องค์รัชทายาทพุ่งตัวเข้าไปหาซิวยี่ที่ชำนาญการรบ แต่ตัวเขาเองก็หาใช่ว่าจะจัดการได้ง่าย แม้ว่าเขาจะไม่เคยได้ออกสนามรบจริงอย่างชินอ๋อง แต่วิชาดาบ กระบี่ ทวน หรือธนู ต่างก็ล้วนเรียนมาจากอาจารย์คนเดียวกัน และเขาเองก็ฝึกฝนอยู่สม่ำเสมอ ซิวยี่ได้เปรียบเรื่องความว่องไว และความแข็งแกร่ง เนื่องจากเขาออกรบมาตลอด ใช้เวลาและประสบการณ์จริง ส่วนองค์รัชทายาท ได้เปรียบเรื่องความฉลาด และหลอกล่อเก่ง แต่เขาไม่ได้ใช้เวลาในสนามรบ จึงอาจจะเสียเปรียบ หากต้องประลองกันนาน ซิวยี่เหมือนจะรู้จุดอ่อนตรงนี้ดี“หากเป็นเช่นนี้ พี่ใหญ่แย่แน่”ซิวยี่หลอกล่อให้เขาออกแรงให้มาก แต่องค์รัชทายาทไม่หลงกล เขาเอาแต่หลบเพราะรู้จุดอ่อนของตัวเองดี“ท่านเอาแต่หลบแบบนี้ ช่างไม่ต่างอะไรกับสตรี เอาแต่หนีแบบนี้ สู้กันไปจะสนุกอะไรกันเล่า”“ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ประสบการณ์ข้า อยู่เหนือผู้ที่ใช้กำลัง ข้าใช้แต่สมองเท่านั้น”เขาวางกระบวนท่าแรก และรัวดาบใส่ซิวยี่ เขามองแทบไม่ทัน เพลงดาบของชิงโจวช่างว่องไวยิ่งนัก เขาพลาดจนถูกฟันที่แขนไปหนึ่งแผล“เก่งนี่ ข้าคงประมาทท่านไปหน่อย ข้าจะไม่ออมมือละนะ”ซิวยี่พุ่งตัวเข้ามา องค์รัชทายาทตั้งรับ และกระบวนท่าส
กองทัพเซี่ยหนานรุกล้ำเข้ามาในดินแดนของชิงโจวแล้ว บัดนี้ เขาเห็นกองทัพน้อยๆ ของฝ่าบาทอยู่ไกลๆ เขาเร่งพาทหารควบม้าตามไป จนกระทั่งฝ่าบาทหยุดม้า และหันมาตั้งแนวรบ ซิวยี่จึงสั่งให้กองทัพหยุด และมองดูเป้าหมายที่ดูลุกลี้ลุกลนสิ้นหนทางหนีอยู่ด้านหน้า“ฝ่าบาท ไม่สิ ต้องเรียกว่า รัชทายาท ท่านไม่มีทางหนีแล้ว ทางที่ดี ยอมให้ข้าตัดหัวท่านไปสังเวยอดีตฮ่องเต้เสีย เพื่อให้เซี่ยหนานสงบสุข คืนบัลลังก์ที่ท่านไม่มีสิทธิ์ครอบครองมาเสียแต่โดยดี!!”“ซิวยี่ ข้าเป็นราชบุตรเขย เป็นผู้สำเร็จราชการที่บรรดาขุนนางตั้งขึ้นเป็นฮ่องเต้ แม้ข้าจะไม่อยากรับ แต่ก็จำเป็นต้องรับ แล้วเจ้าล่ะ เป็นอะไร เป็นแค่ชู้รักหลบๆ ซ่อนๆ ขององค์หญิงมากราคะ ที่ยอมเสพสังวาสได้แม้กระทั่งชายขี้คุก ฮ่าๆๆ พวกเจ้านี่มัน ช่างเหมาะสมกันดีจริงๆ ความมักใหญ่ใฝ่สูงของเจ้า ทำให้เจ้าเจอกับหายนะในวันนี้”“ปากดีนัก คนชั่ว วันนี้ข้าจะเอาหัวเจ้ามาให้ได้ ต่อให้ไม่ใช้กองทัพ ข้าคนเดียวก็ตัดหัวพวกเจ้าได้ ไป!!!”ซิวยี่พร้อมกับทหารกองหน้าอีกยี่สิบนายควบม้าเข้ามาที่องค์รัชทายาท ก่อนที่จะถึง เขาเงื้อดาบขึ้นมาพร้อมจะฟัน แต่ก็มีทหารม้ามาขวาง เขาถือทวนด้ามยาวในมือ เพ
ซิวยี่เงยหน้าขึ้นมอง ฝ่าบาทมองมาที่เขาเช่นกัน ก่อนจะตรัสออกมา“เราพึ่งได้รับรายงานการเรียกเก็บภาษีบางอย่างที่ดูไม่เป็นธรรมกับชาวบ้านฝั่งตะวันตกที่ท่านดูแลอยู่ ท่านพอจะมีคำอธิบายให้แก่เราหรือไม่ เพราะที่เขียนในรายงาน ชาวบ้านถูกเรียกเก็บจากทหารในกองทัพของท่าน มิใช่ขุนนางในราชสำนัก”ซิวยี่ตัวสั่น เรื่องนี้เหตุใดจู่ๆ จึงมีผู้รายงานขึ้นมาได้ ประชาชนที่นั่นก็จ่ายค่าคุ้มครองมาตั้งแต่นานแล้วสมัยรัชสมัยฮ่องเต้องค์เก่าก็มิได้สนใจพวกส่วยพวกนี้ แต่เขาลืมนึกถึงเรื่องนี้ไป ตอนนี้เปลี่ยนการปกครองแล้ว“กระหม่อมจะเร่งไปตรวจสอบให้เรียบร้อย และจะไม่ให้มีปัญหานี้เกิดขึ้นอีกพ่ะย่ะค่ะ”“เราหวังว่าจะไม่ได้รับฎีกา การข่มขู่ประชาชนในพื้นที่เพิ่มนะ ท่านแม่ทัพ”“รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท เรื่องนี้เป็นกระหม่อมที่ละเลยต่อหน้าที่ กระหม่อมจะรีบจัดการพ่ะย่ะค่ะ”“ดี ส่วนเรื่อง ที่ท่านขอมา…. เราตกลง ขอเวลาเราสะสางงานอีกสองวัน เราจะไปเยี่ยมกองทัพกับท่าน”แม่ทัพหนุ่มยิ้มอยู่ในใจ เรื่องภาษี เขาคงต้องระงับไว้ชั่วคราวก่อน รอให้ได้ขึ้นครองบัลลังก์เมื่อใด ค่อยว่ากันใหม่ ตอนนี้เรื่องจัดการฝ่าบาทเป็นเรื่องสำคัญมากกว่า“ขอบพ
เมื่อเหมยซูหนี่ว์เดินเข้ามายังห้องบรรทม ซึ่งเคยคึกคักด้วยนางรำ เครื่องดนตรี กลิ่นหอมของสุรา แต่บัดนี้ ได้ยินแต่เสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้นระงมดังออกไปจนถึงด้านนอกที่มีฉากกั้นอยู่ นางค่อยๆ เดินเข้าไป ราชบุตรเขยนั่งอยู่ข้างๆ เตียงก่อนหน้านั้นแล้ว นางเดินตัวสั่นเทาเล็กน้อย ก่อนที่จะทรุดลงที่ข้างเตียง มองดูสภาพพระบิดาที่มีสีหน้าซีดเซียว พระโอษฐ์สีเริ่มม่วง“เสด็จ...พ่อ หม่อมฉันมาแล้วเพคะ”“เสด็จพ่อ องค์หญิงมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”มือข้างหนึ่งของฝ่าบาทเริ่มยกขึ้นอย่างช้าๆ ไร้เรี่ยวแรง เหมยซูหนี่ว์เอื้อมมือนั้นมาจับอย่างรวดเร็ว“เสด็จพ่อ ผู้ใดกัน ที่มันโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ฮืออ เสด็จพ่อ อย่าทิ้งลูกไปนะเพคะ ….”สิ้นเสียงนาง มือนั้นค่อยๆ อ่อนแรงและร่วงลงช้าๆ จนเหมยซูหนี่ว์ต้องตะโกนออกมา“เสด็จพ่อออออ ไม่นะ ไม่!!!”“ฝ่าบาทเหมยต้าจื่อหลงแห่งเซี่ยหนาน สวรรคตแล้ว……”บรรดาขุนนางและนางกำนัลทั้งหลาย เมื่อฟังคำประกาศจากราชครู ต่างพากันคุกเข่าลง เสียงร้องไห้ดังระงมขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเหมยซูหนี่ว์เป็นลมล้มลง ทำให้ในห้องบรรทมวุ่นวายอีกครั้งข่าวการสวรรคตของฮ่องเต้เหมยต้าจื่อหลง ได้ประกาศออกไปทั่วทุกแคว้น หล
ถังมู่เจินรู้ดี ว่าขุนนางเก่าแก่อย่างเสนาบดีกลาโหม เมื่ออำนาจเปลี่ยนฝั่ง เขาจะกลัวความไม่มั่นคง และเรื่องนี้ เขาซึ่งเป็นองค์รัชทายาท และอยู่ร่วมกับขุนนางใหญ่ที่ชิงโจวมาก่อนย่อมรู้ดี ว่าจะต้องจัดการเช่นไร เขารับป้ายทองอาญาสิทธิ์นั้นมาก่อนจะหันไปคำนับให้กับเสนาบดีกลาโหมอย่างนอบน้อม จนอีกฝั่งต้องคำนับเขากลับด้วยความเกรงใจ“ราชบุตรเขย พระองค์อย่าทำเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ”“ท่านเสนาบดี ข้าเป็นเพียงผู้น้อย อีกทั้งยังพึ่งเคยมาที่นี่เพียงไม่ถึงเจ็ดวัน ก็ต้องมาประสบเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดแบบนี้มาก่อน เรื่องป้ายทองนี้ ข้าเคยแจ้งเสด็จพ่อไปแล้วว่าข้าไม่สมควรรับ เพียงแต่เสด็จพ่อ ยืนยันมั่นเหมาะ ให้ข้ารับเอาไว้ ตอนนั้นจึงขัดรับสั่งพระองค์ไม่ได้ แต่ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ป้ายทองนี้ ข้า มอบคืนให้ท่าน เป็นผู้ดูแลแทน”เสนาบดีกลาโหมตกตะลึง นึกไม่ถึงว่าราชบุตรเขยจากต่างเมืองจะตัดสินใจห้าวหาญ กล้ายื่นดาบให้ศัตรู เขาแสดงออกชัดเจนที่จะขัดขวางการขึ้นครองบัลลังก์ แต่ราชบุตรเขย กลับซื้อใจเขา ด้วยการมอบกองทัพใหญ่ให้เขาดูแล นี่แสดงถึงการจัดการจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว การคานอำนาจของสองอำนาจที่ยิ่งใหญ่ บู๊กับบุ๋น แต่เขาจัดการได้โ
“ท่านราชครู อย่าทำแบบนี้เลย ท่านลุกขึ้นเถิด หลังจากนี้ พวกเรายังมีภารกิจอีกมากนัก ทั้งเรื่องเสด็จพ่อ และ… หลังจากที่พระองค์...”“ฝ่าบาท หากมีสิ่งใดจะสั่งการ โปรดรับสั่งได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“พรุ่งนี้ประชุมเช้า อย่างน้อยเราคงต้องแจ้งบรรดาขุนนางก่อนล่ะนะ ตอนนี้ข้าสั่งคนนำจอกและเหยือกสุราในห้องเสด็จพ่อไปตรวจสอบแล้ว ไม่นานคงจะมีเบาะแสเพิ่ม”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท คืนนี้พระองค์ก็ทรงพักผ่อนก่อนเถิด กระหม่อมจะอยู่เฝ้าฝ่าบาทเอง”“ข้านอนไม่หลับแล้วล่ะ ข้าไปเฝ้าพระองค์กับท่านด้วยก็แล้วกัน เผื่อว่าจะได้สอบถามข้อมูลของเซี่ยหนานด้วย เพื่อเป็นประโยชน์กับการประชุมพรุ่งนี้”“ดียิ่งนัก ดียิ่ง กระหม่อมภูมิใจและเต็มใจอย่างยิ่งพ่ะย่ะค่ะ เชิญเสด็จพ่ะย่ะค่ะ”ประชุมเช้า ราชสำนักเซี่ยหนานขุนนางในราชสำนักวันนี้มากันมากกว่าการประชุมทุกวัน เนื่องจากมีเหตุสำคัญร้ายแรงเกิดขึ้น ฝ่ายบู๊ หรือคณะกองทัพที่อยู่นอกเมืองจึงเร่งเข้ามาเพื่อร่วมประชุมวันนี้ในท้องพระโรงจึงดูเล็กไปเลย ต่างแลกเปลี่ยนแนวคิดว่า ฝ่าบาทถูกลอบปลงพระชนม์ได้เช่นไร ก่อนที่ท่านราชครูจะเป็นผู้ทำลายความสงสัยนั้น“ทุกท่าน วันนี้ราชบุตรเขยจะเป็นตัวแทนฝ่าบาท เพื่อเ