จ้าวซีเหมยที่กระแทกกับผนัง หันมามองผู้ที่ถีบประตูเข้ามา“สือเย่วเทียน”“ซีเหมย เจ้าทำอะไรอาเฟย”สือเย่วเทียนตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า ชินอ๋องจัดการกับทหารสองคนนั้นก่อน เพื่อให้พวกมันได้รับผลกรรมที่บังอาจมายุ่งกับพระชายาของเขา“ท่านอ๋อง เร็วเข้า ไปช่วยอาเฟยก่อน นางอยู่นั่น”ชินอ๋องวิ่งเข้าไป พร้อมกับฆ่าสัตว์ร้ายนั้น แต่พวกอสรพิษมีมากเกินไป และตอนนี้เริ่มหันไปเล่นงานทหารสองคนนั้นแทน เพราะมันได้กลิ่นคาวเลือด“ท่านอ๋อง ช่วยข้าด้วยเพคะ ข้าไม่ได้ทำ ข้ากำลังจะไปเรียกคนมาช่วยท่านพี่เพคะ ท่านอ๋อง ได้โปรด”“ไปให้พ้นหน้าข้า หลีกไป เฟยเฟย!!!”จ้าวซีเหมยวิ่งไปกอดขาชินอ๋อง เป็นภาพที่น่าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก ความหวังครั้งสุดท้ายของนางที่จะทำให้เขาเห็นใจดับวูบลง เขาสะบัดนางออกจากขาอย่างไม่ใยดี พร้อมกับวิ่งเข้าไปช้อนตัวอุ้มซีเฟยออกมาจากเตียง และต้องคอยฆ่าสัตว์ร้ายที่ล้อมรอบตัวซีเฟยอยู่ และพานางออกมาด้านนอก ดึงผ้าและตัดเชือกออก“เย่วเทียน ไม่ใช่ข้านะ ข้าไม่รู้เรื่อง นางเป็นคนพาข้ามา เชื่อข้าสิ ช่วยข้าด้วย กรีี๊ดดดดดดด……”นางจะวิ่งออกมา ชินอ๋องรู้ดีว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องชั่วร้ายนี่ เขาวางซีเฟยลง ก่อนที
วันรุ่งขึ้นซีเฟยตื่นแต่เช้าในวันที่อากาศเริ่มเย็นลง ด้านนอกพระตำหนักหมอกลงหนาจนแทบจะมองไม่เห็นทางข้างหน้า หน้าหนาวของทางเหนือนั้น หนาวกว่าทางเมืองหลวงของชิงโจวมากนักซีเฟยปลุกท่านอ๋องมาทานข้าวเช้าและดื่มยาและน้ำอุ่นๆ เพื่อคลายหนาว ก่อนที่นางจะทำการเปลี่ยนผ้าพันแผลให้เขา เมื่อเปลี่ยนเสร็จ มีนางกำนัลเข้ามาขอเข้าเฝ้า“ทูลพระชายาชินอ๋อง ท่านอ๋องจ้าวให้พระองค์ไปเข้าเฝ้าเป็นการส่วนตัวเพคะ”“เสด็จอาแจ้งหรือไม่ว่าเรื่องอันใด”ซีเฟยถามนางกำนัล“แจ้งเพียงว่าเกี่ยวข้องกับพระอาการของฝ่าบาทเพคะ”“เฟยเฟย ข้าไปกับเจ้าด้วย”“ขออภัยเพคะ ท่านอ๋องทูลว่า ขอพบกับพระชายาเป็นการส่วนตัวเพคะ”ซีเฟยหันมายิ้มให้ท่านอ๋อง ก่อนบอกเขาไปเพื่อให้คลายกังวล“ไม่เป็นไรเพคะ หม่อมฉันคุ้นเคยกับวังหลวงที่นี่ดี เสด็จอาคงมีเรื่องลำบากใจบางอย่าง จึงอยากพบหม่อมฉันคนเดียว เดี๋ยวหม่อมฉันกลับมานะเพคะ”“ได้ ข้าจะรออาจารย์อา หากเขามาแล้วจะได้พาไปพบเจ้า”ซีเฟยยิ้มให้เขา ก่อนจะเดินตามนางกำนัลไป นางเดินตามไปเรื่อยๆ จนถึงตำหนักชั้นใน ที่นี่นางเคยพักอยู่ตั้งแต่เด็กจนโต เป็นตำหนักเดิมของนาง“เหตุใดท่านอาจึงได้นัดข้าที่นี่ โอ๊ย เดี๋ยวก่อน
เขาเดินออกมาเงียบๆ ตอนนี้เขาช่วยอะไรนางไม่ได้ คงต้องฝากอันเหมยดูแลนางไปก่อน เมื่อเขาออกมาก็พบกับสือเยว่เทียนและอาจารย์อาที่รอเขาอยู่“เยว่เทียน ท่านอา พวกท่านมาเยี่ยมเฟยเฟยหรือ คือว่านาง…”“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องจ้าวอยากพบพระองค์ ให้กระหม่อมมาเชิญพ่ะย่ะค่ะ”“ได้สิ ท่านนำทางไปได้เลย ท่านอา ท่านจะ...”“เดี๋ยวข้าจะดูนางให้ แล้วค่อยตามไป ท่านไปก่อนเถิด”“ขอรับ”“ท่านอ๋อง เชิญทางนี้...”เขาเดินตามเย่วเทียนไปพบอ๋องจ้าวที่ท้องพระโรง“เสด็จอา ท่านเรียกข้า มีอะไรด่วนหรือพ่ะย่ะค่ะ”“ท่านอ๋อง อาการบาดเจ็บของท่าน”“ดีขึ้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ เฟยเฟยทำแผลให้ข้า เกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”“ฮองเฮาดื่มยาพิษในคุกหลวง สวรรคตแล้ว”“เบื้องหลังนาง ยังมีกองทัพกบฏหลงเหลืออีกหรือไม่ เย่วเทียน”ชินอ๋องสอบถามสือเย่วเทียน“ที่กระหม่อมตรวจสอบดู ไม่มีเหลือแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“แล้วเสด็จอา คิดจะทำเช่นไรต่อพ่ะย่ะค่ะ”“นางเป็นคนเดียวที่ถอนพิษให้เสด็จพี่ได้ ตอนนี้นางฆ่าตัวตายไปแล้ว นั่นแสดงว่า นางต้องการให้เสด็จพี่ สิ้นพระชนม์ตามนางไปด้วย ข้า ไม่รู้ว่าจะแจ้งเรื่องนี้กับซีเฟยเช่นไร และยังมีเรื่องซีเหมยอีก นางพึ่งจะทราบข่าวฮองเฮา แต่นางก็เอา
กองทัพทหารของแคว้นเยี่ยน นำโดยสือเยว่เทียน นำขบวนกองทัพกลับเข้าเมือง พร้อมกับกองทัพฟินิกซ์อัคคีและกองทัพอุดรของชินอ๋องแห่งชิงโจวตามมาด้วยการเข้าจับกุมฮองเฮากบฏแห่งเมืองเยี่ยน ที่ถูกอาจารย์อา ตามไปจับถึงที่พักค่ายกบฏ และนำตัวมารับโทษที่เมืองหลวง พร้อมกับเสียงสาปแช่งของบรรดาประชาชนในเมืองเยี่ยนจ้าวซีเหมยเมื่อทราบข่าวความพ่ายแพ้ของกองทัพเหลียงฮุ่ย นางก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้องนอน แม้ว่าจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นองค์หญิงของฮองเฮาซึ่งเป็นกบฏ แต่อ๋องจ้าวอี้เหลียงก็ไม่คิดที่จะทำร้ายหรือลงโทษนาง เพียงเพราะเขาคิดว่านางไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกบฏของฮองเฮาขบวนของชินอ๋องเข้าพักที่พระตำหนักหลวงที่ทางอ๋องจ้าวจัดเอาไว้ให้ เมื่อถึงที่พัก เขาลงจากหลังม้าและซีเฟยก็รีบตามเข้าไปเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บให้เขาทันที โดยที่ไม่พูดอะไรกับเขาสักคำ“เฟยเฟย เจ้ามาได้เช่นไรกัน เหตุใดไม่รอข้าอยู่...โอ๊ยย เจ็บนะ เฟยเฟย เบามือหน่อยสิ”“แผลอักเสบแล้ว อันเหมย เตรียมน้ำร้อน และยาฆ่าเชื้อ เอาเข็มมาด้วย เราต้องฝังเข็ม ก่อนที่จะผ่าเอาหนองออก พอผ่าแล้ว ต้องเย็บแผล เพราะปากแผลเปิดและฉีกออกมาแล้ว”“ผ่าสดเลยก็ได้ ไม่ต้องฝังเข็มก็ได้
ลูกธนูนับร้อยถูกยิงออกมา ก่อนที่อ๋องเจ้าจะหลบเข้าไป พร้อมกับเกราะเงินที่ถูกยกขึ้นมาบัง และเกราะเงินนั้นสะท้อนกับแสงอาทิตย์ และส่งกลับไปที่ทัพของศัตรู ทำให้พวกเขาแสบตา“บ้าจริง โล่เงิน ท่านแม่ทัพ พวกมันเตรียมการมาดีเหมือนกันนะขอรับ”กองทัพกบฏสูญเสียลูกธนูไปมากมาย แต่กลับทำอะไรโล่เงินของกองทัพเยี่ยนไม่ได้ มีการเคลื่อนไหวบางอย่าง โล่เงินบางอันค่อยๆ ขยับออก ก่อนที่จะมีปากกระบอกยาวๆ ยื่นออกมาจากป้อมปราการกำแพงเมือง“นั่นมันอะไรน่ะ”“แย่แล้ว นั่นมัน ปืนไฟ ตั้งแถว เตรียมโล่กำบัง”กองทัพกบฏล่าถอย และตั้งโล่เพื่อรองรับการโจมตี อ๋องจ้าวให้สัญญาณ ก่อนที่จะยกธงโบกเพื่อเป็นสัญญาณให้ยิง โดยที่ไม่ใช้เสียงให้ฝั่งตรงข้ามรู้“ตู้มมมม ตู้มมมม”ปืนไฟ สี่กระบอกถูกยิงออกไปยังทัพของกบฏ ทำให้โล่ของพวกเขาแตก และสูญเสียกำลังพลไปมากพอสมควร“แย่แล้ว ท่านแม่ทัพ เอาอย่างไรดีขอรับ”“ต้องเข้าประตูเมืองให้ได้ อย่าให้มันมีโอกาสยิงอีก บุก”“บุกกก!!”โล่กำบังถูกแยกออก และเหล่าทหารพร้อมท่อนไม้ใหญ่ วิ่งเข้าไปชนกำแพงเมืองเพื่อให้ประตูเปิด พวกเขาลงมือกระทุ้งอย่างหนัก ปืนไฟด้านบนกำแพง ยังคงยิงออกไปอย่างต่อเนื่องทำให้กองทัพกบ
แคว้นเยี่ยน“ท่านอ๋อง ท่านว่าอย่างไรนะ ชินอ๋องของชิงโจวมาช่วยเราไม่ได้อย่างนั้นหรือ”“ใช่ ระหว่างทางมาที่นี่ ทัพชิงโจวถูกกบฏลอบโจมตี กองกำลังที่พามาเสียหายหนักมาก ตัวท่านอ๋องก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส เลยยังไม่สามารถเคลื่อนพลมาช่วยเราได้ ตอนนี้ เหลือแค่กองทัพเราทัพเดียวที่สู้ศึก เราต้องวางแผนกันใหม่ ตั้งกำลังให้มั่นเพื่อกำจัดพวกกบฏ”“แต่ว่าท่านอ๋อง กองทัพเรามีน้อยกว่ากบฏครึ่งหนึ่ง หากไม่มีความช่วยเหลือของฝั่งชิงโจว เรื่องนี้ ..”“เรื่องนี้ อย่าให้หลุดรอดออกไปฝั่งนั้นรู้ได้โดยเด็ดขาด”ร่างเล็กที่แอบฟังอยู่หลังเสาประดับไพลินสีน้ำเงิน ค่อยๆ ย่องเดินออกจากห้องไปเบาๆ ก่อนที่คู่สนทนาในห้องจะทันรู้ตัว นางรีบเดินกลับไปที่ห้องทันที และเขียนแจ้งข่าวให้กองทัพของท่านลุงอย่างเร่งด่วน แค้นที่นางได้รับจากชิงโจว ครั้งนี้นางจะเอาคืนอย่างสาสม“ท่านอ๋อง เป็นท่านที่ผิดเองที่ไม่ยอมรับข้า หากพ่ายศึกครั้งนี้ ข้าจะให้ท่านเป็นเชลยที่รับใช้ข้าแต่เพียงผู้เดียว ในเมื่อไม่ยอมรับข้าดีๆ ข้าก็มีวิธีของข้าล่ะนะ”ไม่นานพิราบสีขาวก็โบยบินออกไปไกลจากสายตา ก่อนนางจะหันไปนั่งอย่างสบายอารมณ์ที่เตียงนุ่มของนาง ที่นางยังอยู่ในวังห