Share

บทที่ 34

Penulis: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 34

“ซีเอ๋อร์ ช่วงนี้เธอย้ายมาอยู่กับฉันก่อนเถอะ”

“ช่วงนี้ฉันคงไม่ได้อยู่อย่างสงบหรอก ไม่อยากไปรบกวนชีวิตเธอ วางใจเถอะ ไม่มีใครรู้ว่าฉันอยู่ที่ว่านจิ่นฟุ เรสซิเด้นซ์ ปลอดภัยดี”

เมื่อโหยวฉีเห็นว่าที่นั่นคือที่ที่จ้าวจวิ้นโจวเป็นคนจัดเตรียมให้ จึงคิดว่านั่นคงเป็นที่ที่ปลอดภัยมากกว่ามาอยู่กับเธอแน่นอน เพราะคนที่คอยตามตอแยสวีเหยียนซีไม่ใช่มีเพียงแค่ฉินเซียว แต่ยังมีลูกชายคนโตของตระกูลสวีอีกด้วย

โหยวฉีหันหน้าเข้าหาหน้าต่างรถพร้อมกับพนมมือขึ้น “ขอให้พวกเขาได้อยู่คู่กันอย่างราบรื่นตราบชั่วฟ้าดินสลาย จะได้ไม่ต้องมาทำร้ายซีเอ๋อร์อีก”

สวีเหยียนซียิ้มออกมาอย่างชื่นใจ

ใช่สิ มันต้องราบรื่นสิ

หลายวันที่ผ่านมานี้สำหรับเธอรู้สึกว่ามันช่างยาวนานราวกับเป็นศตวรรษ เธอทั้งเหนื่อยและทรมาน ราวกับกำลังถูกลอกผิวหนังทั้งเป็น เธอได้แต่หวังว่าช่วงทบทวนที่กำลังจะมาถึงนี้จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เพื่อที่เธอจะได้ตัดขาดจากฉินเซียวได้สักที จากนั้นจะได้ปลีกตัวออกมาใช้ชีวิตของตัวเองอย่างมีความสุข

ทันใดนั้น จู่ ๆ เหมือนโหยวฉีจะคิดอะไรบางอย่างได้ จึงหันหน้าไปถามว่า “ซีเอ๋อร์ คนที่เธอให้ฉันไปหานี่คือใครกัน เชื่อถือได้ใช่ไหม?”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้สวีเหยียนซีก็พยักหน้าตอบด้วยความมั่นใจ “อืม เชื่อถือได้ ฉันคาดว่าพอสวีหว่านหนิงได้ยินเสียงนั้นว่าเขาคือใครแล้วคงยืนอึ้งไปเลยล่ะ”

“แล้วเธอไปเจอเขาได้ยังไง?”

“ไม่ใช่ฉันที่เป็นฝ่ายไปหาเขา เขาเองต่างหากเป็นฝ่ายเข้ามาหาฉัน”

นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครึ่งเดือนก่อนที่จะจดทะเบียนสมรส

ตอนนั้นเธอกำลังวุ่นอยู่กับการจัดวางของตกแต่งชิ้นสุดท้ายในเรือนหอ แต่แล้วก็มีชายส่งพัสดุคนหนึ่ง ที่มาส่งของถึงหน้าบ้านเธอ จากนั้นเขาได้ถอดหน้ากากออกต่อหน้าเธอ พร้อมกับแนะนำตัวเองว่าตนชื่อเหลียงจื่อซั่ว เขาคือผู้ชายที่สวีหว่านหนิงแอบกิ๊กกั๊กด้วย แต่เรื่องแบบนี้สวีเหยียนซีไม่ค่อยสนใจและไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วย

แต่ผู้ชายคนนี้กลับเอาเรื่องบนเตียงของพวกเขามาเล่าให้เธอฟังอย่างละเอียดแบบทุกซอกทุกมุมเก็บทุกเม็ด บอกว่าสวีหว่านหนิงมีรสนิยมบางอย่างบนเตียง แถมเขายังเผยร่องรอยบาดแผล รอยช้ำต่าง ๆ ให้เธอดูอีกด้วย ในตอนนั้นเธอเกือบจะโทรแจ้งตำรวจเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเหลียงจื่อซั่วแก้แค้นสวีหว่านหนิงไม่ได้ เลยมาหาเรื่องเธอแทน

แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าแท้จริงแล้วเหลียงจื่อซั่วรู้ตัวว่ากำลังจะโดนสวีหว่านหนิงสะบัดทิ้ง เขาจึงต้องการความช่วยเหลือจากเธอ แต่ในตอนนั้นเธอคิดถึงแต่เรื่องงานแต่งกับฉินเซียวเท่านั้น จึงปฏิเสธเขาไป เหลียงจื่อซั่วเห็นดังนั้นก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรเธอ แต่ก่อนที่เขาจะจากไป เขาได้บอกที่อยู่ของตนเอง และบอกกับเธอว่ายินดีต้อนรับเธอให้ไปหาเขาอยู่ทุกเมื่อ

ไพ่ใบนี้ สวีเหยียนซีตั้งใจเก็บไว้ใช้เป็นไพ่ตาย แต่สถานการณ์การหย่าร้างในคืนนี้เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนอยู่แล้ว เพียงแต่เธอไม่อยากให้สวีหว่านหนิงได้ทุกอย่างไปอย่างกับปลอกกล้วยเข้าปาก เพราะเหตุนี้เธอจึงให้โหยวฉีไปหาเหลียงจื่อซั่ว

-

หลังจากที่เธอปฏิเสธที่จะให้โหยวฉีอยู่เป็นเพื่อน เธอขับรถไปส่งโหยวฉีเสร็จก็ขับกลับไปที่ว่านจิ่นฟุ เรสซิเด้นซ์

ขณะที่กำลังอยู่ในลิฟต์ เธอทิ้งตัวพิงผนัง ปล่อยให้อารมณ์ที่อัดอั้นอยู่ในใจค่อย ๆ ปลดปล่อยออกมา

จนกระทั่งโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น ซึ่งเป็นสายที่ไม่ระบุชื่อ

สัญชาตญาณบอกเธอบอกว่าต้องเป็นสวีหว่านหนิงหรือไม่ก็ฉินเซียว

เธอจึงตัดสินใจรับสาย

“เสี่ยวซี” น้ำเสียงอันคุ้นเคยที่เปล่งออกมาด้วยความเศร้า หม่นหมองและอมทุกข์ ซึ่งฟังดูไร้ชีวิตชีวาเหลือเกิน

สวีเหยียนซีกำมือแน่น น้ำตาค่อย ๆ เอ่อล้นออกมาจากดวงตา “มีอะไรอีก?”

ฉินเซียวพูดขึ้นอย่างขมขื่นว่า “ผมรู้ว่าตอนนี้ผมพูดอะไรไปมันคงไม่มีประโยชน์แล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังอยากจะอธิบายให้คุณได้ฟังอย่างชัดเจนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับสวีหว่านหนิงในคืนนี้เป็นเพราะผมถูกวางยา”

“สวีกั๋วหมิงใช้เรื่องลูกค้ามาเป็นตัวล่อให้ผมออกมา จากนั้นก็วางยาในน้ำ ผมรู้ว่ามันอาจจะฟังดูไร้สาระเพราะเขาคือพ่อของคุณ แต่ผมไม่ได้โกหก เขามันก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์นรก เขาช่วยสวีหว่านหนิงทำลายความสัมพันธ์ของเรา”

เสียงของเขาค่อย ๆ ดังขึ้นและเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

เมื่อสวีเหยียนซีได้ยินดังนั้น ใบหน้าของเธอก็ค่อย ๆ ซีดเผือดลงทีละน้อย

ฉินเซียวยังคงถือสายโทรศัพท์พลางร้องไห้ “ขอโทษนะเสี่ยวซี ทั้งหมดมันเป็นเพราะผมเองที่มันโง่เขลาเบาปัญญา ถูกหลอกให้ติดกับแบบนี้ ทุกอย่างมันคือความผิดของผมเอง การแต่งงานครั้งนี้... ผมไม่อยากหย่าจริง ๆ และผมยิ่งไม่อยากแต่งงานกับยัยผู้หญิงบ้านั่น ถึงแม้ในชีวิตนี้เราสองคนจะไม่มีทางได้สมหวังกัน แต่ผมขอยอมเป็นโสดไปตลอดชีวิตยังดีกว่าต้องไปแต่งงานกับใครคนอื่น”

ไม่รู้ทำไม เมื่อเธอได้ยินประโยคนั้นแล้วรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีเอามาก ๆ

เธอสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่อย่างเงียบ ๆ ก่อนจะเริ่มแสร้งทำเป็นใจเย็นพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ฉินเซียว ฉันหวังว่าคุณจะตั้งสติให้ได้นะ พวกเรามาถึงจุดจบแล้วจริง ๆ ”

เธอคาดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับสวีกั๋วหมิงด้วย

แต่ถึงอย่างนั้น ไม่ว่าจะถูกวางยาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่มีทางกลับไปแก้ไขได้อีกแล้ว เธอคงทำได้แค่เพียงเห็นใจกับเรื่องราวที่เขาต้องเผชิญเท่านั้น เรื่องการนอกใจของเขาก่อนหน้านี้ไม่สามารถเอาเรื่องนี้มาลบล้างได้ เรื่องนี้เขาไม่ใช่เหยื่อเพียงคนเดียว จึงพูดได้แค่ว่าเขาเป็นคนพลาดเองและถูกสวีกั๋วหมิงฉวยโอกาสเล่นงานซ้ำอีกครั้ง

“ผมรู้นะว่าตอนนี้ในสายตาคุณผมมันคือไอ้ขยะไร้ค่า! ไอ้คนโง่ไม่รู้จักโตเป็นผู้ใหญ่!” ฉินเซียวพูดต่ออย่างไม่ยอมแพ้ “ก็คงเป็นเพราะความโง่เขลาและไม่รู้จักโตของผมถึงได้ตกหลุมพลางติดกับซ้ำแล้วซ้ำอีก ทั้ง ๆ ที่ผมเคยสัญญาว่าจะดูแลคุณไปตลอดชีวิตแท้ ๆ แต่กลับทำสิ่งที่น่ารังเกียจที่สุดในสายตาคุณ”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 56

    บทที่ 56เมื่อลุกขึ้นมามองเวลา แปดโมงแล้ว เธอจึงรีบลุกขึ้นมาล้างหน้าบ้วนปากเมื่อเปิดประตูออกไป เธอชนกับฟางห่าวพอดี“ผู้ช่วยฟาง คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” ในขณะเดียวกันเธอสังเกตเห็นยาในมือของฟางห่าว ยาไอบูโพรเฟน… เธอถามออกไปด้วยความเป็นห่วงว่า “ผู้ช่วยฟาง คุณมีไข้หรือปวดหัวเหรอคะ?”ฟางห่าวตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่า “จู่ ๆ ท่านประธานจ้าวก็ไข้ขึ้นสูงครับ”สวีเหยียนซีตะลึงไปชั่วครู่ “ท่านประธานจ้าวไม่สบายเหรอคะ?”เมื่อคืนยังดี ๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ?!“ใช่ครับ อุณหภูมิจะแตะสี่สิบองศาแล้ว”“ไม่ได้เรียกหมอเหรอคะ?”“ท่านประธานจ้าวไม่ยอมให้ผมเรียกครับ”โตเป็นผู้ใหญ่แล้วยังจะกลัวหมอ? สวีเหยียนซีจึงพูดว่า “เขาป่วยขนาดนี้แล้วอย่าให้ไข้ขึ้นจนสติมึนงงไปเลยนะคะ ผู้ช่วยฟางฉันแนะนำว่าคุณเรียกหมอดีกว่านะคะ อย่าตามใจเขาเลย คาดว่าตอนนี้เขาน่าจะไข้ขึ้นจนสมองเลอะเลือน ต่อให้เขาจะคัดค้าน เขาก็ไม่มีแรงหรอกค่ะ”เขาเหมือนกับเนื้อปลาวางบนเขียง จัดการได้สบาย ๆในใจของฟางห่าวถึงกับตะลึง สมกับเป็นผู้หญิงที่ประธานจ้าวชอบ ช่างกล้าหาญจริง ๆ“ได้ครับ ผมจะไปเรียกหมอเดี๋ยวนี้ งั้นรบกวนสถาปนิกสวีช่วยผมจับตาดูหน่อยนะคร

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 55

    บทที่ 55“สวีเหยียนซี?”เสียงเคี้ยวน้ำแข็งกรอบแกรบหยุดลงทันที สวีเหยียนซีเงยหน้าขึ้น ด้วยความตะลึงปนงงงวย จ้องไปยังร่างสูงตรงหน้าสีหน้าของจ้าวจวิ้นโจวว่างเปล่าไปหลายวินาที ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเองว่าเธอยัดก้อนน้ำแข็งเข้าปาก แค่ฟังเสียง เขาคงสงสัยว่าเธอกำลังเคี้ยวกระดูกแน่ ๆ“คุณ… เป็นอะไรหรือเปล่า?” หลังจากตกใจ จ้าวจวิ้นโจวก็แสดงสีหน้ากังวล พร้อมกับก้าวสามก้าวเหมือนพุ่งเข้ามา แล้วย่อตัวลงหน้าเธอก่อนถามว่า “อยู่ดี ๆ กินน้ำแข็งทำไม? เป็นไข้เหรอ?”ตอนที่ถาม เขายื่นมือออกไปแตะหน้าผากสวีเหยียนซีอุณหภูมิปกติยิ่งทำให้เขาไม่เข้าใจ จึงสรุปได้เพียงอย่างเดียวว่า “กินน้ำแข็งกลางดึกเป็นนิสัยส่วนตัวคุณเหรอ?”ก้อนน้ำแข็งในปากละลายเป็นน้ำหมดแล้ว สวีเหยียนซีกลืนน้ำลาย แล้วส่ายหน้าว่า “ไม่ใช่ค่ะ คือฉันคอแห้ง”“กระหายน้ำก็ดื่มน้ำสิ คุณกินน้ำแข็งทำไม?!” จ้าวจวิ้นโจวหยิบกล่องใส่น้ำแข็งไป “ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้วนะ สวีเหยียนซี”“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว” สวีเหยียนซีตาไวมือไว ห้ามไม่ให้จ้าวจวิ้นโจวเอากล่องน้ำแข็งกลับใส่ตู้เย็น เธอพูดด้วยความอายว่า “คือเมื่อคืนฉันกินซุปเป็ดมากไป ฉันดื่มน้ำก็ไม่ดี

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 54

    บทที่ 54“ได้ค่ะ รับทราบค่ะ”สวีเหยียนซีไม่ตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย เพราะจ้าวจวิ้นโจวรู้ดีว่านี่เป็นหนึ่งในจุดแข็งด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมของเธอหลังจ้าวจวิ้นโจวทานอิ่มแล้วก็หยิบโทรศัพท์มาตอบข้อความ เขาไม่ได้ขยับตัว เพราะสวีเหยียนซียังทานอาหารอยู่ เขาจึงนั่งเป็นเพื่อนเธอแบบแฝง ๆส่วนสวีเหยียนซีกลับคิดว่าเขาแค่นั่งตอบข้อความเพียงอย่างเดียว ดังนั้นจึงไม่อยากขยับ แต่ด้วยความประหม่า เธอก็เลยทานอีกไม่กี่คำก็เสร็จอย่างลวก ๆพฤติกรรมของเธอหลบไม่พ้นสายตาของจ้าวจวิ้นโจว“ผมเร่งให้คุณทานเร็ว ๆ หรือไง?”“ฉันกินอิ่มแล้วค่ะ” สวีเหยียนซีส่ายหน้าอธิบายมือซ้ายของจ้าวจวิ้นโจววางโทรศัพท์บนต้นขาอย่างสบาย ๆ ดวงตาเป็นประกาย แต่ที่มากกว่าคือความจนปัญญา “สวีเหยียนซี ทำไมคุณทำราวกับผมจะกินคุณอย่างไงอย่างงั้น”สวีเหยียนซีอายจนหน้าแดง ก่อนยิ้มตอบด้วยความสุภาพว่า “เปล่าค่ะ ฉันอิ่มแล้วจริง ๆ”สำหรับความสุภาพจอมปลอมนี้ของเธอ จ้าวจวิ้นโจวควรชินตั้งนานแล้ว แต่ยิ่งมองเขายิ่งอยากจะฉีกหน้ากากจอมปลอมของผู้หญิงคนนี้ออกจริง ๆเมื่อถูกจ้องมองอยู่แบบนี้ สวีเหยียนซีรู้สึกราวกับโดนสัตว์ป่าที่จ้องมองเหยื่ออันแสนอร่อย

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 53

    บทที่ 53จ้าวจวิ้นโจวหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง ราวกับจะบอกเธอว่า จู่ ๆ ก็ลากผมเข้ามาเกี่ยวด้วยทำไมสวีเหยียนซีรู้สึกว่าครั้งนี้เธอฉลาดเป็นพิเศษ แทบจะเข้าใจสีหน้าของเขาทันที เธอยิ้มเล็กน้อยก่อนพูดว่า “ประธานจ้าว ถ้าคุณเห็นผู้หญิงทุกคนที่จู่ ๆ ก็คลื่นไส้ขึ้นมา คุณจะสงสัยว่าท้องหมดล่ะสิ”ประโยคนี้เต็มไปด้วยการหยอกล้อกวนประสาท รวมทั้งเป็นการตำหนิพฤติกรรมเดามั่ว ๆ ของจ้าวจวิ้นโจวด้วยจ้าวจวิ้นโจว “…”ฟางห่าวกระแอมไอขึ้นมาอีกครั้ง พลางยกกำปั้นทุบฝ่ามือซ้ายอย่างไม่แรงไม่เบา ก่อนเอ่ยว่า “หา ที่แท้เป็นเรื่องเข้าใจผิดนี่เอง สถาปนิกสวี คุณรู้ไหมครับ ตอนนั้นท่าทางคุณที่รีบไปห้องน้ำ ทำให้คนอื่นตกใจกันหมด ผมก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้ว รอประธานจ้าวแจ้งให้ผมเรียกรถฉุกเฉินหรือรถพยาบาล”“เรียกรถพยาบาลทำไมคะ?” สวีเหยียนซีหลุดปากถามออกไป“ผมกับท่านประธานจ้าวสงสัยว่าอาหารร้านนั้นจะไม่สะอาด” ฟางห่าวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง จนทำให้สวีเหยียนซีเกือบเชื่อสนิทใจฟางห่าวยิ้มกว้างด้วยความเป็นมิตร ก่อนหยิบน้ำมะนาวขึ้นมาด้วยความกระตือรือร้น “ในเมื่อสถาปนิกสวีอยากดื่มกาแฟ งั้นผมไปเปลี่ยนมาให้นะครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ…” เมื

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 52

    บทที่ 52สวีเหยียนซีเม้มปากเล็กน้อยก่อนเอ่ยว่า “ผู้ช่วยฟาง ฉันขอถามหน่อยค่ะว่าพวกเราต้องอยู่เมืองไห่อีกนานเท่าไหร่?”ฟางห่าวแปลกใจเล็กน้อย “สถาปนิกสวีมีธุระด่วนหรือเปล่าครับ?”เธอส่ายหัวก่อนตอบว่า “เมื่อกี้ฉันเจอเพื่อนของพี่ใหญ่ที่ใต้ตึกค่ะ”นี่ไม่ใช่เรื่องด่วน แต่เป็นเรื่องไม่ค่อยดี ฟางห่าวจึงพูดว่า “งั้นคุณเข้าไปบอกท่านประธานจ้าวเถอะครับ”หลังจากจ้าวจวิ้นโจวได้ฟังเรื่องนี้ ก็ขมวดคิ้วก่อนถามว่า “ใคร?”“ลู่ฉือค่ะ”ตระกูลลู่ก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลตระกูลหนึ่งในเมืองจิง จ้าวจวิ้นโจวเคยได้ยินมาบ้าง “งั้นก็เปลี่ยนที่อยู่”ประมาณสิบห้านาทีต่อมา สวีเหยียนซีสังเกตเห็นรถของพวกเขาแล่นเข้าไปยังคฤหาสน์สไตล์โบราณที่เงียบสงบท่ามกลางย่านพลุกพล่านพ่อบ้านและบรรดาคนรับใช้ยืนเรียงกันเป็นระเบียบทั้งสองฝั่ง พร้อมกันเอ่ยว่า “ยินดีต้อนรับคุณผู้ชายกลับบ้านครับ/ค่ะ”สวีเหยียนซีเพิ่งรู้ตัวว่า นี่คือคฤหาสน์ของจ้าวจวิ้นโจวเขามีบ้านอยู่ที่นี่ แล้วยังจะไปอยู่โรงแรมทำไมกัน?มีเงินเยอะจนไม่มีที่ใช้งั้นเหรอ?ฟางห่าวสังเกตเห็นว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จึงอธิบายด้วยความเป็นมิตรว่า “ท่านประธานจ้าวเกรงว

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 51

    บทที่ 51ตอนที่เรื่องราวของสวีหว่านหนิงและฉินเซียวแล่นเข้ามาในสมองเธออย่างบ้าคลั่ง สวีเหยียนซีรู้สึกคลื่นไส้โดยไม่มีเหตุผลอย่างฉับพลัน“ขอโทษนะคะ ฉันไปห้องน้ำก่อนนะคะ”เธอวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่แสดงความบิดเบี้ยวนั้นจ้าวจวิ้นโจวมองเห็นได้อย่างชัดเจน ดวงตาของเขามืดดำลง ก่อนลุกขึ้น และหยิบขวดเลมอนโซดาจากโซนที่วางเครื่องดื่ม แล้วก็เดินอย่างไม่ช้าไม่เร็วไปยังห้องน้ำในห้องน้ำ สวีเหยียนซีรู้สึกคลื่นไส้หลายครั้ง แต่ไม่ได้อาเจียนอะไรออกมาเลย หลังจากที่เธอบังคับตัวเองไม่ให้คิดถึงภาพที่น่าสะอิดสะเอียน อาการคลื่นไส้นั้นจึงค่อย ๆ หายไปบ้าไปแล้ว อยู่ดี ๆ จะคิดเรื่องนั้นทำไมกันเธอสะอิดสะเอียนตัวเองชัด ๆหลังจากล้างมือเสร็จ สวีเหยียนซีก็เดินออกมาจากห้องน้ำเธอพบว่าจ้าวจวิ้นโจวยืนพิงผนังอยู่ เธออึ้งไปก่อนเอ่ยว่า “ท่านประธานจ้าวคะ คุณก็มาเข้าห้องน้ำเหรอคะ?”“มาหาคุณ”“???” สวีเหยียนซีครุ่นคิดครู่หนึ่ง เธอคิดว่าเขาอยากจะถามเรื่องที่เธอคุยกับเหมาเจียนั่ว “ประธานจ้าววางใจเถอะค่ะ คุณเหมาไม่ได้มาถามเรื่องคุณกับฉันหรอกค่ะ”จ้าวจวิ้นโจวหน้าตาเคร่งขรึม ไม่สามารถอ่านอารมณ์ออก เขายื่นเลมอนโซดาใ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status