ตอนที่ 7 มอบหมายงาน
“เจ้าช่างเป็นคนที่ซื่อตรงคิดเช่นไรเอ่ยมาเช่นนั้น หากเจ้าต้องการอยู่อย่างสงบเจ้าย่อมได้ตามที่เจ้าต้องการ มานั่งลงข้าง ๆ ข้าเถอะ เหม่ยหนิงไปนำจอกน้ำชามาต้อนรับพระชายารอง”
“เพคะ”
อี้หานยิ้มกริ่มอย่างดีใจที่เจอคนดีอย่างพระชายาเอกอย่างน้อยนางก็เบาใจเรื่องภรรยาหลวงรังแกภรรยาน้อย ทั้งสองนั่งคุยกับในเรื่องราวต่าง ๆ มากมายจนดวงตะวันเริ่มจะตั้งอยู่ตรงกลางหัว อี้หานจึงขอตัวกลับ
“ข้ามารบกวนเวลาท่านพี่เสวี่ยหมิ่นนานมากแล้ว ยามนี้แดดเริ่มแรงแล้วท่านเข้าไปพักผ่อนเถอะเพคะ ”
“นั่นสินะ ข้าพูดกับเจ้าเพลินไปหน่อย จริงสิ ท่านชินอ๋องได้บอกกับเจ้าหรือไม่ต่อจากนี้เจ้ามีหน้าที่อันใดในจวน” อี้หานคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย นางเป็นพระชายารองต้องมีหน้าที่ของตนเองด้วยหรือมิใช่ให้อยู่อย่างสบาย ๆ ไปวัน ๆ หรอกหรือ?
“มีงานด้วยหรือเพคะ”
“ตอนนี้ข้าดูแลงานหลังจวนหมดทุกอย่าง ในเมื่อเจ้าเข้ามาเป็นพระยาชารองที่นี่ต้องมีหน้าที่ของตนเองเช่นเดียวกัน เหม่ยหนิง เจ้าไปเอาบันทึกการซื้อของในห้องเครื่องมามอบให้แก่พระชายารองต่อจากนี้งานพวกนี้จะเป็นหน้าที่ของนาง อี้หานเจ้าเป็นบุตรสาวขุนนางแม้จะตำแหน่งน้อยก็คงได้ร่ำเรียนมาบ้างงานเพียงเท่านี้คงไม่ได้ยากเกินกว่าความสามารถของเจ้าใช่หรือไม่?”
“เพคะ ” อี้หานไม่อาจจะปฏิเสธได้ ในยุคที่นางมานางก็ทำงานการบัญชีของบริษัทแม้กระทั้งทะลุมิติมายุคโบราณนางยังหนีงานนี้ไม่ได้อีกอย่างนั้นหรือ
อี้หานเดินกลับตำหนักพร้อมทั้งการบันทึกบัญชีการจับจ่ายซื้อของใช้ในห้องเครื่องเล่มหนาหลายเล่ม
“พระชายาเอกดูเหมือนจะเป็นคนใจดีแต่พอมองดูดี ๆ หม่อมฉันรู้สึกถึงรังสีอำมหิตท่านต้องระวังตัวนะเพคะ”ซูซูเอ่ยพรางวางหนังสือบันทึกลงบนโต๊ะในห้องโถงของตำหนักพระชายารอง
“เจ้าอย่าเอ่ยเช่นนั้นสิ เจ้าไม่เห็นหรือไงสายตาที่พระชายามองมาที่ข้า นางเป็นคนจิตใจดีเจ้าอาจจะคิดไปเองก็ได้ เฮ้อ ! ที่ข้าหนักใจมิใช่เรื่องพระชายาเอกแต่เป็นงานที่อยู่ตรงหน้าต่างหากข้าต้องอ่านมันทั้งหมดนี่เลยหรือ ? ต้องใช้เวลาเท่าไหร่กันสมองข้าระเบิดพอดี ” อี้หานถอนหายใจเมื่อเห็นบันทึกกองใหญ่บนโต๊ะ ทว่าจู่ ๆ นางก็คิดอันใดออก
“ฮึ ฮึ ข้าคิดอะไรดี ๆ ออกแล้ว ซูซูอย่าลืมเรื่องที่เราวางแผนกันไว้ยามโหย่ว(18.00) เมื่อไหร่เจ้ารีบไปตั้งน้ำร้อนมาเช็ดตัวข้าทันที”
“เพคะ ๆ ” เมื่ออี้หานคิดแผนการออกนางไม่ได้กังวลใจอันใดหยิบหนังสือบันทึกมาอ่านทีละเล่มเพื่อรู้การใช้จ่ายในจวนชินอ๋อง แม้ว่าอยากจะหนีออกจากที่นี่แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ตนเองจะหนีออกไปได้ จึงต้องอ่านเพื่อทำความเข้าใจและไม่อยากจะขัดคำสั่งของพระชายาเอกอีกด้วย
ฝั่งด้านเสวี่ยหมิ่น
"เหตุใดพระชายาต้องทำดีกับชายารองด้วยเพคะ ปากของนางกล่าวว่าไม่อยากเข้าร่วมหอกับท่านชินอ๋อง เหมือนนางต้องการพูดจาเยาะเย้ยพระชายาเลยเพคะ "
"เหม่ยหนิง เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือไงกัน ! ที่ข้าทำดีกับนางเพราะต้องการรอดูว่านางจะทำเช่นไรต่อไปต่างหาก นางน่าจะใช้มารยาแสร้งเป็นเล่นตัวไม่ให้ท่านชินอ๋องถูกเนื้อต้องตัวถึงจะดูเหมือนได้มายากยิ่งน่าค้นหา เล่ห์เหลี่ยมของนางข้าดูออกตั้งแต่นางย่างกรายเข้ามาในจวน คอยจับตาดูนางเอาไว้นางจะมาไม้ไหน หากนางคิดไม่ดีต้องการตำแหน่งสูงเทียบเท่าข้า ข้าจะไม่เก็บนางเอาไว้"
"เพคะ" เสวี่ยหมิ่นคิดเอาไว้แล้วนางจึงมอบงานรายจ่ายของห้องเครื่องให้แก่อี้หาน นางคิดว่าอี้หานไม่ได้เฉลี่ยวฉลาดเท่าไหร่นัก หากวันหนึ่งต้องกำจัดนาง เสวี่ยหมิ่นจะใช้เรื่องการยักยอกเงินที่ใช้จ่ายในห้องเครื่องเป็นการใส่ร้ายนาง
ดวงตะวันคล้อยต่่ำลงในจวนเริ่มจุดโคมไฟตามทางเดินเพื่อเพิ่มแสงสว่างในจวนชายารองเริ่มดำเนินแผนการที่นางได้วางเอาไว้โดยมีซูซูคอยช่วยเหลือนำหม้อนำร้อน ๆ มาตั้งไว้ส่วนอี้หานนำผ้ามาคุมโปงครอบร่างกายของตนเองให้ไอร้อนที่ออกจากหมอใส่ร่างกายตนเอง นางคิดหากใช้ผ้าชุบเช็ดตัวคงร้อนไม่นาน เมื่อร้อนมากพอนางรีบเดินไปที่เตียงนอนใช้แป้งทาปากให้ขาวซีด ราวกับคนไม่สบายจริง ๆ สักพักเสียงของสาวรับใช้ที่ยินเฝ้าอยู่หน้าห้องได้เข้ามาแจ้งว่าท่านชินอ๋องเดินทางมาถึงหน้าตำหนักแล้ว
"พระชายาเพคะยามนี้ท่านชินอ๋องเดินทางมาถึงหน้าตำหนักแล้วเพคะ"
"มาแล้วสินะ ซูซูรีบทำตามแผนเร็วเข้า"
"เพคะพระชายา" ซูซูรีบนำผ้าที่ทาบหม้อน้ำร้อน ๆ มาทาบลงบนใบหน้าของอี้หานก่อนจะรีบนำหม้อไปเก็บไม่ให้ชินอ๋องเห็น
"พระชายาข้ามาแล้ว พวกเจ้าออกไปให้หมดวันนี้ข้าจะใช้เวลาร่วมกับพระชายาจนท้องฟ้าจะสว่าง" น้ำเสียงร่าเริงดังขึ้นพร้อมย่างกรายเข้ามาด้วยรอยยิ้ม สาวใช้รีบพากันเดินออกไปตามคำสั่งและปิดประตูให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง
"ท่านชินอ๋องเพคะ ข้าคิดว่าคืนนี้ข้าคงไม่มีเรี่ยวแรงปรนนิบัติและทำบุตรกับท่านเสียแล้ว ตั้งแต่ยามเว่ย(15.00) ข้ารู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ร่างกายกระสับกระส่ายพอตกเย็นมาข้าตัวร้อนราวกับไฟ แค่ก ๆ ข้าไม่สบายเพคะท่านชินอ๋องอย่าเข้ามาใกล้ข้านะเพคะเดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้" หวังหมิงจ้องมองร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงท่าทางอิดโรยปากขาวซีด หากอ่อนต่อโลกคงคิดว่านางไม่สบายจริง ๆ ทว่าเขาไม่ได้โง่เขลาถึงเพียงไม่รู้ว่านี่คือแผนการของนาง แต่เขาก็จะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและเดินเข้ามาหานางที่เตียงใบหน้าเริ่มแสดงความเป็นห่วงเป็นใย
"โธ่ ๆ พระชายาของข้าน่าสงสารเสียจริง ทำไมร่างกายถึงได้อ่อนแอเช่นนี้ นี่เจ้าตัวร้อนมากเลยนี่น่า ผู้ใดอยู่ข้างนอกรีบไปตามหมอหลวงมาตรวจร่างกายพระชายารองเดี๋ยวนี้" อี้หานลืมคิดเรื่องนี้ไปเสียสนิทเมื่อได้ยินว่าเขาให้บ่าวรับใช้ไปตามท่านหมอหลวงมาตรวจเช่นนี้นางจะต้องถูกจับได้แน่ ๆ รีบจับมือของอี้หานเอาไว้แน่น
"ท่านชินอ๋องอย่าลำบากเลยเพคะ เพราะข้ามีร่างกายอ่อนแอเช่นนี้มาตั้งแต่เด็กเพียงแค่นอนพักผ่อนรุ่งเช้าก็หายดีแล้วเพคะ"
"หากพระชายาเอ่ยมาเช่นนั้นข้าก็เบาใจ เช่นนั้นวันนี้ข้าจะไม่ร่วมหลับนอนกับเจ้าเอาไว้เมื่อไหร่ที่ร่างกายของเจ้าแข็งแรงเรื่องบนเตียงค่อยว่ากัน แต่ว่าคืนนี้ข้าจะนอนที่นี่ไม่แน่รุ่งเช้าร่างกายของเจ้าดีขึ้นข้าอาจจะอยู่กับเจ้าทั้งวัน" หวังหมิงยิ้มกริ่มถอดรองเท้าไว้เดินขึ้นไปนอนลงข้าง ๆ กายของอี้หานกอดร่างบางเอาไว้แน่น อี้หานรับมือไม่ทันคิดว่าเขาจะยอมกลับไปแต่โดยดี หากอาการตัวร้อนจากหม้อน้ำหมดไปนางคงเสร็จเขาแน่ ๆ
"ทะ..ท่านชินอ๋องไม่กลัวจะติดไข้จากข้าหรือเพคะ "
"ร่างกายของข้าแข็งแกร่ง ตั้งแต่เด็กจนโตข้าตากแดดตากลมมามากนัก ไม่ว่าจะถูกสายฝนกระหน่ำใส่ร่างกายสามวันสามคืนก็ไม่ทำให้ข้าเจ็บป่วยได้ พระชายานอนพักเถอะนะค่ำคืนนี้ข้าจะโอบกอดเจ้าให้ความอบอุ่นจนร่างกายของเจ้าหายเป็นปลิดทิ้ง"
ตอนที่ 27 เลือกชินอ๋องเพียงไม่เกินครึ่งชั่วยาม แม่ทัพจัดการเหล่าทหารของใต้เท้าจางจนหมดสิ้นทุกคน หน้าวังหลวงเต็มไปด้วยกลิ่นคาวโลหิตคละคลุ้ง ทหารจัดการเก็บซากศพไปโยนทิ้งให้แร้งให้กากิน ส่วนหลางอี้ถูกจับตายเช่นเดียวกัน ตระกูลจางถูกจับทุกคนรวมถึงใต้เท้าที่เข้าร่วมก่อการกบฏครั้งนี้ทุกตระกูล สายของชินอ๋องหวังหมิงพาแม่ทัพบุกทลายที่ซุกซ่อนของใต้เท้าจางเสวี่ยหมิ่นไม่ทันได้ตั้งตัวหนีจึงถูกจับกุมมาที่คุกหลวง การตัดสินโทษของใต้เท้าจางคือการประหารเจ็ดชั่วโคตรเสวี่ยหมิ่นมิอาจจะหลบหลีกได้ นางกรีดร้องเสียสติเมื่อเห็นท่านพ่อถูกประหารนำหัวไปเสียบประจานอยู่หน้าวังหลวง ผู้คนชั่วช้าได้รับโทษที่ตนเองกระทำเอาไว้ ตอนนี้ทุกอย่างในวังหลวงคลี่คลายไร้ใต้เท้าชั่วช้าคิดไม่ดีต่อราชวงศ์อีก3 วันต่อมาจวนชินอ๋องหวังหมิงหลังจากที่จับกุมใต้เท้าจางได้ชินอ๋องแต่งตั้งให้ซูอี้หานขึ้นมาเป็นพระชายาเอก เหม่ยหนิงได้รับความเมตตาจากหวังหมิงให้กลับมาทำงานในจวนเช่นอย่างเคย ตอนนี้นางอยู่ห้องเครื่องแรก ๆ ทุกคนในจวนต่างพากันรังเกียจนางเพราะเสวี่ยหมิ่นเจ้านายของนางเป็นคนโหดเหี้ยมหักหลังได้แม้กระทั่งสวามีของตน
ตอนที่ 26 เริ่มเคลื่อนไหวเสวี่ยหมิ่นไม่หยุดนางลูบไล้บนอกแกร่งอย่างลืมตัว ร่างกายของหลางอี้สั่นสะท้านรีบจับมือของเสวี่ยหมิ่นให้หยุดกระทำก่อนที่ทุกอย่างจะเกินเลยไปมากกว่านี้“ข้าบอกให้ท่านหยุดได้แล้ว ทำไมถึงไม่หยุดเล่ายามนี้ข้ามิใช่เด็กชายตัวน้อยที่คอยให้ท่านหยอกเล่นเหมือนเมื่อก่อนและนะขอรับ”“ข้าก็ไม่ได้มองเจ้าเป็นเด็กชายตัวน้อยที่เมื่อก่อนถูกข้ารังแกเสียหน่อย ” หลางอี้มิอาจจะทนได้อีกต่อไปจับปลายคางของนางให้เผยอขึ้นก่อนจะบดจูบลงที่ริมฝีปากบางอย่างหนักหน่วงด้วยความถวิลหา ร่างบางสั่นสะท้านไปทั้งตัวสมองขาวโพลนอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน เลือดในร่างกายเริ่มพลุ่งพล่านโอบกอดคอของอีกฝ่ายอย่างลืมตัว เคลิบเคลิ้มกับรสจุมพิตที่เขามอบให้ทั้งสองแลกสัมผัสกันอย่างลึกซึ้งท่ามกลางเสียงน้ำที่ไหลไปตามกระแสน้ำ เหล่าแมลงปอเป็นพยานรักในครั้งนี้ เสวี่ยหมิ่นรู้สึกดีมาก ๆ จนแปลกใจว่าวันนั้นที่นางนอนกับชินอ๋องหวังหมิงใช่เรื่องจริงหรือไม่? จนกระทั่งความเจ็บปวดกับความเสียวซ่านที่ถาโถมเข้ามาพร้อม ๆ กันทำให้นางรู้ตัวทันทีว่านางถูกชินอ๋องหลอกลวงเข้าแล้ว และนี่คือครั้งแรกที่นางนอนกับบุรุษ ยิ่งทำให้นางแค้นชินอ๋องมากกว่า
ตอนที่ 25 เสวี่ยหมิ่นหนีไปฝั่งด้านอี้หาน นางกลับมาที่ตำหนักด้วยความผ่อนคลาย คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่นางเปิดโปงความผิดของเสวี่ยหมิ่น“หม่อมฉันไม่คิดเลยนะเพคะว่าพระชายาเสวี่ยหมิ่นจะโหดร้ายโยนความผิดให้แก่สาวใช้ที่จงรักภักดีต่อนางเช่นนั้น ”“เพราะนางไม่เคยรักใครมากกว่าตนเองนะสิ เอาล่ะตอนนี้ทุกอย่างเริ่มคลี่คลายต่อจากนี้ข้าคงได้อยู่ที่นี่อย่างสุขสบาย วันนี้อากาศช่างดีเสียจริง” อี้หานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนยกภูเขาออกจากอก ยามราตรีมาเยือนหวังหมิงกลับเข้ามาจากข้างนอกค่ำคืนนี้เขาก็ไปที่ตำหนักของซูอี้หานเช่นเดิม ทั้งสองนั่งกอดกันอยู่บนเตียงในห้องที่มีเพียงแสงเทียนริบหรี่ กลิ่นกำยานคละคลุ้งเต็มอากาศ“ต่อจากนี้ท่านจะทำเช่นไรต่อไปเพคะ ”“เรื่องของเสวี่ยหมิ่นนะหรือ? ข้าคิดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วนางไม่ยอมให้ตนเองถูกลงโทษแน่ ๆ ข้าให้คนของข้าเฝ้าจับตามอง นางจ้างวานให้สาวใช้นำจดหมายไปมอบให้แก่ใต้เท้าจางค่ำคืนนี้ในจวนของข้าคงจะมีหนูแอบซ่อนตัวเข้ามาขโมยของ เรารีบเข้านอนกันเถอะคนพวกนั้นจะได้ทำตามแผน”“เดี๋ยวสิเพคะ ท่านจะยอมปล่อยนางไปง่าย ๆ เช่นนี้หรือได้อย่างไรกัน”“ซูอี้หานเจ้าไม่ต้องเป็นกังวลข้ามิได้
ตอนที่ 24 โยนความผิด เขาได้อ่านและยอดที่จ่ายคนงานในจวนอีกทั้งซื้อของเข้าห้องเครื่องไม่ตรงกับที่ลงบันทึกเอาไว้ ยอดเงินในคลังหายไปทุกครั้งที่ทำการเบิกจ่าย ยิ่งตรวจสอบยิ่งเห็นว่าระยะเวลาที่หายไปคือช่วงที่พระชายาเสี่ยวหมิ่นดูแล เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อพระชายาเอกเขาได้ตรวจสอบลายมือของทั้งสองมันไม่มีตรงใดที่เหมือนกันสักนิด“ทูลท่านชินอ๋องข้าน้อยได้ตรวจสอบแล้วมีการหายไปและจำนวนของที่เข้ามาไม่ตรงกับจำนวนเงินที่ออกไปจริง ๆ และการตรวจสอบลายมือทั้งสองไม่เหมือนกันด้วยพะย่ะค่ะ พร้อมทั้งหมึกในบันทึกกระหม่อมตรวจสอบแล้วเป็นหมึกที่เขียนมานาน หากจะเกิดการเขียนใหม่จากพระชายารองคงมิใช่ เพื่อความเป็นธรรมกระหม่อมอยากให้พระชายาทั้งสองเขียนลายมือตนเองลงใส่กระดาษต่อหน้าทุกคนเพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์พะย่ะค่ะ” เจิงหลงเดินเข้ามาพร้อมหมึกและพู่กันวางลงบนโต๊ะซูอี้หานเดินมาหยิบพู่กันอย่างมั่นใจเขียนลงบนกระดาษเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ลายมือของนางเหมือนที่นางส่งให้ใต้เท้าทุกตัวอักษร เสวี่ยหมิ่นเริ่มสั่นกลัว นางสั่นเทาค่อย ๆ เดินไปหยิบพู่กันเขียนลงบนกระดาษครานั้นนางก็คิดได้‘แม้จะตรวจสอบว่าเป็นข้าที่เขียนลงข้
ตอนที่ 23 เอาคืนซูซูประคองอี้หานเข้าตำหนักสำรวจร่างกายไม่เห็นร่องรอยบาดเจ็บนางสบายใจขึ้นมาพร้อมสงสัยว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของผู้ใดกันแน่“พระชายาเพคะ คนพวกนั้นไม่ได้ทำอันใดแล้วจับตัวพระชายาไปทำไมเพคะ หรือว่าต้องการเบี้ยอัฐ”“คนพวกนั้นถูกพระชายาเสวี่ยหมิ่นสั่งการมาให้จับตัวข้า ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่านางไม่เคยหวังดีกับข้าและเรื่องการยักยอกเงินนางต้องมีแผนใส่ร้ายข้าแน่นอน ในเมื่อร้ายมาข้าก็จะร้ายกลับจะเล่นงานข้าหรือ? ข้าจะเอาคืน”“แต่ว่าพระชายาเอกมีอำนาจมากนะเพคะ ไหนจะท่านพ่อของนางอีก คงไม่มีทางปล่อยให้พระชายชายารองใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายแน่นอน”“ข้าไม่กลัวหากเรายอมนาง นางก็คิดจะรังแกเราฝ่ายเดียว รุ่งเช้าข้าจะนำเรื่องที่นางยักยอกเงินแจ้งกับทุกคนได้ทราบอย่างทั่วถึง คอยดูว่านางจะทำหน้าเช่นไรในเมื่อต้องการใช้แผนนี้จัดการข้าแต่ข้าชิงลงมือก่อน”“ข้าเป็นห่วงพระชายาจริง ๆ นะเพคะ อยู่อย่างสงบไม่ดีกว่าหรือ”“ใจของข้าปรารถนาอยากอยู่อย่างสงบแต่อีกฝ่ายระรานข้าก่อน ข้าต้องปกป้องตนเองให้นางได้เห็นว่าข้าไม่ใช่สตรีโง่เขลาที่รังแกได้ง่าย ๆ อีกอย่างตั้งแต่วันนี้ชินอ๋องสั่งการให้องครักษ์เงาคอยปกป้องดูแลข้า เจ้
ตอนที่ 22 ไม่มีวันได้ใจ ฝั่งด้านเสวี่ยหมิ่นนางกลับมาที่ตำหนักเดินไปเดินมาอย่างร้อนใจ ก่อนหน้านี้นางไปดูการแสดงละครกับอี้หานตอนนั้นความโกรธเกรี้ยวที่มีต่ออี้หานยิ่งเห็นสายตาของหวังหมิงจ้องมองนางไม่กระพริบสายตาแถมยังถูกหวังหมิงตำหนิยิ่งทำให้นางอิจฉา จึงบอกแก่อี้หานว่านางเจ็บท้องขอเวลาสักครู่ อี้หานไม่ได้คิดอันใดคิดว่าเสวี่ยหมิ่นเจ็บท้องจริง ๆ และตอนนั้นนางกำลังสนุกสนานกับการแสดงจึงไม่ได้ตามเสวี่ยหมิ่นไป นางเดินไปเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังนั่งดื่มสุราจึงว่าจ้างให้ไปจับตัวอี้หานและทำให้เกิดความวุ่นวาย พานางไปให้ไกลที่าสุดหรือในป่าลึกและปล่อยนางทิ้งไปเสียสตรีอ่อนแอเช่นนางคงไม่มีทางหาทางออกจากป่าได้ ชายฉกรรจ์รับคำว่าจ้างเพราะเห็นเบี้ยอัฐที่เสวี่ยหมิ่นโยนมาให้มากจนตนตาโตเพราะความโลภ นางจึงบอกรูปลักษณ์ของอี้หานพร้อมสีผ้าอาภรณ์ที่นางสวมใส่มาวันนี้ งานนี้มิใช่เรื่องยากชายฉกรรจ์จึงรับปากจะทำทันที เสวี่ยหมิ่นเดินกลับมายืนข้างกายของอี้หานเพื่อให้คนกลุ่มนั้นได้เห็นว่าสตีนางใดที่เขาต้องจับตัวไป แคร่ก!!'เสียงประตูเปิดเข้ามาเสวี่ยหมิ่นตกใจเล็กน้อยแต่เมื่อเห็นว่าเป็นเหม่ยหนิงนางโล่งอกขึ้นมาทั