Home / รักโบราณ / อัปลักษณ์จวนเดียวดาย / ตอนที่ 1 ของขวัญปริศนา 1.1

Share

ตอนที่ 1 ของขวัญปริศนา 1.1

last update Last Updated: 2025-06-05 06:41:59

เสียงสายน้ำไหลรินออกมาจากกระบอกไม้ไผ่ลงสู่สระน้ำมีลักษณะเป็นวงกลม บริเวณขอบสระมีก้อนหินขนาดใหญ่และเล็กวางรายล้อมเพื่อประดับให้เกิดความสวยงาม ไอควันขาวพวยพุ่งออกมาจากสระเป็นระยะๆ เพราะเป็นน้ำแร่เกิดจากธรรมชาติไหลลงมารวมตัวเป็นแอ่งน้ำที่อุดมไปด้วยน้ำแร่ขนาดใหญ่ ก่อนจะถูกสูบเข้ามาอยู่ในบ่อและต่อตรงเข้ามาถึงสระน้ำสหรับทำความสะอาดร่างกายภายในห้องขนาดใหญ่ที่ตกแต่งทุกอย่างเป็นอย่างดี

ภายในห้องดังกล่าวตกแต่งอย่างสวยงาม บริเวณด้านข้างของสระบานประตูถูกเลื่อนออกเผยให้เห็นทิวทัศน์ด้านนอก มองออกไปไกลคือเทือกเขาสูงเสียดฟ้า ในขณะที่บริเวณตรงหน้าลานกว้างถัดจากประตูที่เปิดอยู่ในขณะนั้นคือต้นดอกเหมย กำลังยืนต้นเบ่งบานดอกสีขาวสะพรั่งไปทั่วบริเวณ และร่วงหล่นลงสู่พื้นเป็นระยะแข่งกับสายน้ำไหลที่หลั่งรินออกมาจากปากกระบอกไม้ไผ่

ภายในห้องตั้งโต๊ะตัวยาวมีกู่ฉินวางอยู่ด้านบน ราวกับว่ากำลังคอคอยใครบางคนมาบรรเลงเสียงดนตรีขับขาน บริเวณข้างโต๊ะตั้งเตาไฟพร้อมกาน้ำและชุดชงชา ไอควันขาวลอยออกจากกาน้ำอยู่เป็นระยะ ครั้นมองไปทางประตูทางเข้าปรากฏโคมไฟถูกแขวนไว้อยู่ตรงหน้าประตูและบริเวณกลางสระน้ำ ตรงริมห้องทั้งซ้ายและขวาตั้งโคมไฟตัวยาวเพื่อเพิ่มความสว่างให้มากขึ้น

ท่ามกลางไอควันขาวที่ตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้อง ปรากฏร่างของหญิงสาวนางหนึ่งกำลังนอนหงายใช้ศีรษะพาดไปกับก้อนหินที่ถูกนำมาวางประดับเอาไว้และสามารถใช้อิงแอบแทนหมอนหนุนได้ดีทีเดียว ใบหน้ามีผ้าผืนน้อยบางเบาวางทาบทับอยู่ด้านบนนอนดื่มด่ำท่ามกลางสระน้ำดังกล่าว

ในขณะเดียวกันมือเรียวขาวดั่งลำเทียนดูก็รู้ว่าของสตรีถูกแต่งแต้มเติมสีเล็บฉาบสีกลีบบัวเอาไว้อย่างสวยงาม บริเวณเล็บถูกตัดแต่งเอาไว้อย่างปรานีตสวยงามอย่างลงตัว ใบหน้าสวยเฉี่ยวหันรีหันขวางมองไปทั่วบริเวณห้องดังกล่าวด้วยความสงสัย ก่อนจะดึงแว่นกันแดดที่สวมอยู่บนใบหน้าออกมา

“ฉันมาอยู่ที่ไหน! บ้านของใครก็ไม่รู้สวยจังเลย” หยางเฟยอี้พูดออกมาเบาๆ ด้วยความสงสัยกับสิ่งที่เธอเห็นอยู่ในขณะนี้ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า ทางทีมงานที่มารับหญิงสาวจากสนามบินเพื่อเดินทางเข้าที่พักซึ่งจัดเตรียมเอาไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว

“หรือว่าจะเป็นที่พักรับรองจัดเตรียมไว้ให้เรา” หยางเฟยอี้ยืนพึมพำตามความคาดเดาของตัวเอง

ร่างอรชรอ้อนแอ่นในชุดทันสมัยค่อยๆ ก้าวเดินออกไปทางประตูห้องที่สามารถเห็นต้นเหมยสีขาวบริสุทธิ์ ท่ามกลางขุนเขาสูงเสียดฟ้าที่ปรากฏให้เห็นอยู่ตรงหน้าไกลลิบ สายหมอกไหลพาดผ่านราวกับว่ากำลังยืนอยู่สวรรค์เบื้องบน

“โอโห่! สวยจังเลยนี่เราอยู่บนสวรรค์หรือเปล่า ไม่เคยเห็นวิวแบบนี้มาก่อนเลย อยู่ฮ่องกงก็ไม่เคยเห็นทิวทัศน์แบบนี้ แผ่นดินจีนมีบรรยากาศงดงามที่ซุกซ่อนตามเทือกเขาได้อย่างเหลือเชื่อจริงๆ” นักร้องสาวชื่อดังยืนชื่นชมท่ามกลางความงามของธรรมชาติอย่างตื่นตะลึง

นักร้องสาวคนดังยืนเอามือไพล่หลัง หลับตาพริ้มดื่มด่ำอยู่กับธรรมชาติและสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปจนเต็มปอด ท่ามกลางดอกเหมยสีขาวร่วงหล่นจากต้นลงสู่พื้นเป็นระยะ จนไม่รู้ว่ายืนมองผ่านไปนานแค่ไหน

จ๊อกกก!!! เสียงท้องร้องเพราะเกิดจากกรดในกระเพาะอาหาร ส่งเสียงดังปลุกนักร้องสาวคนดังให้รู้สึกตัว เปลือกตาที่ปิดอยู่ในขณะนั้นเปิดขึ้นพร้อมทำหน้าละเหี่ยใจ เมื่อได้ยินเสียงท้องร้องของตัวเอง

“อะไรจะร้องดังขนาดนี้แน่ใจนะว่าเสียงน้ำย่อยในกระเพาะของเรา” หญิงสาวบ่นพึมพำให้กับตัวเองพลางยกมือลูบไล้หน้าท้องราบเรียบใต้เสื้อเชิ้ตสีขาว

ร่างของนักร้องดังหันกลับมามองภายในบริเวณห้องเพื่อสำรวจตรวจตราว่ามีโทรศัพท์ภายในสามารถติดต่อกับห้องอาหารของที่พักดังกล่าวซึ่งเธอกำลังยืนอยู่ในขณะนี้หรือไม่ และพบว่าภายในห้องเป็นสระน้ำสำหรับใช้เป็นสถานที่ชำระล้างร่างกายเสียมากกว่าที่จะใช้เป็นสถานที่พักผ่อน

“ห้องสำหรับอาบน้ำเหรอ ทำไมที่นี่ถึงสร้างกินพื้นที่มากมายขนาดนี้นะไม่เปลืองค่าก่อสร้างแย่เลยเหรอ แล้วห้องขับถ่ายอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ แล้วห้องอาบน้ำอะไรกันมีชุดชงชาพร้อมกาต้มน้ำเหมือนในสมัยโบราณวางเอาไว้ด้วย” หญิงสาวพูดพลางสำรวจไปทั่วบริเวณก่อนจะเดินตรงไปที่โต๊ะตัวยาวที่เห็นอยู่ตรงหน้า

ทันทีที่เดินมาหยุดยืนตรงโต๊ะดังกล่าว สายตาจับจ้องอยู่ที่เครื่องดนตรีโบราณที่วางอยู่ตรงหน้าพลางเอื้อมมือใช้นิ้วเรียสวยจับสายเส้นบางเบาเพื่อทดสอบเสียง

ตึ้งงงง!!! เสียงใสก้องกังวานดั่งกระจกดังก้องไปทั่วห้อง ท่ามกลางรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้างาม

“แจ๋ว! เสียงใสดีจังเลย! กู่ฉินตัวนี้คนทำจะต้องมีฝีมือดีมากทีเดียวถึงมีเสียงก้องกังวานและคมขนาดนี้” นักร้องดังกล่าวชื่นชมพลางเงยหน้าเพื่อสำรวจหาโทรศัพท์ติดต่อภายในเพื่อสั่งอาหารมาทาน ด้วยเธอยังไม่ได้ทานอาหารตั้งแต่เช้ามีเพียงกาแฟแก้วเดียวเท่านั้นที่ตกถึงท้องก่อนจะขึ้นเครื่องรีบบินตรงมาที่เซี่ยงไฮ้

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสำรวจไปทั่วห้องก่อนจะมาหยุดชะงัก เมื่อสายตากระทบถูกร่างเปลือยเปล่าของสตรีที่กำลังนอนแช่น้ำอยู่ในสระซึ่งอยู่หลังก้อนหินจนไม่มีใครสามารถสังเกตได้ หากไม่มายืนอยู่ฝั่งตรงกันข้าม บริเวณใบหน้ามีผ้าสีขาวผืนบางปกคลุมใบหน้าอยู่ในขณะนั้น

“ตายแล้วถิงถิง! นี่เธอเดินเข้ามาอยู่ในห้องของใครก็ไม่รู้ ห้องนี้มีเจ้าของนี่หว่ารีบเผ่นก่อนที่เจ้าหล่อนจะลุกมาอาละวาดแล้วกล่าวหาว่าเราเป็นขโมยย่องเบาเข้ามาห้องของคนอื่นที่ไม่ใช่ของตัวเอง” นักร้องสาวบ่นพึมพำ

หยางเฟยอี้รีบจรดปลายเท้าอย่างแผ่วเบาด้วยกลัวว่าหญิงสาวที่กำลังนอนแช่น้ำอยู่ในสระจะตื่นขึ้นมาเห็นเธอเสียก่อน นักร้องคนดังก้าวเท้าพลางจับจ้องร่างที่อยู่ในสระจนเผลอสะดุดขาของตัวเอง

เหวอออ!!! เสียงอุทานร้องออกมาจนสุดเสียงเมื่อเธอเสียการทรงตัว

โครม!!!ร่างกระแทกลงกับพื้นห้องเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แน่นอนว่าเจ้าของห้องที่กำลังนอนแช่อยู่ในสระจะต้องรู้สึกตัวขึ้นมาอย่างไม่ต้องสงสัย

โอ๊ยยยย!!! นักร้องสาวส่งเสียงโอดโอยด้วยความเจ็บปวด เมื่อร่างเล็กๆ ของเธอล้มฟาดลงกับพื้นห้องอย่างแรง

“ถิงถิงเอ๊ยถิงถิง ทำไมเธอมันถึงได้ซุ่มซ่ามอะไรแบบนี้นะให้ตายเถอะ!” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปดให้กับตัวเอง

ทว่าทุกสิ่งยังเต็มไปด้วยความเงียบที่แม้แต่เข็มหมื่นเล่มร่วงหล่นยังพากันได้ยิน ไม่มีเสียงร้องโวยวายออกมาจากร่างที่นอนอยู่ในสระน้ำแม้แต่น้อย ยังคงแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่เช่นเดิม จนนักร้องสาวที่กำลังก้มหน้าแนบอยู่กับพื้นเกิดความสงสัยขึ้นมาทันทีเมื่อไม่ได้ยินเสียงร้องโวยวายใดๆ ออกมา

“แปลก! ทำไมถึงได้เงียบจังแฮะ” หญิงสาวพูดพึมพำพร้อมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาอย่างช้าๆ เพื่อสังเกตร่างของสตรีตรงหน้าที่กำลังนอนอยู่ในสระน้ำ

หยางเฟยอี้นอนมองร่างดังกล่าวอยู่ในท่านอนคว่ำโดยใช้แขนสองข้างยันไว้กับพื้นประมาณห้านาทีเห็นจะได้ จนเธอรู้สึกแปลกใจและเกิดความสงสัยขึ้นมาทันที

“คนอะไรจะนอนนิ่งไม่ไหวติงขนาดนั้นได้นะ จะว่าหลับลึกจนไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยก็ไม่น่าจะใช่ แต่ถ้าจะบอกว่านอนหลับไม่รู้เรื่องเพราะเมามากก็ว่าไปอย่าง แต่ภายในห้องนี้ไม่มีกลิ่นเหล้าเลยนะ หลับอะไรของเขาจนไม่รู้เรื่องอะไรขนาดนี้เนี่ย” นักร้องดังบ่นพึมพำพลางยันตัวลุกขึ้นจากพื้นมายืนเคว้งคว้างอยู่กลางห้อง

“จะเอาอย่างไงดี! จะแอบออกไปเลยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจากไปแบบเนียนๆ หรือจะไปปลุกเธอดีนะ” นักร้องสาวยืนพึมพำพลางครุ่นคิดเพื่อตัดสินใจ

“แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้นอนหลับหรือเมาจนไม่รู้เรื่องละ” หยางเฟยอี้บ่นขึ้นมาอีกพลางใช้ความคิด

“ถ้าเธอป่วยแล้วเกิดหมดสติก็เลยทำให้ไม่ได้ยินหรือรู้เรื่องอะไรที่เกิดขึ้นในห้องนี้ อาการแบบนี้พอจะมีเหตุผลอยู่บ้างนะ” หญิงสาวเอ่ยออกมาตามความคิดของเธอก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อสะดุดกับคำพูดของตัวเอง

“จริงสิ! เธออาจจะป่วยก็ได้ถึงไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยไม่ได้การแล้ว!!!” นักร้องสาวกล่าวพร้อมรีบวิ่งอ้าวตรงไปที่สระน้ำตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่วิ่งมาถึงหยางเฟยอี้รีบนั่งคุกเข่าลงพลางเอื้อมมือหมายไปเขย่าร่างเปลือยที่โผล่มาเฉพาะช่วงเนินอกเท่านั้น เพื่อปลุกให้ตื่นจากการหลับใหลและตรวจดูว่าเป็นอะไรกันแน่

“คุณค่ะ! เป็นอะไรหรือเปล่า! คะ...” นักร้องสาวชื่อดังส่งเสียงร้องเรียกได้เพียงแค่นั้นกลับต้องเงียบงัน เมื่อมือของเธอสัมผัสได้ถึงความเย็นจากร่างของหญิงสาวตรงหน้าที่เย็นเฉียบราวกับคนตายก็ว่าได้

พรืดดด!!! หยางเฟยอี้รีบชักมือกลับมาทันทีเมื่อสัมผัสถูกร่างตรงหน้า

“ตัวเย็นเฉียบเสียขนาดนี้ ทั้งๆ ที่กำลังนอนแช่น้ำร้อนเป็นไปไม่ได้แน่นอน ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่” นักร้องสาวคนดังกล่าวพึมพำพลางมองไปที่ใบหน้าที่ถูกผ้าผืนน้อยปกคลุมเอาไว้อยู่ด้านบน

ความรู้สึกบางอย่างทำให้ยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อดึงผ้าผืนดังกล่าวออกจากร่างที่กำลังนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่ในขณะนี้

“เอาผ้าที่ปิดใบหน้าออกก่อนดีกว่า หวังว่าคงไม่ใช่อย่างที่คิดเอาไว้หรอกนะ สมัยโบราณคนที่มีไอเย็นอยู่ในกายมีเยอะแยะไปเนอะถิงถิง” นักร้องคนดังพูดปลอบใจตัวเองพร้อมเอื้อมมือดึงผ้าผืนน้อยออกมาอย่างรวดเร็ว

พรืดดด!!! ผ้าสีขาวบางเบาถูกดึงออกมาทันใดจากปลายนิ้วของหยางเฟยอี้

ในขณะที่ร่างอรชรของนักร้องชื่อก้องถึงกับนั่งอยู่กับที่ในท่าเดิม เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวปริศนาตรงหน้ามีสภาพที่ทำให้ทุกคนต่างต้องพากันเบือนหน้านี้ไปทางอื่น ด้วยเธอมีใบหน้าที่ผิดรูปและเต็มไปด้วยตุ่มฝีหนองผุพอง คล้ายป่วยด้วยโรคอะไรบางอย่างและที่สำคัญร่างที่อยู่ในสระนั้นกำลังค่อยๆ แหงนหน้าขึ้นมามองหยางเฟยอี้อยู่ในขณะนี้

ริมฝีปากที่ห้อยย้อยลงมาและขยายใหญ่เพราะสาเหตุอะไรก็ไม่อาจรู้ได้ ส่งยิ้มแย้มเยือนให้แก่เธอ ดวงตาที่มองลอดออกมาซึ่งเหลือเพียงข้างเดียวเท่านั้น ส่วนอีกข้างเป็นฝ้าขาวจนทำให้บอดสนิทมองตรงมาที่นักร้องสาวคนดัง ดวงตาเปล่งประกายด้วยความดีใจอย่างเห็นได้ชัด

“ในที่สุดเจ้าก็มาเสียทีถิงเอ๋อ! ข้ารอเจ้ามานานแล้ว รอมานานเหลือเกิน” สิ้นเสียงดังกล่าว

ร่างตรงหน้าค่อยๆ หลอมละลายไปต่อหน้าต่อตาของอีกฝ่าย ใบหน้ายุบตัวลงอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางอาการตื่นตกใจอย่างสุดขีดของหยางเฟยอี้ที่ได้เห็นภาพดังกล่าวตรงหน้า

“ร่างคน! กำลังละลาย! ละ...ละ...ละลาย!” นักร้องคนดังพูดตะกุกตะกัก

เพียงครู่ดวงตาคู่สวยมีอันต้องเบิกกว้างด้วยความตกใจสุดขีดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อใบหน้าที่กำลังหลอมละลายหายไปครึ่งซีกแล้ว แทนที่จะตายกลับสามารถยกมือตรงเข้ากระชากปกคอเสื้อเชิ้ตของนักร้องดังให้เข้ามาแนบชิดใบหน้าที่กำลังละลายอยู่ในขณะนั้น โดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวแม้แต่น้อย

“จวนเดียวดาย! จวน...เดียว...ดาย...” ร่างนั้นบอกชื่อสถานที่ทิ้งไว้กับหยางเฟยอี้ท่ามกลางอาการตื่นตกใจสุดขีดของนักร้องสาวคนดัง

กรี๊ดดดด!!! หยางเฟยอี้กรีดร้องออกมาจนสุดเสียงด้วยความตกใจสุดขีดกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าเธอ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 11 อินอวิ๋นหยาง

    เทือกเขาหลงเมิ่งเทืองเขาสูงเสียดฟ้าถูกปกคุลมด้วยสายหมอกเมฆาเห็นเป็นทะเลหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณ สายลมเย็นยะเยือกพาดผ่านไปมาอยู่เป็นระยะ กระทบอาภรณ์ขาวจนชายผ้าพลิ้วไหวสะบัดไปมาเส้นผมสีดำสนิทยาวถึงบั้นเอวถูกเกล้าครึ่งศีรษะปล่อยส่วนปลายให้ทิ้งตัวลงในวันสบายๆ เช่นนี้ มวยผมถูกจัดให้เป็นทรงได้รูปสวยงามเสียบปิ่นปักผมทำจากหยกสีขาว กำลังยืนเอามือไพล่หลังพร้อมหมุนหยกก้อนกลมสีขาวเหมือนกับอาภรณ์ไปมาอยู่ตลอดเวลา พลางทอดสายตามองขุนเขาสูงตรงหน้าที่เพิ่งจะกลับมาพำนักอยู่ได้เพียงแค่สามปีเท่านั้นร่างสูงใหญ่ท่ามกลางอาภรณ์ขาวสวมใส่อยู่บนเรือนกาย เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลคู่โศก ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มรับกับจมูกโด่งสูงและริมฝีปากหยักได้รูปสวยโครงหน้าประหนึ่งรูปสลัก หล่อเหลางดงามเป็นที่เลื่องลือไปทั่วหล้าว่าเป็นบุรุษรูปงามที่หาพบได้ยากยิ่งหากแต่บุรุษผู้ลือนามอันเป็นที่กล่าวขานไปทั่วแผ่นดินผู้นี้ กับมีสมญานามที่ผิดไปจากรูปลักษณ์ภายนอกอันงดงามอย่างสิ้นเชิง อุปราชอำมหิต นามเลื่องลือที่ผู้คนต่างสะพรึงกลัวและหวาดหวั่น อุปราชอินอวิ๋นหยางแห่งหยวนเป่ย ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีชีวิตที่ลึกลับและน่าพิศว

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 9 อินอวิ๋นฉวี่ 1.3

    ฉาด!!!! พระหัตถ์ตบลงบนหน้าขาของพระองค์จนได้ยินเสียงดังอย่างชัดเจน ติดตามด้วยเสียงหัวเราะดักกึกก้องออกมาทันทีไม่รู้ว่าเห็นด้วยกับวิธีการของขันทีคนสนิทหรือเห็นต่างกันแน่“ดี! เจ้าทำได้ดีมากเสี่ยวฉิงจื่อ! ความคิดของเจ้ายอดเยี่ยมช่างตรงกับความต้องการที่อยู่ในภายในใจของข้า! ข้าต้องการให้เสด็จอาตายไปเสียที! ยิ่งเร็วได้เท่าไรยิ่งดีจะได้ไม่ต้องอยู่ขวางทางอำนาจของข้าอีกต่อไป”รับสั่งของฮ่องเต้น้อยทำให้ไส้ศึกจากสองแคว้นผ่อนลมหายใจของตนออกมาทันที รอยแสยะยิ้มเหยียดปรากฏขึ้นบนใบหน้า ในที่สุดฮ่องเต้โง่ผู้นี้ก็มีความเห็นคล้อยตามที่คิดจะกำจัดอุปราชอินอวิ๋นหยางเกิดขึ้นภายในจิตใจ ไม่เสียแรงที่เฝ้ายุแยงมานานหลายปีไม่ทำให้ลงแรงไปโดยเปล่าประโยชน์“แต่ว่าแล้วจะเอามือสังหารจากที่ไหนทำงานนี้ได้ ในเมื่อเสด็จอามีวรยุทธสูงมากขนาดนั้น ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าใกล้ได้เลยส่งไปก็ถูกฆ่าดั่งใบไม้ร่วงหล่นโดยเปล่าประโยชน์ และเสด็จอาต้องล่วงรู้ว่าข้าเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังเป็นแน่ แบบนี้ข้าก็แย่สิดีไม่ดีจะกลายเป็นคนถูกฆ่าเสียเอง เกิดเสด็จอาฉวยโอกาสนี้หาข้ออ้างปลิดชีวิตข้าแล้วชิงบัลลังก์ขอ

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 10 อินอวิ๋นฉวี่ 1.4

    “เจ้าให้ข้าพูดแบบนั้นหมายความว่าอย่างไงกันแน่! ข้าไม่เคยต้องการให้คนผู้นั้นแผ่ลูกหลานสายสกุลอินออกมาแม้แต่น้อยตรงกันข้ามจะฆ่าไม่ให้เหลือเสียด้วยซ้ำ! ลูกหลานสายสกุลอินจะต้องมาจากข้าเท่านั้นจึงจะถูกต้อง!” รับสั่งอย่างไม่พอพระทัย“โธ่! ฝ่าบาทไปกันใหญ่แล้ว! อย่าเพิ่งเข้าพระทัยผิดพ่ะย่ะค่ะ ทรงทำความเข้าใจเสียใหม่ว่านี้คือแผนหลอกล่อจึงต้องยกข้ออ้างเช่นนั้นออกมา หาไม่แล้วแผนต่อไปจะสำเร็จได้อย่างไร จะทำให้อุปราชไว้วางพระทัยว่าไม่มีอะไรแอบแฝงก็ต้องยกยอไปก่อนแล้วค่อยจัดการภายหลัง” เสี่ยวฉิงจื่ออธิบายกลับไปพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย“คนผู้นี้ช่างโง่เขลาเสียจริง! ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดข้าจึงทนได้มานานหลายปีเช่นนี้นะไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ” เสี่ยวฉิงจื่อรำพึงอยู่ภายในใจในขณะที่ฮ่องเต้หยวนเป่ยได้ยินคำอธิบายกลับมาเช่นนั้น พระองค์พยักพระพักตร์ขึ้นลงด้วยไม่เห็นต่างจากเสี่ยวฉิงจื่อ“จริงด้วย! จะสังหารเสด็จอาก็ต้องทำให้ไว้วางใจเสียก่อน หาไม่แล้วจะเสียแผนการทั้งหมด ดี! ใช้แผนนี้ดีที่สุดว่าแต่จะทำให้สตรีจากต้าซางและต้าเหลียงเป็นคนของเ

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 8 อินอวิ๋นฉวี่ 1.2

    ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าตัวตนดั้งเดิมที่แท้จริงของขันทีผู้นี้หาใช่ชาวหยวนเป่ยโดยกำเนิด ในความเป็นจริงแล้วคือสายลับที่ถูกฮ่องเต้ต้าเหลียงและฮ่องเต้ต้าซางซึ่งจับมือผนึกกำลังหวังโค่นล้มหยวนเป่ย ถูกส่งตัวเข้ามาแทรกซึมคอยหาข่าวภายในราชสำนักหยวนเป่ย เป้าหมายเพื่อหาโอกาสลอบสังหารอุปราชอวิ๋นหยาง และถ้าหากลงมือกับอุปราชผู้นั้นสำเร็จมีหรือชีวิตของอินอวิ๋นฉวี่จะอยู่รอดต่อไปได้นาน ฮ่องเต้หนุ่มจะต้องถูกสังหารตายตามไปด้วยเช่นเดียวกัน ทันทีที่ชีวิตของอินอวิ๋นหยางหลุดลอยออกจากร่างแต่ที่ไม่ลงมือปลงพระชนม์อินอวิ๋นฉวี่ด้วยเพราะ หากอวิ๋นฉวี่สวรรคตลงวันใดแน่นอนว่า แผ่นดินหยวนเป่ยจะต้องตกเป็นของอุปราชผู้กล้าอินอวิ๋นหยางโดยทันที และนั่นจะยิ่งยากกว่าอะไรทั้งหมดหากจะคิดเป็นอิสระและก้าวขึ้นมาครอบครองหยวนเป่ย แทนที่นั้นต้องสืบล่วงรู้จุดอ่อนของอุปราชลือชื่อผู้นี้ให้จงได้รวมไปถึงที่พำนักอันแท้จริงของพระองค์ด้วยไม่เคยมีผู้ใดล่วงรู้เลยว่าแท้จริงแล้วอุปราชผู้นี้ประทับอยู่แห่งหนใดและบริหารแผ่นดินโดยใช้อินทรีทองสื่อสารอันเป็นสัญลักษณ์ของพระองค์ ซึ่งต้าเหลียงและต้าซางรวมไปถึงหยวนเป่ยนั้นต่างรบพุ่งกันมานานเพื

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 7 อินอวิ๋นฉวี่ 1.1

    ยุคอดีตแคว้นหยวนเป่ยณ.พระราชวังหลวงภายในแคว้นหยวนเป่ยในเวลานี้อยู่ในสมัยการปกครองของสายสกุลอิน ซึ่งขึ้นมามีอำนาจเป็นใหญ่ในแผ่นดินฮ่องเต้แต่ละพระองค์มีทั้งเข้มแข็งและอ่อนแอสลับกันไป และได้นั่งบัลลังก์สืบทอดมานานกว่า 111 ปี จนถึงสมัยอินอวิ๋นฉวี่ขึ้นปกครองแคว้นในขณะที่มีพระชนม์มายุเพียงแค่ 10 พระชันษาเท่านั้นสืบเนื่องจากอดีตฮ่องเต้ซึ่งเป็นพระราชบิดาเสด็จสวรรคตลงอย่างกะทันหัน ในขณะที่มีพระชนมายุเพียง 27 พระชันษาและขึ้นปกครองแคว้นได้เพียงห้าปีเท่านั้น ด้วยสาเหตุเลือดในพระวรกายเกิดเป็นพิษซึ่งหากเทียบในยุคปัจจุบันคือติดเชื้อในกระแสเลือดนั่นเอง จึงเป็นเหตุให้องค์ชายอินอวิ๋นฉวี่ ที่ประสูติจากหยางฮองเฮาขึ้นเป็นฮ่องเต้ครองแคว้นด้วยเพราะเป็นพระโอรสเพียงหนึ่งเดียว ส่วนอีกแปดพระองค์นอกนั้นเป็นพระราชธิดาทั้งสิ้นในขณะที่หยางฮองเฮาพระราชมารดา ก็สิ้นพระชนม์ตามพระสวามีไปด้วยเพราะทรงตรอมพระทัย เพียงแค่สามเดือนที่ฮ่องเต้อวิ๋นโฉสวรรคตพระนางก็จากไป จึงทำให้ฮ่องเต้น้อยผู้ครองแคว้นหยวนเป่ย ซึ่งยังเยาว์วัยยิ่งนักต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว พระองค์เหลือเพียงฮองไทเฮาเสด็จย่า แล

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 6 ของขวัญปริศนา 1.6

    ทันใดนั้นเอง“ข้ารอเจ้ามานานแสนนานแล้ว! มาหาข้า! ข้ารอเจ้าอยู่ที่จวนเดียวดาย! รอเจ้าที่จวนเดียวดาย” เสียงดังกล่าวกึกก้องออกมาจากภาพวาดที่อยู่ในมือของนักร้องสาวคนดังและเธอก็ได้ยินเสียงนั้นอย่างชัดเจน“ไม่จริง! มันจะต้องไม่เป็นความจริง! ฉันต้องหูฝาดแน่ๆ ต้องไม่ใช่! ไม่ใช่!!!”ในขณะที่เสียงจากภาพวาดยังคงดังกึกก้องออกมาอย่างไม่ขาดสาย“มาหาข้า! ข้ารอเจ้าที่จวนเดียวดาย!” เสียงเรียกนั้นเริ่มดังขึ้นพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับหยางเฟยอี้ตุบ! ภาพวาดที่กำลังถืออยู่มือร่วงหล่นลงพื้นอย่างรวดเร็ว เมื่อนักร้องสาวมีอาการหายใจไม่ออกขึ้นมาอย่างกะทันหัน หยางเฟยอี้พยายามที่จะหายใจทางปากแต่กลับทำให้เจ็บแปลบเข้าที่หัวใจจนไม่สามารถทำให้เธอหายใจได้เป็นปกติอะ...โอ๊ยยยยย!!! มือเรียวสวยยกขึ้นจับศีรษะของเธอทันทีเมื่อเสียงร้องเรียกดังกล่าวทำให้นักร้องดังมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงพร้อมเริ่มมีอาการหายใจไม่ออกอย่างเฉียบพลัน“ชะ...ช่วย...ช่วยด้วย...หะ...หายใจ...ไม่ออก!!!” สิ้นเสียงตะกุกตะกักที่เธอพยายามสื่อสารให้กับเจ้าหน้าที่ต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status