บ้านเดี่ยวหลังชั้นเดียวหลังใหญ่ออกแบบมาเพื่อให้คนสูงวัยอยู่ได้อย่างสะดวกสบาย ปลูกอยู่ในเนื้อที่เกือบห้าไร่ รอบบ้านรายล้อมด้วยป่าปลูก สองสามีภรรยากำลังนั่งพักผ่อน หลังจากเพิ่งลงไปเดินออกกำลังกายในสวนมา ผู้เป็นสามีรูปร่างสูงใหญ่ อายุหกสิบห้าปีแล้วแต่ยังดูแข็งแรงมาก
“แม่ทำไมช่วงนี้ลูกชายกลับบ้านบ่อยจังเลย กลับไปยังไม่ถึงเดือนเลยกลับมาอีกแล้ว มีอะไรหรือเปล่า” นายยุทธนาถามสิ่งที่คาใจ สงสัยกับพฤติกรรมของลูกชายคนเล็ก
“แม่ก็สงสัยเหมือนกันว่า เขากลับมาทำไมบ่อยๆ”
“เห็นไปคลุกอยู่แต่ที่ร้านผ้า แม่ไม่ลองถามแม่เยาวภาเขาดูล่ะ เผื่อเขารู้อะไรบ้าง”
“หรือว่าเราชวนลูกมากินข้าวที่บ้านกันดี วันเสาร์นี้ไหมพ่อ” นางบุหงาขอความเห็นจากสามี
“ก็ดี อย่าลืมบอกลูกก่อนนะ เผื่อเขามีนัด”
นายยุทธนา และนางบุหงา สองสามีภรรยา วางมือทางธุรกิจ ปล่อยให้ลูกสาวและลูกชายดูแลต่อ ร้านขายผ้าในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในตัวจังหวัด ร้านวัสดุก่อสร้างและออกแบบสร้างบ้าน ห้างร้านปล่อยให้คนเช่า หลายอย่าง สองคนวางมืออยากพักผ่อน เพราะอายุมากแล้ว คอยเป็นที่ปรึกษาให้ลูกๆ
นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯทั้งโรงแรมและร้านอาหาร ลูกชายคนเล็กรับหน้าที่ดูแลงานที่กรุงเทพฯ ส่วนที่ต่างจังหวัด เป็นลูกสาวคนโตดูแล ลูกสาวอยากให้อยู่ใกล้พ่อแม่หน่อย ทั้งเยาวภาและโยธินต่างก็สานต่อกิจการของครอบครัวได้เป็นอย่างดี เสียอย่างเดียว ทั้งคู่ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีแฟน ทั้งพี่ทั้งน้อง ดูเหมือนจะชอบทำงานกันมากกว่า สองสามีภรรยาได้แต่รอเวลาเลี้ยงหลาน ลุ้นแล้วลุ้นอีก ก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้อุ้ม
“แม่เยาวภา วันเสาร์นี้ว่างไหมลูก พ่อเขาอยากกินข้าว ถ้าน้องยังไม่กลับกรุงเทพฯก็ชวนมาด้วยกันนะ”
“ค่ะแม่ ได้เลยค่ะหนูว่างทุกวันอยู่แล้ว เดี๋ยวจะโทรบอกน้องให้นะคะ”
“นี่แม่เยาวภา น้องเขามีงานที่นี่เหรอ ทำไมพักนี้มาบ่อยจัง”
“หนูก็ไม่รู้ค่ะแม่ สงสัยมาซื้อขนมไทยกลับไปกินที่กรุงเทพฯมั้ง” ใบหน้าของเยาวภายิ้ม
“นี่ยังไง พูดกำกวมนะเรา จะเข้ามาบ้านเมื่อไหร่ เดี๋ยวเราต้องคุยกันนะ”
“ค่ะแม่ เจอกันวันเสาร์เย็นนะคะ”
“อีกตั้งหลายวัน มาเลยไม่ได้เหรอลูก”
“อีกสองวันเองค่ะแม่ ช่วงนี้ผ้าขายดีที่ร้านวัสดุคนก็เยอะ ไว้เจอกันเย็นวันเสาร์ทีเดียวล่ะกันนะคะแม่”
นางบุหงาวางสายไปแล้ว เยาวภายิ้ม ไม่ใช่แค่พ่อกับแม่ที่สงสัยกับการกลับบ้านบ่อยๆ ของน้องชาย เธอเองก็สงสัยเหมือนกัน ว่าโยธินมีธุระอะไรนักหนา ทำไมต้องกลับบ้านเกือบทุกอาทิตย์
ยังไม่ทันที่จะโทรหา เสียงโทรศัพท์ดัง น้องชาย
“ว่าไงโย มีอะไร นี่อย่าบอกนะว่าอยู่บ้าน”
“ครับ พรุ่งนี้เที่ยงว่างไหมพี่ภา ไปกินข้าวกันผมเลี้ยง”
“นี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วงานที่กรุงเทพฯเป็นยังไง ไม่มีปัญหาเหรอ”
“ไม่มีครับ ผมเพิ่งมาถึงมีขนมอร่อยที่พี่ชอบมาฝากด้วย เผื่อพ่อกับแม่ด้วย”
“ดีเลย เสาร์นี้แม่ชวนไปกินข้าว ว่างใช่ไหม”
“ว่างครับ ผมกลับวันจันทร์เช้า”
โยธินวางสายไปแล้ว เยาวภาเริ่มเก็บร้านพรุ่งนี้เป็นวันหยุดของร้าน เธอมีนัดกับปัทมาจะเอาผ้าไปตัดชุด เธอเห็นปัทมาใส่ชุดเดรสแบบน่ารักมาก เลยอยากใส่บ้าง นานๆ ปัทมาจะว่าง หลังๆ มาเห็นว่าขนมขายดี ผู้หญิงสามคนแทบจะไม่มีเวลาว่างเลย นั่นเพราะขนมไทยของบ้านนั้นอร่อยจริงๆ
เยาวภามีบ้านส่วนตัวอยู่ไม่ไกลจากร้านขายผ้า อยู่ในหมู่บ้านเดียวกับน้องชาย แต่อยู่คนละหลัง เธอติดนิสัยอยู่คนเดียว พ่อกับแม่เลยซื้อบ้านให้คนละหลัง
โยธินโผล่มาหาพี่สาวตั้งแต่ยังไม่สองโมงเช้า
“โย ทำไมมาแต่เช้าจังเลย พี่ยังไม่ตื่นเลยนะเนี้ย มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าครับ ก็นัดพี่ภาว่าจะเลี้ยงข้าว ผมเลยมาหาแต่เช้า นี่ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย”
“แล้วทำไมไม่ไปหากินก่อน นัดพี่เที่ยงไม่ใช่เหรอ”
“ก็ตื่นแล้ว กินเช้าก็ได้ครับ เที่ยงก็กินอีก หรือเย็นอีกก็ได้ผมเลี้ยง”
“นี่มีอะไรหรือเปล่า ป๋ามาเลย” เยาวภาเปิดประตูให้น้องชาย เดินนำหน้าเข้าบ้านบ่นไม่หยุด เพราะน้องมาปลุกแต่เช้า สายๆ เธอมีนัดกับปัทมาเพื่อวัดตัว”
“เช้าพี่มีนัดวัดตัวตัดชุด เที่ยงก็ได้มั้ง”
“ไม่เป็นไร ส่งพี่วัดตัวเสร็จก่อนก็ได้แล้วก็ไปกินกลางวันกัน ปกติเช้าผมก็ไม่ค่อยกินข้าวอยู่แล้ว กาแฟสักแก้วก็อยู่ได้ถึงเที่ยง”
“ไม่ได้นะโย ไม่ดียังไงก็ต้องกินข้าวเช้า เดี๋ยวรอพี่อาบน้ำก่อนแล้วออกไปหาอะไรกินกัน”
เยาวภาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เกือบสองโมงเช้า พร้อมออกจากบ้าน เกือบได้เวลานัดกับป้ทมา เธอนัดเจอกันที่ร้านของปัทมาเก้าโมงเช้า วันนี้ตรงกับวันหยุดของร้านขนม ดีเหมือนกันจะได้แวะไปไหว้ย่ากุลกับคุณน้าประภาพรแม่ของปัทมาด้วย หญิงสาวแวะซื้อเครื่องดื่มบำรุงกำลังไปฝากย่ากุลกับแม่ของปัทมา คิดว่าที่บ้านของปัทมาน่าจะยังมีขนมที่กินกับกาแฟ เธอจะไปขอกาแฟดื่มสักหน่อย
“ซื้อไปไหนครับพี่ภา ไปเยี่ยมใครเหรอครับมีใครป่วยเหรอ”
“เปล่า เช้าพี่มีนัดกับน้องปัท วัดตัวตัดชุด วันนี้ตรงกับวันหยุดร้านเขาพอดี พี่เลยซื้อของพวกนี้ไปเยี่ยมย่ากุลกับคุณน้าแม่ของน้องปัท ซื้อขนมกับเขาบ่อยๆ”
“เข้าใจแล้วครับ” โยธินยิ้มเล็กน้อย
“โย แน่ใจนะว่าจะรอไหว บางทีผู้หญิงเจอกันก็ต้องมีเรื่องคุยกันยาวนะ”
โยธินนิ่ง เป็นบุคคลิกของเขา เงียบขรึมไม่ค่อยพูด ก็แสดงว่าเขาไม่มีปัญหา
โยธินทำหน้าที่ขับรถ สองพี่น้องตรงไปที่บ้านของปัทมา ซึ่งอยู่ห่างออกไปคนละฝั่งของถนน แต่ไม่ไกลกันมากนัก ผ่านตลาดสดและผ่านร้านขนมไทย วันนี้ปิดร้านเพราะเป็นวันหยุด
“หนูปัท ใครมากันล่ะลูก ลูกค้ามาตัดผ้าหรือจะมาซื้อขนม”
“นั่นหนูเยาวภานี่คะแม่ เอ...มีธุระอะไร ไม่น่าจะมาสั่งขนมนะเพราะเขารู้ว่าเราหยุด”
“พี่ภามาวัดตัวตัดผ้าค่ะย่า แม่ มาเร็วกว่าที่คิด”
“อ่อๆ เรียกมากินข้าวเช้าด้วยกันไปลูก”
“ค่ะย่า” ปัทมาออกมาต้อนรับเยาวภา แปลกใจว่าทำไมเจ้าของร้านขายผ้ามาหาเธอเร็วกว่าเวลาที่นัดกันไว้ทางโทรศัพท์ว่าจะมาเก้าโมงเช้า เธอไม่คิดว่าจะมาเร็วขนาดนี้ เช้านี้หญิงสาวสวมชุดเดรสระบายเป็นชั้นๆ ลายผ้าเป็นลูกไม้ดอกเล็กๆ แขนพองที่ตัดเอง ออกมารับสองพี่น้อง
“สวัสดีค่ะพี่ภา ย่าชวนกินข้าวเช้าค่ะ เรากำลังกินข้าวเช้ากันพอดีเลย”
“สวัสดีค่ะพี่โยธิน” ปัทมาเรียกเขาพี่ตามที่เยาวภาเคยบอกให้เรียก นึกแปลกๆ เธอเพิ่งเคยเรียกผู้ชายแปลกหน้าว่าพี่เป็นครั้งแรกคงเป็นเพราะเธอไม่มีพี่ชาย
สองพี่น้องรับไหว้จากปัทมา “เรามากวนแต่เช้าเลยน้องปัท ขอโทษด้วยนะคะที่มาเร็ว”
“ไม่เป็นไรค่ะ ปัทไม่มีปัญหา เข้าไปข้างในบ้านดีกว่าค่ะ เรากำลังกินข้าวเช้ากัน”
สวัสดีค่ะย่ากุล น้าพร ขอโทษด้วยนะคะเราสองคนพี่น้องมากวนแต่เช้าเลย”
“ไหว้พระเถอะหลาน ไม่เป็นไรๆ มาได้เวลาพอดีเลย กำลังกินข้าวเช้า มากินด้วยกันเลย”
“แหม....แค่เห็นกับข้าวก็หิวแล้วค่ะ ไม่ปฏิเสธแล้วนะคะ”
“มาๆ ลูกมา หนูปัทตักข้าวให้พี่ๆ เขาเลยลูก”
“แล้วนี่น้องชายเหรอ ไม่เคยเห็นหน้าเลย” ย่ากุลหันไปหาโยธิน
“ใช่ค่ะย่ากุล โยธินไม่ได้อยู่ที่นี่ค่ะ เขาดูงานอยู่ที่กรุงเทพฯนานๆ ถึงกลับบ้าน”
บทโต๊ะกินข้าวไม้สักขนาดใหญ่ ที่นั่งสิบคน ย่ากุลนั่งหัวโต๊ะ ขวามือคือนางประภาพร ซ้ายมือคือปัทมา เยาวภาเข้าไปนั่งติดกับนางประภาพร โยธินนั่งติดกับปัทมา สองพี่น้องโชคดีมาถึงก็ได้กินข้าวเช้าเลย
“อาหารน่ากินทุกอย่างเลยค่ะย่า”
“น่ากินก็กินเยอะๆ นะลูก ทั้งหมดนี่แม่พรเขาทำย่าน่ะทำไม่ไหวแล้ว วันหยุดทีก็นอนพักผ่อน เอาแรงไว้ไปขายของที่ตลาด”
“เห็นว่าจะย้ายมาขายที่บ้านใช่ไหมคะ แล้วนี่น้องปัทได้ช่างได้แบบหรือยัง”
“แบบดูไว้บ้างแล้วค่ะพี่ภา แต่ยังไม่ได้ดูเรื่องผู้รับเหมา พอดีช่วงนี้ขนมขายดีมาก ไม่มีเวลาหาช่างเลย ปัทเลยช่วยย่ากับแม่ขายของเอาเงินก่อนค่ะ”
“ย่าเป็นคนท้องที่ก็จริงนะ แต่ย่าก็ไม่รู้จักเลยต้องไปหาช่างฝีมือดีๆ ได้ที่ไหน”
“ถ้าไม่รังเกียจ ผมดูให้ก็ได้นะครับ” โยธินเอ่ยขึ้น หลังจากที่เขานั่งเงียบมาสักพัก
“จริงด้วย นี่ภาลืมไปเลยนะคะว่า โยธินมีบริษัทฯรับเหมาก่อสร้าง”
“งั้นรึ ถ้าอย่างนั้นหนูปัทก็ไม่ลองคุยกับพี่เขาดูล่ะลูก เราจะได้ไม่ต้องไปหาเอง เรื่องแบบหรือเรื่องอื่นๆ ก็ลองคุยกับพี่เขาดูว่าต้องการแบบไหน แล้วก็ให้พี่เขาออกแบบร้านตัดเสื้อให้ใหม่เลยก็ดีนะแม่ว่า แม่ว่าห้องมันเล็กไป ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย เดี๋ยวแม่จ่ายให้”
“อันนี้จริง ย่าเห็นด้วย ไอ้ห้องเย็บผ้า ย่าว่ามันเล็กไป หน้าร้านต้องกว้างกว่านี้จะได้ตั้งหุ่นโชว์เสื้อผ้าได้หลายตัว”
“ปัทขอดูแบบก่อนได้ไหมคะ เรื่องห้องทำงานไว้ทีหลังก็ได้ค่ะ อยากทำร้านก่อน คร่าวๆ อยากให้ย่ากับแม่ได้ทำงานสะดวก ขอเป็นแบบร่วมสมัย ประมาณว่าย่า แม่ แล้วก็ปัทชอบ ประมาณนี้ค่ะ” ปัทมาหันมามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ นึกในใจว่าเขาเต็มใจที่จะช่วยแน่ๆ ใช่ไหม เพราะหน้าเขานิ่งมาก
“ได้ครับ เดี๋ยวกินข้าวอิ่มแล้ว พี่จะส่งแบบให้ปัทมาดูก่อน ส่วนรายละเอียดค่อยคุยอีกทีก็ได้ครับ”
จากนั้นทุกคนพูดคุยกันต่อ พร้อมกินข้าวไปด้วย โยธินแอบสำรวจบ้านของย่ากุล สะอาดและเป็นระเบียน แยกโซนทำขนมออกไปจากตัวบ้านต่างหาก เขาชอบบ้านสะอาดๆ แบบนี้ สมกับเป็นร้านขนมไทยที่อร่อยมาก แต่บางอย่างอาจต้องปรับปรุง เพื่อให้สะดวกกับการทำขนม
ปัทมาทยอยเก็บถ้วยจานไปล้าง โดยมีเยาวภาช่วย จากนั้นหญิงสาวชงกาแฟให้ทุกคน เธอมีเครื่องชงกาแฟขนาดเล็ก หญิงสาวทำเครื่องดื่มได้หลายอย่าง สองพี่น้องถูกใจมาก กาแฟเสริฟพร้อมกับขนมไทยอร่อยๆ
“น้องปัท แบบนี้ถ้าเปิดร้าน สงสัยพี่ต้องแวะมาทุกวันแน่เลย”
“ยินดีค่ะพี่ภา ดีเลยค่ะปัทจะได้มีเพื่อน”
“น้องปัทคงจะเหมือนพี่ กลับจากกรุงเทพฯมาอยู่บ้าน เพื่อนหายหมดเลย ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปมีอาชีพมีครอบครัวอยู่ต่างจังหวัด เราไปอยู่กรุงเทพฯนานเกินไป”
“จริงค่ะพี่ภา ตั้งแต่กลับมาอยู้บ้าน ปัทยังไม่เจอเพื่อนสมัยเรียนเลยสักคน อาจเป็นเพราะช่วงที่เรียนเราเรียนอย่างเดียว เลิกเรียนกลับบ้านก็ช่วยงานบ้าน ไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยว พอจบมัธยมก็ต้องเข้ากรุงเทพฯเพื่อต่อปริญญาตรี จบแล้วก็ทำงาน”
“ดอกจำปีนี่หอมจังเลยนะค่ะย่ากุล ภาชอบจังเลย”
“หนูปัทเขาเก็บทุกวัน เดี๋ยวแบ่งไปบ้างนะลูก ย่าใส่กระทงไว้เยอะเลย”
“ขอบคุณมากค่ะย่า”
“งั้นเดี๋ยวปัทพาพี่ภาไปวัดตัวที่บ้านก่อนนะคะ”
“ไปๆ ลูก เดี๋ยวย่ากับแม่จะเอนหลังสักหน่อย แล้วเดี๋ยวเที่ยงอยู่กินข้าวด้วยกันนะแม่เยาวภา” ย่ากุลมีน้ำใจ ต่างจังหวัดมักเป็นแบบนี้เสมอ
"ขอบคุณมากค่ะย่ากุล "
สองพี่น้องเดินตามป้ทมาไปที่บ้านหลังเล็กของเธอ ชอบที่รอบบริเวณบ้าน สะอาด แยกเป็นสัดส่วน
โยธินสำรวจพื้นที่รอบบริเวณบ้าน เขามีแบบก่อสร้างอยู่ในหัวแล้ว พยายามวนเวียนกลับบ้านบ่อยเพื่อสิ่งนี้ และวันนี้สมใจเขานัก หลานสาวเจ้าของร้านขายขนมไทยถูกใจเขามาก
ครอบครัวของโยธินส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอปัทมา เจ้าบ่าวใจร้อนมาก งานแต่งงานถูกจัดงานถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติครอบครัวของฝ่ายหญิง นายยุทธนาและนางบุหงาทุ่มทุนสร้างมาก สินสอดมอบให้กับฝั่งเจ้าสาวเต็มที่ และอาสาออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ให้บ้านฝ่ายหญิงได้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว จัดงานถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง ครอบครัวของโยธินตื่นเต้นและดีใจมากกับการที่ลูกชายคนเล็กแต่งงาน เป็นสิ่งที่รอมานานมาก ถือเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวเลยทีเดียว โยธินสร้างบ้านริมน้ำอีกหลังเอาไว้พักผ่อน อยู่ภายในรั้วบ้านของย่ากุล เขาตามใจภรรยาที่อยากอยู่ดูแลย่าและแม่ ขอร้องให้ภรรยาทำงานน้อยลง อยากให้ดูแลแค่ย่ากับแม่ ไม่อยากให้ทำงานหนัก แค่คอยดูแลเขาและเตรียมตัวเป็นแม่ของลูกก็พอ เวลาที่ต้องเข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯต้องมีภรรยาไปด้วยเสมอ แค่ต้องตามสามีไปตรวจงานในแต่ละที่ ปัทมาก็ไม่มีเวลาทำอะไรแล้ว บางทีเธออาจต้องยกร้านกาแฟให้น้องชายดูแล งานตัดเสื้อผ้า เธอแทบไม่ได้ทำเลย เพราะไม่มีเวลาจริงๆ “ปัทมา วันนี้กลับไปนอนในเมืองกันดีกว่านะครับ พรุ่งนี้วันหยุดแล้ว พี่มีงานที่ร้านผ้า” “อ้าว.....แล้วพี่ภาไปไหนเหรอคะ” “กำลังมีความรัก แฟ
ตั้งแต่เกิดเหตุร้ายขึ้นกับปัทมา กระทั่งถึงวันนี้ผ่านมาสามเดือนแล้ว ร้านคาเฟ่ขนมไทยของเธอเปิดมาเกือบสองเดือน ผลตอบรับดีมากๆ ลูกค้าไม่ใช่แค่ได้กินแค่กาแฟ และเครื่องดื่มที่อร่อย ยังได้กินขนมไทย ขนมบางชนิด คนรุ่นใหม่ไม่เคยรู้จัก ลูกค้ามาจากหลายพื้นที่ สุดท้ายต้องขยายร้านเพิ่ม เพิ่มโต๊ะ และมีพื้นสำหรับให้ถ่ายรูป โยธินสร้างบ้านให้ประภาษ ย่ากุลวางมือจากการทำขนม ปล่อยให้ลูกสะไภักับลูกชายช่วยกันทำ ด้วยนิสัยที่ขยันของย่า พาคนงานปลูกผักสวนครัว และผักปลอดสารต่างๆ ทำเป็นสวนสวยงาม ยาวไปถึงศาลาริมน้ำ ให้ลูกค้าร้านกาแฟเก็บผักกลับบ้านได้ฟรีๆ ประภาษมองเห็นโอกาส เขาให้โยธินสร้างบ้านหลังเล็กกระทัดรัด ทำเป็นบ้านพัก ลูกค้าชอบมาก และกลายเป็นโฮมสเตย์ เดิมขนมไทยจะทำวันละห้าอย่าง หลังๆ มาไม่พอขาย ต้องเพิ่มทุกอย่างเท่าตัว ทั้งกิจการบ้านพักและร้านคาเฟ่ขนมไทยไปดีสุดๆ พ่อกับแม่ของราวีมาลาทุกคน สองสามีภรรยาประกาศขายบ้านและย้ายกลับไปอยู่กรุงเทพฯเพื่อที่จะได้ดูแลลูกชายเต็มที่ ราวียังคงอยู่ที่โรงพยาบาล ล่าสุดเขาพูดไม่รู้เรื่อง ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์และพยาบาล จำใครไม่ได้เลย แม้กระทั่งพ่อและแม่ของตัวเอง ครอบ
บนศาลาริมน้ำตำรวจทั้งสี่คน กู้ภัยอีกสี่คนเขารวบตัวของราวีไว้ ก่อนที่เขาจะกระโดดน้ำหนีไป ทุกคนต่างก็หดหู่กับภาพที่เห็น ย่ากุลเข้าไปจับมือพ่อกับแม่ของราวีเอาไว้ ราวีดิ้นรนหนี เขาร้องไห้คร่ำควาญไม่เป็นเรื่องเป็นราว ตะโกนเสียงดัง กู้ภัยต้องมัดร่างของเขาไว้ที่เปลผ้าใบ ไม่งั้นเขาไม่ยอมสงบ ช่วงที่ทุกคนกำลังชุลมุนกับการควบคุมตัวราวี โยธินและประภาษช่วยกันดึงร่างของปัทมาขึ้นมาบนฝั่งได้อย่างปลอดภัย หญิงสาวร้องไห้ดีใจที่ตัวเองรอดจากราวีมาได้ หดหู่ใจกับภาพที่เห็น กู้ภัยหามเปลพาร่างของเขาที่นอนดิ้นอยู่บนเปลนั้นไปขึ้นรถฉุกเฉิน บริเวณรั้วหน้าบ้านมีชาวบ้าน มายืนมุงดู ต่างก็แช่งด่าราวีอย่างเกลียดชัง คนแถวนี้นับถือปู่และย่ามาก ย่ากุลกับนางประภาพร ขอบอกขอบใจตำรวจและกู้ภัยที่เข้ามาช่วย ให้กำลังใจพ่อกับแม่ของราวี บอกให้รีบตามไปดูลูกชาย เรื่องที่เกิดขึ้นไว้ค่อยมาคุยกันวันหลัง สองสามีภรรยาเชื่อฟังแต่โดยดี รีบตามไปดูลูกชายที่โรงพยาบาล ทุกคนกลับไปหมดแล้ว ย่ากุลกับนางประภาพรรีบเข้าไปดูปัทมา ที่ตอนนี้ โยธินและประภาษ พาไปพักที่บ้านเรียบร้อยแล้ว ปัทมาปลอดภัยไม่มีบาดแผล มีเพียงรอยแดงที่อาจจะเกิดจาก ช่วงที่รา
หลังจากที่ปัทมาไปบ้านโยธินและช่วยทำความสะอาดและจัดระเบียบบ้าน ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเขาก็ไปนอนที่บ้านเกือบทุกคืน เช้ามาดูงานที่ก่อสร้างร้านกาแฟ เที่ยงกินข้าวที่บ้านปัทมาทุกวัน บ่ายๆ บางวันไปดูงานที่ร้านวัสดุก่อสร้าง เย็นกลับไปนอนที่บ้านทำแบบนี้ทุกวัน อีกไม่น่าจะเกินสองอาทิตย์ร้านกาแฟน่าจะเสร็จ เขามีงานที่จะต้องเข้าไปเคลียร์ที่กรุงเทพฯ เลขาโทรตามให้เข้าไปเซ็นเอกสาร ที่บริษัทฯ ไม่อยากไปแต่ต้องไปเพราะเป็นงานของตัวเอง เขาติดปัทมาเหลือเกิน ไม่อยากห่างเลยแม้วินาทีเดียว “พี่โยธินจะเข้ากรุงเทพฯวันไหนครับ ภาษว่าจะติดรถไปด้วย ต้องไปมหาวิทยาลัยจัดการเรื่องเอกสารนิดหน่อยครับ อาจพักหนึ่งหรือสองคืน” “ไปกับพี่ก็ได้นะ พี่ก็ว่าจะอยู่สักสองคืน “ “เราออกเช้าวันจันทร์ดีไหม จะได้รีบไปรีบกลับ” “ได้ครับพี่โยธิน ภาษไม่อยากทิ้งผู้หญิงอยู่บ้านตามลำพังหลายวัน” “ปัทมาอย่าวางโทรศัพท์ไว้ห่างตัวนะครับ “ “ทราบแล้วค่ะ พี่โยธินกับภาษรีบไปทำธุระเถอะ ไม่ต้องห่วงทางนี้ ปัทไม่ออกไปไหนหรอกค่ะ กล้องวงจรปิดก็มี ภาษเปิดดูได้ตลอดเวลา บ้านเราก็รั้วรอบขอบชิด คนงานก็อยู่เต็มเลย” โยธินมารับประภาษแต่เช้า ย่ากับแม่ทำก
โยธินกำลังขับรถเขาแวะที่ร้านวัสดุก่อสร้างของที่บ้าน เพื่อสั่งของบางอย่างเข้าร้านให้พี่สาว เยาวภางานยุ่งทั้งที่ร้านขายผ้า และที่ร้านสังฆภันฑ์ เขาต้องเข้ามาช่วยดูที่วัสดุก่อสร้าง แปลกใจที่อยู่ๆ ปัทมาโทรหา “ครับ ปัทมามีอะไรหรือเปล่า” “พี่โยธินถึงบ้านหรือยังคะ” “ยังครับพี่แวะมาที่ร้านวัสดุก่อสร้าง” “อ่อ....ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ เย็นนี้พี่จะเข้ามาบ้านปัทกี่โมงคะ” “เดี๋ยวพี่เสร็จจากที่ร้านนี่แล้วก็จะแวะหาพี่ภา จะอาบน้ำสักหน่อยแล้วก็จะกลับไปลองเสื้อครับ” “อ่อ...ค่ะเข้าใจแล้ว ขับรถระมัดระวังนะคะ งั้นแค่นี้นะคะ เย็นเจอกันค่ะ” “ครับ ขอบใจนะปัทมา” โยธินวางสาย หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มตลอด ยิ้มจนลูกน้องบางคนที่แอบสังเกตยิ้มตามไปด้วย เสร็จจากร้านวัสดุก่อสร้าง เขาแวะไปหาพี่สาวที่ร้ายขายผ้า อาการของน้องชาย เยาวภาเดาเอาว่าต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่ๆ “พี่ภา ทำไมช่วงนี้ผ้าขายดีจังเลยครับ” “พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ น้องปัทโทรมาสั่งผ้าเยอะมาก เห็นบอกว่ามีออเดอร์เข้ามา ตั้งแต่กลับจากกรุงเทพฯ พอเปิดรับงานปุ๊ป งานก็เข้าเพียบเลย” “ดีเหมือนกันนะครับ ปัทมาจะได้ทำงานอยู่กับที่ไม
ตีห้าเสียงโทรศัพท์ของย่ากุลดังรัวๆ หลายสาย ปลุกคนทั้งบ้านให้ตื่น มารวมกันที่ห้องของย่า"หนูปัท หรือภาษดูให้ย่าหน่อยลูก ใครโทรมา หลายสายมากเลย ""ครับย่า นี่ป้าช้อยโทรมาครับ""สวัสดีแม่ช้อย มีอะไรกัน ทำไมแม่ค้าที่ตลาดโทรหาฉัน ตั้งแต่เช้าหลายสายมากเลย ""ป้ากุล เกิดเรื่องแล้ว ไม่รู้ใครเอาป้ายงานแต่งหนูปัทกับผู้ชายชื่อราวี ติดไว้หน้าร้านขนม แถมแม่ค้าเกือบทุกคน ได้รับการ์ดงานแต่งของหนูปัทด้วย เนี้ยเดี๋ยวฉันส่งรูปให้ดู วางสายก่อนนะป้ากุล""อะไรนะคะย่า ไหนขอปัทดูหน่อยค่ะ "ภาพและวีดีโอที่ป้าช้อย และแม่ค้าในตลาดส่งมาให้ย่ากุลดูคือ ป้ายไวนิลขนาดใหญ่ ติดอยู่หน้าร้านขนมไทย เป็นรูปของเธอใส่ชุดเจ้าสาวสีขาว และข้างๆ กันราวีอยู่ในชุดเจ้าบ่าวสีน้ำเงิน ป้ายเขียนไว้ว่า ขอเชิญร่วมงานแต่งงาน วัน เวลา และสถานที่ชัดเจน ปัทมาใจเต้นแรง ทั้งโกรธ โทั้งโมโห และอาย ภาพข้างล่าง เป็นการ์ดแต่งงานสีชมพูหวานเชียว หญิงสาวโยนโทรศัพท์ออกไปไกลตัว โมโหจนตัวสั่นทุกคนต่างรุมดูวีดีโอและภาพที่ป้าช้อยส่งมาให้ เสียงพูดคุยของแม่ค้าในตลาดดังแทรกเข้ามาในวีดีโอ ได้ยินว่าปัทมาโดนคนโรคจิต เอารูปไปทำการ์ดแต่งงาน "ใจเย็นๆ นะลูก ไม่ต