Share

บทที่ 45

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-08-29 23:39:05

นางไม่แน่ใจนักว่าเป็นเสด็จพ่อหรือเสด็จแม่ของนางที่เป็นคนต้นคิด รู้เพียงสิ่งหนึ่งที่เสด็จพ่อและเสด็จแม่ของนางคาดไม่ถึง ก็คือเรื่องที่อาจเกิดมีกองทัพไร้พ่าย ที่ยิ่งรบราก็ยิ่งขยายตัว ด้วยได้เหล่าทหารของแว่นแคว้นน้อยใหญ่ที่ห้อม้าไปรบรา ชักชวนกันมาสวามิภักดิ์ ขอย้ายฝั่ง ติดตามรับใช้ รบชนะมาแล้วทั่วทั้งแผ่นดิน สุดท้ายก็ย่ำเท้าเข้าหาแคว้นป๋ายที่เป็นเป้าหมายสุดท้าย...ซึ่งบางทีสุดท้ายแล้วอาจมิใช่เพราะต้องการตัวนาง หรือต้องการลงทัณฑ์นาง แต่เป็นเพราะต้องการครองความเป็นใหญ่ รวบรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่ง เรื่องคว้าชัยชนะครอบครองหญิงงาม หรือลงทัณฑ์หญิงแพศยาและแคว้นที่ก่อให้เกิดภัยสงครามจนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ก็เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น

แต่นางจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น

เพราะไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น นางจึงตัดสินใจออกมาพบคนผู้นี้ที่เลี่ยงจินอู่ตั้งแต่แรก ยอมกระทั่งใช้ตัวเองเป็นหลักประกันเพื่อให้เกิดความไขว้เขว และเพื่อสร้างทางรอดให้แคว้นป๋าย รวมถึงสร้างทางรอดให้ผู้ไม่อาจปล่อยวางจากสถานะของตนอย่างเสด็จแม่ของนางสักหนึ่งสาย

จะอย่างไรแคว้นป๋ายก็ไม่อาจต้านทานกองทัพเรือนแสนของเฮยเซ่อเย่ว์ เช่นนั้นแล้วไม่สู้เจรจาสวามิภักดิ์ ยอมตกเป็นเมืองขึ้น ยังดีกว่าสูญเสียแผ่นดิน ถูกผนวกรวมเข้าเป็นแผ่นดินเดียวกับเฮยเซ่อเย่ว์เช่นเดียวกับแว่นแคว้นน้อยใหญ่ทั้งหลายเหล่านั้น

“ตอนนี้ข้ากลับอารามหลวงไปทำหน้าที่สตรีศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้แล้ว”

หนิงซินเบือนหน้าหลบดวงตาที่ราวกับจะอ่านทะลุไปถึงจิตใจคู่นั้น ก่อนถือโอกาสที่คนตรงหน้ากำลังสำนึกผิด เอ่ยสิ่งที่ต้องการออกมา

“หากท่าน...หากท่านรู้สึกผิดต่อข้าอยู่บ้าง...ขอให้ข้าเป็นผู้เขียนสารตอบกลับไปที่วังหลวงได้หรือไม่”

หลังจากที่นางบอกว่าต้องการเขียนสารตอบกลับไปที่วังหลวงด้วยตนเอง แม่ทัพเฮยเซ่อเย่ว์ก็ให้ทหารรับใช้ต่อโต๊ะความสูงพอเหมาะที่จะนำมาวางคร่อมร่างผู้ที่นอนเอนหลังอยู่บนฟูก เพื่อให้นางสามารถเขียนสารได้โดยไม่กระทบกระเทือนจุดที่อยู่ระหว่างการรักษา

ทีแรกแม่ทัพใหญ่จะให้คนไปตามหญิงหม้ายสกุลอวี๋มาดูแลรับใช้นาง ทว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องบ้านเรื่องเมือง หาใช้เรื่องที่สมควรแพร่งพรายออกไปอย่างไม่ระวัง นางจึงใช้กลวิธีที่มารดาเคยยัดเยียดสั่งสอนมาตั้งแต่ยังเยาว์ จับชายเสื้อเขาไว้ ช้อนตาถามเสียงสั่น

“ท่าน...อยู่กับข้าไม่ได้หรือ...”

ท่าทีเหมือนเด็กน้อยน่าสงสารที่หวาดกลัวไปทุกสิ่ง โดยเฉพาะการถูกทอดทิ้ง ทำให้หยางหยางหักใจผละจากไปไม่ลง

เขาไม่นึกมาก่อนว่าสตรีที่กล้าหาญไม่กลัวตายในคืนนั้นที่เลี่ยงจินอู่ แท้จริงแล้วก็มีด้านนี้ด้วยเช่นกัน

บางทีอาจเป็นเพราะเขาทำร้ายนาง...ทำให้นางหวาดกลัว รู้สึกขาดที่พึ่ง พอเขามาทำดีด้วย จึงกลายเป็นว่าเขาคือที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวของนาง นางจึงเกิดยึดติดกับเขาขึ้นมา

เคยมีเหมือนกัน ที่เชลยศึกผู้ถูกจับมาลงทัณฑ์ทรมาน เกิดรู้สึกผูกพันกับผู้ลงทัณฑ์ บางรายสนิทสนมกันถึงกับเรียกกันเป็นพี่เป็นน้องเลยทีเดียว

ในกรณีเขากับนางย่อมไม่ใช่ความสัมพันธ์เฉกเช่นพี่ชายและน้องสาว แต่เป็น...

หยางหยางมองใบหน้าน้ำตาคลอของนางแล้วเหมือนหัวใจถูกบีบรัด พลันรู้สึกว่าตัวเองยิ่งกว่าเลวทรามต่ำช้า จะชดใช้อย่างไรก็ไม่สาสมกับความผิดที่ได้กระทำไว้สักนิด

เขาขยับเข้านั่งลงเคียงข้างนาง โอบร่างน้อยไว้ ใช้สองมือช่วยจับโต๊ะตัวนั้นให้มั่นคง

“เจ้าเขียนสิ จนกว่าเจ้าจะหายดี ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”

“แล้ว...ถ้าพ้นจากสามวันนับจากนี้แล้วข้ายังไม่หาย...”

นี่เป็นสิ่งที่หยางหยางใคร่ครวญอยู่เหมือนกัน

ไม่ใช่เพียงเรื่องที่จะดูแลกระทั่งนางหายป่วยจริงๆ หรือดูแลจนถึงแค่วันไหน แต่เป็นเรื่องที่ นับจากนี้ ระหว่างตัวเขากับองค์หญิงรองผู้นี้ สมควรอยู่ในสถานะอะไร และจะทำเช่นไร จึงจะสามารถรักษาชื่อเสียงอันดีงามของนางเอาไว้ได้

เขาเคยบอกว่าจะรับผิดชอบนาง การรับผิดชอบนั้นย่อมต้องควบรวมไปถึงสถานะและชื่อเสียงของนางด้วย

เขาไม่กลัวว่าพวกทหารในกองทัพจะปากเปราะ ด้วยเหล่าทหารในกองทัพทมิฬล้วนเคร่งครัดวินัยทัพเป็นอย่างยิ่ง  กลัวก็แต่หากกระทำการอย่างไม่ระวัง ผู้คนทั่วทั้งปฐพีจะริษยาอาฆาต กล่าวโทษ หรือจงเกลียดจงชัง ดูหมิ่นดูแคลน เหยียดหยามนาง

แค่ทุกวันนี้ เหล่าผู้แพ้สงครามก็พลิกลิ้นกล่าวว่าทั้งหมดล้วนเป็นเพราะ ‘นางจิ้งจอกแพศยาจากแคว้นป๋าย’ ไม่ได้นึกโทษความเขลา ความไร้กำลัง และฝีมือของตนเองเลยสักนิด

คนเหล่านั้น ก่อนออกรบ ปากก็พูดอยู่ปาวๆ ว่ารบกันเพื่อแย่งชิงนาง บ้างก็กล่าวกันว่า ‘ศึกครั้งนี้ เพื่อเกียรติยศ เพื่อศักดิ์ศรี’ บางรายถึงกับอ้างว่าออกรบเพื่อเกียรติขององค์หญิงรองแคว้นป๋ายอย่างนางด้วยซ้ำ ทว่าหลังพ่ายแพ้ในสงคราม คนเหล่านั้นเจ็ดส่วนกลับกล่าวโทษนางกันอย่างหน้าด้านๆ ส่วนเกียรติยศศักดิ์ศรีอะไรนั่น ก็ไม่รู้ว่าทำหล่นเอาไว้ ณ ที่ใดในสนามรบอันกว้างใหญ่

ตัวเขาเองก็เคยเป็นผู้หนึ่งที่กล่าวโทษนางหลังจากสูญเสียบิดา เหล่าพี่ชายน้องชาย จนสุดท้ายก็เหลือตัวคนเดียวในตระกูล ต่อมาออกรบก็ยังมาสูญเสียทหารหาญที่เคยคุ้นหน้าคุ้นตากันอีกมาก จากที่เคยกล่าวโทษนางอยู่ก่อนแล้ว การกล่าวโทษด้วยความโกรธนั้นก็ยิ่งกลายเป็นความเกลียดชัง เป็นความคลั่งแค้น ที่ทำให้พลาดพลั้งกระทำเรื่องขาดสติยั้งคิดอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน...และผลของการกระทำนั้น ก็คือภาพของสตรีกล้าหาญไม่กลัวตายที่แตกสลายและขวัญเสียจนแยกไม่ออกแล้วว่าผู้ใดคือคนที่ควรเข้าใกล้ ผู้ใดคือคนที่ควรออกห่าง

ทั้งๆ ที่เขาทำร้ายนางถึงเพียงนั้น เพียงเขามาดูแลนาง นางกลับยึดติดกับเขา มอบความไว้วางใจให้เขา ยอมให้เขาโอบกอด นอนแนบกายอย่างสนิทชิดเชื้อ ราวกับ...เป็นคนรัก…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 60

    “ทำไมเล่า หรือเจ้าคิดว่าบิดาจะดื้อรั้นจนไม่มองความเป็นจริง?”เขากล่าวได้ตรงจุดเป็นอย่างยิ่ง จนหนิงซินไม่รู้จะเอ่ยคำใดระยะหลังมานี้ เสด็จพ่อของนางลุ่มหลงในอำนาจ มุ่งมั่นในการสั่งคมบารมี ทำถึงขั้นใช้หลานชายหลานสาวในราชสกุลเป็นเบี้ย แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์เหตุที่นางยังอยู่รอดปลอดภัย ยังมิได้แต่งให้ผู้มีอำนาจใดมาจนป่านนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะมีราชสาสน์สู่ขอมาจากทั่วทุกสารทิศ จนเกิดเรื่องแย่งชิงตัวนางขึ้นมาเสียก่อน และหลังจากนั้น นางยังฝ่าฝืนคำสั่งเสด็จพ่อ ชิงเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในอารามหลวงในฐานะสตรีศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เสด็จพ่อผู้เลื่อมใสศรัทธาในเทพยดาฟ้าดิน มิอาจบังคับให้นางแต่งให้ผู้ใดโดยง่ายเสด็จแม่ของนางก็อีกผู้หนึ่ง พระนางคิดนั่งบนภูดูเสือกัดกัน ตั้งใจจะให้บุรุษรบราฆ่าฟันกันจนเหลือผู้ชนะเพียงคนเดียว แล้วถึงค่อยยกนางให้ยอดบุรุษผู้ซึ่งจะเป็นใหญ่ในใต้หล้า ยิ่งใหญ่เสียยิ่งกว่าพระราชบิดาของนางเสด็จแม่ของนางเองก็ช่างโหดร้ายนัก ไม่แน่ว่าเรื่องวุ่นวายทุกอย่างที่เกิดขึ้นยามนี้ ครึ่งหนึ่งอาจเป็นฝีมือของเสด็จแม่ก็เป็นได้คิดๆ ดูแล้วก็น่าขัน.

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 59

    เพื่อยุติความเข้าใจผิดที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อแคว้นป๋าย หนิงซินข่มความอัปยศและความอับอาย บอกเสียงสั่น“ทั้งหมดก็เพราะท่านทำให้ข้ารู้สึกมากเกินไป!”หยางหยางนิ่งงันไปชั่วขณะเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้ยินคำนี้ใช่ว่าเขาจะไม่มั่นใจในตนเอง ทว่า...คำพูดนี้...จากปากนาง...หยางหยางพลันรู้สึกหัวใจพองโต มุมปากทั้งสองข้างโค้งขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่เห็นท่าทีเช่นนั้นของเขา หนิงซินก็โกรธจนน้ำตาไหล แต่ไม่รู้ว่าโกรธอะไรกันแน่หยางหยางตกใจที่จู่ๆ สตรีในอ้อมกอดก็หลั่งน้ำตาเมื่อครู่นางเพิ่งกล่าวว่าเขาทำให้นางรู้สึกดีไม่ใช่หรือ แล้วเหตุใด...รอยยิ้มบนใบหน้าคร้ามแดดพลันเหือดหาย เขารีบประคองร่างน้อยๆ เข้ากอดแนบอก ลูบศีรษะปลอบโยนนาง“ข้าหาได้หัวเราะหรือยิ้มเยาะเจ้า องค์หญิงน้อย ข้าเพียงแต่...ดีใจ...” สาบานได้ว่านี่เป็นน้ำเสียงที่อ่อนโยนยิ่งกว่าอ่อนโยนชนิดที่เขาไม่เคยใช้มาก่อนในชีวิต“ดีใจที่ทำให้ข้ากลายเป็นสตรีเช่นนี้หรือ?” นางกลั้นสะอื้นจนตัวโยน“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร...ข้าเพียงดีใ

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 58

    หนิงซินกอดเกาะท่อนแขนนั้นไว้ต่างหลักยึด พยายามรวบรวมสติ ฝนหมึก จรดพู่กัน เขียนสาร ภายในใจก็อดคิดฟุ้งซ่านไม่ได้ ว่าตนใช่ถูกคนผู้นี้รู้เท่าทัน จึงได้ถูกกลั่นแกล้งรังแก เอาคืนด้วยวิธีการเช่นนี้หรือไม่“อ๊ะ...” เพิ่งจะคิดได้เท่านั้นเขาก็เริ่มขยับนิ้วที่สอดแทรกอยู่ภายในหนิงซินทั้งโกรธทั้งอับอาย แต่ยังไม่อยากยอมแพ้นางกลั้นใจตวัดพู่กันเขียนสาร พยายามเลือกให้คำที่สั้น กระชับ มากที่สุด ก่อนที่คนผู้นี้จะทำให้สติสัมปชัญญะของนาง...“...”“...”“...”หนิงซินโดนรังแกจนร้อนผะผ่าวไปทั้งตัว ใบหน้าแดงก่ำ กระนั้นก็ยังข่มความรู้สึก รวบรวมพลัง เขียนสารสำคัญออกมาได้หยางหยางเห็นนางเพียรพยายามถึงเพียงนั้น ก็อดนึกชมไม่ได้ทว่าชื่นชมก็ส่วนชื่นชม ยามนี้ตัวเขาเองก็อดกลั้นไม่ไหวแล้วเช่นกัน เช่นเดียวกับนาง...คิดได้ดังนั้น เขาพลันใช้มือเพียงข้างเดียวยกโต๊ะเขียนสารตัวนั้นออกวางข้างฟูก จากนั้นก็ยกร่างนางขึ้นนั่งคร่อมทับส่วนที่แข็งเกร็ง เส้นเลือดปูดโปน ดูใหญ่โตจนน่ากลัวกว่าครั้งไหนๆเคราะห

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 57

    “มะ...ไม่ได้นะ...”“ข้ารับปากว่าจะไม่สังหารผู้ใดหากไม่จำเป็น”“แต่เหล่าทหารของทั้งเฮยเซ่อเย่ว์และแคว้นป๋ายก็ต้องเสียเลือดเสียเนื้อมิใช่หรือ” นางจ้องตาวิงวอนไม่ยอมแพ้อาจเพราะความกังวล มือที่ทาบทับแผงอกแกร่งพลันแข็งเกร็ง ขยับเหมือนหนึ่งจะกำ ท้องน้อยเองก็หดเกร็งเช่นกันหยางหยางสะดุ้งเล็กน้อยเพราะการกระทำนั้น ทำเอาหนิงซินสะดุ้งตาม แต่เพราะนางพยายามข่มใจไม่ให้รามือโดยง่าย มือที่ควรผละออกจึงกลายเป็นเคลื่อนไหวอยู่บนแผงอกแกร่งเหมือนหนึ่งแตะไล้หยอกเย้าจู่ๆ ส่วนที่ยังค้างคาอยู่ในกายนางส่วนนั้นก็ขยายตัวขึ้นอีกคราหนิงซินหน้าแดงจัด รู้สึกร้อนวูบไปทั้งหน้าทั้งตัว มือน้อยที่ทาบบนแผงอกกว้างยิ่งสั่นระริกไปกันใหญ่อา... นางช่าง...น่ารัก...หยางหยางพลันตื่นตัวเต็มที่อีกครั้ง ทำเอาเคร่งเครียด คิดหนัก...เมื่อครู่เพิ่งรังแกนางหนักหน่วงถึงเพียงนั้น หากลงมือซ้ำ เกรงว่าร่างกายเล็กๆ บอบบางใต้ร่างเขาอาจล้มป่วยลงอีกหน...“นะเจ้าคะ...ท่านแม่ทัพ ได้โปรด...” นางขอร้อง

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 56

    เขากอดร่างนางไว้แน่น กระแทกแรงๆ อีกหลายครั้ง ก่อนดันอาวุธร้ายเข้าลึก จากนั้นบางอย่างก็ระเบิดโพลงอยู่ข้างในนั้น ทำเอาในกายนางอุ่นร้อนชุ่มแฉะไปหมดเขา...ปลดปล่อยสิ่งนั้นข้างในอีกแล้ว? หนิงซินเสียวซ่านสุดจะหาคำบรรยาย ส่วนอ่อนนุ่มกระตุกเกร็ง สองขาหนีบเข้าหากันแน่นโดยไม่รู้ตัวหยางหยางฟุบตัวลง กอดร่างนางไว้แน่น เนิ่นนานนักถึงเลื่อนมือขึ้นลูบศีรษะน้อยๆ ของนางอย่างเบามือ ก่อนเคลื่อนตัวขึ้นจูบหน้าผากทั้งที่บางส่วนยังคงค้างคากันอยู่ แล้วลูบหลังปลอบโยนอย่างแผ่วเบาสำหรับบุรุษเช่นเขาแล้ว ความสัมพันธ์ทางกายกับความรักนั้นเป็นคนละเรื่องกัน ทว่าครั้งนี้ กับองค์หญิงน้อยผู้นี้ เขากลับรู้สึกต่างออกไปเขาไม่เคยเอ็นดูใส่ใจ เฝ้าถนอมและหวงแหนผู้ใดเท่าสตรีในอ้อมกอดร่างน้อยนี้มาก่อน“เมื่อครู่...เจ็บหรือไม่” หยางหยางถามอย่างไม่มั่นใจนักตัวเขาเองก็พยายามยั้งมือ ยับยั้งชั่งใจมากแล้ว ทว่า...ช่วงสุดท้ายนั้น มันสุดจะระงับจริงๆหนิงซินได้ยินคำถามแล้วใบหน้าตึงและเห่อร้อนขึ้นทันทีนางก้มหน้างุด ซุกแผงอกแกร่ง ส่ายหน้าน้อยๆ“ท

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 55

    จะไม่ให้นางตกใจได้อย่างไร ในเมื่อสิ่งที่เข้ามาในกายนางมันทั้งใหญ่โตมโหฬาร ทั้งดุนดันหน้าท้องนางจนอึดอัดคับแน่นไปหมด!สิ่งที่ทั้งร้อนและแข็ง ทั้งใหญ่ยาวเช่นนี้ เข้ามาในกายนาง!มิน่าเล่าครั้งแรกนั่นนางถึงได้...หนิงซินกระถดถอยหนีโดยสัญชาตญาณ แต่เขาขยับตาม“อา...” เขาครางอย่างพึงพอใจ ก่อนจะจับร่างนางขึ้นนั่งคร่อมร่างตนเองไว้ตอนแรกว่าตกใจแล้ว ตอนนี้หนิงซินกลับตกใจยิ่งกว่านางทั้งตกใจทั้งรู้สึกอับอายจนไม่อายนั่งตัวตรงอยู่ได้ ได้แต่หมอบกายลงกอดเกาะเขาไว้แน่น“แบบนี้น่าจะดีกว่า...” เขาบอกเสียงแหบห้าวหนิงซินหูอื้อตาลาย ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไรไม่ทันจะได้ถาม หยางหยางก็ค่อยๆ จับสะโพกนางขยับยก“ฮึก...!” เพียงเขาขยับมือเล็กน้อย เลือดลมในกายนางก็พลันแล่นพล่าน ความเสียวซ่านแปลกประหลาดแล่นปลาบจากปลายเท้าขึ้นสู่ศีรษะ ทำเอาตัวสั่นงันงกเหมือนลูกนกอ่อนแอยามแรกฟักจากไข่หยางหยางเห็นท่าทางนั้นแล้วยิ่งกว่าคันยิบๆ ในหัวใจ เขาทั้งเอ็นดูทั้งอยากรังแกนาง เอาคืนที่บังอาจมายั่วยวนบุรุษเช่นตน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status