Beranda / รักโบราณ / อัปลักษณ์จวนเดียวดาย / ตอนที่ 2 ของขวัญปริศนา 1.2

Share

ตอนที่ 2 ของขวัญปริศนา 1.2

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-05 06:42:08

เฮือกกก!!! ร่างของนักร้องดังชาวฮ่องกงลุกพรวดพราดจากเตียงนอนขึ้นมานั่ง เสียงกรีดร้องของเธอดังก้องออกไปจนถึงด้านนอกจนประตูห้องถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว พร้อมร่างของพยาบาลและทีมงานที่คอยดูแลหญิงสาวต่างพากันมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเตียงคนไข้

“คุณถิงถิงเป็นอย่างไงบ้าง!” ทีมงานที่คอยดูแลเธอถามกลับมาด้วยความเป็นห่วง

ในขณะที่คนถูกถามกำลังนั่งหายใจถี่ๆ ขึ้นลงติดต่อกันจนร่างหอบโยนออกมาจนเห็นได้ชัด ด้วยภาพเหตุการณ์ที่เธอเห็นนั้นยังติดตาไม่ลืมเลือนไปจากความทรงจำแต่อย่างใด

“อย่าเพิ่งถามอะไรเธอเลยนะคะ คุณถิงถิงมีอาการตื่นตกใจกลัวให้พักผ่อนก่อนดีกว่าค่ะ” นางพยาบาลที่คล้ายเป็นหัวหน้าแผนกบอกกับทีมงานที่มายืนรอฟังข่าวอาการป่วยกะทันหันของนักร้องดัง

“คุณพยาบาลคิดว่าเธอจะมีอาการทรุดลงไหมครับ” ทีมงานหันกลับไปถามพยาบาลด้วยความอยากรู้

“สำหรับอาการต้องรอคุณหมอเจ้าของไข้มาตรวจให้แน่ใจอีกรอบค่ะ จึงสามารถบอกได้อย่างชัดเจนระหว่างนี้คุณถิงถิงพักผ่อนให้มากจะดีกว่า” หัวหน้าพยาบาลอธิบายกลับไป

ทีมงานทุกคนภายในห้องต่างพยักหน้าขึ้นลงเมื่อได้ยินคำอธิบายกลับมาเช่นนั้น ในขณะที่นักร้องสาวคนดังค่อยๆ เงยหน้าขึ้นพลางใช้สายตาสำรวจไปทั่วบริเวณเพื่อให้แน่ใจว่าเธออยู่ที่ไหนกันแน่และสิ่งที่เห็นคือความจริงหรือว่าความฝัน และพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ภายในห้องสีขาวที่ถูกตกแต่งอย่างดี พรั่งพร้อมไปด้วยเครื่องมือแพทย์อันทันสมัยด้วยนักร้องคนดังถูกส่งตัวมารักษาในโรงพยาบาลดีที่สุดในเซี่ยงไฮ้

“ฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไง” หยางเฟยอี้เอ่ยถามขึ้นท่ามกลางความดีใจของทีมงานที่ได้ยินนักร้องคนดังส่งเสียงออกมา

“ที่นี่คือโรงพยาบาลเอกชนในเซี่ยงไฮ้ครับ คุณถิงถิงมีอาการหน้ามืดและหมดสติไปขณะที่แฟนเพลงกำลังรุมล้อมเพื่อมอบของขวัญและรอรับลายเซ็นจากคุณอยู่ แล้วตอนนี้รู้สึกเป็นอย่างไงบ้างดีขึ้นไหมครับ”

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยอาการตื่นตระหนกค่อยๆ มีสีหน้าคลายลงทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“ที่แท้เราก็ฝันไปนี่เอง! โชคดีที่มันไม่ใช่ความจริงโล่งอกไปที” หญิงสาวพูดพึมพำอยู่คนเดียว

เฮ้อ! เธอถอนหายใจออกมาอย่างแรงด้วยความโล่งอกที่เหตุการณ์ดังกล่าวเป้นเพียงแค่ความฝันไม่ใช่เรื่องจริง ท่ามกลางสายตาของทีมงานและพยาบาลอีกหลายคนต่างยืนมองด้วยความแปลกใจกับท่าทีดังกล่าวของนักร้องดัง

หยางเฟยอี้เงยหน้าขึ้นมามองอย่างช้าๆ ก่อนจะส่งยิ้มให้กับทุกคน

“ฉันดีขึ้นมากแล้วค่ะ! ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เป็นห่วง สงสัยเป็นเพราะโหมทำงานหนักและไม่ได้พักผ่อนติดกันหลายวัน นอนวันละหนึ่งถึงสองชั่วโมงต่อวัน มิหนำซ้ำก่อนจะบินมายังไม่ได้ทานข้าวรองท้องก็เลยทำให้หน้ามืดหมดสติไปอย่างที่เห็น เอาเป็นว่าสบายใจได้นะคะ ถิงถิงโอเคแล้วค่ะแต่ที่จะไม่โอเคคงเพราะตอนนี้หิวข้าวมากเลย” หญิงสาวพูดพลางยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของเธอขึ้นลงไปมา

จ๊อกกก!!! เสียงน้ำย่อยในกระเพาะส่งเสียงดังออกมาจนเธอต้องใช้มือตบขึ้นลงเพื่อให้มันหยุดร้อง

“อือหือ! ร้องดังขนาดนี้ช่างไม่รักษาหน้ากันบ้างเลย” เธอบ่นพึมพำท่ามกลางรอยยิ้มของทุกคนภายในห้องปรากฏขึ้นบนใบหน้าและโล่งใจเป็นปลิดทิ้ง

“เดี๋ยวผมโทรสั่งอาหารมาให้คุณถิงถิงได้รับประทาน ชอบอะไรเป็นพิเศษบอกมาได้เลยครับ งดอาหารที่ไม่ทำให้น้ำหนักขึ้นหรือจะทานอาหารพวกคีโตดีครับ” เสียงทีมงานเอ่ยถามความเห็นกลับไป

หญิงสาวรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธเป็นการใหญ่เมื่อได้ยินอาหารประเภทดังกล่าว

“ไม่เอาค่ะ! ไม่ชอบอาหารพวกนั้นเลย หลงลืมอะไรไปหรือเปล่าคะถิงถิงเพิ่งอายุ 19 เองนะ กำลังกินกำลังนอนและก็กำลังโต ทำไมให้รีบอดอาหารด้วยและให้ทานแต่อาหารคีโต ยอมรับว่ามีประโยชน์แต่ขอเป็นเวลาอื่นแล้วกัน ตอนนี้สั่งอะไรมาถิงถิงกินแหลกไม่เหลือ หิวจนตาลายไปหมดแล้ว” นักร้องดังบอกความต้องการของเธอออกไป

“โอ๊ยตายลืมไปเลย นี่ถ้าคุณถิงถิงไม่พูดก็ไม่ได้คิดถึงข้อนี้จริงๆ ด้วย เอาเป็นว่ารอสักครู่นะครับเดี๋ยวจะรีบจัดการให้เลย” ทีมงานสคนดังกล่าวอาสาอย่างแข็งขันพร้อมรีบหันหลังกลับ ก่อนจะส่งสัญญาณให้ลูกน้องออกไปจากห้องพักคนไข้

“เดี๋ยวก่อนค่ะ!” หญิงสาวร้องเรียกรั้งเอาไว้

“มีอะไรจะสั่งเพิ่มอีกเหรอครับ” ทีมงานคนดังกลาวหันกลับมาถาม

นักร้องดังนั่งคิดอยู่เพียงครู่ว่าจะถามดีหรือไม่ถามดี แต่เพื่อความแน่ใจจึงตัดสินใจเอ่ยออกไป

“เออ...พวกคุณในที่นี้มีใครรู้จักจวนเดียวดายบ้างไหมคะ” หยางเฟยอี้พูดพร้อมกลั้นใจนั่งฟังรอคำตอบ

และตัดสินใจเอาไว้แล้วว่าถ้ามีชื่อจวนดังกล่าวที่ได้ยินผู้หญิงในความฝันกำชับก่อนร่างจะละลายหายไปมีอยู่จริง เธอจะบินกลับฮ่องกงทันทีอย่างไม่รีรอแม้แต่น้อย

ในขณะที่ทุกคนภายในห้องดังกล่าวรวมไปถึงนางพยาบาลทที่กำลังก้าวออกไปจากห้อง ต่างพากันมองหน้ากันไปมาสอบถามกันให้วุ่นวายว่ามีใครรู้จักชื่อจวนดังกล่าวหรือไม่

“ชื่อจวนประหลาดแบบนั้นคงจะมีแต่ในนิยายเท่านั้นแหลครับคุณถิงถิง ของจริงไม่มีหรอก และอีกอย่างขึ้นชื่อว่าจวนจะมีแต่ระดับเชื้อพระวงศ์ ขุนนางใหญ่และคหบดีผู้มั่งคั่งที่จะเรียกที่อยู่อาศัยของตัวเองว่าจวนแบบนั้น สมัยนี้ไม่มีใครเรียกบ้านตัวเองว่าจวนแบบนั้นหรอกครับ เดี๋ยวนี้พากันเปลี่ยนมาเรียกว่าคฤหาสน์กันหมดแล้ว” ทีมงานอธิบายให้นักร้องสาวอย่างละเอียด จนอีกฝ่ายมีใบหน้าคลายกังวลเป็นปลิดทิ้ง

“ขอบคุณค่ะทุกคน! ตกลงไม่มีเนอะจะได้สบายใจ..โอ๊ยโล่งอก” ประโยคสุดท้ายถิงถิงพูดพึมพำกับตัวเองพลางยกมือลูบหน้าอกของเธอขึ้นลงด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม”

ท่ามกลางสายตาของทุกๆ คนที่เห็นนักร้องดังวัยดรุณีแรกรุ่นแสดงท่าทีออกมาเช่นนั้น ก่อนจะพากันส่ายหน้าไปมา

“วัยรุ่นเขาก็พากันเป็นแบบนี้แหละ ได้ยินอะไรแปลกๆ ก็มักจะชอบถามผู้หลักผู้ใหญ่อย่างเราเพื่อจะได้ความรู้กลับไป ว่าแต่ชื่อจวนเดียวดายก็เพิ่งจะได้ยินเป็นครั้งแรกนี่แหละ คนบ้าอะไรตั้งชื่อจวนตัวเองแบบนั้น ทำอย่างกับว่าตั้งอยู่โดดเดียวกลางสุสานอย่างนั้นเลย”

เสียงพูดคุยของทางทีมงานได้ยินอย่างชัดเจน ทำให้คนฟังที่นั่งอยู่บนเตียงคนไข้ยิ่งมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นไปอีกว่า ว่าชื่อดังกล่าวไม่มีจริงอย่างแน่นอน

“ก็แค่ความฝัน! ไม่ใช่ความจริงเสียหน่อย พวกเขาก็พูดถูกใครบ้าที่ไหนจะมาตั้งชื่อจวนตัวเองแบบนั้น สงสัยต่อไปนี้จะต้องกินอาหารให้ตรงเวลาและพักผ่อนให้มากกว่านี้ จะได้ไม่ต้องฝันอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้แบบนี้อีก...เฮ้อ! สบายใจจังเลย”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 9 อินอวิ๋นฉวี่ 1.3

    ฉาด!!!! พระหัตถ์ตบลงบนหน้าขาของพระองค์จนได้ยินเสียงดังอย่างชัดเจน ติดตามด้วยเสียงหัวเราะดักกึกก้องออกมาทันทีไม่รู้ว่าเห็นด้วยกับวิธีการของขันทีคนสนิทหรือเห็นต่างกันแน่“ดี! เจ้าทำได้ดีมากเสี่ยวฉิงจื่อ! ความคิดของเจ้ายอดเยี่ยมช่างตรงกับความต้องการที่อยู่ในภายในใจของข้า! ข้าต้องการให้เสด็จอาตายไปเสียที! ยิ่งเร็วได้เท่าไรยิ่งดีจะได้ไม่ต้องอยู่ขวางทางอำนาจของข้าอีกต่อไป”รับสั่งของฮ่องเต้น้อยทำให้ไส้ศึกจากสองแคว้นผ่อนลมหายใจของตนออกมาทันที รอยแสยะยิ้มเหยียดปรากฏขึ้นบนใบหน้า ในที่สุดฮ่องเต้โง่ผู้นี้ก็มีความเห็นคล้อยตามที่คิดจะกำจัดอุปราชอินอวิ๋นหยางเกิดขึ้นภายในจิตใจ ไม่เสียแรงที่เฝ้ายุแยงมานานหลายปีไม่ทำให้ลงแรงไปโดยเปล่าประโยชน์“แต่ว่าแล้วจะเอามือสังหารจากที่ไหนทำงานนี้ได้ ในเมื่อเสด็จอามีวรยุทธสูงมากขนาดนั้น ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าใกล้ได้เลยส่งไปก็ถูกฆ่าดั่งใบไม้ร่วงหล่นโดยเปล่าประโยชน์ และเสด็จอาต้องล่วงรู้ว่าข้าเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังเป็นแน่ แบบนี้ข้าก็แย่สิดีไม่ดีจะกลายเป็นคนถูกฆ่าเสียเอง เกิดเสด็จอาฉวยโอกาสนี้หาข้ออ้างปลิดชีวิตข้าแล้วชิงบัลลังก์ขอ

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 10 อินอวิ๋นฉวี่ 1.4

    “เจ้าให้ข้าพูดแบบนั้นหมายความว่าอย่างไงกันแน่! ข้าไม่เคยต้องการให้คนผู้นั้นแผ่ลูกหลานสายสกุลอินออกมาแม้แต่น้อยตรงกันข้ามจะฆ่าไม่ให้เหลือเสียด้วยซ้ำ! ลูกหลานสายสกุลอินจะต้องมาจากข้าเท่านั้นจึงจะถูกต้อง!” รับสั่งอย่างไม่พอพระทัย“โธ่! ฝ่าบาทไปกันใหญ่แล้ว! อย่าเพิ่งเข้าพระทัยผิดพ่ะย่ะค่ะ ทรงทำความเข้าใจเสียใหม่ว่านี้คือแผนหลอกล่อจึงต้องยกข้ออ้างเช่นนั้นออกมา หาไม่แล้วแผนต่อไปจะสำเร็จได้อย่างไร จะทำให้อุปราชไว้วางพระทัยว่าไม่มีอะไรแอบแฝงก็ต้องยกยอไปก่อนแล้วค่อยจัดการภายหลัง” เสี่ยวฉิงจื่ออธิบายกลับไปพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย“คนผู้นี้ช่างโง่เขลาเสียจริง! ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดข้าจึงทนได้มานานหลายปีเช่นนี้นะไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ” เสี่ยวฉิงจื่อรำพึงอยู่ภายในใจในขณะที่ฮ่องเต้หยวนเป่ยได้ยินคำอธิบายกลับมาเช่นนั้น พระองค์พยักพระพักตร์ขึ้นลงด้วยไม่เห็นต่างจากเสี่ยวฉิงจื่อ“จริงด้วย! จะสังหารเสด็จอาก็ต้องทำให้ไว้วางใจเสียก่อน หาไม่แล้วจะเสียแผนการทั้งหมด ดี! ใช้แผนนี้ดีที่สุดว่าแต่จะทำให้สตรีจากต้าซางและต้าเหลียงเป็นคนของเ

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 8 อินอวิ๋นฉวี่ 1.2

    ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าตัวตนดั้งเดิมที่แท้จริงของขันทีผู้นี้หาใช่ชาวหยวนเป่ยโดยกำเนิด ในความเป็นจริงแล้วคือสายลับที่ถูกฮ่องเต้ต้าเหลียงและฮ่องเต้ต้าซางซึ่งจับมือผนึกกำลังหวังโค่นล้มหยวนเป่ย ถูกส่งตัวเข้ามาแทรกซึมคอยหาข่าวภายในราชสำนักหยวนเป่ย เป้าหมายเพื่อหาโอกาสลอบสังหารอุปราชอวิ๋นหยาง และถ้าหากลงมือกับอุปราชผู้นั้นสำเร็จมีหรือชีวิตของอินอวิ๋นฉวี่จะอยู่รอดต่อไปได้นาน ฮ่องเต้หนุ่มจะต้องถูกสังหารตายตามไปด้วยเช่นเดียวกัน ทันทีที่ชีวิตของอินอวิ๋นหยางหลุดลอยออกจากร่างแต่ที่ไม่ลงมือปลงพระชนม์อินอวิ๋นฉวี่ด้วยเพราะ หากอวิ๋นฉวี่สวรรคตลงวันใดแน่นอนว่า แผ่นดินหยวนเป่ยจะต้องตกเป็นของอุปราชผู้กล้าอินอวิ๋นหยางโดยทันที และนั่นจะยิ่งยากกว่าอะไรทั้งหมดหากจะคิดเป็นอิสระและก้าวขึ้นมาครอบครองหยวนเป่ย แทนที่นั้นต้องสืบล่วงรู้จุดอ่อนของอุปราชลือชื่อผู้นี้ให้จงได้รวมไปถึงที่พำนักอันแท้จริงของพระองค์ด้วยไม่เคยมีผู้ใดล่วงรู้เลยว่าแท้จริงแล้วอุปราชผู้นี้ประทับอยู่แห่งหนใดและบริหารแผ่นดินโดยใช้อินทรีทองสื่อสารอันเป็นสัญลักษณ์ของพระองค์ ซึ่งต้าเหลียงและต้าซางรวมไปถึงหยวนเป่ยนั้นต่างรบพุ่งกันมานานเพื

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 7 อินอวิ๋นฉวี่ 1.1

    ยุคอดีตแคว้นหยวนเป่ยณ.พระราชวังหลวงภายในแคว้นหยวนเป่ยในเวลานี้อยู่ในสมัยการปกครองของสายสกุลอิน ซึ่งขึ้นมามีอำนาจเป็นใหญ่ในแผ่นดินฮ่องเต้แต่ละพระองค์มีทั้งเข้มแข็งและอ่อนแอสลับกันไป และได้นั่งบัลลังก์สืบทอดมานานกว่า 111 ปี จนถึงสมัยอินอวิ๋นฉวี่ขึ้นปกครองแคว้นในขณะที่มีพระชนม์มายุเพียงแค่ 10 พระชันษาเท่านั้นสืบเนื่องจากอดีตฮ่องเต้ซึ่งเป็นพระราชบิดาเสด็จสวรรคตลงอย่างกะทันหัน ในขณะที่มีพระชนมายุเพียง 27 พระชันษาและขึ้นปกครองแคว้นได้เพียงห้าปีเท่านั้น ด้วยสาเหตุเลือดในพระวรกายเกิดเป็นพิษซึ่งหากเทียบในยุคปัจจุบันคือติดเชื้อในกระแสเลือดนั่นเอง จึงเป็นเหตุให้องค์ชายอินอวิ๋นฉวี่ ที่ประสูติจากหยางฮองเฮาขึ้นเป็นฮ่องเต้ครองแคว้นด้วยเพราะเป็นพระโอรสเพียงหนึ่งเดียว ส่วนอีกแปดพระองค์นอกนั้นเป็นพระราชธิดาทั้งสิ้นในขณะที่หยางฮองเฮาพระราชมารดา ก็สิ้นพระชนม์ตามพระสวามีไปด้วยเพราะทรงตรอมพระทัย เพียงแค่สามเดือนที่ฮ่องเต้อวิ๋นโฉสวรรคตพระนางก็จากไป จึงทำให้ฮ่องเต้น้อยผู้ครองแคว้นหยวนเป่ย ซึ่งยังเยาว์วัยยิ่งนักต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว พระองค์เหลือเพียงฮองไทเฮาเสด็จย่า แล

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 6 ของขวัญปริศนา 1.6

    ทันใดนั้นเอง“ข้ารอเจ้ามานานแสนนานแล้ว! มาหาข้า! ข้ารอเจ้าอยู่ที่จวนเดียวดาย! รอเจ้าที่จวนเดียวดาย” เสียงดังกล่าวกึกก้องออกมาจากภาพวาดที่อยู่ในมือของนักร้องสาวคนดังและเธอก็ได้ยินเสียงนั้นอย่างชัดเจน“ไม่จริง! มันจะต้องไม่เป็นความจริง! ฉันต้องหูฝาดแน่ๆ ต้องไม่ใช่! ไม่ใช่!!!”ในขณะที่เสียงจากภาพวาดยังคงดังกึกก้องออกมาอย่างไม่ขาดสาย“มาหาข้า! ข้ารอเจ้าที่จวนเดียวดาย!” เสียงเรียกนั้นเริ่มดังขึ้นพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับหยางเฟยอี้ตุบ! ภาพวาดที่กำลังถืออยู่มือร่วงหล่นลงพื้นอย่างรวดเร็ว เมื่อนักร้องสาวมีอาการหายใจไม่ออกขึ้นมาอย่างกะทันหัน หยางเฟยอี้พยายามที่จะหายใจทางปากแต่กลับทำให้เจ็บแปลบเข้าที่หัวใจจนไม่สามารถทำให้เธอหายใจได้เป็นปกติอะ...โอ๊ยยยยย!!! มือเรียวสวยยกขึ้นจับศีรษะของเธอทันทีเมื่อเสียงร้องเรียกดังกล่าวทำให้นักร้องดังมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงพร้อมเริ่มมีอาการหายใจไม่ออกอย่างเฉียบพลัน“ชะ...ช่วย...ช่วยด้วย...หะ...หายใจ...ไม่ออก!!!” สิ้นเสียงตะกุกตะกักที่เธอพยายามสื่อสารให้กับเจ้าหน้าที่ต

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 5 ของขวัญปริศนา 1.5

    วันรุ่งขึ้นรถยนต์คันหรูของโรงแรมชื่อดังที่สองพี่น้องเลือกเข้าพักในเมืองลั่วหยาง วิ่งตรงเข้ามาจอดบริเวณด้านหน้าประตูซึ่งในอดีตผู้คนในสมัยโบราณจะเรียกที่พักอาศัยของเหล่าเชื้อพระวงศ์สูงศักดิ์ ขุนนางและคหบดีผู้มั่งคั่งว่าจวนครั้นเมื่อกาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปจากการเรียกขานเช่นนั้น แปรเปลี่ยนเป็นคฤหาสน์เข้ามาแทนที่ในยุคสมัยปัจจุบันและมีการสร้างบ้านเลียนแบบในยุคโบราณพบเห็นมากมายในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีฐานะทางสังคมที่ดีไม่ต่างอะไรไปจากยุคอดีตแม้แต่น้อย“โอโห่! นี่นะเหรอจวนโบราณทำไมมันถึงได้ใหญ่โตอลังการขนาดนี้ บรรยากาศก็ดูขลังเป็นบ้าเลย” นักร้องสาวพูดพึมพำอยู่คนเดียวสายตามองประตูทางเข้าจวนขนาดมหึมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด“มองผ่านแว่นกันแดดแบบนั้นจะเห็นอะไรชัดไหมนะ” หลี่ยู่บอกน้องสาวของเธอทั้งๆ ที่ยังวุ่นวายหาของในกระเป๋าของน้องสาวอยู่ในขณะนี้หยางเฟยอี้กระดกแว่นกันแดดให้ขยับลงต่ำพลางมองพี่สาวของเธอกำลังรื้อค้นกระเป๋าของเธอช่างดูวุ่นวายเสียจริง“พี่ใหญ่หาอะไรนะ! อะไรหายเหรอ” หญิงสาวถามกลับ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status