เลิก ขนาดมากินข้าวยังตามมาด้วย จะสร้างสถานการณ์ให้เจอกันโดยบังเอิญก็ไม่ใช่แบบนี้นะ ความคิดของชิงอี้นี่แทบจะเขียนไว้บนหน้าอยู่แล้ว”

จือจือเห็นเครื่องดื่มขวดหนึ่งเหลืออยู่แค่ขวดเดียว ต้องอร่อยแน่ ๆ เธอจึงเปิดประตูตู้แล้วเตรียมจะหยิบ

ไม่คิดว่าจะมีมือหนึ่งเร็วกว่าเธอไปก้าวหนึ่ง “ดีเลย! ฉันชอบดื่มอันนี้ที่สุด!”

หนานหนานถือขวดนั้นแล้วพูดเยาะเย้ยจือจือ “ขอบคุณที่ช่วยเปิดประตูตู้ให้ฉันนะ”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 100

    หร่วนหนิงถังโทรหาโจวเฉาหลี่ เล่าความลำบากที่ตนเจออยู่ในตอนนี้“ฉันแค่อยากเข้าไปแลกเปลี่ยนความรู้ ครั้งแรกที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าทำงานในจิ่วคงเพราะพี่สะใภ้ก็ช่างเถอะค่ะ แต่ตอนนี้...พี่สะใภ้ทำแบบนี้ จะไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว”ผู้ชายที่ปลายสายเงียบไปไม่กี่วินาที ดูเหมือนกำลังยุ่งอยู่ ผ่านไปสักพัก เขาจึงตอบอย่างเรียบเฉย “ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวฉันจัดการเอง”......วันนี้ชิงอี้ทำงานล่วงเวลา จิ่วคงเทคโนโลยีเปิดตัวทดสอบระบบใหม่ ซึ่งประมวลผลข้อมูลอยู่ตลอด จนดึกมากแล้วเธอก็ยังไม่กลับบ้านในห้องเช่าจือจืออยู่บ้านคนเดียวอย่างว่าง่ายและกำลังทำการบ้านอยู่ เพียงแต่ล้วนเป็นโจทย์คณิตศาสตร์โอลิมปิกทั้งหมดการบ้านพวกนั้นของโรงเรียนอนุบาล สำหรับเธอในตอนนี้ ง่ายเกินไปจริง ๆเมื่อเสียงกริ่งประตูดังขึ้น จือจือก็ชะงักไปเธอวางปากกาในมือลง เดินไปที่ประตูโดยไม่ได้เปิดทันที แต่ดูที่กล้องวงจรปิดหน้าประตูเมื่อเห็นผู้ชายที่หน้าประตู มือของจือจือก็กำแน่น หัวใจเต้นรัวโจวเฉาหลี่สวมชุดสีดำยืนอยู่หน้าประตู สีหน้าเย็นชาเฉยเมยเมื่อเห็นพ่อ จือจือก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นในใจคุณพ่อมาตามคุณแม่กลับบ้านแล้วเหรอ

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 99

    ชิงอี้เล่าเรื่องโปรเจกต์ให้ลู่จินอันฟังคร่าว ๆลู่จินอันฟังแล้ว วางตะเกียบในมือลง และพูดด้วยรอยยิ้ม “งมเข็มในมหาสมุทร แบบนี้เธอติดต่อนักลงทุนไม่ได้หรอก”แน่นอนว่าชิงอี้รู้ว่าติดต่อไม่ได้ ถ้าอยากติดต่อ ก็ต้องไปนัดที่บริษัท แต่ตอนนี้เธอก็ไม่อยากอยู่ว่าง ๆ ตอนที่ว่างจากงาน การหาข้อมูลเพิ่มเติมย่อมไม่ผิดแน่นอน“ฉันเห็นข่าวว่า เดือนหน้าทางมณฑลจะจัดประชุมผู้ประกอบการ โดยส่วนใหญ่จะพูดคุยถึงการวางแผนและนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมเก่าและใหม่ ถ้าแผนงานเป็นไปได้ ก็จะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากภาครัฐ”“ฉันอยากไปดู แต่คงไม่ได้โควตานั้นมาแน่ ๆ”โควตานี้ได้มายากมาก แม้ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการที่ยอดเยี่ยม ก็ไม่แน่ว่าจะได้โควตาเข้าร่วมลู่จินอันยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มจาง ๆ “แน่นอน หนทางนี้เธอเลิกคิดไปได้เลย”ตอนนี้พวกเขายังไม่มีคุณสมบัติ“การประชุมของมณฑลครั้งนี้ ฉันช่วยเธอไม่ได้ แต่มะรืนนี้เธอสามารถเข้าร่วมงานประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมของลู่กรุ๊ปได้”ชิงอี้ชะงักไปลู่กรุ๊ปเป็นเจ้าใหญ่ในวงการการบินและอวกาศ มีอิทธิพลอย่างมากในอุตสาหกรรมพวกเขาจะเชิญผู้ประกอบการมืออาชีพ ผู้เชี่ยวชาญรวมถึงนักวิชา

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 98

    “ไปส่งพวกเขาลงเขาก่อนเถอะ” โจวเฉาหลี่พูดอย่างเรียบเฉยชิงอี้ย่อมรู้ดีว่าโจวเฉาหลี่จะไม่ทำให้หร่วนหนิงถังเสียหน้า เมื่อเธอพูดแล้ว ส่วนใหญ่เขาก็จะพยักหน้าเห็นด้วยหลีหนานพยักหน้าหลังจากเขาขึ้นรถ ก็เอ่ยถาม “คุณนาย จะไปที่ไหนครับ?”ชิงอี้พิงพนักเก้าอี้ “โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด”หลีหนานชะงักไปก่อน แต่ก็ไม่สะดวกจะซักถามเรื่องส่วนตัวต่อ จึงได้แต่ขับรถไปโรงพยาบาลส่วนรถที่เสีย ถึงเวลาก็ให้คนฝ่ายซ่อมบำรุงมาลากไปก็พอแล้วชิงอี้ไม่ทำให้ตัวเองลำบากอยู่แล้ว แน่นอนว่ามีรถก็ต้องนั่งสิหลี่หว่านฮุ่ยคิดไม่ถึงว่าชิงอี้จะขึ้นรถไปอย่างไม่ลังเลขนาดนั้นหลังจากถึงโรงพยาบาล หลีหนานก็โทรหาโจวเฉาหลี่เพื่อรายงานว่าพาพวกเธอไปส่งที่โรงพยาบาลแล้วผู้ชายปลายสายไม่ได้มีท่าทีตอบสนองอะไรมากนัก แค่พูดอย่างนิ่งเฉยมาก “รู้แล้ว”หลังจากหมอจัดยาแก้ลมแดดส่วนหนึ่งให้ชิงอี้ ก็บอกให้เธอกลับไปพักผ่อนให้เพียงพอหลี่หว่านฮุ่ยมองเธอ “ช่วงนี้ลูกผอมลงเรื่อย ๆ ร่างกายก็อ่อนแอ ลูกต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ เป็นเพราะโจวเฉาหลี่...”“ไม่ใช่ค่ะ” ชิงอี้พูด “แค่ช่วงนี้หนูยุ่งเกินไป เลยไม่ได้ดูแลร่างกาย”เป็นเพราะเธอยุ่งเกินไปจริ

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 97

    หลังออกมาจากห้องน้ำชา หลี่หว่านฮุ่ยโมโหจนหน้าอกอัดแน่นไปด้วยความโกรธ วันนี้ถูกดูถูกอย่างโจ่งแจ้งแต่กลับพูดอะไรไม่ได้เลย“แม่ไม่คิดเลยว่าโจวเฉาหลี่จะทำกับลูกขนาดนี้ ถ้ารู้อย่างนี้ แม่จะไม่ยอมให้ลูกใช้ชีวิตที่เลวร้ายแบบนั้นแน่!”สีหน้าของชิงอี้ซีดลงเรื่อย ๆ และมีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นบนหน้าผาก เธอส่ายหน้า น้ำเสียงอ่อนแรงอยู่หลายส่วน “ไม่เป็นไรค่ะ มันผ่านไปแล้ว”คนเราต้องมองไปข้างหน้าแดดตอนบ่ายแรงมากหลี่หว่านฮุ่ยเห็นสภาพเธอไม่ค่อยดี ก็เป็นห่วง “ลูกจะเป็นลมแดดหรือเปล่า?”เธอขมวดคิ้ว “ยืนรอแม่ตรงนี้แป๊บหนึ่งนะ แม่จะไปเอารถมาพาลูกไปโรงพยาบาล”รถจอดอยู่ในลานจอดรถไม่ไกลนัก แต่ถ้าเดินไปก็จะโดนแดดชิงอี้รู้สึกเพียงมึนหัวตาลาย พิงกรอบประตูแล้วพยักหน้าเล็กน้อยหลี่หว่านฮุ่ยแยกไปขับรถมาตอนนี้บาดแผลที่ข้อมือรู้สึกแสบเล็กน้อย เมื่อคืนเธอใช้เวลาไม่น้อยในการทำคำอธิบายแบบโมเดลสามมิติ ข้อมืออาจจะใช้งานหนักเกินไป ชิงอี้ยกมือขึ้นดูผ้าพันแผลที่ข้อมือ มีรอยเลือดซึมออกมาเล็กน้อยเธอขมวดคิ้วอย่างเงียบ ๆ คิดว่าอีกเดี๋ยวจะไปโรงพยาบาลอีกครั้งสถานการณ์เมื่อคืนทำให้เธอจำต้องฝืนร่างกายตัวเองแม้วั

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 96

    “จริงเหรอคะ?” หร่วนหนิงถังยิ้มขึ้นมา “ถ้างั้นครั้งหน้าจะไปอุดหนุนกิจการของประธานเหอแน่นอนค่ะ”ตอนนี้เสี่ยวเฉินรีบจัดที่นั่งให้พวกเขา หร่วนหนิงถังเข้าไปนั่งติดกับโจวเฉาหลี่ทันทีตอนนี้ประธานเหอจึงเพิ่งมองหลี่หว่านฮุ่ย “เชิญเลย ประธานหลี่เชิญนั่ง คนนี้คือ...”เขามองชิงอี้พร้อมกับถามชิงอี้ยิ้มเล็กน้อย “สวัสดีค่ะประธานเหอ ฉันเป็นเลขาของประธานหลี่ ชิงอี้ค่ะ”ประธานเหอชะงักไป และมองชิงอี้เพิ่มอีกครั้งเห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่หลี่หว่านฮุ่ยกำลังจะแนะนำบางอย่าง แต่กลับถูกเธอขัดจังหวะทันทีประธานเหออดไม่ได้ที่จะให้ความสนใจเธอมากหน่อย การคุยเรื่องงาน ไม่เหมาะจะอ้างความเป็นญาติ อย่างน้อยไม่ว่าระดับความสามารถจะเป็นยังไง ทัศนคติในการเจรจาของคนคนนี้ก็เป็นมืออาชีพและเหมาะสมหลังจากนั้นทุกคนก็นั่งลงหร่วนหนิงถังแนะนำให้ทั้งสองบริษัทคุยเรื่องแผนงานพร้อมกันชิงอี้เห็นด้วยจ้าวเถายิ้มเยาะ คิดว่าชิงอี้กับหลี่หว่านฮุ่ยไม่เจียมตัวจริง ๆตอนนี้บริษัทของหลี่หว่านฮุ่ยก็ถือว่าเป็นบริษัทที่เหลือแต่เปลือกแห่งหนึ่ง พวกพนักงานล้วนกำลังจะหนีหายไปหมดแล้ว ส่วนฝ่ายวางแผนก็แทบจะเหลืออยู่ไม่กี่คนเธอไม่เชื่อว่

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 95

    ชิงอี้หลุบตาลงมองแขนของโจวเฉาหลี่ที่หร่วนหนิงถังควงอยู่ ท่าทางแบบนี้คือการประกาศอย่างเปิดเผยว่าเธอคือผู้หญิงที่อยู่ข้างกายโจวเฉาหลี่เธอหัวเราะเสียงเย็นชา แค่รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจดี ในสถานการณ์ที่มีแค่พวกเขาสามคนก็เรียกเธอว่าพี่สะใภ้ แต่พออยู่ต่อหน้าคนมากมาย ก็เรียกเธอว่าคุณชิง เล่ห์เหลี่ยมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกขี้แอ๊บถูกเธอเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่งแล้วสีหน้าของโจวเฉาหลี่ยังคงสงบและเฉยเมยเหมือนเดิม แต่กับหร่วนหนิงถังกลับตามใจและเอาใจใส่หลี่หว่านฮุ่ยขมวดคิ้ว เห็นท่าทีรักกันของพวกเขา สีหน้าของเธอก็เย็นชาอย่างถึงที่สุดเธอรู้จักความรู้สึกแบบนี้ คาดไม่ถึงว่าลูกสาวของตัวเองจะต้องเผชิญเรื่องแบบนี้อีกเธอกำลังจะเดินไปข้างหน้าเพื่อพูดบางอย่าง ก็ถูกชิงอี้ดึงไว้ชิงอี้โน้มตัวไปกระซิบข้างหูแม่ ด้วยน้ำเสียงสงบ “จำเป้าหมายที่เรามาในวันนี้ไว้ค่ะ อย่าสร้างความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น ทิ้งความประทับใจที่ดีไว้ให้นักลงทุน”หร่วนหนิงถังตั้งใจยั่วยุอย่างชัดเจน อยากให้พวกเขาแสดงท่าทีไม่เหมาะสมจนขายหน้าตอนนี้เธอไม่สนใจแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นยังไง ก็ไม่สามารถทำให้เธอรู้สึกอะไรได้อีกแล้วชิงอี้ไม่สน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status