Home / รักโบราณ / อัปลักษณ์จวนเดียวดาย / ตอนที่ 5 ของขวัญปริศนา 1.5

Share

ตอนที่ 5 ของขวัญปริศนา 1.5

last update Last Updated: 2025-06-05 09:06:17

วันรุ่งขึ้น

รถยนต์คันหรูของโรงแรมชื่อดังที่สองพี่น้องเลือกเข้าพักในเมืองลั่วหยาง วิ่งตรงเข้ามาจอดบริเวณด้านหน้าประตูซึ่งในอดีตผู้คนในสมัยโบราณจะเรียกที่พักอาศัยของเหล่าเชื้อพระวงศ์สูงศักดิ์ ขุนนางและคหบดีผู้มั่งคั่งว่าจวน

ครั้นเมื่อกาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปจากการเรียกขานเช่นนั้น แปรเปลี่ยนเป็นคฤหาสน์เข้ามาแทนที่ในยุคสมัยปัจจุบันและมีการสร้างบ้านเลียนแบบในยุคโบราณพบเห็นมากมายในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีฐานะทางสังคมที่ดีไม่ต่างอะไรไปจากยุคอดีตแม้แต่น้อย

“โอโห่! นี่นะเหรอจวนโบราณทำไมมันถึงได้ใหญ่โตอลังการขนาดนี้ บรรยากาศก็ดูขลังเป็นบ้าเลย” นักร้องสาวพูดพึมพำอยู่คนเดียวสายตามองประตูทางเข้าจวนขนาดมหึมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด

“มองผ่านแว่นกันแดดแบบนั้นจะเห็นอะไรชัดไหมนะ” หลี่ยู่บอกน้องสาวของเธอทั้งๆ ที่ยังวุ่นวายหาของในกระเป๋าของน้องสาวอยู่ในขณะนี้

หยางเฟยอี้กระดกแว่นกันแดดให้ขยับลงต่ำพลางมองพี่สาวของเธอกำลังรื้อค้นกระเป๋าของเธอช่างดูวุ่นวายเสียจริง

“พี่ใหญ่หาอะไรนะ! อะไรหายเหรอ” หญิงสาวถามกลับไปอย่างสงสัย

“ก็เพราะหาไม่เจอนี่สิกำลังคิดอยู่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทำหาย ในเมื่อคืนก่อนพี่เป็นคนเอาม้วนภาพวาดนั้นใส่เข้าไปในกระเป๋าใบนี้ด้วยตัวเอง แต่ทำไมตอนนี้ถึงหาไม่เจอแล้ว” หลี่ยู่บ่นพึมพำเป็นการใหญ่พลางยกมือเกาศีรษะตัวเองไปมา

และนั่นทำให้หยางเฟยอี้ขมวดคิ้วสวยเข้าหากันด้วยความแปลกใจเมื่อได้ยินพี่สาวกล่าวออกมาเช่นนั้น

“ภาพวาดอะไรเหรอพี่ใหญ่แล้วไปเอามาจากไหน หนูเพิ่งรู้นะว่าพี่ใหญ่มีเวลาไปเดินซื้อของด้วย” หญิงสาวถามกลับไป

“ใครบอกเล่าว่าฉันมีเวลาไปเดินซื้อ แกก็เห็นว่าพี่ใหญ่อยู่ติดตัวแกตลอดไม่ได้ไปไหน ภาพวาดนั้นแฟนเพลงเขาให้เป็นของขวัญในวันแรกที่แกมาถึงสนามบิน พี่ใหญ่เพิ่งแกะออกดูเมื่อคืนก่อนก็เลยรู้ว่าเป็นภาพวาด และที่ค้นหาเพราะว่าเป็นภาพของจวนที่นี่แหละ มีเส้นทางบอกอย่างละเอียดว่าจะต้องไปจุดไหนของจวนคล้ายแผนที่เลย แตกต่างตรงที่เจ้าภาพนั้นเหมือนมีชีวิตเลยนะขนาดปลายังรู้สึกว่ามันกำลังว่ายน้ำเลย”

หยางเฟยอี้ยืนฟังอ้าปากหวอเมื่อได้ยินพี่สาวอธิบายสรรพคุณของภาพวาดปริศนาให้เธอล่วงรู้

“แหม! เวอร์อะไรปานนี้พี่ใหญ่ พูดราวกับว่าภาพวาดนั้นมีชีวิตเป็นไปไม่ได้หรอก จริงอยู่ที่จิตรกรสมัยนี้เขามีพรสวรรค์และมีฝีมือมากแต่จะวาดอะไรก็ตามให้มันมีชีวิตขึ้นมาเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน อย่าไปสนใจเลยเลิกหาเถอะคงหลงลืมที่เก็บกระมังถ้าใส่เอาไว้ในกระเป๋าจริงๆ ป่านนี้ก็ต้องหาเจอแล้วสิกระเป๋าก็ใบแค่นั้นเอง ทางที่ดีไปติดต่อคนนำทางพาเราเที่ยวชมจวนโบราณดีกว่าจะมาเสียเวลาค้นหาแบบนี้” หญิงสาวพูดพร้อมชี้มือไปทางหน้าประตูทางเข้าของจวน ซึ่งมีโต๊ะวางอยู่ด้านหน้าคอยให้บริการ

หลี่ยู่หยุดค้นหาทันทีเมื่อได้ยินน้องสาวบอกกลับมาเช่นนั้น

“เออใช่! ก็จริงอย่างที่พูดนะมัวมาเสียเวลาค้นหาอยู่ทำไม ใช่ว่าหาเจอจะเดินเที่ยวจวนได้ถูกเสียที่ไหน อย่างไงก็ต้องติดต่อคนนำเที่ยวพาเราเดินชมจวนอยู่ดี ลี่ลี่เอ๊ยลี่ลี่เธอนี่นะคงจะแก่แล้วจริงๆ”

พี่สาวจอมเฮี้ยบบ่นให้กับตัวเองพลางรูดซิปปิดกระเป๋าเอาไว้ตามเดิมก่อนจะเดินนำหน้าไปบริเวนหน้าประตูเพื่อติดต่อเข้าเยี่ยมชมจวนโบราณ

เพียงไม่นานหลังจากเสียค่าธรรมเนียมเข้าเยี่ยมชมสถานที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมจ่ายค่าบริการจ้างเจ้าหน้าที่ซึ่งประจำอยู่ที่จวนโบราณดังกล่าวนำทางสองคนพี่น้องเข้าเยี่ยมชมสถานที่ซึ่งถูกสร้างเลียนแบบมาจากจวนของเชื้อพระวงศ์ในยุคชุนชิว แต่ละจุดที่เข้าเยี่ยมชมสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่สองพี่น้องชาวฮ่องกงเป็นอันมาก

สองพี่น้องเดินเที่ยวชมจวนโบราณอย่างเพลิดเพลินจนผ่านไปเกือบสามชั่วโมง ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าห้องพร้อมเสียงของนักร้องสาวดังแทรกขึ้น

“พี่ใหญ่ถิงถิงหิวน้ำจังเลย!” หญิงสาวบอกพี่สาวพลางกวาดสายตามองหาคนเดินขายน้ำดื่มที่จะเห็นเป็นระยะๆ เพื่อคอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยว

หลี่ยู่พยักหน้าขึ้นลงเมื่อได้ยินน้องสาวบอกกลับมา พร้อมหันไปถามเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้นำทางพาเธอและน้องสาวเดินชมจวนมาหลายชั่วโมงแล้ว

“ทานน้ำอะไรดีค่ะ เดี๋ยวจะได้ซื้อมาให้ด้วยเพราะคุณใช้เสียงอธิบายติดต่อกันหลายชั่วโมงแล้ว เสียงได้แหบกันพอดี” หลี่ยู่ถามเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวกลับไป

“ไม่ต้องลำบากหรอกครับพอดีว่าผมดื่มชามากาหนึ่งแล้ว สามารถอธิบายให้พวกคุณฟังได้อีกนานไม่ต้องห่วงครับ” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวตอบกลับมา

หลี่ยู่ส่งยิ้มกลับไปเมื่อได้รับคำตอบกลับมาเช่นนั้นพร้อมหันกลับไปมองน้องสาว

“เดี๋ยวพี่ใหญ่กลับมา ยืนรอตรงนี้นะพอดีเห็นคนเดินขายน้ำอยู่ตรงประตูถัดไปแล้ว” หลี่ยู่บอกน้องสาวพร้อมหันไปบอกกับเจ้าหน้าที่จากทางรัฐบาลที่ถูกส่งมาให้คอยดูและบริการนักท่องเที่ยว

“ช่วยดูแลน้องสาวสักสิบนาทีนะคะ ไปแปบเดียวเดี๋ยวมาค่ะ” หลี่ยู่เอ่ยฝากฝังคนตรงหน้า

“ไม่ต้องห่วงครับที่นี่ปลอดภัย มีกล้องวงจรปิดติดทุกมุมสบายใจได้เลย” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวยืนยันกลับไป

ก่อนจะเห็นรอยยิ้มของหลี่ยู่ส่งกลับมาให้พร้อมเสียงของนักร้องดังชาวฮ่องกงเอ่ยขึ้นเมื่อเธอพบกับความแปลกใจ

เมื่อหยางเฟยอี้รูดซิปดเปิดกระเป๋าที่พลัดกันสะพายกับพี่สาวอยู่เป็นระยะ ซึ่งตอนนี้กระเป๋าใบดังกล่าวอยู่ที่เธอ

หญิงสาวล้วงมือเข้าไปภายในเพื่อควานหาเพาเวอร์แบงค์มาเสียบชาร์จเข้ากับมือถือของเธอ หลังจากใช้ถ่ายภาพของตัวเองและพี่สาวในขณะที่เดินชมจวนนับได้เป็นร้อยๆ ภาพเลยทีเดียว

“อะไรกันนี่!” หญิงสาวพูดพลางหยิบกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดยาวซึ่งบรรจุม้วนภาพวาดอยู่ภายในนั้น ก่อนจะดึงออกมาจากกระเป๋าพลางพลิกไปมาด้วยความแปลกใจ

“นี่กระมังคงจะภาพวาดที่พี่ใหญ่หาอยู่เมื่อสามชั่วโมงก่อน ก็ไม่ได้หายไปไหนสักหน่อยยังอยู่เหมือนเดิมทำไมพี่ใหญ่หาไม่เห็นนะแปลกจังเลยสงสัยจะแก่ตัวแล้วจริงๆ” หญิงสาวพูดพลางเปิดฝากล่องด้านบนก่อนจะเทม้วนภาพออกมาพร้อมยื่นส่งให้เจ้าหน้าที่ตรงหน้าเธอ

“พี่คะรบกวนช่วยหนูคลี่ภาพวาดนี่หน่อยค่ะ เห็นพี่สาวบอกว่าเป็นภาพวาดของจวนโบราณแห่งนี้ รู้สึกว่าเหมือนจะเป็นภาพสามมิติด้วยนะเพราะวาดแม้กระทั่งปลายังเหมือนมีชีวิตเลยละคะ”

หยางเฟยอี้บอกอีกฝ่ายกลับไปพร้อมยืนม้วนภาพวาดให้เขาช่วยจับเพื่อคลี่ออกมาดูว่าจะเป็นจริงตามที่หลี่ยู่บอกหรือไม่

“ภาพวาดของจวนนี้เหรอครับ” เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเอ่ยออกมาด้วยความสงสัยเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“แต่จวนนี้ไม่เคยอนุญาตให้ใครวาดภาพเลยนะครับ”

และประโยคดังกล่าวทำให้หยางเฟยอี้หยุดชะงักขึ้นมาทันทีพร้อมเงยหน้าขึ้นมองเจ้าหน้าที่ประจำจวนโบราณ ก่อนจะก้มมองม้วนภาพวาดที่อยู่ในมือของเธอด้วยความแปลกใจ

“แต่ว่าพี่สาวของถิงถิงบอกมาแบบนั้นจริงๆ นะคะ ยังบอกเลยว่าจวนนี้เป็นจวนอุปราช แต่ก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมตรงหน้าประตูจวนติดป้ายชื่อเป็นจวนสกุลอิน” หญิงสาวบอกอีกฝ่ายกลับไป

ใบหน้าพยักขึ้นลงติดต่อกันเมื่อได้ยินนักร้องสาวชื่อดังบอกกลับมาเช่นนั้น

“ออ! จวนนี้มีความเป็นมาค่อนข้างซับซ้อนซ่อนเงื่อนพอสมควร ข้อมูลบางอย่างก็เหมือนตำนาน บางอย่างก็มีบันทึกหลักฐานว่าเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ถ้าจะพูดกันตามตรงจวนนี้สร้างลอกเลียนแบบมาจากจวนของชนชั้นเชื้อพระวงศ์ในยุคชุนชิว”

“ยุคชุนชิวเหรอคะ!” หยางเฟยอี้สวนขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินต้นตอย้อนไปไกลถึงยุคชุนชิวเลยทีเดียว พร้อมเสียงของเจ้าหน้าที่คนเดิมอธิบายกลับมา

“ถูกต้องแล้วครับสร้างลอกเลียนแบบมาจากยุคชุนชิวก็น่าจะสองพันกว่าปีแล้ว ซึ่งว่ากันว่าเป็นจวนขององค์ชายอุปราชจากแคว้นหยวนเป่ยในสมัยนั้น แต่ก็มีข้อมูลบอกมาว่าจวนอุปราชสร้างเลียนแบบมาจากจวนใหญ่ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวในเทือกเขาสูง แต่ก็เป็นเรื่องเล่าต่อๆ กันมาครับ แต่ที่แน่ๆ จวนนี้ถูกสร้างขึ้นโดยคหบดีใหญ่ของเมืองลั่วหยาง ซึ่งสกุลอินได้ลอกเลียนแบบนำมาสร้างในยุคราชวงศ์หมิง ซึ่งในสมัยนั้นกล่าวขานกันอย่างกว้างขวางว่าจวนนี้งดงามเสียยิ่งกว่าจวนอ๋องของเชื้อพระวงศ์ในยุคหมิงเสียอีก”

นักร้องคนดังยืนฟังพลางพยักหน้าขึ้นลง มือของเธอก็พยายามคลี่ภาพวาดดังกล่าวออกมาอย่างช้าๆ จนกระทั่งเห็นภาพวาดของจวนซึ่งทุกอย่าลงรายละเอียดราวกับว่าถ่ายภาพเอาไว้ไม่มีมีผิด พร้อมเสียงของเจ้าหน้าที่อธิบายอย่างต่อเนื่อง

“แล้วคุณถิงถิงรู้ไหมครับว่าจวนนี้ยังมีชื่อเรียกที่คนทั่วไปพอได้ยินแล้วต่างพากันสงสัยไปตามๆ กันเลย ว่ากันว่าชื่อดังกล่าวเป็นชื่อของจวนที่เป็นต้นแบบซึ่งสร้างขึ้นกลางเทือกเขาสูง เห็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาบอกว่าจวนนั้นใช้เป็นสถานที่กักขังพระชายาหน้าผีขององค์ชายอุปราช”

คำกล่าวของเจ้าหน้าที่ทำให้หยางเฟยอี้เงยหน้าขึ้นมาจากภาพวาดตรงหน้าทันที เมื่อได้ยินคำว่าพระชายาหน้าผีขององค์ชายอุปราชตามเรื่องเล่า

“พระชายาหน้าผีเหรอคะ เขาขี้เหร่มากเลยเหรอจนถึงกับต้องเรียกกันแบบนั้น” หญิงสาวถามกลับไปด้วยความสงสัย

“จะหน้าผีหรือขี้เหร่มากแค่ไหน เรื่องนี้ก็คือตำนานและเรื่องเล่าที่เขาพูดต่อๆ กันมาครับคุณถิงถิง แต่ก็คงจะเป็นความจริงอยู่บ้างเพราะมีบันทึกเอาไว้ว่า พระชายาหน้าผีขององค์ชายอุปราชจากแคว้นหยวนเป่ยสร้างความหวาดกลัวต่อผู้คนที่ได้พบเห็นจนขวัญหนีดีฟ่อไปหมด บางคนพอได้เห็นหน้าหัวใจวายตายไปเลยก็มากครับ”

“อะไรนะ! ถึงกับหัวใจวายตายเลยเหรอคะไม่จริงมั้งอะไรจะขนาดนั้น” หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

“แต่เรื่องนี้ถูกบันทึกไว้ในตำราไม้ไผ่ของยุคนั้นเลยนะครับ มีหลักฐานยืนยันแบบนี้เรื่องที่เล่าขานกันมามีเค้าโครงว่าเป็นความจริง และก็เพราะเหตุนี้แหละครับทำให้ไม่มีใครอยู่ดูแลถวายการรับใช้พระชายาขององค์ชายอุปราชเลย จวนใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างขวางเป็นพันไร่แต่ไม่มีใครกล้าอาศัยอยู่ จนผู้คนในยุคสมัยนั้นต่างพากันเรียกขานว่าจวนเดียวดาย! ซึ่งก็คือจวนนี้ที่ลอกเลียนแบบมาครับเพราะต้นสกุลอินคือองค์ชายอุปราช บางคนก็เลยเรียกจวนสกุลอินแห่งนี้ว่า จวนเดียวดาย” สิ้นเสียงคำอธิบายของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว

“หา! จวนเดียวดายมีจริงๆ เหรอ!” หญิงสาวเอ่ยด้วยความตกใจสุดขีดเมื่อล่วงรู้ว่า จวนเดียวดายที่เธอเคยได้ยินอยู่ในความฝันกลับมีจริงอย่างไม่คาดคิด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 17 คำสั่งตาย!!!

    10 วันผ่านไปตำหนักอุปราชนิ้วพระหัตถ์เรียวยาวจรดลงบนตัวหนังสือที่อยู่บนแผ่นไม้ไผ่ชั้นดีตรงพระพักตร์ ตัวอักษรเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบและสวยงามยิ่งนัก เขียนด้วยลายพระหัตถ์ของอุปราชลือชื่อ ซึ่งพระองค์จดบันทึกเคล็ดวิชาต่างๆ ลงไว้ในนั้นพร้อมพิชัยสงครามแก้กลศึก และวางค่ายกลเพื่อใช้ในสนามรบซึ่งพระองค์จะนำมาอ่านและบันทึกเพิ่มเติมมาโดยตลอดไม่เคยขาด“กระหม่อมหรงเฉินพ่ะย่ะค่ะ! มีเรื่องทูลถวายรายงาน” เสียงขององครักษ์คนสนิทดังอยู่ด้านนอก“เข้ามา!” รับสั่งอนุญาตครืดดด!!! บานประตูห้องหนังสือถูกเปิดออกพร้อมร่างสูงของหรงเฉินก้าวเข้ามาภายในห้อง ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงพระพักตร์ ในขณะที่อุปราชรูปงามประทับอยู่บนตั่งยกขึ้นสูงจากพื้นมาประมาณห้าฉื่อ กำลังอ่านตำราที่ถืออยู่ตรงพระพักตร์ในขณะที่พระหัตถ์อีกข้างคลึงหยกก้อนกลมสีขาวไปมา“มีเรื่องอะไรมารายงานข้าอย่างนั้นเหรอหรงเฉิน!” รับสั่งถามกลับไปเมื่อองครักษ์คนสนิทเดินมาหยุดยืนตรงพระพักตร์“กระหม่อมมีเรื่องของพระชายามากราบทูลพระองค์พ่ะย่ะค่ะ!” หรงเฉินทูลตอบกลับไปใบหน้า

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 16 พระชายาหน้าผี!!!

    “อวิ๋นหยาง!!!” เสียงแหบแห้งดังออกมาจากริมฝีปากอันแตกระแหงเพราะขาดน้ำมาเป็นเวลานานเปลือกตาที่เปิดขึ้นกำลังจับจ้องอยู่บนเพดานของตำหนัก และหยาดน้ำตาที่ไหลรินออกมาจากขอบตานั้นยังคงปรากฏอยู่ไม่จางหาย เพียงครู่ขนตางอนยาวเริ่มกะพริบขึ้นลงติดต่อกัน พร้อมดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่สวยเริ่มกลอกกลิ้งไปมา แขนเรียวเล็กที่เหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกพยายามที่จะยกขึ้นเมื่อความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสที่เคยได้รับก่อนจะสิ้นลมนั้น บัดนี้ได้หายเป็นปลิดทิ้ง ไม่หลงเหลือให้ต้องได้รับความทรมานอีกต่อไป ริมฝีปากแตกระแหงเริ่มขยับขึ้นลงพร้อมเสียงเล็ดรอดออกมาเบาๆ เมื่อเห็นท่อนแขนของตัวเองที่เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกไม่ปรากฏตุ่มแผลผุผอง ที่เต็มไปด้วยหนองปรากฏให้เห็นอีกแล้ว เหลือเพียงแผลที่เริ่มแห้งและกำลังตกสะเก็ด“สวรรค์! สวรรค์ฟังคำอ้อนวอนของฉัน!” นักร้องชื่อดังซึ่งกลับมาอยู่ในร่างของตัวเองในชาติอดีตกล่าวออกมาทั้งน้ำตาเอือก!!! เสียงกลืนน้ำลายลงคอเมื่อความรู้สึกกระหายน้ำจากชาติปัจจุบัน ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับเธอจนทำให้จบชีวิตลงเพราะแรง

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 15 เกิดใหม่

    สามเดือนผ่านไปตำหนักท้ายจวนร่างที่เหลือแต่เพียงหนังหุ้มกระดูกขององค์หญิงฟางเยี่ยนลี่แห่งแคว้นต้าซาง ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระชายาเอกของอุปราชอินอวิ๋นหยางแห่งหยวนเป่ย จนเป็นที่ล่วงรู้ไปทั่วทุกแคว้น และทันทีที่ขบวนเสด็จเข้าเขตแดนของหยวนเป่ย กองทหารของอุปราชลือชื่อตรงเข้าสับเปลี่ยนถวายอารักขาเพื่อไม่ให้กองทหารจากต้าซางหรือแม้แต่จากวังหลวงติดตามพระชายาอุปราชทั้งนี้เพื่อนำพระนางไปยังสถานที่ประทับส่วนพระองค์ของอุปราชหนุ่มซึ่งเป็นพระสวามีอย่างถูกต้องโดยลงนามในหนังสือสมรสแล้วด้วยกันทั้งสองฝ่าย และที่พิธีกราบไหว้ฟ้าดินจะกระทำในสถานที่ประทับส่วนพระองค์ของอุปราชหนุ่ม โดยไม่เหยียบย่างเข้าวังหลวงเพื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้หยวนเป่ยตามธรรมเนียมปฏิบัติทว่าในเวลานี้พระชายาผู้อาภัพตกอยู่ในสภาพอยู่มิสู้ตาย พระวรกายเต็มไปด้วยตุ่มฝีและแผลผุพอง พระเนตรข้างซ้ายเริ่มเป็นฝ้าขาว ส่วนพระเนตรข้างขวาบอดสนิทเป็นผลมาจากยาที่หรงเฉินได้รับคำสั่งจากอุปราชให้วางยาดังกล่าวเพื่อไม่ให้มีเรี่ยวแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และสิ้นพระชนม์ลงไปเองทว่ายาดังกล่าวที่ถูกปรุงขึ้นนั้นมีส่วนผสมที่ทำให้

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 14 ซ้อนแผน

    พระราชวังซางเป่ยตำหนักส่วนพระองค์เสียงพระสรวลดังกระหึ่มออกมาจากห้องทรงงาน เมื่อฮ่องเต้น้อยแห่งหยวนเป่ยได้รับพระราชสาสน์จากอุปราชรูปงามส่งกลับมาว่าได้ส่งหนังสือสมรสที่พระองค์ได้ลงนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหนังสือสมรสดังกล่าวฮ่องเต้หนุ่มทรงออกหน้าทำแทนผู้เป็นอา จนทำให้ทั้งสองแคว้นได้เป็นทองแผ่นเดียวกันอย่างรวดเร็วซึ่งองค์หญิงฟางเยี่ยนลี่ก็ได้ลงพระนามเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ทั้งๆ ที่ยังเดินทางไม่ถึงวังหลวง แต่หนังสือสมรสกลับลงนามพร้อมประทับตราประจำพระองค์ทั้งสองฝ่ายเสร็จเรียบร้อยก่อนทำพิธีอภิเษกเสียอีก จึงเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าองค์หญิงจากต้าซางบัดนี้คือพระชายาเอกของอินอวิ๋นหยาง อุปราชรูปงามซึ่งเป็นที่เลื่องลือและกล่าวขานไปทั่วหล้า และถือได้ว่าเป็นคู่อภิเษกที่อินอวิ๋ฉวี่ฮ่องเต้แห่งหยวนเป่ย ทรงออกหน้าเป็นพ่องานให้ผู้เป็นอาของพระองค์ทุกอย่าง“ในที่สุดแผนการของข้าก็สำเร็จลงไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว อินอวิ๋นหยางคราวนี้ละเจ้าไม่พ้นเงื้อมมือของข้าแน่”รับสั่งอยู่ในพระทัยพลางพระสรวลออกมาเป็น ก่อนจะยื่นส่งให้ขันทีที่มาถวายงานแทนเสี่ยวฉิงจื่อ ด้วยรับพระบัญชาจากฝ่า

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 12 อุปราชอำมหิต 1.1

    พระราชวังหลวงซางเป่ย“อะไรนะ!” สุรเสียงของฮ่องเต้หยวนเป่ยดังก้องขึ้นมาทันทีเมื่อกองทหารองครักษ์จากวังหลวงที่ถูกส่งไปให้ทำหน้าที่ถวายอารักขาองค์หญิงจากแคว้นต้าเหลียง ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับทรัพย์บรรณาการและมาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างแคว้นกับทางหยวนเป่ยนั้น ได้ส่งม้าเร็วกลับมาแจ้งข่าวการสิ้นพระชนม์อย่างกะทันหันขององค์หญิงจากแคว้นต้าเหลียงที่เดินทางมาถึงหยวนเป่ยเป็นขบวนแรกพร้อมทรัพย์บรรณาการดังกล่าวสาเหตุที่ขบวนเสด็จจากแคว้นต้าเหลียงมาถึงรวดเร็วเสียยิ่งกว่าแคว้นอื่นๆ ที่กำลังเดินทางมาถวายบรรณาการเช่นเดียวกัน ด้วยเพราะองค์หญิงจากแคว้นต้าเหลียงมีความต้องการที่จะเดินทางมาถึงหยวนเป่ยเพื่อได้เข้าพิธีอภิเษกกับอุปราชรูปงาม เพื่อครองตำแหน่งเป็นพระชายาเอกก่อนองค์หญิงจากแคว้นต้าซางที่ยังไม่ทันเดินทางออกจากแคว้นเสียด้วยซ้ำ เพราะผู้ที่มาถึงภายหลังจะได้รับตำแหน่งพระชายารองไปครอบครองแทนทว่าอีกเพียงแค่สามวันเท่านั้นก็จะเข้าเขตแคว้นหยวนเป่ย ขบวนเสด็จขององค์จากแคว้นต้าเหลียงจำต้องตั้งค่ายหยุดพักกลางทางไม่สามารถเดินทางมาถึงเมืองหลวงได้ ด้วยเพราะองค์หญิงจากแคว้นต้าเห

  • อัปลักษณ์จวนเดียวดาย   ตอนที่ 13 อุปราชอำมหิต 1.2

    เทือกเขาหลงเมิ่งจวนอุปราชเสียงบรรเลงจากกู่ฉินดังออกมาจากพระตำหนักใหญ่ของอุปราชหน้าหยก นิ้วพระหัตถ์เรียวยาวดั่งเช่นอิสตรีกรีดลงบนเส้นสายบนกู่ฉิน ร่ายเสียงบรรเลงขับขานแข่งไปพร้อมกับสายลมหนาวเย็นยะเยือกบนเทือกเขาสูง ที่เต็มไปด้วยหมอกเมฆาสีขาวปกคลุมไปทั่วบริเวณมองไปทิศทางใด มีแต่ทะเลหมอกสุดสายตา ช่างขับกับอาภรณ์ขาวสีโปรดของอุปราชลือชื่อยิ่งนักอินอวิ๋นหยางโปรดปรานสีขาวมากที่สุด อาภรณ์ที่สวมใส่มีเพียงสีขาวเท่านั้น เครื่องใช้ส่วนพระองค์ล้วนขาวบริสุทธิ์ด้วยกันทั้งสิ้น และดอกไม้ที่ทรงโปรดปรานมากที่สุดคือดอกเหมยสีขาว ที่กำลังเบ่งบานและร่วงหล่นลงสู่พื้นมาตามกระแสลมแรง จนปลิวเข้าไปยังพระตำหนักที่อุปราชรูปงามทรงบรรเลงกู่ฉินอยู่ในขณะนี้และสิ้นสุดลงพร้อมเสียงของหรงเฉินดังขึ้นอยู่ทางหน้าประตูพระตำหนัก“กระหม่อมหรงเฉินพ่ะย่ะค่ะ” เสียงองครักษ์คนสนิทรายงานตัวอยู่ด้านนอก ทันทีที่องค์อุปราชบรรเลงเพลงพิณจนจบ“เข้ามา!” สุรเสียงทุ้มใหญ่รับสั่งอนุญาตครืดดดด!!!! ประตูห้องพักผ่อนสำหรับดื่มชาและนั่งชมทิวทัศน์ของเทือกเขาหลงเมิ่งถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว ต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status