Share

บทที่ 52

Author: อวี๋ปู้เหยียน
บทที่ 52

สวีเหยียนซีเม้มปากเล็กน้อยก่อนเอ่ยว่า “ผู้ช่วยฟาง ฉันขอถามหน่อยค่ะว่าพวกเราต้องอยู่เมืองไห่อีกนานเท่าไหร่?”

ฟางห่าวแปลกใจเล็กน้อย “สถาปนิกสวีมีธุระด่วนหรือเปล่าครับ?”

เธอส่ายหัวก่อนตอบว่า “เมื่อกี้ฉันเจอเพื่อนของพี่ใหญ่ที่ใต้ตึกค่ะ”

นี่ไม่ใช่เรื่องด่วน แต่เป็นเรื่องไม่ค่อยดี ฟางห่าวจึงพูดว่า “งั้นคุณเข้าไปบอกท่านประธานจ้าวเถอะครับ”

หลังจากจ้าวจวิ้นโจวได้ฟังเรื่องนี้ ก็ขมวดคิ้วก่อนถามว่า “ใคร?”

“ลู่ฉือค่ะ”

ตระกูลลู่ก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลตระกูลหนึ่งในเมืองจิง จ้าวจวิ้นโจวเคยได้ยินมาบ้าง “งั้นก็เปลี่ยนที่อยู่”

ประมาณสิบห้านาทีต่อมา สวีเหยียนซีสังเกตเห็นรถของพวกเขาแล่นเข้าไปยังคฤหาสน์สไตล์โบราณที่เงียบสงบท่ามกลางย่านพลุกพล่าน

พ่อบ้านและบรรดาคนรับใช้ยืนเรียงกันเป็นระเบียบทั้งสองฝั่ง พร้อมกันเอ่ยว่า “ยินดีต้อนรับคุณผู้ชายกลับบ้านครับ/ค่ะ”

สวีเหยียนซีเพิ่งรู้ตัวว่า นี่คือคฤหาสน์ของจ้าวจวิ้นโจว

เขามีบ้านอยู่ที่นี่ แล้วยังจะไปอยู่โรงแรมทำไมกัน?

มีเงินเยอะจนไม่มีที่ใช้งั้นเหรอ?

ฟางห่าวสังเกตเห็นว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จึงอธิบายด้วยความเป็นมิตรว่า “ท่านประธานจ้าวเกรงว่าถ้าพาสถาปนิกสวีมาที่นี่ จะทำให้คุณเข้าใจผิด ก็เลยเลือกให้อยู่โรงแรมแทนครับ อีกทั้งโรงแรมนั้นห่างจากที่ที่คุณต้องเก็บรวบรวมแรงบันดาลใจค่อนข้างใกล้ด้วยครับ”

สวีเหยียนซีรู้สึกแปลกใจอยู่ในใจ จู่ ๆ เธอก็นึกขึ้นได้ว่าทำไมฟางห่าวถึงกลายเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่สามารถยืนหยัดข้างกายของจ้าวจวิ้นโจวได้

เขาสามารถสังเกตคนจากสีหน้าและคำพูดได้จริง ๆ ราวกับรังสีเอกซเรย์ ที่ส่องสว่างจนไม่อาจหลบซ่อนได้เลย

เธอแสร้งทำเป็นสงบ ก่อนตอบไปแบบยิ้ม ๆ ว่า “ผู้ช่วยฟาง ขออนุญาตเสียมารยาทถามหน่อยนะคะว่า ท่านประธานจ้าวให้เงินเดือนคุณเท่าไหร่เหรอคะ?”

ฟางห่าวคาดไม่ถึงเลยว่าเธอจะถามคำถามนี้กับเขา ก่อนกระแอมเบา ๆ แล้วตอบไปว่า “ผมรับเงินทีละครึ่งปีครับ”

“สมกับที่เป็นผู้ช่วยเลยนะคะ แม้แต่การจ่ายเงินเดือนก็ยังไม่เหมือนกับพวกเรา”

“…” มันไม่ควรจะเป็นไม่เหมือนกับ “พวกเรา” เกรงว่าถ้าสถาปนิกสวีพูดว่าต้องการเงิน ท่านประธานจ้าวของผมก็คงยอมควักสมบัติทั้งหมดออกมาให้เลยด้วยซ้ำ

-

ห้องของสวีเหยียนซีถูกจัดเตรียมไว้ให้ด้านในสุดของชั้นสาม ตอนที่เธอเพิ่งเก็บของเสร็จ ก็ได้รับสายของฟางห่าว เขาโทรมาเชิญเธอให้ไปช่วยแปล

ดังนั้นเธอจึงมายังห้องหนังสือ

เมื่อมาถึงก็พบว่ามีเพียงแค่จ้าวจวิ้นโจวนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน แสงสว่างจากโน้ตบุ๊กสะท้อนลงในดวงตาของเขา เผยให้เห็นประกายอันเยือกเย็น

ไม่รู้ทำไม สวีเหยียนซีรู้สึกได้ถึงบรรยากาศอึมครึม

“ท่านประธานจ้าวคะ”

“อืม” จ้าวจวิ้นโจวตอบรับด้วยเสียงที่เรียบเฉย “เอกสารอยู่บนโต๊ะน้ำชา แปลเสร็จแล้วเอามาให้ผม”

“ได้ค่ะ” สวีเหยียนซีหมุนตัวไปนั่งบนโซฟา ก่อนหยิบเอกสารที่เต็มไปด้วยศัพท์ตุรกี

เธอเปิดแท็บเล็ตของเธอ แล้วเริ่มแปล

ผ่านไปไม่นาน ฟางห่าวก็ยกกาแฟเข้ามา

เขาวางแก้วของจ้าวจวิ้นโจวก่อน หลังจากนั้นเอาน้ำมะนาวอีกแก้ววางไว้บนโต๊ะน้ำชาหน้าสวีเหยียนซี ก่อนเอ่ยว่า “สถาปนิกสวี น้ำมะนาวของคุณครับ”

เมื่อเห็นดังนั้น สวีเหยียนซีรู้สึกงุนงงจึงพูดว่า “ฉันไม่ได้ขอน้ำมะนาวนะคะ”

“เอ่อ…” ฟางห่าวเหลือบมองประธานจ้าวของตน แล้วยิ้มอย่างสุภาพพลางเอ่ยว่า “เมื่อกี้ตอนที่อยู่ร้านอาหารเห็นสถาปนิกสวีดูเหมือนจะไม่ค่อยสบาย น้ำมะนาวช่วยให้สบายขึ้นครับ”

สวีเหยียนซีจึงนึกถึงคำพูดของจ้าวจวิ้นโจวที่บอกว่ามะนาวช่วยแก้อาการคลื่นไส้

หลังจากนั้นก็นึกถึงคำพูดสุดท้ายของเขาได้ทันที

อืม เธอดูเหมือนจะรู้แล้วว่าเขาหมายความยังไง

สวีเหยียนซีกระแอมเบา ๆ ก่อนพูดว่า “ไม่นะคะ ฉันคิดว่ากาแฟเหมาะกว่า เพราะฉันรู้สึกง่วงนิดหน่อย ต้องการกาแฟให้กระปรี้กระเปร่า ถ้าเป็นได้ล่ะก็ ฉันคิดว่าดื่มเหล้าแรง ๆ ก็ได้ค่ะ ทำให้ร่างกายอบอุ่น อ่า ไม่งั้นฉันลงไปวิ่งข้างล่างสักห้ากิโลเลยละกัน ยิ่งทำให้ร่างกายอบอุ่น ขอถามหน่อยค่ะที่นี่มีลู่วิ่งไหมคะ”

“ท่านประธานจ้าว?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 56

    บทที่ 56เมื่อลุกขึ้นมามองเวลา แปดโมงแล้ว เธอจึงรีบลุกขึ้นมาล้างหน้าบ้วนปากเมื่อเปิดประตูออกไป เธอชนกับฟางห่าวพอดี“ผู้ช่วยฟาง คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” ในขณะเดียวกันเธอสังเกตเห็นยาในมือของฟางห่าว ยาไอบูโพรเฟน… เธอถามออกไปด้วยความเป็นห่วงว่า “ผู้ช่วยฟาง คุณมีไข้หรือปวดหัวเหรอคะ?”ฟางห่าวตอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่า “จู่ ๆ ท่านประธานจ้าวก็ไข้ขึ้นสูงครับ”สวีเหยียนซีตะลึงไปชั่วครู่ “ท่านประธานจ้าวไม่สบายเหรอคะ?”เมื่อคืนยังดี ๆ อยู่ไม่ใช่เหรอ?!“ใช่ครับ อุณหภูมิจะแตะสี่สิบองศาแล้ว”“ไม่ได้เรียกหมอเหรอคะ?”“ท่านประธานจ้าวไม่ยอมให้ผมเรียกครับ”โตเป็นผู้ใหญ่แล้วยังจะกลัวหมอ? สวีเหยียนซีจึงพูดว่า “เขาป่วยขนาดนี้แล้วอย่าให้ไข้ขึ้นจนสติมึนงงไปเลยนะคะ ผู้ช่วยฟางฉันแนะนำว่าคุณเรียกหมอดีกว่านะคะ อย่าตามใจเขาเลย คาดว่าตอนนี้เขาน่าจะไข้ขึ้นจนสมองเลอะเลือน ต่อให้เขาจะคัดค้าน เขาก็ไม่มีแรงหรอกค่ะ”เขาเหมือนกับเนื้อปลาวางบนเขียง จัดการได้สบาย ๆในใจของฟางห่าวถึงกับตะลึง สมกับเป็นผู้หญิงที่ประธานจ้าวชอบ ช่างกล้าหาญจริง ๆ“ได้ครับ ผมจะไปเรียกหมอเดี๋ยวนี้ งั้นรบกวนสถาปนิกสวีช่วยผมจับตาดูหน่อยนะคร

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 55

    บทที่ 55“สวีเหยียนซี?”เสียงเคี้ยวน้ำแข็งกรอบแกรบหยุดลงทันที สวีเหยียนซีเงยหน้าขึ้น ด้วยความตะลึงปนงงงวย จ้องไปยังร่างสูงตรงหน้าสีหน้าของจ้าวจวิ้นโจวว่างเปล่าไปหลายวินาที ถ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเองว่าเธอยัดก้อนน้ำแข็งเข้าปาก แค่ฟังเสียง เขาคงสงสัยว่าเธอกำลังเคี้ยวกระดูกแน่ ๆ“คุณ… เป็นอะไรหรือเปล่า?” หลังจากตกใจ จ้าวจวิ้นโจวก็แสดงสีหน้ากังวล พร้อมกับก้าวสามก้าวเหมือนพุ่งเข้ามา แล้วย่อตัวลงหน้าเธอก่อนถามว่า “อยู่ดี ๆ กินน้ำแข็งทำไม? เป็นไข้เหรอ?”ตอนที่ถาม เขายื่นมือออกไปแตะหน้าผากสวีเหยียนซีอุณหภูมิปกติยิ่งทำให้เขาไม่เข้าใจ จึงสรุปได้เพียงอย่างเดียวว่า “กินน้ำแข็งกลางดึกเป็นนิสัยส่วนตัวคุณเหรอ?”ก้อนน้ำแข็งในปากละลายเป็นน้ำหมดแล้ว สวีเหยียนซีกลืนน้ำลาย แล้วส่ายหน้าว่า “ไม่ใช่ค่ะ คือฉันคอแห้ง”“กระหายน้ำก็ดื่มน้ำสิ คุณกินน้ำแข็งทำไม?!” จ้าวจวิ้นโจวหยิบกล่องใส่น้ำแข็งไป “ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้วนะ สวีเหยียนซี”“เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยว” สวีเหยียนซีตาไวมือไว ห้ามไม่ให้จ้าวจวิ้นโจวเอากล่องน้ำแข็งกลับใส่ตู้เย็น เธอพูดด้วยความอายว่า “คือเมื่อคืนฉันกินซุปเป็ดมากไป ฉันดื่มน้ำก็ไม่ดี

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 54

    บทที่ 54“ได้ค่ะ รับทราบค่ะ”สวีเหยียนซีไม่ตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย เพราะจ้าวจวิ้นโจวรู้ดีว่านี่เป็นหนึ่งในจุดแข็งด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมของเธอหลังจ้าวจวิ้นโจวทานอิ่มแล้วก็หยิบโทรศัพท์มาตอบข้อความ เขาไม่ได้ขยับตัว เพราะสวีเหยียนซียังทานอาหารอยู่ เขาจึงนั่งเป็นเพื่อนเธอแบบแฝง ๆส่วนสวีเหยียนซีกลับคิดว่าเขาแค่นั่งตอบข้อความเพียงอย่างเดียว ดังนั้นจึงไม่อยากขยับ แต่ด้วยความประหม่า เธอก็เลยทานอีกไม่กี่คำก็เสร็จอย่างลวก ๆพฤติกรรมของเธอหลบไม่พ้นสายตาของจ้าวจวิ้นโจว“ผมเร่งให้คุณทานเร็ว ๆ หรือไง?”“ฉันกินอิ่มแล้วค่ะ” สวีเหยียนซีส่ายหน้าอธิบายมือซ้ายของจ้าวจวิ้นโจววางโทรศัพท์บนต้นขาอย่างสบาย ๆ ดวงตาเป็นประกาย แต่ที่มากกว่าคือความจนปัญญา “สวีเหยียนซี ทำไมคุณทำราวกับผมจะกินคุณอย่างไงอย่างงั้น”สวีเหยียนซีอายจนหน้าแดง ก่อนยิ้มตอบด้วยความสุภาพว่า “เปล่าค่ะ ฉันอิ่มแล้วจริง ๆ”สำหรับความสุภาพจอมปลอมนี้ของเธอ จ้าวจวิ้นโจวควรชินตั้งนานแล้ว แต่ยิ่งมองเขายิ่งอยากจะฉีกหน้ากากจอมปลอมของผู้หญิงคนนี้ออกจริง ๆเมื่อถูกจ้องมองอยู่แบบนี้ สวีเหยียนซีรู้สึกราวกับโดนสัตว์ป่าที่จ้องมองเหยื่ออันแสนอร่อย

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 53

    บทที่ 53จ้าวจวิ้นโจวหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง ราวกับจะบอกเธอว่า จู่ ๆ ก็ลากผมเข้ามาเกี่ยวด้วยทำไมสวีเหยียนซีรู้สึกว่าครั้งนี้เธอฉลาดเป็นพิเศษ แทบจะเข้าใจสีหน้าของเขาทันที เธอยิ้มเล็กน้อยก่อนพูดว่า “ประธานจ้าว ถ้าคุณเห็นผู้หญิงทุกคนที่จู่ ๆ ก็คลื่นไส้ขึ้นมา คุณจะสงสัยว่าท้องหมดล่ะสิ”ประโยคนี้เต็มไปด้วยการหยอกล้อกวนประสาท รวมทั้งเป็นการตำหนิพฤติกรรมเดามั่ว ๆ ของจ้าวจวิ้นโจวด้วยจ้าวจวิ้นโจว “…”ฟางห่าวกระแอมไอขึ้นมาอีกครั้ง พลางยกกำปั้นทุบฝ่ามือซ้ายอย่างไม่แรงไม่เบา ก่อนเอ่ยว่า “หา ที่แท้เป็นเรื่องเข้าใจผิดนี่เอง สถาปนิกสวี คุณรู้ไหมครับ ตอนนั้นท่าทางคุณที่รีบไปห้องน้ำ ทำให้คนอื่นตกใจกันหมด ผมก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้ว รอประธานจ้าวแจ้งให้ผมเรียกรถฉุกเฉินหรือรถพยาบาล”“เรียกรถพยาบาลทำไมคะ?” สวีเหยียนซีหลุดปากถามออกไป“ผมกับท่านประธานจ้าวสงสัยว่าอาหารร้านนั้นจะไม่สะอาด” ฟางห่าวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง จนทำให้สวีเหยียนซีเกือบเชื่อสนิทใจฟางห่าวยิ้มกว้างด้วยความเป็นมิตร ก่อนหยิบน้ำมะนาวขึ้นมาด้วยความกระตือรือร้น “ในเมื่อสถาปนิกสวีอยากดื่มกาแฟ งั้นผมไปเปลี่ยนมาให้นะครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ…” เมื

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 52

    บทที่ 52สวีเหยียนซีเม้มปากเล็กน้อยก่อนเอ่ยว่า “ผู้ช่วยฟาง ฉันขอถามหน่อยค่ะว่าพวกเราต้องอยู่เมืองไห่อีกนานเท่าไหร่?”ฟางห่าวแปลกใจเล็กน้อย “สถาปนิกสวีมีธุระด่วนหรือเปล่าครับ?”เธอส่ายหัวก่อนตอบว่า “เมื่อกี้ฉันเจอเพื่อนของพี่ใหญ่ที่ใต้ตึกค่ะ”นี่ไม่ใช่เรื่องด่วน แต่เป็นเรื่องไม่ค่อยดี ฟางห่าวจึงพูดว่า “งั้นคุณเข้าไปบอกท่านประธานจ้าวเถอะครับ”หลังจากจ้าวจวิ้นโจวได้ฟังเรื่องนี้ ก็ขมวดคิ้วก่อนถามว่า “ใคร?”“ลู่ฉือค่ะ”ตระกูลลู่ก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลตระกูลหนึ่งในเมืองจิง จ้าวจวิ้นโจวเคยได้ยินมาบ้าง “งั้นก็เปลี่ยนที่อยู่”ประมาณสิบห้านาทีต่อมา สวีเหยียนซีสังเกตเห็นรถของพวกเขาแล่นเข้าไปยังคฤหาสน์สไตล์โบราณที่เงียบสงบท่ามกลางย่านพลุกพล่านพ่อบ้านและบรรดาคนรับใช้ยืนเรียงกันเป็นระเบียบทั้งสองฝั่ง พร้อมกันเอ่ยว่า “ยินดีต้อนรับคุณผู้ชายกลับบ้านครับ/ค่ะ”สวีเหยียนซีเพิ่งรู้ตัวว่า นี่คือคฤหาสน์ของจ้าวจวิ้นโจวเขามีบ้านอยู่ที่นี่ แล้วยังจะไปอยู่โรงแรมทำไมกัน?มีเงินเยอะจนไม่มีที่ใช้งั้นเหรอ?ฟางห่าวสังเกตเห็นว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จึงอธิบายด้วยความเป็นมิตรว่า “ท่านประธานจ้าวเกรงว

  • หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่   บทที่ 51

    บทที่ 51ตอนที่เรื่องราวของสวีหว่านหนิงและฉินเซียวแล่นเข้ามาในสมองเธออย่างบ้าคลั่ง สวีเหยียนซีรู้สึกคลื่นไส้โดยไม่มีเหตุผลอย่างฉับพลัน“ขอโทษนะคะ ฉันไปห้องน้ำก่อนนะคะ”เธอวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่แสดงความบิดเบี้ยวนั้นจ้าวจวิ้นโจวมองเห็นได้อย่างชัดเจน ดวงตาของเขามืดดำลง ก่อนลุกขึ้น และหยิบขวดเลมอนโซดาจากโซนที่วางเครื่องดื่ม แล้วก็เดินอย่างไม่ช้าไม่เร็วไปยังห้องน้ำในห้องน้ำ สวีเหยียนซีรู้สึกคลื่นไส้หลายครั้ง แต่ไม่ได้อาเจียนอะไรออกมาเลย หลังจากที่เธอบังคับตัวเองไม่ให้คิดถึงภาพที่น่าสะอิดสะเอียน อาการคลื่นไส้นั้นจึงค่อย ๆ หายไปบ้าไปแล้ว อยู่ดี ๆ จะคิดเรื่องนั้นทำไมกันเธอสะอิดสะเอียนตัวเองชัด ๆหลังจากล้างมือเสร็จ สวีเหยียนซีก็เดินออกมาจากห้องน้ำเธอพบว่าจ้าวจวิ้นโจวยืนพิงผนังอยู่ เธออึ้งไปก่อนเอ่ยว่า “ท่านประธานจ้าวคะ คุณก็มาเข้าห้องน้ำเหรอคะ?”“มาหาคุณ”“???” สวีเหยียนซีครุ่นคิดครู่หนึ่ง เธอคิดว่าเขาอยากจะถามเรื่องที่เธอคุยกับเหมาเจียนั่ว “ประธานจ้าววางใจเถอะค่ะ คุณเหมาไม่ได้มาถามเรื่องคุณกับฉันหรอกค่ะ”จ้าวจวิ้นโจวหน้าตาเคร่งขรึม ไม่สามารถอ่านอารมณ์ออก เขายื่นเลมอนโซดาใ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status